มาลัยสามชาย ตอนที่ 8 ป้ายสี
หลายวันต่อมาดนุกับดนัยก็ฝปรือฝีมือการรบกันอยู่นั้น ก็มีหนึ่งสิ่งที่ไม่สบอารมย์ด้วยนั้นคือราชเทวีมยุราที่ค่อยส่งคนของตนเฝ้าจับผิดทั้งคู่ ที่ดนุเก่งกล้าสามารถวางแผนการรบได้ซึ่งแม้ม่แต่พ่อของตนหรือเสนา
บดี ขุนนางต่างๆก็คิดไม่ได้ ยิ่งสมเด็จฯทรงโปรดก็ยิ่งเป็นเหตุให้ความริษยาเกิดขึ้น และแล้วโอกาสที่ราชเทวี
มยุรารอคอยก็มาถึง
เช้าวันรุ่ง พระอัครราชเทวัญดนุก็ลงมาฝึกเพลงดาบทั้งดาบคู่และดาบเดี่ยวกับเหล่าทหารองครักษ์อย่างเป็น
กันเอง สนทหารองครักษ์และทหารที่ร่วมฝึกต่างรู้สึกไม่กดดัน "พระอัครราชเทัญฝีมือช่างเก่งกล้านัก พี่เอ๊ย
กระหม่อมมิเคยได้เห็นมาก่อน" วิชยเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งผ้าซับพระพักตร์ให้ "ขอบคุณท่านพี่ วางตนเป็นแบบ
กันเองก็ได้ น้องก็คือน้องของพี่ ท่านพี่ลองไหมอีกประเดี๋ยวท่านตาก็มาสอนเพลงดาบคู่ให้น้อง" วิชยได้ยินที่
ดนุบอกก็ทำให้ไม่อยากเจอตาของตนเลยทูลต่อดนุว่า "นั้นพี่ไปเตรียมเครื่องต้นกระยาหารมื้อเที่ยงให้พระองค์
และทุกคนดีกว่า" เจ้าชายกริชทัตจึงแสร้งเป็นเหงื่อเข้าตา "โอ๊ยยยยแสบตา แสบตา เหงื่อเข้าตาขอผ้าหน่อย"
วิชยจึงนำผ้าซัพพระพักตร์ของเจ้าชายไปให้พร้อมกับน้ำเปล่าให้ลางตา "ทรงล้างพระเนตรและซัพพระเนตร
ก่อนพระเจ้าคะ" เจ้าชายเลยได้ทีที่จะท่วงเวลาให้วิชยอยู่เจอออกญาประจิมทิศก่อน "คุณชายสามดูแลข้าที่สิ
ข้ามองอะไรไม่ชัดเลย" วิชยก็ยังหาทางบ่ายเบี่ยง "คือกระหม่อม..."
"หากเจ้ารังเกลียดข้าก็ไปเถิด ข้ามิขัด ปล่อยให้ตาข้าบอดไปเลย"
"เจ้าชายนี่เเผนสูงนะพระเจ้าคะ" วิชยถวายการดูแลเจ้าชายกริชทัตพามานั่งที่ตั่งใต้ร่มไม้โดยที่ดนุยังซ้อมดาบ
กับพลทหารอยู่ ระหว่างนั้นทหารมิทันระวังดนุเลยพลั้งมือดาบบาดเข้าที่ต้นเเขนพลทหารคนนั้น "โอ๊ยยยย"
พลทหารร้องขึ้นพร้อมกับใช้มือกุมที่บาดแผล ดนุจึงเข้ามาดู "เป็นอะไรมากหรือไม่ข้าขอโทษ"
"หาเป็นอันใดไม่พระเจ้าคะ"
"เปิดมือออก อื้อ....แผลเจ้านี่หนักอยู่นะแล้วบอกไม่เป็นไร พันผ้านี้ซะจะได้ห้ามเลือดเจ้าไว้ เจ้าทั้งสองไปตาม
