ทาสประจำยิม 1 (แปลใหม่)
ไอ้ฟิว เป็นเด็กมหาลัยปี 3 ซึ่งเป็นขาประจำที่มาเล่นยิมของมหาลัยที่ผมทำงานอยู่ ซึ่งผมเป็นคนดูแลยิมนี้เอง และเท่าที่ผมเห็นมา ไอ้ฟิวนี่แหละที่เป็นคนที่หล่อและหุ่นดีที่สุดในยิมของผม หุ่นมันแทบจะไม่มีไขมันเลย เวลามันถอดเสื้อ ซึ่งก็ค่อนข้างจะบ่อย ผมก็จะได้เห็นผิวเนียนกับกล้ามของมันเสมอแต่นั่นแหละ เพราะว่ามันมีดีทั้งหน้าทั้งหุ่นทำให้มันเป็นพวกหลงตัวเอง แถมยังชอบล้อเลียนคนอื่นด้วย จนมันไม่มีเพื่อนเลยสักคน แต่เพราะความเป็นสัตว์สังคมทำให้มันพอจะเข้าหาคนอยู่บ้าง ผมเห็นเวลามันอยู่กับกลุ่มของมัน พวกนั้นต่างมองมันด้วยสายตาอิจฉา ส่วนสาวๆ ก็ต่างเข้าหาเพราะอยากได้มัน แต่คบได้ไม่นานก็เลิกเพราะไอ้นี่มันชอบฟันแล้วทิ้ง
แต่เหตุผลที่ผมไม่ชอบไอ้เหี้ยนี่ก็เพราะว่ามันชอบล้อคนอื่นในยิม ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีหุ่นแบบมันได้ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือไม่มีใครอยากมีหุ่นแบบที่มันมีจนต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเท่ากับไอ้ฟิว ผมจะบอกให้นะ เมื่อก่อนไอ้ฟิวมันก็หุ่นธรรมดาๆ นี่แหละ แต่ไอ้ฟิวมันก็มาเข้ายิมทุกวัน ซึ่งผมนี่แหละที่เป็นคนเทรนให้ตอนที่มันเพิ่งเข้ามาตอนปี 1 เพราะมีเทรนเนอร์ส่วนตัวเป็นของรางวัลสำหรับตำแหน่งเดือนมหาลัย แล้วนี่เพิ่งผ่านไปยังไม่ถึง 2 ปี มันได้หุ่นขนาดนี้ ผมยอมในความพยายามของมันจริงๆ แต่พอมันหุ่นดีแล้วมันกลับเอาเวลาไปล้อคนอื่น ทำให้ผมโมโหมากเพราะแน่นอนว่ามันส่งผลถึงยอดคนเข้าใช้งานยิมและแน่นอนว่าส่งผลถึงงบประมาณด้วย ผมต้องพยายามขนาดไหนกว่าจะทำให้เด็กๆ หันมาสนใจดูแลสุขภาพตัวเองจนเข้ายิมได้เยอะขนาดนี้ แต่ไอ้เหี้ยนี่กำลังทำลายมันลงไปต่อหน้าต่อตาผม และผมยอมไม่ได้
เอาจริงๆ เหตุผลลึกๆ ที่ผมไม่ชอบมันก็อาจจะเป็นเพราะมันกำลังให้อำนาจของผมสั่นคลอน ผมควรจะเป็นใหญ่ที่สุดในยิมนี้ แต่พอมีมันอยู่แบบนี้ทำให้ผมรู้สึกสูญเสียอำนาจไป ผมรู้สึกกลัวไอ้ฟิว ผมเลยหาทางที่จะกำจัดมันออกไปจากยิมซะให้พ้นๆ แต่มันไม่ได้ทำผิดกฎอะไร ทำให้ผมทำอะไรมันไม่ได้มาก แต่แล้วโชคชะตาก็เข้าข้างผม
