วงเวียนกาม บทที่ ๙
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jokecup เมื่อ 2020-11-5 14:16ตอนก่อนหน้านี้
วงเวียนกาม บทที่ ๘
static/image/hrline/line2.png
วงเวียนกาม
บทที่ ๙
แสงแดดจ้าสาดส่องมากระทบน้ำใสที่นิ่งสนิทอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ร่างของชายหนุ่มสุดหล่อสวมแว่นตากันแดดกำลังโพสต์ท่าเก็กหล่อให้ช่างภาพฝรั่งผมทองถ่ายภาพอยู่จากใบหน้านิ่งขรึม เปลี่ยนเป็นมีรอยยิ้มที่มุมปากบ้าง เปลี่ยนมุมที่ใบหน้าบ้างก่อนที่ช่างภาพจะบอกเสร็จสิ้นการถ่ายในโลเคชั่นนี้แล้วเปลี่ยนสถานที่ไปด้านในตัวอาคาร ชายหนุ่มหน้าหล่อจึงเลิกเก็กใบหน้าเดินขึ้นจากสระว่ายน้ำ
ร่างนั้นขาวใสราวกับไม่ใช่มนุษย์กล้ามแกร่งปรากฎให้เห็นทั่วตัว บ่งบอกความเป็นชายสมชายของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดีทั้งร่างนั้นเปล่าเปลือยสวมเพียงกางเกงว่ายน้ำทรงบิกินี่ตัวเล็กจิ๋วที่แทบจะปกปิดส่วนสำคัญไม่มิดทีมงานรีบเอาผ้ามาเช็ดตัวให้ ขณะที่เจ้าตัวรีบเดินไปหลบแดดในร่มขนาดใหญ่ริมสระว่ายน้ำอย่างรวดเร็ว
ทีมงานที่เดินขวักไขว่หลายชีวิตแต่ดูเหมือนไม่มีใครสักคนที่เป็นคนไทยเลย เนื่องจากนี่เป็นคำขอของชายหนุ่มที่ไม่เพียงต้องการทำงานกับทีมงานมืออาชีพจากต่างประเทศเท่านั้นแต่ยังป้องกันตัวเองด้วยเนื่องจากการทำงานในครั้งนี้ค่อนข้างเปลืองเนื้อตัวอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อนเขาจึงไม่อยากถูกนำไปพูดถึงลับหลังหากเกิดเหตุสุดวิสัยมีอะไรที่ควบคุมไม่ได้หลุดรอดออกไป เนื่องจากชื่อเสียงที่เริ่มดังคับประเทศของเขาบังคับให้เขาต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีออกไปสู่สายตาประชาชนเท่านั้น
ทีมงานเอาภาพที่ถ่ายมาให้เขาดูชายหนุ่มเลื่อนดูภาพทีละภาพ มันเป็นรูปเขานอนแช่อยู่ในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ในอิริยาบถที่ผ่อนคลายไม่มีภาพไหนที่ถ่ายให้เห็นเขาในชุดว่ายน้ำตัวจิ๋วตามข้อตกลงชายหนุ่มพยักหน้าพึงพอใจในผลงานที่เห็น เขาหันไปทางช่างภาพยิ้มให้น้อย ๆพร้อมกับชูนิ้วโป้งเพื่อแสดงความชื่นชม
ทีมงานทยอยเก็บข้าวของเปลี่ยนโลเคชั่นที่จะไปถ่ายยังด้านในอาคารชายหนุ่มจึงเดินมาพักนอนที่เก้าอี้ริมสระ ร่างขาวสว่างราวกับหลอดนีออนนอนทอดหุ่นอวดสรีระร่างกำยำของตัวเองนอกจากกล้ามแกร่งทั่วเรือนร่างแล้วสิ่งที่คงสะดุดสายตาคนที่ผ่านไปมาก็คงจะเป็นสิ่งที่ตุงอยู่ภายในกางเกงว่ายน้ำตัวเล็กจิ๋วนั้นเองยิ่งเจ้าตัวนอนราบอยู่บนเก้าอี้นอนยิ่งทำให้เห็นความนูนเด่นนั้นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น แขนทั้งสองข้างที่ใช้หนุนศีรษะทำให้เห็นว่าใต้วงแขนขาวนั้นไม่ปรากฏขนให้เห็นเกะกะสายตาแม้สักเส้นเดียว
“เป็นยังไงบ้างครับคุณท็อปยังแฮปปี้กับการทำงานใช่ไหมครับ”
เสียงนิ่งขรึมแต่ทรงอำนาจดังขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้ชายหนุ่มที่นอนอย่างสบายอารมณ์สะดุ้งหันไปมองตามเสียงนั้น
“อ้าวคุณแมนสรวง เพิ่งมาเหรอครับ ผมนึกว่าวันนี้นึกว่าจะไม่ได้เจอแล้วเสียอีก”
“ไม่มาได้ยังไงครับพระเอกชื่อดังอุตส่าห์มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโครงการคอนโดผมทั้งที ยังไงก็ต้องมาอำนวยความสะดวกซะหน่อยเป็นไงบ้างครับการทำงานกับทีมงานต่างชาติ ได้ผลเป็นที่พอใจไหมครับ”
พระเอกหนุ่มไม่แน่ใจนักว่าประโยคท้ายนั้นตั้งใจจะประชดประชันเขาหรือเปล่าครั้งแรกที่นักธุรกิจใหญ่รายนี้ติดต่อขอให้เขามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับคอนโดที่สร้างเสร็จแล้วเขายื่นข้อเสนอให้ใช้ทีมงานต่างชาติเพราะไม่ค่อยพอใจการทำงานของทีมงานคนไทยที่ผ่านๆ มาโดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นสตอรี่บอร์ดที่ส่งมาให้ดูที่แม้ภาพที่ออกมาจะดูไม่ล่อแหลมแต่เขารู้ดีว่าระหว่างถ่ายทำคงต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวไม่น้อยเมื่อนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ไม่ปฏิเสธทั้งข้อเสนอเรื่องทีมงานและค่าตัวเขาจึงตกลงใจรับงานนี้ สายตาที่มองผ่านแว่นกันแดดนั้นแลเห็นว่านักธุรกิจหนุ่มใหญ่ลอบมองเรือนร่างที่เกือบเปลือยของเขาอยู่พระเอกหนุ่มลุกขึ้นยืนโชว์เรือนร่างที่เขาอุตส่าห์ฟิตหุ่นมาเป็นอย่างดี
“ทีมงานก็ชมว่าคุณเป็นมืออาชีพมากทำงานด้วยง่ายทำให้งานเสร็จไวกว่าที่คิด”
“งั้นคุณแมนสรวงจะตบรางวัลอะไรให้ผมดี”
“ผมมีรางวัลพิเศษให้คุณแน่แต่คงต้องมีอะไรบางอย่างเป็นการแลกเปลี่ยน”
“อะไรเหรอครับเป็นของที่ผมพกติดตัวมาด้วยหรือเปล่า”
พระเอกหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ถอดแว่นกันแดดออกสบสายตากับหนุ่มใหญ่ที่จ้องมองเขาอยู่ สายตาของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่มองมานั้นค่อยๆ เลื่อนลงมาตามเรือนร่างของพระเอกหนุ่มเรื่อย ๆก่อนจะหยุดลงที่ส่วนตุงนูนคับกางเกงว่ายน้ำ
“แน่นอนคุณเอามันมาเยอะกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก แต่ตอนนี้ไปทำงานต่อเถอะทีมงานคงพร้อมแล้ว”
static/image/hrline/line2.png
แมนสรวงเดินเข้ามาภายในคอนโดหรูของเขาโดยมีพระเอกหนุ่มหล่อชื่อดังเดินตามเขาอยู่ห่าง ๆพนักงานขายต่างส่งเสียงร้องตื่นเต้นที่ได้เห็นตัวจริงของพระเอกชื่อดัง แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาขอลายเซ็นต์เพราะคงจะเกรงกลัวผู้เป็นเจ้านาย แมนสรวงจึงเดินนำหน้าพระเอกหนุ่มขึ้นไปยังเพ้นธ์เฮ้าส์ของตนเอง
แมนสรวงมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาในลิฟท์ ไม่นึกว่าวันนี้เขาจะมีโอกาสได้อยู่ข้าง ๆ ชายหนุ่มผู้แสนเพอร์เฟคคนนี้มันทำให้เขานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ตอนที่เขาเริ่มสร้างคอนโดแห่งนี้
สถานที่แห่งนี้เดิมทีเป็นของนักการเมืองใหญ่รายหนึ่งที่ตัดสินใจขายขาดให้เขาในราคาที่ถูกกว่าที่ควรหลังจากโดนคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินตามเล่นงานอยู่หนุ่มใหญ่มาดูสถานที่ก่อนตัดสินสร้างคอนโดหรูเนื่องจากในบริเวณใกล้เคียงไม่มีคู่แข่งและสถานที่แห่งนี้เริ่มมีคนเข้ามาบุกเบิกมากขึ้นหลังจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวกันมากขึ้น
หลังจากใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า2 ปี พร้อมงบประมาณที่ลงไปเป็นจำนวนมากเอเจนซี่โฆษณาซึ่งมีความสนิทสนมกับเขาเป็นการส่วนตัวทำแคมเปญโฆษณาส่งมาให้เขาดูพร้อมเสนอว่าควรใช้นักแสดงเพื่อดึงดูดให้คนมาซื้อเนื่องจากสถานที่ยังบูมไม่พอที่จะเรียกให้คนสนใจมาซื้อด้วยตัวเองพร้อมส่งนิตยสารตั้งใหญ่มาให้เขาพิจารณา
เขาสะดุดตาหนุ่มน้อยนัยน์ตาชวนฝันที่โปรยยิ้มใสซื่ออยู่บนปกหนังสือฉบับหนึ่งเจ้าของเอเจนซี่ที่เป็นเพื่อนของเขาบอกว่านี่คือ ท็อป ธีรเดชพระเอกหนุ่มที่ดังที่สุดตอนนี้ ค่าตัวสูงมาก ทำงานด้วยยากแต่มีความเป็นมืออาชีพสูง และน่าจะทำให้แคมเปญโฆษณาของเขาเป็นที่กล่าวถึงได้แมนสรวงตอบตกลงใจจ้างดาราหนุ่มที่เขาเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกเป็นแบบโฆษณาคอนโดของเขาทันที
แต่แค่ครั้งแรกของการเจรจาก็เริ่มพบปัญหาเมื่อเพื่อนของเขายื่นข้อเสนอของพระเอกหนุ่มมาให้เขาพิจารณา แมนสรวงตัดสินใจขอนัดพบเพื่อเจรจากับพระเอกหนุ่มด้วยตัวเองซึ่งทำให้เขาได้เห็นอีโก้ที่สูงลิบของพระเอกหนุ่มอย่างเต็มเปี่ยมแต่ด้วยความต้องการเอาชนะ แมนสรวงจึงตัดสินใจรับข้อเสนอของพระเอกชื่อดังก่อนจะขอซื้อไอเดียงานโฆษณาของเพื่อนสนิท ส่งให้บริษัทต่างชาติเข้ามาจัดการด้านโปรดักชั่นให้
หลังจากนั้นเขาเพิ่งมีโอกาสได้พบพระเอกหนุ่มชื่อดังอีกครั้งในวันนี้สิ่งที่พระเอกหนุ่มแสดงออกช่างต่างจากการเจอครั้งแรกยิ่งนักโดยเฉพาะท่าทางเชิญชวนบางอย่างที่ตอนที่พบกันอีกครั้งเขาจึงลองโยนหินถามทางเอาไว้โดยไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับจากพระเอกที่มีชื่อเสียงระดับนี้โดยง่าย
เมื่อลิฟท์มาถึงชั้นที่หมายประตูลิฟท์เปิดออก แมนสรวงก็เดินนำพระเอกหนุ่มหล่อออกมา ภายนอกลิฟท์คือห้องพักสุดหรูของแมนสรวงเลยความโอ่อ่าหรูหราของมันทำให้พระเอกหนุ่มถึงกับต้องถอดแว่นกันแดดออกมาชื่นชมภาพจริงอย่างเต็มตาเขาเผลออุทานด้วยความตื่นเต้นลืมตัว ก่อนจะหันไปถามเจ้าของห้อง
“คุณหมดไปเท่าไหร่ครับเนี่ยค่าแต่งห้องนี้”
“ก็ไม่เท่าไหร่ขายห้องได้สองห้องก็คุ้มทุนแล้ว”
“ผมรู้มาว่าคุณทำโรงเรียนด้วย”
“ใช่มันเป็นงานที่ทำให้ผมขาดทุนทางการเงิน แต่กำไรความสุขมาก”
“ความคิดคุณน่ายกย่องมากว่าแต่ห้องนี้ ถ้าคุณไม่รังเกียจผมขอยืมใช้บ้างได้ไหม เผื่อวันไหนผมว่างอยากจะมาพักสมองหรือนัดเพื่อน ๆ มาสังสรรค์”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะท่าทางคุณดูเหนื่อยนะ งานคุณน่าจะหนักมาก”
“หนักกว่าที่ทุกคนคิดมากไม่แค่งานที่หนัก แต่ผมต้องสูญเสียหลาย ๆ อย่างไปจากชีวิตอย่างน้อยก็ชีวิตที่มีอิสรเสรีที่จะทำอะไรอย่างที่ใจต้องการและรสนิยมบางอย่างที่ผมไม่สามารถเปิดเผยได้”
“แต่มันคงคุ้มค่าคุณถึงไม่เลิกมัน”
แมนสรวงพาพระเอกหนุ่มมาจนถึงห้องนอนสุดหรูของเขาพร้อมแนะนำเฟอร์นิเจอร์ประดับห้องที่คัดสรรมาจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกจนพระเอกหนุ่มอ้าปากค้าง
“รสนิยมคุณนี่สุดยอดจริง ๆ”
“ขอบคุณที่ชื่นชม”
“มีอีกอย่างที่ผมอยากรู้รสนิยมของคุณผมเห็นไวน์ที่คุณตั้งโชว์เอาไว้ด้านนอก”
