mon-mon โพสต์ 2020-12-26 18:24:03

คนงานพม่าร่างแกร่ง...แรงดีไม่มีตก

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย mon-mon เมื่อ 2020-12-26 22:29

   ผมและเพื่อน ๆ เราเฮละโลกันไปเที่ยวบ้านเพื่อน ซึ่งเป็นนายหัวของจังหวัดทางภาคใต้แห่งหนึ่ง นอกจากสวนยางสุดลูกหูลูกตา และสวนปาล์มอีกนับร้อยไร่ ที่บ้านข้องเจ้าเพื่อนคนนี้ยังมีกิจการเป็นรีสอร์ทขนาดกลาง ให้กับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลความสวยงามของท้องทะเลและหมู่เกาะแห่งทะเลอันดามัน
   ที่สวนปาล์ม คนงานส่วนใหญ่จะเป็นหนุ่มพม่า ร่างสูงใหญ่ ผิวสีเข้ม เต็มไปด้วยมัดกล้ามตามร่างกาย มีแต่เพียงหัวหน้าและคนงานอีกไม่กี่คนเท่านั้นที่เป็นคนไทย ซึ่งผมค่อยข้างสนิทโดยเฉพาะกับหัวหน้าคนงาน ตามนิสัยคนมีอัธยาศัยดีครับ
   ช่วยที่อยู่ที่นั่น หลังจากเที่ยวกันจนเต็มคราบ ผมก็วุ่นอยู่กับการช่วย ๆ พี่หัวหน้าคนงานดูแลคนงานพม่าอยู่ในสวน จะว่าไปคนงานต่างด้าวชาวพม่าที่นี่ก็พูดไทยได้เกือบทุกคน โดยเฉพาะคนที่อายุงานนาน ๆ หลายปีจะพูดค่อนข้างชัดทีเดียว ส่วนคนที่มาใหม่ ๆ ก็อาจจะพูดได้ไม่ค่อยแข็งแรงสักเท่าไหร่ คือพอคุยกันได้แต่ฟังต้องฟังให้ดี ๆ ว่างั้น
   "แล้วพวกคนงานพวกนี้เขามาจากไหนกันบ้างครับพี่"
   ผมถามพี่หัวหน้าคนงานด้วยความอยากรู้ ทั้ง ๆ ที่จะว่าไปก็รู้อยู่หรอกว่าเพียงนั่งเรือข้ามฝั่งไปไม่ไกลก็เป็นเขตแดนของพม่าที่ชื่อว่า จังหวัด "เกาะสอง" แต่ที่ถามก็เพราะอยากรู้ว่ามาจากเมืองไหนกันบ้างแค่นั้นแหละ
   "ก็มาจากพม่าตอนบนโน่นแหละครับคุณ" พี่หัวหน้าคนงานวัยสามสิบกว่า ๆ ซึ่งมีใบหน้าที่ดูดุ ๆ แต่พอคุยด้วยแล้วกลับดูใจดีและเป็นกันเอง
   "ส่วนใหญ่ที่หนีตายมาหางานทำที่ประเทศไทยก็เพราะความยากจน และทนการกดขี่จากรัฐบาลทหารไม่ได้ เลยหนีมาตายเอาดาบหน้ากัน ถ้าเจอเจ้านายดี ๆ หน่อยก็สบายไป แต่ถ้าเจอพวกคนไทยแต่ใจหมาก็แย่หน่อย เฮ้อ! ประเทศไทยเรานี่แหละดีสุด คุณว่ามั้ย"
   พี่หัวหน้าคนงาน พอแกได้คุยก็เล่นจ้อไม่หยุด คงเพราะวัน ๆ คุยแต่กับคนงานพม่าที่พูดไม่ค่อยชัดแต่พอมาคุยกับคนไทยด้วยกัน แกก็เลยอยากจะระบายความในใจให้ฟังมั้ง ผมก็พยักหน้ารับรู้ด้วยความสนใจ เพราะจะว่าไปก็สนจเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทยพอ ๆ กับต้นไม้ใบหญ้านั่นแหละ จึงได้รู้ประวัติศาสตร์ระหว่างไทยกับพม่ามาก็พอสมควร พอมาเจอคนพม่าตัวเป็น ๆ เลยรู้สึกตื่นเต้น ๆ อยู่เหมือนกัน