ไม่รู้จะเชื่อกันไหมว่าเรื่องมันเริ่มมาจากกลุ่มเฟมินิสต์หัวรุนแรงในสภานักศึกษาที่เริ่มโจมตียิมเรื่องที่นักศึกษาชายชอบถอดเสื้อเวลาออกกำลังกายและทำให้นักศึกษาหญิงรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งจากที่ผมเห็นแล้วไม่เห็นมีใครเคยบ่นอะไรเลย อย่างน้อยก็ไม่เคยบ่นที่ไอ้ฟิวถอดเสื้อก็แล้วกัน ซึ่งพอเริ่มมาแบบนั้น กลุ่มเฟมินิสต์ก็ได้ยื่นเรื่องขอให้ยิมเรามีวันที่ให้แต่นักศึกษาหญิงเข้ามาใช้งานได้
หลังจากประชุมผมก็ยอมยกวันอังคารกับพฤหัสให้ผู้หญิงได้ใช้ และให้ผู้ชายมาใช้วันจันทร์ พุธ ศุกร์แทน อย่างน้อยเราก็มีจำนวนวันที่มากกว่า เพราะยังไงผู้ชายก็ต้องการเวลาที่มากกว่าในการฟิตหุ่นอยู่แล้ว ซึ่งผมก็แซะพวกนั้นกลับไปว่าแบ่งวันไปก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องมากังวลเรื่องกฎเครื่องแต่งกายโง่ๆ นี้อีก แต่พวกนั้นดันคิดจริงและออกกฎอย่างเป็นทางการว่าไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อเวลาอยู่ยิมก็ได้ ซึ่งเมื่อกฎออกมาแบบนั้น ผมเลยทำโปสเตอร์ไปติดไว้ตรงทางเข้า พอคนเห็นก็มองมายิ้มๆ มีหลายคนได้โอกาสถอดเสื้อโชว์หุ่นบ้าง และแน่นอนว่าตอนไอ้ฟิวมาถึง มันก็สร้างซีนทันที
“กฎใหม่นี่ดีเลย จะได้ไม่ต้องใส่เสื้อ” มันพูดกับตัวเองด้วยเสียงที่ดังพอให้คนได้ยิน จากนั้นก็ทำเป็นลูบไปตามตัวก่อนจะถอดเสื้อออกช้าๆ พร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อโชว์ไปด้วย ซึ่งถ้าให้พูดตามตรงก็มีคนดูมันโชว์อยู่หลายคน รวมถึงผมด้วย และเมื่อมันถอดเสื้อเสร็จ มันก็ทำเป็นโยนเสื้อทิ้งลงถังขยะไป
“ไม่จำเป็นต้องใส่แล้ว” มันพูด ก่อนจะเดินเข้ายิมไปออกกำลังกาย
สิ่งที่ไอ้ฟิวทำนี้มันเป็นการข่มคนอื่น อวดคนอื่นว่ามันหุ่นดีกว่า มันทำเพื่อเรียกความอิจฉาจากคนอื่นในยิมนี้ แถมมันยังใส่กางเกงขาสั้นพอดีตัวที่โชว์กล้ามเนื้อช่วงขาของมันชัดเจน มันคงเป็นวิธีเรียกความเชื่อมั่นใจตัวเองตามแบบของไอ้ฟิวนั่นแหละ เพราะว่าระหว่างที่มันเดินไปก็มีคนเข้ามาทักทายมันตลอดทาง แถมยังชมหุ่นมันอีก แต่ไอ้ฟิวกลับตอบกลับแบบที่หลายคนหน้าเสียไปเลยว่าพวกนั้นคงถอดเสื้อโชว์แบบมันไม่ได้เพราะหุ่นไม่ดีพอ ยิ่งทำให้ผมเกลียดมันเข้าไปอีก