แมนสรวงหันไปมองตามที่พระเอกหนุ่มบอก
“ถ้าคุณต้องการได้เลย”
นักธุรกิจหนุ่มใหญ่เดินออกไปเพื่อทำตามความต้องการของพระเอกหนุ่มเขาบรรจงเลือกไวน์อย่างดีพร้อมแก้วสองใบ แล้วกลับเข้ามาที่ห้องนอนอีกครั้งก่อนที่จะพบว่าพระเอกหนุ่มตอนนี้ไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิมแล้ว พอแมนสรวงหันมองไปรอบ ๆเขาก็เห็นพระเอกหนุ่มลงไปนอนอยู่ที่เตียงนอนของเขาแล้ว โดยตอนนี้พระเอกหนุ่มอยู่ในสภาพเปล่าเปลือยไม่มีอะไรปกปิดร่างกายมีเพียงขาที่ยกชันขึ้นเพื่อปิดบังส่วนสงวนเอาไว้ไม่ให้นักธุรกิตหนุ่มได้เห็น
“สิ่งที่ผมอยากรู้เกี่ยวกับรสนิยมคุณไม่ใช่เรื่องไวน์หรอก แต่เป็นเรื่องนี้ต่างหาก”
พระเอกหนุ่มส่งยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วค่อย ๆ แหกขาที่ชันขึ้นออกจากกันมันเผยให้เห็นร่องก้นสีชมพูสดที่ปราศจากขนรกสายตา เลยขึ้นไปเป็นอวัยวะบ่งบอกความเป็นชายที่มีสีขาวสวยไม่ต่างจากผิวของเจ้าตัวที่ตอนนี้มันกำลังค่อย ๆ ตื่นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ
“ถ้าคุณอยากรู้ผมจะให้คำตอบคุณเดี๋ยวนี้”
แมนสรวงเดินตรงเข้าไปหาร่างนั้นวางแก้วไวน์ไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ก่อนจะเปิดขวดไวน์แล้วค่อย ๆ เทมันลงไปบนร่างของพระเอกดังจนทั่วหลังจากนั้นแมนสรวงค่อย ๆ โน้มตัวลงไปคร่อมที่ร่างของพระเอกดัง แล้วก้มลงใช้ลิ้นโลมเลียไปบนร่างนั้นด้วยความหื่นกระหายเริ่มจากส่วนหัวนมสีชมพูบนแผงอกล่ำนั้น ทันทีที่ลงลิ้นร่างของพระเอกดังก็กระตุกด้วยความเสียว เขาเอามือขึ้นมาโอบรัดไปที่รอบคอของแมนสรวงแล้วดึงหนุ่มใหญ่ขึ้นมาจูบปากและแลกลิ้นอย่างเร่าร้อนแมนสรวงสนองตอบพระเอกหนุ่มด้วยการสอดลิ้นเข้าไปในปากแล้วจัดการแลกน้ำลายกันอย่างดุเดือด
เด็กหนุ่มนัยน์ตาไร้เดียงสาของแมนสรวงกลับกลายเป็นชายหนุ่มที่หื่นกระหายในกามารมณ์ และมีความต้องการทางเพศสูงอย่างที่เขานึกไม่ถึง
พระเอกหนุ่มรีบปลดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของแมนสรวงออกจนในที่สุดหนุ่มใหญ่ก็เหลือเพียงแต่ร่างที่เปลือยเปล่า พระเอกหนุ่มถอยร่างออกไปจ้องมองเรือนร่างที่ปราศจากสิ่งปกปิดของแมนสรวงเขาส่งยิ้มมาให้หนุ่มใหญ่ด้วยความพึงพอใจ
“ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆคุณแมนสรวง คุณมันโคตรสมบูรณ์แบบเลย มาเย็ดผมทีเถอะ ผมเงี่ยนอยากตกเป็นเมียคุณเต็มแก่แล้ว”
แมนสรวงไม่รอช้า เขาปรี่เข้าไปหาร่างของพระเอกหนุ่มในทันทีพอไปถึงเขาจิกผมพระเอกหนุ่มอย่างแรง เพื่อให้เงยหน้าขึ้นมาประสานสายตากับเขา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจว่า
“อย่างมึงเนี่ยเป็นได้แค่ทาสบำเรอกามกูเท่านั้นแหล่ะ”
ว่าแล้วแมนสรวงก็เอาหน้าเข้าไปบดขยี้กับใบหน้าของพระเอกหนุ่มคนดังลิ้นแลกลิ้น โรมรันกันอย่างคนหื่นกระหายในเกมกามารมณ์ เมื่อแลกลิ้นกันจนหนำใจแล้วพระเอกคนดังก็ค่อย ๆ ถอนปากออกจากปากของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ แล้วค่อย ๆเลื่อนริมฝีปากลงมาดูดดื่มเนื้อตัวร่างกายของแมนสรวงทีละส่วน พระเอกหนุ่มใช้เวลาชื่นชมรสชาติของร่างกายหนุ่มใหญ่ที่ยังฟิตเปรี้ยะเป็นเวลานานจนสุดท้ายริมฝีปากของพระเอกหนุ่มก็เลื่อนมาถึงจุดสำคัญแห่งความเป็นชาย พระเอกหนุ่มถอยร่างออกมาเล็กน้อยเพื่อจะได้จ้องมองสิ่งสงวนที่อยู่ตรงหน้านั้นควยของแมนสรวงกำลังตื่นตัวอย่างเต็มที่ มันมีขนาดสมส่วนกัร่างของผู้เป็นเจ้าของขณะที่ขนหมอยก็ขึ้นดกดำหนาฟู พระเอกคนดังเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่เห็นสายตาที่ทรงอำนาจจ้องมาที่เขาอยู่ก่อนแล้วก่อนที่ร่างนั้นจะเอ่ยกับเขาด้วยเสียงอันทรงอำนาจต่อไปว่า
“ดูดควยกูเข้าไปให้เต็มปากมึงเดี๋ยวนี้”
ถ้าเป็นในห้วงเวลาอื่นคงไม่มีใครกล้ามาออกคำสั่งพระเอกดังแบบท็อป ธีรเดชแบบนี้ได้แต่ในสังเวียนกามแบบนี้ กลับกลายเป็นพระเอกคนดังต้องตกเป็นทาสบำเรอกามให้กับนักธุรกิจคนดังแทนแต่พระเอกหนุ่มก็ยอมแต่โดยดี เพราะถูกอำนาจความเงี่ยนเข้าครอบงำ พอขาดคำพระเอกหนุ่มก็ฉกลิ้นตวัดเข้ารัดไปที่ท่อนควยของแมนสรวงทันที หัวควยของนักธุรกืจหนุ่มกระดกรับการโจมตีนั้นทันทีเช่นกันแล้วปากของพระเอกหนุ่มที่แสนผุดผ่องก็ดูดดุนท่อนควยนั้นราวกับเป็นอาหารรสเลิศไม่มีท่าทีรังเกียจ มีแต่ความอยากและความหื่นกระหายราวกับไม่เคยได้ลิ้มรสสิ่งนี้มาเลย
รสสวาทจากลิ้นของพระเอกคนดังทำเอาร่างของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่สั่นเกร็งด้วยความเสียวซ่านพอมันถึงจุดที่เกือบจะควบคุมไม่ไหวแล้ว แมนสรวงก็รีบผลักร่างของพระเอกคนดังออกท็อป ธีรเดช รู้ชะตากรรมตัวเองต่อจากนั้นทันที เขารีบกระเถิบร่างขึ้นไปจนติดหัวเตียงแล้วแหกขาทั้งสองข้างออกจากกันจนเห็นปากถ้ำสวรรค์สีชมพูอ่อนที่เนียนเกลี้ยงไร้ขนก่อนจะเอ่ยปากร้องขอนักธุรกิจหนุ่มใหญ่