   ดู ๆ ไปแล้ว หลายคนหน้าตาก็ไม่ค่อยแตกต่างจากคนไทยเท่าไหร่นัก แถมหลายคนรูปร่างหน้าตาก็ดูค่อนข้างเข้าท่าดีทีเดียว คือแม้จะไม่ล่ำมาก แต่ก็ดูแข็งแรงท่าทางจะอึด ที่ผมจ้อง ๆ อยู่ก็มีด้วยกันหลายคน ถามชื่อมาเรียบร้อยแล้วด้วย อย่าง หม่องลอ หม่องขิ่น และหม่องปัน นั่น สามคนนี้ถึงแม้หน้าตาจะดูบ้าน ๆ แต่ก็บ้าน ๆ แมน ๆ ที่ถูกใจผมมาก ๆ คือนายหม่องลอ หน้าตาจะดูอ่อนกว่าเพื่อน ดูดีกว่าใคร หุ่นแน่นและผิวก็เนียนน่าลูบไล้
   ส่วนหม่องขิ่นหน้าตาแม้จะดูบ้าน ๆ แต่หุ่นก็แน่นและแกร่งดูแมนดี แต่ผิวจะคล้ำกว่าใคร ส่วนหม่องปันจากที่ผมสังเกตดู ท่าทางจะเหมือนเป็นหัวหน้าคนงานพม่ากราย ๆ และดูเป็นคนที่เพื่อนคนงานให้ความเกรงใจที่สุด คงเพราะอายุมากกว่าคนอื่น แถมตัวล่ำ และสูงใหญ่กว่าใคร อกแกร่ง ๆ กล้ามเนื้อดูแข็งแรงตามแบบหนุ่มกรรมมกรทั่วไป ส่วนเรื่องหน้าตาก็ดูคมแมนเข้ม ๆ ดี น่าเอาไม่ใช่เล่น
   ที่สำคัญคนงานส่วนใหญ่จะนุ่งโสร่งเวลาทำงานด้วย ทำให้น่ามองและจินตนาการตามโคตร ๆ จนอยากจะเข้าไปเปิดดูใต้โสร่งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ว่าจะใหญ่สักแค่ไหน ส่วนเรื่องอายุ หม่องลออายุ 20 ปี หม่องขิ้น 23 ปี ส่วนหม่องปัน ก็ราว ๆ 25 ปี
   สำหรับหม่องลอ ดูท่าว่าผมจะปลื้มเขามากกว่าใครเพราะหน้าตาดูดีและอ่อนวัยกว่าใครพูดถึงเรื่องหุ่นก็โดนใจไอ้วินแบบเต็ม ๆ ตีน! ครับ หน้าตาหม่องลอ หล่อแบบวัยรุ่น แต่ก็ดูคมและแมนดี หุ่นก็ไม่สูงมากเกินไปคือดูดี แต่ที่สำคัญดูแข็งแรง ผิวก็ค่อนข้างเนียนน่าลูบไล้ ทำให้ผมแอบเหล่เขาไม่วางตาตั้งแต่เห็นทีแรกแล้ว
   พอเกิดความสนใจขึ้นมาแบบนี้ ผมก็เหมือนกับถูกผีขยันเข้าสิงเลยครับ ทั้ง ๆ ที่พวกเพื่อน ๆ ชวนไปเที่ยวเล่นกันที่รีสอร์ทแต่ผมก็ไม่ยอมไปด้วย
   ระหว่างนั้นผมก็คิด ๆๆ ว่าจะทำยังไงถึงจะได้ใกล้ชิดหนุ่ม ๆ เหล่านี้ให้พวกเขาเชื่อใจผม และแล้วผมก็คิดออก เพราะ "ยิ้มสยาม" อย่างเรานี่แหละ สร้างมิตรได้ดีเป็นพี่หนึ่งล่ะว่ามั้ย?
   ระหว่างเดินตรวจตราภายในโรงงานผมก็จะเหล่คนนั้นทีคนนี้ที พอเป็นกำไรให้ชีวิต ในขณะเดียวกันก็พยายามโปรยยิ้มไปทั่ว เพื่อเป็นการผูกมิตร และก็ได้ผลครับ เพราะเกือบทุกคนก็จะยิ้มตอบกลับมา มากบ้างน้อยบ้าง เพราะทุกคนรู้จากพี่หัวหน้าคนงานแล้วว่าผมเป็นเพื่อนลูกชายเจ้านาย
   หนุ่มพม่าเนี่ยบางคนเวลายิ้มแล้ว ตาโคตรเยิ้มเลยอ่ะ เฮ้อ! เห็นแล้วชวนฝันดีจังแฮะ คือบางคนขนตาเขาจะยาวเหมือนขนตาแขกและจมูกก็โด่งเป็นสันสวย ๆ ยิ่งตอนยิ้มออกมาก็ยิ่งน่ามองโคตร ๆ อย่างนี้แหละที่เขาเรียกว่า "ผิวพม่า นัยน์ตาแขก" บางคนทำงานไปเกิดเผลอตัว ก็นั่งอ้าขากว้าง ๆ เปิดของ (ลับ) เปิดไข่ให้เห็นโดยไม่รู้ตัวก็มี ก็เป็นบุญตากันไป
   จนผมเดินมาถึงหม่องลอที่กำลังง่วนกับงานอยู่พอดี ซึ่งก็บอกแล้วว่าผมแอบเหล่ ๆ ไอ้หนุ่มคนนี้อยู่ตั้งแต่แรกเห็น ผมกะหาโอกาสคุยกับเขาตั้งนาน จนในที่สุดก็ตัดสินใจเข้าไปพูดคุยด้วยทันที เพราะเห็นว่าแถวนั้นไม่มีคนงานคนอื่นอยู่เลย ตอนแรกชายหนุ่มก็ยิ้ม ๆดูเขิน ๆ อ่ะครับ แต่แหมตอนเขายิ้มเนี่ย หล่อแม่ง แถมน่ามองโคตร ๆ เห็นแล้วชวนฝัน โดนใจไอ้วินไปเต็ม ๆ