ในช่วงเวลาสองอาทิตย์หลังจากนั้น ผมสังเกตว่าคนที่ถอดเสื้อมายิมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเหลือแค่คนที่หุ่นไม่ค่อยดีที่ใส่เสื้อมา ซึ่งไอ้ฟิวก็ยังไปล้อพวกนั้นอยู่เหมือนเคย จนวันหนึ่งผมได้โอกาสถอดเสื้อโชว์หุ่นผมแล้วบอกมันว่าถ้าอยากแซวก็มาแซวหุ่นผมแทน ทำให้มันเงียบลงไปได้บ้าง ซึ่งเมื่อผมทำแบบนี้ ก็ทำให้คนอื่นเริ่มกล้ามากขึ้นบ้าง จนเมื่อผ่านเดือนแรกก็เหมือนว่าทุกคนจะถอดเสื้อเข้ายิมกันเป็นปกติแล้ว
ในขณะเดียวกัน ผมก็สังเกตเห็นว่าขณะที่ไอ้ฟิวกำลังปากหมาแซวและล้อคนอื่นมาตลอดก็ยิ่งทำให้มันมีศัตรูมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งพวกนี้แหละจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มันเหมือนตกอยู่ในนรกทั้งเป็น
วันนี้ผมเพิ่งจะไปประชุมกับผู้บริหารมาเรื่องการจัดสรรงบประมาณและผมกำลังหงุดหงิดเรื่องงบที่ได้มาน้อยเกินไปทั้งๆ ที่ยิมของเรามีนักศึกษาให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมหงุดหงิดมากที่ไอ้ฟิวมันเดินเข้ามากับพวกแล้วเอาปากกามาเขียนเล่นตรงโปสเตอร์ที่ผมเคยทำไว้เรื่องไม่ต้องใส่เสื้อ แล้วเขียนเล่นว่าไม่ต้องใส่กางเกงแทน จากนั้นก็หัวเราะกันเสียงดังก่อนจะเดินเข้ายิมไป
ผมรู้สึกว่าถึงเวลาต้องสั่งสอนไอ้ฟิวแล้ว เลยหยิบนกหวีดมาเป่ายาวๆ เสียงดังเพื่อให้ทุกคนหยุดสิ่งที่ทำอยู่แล้วมาสนใจผมแทน ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ทุกอย่างในยิมก็หยุดนิ่งลงไปทันที
“ทุกคน นายฟิวได้ทำการเปลี่ยนกฎของยิมเราใหม่” ผมพูดก่อนจะชี้นิ้วไปที่โปสเตอร์ “ไม่ต้องใส่กางเกงก็เข้ามาได้ อยากจะลองเป็นคนแรกไหม” ผมหันไปถามไอ้ฟิวโดนตรงพร้อมกับยื่มมือมาทำท่ารอให้มันส่งกางเกงมาให้ผม แต่มันก็เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตาผมเลย “ว่าไงล่ะ ไม่ถอดกางเกงส่งมาเหรอ ใส่แค่กางเกงในเล่นฟิตเนสก็พอ” ผมบอก ไม่ได้คาดหวังให้มันทำหรอก แต่นี่จะเป็นเหตุผลให้ผมไล่มันออกไปจากยิมได้สักวัน
“พี่ครับ คือ... ผม... ผมไม่ได้ใส่กางเกงในมา”
ผมกำลังจะเปิดปากไล่มันออกไปจากยิม แต่แล้วอยู่ๆ บรรยากาศรอบข้างก็เปลี่ยนไป มีเสียงเชียร์ดังขึ้นมาจากหลายคนที่อยู่ในยิมให้มันถอด พวกนั้นตะโกน “ถอดเลย! ถอดเลย! ถอดเลย!” พร้อมกับปรบมือเป็นจังหวะ
พอได้รับการสนับสนุนแบบนี้ ผมก็ไม่อยากปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป ผมไม่อยากจะไล่มันออกจากยิมแค่วันนี้แล้ว ผมไม่อยากเห็นหน้ามันในยิมนี้อีก และนี่เป็นโอกาสที่ดีเลย