หมอหลวงมาลานฝึกข้า" ดนุสั่งให้ทหารไปตามหมอหลวงและส่งผ้าซับพระพักตร์ให้พันแขนพลทหารนั้นไว้
"ข้าพระบาทหาควรรับผ้าซับพระเจ้าข้า จะผิดพระอาญาฝ่ายในได้" เจ้าชายกริชทัตจึงเอ่ยขึ้นต่อจากพลทหาร
"ใช่ด้วยพระเจ้าข้าพระองค์เป็นถึงชายห้ามในเจ้าขุนหลวงคดีธรรม เจตนาพระองค์บริสุทธิ์ใจแต่แรงริษยาหาได้
ปราณีใครไม่ คมจักรเจ้าเอาผ้าสะอาดพันแผลห้ามเลือดให้พลทหารก่อนผ้าเช็ดมือข้าก็ได้"
"ขอบพระทัยเจ้าชายที่ทรงแนะนำพระเจ้าคะ"
"มิเป็นไรท่าน ยิ่งท่านพี่เจ้าหลวงขุนคดีธรรมมิอยู่ตรงนี้ด้วยหากให้ผ้าไป โอ้....ไม่อยากคิด"
"เหมือนนกในกรงทองเลยเนอะถึงจะสบายตัวแต่ก็หาเป็นอิสระ" วิชยพูดขึ้น และแล้วเจ้าหลวงขุนคดีธรรม(ดนัย)
ก็มาถึงลานฝึกซ้อมพบเห็นทหารเลือดออก "เกิดเหตุอันใด ดนุเจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า" เจ้าหลวงขุรคดีธรรม
เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ดนุจึงตอบกลับไปว่า "มิเป็นไรพระเจ้าคะ พอดีข้าคงมือหนักไปหน่อยเลยพลั้งมือ
ทำทหารบาดเจ็บ" เจ้าหลวงขุนคดีธรรมจึงเอ่ยขึ้นอย่างเร็วว่า "เจ้ามิให้อะไรทหารซับเลือดใช่ไหม"
"เกือบไปพระเจ้าคะ เจ้าชายกริชทัตทรงทัดทานไว้ทันเลยให้ผ้าเช็ดพระหัดที่ยังไม่ใช้ไปซับเลือด"
"ขอบพระทัยเจ้าชาย คนจิตใจดีเช่นเจ้าต้องระวังตัวให้มาก เมื่อครู่ข้าเห็นบ่าวของราชเทวีมยุรามาซุ่มดู
ป่านนี้คงเท็จทูลกันเเล้วเตรียมตัวรับมือเถิด"
และเเล้วก็เป็นจริงดังว่า "แย่แล้วเพคะพระราชเทวี........" บ่าวคนสนิทของพระราชเทวีมยุรารีบนำความมา
เท็จทูล "มีอันใดอีปริกเสียงลั่นมาเชียว"
"งามหน้าเเล้วเพคะ พระอัครราชเทวัญในเจ้าหลวงขุนคดีธรรมเอาพระซับพระพักตร์มอบให้พลทหารเพคะ"
"เลว เลวมาก เป็นถึงพระสุนิสาและชายาเอกในเจ้าหลวงขุนคดี แต่ทำตนเยี้ยงนางโลมเมืองแบบนี้ อีปริก"
"เพคะ"
"จัดเสลี่ยง กูจักไปเข้าเฝ้าสมเด็จพี่เจ้าหลวงรัตตะ อ่อ..เปล่าประกาศให้ทั่วว่าอัครราชเทวัญคบชู้กับทหาร"
"เพคะ"
ความชั่วที่คนชั่วคิดทำมันไปไวกว่าความดีที่ทำสะสม ทั้งวังโจทย์ให้ทั่วว่าอัครราชเทวัญคบชู้ งานนี้ดนุจะ