   "มาทำงานที่นี่นานรึยัง" ผมพยายามพูดช้า ๆ ชัด ๆ เพื่อที่เขาจะได้ฟังถนัด ๆ
   "เกือบปีแล้ว" หม่องลอตอบสั้น ๆ แม้จะพูดไม่ชัดนักแต่น้ำเสียงก็แมนน่าฟัง แถมอากิปกิริยายังดูพินอบพิเทา ยังกะผมเป็นเจ้านายเขาซะงั้น ผมก็เขินแย่ดิครับ
   "ไม่ต้องเกรงใจผมขนาดนั้นก็ได้"
   "ก็คุณเป็นเพื่อนลูกชายเจ้านาย" เขายังคงทำหน้าเกรง ๆ ผมไม่หาย
   "ลูกเจ้านายก็ส่วนลูกเจ้านายสิ ผมก็ส่วนผม ทำตัวตามสบายไม่ต้องคิดมาก"
   ผมทำเนียนตบไหล่หม่องลอแปะ ๆ อย่างเป็นกันเอง แต่ที่ตบน่ะก็เพราะอยากสัมผัสความแข็งแกร่งของเนื้อหนุ่มพม่าตะหากพอได้สัมผัสก็ได้พบกับความแน่นปึ๊ก ทั้งบึกบึนและแข็งแรงโคตร ๆ แค่ได้สัมผัสเนื้อหนุ่ม เนื้อผมก็เต้นเร่า ๆ ขึ้นมาด้วยความร่านอย่างแรง
   ระหว่างนั้นผมก็พยายามทำตัวเป็นคนใจกว้างเหมือนแม่น้ำ เพื่อทำให้หม่องลอผ่อนคลายและคุยกับผมแบบเป็นกันเองที่สุด เพื่อะไรน่ะเหรอครับ ก็เพื่อประโยชน์ในการที่จะได้ใกล้ชิดยังไงล่ะครับและก็ได้ผลเช่นเคย ผมบอกแล้วว่าคนที่มีวาทะดี ๆ มักจะมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะคุยกันได้ไม่นาน เราก็พูดคุยกันอย่างถูกคอ ประการแรกคงเพราะอยู่ในวัยเดียวกันมั้ง
   ส่วนประการที่สองก็เพราะผมดันพูดเข้าจุดน่ะซิครับ ก็พอดีผมดันไปพูดว่าสนใจประเทศพม่า อยากไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวหลาย ๆ แห่งที่เคยผ่านตาทางโทรทัศน์ และทางหนังสือพิมพ์ และหนังสือท่องเที่ยวต่าง ๆ
   ไม่ว่าจะเป็น พุกาม มัณฑเล เจดีย์ชเวดากอง พระธาตุอินแขวน ทะเลสาบอินเล อย่างที่อยู่เหนือ ๆ หน่อยก็จะเป็นเมืองของ "คนไต" หรือไทใหญ่ หรือที่เรียกกันว่า รัฐ "SHAN" ของพม่า นั่นไง
   ซึ่งนับ ๆ กันไปแล้วก็นับได้ว่าเกี่ยวดองกับคนเมืองเหนืออย่างเราค่อนข้างมาก เพราะมีภาษาและวัฒนธรรมที่คล้ายกัน ประวัติศาสตร์ก็เกี่ยวโยงยาวนานมาพอ ๆ กัน อย่างเมืองเชียงตุง แสนหวี หรือเมืองนาย นั่นไง เสียดายที่ผมยังหาโอกาสไปเที่ยวไม่ได้เสียที
   พอหม่องลอเห็นว่าผมชอบและอยากไปเที่ยวบ้านเมืองเขาจริง ๆ เราก็เลยคุยกันได้ยาวและทำให้ทราบว่าบ้านหม่องลออยู่เมืองทางตอนกลางของประเทศ ครอบครัวหม่องลอมีพี่น้อง 5 คน ชายสอง หญิงสาม มีอาชีพทำนา ทำไร่ หม่องลอเป็นลูกชายคนโต เลยต้องดิ้นรนมาหางานทำที่ฝั่งไทย เพราะทนความลำบากและความยากจนไม่ไหว