“เย็ดผมเถอะครับนายผมทนไม่ไหว อยากเป็นของนายเต็มทีแล้ว
อย่าทรมานผมอีกเลยนะครับ”
พระเอกคนดังส่งเสียงอ้อนวอนขอร้องอย่างน่าเวทนาเพื่อขอให้คนมาเย็ดสนองความเงี่ยนของตนเองแมนสรวงไม่รอช้า เข้าไปจัดการสนองความต้องการให้พระเอกขี้เงี่ยนทันที
ทันทีที่ท่อนควยที่แผดผงาดหลุดเข้าไปในร่องตูดของพระเอกคนดังแมนสรวงก็จัดการกระหน่ำเย็ดอย่างไม่ยั้ง พระเอกหนุ่มส่งเสียงร้องดังครวญครางอย่างสุดกลั้นเพื่อหวังว่าเสียงร้องนั้นจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลงไปได้บ้างแต่ยิ่งเสียงร้องดังเท่าไร ก็เหมือนยิ่งโหมไฟให้แมนสรวงเย็ดเขาแรงขึ้น แรงขึ้นไปอีก
“คุณแมนสรวง ผมเจ็บผมเสียว คุณจะเย็ดจนผมขาดใจตายตรงนี้เลยไหม ผมยอมตายเพื่อคุณ”
ความเงี่ยนเข้าครอบงำจนทั้งคนเย็ดและคนโดนเย็ดขาดสติแต่ทั้งคู่ต่างเริ่มหลงไหลความรุนแรงจากเกมกามารมณ์แล้ว ตอนนี้ไม่มีใครมีสติพอที่จะยับยั้งใครต่างปล่อยให้เกมกามนั้นดำเนินต่อไปจนไม่เกินการควบคุม
ผ้าปูที่นอนขาวสะอาดของแมนสรวงตอนนี้เปรอะเปื้อนเลือดแดงฉานที่ไหลออกมาจากร่องตูดของพระเอกชื่อดัง ยิ่งเห็นดังนั้นแมนสรวงยิ่งมีอารมณ์ เขากระหน่ำแรงเย็ดซอยตูดพระเอกคนดังถึ่ขึ้น ถี่ขึ้นก่อนที่น้ำกามจำนวนมหาศาลจะไหลนองท่วมตูดของพระเอกในเวลาต่อมา
พระเอกคนดังร้องเสียงหลงเอามือจิกไปทั่วเตียง แล้วบิดร่างเกร็งด้วยความเสียว เมื่อเยื่อพรหมจรรย์ของเขาถูกทำลายลงหลังจากที่เก็บรักษามันไว้นานกว่ายี่สิบปี พอสูญเสียสิ่งหวงแหนที่เขารักษามันมาเนิ่นนานพระเอกหนุ่มก็ส่งเสียงอ้อนวอนร้องขอ
“คุณแมนสรวงคุณเป็นเจ้าชีวิตผม อย่าทิ้งผมไปนะ”
คราบอีโก้ความเป็นพระเอกดังหมดสิ้นลงแมนสรวงมองร่างนั้นเหมือนเห็นช่องทางที่จะสร้างกำไรต่อไปให้กับเขา
static/image/hrline/line2.png
อีกหนึ่งสัปดาห์จะถึงวันจัดงานครบรอบการก่อตั้งโรงเรียนเปรมปรีดา
อาจารย์เพชรเดินนำแมนสรวงตรวจดูการตกแต่งสถานที่สำหรับการจัดงานที่ปีนี้มีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ส่วนหนึ่งเพราะโรงเรียนเปรมปรีดาเพิ่งได้รับรางวัลจากหน่วยงานภาครัฐในฐานะที่เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมขณะที่แมนสรวงเจ้าของโรงเรียนก็เพิ่งได้รับรางวัลนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จทั้งทางด้านธุรกิจและการทำงานเพื่อสาธารณกุศล
อาจารย์เพชรซึ่งปกติก็มักทำงานเอาหน้าอยู่แล้วจึงไม่พลาดที่จะเสนอกิจกรรมที่ใหญ่โตเพื่อหวังสร้างความพึงพอใจให้กับเจ้านายและเมื่อแมนสรวงเห็นการจัดการด้านสถานที่และโปรแกรมการจัดกิจกรรมที่อาจารย์เพชรเสนอก็อดที่จะชื่นชมไม่ได้ เพราะทุกอย่างเหมือนผ่านการเตรียมการด้วยความทุ่มเทเป็นอย่างมาก
“จริง ๆผมก็ไม่ค่อยอยากให้งานมันออกมาหรูหรามากนัก เพราะโรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่อุปถัมป์เด็กด้อยโอกาสทางสังคมผมเลยกลัวว่าคนจะครหาถ้าเราจัดงานอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยแตฟังที่อาจารย์เพชรอธิบายคอนเซ็ปต์งานให้ทราบ ผมก็ตกลงให้จัดการไปตามที่อาจารย์เพชรเสนอเลย”
อาจารย์เพชรหน้าบานเป็นจานดาวเทียมเมื่อได้รับคำชื่นชมนางกล่าวขอบคุณแมนสรวง ขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยและดูสถานที่กันอยู่นั้นเสี่ยสมศักดิ์ก็เดินเข้ามาสมทบกับคนสองคน
“น่าจะเป็นงานแห่งปีของจังหวัดเราเลยนะครับคุณแมนสรวง”
“ขอบคุณครับส่วนหนึ่งนอกเหนือจากทีมงานของโรงเรียนที่ช่วยกันทำงานจนออกมาเป็นรูปเป็นร่างขนาดนี้ผมคงต้องขอขอบคุณคุณสมศักดิ์ด้วยนะครับ ที่ช่วยเหลืออุดหนุนทางด้านการเงินให้กับโรงเรียนทุกวันนี้ผมไม่ต้องควักเนื้อตัวเองมากนักก็ด้วยความช่วยเหลือจากผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดที่เมตตาคนนอกอย่างผม”
“คนน่งคนนอกอะไรกันคุณแมนสรวง จริง ๆ ที่นี่ก็เป็นบ้านเกิดของคุณพ่อคุณนี่ คุณถึงเลือกมาเปิดโรงเรียนเปรมปรีดาที่นี่ตั้งแต่โรงเรียนคุณมาตั้งที่นี่ กลายเป็นว่าจังหวัดเล็ก ๆของเรากลายเป็นที่พูดถึงมากและเริ่มมีคนเข้ามาท่องเที่ยวกันจนเศรษฐกิจในจังหวัดดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากพวกเราต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณ ถ้าไม่มีคุณพวกเราคงมีชีวิตที่น่าเบื่อ ไร้สีสันแน่ๆ”
ประโยคหลังของเสี่ยสมศักดิ์ส่งความหมายเชิงนัยยะที่รับรู้และเข้าใจกันเองจนอาจารย์เพชรเริ่มรู้สึกเป็นส่วนเกินจึงขอตัวเดินออกไปเตรียมงานต่อเพราะเหลือเวลาจัดการไม่ถึงสัปดาห์