รับมืออย่างไรดี
ที่เรือนหลวงที่ประทับสมเด็จเจ้าหลวงรัตตะ
"ถวายบังคมเพคะเจ้าพี่ พระมหาเทวีเจ้าก็ประทับอยู่ด้วยดีเลยจะได้มิต้องทูลตาม"
"มีอันใดก็ว่ามามยุรา ข้ากับพระมหาเทวีเจ้าจักทานมื้อเที่ยง"
"พระอัครราชเทวัญคบชู้เพคะ"
"เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงพูดเช่นนี้" พระมหาเทวีเจ้าตรัสถาม พระราชเทวีมยุราจึงป้ายสีเต็มที่"
"คนของข้าแอบเห็นว่าพระอัครราชเทวัญเอาผ้าซับพระพักตร์เช็ดเหงื่อให้กับเหล่าพลทหารที่ฝึกอาวุธ
ทุกนายมิอายฟ้าอายดิน เจ้าพี่ต้องตัดสินโทษนะเพคะ"
"มยุรา ข้าให้เจ้าพูดอีทที"
"พระอัครราชเทวัญเอาผ้าซับพระพักตร์เช็ดเหงื่อให้กับเหล่าพลทหารที่ฝึกอาวุธทุกนายมิอายฟ้าอายดิน
เจ้าพี่ต้องตัดสินโทษนะเพคะ"
"ข้าถือว่าข้าให้โอกาสเจ้าเเล้วนะมยุรา"
"เพคะ หม่อมฉันพูดความจริง" ราชเทวีมยุรายังยืนยันคำเดิมโดยหารู้ไม่ว่าสมเด็จเจ้าหลวงและพระมหาเทวี
รู้เรื่องแล้วจากเจ้าชายกริชทัตที่ความมาแจ้งให้สองพระองค์ทรงทราบพร้อมหลักฐานความบริสุทธิ์ สมเด็จ
เจ้าหลวงจึงตรัสต่อว่า "การนี้เป็นของฝ่ายในประมุขฝ่ายในต้องตัดสิน"
"เเต่ดนุเป็นชายนะเพคะ"
"แต่ก็อยู่ในฐานะชายาของเจ้าหลวงขุนคดีธรรมมิใช่หรือ" พระมหาเทวีเจ้าเอ่ยขึ้นพร้อมกับรับสั่งว่า "เบิกตัว
พระอัครราชเทวัญ พร้อมด้วยราชบุตรกริชทัต และพลทหารที่บาดเจ็บเข้ามา" เมื่อทั้งหมดเข้ามาพระมหาเทวีเจ้า
จึงตรัสถามเจ้าชายกริชทัต "ราชบุตรเล่าความตามที่ท่านได้ทูลต่อทูลกระหม่อมพ่อเมื่อครู่สิ"
"พระเจ้าคะ พระอัครราชเทวัญฝึกดาบกับเหล่าทหารเเละพลั้งมือทำทหารบาดเจ็บ เลยมีเมมตาช่วยทำแผล
และให้ผ้าซับพระพักตร์ห้ามเลือด แต่ลูกห้ามไว้และให้ใช้ผ้าเข็ดพระหัตถ์ของลูกซับเลือดพลทหารบาดเจ็บ
เพราะเกรงจักผิพระราชอาญาฝ่ายในชายห้ามพระเจ้าคะ"
"เหตุการณ์นี้มีคนรู้ห็นหรือไม่" พระมหาเทวีเจ้าถามต่อ เจ้าชายจึงทูลตอบว่า
"มีพระเจ้าคะ กระหม่อม คุณชายวิชย องครักษ์คมจักร องครักษ์ชา และท่านพี่เจ้าหลวงขุนคดีธรรมก็มาถึง
พร้อมกับทรงเห็นอีกว่า....."