“กฎข้อ 6 ใครทำลายทรัพย์สินของยิมจะต้องงดใช้ยิมตามเวลาที่เจ้าหน้าที่เห็นสมควร” ผมบอกมัน “ว่าไงนายฟิว จะโดนแบนจนเรียนจบหรือว่าจะส่งกางเกงให้พี่ตอนนี้”
“จนเรียนจบเลยเหรอพี่ แค่โปสเตอร์โง่ๆ เองนะ”
“เลือกเอาก็แล้วกัน” ผมตอบโดยไม่สนคำโต้แย้งของมันซึ่งก็ได้รับเสียงเชียร์สนับสนุนมากมายจากคนอื่นๆ ที่ตอนนี้ไม่ได้ออกกำลังกายแล้ว แต่กลับมาล้อมวงพวกผมอยู่
ผมรู้ว่ายังไงไอ้ฟิวมันก็ไม่มีวันยอมโดนแบนจากยิมนี้ เพราะยิมนี้คือชีวิตของมัน หน้าตาของมันดีก็จริง แต่ถ้าหุ่นไม่ดีมันคงไม่ได้เป็นหนุ่มฮ็อตแบบทุกวันนี้หรอก แล้วผมก็รู้จักมันดีพอที่จะรู้ว่ามันไม่มีเงินไปสมัครยิมข้างนอกหรอก ขนาดหอนอกมันยังไม่มีปัญญาอยู่เลย ต้องอยู่หอในราคาถูกจนถึงปี 3 แบบนี้ สุดท้าย มันเลยต้องยอมถอดกางเกงออกแล้วส่งมาให้ผมโดยพยายามใช้มือปิดเอาไว้ ซึ่งผมก็รับกางเกงมาทันที แถมยังมีกุญแจล็อกเกอร์ของไอ้ฟิวติดมาด้วยอีกต่างหาก จากนั้นก็เอาไปเก็บไว้หลังเคาท์เตอร์
ระหว่างนั้นผมก็เห็นว่าคนอื่นไม่ได้เปิดทางให้ไอ้ฟิวได้ขยับไปไหนเลย ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่ได้ส่งผลอะไร เพราะไอ้ฟิวมันยืนนิ่ง และเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่มันไม่อยากเป็นเป้าสายตาของทุกคนที่มองมายังหุ่นที่แสนภาคภูมิใจของมัน ไอ้ฟิวได้แต่ยืนเอามือปิดเป้าให้คนมองตูดแน่นๆ ของมันอยู่อย่างนั้น ส่วนอื่นก็มองอย่างสะใจที่ได้เห็นคนที่เคยล้อเลียนพวกเขาต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้บ้าง
“อ้อ แล้ววันนี้ออกกำลังให้ครบทุกส่วนนะ ห้ามอู้” ผมหันไปบอกไอ้ฟิวแล้วพามันเดินไปยังจุดประจำที่มันใช้ออกกำลังกายแล้วรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ไอ้ฟิวมันทำเหมือนเป็นเรื่องตลกขำๆ ในหมู่ผู้ชายที่มาแก้ผ้าต่อหน้ากัน แต่คนอื่นไม่ได้คิดอย่างนั้น พวกนั้นต่างมองไอ้ฟิวเหมือนสัตว์ร้ายที่จ้องมองเหยื่อ มองคนที่เคยเหยียดหยามพวกเขาต้องมาแก้ผ้าอยู่ตรงหน้า ซึ่งเป็นร่างกายที่สมบูรณ์แบบพร้อมกับควยขนาดราวๆ 5 นิ้วที่ยังหดตัวอยู่ด้วยความอาย
“พวกมึงดูไปให้พอใจนะ ดูไว้ว่าหุ่นกูนี่แหละเพอร์เฟ็คสุด” ไอ้ฟิวพูดขำๆ แต่กลับไม่มีใครขำด้วย นั่นทำให้มันรู้ว่ามันไม่มีเพื่อนที่จะคอยช่วยเหลือมันเลย มีแต่ศัตรูที่รอวันที่มันล้มเท่านั้น มันเลยจะเดินไปทางอุปกรณ์แต่ก็ไม่มีใครหลีกทางให้มันเลย
