ไข้กระต่าย...โรคชื่อน่ารัก มักจะร้าย
http://p.s1sf.com/ca/0/ud/187/938094/110875741.jpgโลกเราทุกวันนี้มีโรคใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย โรคไข้กระต่ายก็เช่นเดียวกัน หลายคนคงเฉยๆ เพราะว่าดูโรคนี้จะไกลตัว ก็ชั้นไม่ได้เลี้ยงกระต่ายนี่นา! ใครว่าล่ะคะสาวๆ โรคนี้น่ะ ไม่ได้ติดได้จากกระต่ายอย่างเดียวสักหน่อย น้องหมา น้องแมว หรือแม้แต่หนูแฮมเสตอร์ที่บ้านคุณก็เป็นพาหะของโรคนี้ได้นะคะโรคทูลารีเมีย หรือโรคไข้กระต่าย (Rabbit Fever) เป็นโรคติดต่อจากสัตว์ถึงคน ที่มีอันตรายสูงโรคหนึ่งเนื่องจากสามารถติดต่อทางละอองฝอยได้ แถมโรคนี้ยังเป็นภัยระดับโลก เพราะเป็นหนึ่งในโรคที่สามารถใช้เป็นอาวุธชีวภาพได้! ประเทศสหรัฐอเมริกา โรคนี้จัดอยู่ในกลุ่ม A ที่ต้องเฝ้าระวัง และตั้งแต่ต้นปีพ.ศ. 2545 จนถึงขณะนี้ พบว่ามีรายงานผู้ป่วยมากกว่า 200 ราย
โรคไข้กระต่าย ติดได้จากสัตว์เลี้ยงใกล้ตัว
สัตว์ที่เป็นพาหนะนำโรคส่วนใหญ่คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก โดยเฉพาะกระต่ายบ้านกระต่ายป่ากระรอกและสัตว์อื่นๆโรคนี้ติดต่อมายังคนโดยถูกแมลงพาหะที่กัดเลือดสัตว์ที่ติดเชื้อนี้กัด หรือติดโดยสัมผัสกับเลือด สารคัดหลั่งของสัตว์ที่ป่วยด้วยโรคนี้ เข้าทางบาดแผล เยื่อเมือก หรือรอยถลอก ขีดข่วน หรือถูกสัตว์ป่วยกัดโดยตรง การหายใจ หรือกินอาหารหรือน้ำที่มีเชื้อโรคปนได้เชื้อก็สามารถทำให้ติดเชื้อได้
อาการแบบนี้... ใช่เลย
เนื่องจากโรคไข้กระต่ายนี้สามารถติดได้จากน้องหมาน้องแมวที่เราเลี้ยง และอาจจะติดจากสัตว์อื่นๆ ที่เราไปคลุกคลีใกล้ชิด เพราะฉะนั้นจึงขอแบ่งอาการของผู้ที่ติดเชื้อไข้กระต่ายนี้ไว้ 2 ประเภท ทั้งในคน และในสัตว์เลี้ยงเพื่อให้สาวๆ สามารถสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับทั้งเราและสัตว์เลี้ยงใกล้ตัวได้ค่ะ
อาการในคน
แม้ว่าโรคนี้ยังไม่มีรายงานการติดต่อระหว่างคนสู่คน และมีระยะฟักตัวของโรค 1-14 วัน แต่ทั่วๆ ไป เชื้อนี้จะใช้เวลาในการฟักตัวในคนประมาณ 3-5 วัน โดยอาการที่เกิดขึ้นมี 2 รูปแบบขึ้นอยู่ช่องทางที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย คือทางผิวหนัง และทางการหายใจ หากเชื้อเข้าทางผิวหนังจะเกิดบาดแผล ต่อมน้ำเหลืองบวมโตตรงที่รับเชื้อ
หากเชื้อเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจผู้ติดเชื้อจะเป็นไข้แบบไทฟอยด์ คือมีไข้ หนาวสั่น โลหิตเป็นพิษ ปวดศีรษะ ท้องเสีย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ไอแห้งๆ และอ่อนเพลีย หากผู้ป่วยมีอาการปอดบวมร่วมด้วยจะเจ็บหน้าอก มีเสมหะเป็นเลือด อึดอัด หายใจไม่สะดวก จนอาจหยุดหายใจ ลักษณะปอดบวมจากการตรวจทางรังสีทรวงอก อัตราตายของโรคแบบไข้ประมาณร้อยละ 35
อาการในสัตว์เลี้ยง
ในแมวจะมีไข้เบื่ออาหารเป็นฝีที่ต่อมน้ำเหลืองมีแผลหลุมในปาก ตับอักเสบ ม้ามโต ลำไส้อักเสบ ปอดอักเสบรายที่เป็นรุนแรงอาจเสียชีวิตได้ ในสุนัขจะมีความทนทานต่อโรคมากกว่าแมวพบเกิดโรคค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่มักพบในลูกสุนัข อาการที่พบเบื่ออาหารมีไข้น้ำมูกข้นต่อมน้ำเหลืองโต ต่อมทอมซิลอักเสบ
ในกระต่ายและสัตว์ฟันแทะอื่นๆ เช่นหนูแฮมสเตอร์ กระรอก กระแต ฯลฯ ที่ติดเชื้อจากเห็บหรือแมลงดูดเลือดบริเวณที่ถูกกัดจะเป็นแผลหลุมติดเชื้อลุกลาม และมีเนื้อตาย
รักษาได้ แต่ป้องกันดีกว่า
ถึงแม้ว่าโรคนี้จะสามารถรักษาโดยการใช้ยาปฏิชีวนะ แต่การป้องกันด้วยการรักษาความสะอาดให้กับสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงไม่คลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงมากเกินไป ไม่กอด หอม หรือเอามานอนด้วยกันเมื่อมีอาการป่วย และการซื้อสัตว์เลี้ยงจากแหล่งที่ไว้ใจได้ ปลอดโรค น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่จะทำให้สาวๆ ไม่เสี่ยงกับโรคไข้กระต่ายนี้ค่ะ
โรคที่ติดเชื้อจากสัตว์นั้น จะไม่น่ากลัวเลยค่ะถ้าเรารู้วิธีการป้องกัน และไม่เอาตัวไปอยู่ในสถานที่ๆ เสี่ยงต่อการติดโรค รวมถึงรักษาความสะอาดของสัตว์เลี้ยงและที่เลี้ยงสัตว์หรือทั้งบ้านของเราและบ้านของเจ้าตัวเล็ก เท่านี้โรคไข้กระต่ายและโรคที่ติตจากสัตว์อื่นๆ ก็จะไม่มากล้ำกรายแล้วล่ะค่ะ
by DaawChonlada
ขอขอบคุณข้อมูลจาก chicministry.com
ภาพประกอบจาก www.photos.com
ขอบคุณครับ{:5_146:}
หน้า:
[1]