"ขอพระราชทานอภัยพระเจ้าคะทูลกระหม่อมพ่อ สมเด็จแม่" พระอุปราชย์เรวัต พร้อมพระอัครราชเทวีกัณตรี
พระราชเทวีมินตยา มาเข้าเฝ้าด้วยอาการเร่งรีบ
"เข้ามา แม่กำลังว่าความฝ่ายใน มีอะไรด่วนหรือ"
"ลูกกับพระน้านางได้ข่าวว่าพระอัครราชเทวัญคบชู้ จึงเร่งมาหาสมเด็จแม่หวังให้ไตร่สวน"
"ยังมีอีกนะเพคะพระนางเจ้า ตอนนี้ข่าวนี้โจทย์กันหนาหูออกไปถึงนอกเมือง เจ้าหลวงขุนคดีธรรมกำลังตาม
ตัวคนปล่อยข่าวเพคะ"
"กำลังมีศึกหาควรมีเรื่องในวังไม่" สมเด็จฯเจ้าหลวงรัตตะเอ่ยขึ้น เเต่พระราชเทวีมยุราก็หาคิดได้ไม่จึงทูลตอบ
หวังเอาพระทัย "นั้นสิเพคะ ข้าอยากรู้จริงว่าเจ้าทำแบบนี้ได้อย่าไรมีผัวอยู่แล้วยังงมิวาย" ดนุจึงทูลตอบกลับ
"พระราชเทวีมยุราทรงพระกรรณหนวกพระเนตรบอดหรือพระเจ้าข้า"
"นี่เจ้า โทษทัณฑ์มารอตรงหน้ายังหากลัวไม่ กล้าต่อปากต่อคำ"
"กระหม่อมทูลถามเจ้านางสักข้อ"
"อย่ามาเรียกข้าเจ้านาง ข้าคือพระราชเทวี ต้องออกนำนามว่าพระนางเท่านั้น"
"ข้าก็พระราชเทวียศเท่าเจ้า คนในวังก็เรียข้าเจ้านางข้ายังมิเห็นตายเลยเจ้านางมยุรา ลำดับพระนางใช้กับ
พระอัครราชเทวี พระนางเจ้าใช้กับพระมหาเทวีเจ้า หากมิได้อวยยศขึ้นที่พระยศระวังคนจะคิดว่าคางงคกได้นะ"
พระราชเทวีมินตยาเอ่ยขึ้น พระราชเทวีมยุราจึงยอมสงบเเล้วต่อว่า "ข้ามิได้มีแม่เป็นนางข้าหลวงเลยหารู้ไม่
เอาหละเจ้าอยากถามอะไรก็ว่ามา" ดนุจึงทูลถามว่า "หากทหารของเจ้านางบาดเจ็บเจ้านางจะทำอย่างไร"
"ข้าก็ปล่อยตายไง ในเมื่อเป็นทหารอดทนไม่ได้ก็ตายซะ"
"นั้นเจ้านางก็ควรฝึกปรือการรบไว้บ้าง ถ้าบ่าวไพร่หรือทหารของเจ้านางตายหมดเจ้านางจะได้มิลำบาก"
"นี่เจ้า กล้าดีอย่างไรมายอกย้อนข้า เป็นเเค่เมียเจ้าหลวงขุนคดีธรรมกล้าตีฝีปากกับเจ้านางอย่าข้าหรือ"
"กระหม่อมหาได้ย้อนเจ้านาง เพียงแต่คิดว่ากำลังสนทนากับแม่ค้านั่งตลาด ต่อหน้าสมเด็จฯเจ้าหลวง
เจ้านางยังหาให้เกียรติไม่ นี่หรือบุตรสาวของเจ้าเมืองทักษิณทิศ"
"ปากดีนักนะ วันนี้ข้าจักเอาเลือดปากเจ้าออก" พระราชเทวีมยุราลุกขึ้นมาหมายจักตบหน้าดนุ ดนัยเข้า
มาพอดี "หยุดนะเจ้านาง" เสียงดนัยและพระอุปราชย์เอ่ยขึ้นพร้อมกัน เพี๊ยะ.... เสียงตบดังสนั่น
วิชยตบหน้าพระราชเทวีมยุราจนคว่ำ "มึงกล้าดีอย่างไรตบหน้ากู อยากหัวขาดงั้นหรือ" พระราชเทวีมยุรา
เอ่ยขึ้นด้วยความเจ็บและอับอาย "เออกูตบมึงเอง จักได้รู้ว่าอยู่เหนือคนอย่าทำตนต่ำ ขอรับพระราชทาน