“แล้วที่คุณบอกว่าเราจะมีงานสังสรรค์สมาชิกแบบจัดคู่ขนานไปกับงานนี้ด้วยนี่มันยังไงกัน”
พอเหลือกันเพียงสองคนทั้งสองก็สามารถพูดเรื่องที่ต้องการจะสื่อสารกันได้อย่างเต็มที่ไม่มีอะรต้องปกปิดหรือต้องระมัดระวังอีกต่อไป
“มันถึงกำหนดที่หมวดพฤกษ์ต้องเปลี่ยนนายแล้วในขณะที่จัดงานที่โรงเรียนเปรมปรีดา เราจะมีการประมูลหานายคนใหม่ให้หมวดพฤกษ์ด้วยว่าแต่เสี่ยเถอะ จัดการหมวดนั่นสมกับราคาที่ประมูลไปแล้วหรือยัง”
“แน่นอนนักธุรกิจอย่างผมลงทุนอะไรไปแล้วต้องถอนทุนอย่างคุ้มค่าแน่นอน”
เสี่ยสมศักดิ์หัวเราะเสียงดังกึกก้องด้วยความสะใจ
“สิ่งที่ผมอยากรู้ก็คือปลายทางชีวิตของนายตำรวจอย่างหมวดพฤกษ์จะลงท้ายเป็นอย่างไร”
แมนสรวงไม่ได้ตอบคำถามของเสี่ยสมศักดิ์แต่กลับเปลี่ยนเรื่องคุยเสียใหม่
“งานสังสรรค์สมาชิกครั้งนี้ผมไม่อยากให้เสี่ยพลาดเด็ดขาด เพราะเรามีสิ่งที่รอเซอร์ไพร้ส์สมาชิกทุกคนอยู่”
เสี่ยสมศักดิ์หันมามองหน้าแมนสรวงสายตาเต็มไปด้วยคำถาม เพราะสิ่งที่แมนสรวงเปิดประเด็นไว้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
“ถ้าผมถามว่าสิ่งที่รอจะเซอร์ไพร้ส์คืออะไรคุณแมนสรวงคงตอบว่า ถ้าบอกตอนนี้มันก็ไม่เซอร์ไพร้ส์น่ะสิ งั้นได้ครับผมจะรอเจอเซอร์ไพร้ส์ในวันงาน หวังว่ามันจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าการรอคอยนะ”
แมนสรวงส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับเสี่ยสมศักดิ์แทนคำตอบ
static/image/hrline/line2.png
ภายในห้องพักนักกีฬาในสนามแข่งขันว่ายน้ำระดับจังหวัด
อัครตื่นจากการทำสมาธิตอนที่ได้ยินเสียงเรียกจากเจ้าหน้าที่ให้ตั้งแถวเพื่อเดินไปที่สระว่ายน้ำหลังจากที่เขากลายเป็นสมาชิกของชมรมว่ายน้ำโรงเรียนเปรมปรีดานี่คือการแข่งขันรายการสำคัญที่สุดของเขา เพราะมันเป็นการแข่งขันเพื่อคัดเลือกตัวแทนระดับจังหวัดเพื่อคัดเป็นตัวแทนทีมชาติที่ผ่านมาเขาทุ่มเทเวลาเพื่อการฝึกซ้อมรายการสำคัญนี้อย่างหนัก รวมทั้งอาจารย์พลวิทย์เองก็ให้เวลาทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อมาฝึกสอนเขาและคุณแมนสรวงที่คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับเขาทุกอย่างทั้งหมดนี้ทำให้อัครทั้งรู้สึกกดดันแต่ขณะเดียวกันก็มีพลังที่จะช่วงชิงเอาชัยชนะนี้มาเป็นของเขาให้ได้
อัครเดินมาถึงสระว่ายน้ำและเข้าประจำในตำแหน่งของเขา คือลู่หมายเลข 3 เขาเหลียวมองไปทางอัฒจรรย์คนบนนั้นมีเป็นจำนวนมากจนเขาไม่สามารถแยกออกได้ว่าใครเป็นใครแต่เหลียวซ้ายแลขวาไปไม่เท่าไรเขาก็เห็นอาจารย์พลวิทย์โดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางคนอื่นๆ อาจารย์ของเขากำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาที่มุ่งมั่น เขาเห็นความรู้สึกที่หลากหลายแผ่กระจายออกมาจากร่างที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงนั้นพอมองไปข้าง ๆ เขาก็เห็นไอ้โอ๊ตนั่งอยู่ติด ๆ กับอาจารย์พลวิทย์และเห็นเพื่อนสมาชิกในชมรมอีกสองคนนั่งถัดออกไปไม่นานชื่อของเขาก็ถูกขานออกมาจากผู้บรรยายในสนาม และอัครก็ลุกขึ้นยืนเพื่อบอกให้ทุกคนรู้ว่าเขาพร้อมแล้วสำหรับการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้น
เสียงประกาศจากผู้บรรยายในสนามบอกให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนเตรียมพร้อมขึ้นไปประจำที่แท่นปล่อยตัวอัครก้าวขึ้นไปยืนโชว์กล้ามแกร่งที่เกิดจากการฝึกฝนอย่างหนักของเขากรรมการให้สัญญาณเตรียมพร้อม วินาทีนั้นสายตาของอัครเหลือบมองไปที่โค้ชของเขาอีกครั้งแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือสิ่งที่เขาแทบจะจดจำมันไม่ได้
ทันทีที่สัญยาณปล่อยตัวดังขึ้นร่างของเขาพุ่งลงไปที่สระว่ายน้ำ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติเขาจ้วงว่ายแบบไม่คิดชีวิตและรู้สึกตัวอีกทีตอนที่มือของเขาเอื้อมแตะขอบสระเป็นคนแรก
เสียงทุกอย่างกลายเป็นความอื้ออึงอัครรู้สึกว่าตัวเองหูดับไปชั่วขณะ เขาหอบหายใจด้วยความเหนื่อย สายตามองผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ทยอยว่ายเข้ามาแตะขอบสระในเวลาไล่เลี่ยกัน พอรู้สึกตัวอีกครั้งเขาพยายามกลับไปมองหาโค้ชของเขา แต่กวาดสายตาเท่าไรก็ไม่พบอาจารย์พลวิทย์ที่เดิม เห็นแต่ไอ้โอ๊ตและเพื่อนอีกสองคนกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจแล้วพยายามหาทางวิ่งลงมาจากอัฒจรรย์ตรงมาหาเขา
อัครขึ้นจากสระเขารู้สึกว่าสายตาทุกคู่ที่อยู่ตรงนั้นต่างมองมาที่เขาพร้อมตั้งคำถามถึงเด็กแปลกหน้าคนหนึ่งที่กลายเป็นผู้ชนะเขาเห็นไอ้โอ๊ตวิ่งมาที่ด้านหน้าสุดของอัฒจรรย์ แล้วโบกมือพร้อมร้องเรียกเขาอัครเดินเข้าไปหาเพื่อนร่วมห้อง