“ตูดสวยดีนะ” มีใครคนหนึ่งพูดแซะขึ้นมาพลางฟาดมือลงไปบนตูดมันดังป้าป ก่อนจะมีอีกคนยื่นมามือหยิกตูดมันพร้อมพูดเสริม “ไม่มีไขมันเลยว่ะ”
“อย่ามายุ่งกับกู” ไอ้ฟิวพูดขึ้นเสียง พยายามดันคนอื่นออกระหว่างที่มันเดินผ่านไป
“ซิกส์แพ็คก็แน่นนะ” มีอีกคนพูดแล้วเอามือต่อยลงไปตรงหน้าท้องมัน “ไม่มีไขมันเหมือนกัน”
“หน้าอกก็สวย” มีคนพูดขึ้นมาอีกพร้อมเอานิ้วมาขยี้หัวนมไอ้ฟิว
ไอ้ฟิวโดนทั้งชก ทั้งตบ ทั้งหยิกไปตลอดทางที่เดินไปโซนฟรีเวท
“เริ่มท่าดัมเบลฟลายก่อนนะฟิว” ผมสั่ง “มาปั้นอกก่อน”
ที่ผมสั่งท่านี้ก็เพื่อให้ไอ้ฟิวมันโชว์ร่างกายของมันได้เต็มที่ ให้คนได้เห็นทั้งตัวของมัน เพราะท่านี้ต้องนอนลงไปบนม้านั่ง กางแขนกางขาออกเล็กน้อย จากนั้นผมก็ให้มันทำแต่ละท่าช้าๆ พร้อมกับทำเป็นติเพื่อท่าทางของมันไปด้วย ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วท่าที่ไอ้ฟิวทำนั้นมันถูกต้องทุกอย่าง แต่ผมต้องทำแบบนี้เพื่อให้คนอื่นได้เห็นท่าทางและร่างกายของมันชัดๆ
ผมย้ายที่จากที่ยืนอยู่ใกล้หัวไอ้ฟิวไปยืนอยู่ตรงกลางหว่างขาของมัน มองควยกับไข่ของมันที่ห้อยลงมาราวกับเรียกร้องให้ผมไปสัมผัส โดยในมือผมถือผ้าขนหนูผืนเล็กเอาไว้ ปล่อยให้ชายผ้ามันลงไปสัมผัสกับควยของไอ้ฟิวเบาๆ ซึ่งตอนแรกมันก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอโดนสัมผัสไปเรื่อยๆ ควยของมันก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมา
ในช่วงเบรกระหว่างเซ็ต ผมก็อธิบายให้ทุกคนฟังเรื่องการออกกำลังกาย และบอกว่าทุกคนนั้นโชคดีแค่ไหนที่ได้ดูกล้ามเนื้อของไอ้ฟิวชัดๆ แบบนี้ ซึ่งไอ้ฟิวก็เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่การที่มันอยู่ในสภาพแบบนั้นก็ทำให้มันเสียความมั่นใจจนไม่กล้าพูดแทรกผมขึ้นมา
พอถึงช่วงเซ็ตที่สอง ไอ้ฟิวก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวมัน ผมเห็นสายตาของมันเบิกกว้างเมื่อรู้ว่าควยของมันกำลังตอบสนองต่อผ้าผืนเล็กๆ ในมือผม และที่สำคัญคือคนที่ดูอยู่ก็รู้เหมือนกัน ทำให้พอถึงช่วงเบรกระหว่างเซ็ตที่สองและสาม สายตาของคนดูก็เอาแต่พุ่งไปที่ควยของไอ้ฟิวที่กำลังแข็งขึ้นมา ส่วนไอ้ฟิวเองก็พยายามจะขยับตัวเพื่อให้ผ้าผืนนั้นไม่โดนควยมัน แต่ยิ่งมันทำแบบนั้น ยิ่งทำให้คนสนใจมองควยมันมากขึ้นเรื่อยๆ