   ระหว่างที่คุยกันไป หม่องลอก็ทำงานไปเรื่อย ๆ ผมก็ทำตัวเป็นคนดีช่วยงานเขาแบบเนื้อแนบเนื้อก็หลายครั้ง แต่ใครจะรู้ ว่าที่เข้าไปใกล้ ๆ น่ะ เพราะอยากจะได้สูดกลิ่นกายหนุ่มต่างด้าวหุ่นแกร่งหน้าหล่อตะหาก แหมก็รู้ ๆ กันอยู่ว่านิสัยผมมันเป็นยังไง ลองถ้าได้ชอบหรือเข้าตาหน่อยล่ะก็ให้ทำอะไรก็ยอม
   แถมหม่องลอคนนี้ก็ดูดีโดนใจผม หน้าตารึ หุ่นรึ ก็น่าฟาดชิบหาย แถมความเป็นมายังน่าสนใจอีกตะหาก แบบนี้ผมไม่ยอมปล่อยผ่านไปแน่ ๆ ล่ะ วันทั้งวันผมเลยขลุกอยู่แต่กับเพื่อนใหม่จนตัวแทบจะติดกัน จนกระทั่งเย็น พวกไอ้ตัวดีทั้งหลายก็ไม่ยอมกลับมาซะที สงสัยจะไปแอ่วสาวจนลืมเพื่อน แหงม ๆ เชอะ! ใครสนพวกมันกัน ซึ่งผมก็ไม่ยอมเสียเปรียบหรอก เพราะมาหลีหนุ่มคนงานได้เหมือนกัน
   พอเลิกงานผมก็เลยตามพวกหนุ่มหม่องไปเล่นที่พักคนงานด้วยซะเลย ซึ่งจะอยู่หลังรีสอร์ทด้านหลังทิวมะพร้าวเข้าไปอีก โดยถูกกั้นด้วยสวนปาล์มดงใหญ่
   พอหนุ่ม ๆ คนงานต่างด้าวเขาเลิกงานมา ก็เล่นเตะบอลกันอย่างสนุกสนาน ดู ๆ ไปผมว่า ก็คงไม่ได้แตกต่างจากหนุ่มไทยเสียเท่าไหร่ เพียงแต่พอพวกเขาอยู่กันหลาย ๆ คน ก็เหมือนกับว่าเป็นอีกโลกนึงของพวกเขาก็ว่าได้ เพราะพวกหนุ่มหม่องเหล่านี้จะพูดภาษาพม่าจนผมฟังไม่รู้เรื่อง
   ผมก็จะคอยถามหม่องลอตลอดว่าเขาพูดอะไรกัน หม่องลอก็ใจดีอธิบายให้ฟัง แต่ผมก็จำไม่ได้หมดหรอกครับ เพราะพูดยาก เวลาพูดทีก็ลิ้นรัวกันไปหมดที่สำคัญตามัวแต่มองหนุ่ม ๆ เล่นบอลอยู่นี่ครับ หุ่นแต่ละคนนั้นบอกได้คำเดียวว่า สุดยอด! มาก ๆ ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะคล้ำมาก ๆ ก็เหอะ
   เชื่อมั้ยครับ ว่าตอนที่พวกเขาเล่นบอลกันไป ผมก็จ้องที่เป้าพวกเขาตลอด รอดูว่าโสร่งพวกเขาจะเลิกขึ้นเมื่อไหร่ เพราะพวกนี้บางคนไม่ยอมใส่กางเกงในก็มี บางทีผมก็ได้เห็นวับ ๆ แวม ๆ พอเป็นกษัย ได้เห็นกล้ามงาม ๆ สัดส่วนที่ดูแข็งแรง แกร่งแต่ไม่ล่ำ โอ้ว ถ้าผมโดนหนุ่มพม่ารุมโทรมจะรู้สึกยังไงนะอยากรู้จัง
      จนกระทั่งช่วงนึงหม่องลอก็เกิดปวดฉี่ขึ้นมา ผมเลยแอบย่องตามหม่องลอไปอย่างเงียบ ๆ หม่องลอหลบไปเยี่ยวหลังเพิงพักคนงานที่สร้างอย่าง ง่าย ๆ มุงด้วยสังกะสี ผมก็หาที่หลบดูหม่องลอเยี่ยวได้สำเร็จ โหย...ตื่นเต้นโคตร ๆ เพราะว่าในที่สุดก็จะได้เห็นน้องชายหม่องลอแล้ว ก็แหม...วันทั้งวันหาโอกาสแอบดูกระเจี๊ยวหม่องลอไม่ได้เสียทีนี่ครับ
   ผมหลบอยู่หลังพุ่มไม้ก้ม ๆ เงย ๆ หาลู่ทางในการมอง พอเห็นว่าได้ที่แล้วตาผมก็ซูม ๆๆ เข้าไปที่กระดอหม่องลอยังกะกล้องส่องทางไกลแน่ะ พอได้ที่เหมาะหม่องลอก็เลิกโสร่งขึ้นแล้วดึงดุ้นน้อย ๆ ออกมาตามประสาหนอนน้อยตอนไม่มีพิษ ขนาดก็เลยไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่นี่มันกะดอน้อยของหม่องลอที่ผมอยากจะงาบเสียเต็มประดานี่ครับ เลยไม่ได้สนใจว่าจะอ่อนหรือจะแข็ง ขอให้ได้ดูก่อนเป็นดีว่างั้น