“ดีใจด้วยมึงมึงเก่งมาก กูโคตรภูมิใจในตัวมึงเลย”
“อาจารย์วิทย์ล่ะ”
“แกออกไปรับโทรศัพท์มีสายเรียกเข้ามาทันทีเลยตอนที่มึงแตะขอบสระเสร็จ”
“ใครโทรมา”
“ไม่รู้เหมือนกันอาจจะเป็นคุณแมนสรวงก็ได้นะ”
อัครไม่คิดเลยว่าผู้อุปการะจะสนใจเขาถึงเพียงนี้แต่เขาก็รู้สึกดีใจที่ไม่ทำให้ผู้อุปการะต้องรู้สึกผิดหวัง
ขณะที่อาจารย์พลวิทย์ลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ที่ถูกโทรมาจากเพื่อนสนิทของเขา อาจารย์สุนัย
“มีอะไรวะไอ้นัย”
“ยินดีกับมึงและลูกศิษย์ของมึงด้วย”
“เร็วฉิบหายมึงโทรมาตอนที่อัครแตะขอบสระพอดีเลยนะ แต่ก็ขอบใจมึงมากกูไม่ได้รู้สึกดีกับตัวเองขนาดนี้มานานแล้ว”
“กูแค่จะโทรมาบอกว่ากูกำลังร่างกำหนดการวันงานโรงเรียนอยู่ พอเจอข่าวดีนี้ กูจะจัดช่วงฉลองความสำเร็จให้มึงกับลูกศิษย์ด้วยโดยเฉพาะมึงนะไอ้วิทย์ กูมีเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้มึงด้วย”
“อะไรของมึงวะเซอร์ไพร้ส์ใหญ่”
“บอกไม่ได้ถ้ารู้ก่อนมันจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์เหรอวะคุณแมนสรวงเขาเปรยกับกูไว้แล้วว่าถ้ามีงชนะ ได้ฉลองใหญ่แน่นอน”
“เออขอบใจมากเพื่อน ขอบใจสำหรับทุก ๆ อย่างที่มึงทำให้กู แต่ตอนนี้ขอตัวก่อนละกันกูจะไปยินดีกับลูกศิษย์กู”
“ตามสบาย”
สุนัยพูดประโยคสุดท้ายยังไม่ทันจบพลวิทย์ก็วางวายไปเสียก่อน มันทำให้เขาไม่มีโอกาสได้ยินคำพูดที่ต่อจากประโยคนั้นของเพื่อนสนิท
“ก่อนที่มึงจะเจอเซอร์ไพรส์จนพูดไม่ออกเลยไอ้เพื่อนรัก”
static/image/hrline/line2.png
ในห้องพักของภาติยะนายตำรวจหนุ่มกำลังนอนหลับสบายตอนที่เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เขางัวเงียลุกจากเตียงนอนไปเปิดประตูในสภาพสวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียวเมื่อประตูเปิดออกเขาเห็นไอ้อ๋องและไอ้บอยยืนยิ้มกริ่ม ในแววตาแฝงความเจ้าเล่ห์นายตำรวจหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอนแต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือเชื้อเชิญทั้งคู่ให้เข้ามาในห้อง
“มาพร้อมหน้ากันขนาดนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่าวะ”
ภาติยะเอ่ยถามผู้มาเยือนทั้งสองไอ้อ๋องยิ้มกริ่มเดินนำเข้าห้อง โดยมีไอ้บอยเดินตามมา
“มีข่าวดีมาบอกพี่เรื่องงานที่พี่ลงทุนแก้ผ้าให้ผมถ่ายรูปไปเสนอเจ้านาย พี่รู้ไหม พอเจ้านายของผมเขาเห็นรูปควยเอ๊ย รูปพี่เท่านั้น เขาไม่ถามอะไรผมสักคำ รับพี่เข้าทำงานทันที”
“จริงเหรอวะนี่ข้าจะได้เข้าไปทำงานในนั้นแล้วเหรอ”
ภาติยะเผลอแสดงอาการลิงโลดออกมาโดยไม่รู้ตัวหลังมองเห็นโอกาสที่จะได้ตามสืบคดีการหายตัวไปของหมวดพฤกษ์
“เกือบจะจริงแล้วพี่”
คำพูดของไอ้อ๋องทำให้อาการดีใจของภาติยะสะดุดลงทันทีเขาหันไปมองหน้ามันแล้วเอ่ยถามว่า
“หมายความว่ายังไงวะ”
“เอ่อคืออย่างนี้พี่”
ไอ้อ๋องทำท่าทางลังเลไม่กล้าพูดจนภาติยะต้องขึ้นเสียงดัง
“มีอะไรก็รีบพูดมามัวแต่อมพะนำข้าจะรู้ได้ยังไง”
“เจ้านายผมเขาอยากมั่นใจว่าพี่จะละทิ้งความอายแล้วทำงานนี้ได้จริงๆ เขาไม่อยากให้พี่เข้าไปในงาน แล้วสุดท้ายไม่กล้าออกไปทำงาน เขาจะเสียหายนะพี่เขามีแขกเหรื่อคนสำคัญในงานตั้งหลายคน เป็นคนใหญ่คนโตทั้งนั้นแล้วระหว่างที่พี่ทำหน้าที่เสิร์ฟอาหาร พี่อาจต้องโดนจับ โดนลูบโดนอะไรต่อมิอะไรแบบถึงเนื้อถึงตัว ถึงลูกถึงคนเขาต้องมั่นใจว่าพี่จะรับมันได้ทุกอย่าง และไม่ทำอะไรกับแขกในงานจนทำให้เจ้านายเขาเสียชื่อเสียง”
ไอ้อ๋องร่ายคำพูดยาวเหยียดแบบยกแม่น้ำทั้งห้ามาสาธยาย
“แล้วจะให้ข้าทำยังไงเจ้านายเอ็งเขาถึงจะเชื่อ”
“พี่ต้องยอมถูกถ่ายคลิปครับ”
“คลิปอะไร”
ภาติยะถามกลับด้วยความสงสันปนตกใจเริ่มไม่ค่อยไว้ใจในสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
“คลิปที่เราจะซ้อมสิ่งที่อาจจะต้องเจอในวันนั้นครับทั้งจับ ดูด ลูบ คลำ”
“เห้ย!!!!”
ภาติยะเผลอร้องเสียงหลงความตกใจไม่ต้องใช้คำที่บอกรายละเอียดหมดแต่เขาก็รู้ว่าความต้องการของไอ้อ๋องและอาจจะหมายรวมถึงที่เจ้านายของมันต้องการคืออะไร
“เรื่องจริงไม่อิงนิยายครับผมต้องส่งคลิปนี้ส่งไปให้เจ้านายดูภายในวันนี้ ไม่อย่างนั้นงานนี้พี่ไม่มีโอกาสเข้าร่วมนะครับ”
“เห้ยเกินไปหน่อยหรือเปล่าไอ้อ๋อง”
น้ำเสียงภาติยะแฝงความไม่พอใจอย่างปิดไม่มิด
“โถ่พี่อย่ามาลงที่ผมสิ ผมก็แค่คนรับคำสั่งเขามาอีกที เจ้านายผมเขาสั่งผมมาแบบนี้ผมก็มาบอกพี่ต่อ ผมรู้ว่าผู้ชายแมน ๆ แบบพี่คงไม่อยากทำอะไรแบบนี้หรอก ผมเองก็ไม่ได้อยากทำแต่ผมทำงานให้เขา ผมก็ต้องทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง แต่ถ้าพี่ไม่ โอ.เค. ก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมบอกเจ้านายให้ว่าพี่ไม่ทำ”