พอถึงช่วงเซ็ตที่สาม ผมเห็นว่าควยของมันเริ่มกระตุกตามประสาเด็กหนุ่มวัย 20 ปีที่จะต้องมีอารมณ์ทางเพศสูงอยู่แล้ว ตอนนี้สายตาทุกคู่ต่างมองควยที่แข็งโด่ของมันกันหมด และพอจบเซ็ต ผมก็สั่งให้มันอยู่ที่เดิมก่อนจะเดินไปหยิบดัมเบลที่หนักกว่าเดิมมาให้มันเล่นต่อ ถึงตรงนี้ ควยของไอ้ฟิวนั้นแข็งโด่เกือบเต็มที่แล้ว ทำให้มันยิ่งง่ายต่อการที่ผมจะใช้ผ้าเขี่ยควยมันเล่น จนเมื่อจบเว็ตแรกควยมันก็อยู่ในสภาพที่เรียกว่าโด่ไม่รู้ล้มแล้ว
“ท่าสวยมากจริงๆ” ผมพูดขณะที่มันกำลังพักอยู่ “นายคงชอบแบบนี้มากเลยสินะ”
คนอื่นหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ทำให้ไอ้ฟิวยิ่งหน้าแดงด้วยความอาย จนกระทั่งเริ่มเซ็ตที่สอง ผมก็เห็นว่ามันทำผิดท่าไปเล็กน้อย
“เริ่มไม่เป๊ะแล้วนะ” ผมบอก ก่อนจะก้มลงไปเพื่อเซ็ตท่าให้ไอ้ฟิวพร้อมกับให้มันออกกำลังกายต่อ ระหว่างนั้นก็วางมือข้างหนึ่งลงบนต้นขาของมันซึ่งผมสัมผัสได้ว่ากำลังเกร็งอยู่อย่างเห็นได้ชัดเพราะมีมือของคนอื่นมาอยู่ใกล้ควยมันแบบนี้ ผมค่อยๆ เลื่อนมือขึ้นมาช้าๆ จนนิ้วโป้งผมไปแตะโดนไข่ของมันในตอนที่กำลังจบเซ็ตพอดี
“อีกรอบ ฟิว” ผมบอก และในระหว่างที่ไอ้ฟิวกำลังยกดัมเบลขึ้นอีกครั้ง มือผมก็เลื่อนไปที่โคนควยของมันแล้ว ซึ่งผมก็ทำนิ่งไว้ แต่ผลที่ได้ก็คือควยของไอ้ฟิวที่ดูจะแข็งมากขึ้นแถมยังกระตุกเบาๆ อีกต่างหาก ซึ่งไอ้ฟิวก็เพิ่งจะรู้ว่าควยมันแข็งขนาดนี้ก็ตอนที่มันลุกขึ้นมานั่นเอง
“ระวังหน่อยนะฟิว” ผมบอก “เหมือนว่าเลือดในสมองจะมาคั่งที่อื่นแทนแล้ว”
พอผมพูดจบก็มีเสียงหัวเราะดังลั่นจากรอบข้าง ไม่ใช่เสียงหัวเราะจากความเกลียด ไม่ใช่ความใคร แต่เป็นความกระหาย กระหายเหมือนกับสัตว์ป่าที่กำลังล่าเหยื่ออยู่
“ยืนขึ้น แล้วมาเล่นไหล่ได้แล้ว” ผมบอกพลางยื่นดัมเบลอีกคู่หนึ่งให้มันถือ
แน่นอนว่าที่ผมจงใจให้มันเล่นท่าพวกนี้ก็เพื่อให้มันไม่สามารถปกป้องควยมันจากสายตาของคนอื่นได้ ทุกครั้งที่มันยกดัมเบลขึ้นลงก็ทำให้ควยมันกระตุกหงึกหงักอยู่ตรงหน้าทุกคนที่มองมาอย่างหื่นกระหาย และนั่นทำให้ผมเพิ่งรู้สถานะของผม แม้ว่าผมจะเป็นคนที่ทำให้ไอ้ฟิวตกอยู่ในสภาพนี้ แต่ก็เป็นคนที่กำลังไม่ให้ไอ้ฟิวโดนไปมากกว่านี้ด้วยเช่นกัน ที่คนอื่นไม่กล้าทำอะไรไอ้ฟิวตอนนี้ก็เป็นเพราะยังเกรงใจผมอยู่