   



4gggg โพสต์ 2020-12-26 18:37:30

ขอบคุณคับ

audiwoods โพสต์ 2020-12-26 18:58:31

มาต่อตอน 2 เร็วๆครับ

somchoo โพสต์ 2020-12-26 19:08:54

ขอบคุณครับ

takeshi โพสต์ 2020-12-26 19:10:10

ขอบคุณครับ

Tenshoin โพสต์ 2020-12-26 19:28:06

ขอบคุณ

kookkoo โพสต์ 2020-12-26 19:48:28

ขอบคุณครับ

jumboa โพสต์ 2020-12-26 20:33:57

ขอบคุณ​ครับ.

nuangnut1996 โพสต์ 2020-12-26 20:51:37

สนุกมากครับ

minone โพสต์ 2020-12-26 21:47:30

ขอบคุณ​มาก​นะ​ครับ​{:5_130:}

verasith โพสต์ 2020-12-26 22:54:24

ขอบคุณครับ

kuminum โพสต์ 2020-12-26 23:01:15

ขอลคุณมากครับ

vatanuki โพสต์ 2020-12-26 23:28:59

ขอบคุณคบ

audiwoods โพสต์ 2020-12-27 01:53:32

จะโดนรุมโทรมไหมครับ

Homealone โพสต์ 2020-12-27 03:29:49

ขอบคุณครับบ

4554 โพสต์ 2020-12-27 03:34:22


สุดยอดครับ

507cbe2fbf01af2 โพสต์ 2020-12-27 03:43:22

สนุกดี มาต่ออีกนะ ขอบคุณครับ

Ohnimob โพสต์ 2020-12-27 04:31:37

ขอบคุณครับบ

lekthai โพสต์ 2020-12-27 04:33:07

ขอบคุณ

Fatter โพสต์ 2020-12-27 04:48:56

ขอบคุณครับ
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ดูในรูปแบบกติ: คนงานพม่าร่างแกร่ง...แรงดีไม่มีตก