ไอ้อ๋องรีบลุกออกจากห้องเพราะกลัวภาติยะไม่พอใจแล้วจะโดนลงไม้ลงมือส่วนไอ้บอยเมื่อเห็นลูกพี่มันเดินจ้ำอ้าวออกจากห้องไปมันก็ทำทีเป็นจะออกจากห้องตามลูกพี่แต่พอกำลังจะเดินผ่านตัวภาติยะมันกลับประชิดตัวของนายตำรวจหนุ่ม และกระซิบคำพูดที่ข้างหูของเขาว่า
“พี่ไม่อยากช่วยหมวดพฤกษ์เหรอ”
ภาติยะสะดุ้งตาโตตกใจกับคำพูดของไอ้บอยเขาหันหน้าไปหามันช้า ๆ เห็นมันจ้องมองหน้าเขาอยู่ก่อนแล้ว
“หมวดโดนทรมานหนักมากนะพี่ถ้าพี่ไม่ไปช่วยคราวนี้ ไม่รู้ว่าหมวดจะถูกประมูลไปไหนอีกพี่อาจไม่ได้เจอหมวดอีกเลยก็ได้”
“มึงพูดเรื่องอะไร”
“พี่ไม่ต้องปิดผมหรอกผมรู้ว่าพี่คือใคร หมวดพฤกษ์เล่าเรื่องพี่ให้ผมฟังแล้วและหมวดยังบอกด้วยว่าเล่าเรื่องผมให้พี่ฟังไว้เหมือนกัน พี่ต้องไว้ใจผมนะหมวดพฤกษ์อยู่ในอันตรายมาก และพี่อย่าหวังว่าตำรวจที่โรงพักนั้นจะช่วยอะไรได้หมู่ยุทธก็เป็นคนของมัน”
ภาติยะตกใจกับคำบอกเล่าของไอ้บอยความรู้สึกของนายตำรวจหนุ่มเกิดความสับสนไปหมดแล้วในตอนนี้ขณะกำลังประมวลเรื่องราวทุกอย่างอยู่ในหัว ไอ้อ๋องก็กลับเข้ามาในห้องอีกครั้งเมื่อไม่เห็นไอ้บอยตามออกไปเสียที
“ไอ้บอยมึงจะอยู่ทำเหี้ยอะไร มาได้แล้ว เร็ว ๆ”
“เดี๋ยว”
คำพูดสั้น ๆ คำนั้นของภาติยะทำให้ทุกอย่างตรงที่นั้นหยุดนิ่งไปชั่วขณะทันที
“กูคงปฏิเสธไม่ได้สินะพวกมึงคงกำหนดบทบาททุกอย่างมาให้กูหมดแล้ว”
เสียงของนายตำรวจหนุ่มแผ่วเบาคล้ายรำพันกับตัวเอง
static/image/hrline/line2.png
“มันไม่มีอะไรยากหรอกครับพี่ก็อย่างที่ผมบอก จับ ดูด ลูบ คลำ แค่นั้นเอง แต่ก่อนอื่นพี่ต้องอยู่ในสภาพที่ต้องทำอย่างในวันนั้น เพราะฉะนั้น แก้ผ้าออกเลยครับ”
ไอ้อ๋องได้ทีออกคำสั่งกับภาติยะทันที
ภาติยะที่ตอนนี้กำลังนั่งฟังไอ้อ๋องอธิบายทุกๆ อย่างอยู่ที่ขอบเตียงลุกขึ้นยืนช้า ๆ เขาหันหน้าไปมองไอ้บอย เห็นมันกำลังเปิดกล้องในมือถือรอบันทึกภาพช็อตเด็ดอยู่พอเขาเหลียวมองไปอีกทางเห็นไอ้อ๋องยืนยิ้มเจ้าเล่ห์มองเขาอยู่ มันไม่ออกคำสั่งซ้ำแต่พยักหน้าให้เขาแทน ภาติยะจึงค่อย ๆ ถอดกางเกงขาสั้นตัวเดียวที่เขาสวมอยู่ออกจากตัวไม่นานร่างเปลือยของเขาก็ปรากฏต่อหน้าเด็กเฝ้าโรงแรมทั้งสองคน มันจ้องมองท่อนควยที่อ่อนตัวของภาติยะด้วยสายตาที่พึงพอใจ
“หุ่นพี่นี่แม่งสุดยอดเสียดายว่าพรุ่งนี้พี่อาจจะไม่ได้โชว์หน้าแต่ส่วนอื่นในร่างกายพี่ต้องโชว์ต่อหน้าแขกที่มาร่วมงานทั้งหมดซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะบังคับไม่ให้แขกเขาอะไรกับร่างกายของพี่ ตอนที่พี่เดินเสิร์ฟอาหารเพราะเขาเสียเงินจำนวนมหาศาลเพื่อให้ได้สิทธิ์เข้าร่วมงานนี้เพราะฉะนั้นเขาต้องถอนทุนอย่างเต็มที่แน่นอน แต่อย่างที่บอกว่า พี่ไม่ใช่เป้าหมายของกิจกรรมที่จะเกิดในวันนั้นเพราะฉะนั้นสิ่งที่พี่จะต้องเจอและต้องรับมือให้ได้ มันก็จะเป็นแค่การโดนจับบ้างโดนลูบคลำบ้าง หนักหน่อยก็อาจจะโดนดูดนิด ๆ หน่อย ๆ พอเป็นกษัยวันนี้เราเลยต้องมาลองสาธิตสิ่งที่พี่จะโดนให้พี่ได้รับทราบและเตรียมวิธีการรับมือเพื่อไม่ให้แขกรู้สึกไม่พอใจ มันสำคัญมากนะพี่”
“ข้าแค่อยากรู้ว่าการสาธิตแบบนี้พวกเอ็งทำกับคนทำงานคนอื่นด้วยใช่มั้ย”
เจอคำถามนี้ไอ้อ๋องถึงกับเลิ่กลั่กตอบอ้อมแอ้มไปว่า
“เหมือนกันสิพี่ผมบอกแล้วว่ามันสำคัญมาก เราจะทำให้แขกในงานไม่พอไม่ได้แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตามที”
“งั้นเอ็งก็ไม่ต้องรอช้าจัดการมาได้เลยว่าข้าต้องทำหรือต้องเจออะไรบ้าง”
ไอ้อ๋องได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกริ่มหันไปทางไอ้บอยให้เริ่มกดบันทึกภาพได้ หลังจากนั้นมันก็เริ่มออกคำสั่ง
“เราอยากให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนได้รู้ว่าเราคัดคนที่มีคุณภาพมาทำงานให้เราจึงต้องสร้างความพึงพอใจให้กับเขา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องปรากฏต่อสายตาทุกคนในงานต้องสมบูรณ์แบบโดยเฉพาะสิ่งนั้น”
ไอ้อ๋องชี้นิ้วมาที่ท่อนควยที่อ่อนระทวยของภาติยะก่อนที่มันจะเดินไปหยิบอุปกรณ์จากกระเป๋าที่มันถือติดมือมาด้วย
“อะไรของมึงวะ”
“กรรไกรตกแต่งขนหมอยและอุปกรณ์แว็กซ์ขน”
“เห้ย ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ต้องขนาดนี้ครับพี่แล้วไม่ได้แว็กซ์แค่ข้างหน้านะครับ ขนตูดพี่ที่โคตรดกก็ต้องแว็กซ์ด้วยไม่มีข้อต่อรอง”
แล้วไอ้อ๋องก็ลงมือใช้อุปกรณ์จัดการกับร่างกายของภาติยะทันทีมันใช้กรรไกรเล็มขนหมอยของนายตำรวจหนุ่มให้บางลงและตกแต่งให้มันเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่ดูรกสายตาผู้พบเห็น แต่ไม่ได้เหี้ยนเตียนจนเห็นแล้วหมดอารมณ์ ไม่สมความเป็นชายขณะที่อุปกรณ์แว็กซ์ขน มันก็ใช้ไปที่ส่วนง่ามขา เพื่อให้ส่วนนั้นเนียนเรียบไม่มีอะไรขึ้นรกสายตา