“เอาล่ะ เดี๋ยวพี่ขอตัวก่อน” ผมบอกพวกนั้น “ช่วยดูให้ด้วยนะว่านายฟิวจะออกกำลังกายให้ครบทุกท่า”
พอผมเดินออกมา กลุ่มคนนั้นก็ดูจะแยกย้ายกันไป มีบางคนที่กลับไปออกกำลังกายของตัวเอง แต่ก็มีหลายคนที่ยังให้ความสนใจกับไอ้ฟิวอยู่ และเมื่อไอ้ฟิวย้ายไปเล่นอย่างอื่นก็มีมือมาช่วยให้กำลังใจมันอยากเต็มที่ และแม้ว่าควยและไข่จะไม่ใช่กล้ามเนื้อที่เกิดจากการออกกำลังกาย แต่สองส่วนนี้กลับได้รับความสนใจมากที่สุด และในเวลาสองชั่วโมงนั้น ควยขนาด 8 นิ้วของมันก็ถูกสัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่าโดยหลายต่อหลายคนที่มาดูมันอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสนใจแต่ควยมันเท่านั้น เพราะก็มีคนที่มาแกล้งชมหุ่นของไอ้ฟิวพร้อมกับลงไม้ลงมือกับร่างกายของมันจนผิวมันแดงไปหมดทั้งตัว
ถ้าหากว่าเวลานี้มีคนนอกเข้ามาในยิมล่ะก็ ผมคงโดนไล่ออกแน่ๆ แต่ว่าโชคคงเข้าข้างผม ไม่ใช่ไอ้ฟิว
สองชั่วโมงต่อมา ไอ้ฟิวเดินมาขอกางเกงคืนที่ผมซึ่งกำลังสอนเด็กหนุ่มคนหนึ่งทำท่าแพลงก์อยู่ สภาพไอ้ฟิวตอนนี้เรียกว่าดูไม่จืดเลยทีเดียว มีรอยฝ่ามือไปทั่วร่างกายที่แสนภาคภูมิใจของมัน ผมมองหน้าก็เห็นเหมือนน้ำตามันจะไหลด้วย แต่ผมไม่สนใจหรอก เพราะสายตาผมพุ่งลงไปมองที่ควยของมันซึ่งตอนนี้มีน้ำเงี่ยนไหลเยิ้มออกมาเลอะเต็มส่วนหัวหลังจากผ่านการกระตุ้นมาตลอดสองชั่วโมง
“มาพอดีเลย ขอยืมตัวมาเป็นนายแบบหน่อย” ผมบอก ก่อนจะพยักพเยิดให้มันทำท่าให้ดู ซึ่งระหว่างที่มันเดินผ่านผมไป ผมก็จงใจปล่อยให้ผ้าขนหหนูนั้นตกลงไปพาดบนควยมันพอดี เรียกเสียงหัวเราะจากคนที่มองดูอยู่ จากนั้นก็ทำเป็นหยิบผ้าผืนนั้นพลางรูดขึ้นลงไปตามควยมันเบาๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของไอ้ฟิวให้มากขึ้นไปอีก
แล้วพอไอ้ฟิวตั้งท่าเรียบร้อย ผมก็เริ่มสอนพลางจับร่างของมันเพื่ออธิบายให้เด็กหนุ่มคนนั้นเข้าใจ แต่ระหว่างนั้นก็อาจจะบังเอิญไปโดนควยมันอยู่สองสามครั้ง แล้วพอผมอธิบายจบ ซึ่งกินเวลาไปนาทีกว่า ร่างของไอ้ฟิวก็ฟุบลงบนเบาะรองไปด้วยความอ่อนแรง ทำให้ผมต้องตบตูดมันเพื่อให้ลุกแล้วไล่ไปอาบน้ำ แต่พอมันลุกขึ้นมา ผมก็เห็นคราบน้ำเงี่ยนติดอยู่กับเบาะ