ครั้งแรกที่โดนอุปกรณ์แว็กซ์ขนเข้าไปนายตำรวจหนุ่มร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด ไม่คิดว่าการแว็กซ์ขนจะทำให้รู้สึกเจ็บถึงเพียงนี้
“เอามีดโกนโกนเอาไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้พี่ กว่าจะถึงวันมันก็ขึ้นเป็นตอเห็นแล้วน่าเกลียดตายห่าเลย แล้วถ้าโกน พี่จะคัน แล้วถ้าดันเผลอเกาต่อหน้าแขกนี่คือความฉิบหายบังเกิดเลยนะอดทนนิดพี่ ลูกผู้ชายโดนแค่นี้ไม่ตาย ทีเรื่องตีรันฟังแทงไม่เคยกลัวกัน”
แล้วไอ้อ๋องก็จัดการแว็กซ์ขนส่วนอื่นๆ ให้เกลี้ยงเกลา ไม่เว้นที่รูตูดของนายตำรวจหนุ่ม ตอนนี้ภาติยะนั่งหันหลังแหกตูดโชว์ความเนียนไร้ขนให้ไอ้บอยถ่ายคลิปซูมเข้าซูมออกเพื่อส่งไปให้เจ้านายของมันดู
“เพื่อให้มั่นใจว่าคนที่ทำงานเป็นคนที่เราคัดมาอย่างดีแล้วเพราะฉะนั้นพี่จะออกไปเสิร์ฟอาหารทั้งที่ควยเหี่ยว ๆ แบบนี้ไม่ได้ พี่ต้องฟิตทำให้ควยแข็งให้แขกของเราเห็นตลอดเวลาเพราะฉะนั้นตอนนี้พี่ต้องปั่นควยให้แข็งเลยแล้วพี่ต้องคงความแข็งนั้นไว้ให้นานเท่าที่จะทำได้”
ใบหน้าคล้ำของภาติยะแดงขึ้นด้วยความอาย
“ข้าต้องชักตรงนี้ต่อหน้าพวกเอ็งเลยเหรอ”
“ใช่พี่เพราะวันจริงพี่ก็ต้องทำให้แข็งต่อหน้าคนในห้องแต่งตัวก่อนออกไปเจอแขกเหมือนกันซ้อมไว้ตั้งแต่วันนี้ วันจริงพี่จะได้ไม่เขิน ไม่อาย ทำทุกอย่างสบาย ๆ”
ภาติยะสุดจะทนกับคำพูดของไอ้อ๋องที่เห็นทุกอย่างเป็นของง่ายแต่ก็ต้องยอมทำตามคำสั่งของมัน เขาเริ่มเอามือขึ้นมาสาวท่อนควยที่อ่อนตัวอย่างช้าๆ ซึ่งพอโดนสายตาสองคู่จ้องมองอยู่ แทนที่มันจะแข็งตัวช้าเพราะความประหม่าหรือเขินอายมันกลับแผดขงาดขึ้นมาอย่างไว เพราะเจ้าตัวรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ชักควยต่อหน้าคนอื่น
ไอ้อ๋องเห็นดังนั้นก็หลุดขำส่งเสียงล้อ
“ไวต่อรสสัมผัสจริง ๆนะควยพี่ แป๊บเดียวพร้อมใช้งาน เจ้านายผมต้องปลื้มพี่มากแน่ ๆแต่ที่ผมอยากรู้คือพี่จะไวต่อมือคนอื่นด้วยรึเปล่า”
ว่าแล้วไอ้อ๋องก็เดินตรงเข้าไปหาภาติยะก่อนจะเอามือตัวเองแทรกเข้าไปดันมือของนายตำรวจหนุ่มที่กำลังสาวควยตัวเองออกแล้วเอามือของมันมารูดควยของนายตำรวจหนุ่มแทน เสร็จแล้วมันก็หันไปออกคำสั่งไอ้บอย
“ไอ้บอย โคลสที่ควย”
ไอ้บอยไม่รอช้าจัดการโคลสอัพภาพลงไปที่ท่อนควยของภาคิยะทันทีพอนายตำรวจหนุ่มรู้ว่ากล้องมือถือเปลี่ยนมาโฟกัสเฉพาะที่ท่อนควยเขาแบบเน้น ๆเขาก็ยิ่งตื่นเต้น ท่อนลำแผดผงาดขึ้นกว่าเดิมทันที ตอนนี้ท่อนควยปลายหัวเปิดโชว์ศักยภาพของมันต่อหน้ากล้องแบบเต็มที่
“พนักงานคุณภาพจริง ๆสงสัยลึก ๆ พี่จะชอบโชว์ควยต่อหน้าคนอื่นนะ พรุ่งนี้ผมไม่ห่วงแล้วพี่คงแข็งได้จนจบงาน แต่วันนี้ขอทดสอบอะไรอีกอย่าง”
“อะไรของมึงอีก”
ภาติยะเอ่ยถามน้ำเสียงสั่นพร่าด้วยความเสียวจากการโดนชักควยต่อหน้ากล้อง
“อ๋องอยากรู้ว่าน้ำเงี่ยนพี่รสชาติเป็นยังไงขออ๋องชิมหน่อยนะ ถือเป็นของรางวัลที่อ๋องหางานให้พี่”
“มาขนาดนี้มึงไม่ต้องขอกูแล้วเอาที่มึงอยากทำเลย”
“ขอบคุณพี่ ไอ้บอยมึงเปลี่ยนมาถ่ายรูปแทน ถ่ายเป็นที่ระลึกให้กูกับพี่สุดหล่อหน่อย”
ว่าแล้วไอ้อ๋องก็ย่อตัวลงไปลงลิ้นที่ท่อนควยหัวบานของภาติยะทันทีมันดูดดื่มท่อนควยนั้นอย่างหื่นกระหาย โดยมีไอ้บอยคอยถ่ายภาพให้มันเป็นระยะ ๆทุกภาพภาติยะจ้องมองมาที่กล้อง โดยที่ภาพที่ถูกถ่ายออกมาเหมือนว่าเขาเต็มใจที่ถูกกระทำทุกอย่างไม่ได้โดนบังคับหรือสั่งให้ทำ แถมบางรูปเขามีสีหน้าเคลิบเคลิ้มเสียวซ่านให้เห็นด้วย
ไอ้อ๋องดูดท่อนลำของภาติยะเข้าออกได้สักพักร่างของภาติยะก็กระตุกเกร็ง
“กูจะแตกแล้วไอ้อ๋อง”
“แตกใส่ปากอ๋องเลยพี่อ๋องจะดูดกินให้พี่เอง”
ขาดคำน้ำกามของภาติยะก็พุ่งเข้าปากไอ้อ๋องทันที ไอ้อ๋องไม่มีท่าทีรังเกียจเลยแม้แต่น้อยมันกลืนกินน้ำรักของนายตำรวจหนุ่มเหมือนกำลังกินน้ำอมฤต
ภาพสุดท้ายที่ไอ้บอยถ่ายไว้คือภาพที่แสดงให้เห็นความสุขสมร่วมกันระหว่างภาติยะกับไอ้อ๋อง
เป็นภาพที่ภาติยะต้องจดจำจนวันตาย
static/image/hrline/line2.png
รอติดตามตอนต่อไปครับ ขอบคุณครับเซอร์ไฟร์สคือไรนะ ขอบคุณครับ อดใจรอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ววว ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} คันประตูหลังมาก ๆ น่าติดตามมาก งานวันนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณคับ มรตัวละครเพิ่มมาอีกแล้ววว สงสารครูกับนักว่ายน้ำ ไม่รู้ว่าจะเดาถูดั้ย 55555 แต่สงสารไว้ก่อน ส่วนภาติยะก็ต้องไปลุ้นเอาว่าจะโดนจับได้ โดนบอยหลอกหรือเปล่าาาา ฮือออออลุ้นๆ รีบมาน้าาาา ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ คือดีครับ