“ฟิว นายจะมาปล่อยน้ำเงี่ยนเลอะไปทั่วแบบนี้ไม่ได้นะ” ผมพูดเสียงดังเพื่อให้ทุกคนได้ยิน “รอก่อน”
ผมเดินออกมา ทิ้งให้ไอ้ฟิวรีบมือที่ยกขึ้นมาปิดบังควยของมันจากสายตาและเสียงหัวเราะของทุกคน ผมเดินไปหยิบกระดาษทิชชู่แบบหยาบออกมาแล้วเดินกลับไปเช็ดเบาะ ก่อนจะทำเป็นยื่นทิชชู่เหมือนกับให้ไอ้ฟิวรับไปเช็ดเอง แต่พอมันยื่นมือออกมา ก็ได้จังหวะให้ผมยื่นมือเข้าไปเช็ดควยของมันด้วยมือของผมเอง และเนื่องจากเนื้อทิชชู่ที่หยาบมาก ทำให้ผมใช้มันกระตุ้นหัวควยที่อ่อนไหวได้ ซึ่งตอนแรกผมก็แค่หวังว่าจะให้มันได้เงี่ยนมากขึ้น แต่เหมือนว่าจะเจอแจ็คพ็อตพอดี
ผมได้ยินเสียงครวญครางดังขึ้นมาพร้อมกับไอ้ฟิวที่น้ำแตกคามือผม ขาของมันสั่นล็กน้อยตอนที่ควยมันพ่นน้ำว่าวออกมาสามช็อตติดกันพร้อมกับใบหน้าที่ตกใจและรีบพูดขอโทษผมท่ามกลางเสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่วทั้งยิม
“ปกติแล้วเราไม่ออกกำลังกายส่วนนี้ในยิมนะฟิว” ผมพูดเสียงเข้ม “ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ แล้วค่อยมาเอากางเกง เพราะพี่ต้องทำความสะอาดตรงนี้ก่อน”
ได้ยินแบบนั้นไอ้ฟิวก็ยังยืนนิ่งด้วยความช็อคที่มันเพิ่งจะน้ำแตกโชว์คนอื่นไป ผมเลยต้องตะคอกใส่มันอีกรอบ
“ไปได้แล้ว”
พอได้ยินแบบนั้น ไอ้ฟิวก็รีบเอามือปิดควยแล้วรีบวิ่งไปทางห้องน้ำทันทีโดยไม่เถียง
“ใครก็ได้ ช่วยหยิบกุญแจล็อกเกอร์ไปให้นายฟิวที” ผมบอกฝูงชนที่ยังคงเช็ดน้ำตาที่ไหลมาด้วยความตลกกับภาพที่เห็นอยู่ “ตอนนี้นายฟิวไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น ผ้าเช็ดตัวก็ไม่มี ใครว่างก็ช่วยไปดูแลให้หน่อยนะ”
ผมเอาทิชชู่ไปทิ้ง ก่อนจะไปสอนเด็กหนุ่มอีกสองคนเล่นหน้าท้อง ซึ่งในช่วง 15 นาทีหลังจากนั้น คนก็ทยอยเข้าห้องล็อกเกอร์ไปเพื่อที่จะได้โอกาสทรมานไอ้ฟิวบ้าง
ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าพวกนั้นจะทำขนาดไหนกัน
มาต่อนะครับ เสียวมากเลยครับ เคยอ่านเมื่อนานแล้ว แต่อ่านยังไม่จบ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ สนุกดีครับ ชอบๆ {:5_133:} สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับรอมาอ่านต่อ ขอบคุณครับ มีลุ้นตลอดเลย เสียวมากครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ดี