โทษพระเจ้าคะ กระหม่อมได้ตัวคนปล่อยข่าวลือเรื่องพระอัครราชเทวัญจึงนำตัวมันมารับอาญาพระเจ้าคะ"
"ใครกันนำตัวเข้ามา" พระอุปราชย์เอ่ยขึ้น
"พระเจ้าคะ นำตัวมันมา" วิชยสั่งให้โขลนนำตัวอีปริกและพวกเข้าเฝ้าในสภาพที่ถูกวิชยในถุงเท้ามัดปากมา
"อีปริก ขี้ข้าในพระราชเทวีเป็นคนปล่อยข่าวลื้อพระเจ้าคะ" วิชยพูดพร้อมดึงถุงเท้าออกจากปาก พระมหา-
เทวีเจ้าจึงตรัสถาม "จริงหรือนางปริก" ปริกและลูกน้องต่างหน้าเลิกลักเกรงทั้งพระอาญาและเจ้านายตน
วิชยจึงพูดขึ้น "พูดตามความจริงบิดแม้แต่นิดกูตบคว่ำแน่"
ปริกจึงเอ่ยขึ้น "มึงกล้าตบกูรึ"
วิชยชี้ไปที่หน้าพระราชเทวีมยุรา "ดูรอยนิ้วที่หน้านายมึง นายมึงกูยังตบแล้วขี้ข้าอย่างมึงจะรอดไหม"
ปริกจึงยอมพูดแต่โดยดี "หม่อมฉัน....ทะทะทะทำตะตะตะะตามคำสั่งพระราชเทวีมยุราเพคะ"
"อีปริก" พระราชเทวีมยุราเอ่ยขึ้นพร้อมง้างมือจะตบปริก พระมหาเทวีเจ้าจึงเอ่ยห้าม "หยุดนะพระราชเทวี
มยุรา"
"พระนางเจ้าต้องจักการมันให้ข้านะมันตบข้า มันตบข้า"
"ได้ ถ้าข้าลงโทษคุณชายวิชย ก็ต้องลงโทษเจ้าด้วยเพราะตบนั้นถือว่าเป็นพระราชอาญาที่ข้าสั่งลงโทษเจ้า
ฐานเท็จทูลความอันหาเป็นความจริงไม่ หากลงโทษคุณชายฐานตบเจ้า เจ้าก็ต้องโดนลงโทษฐานปลุกปั่น
ให้วังหลังวุ่นวายจนเป็นเหตุให้วังหน้าเสียการ โทษเจ้าจะต้องถูกตบปากจากเจ้านายฝ่ายใน 30 ยก อย่าลืม
นะว่าปากเจ้ากัดใครไว้บ้าง กลับไปซะข้าจักพักผ่อน"
หลังจากทั้งหมดแย่งย้ายพระราชเทวีมยุราถึงกับเคียดแค้นวิชยเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้อับอายทั้งเรือนหลวง
เรือนเจ้าหลวงขุนคดีธรรม
"เกือบไปเเล้วนี่ดีนะที่เจ้าชายห้ามไว้ทัน"
"ข้าขอโทษท่านพี่นะขอรับ ที่ทำให้หนักใจ"
"อย่างนี้ต้องทำโทษ"
"สุดแท้แต่ท่านพี่"
"พูดเองนะ" ดนัยจับตัวดนุขึ้นเตียงกอดจะทำโทษชุดใหญ่โดยเริ่มจากการซอกไซร้จากซอกคอลงมาถึงหน้าท้อง
จนดนุเสียววาบ "โอ๊ยยยโอ๊ยยย" "อย่าร้อง จุ๊...." ดนัยเอามือปิดปากดนุไม่ให้ร้องพร้อมกับจัดการเอาดุ้นที่แข็ง
เต็มที่ยัดเข้ารูตูดของดนุอย่างที่ดนุไม่ทันตั้งตัว "อื้อ...เป็นไง หล่อน่ารักดีนัก ต้องจัดให้หนักเลย โอ๊ววโอ๊วววว
แม่งเอ๊ยยยฟิตดีจังโอ๊ววว" ดนัยพูดขึ้นพร้อมกับกระหน่ำเย็ด "อื๊อออออื๊อออออ"ดนุร้องคราอยู่ในลำคอเพราะ
โดนดนัยเอามือปิดปากไม่ช้าน้ำรักของทั้งคู่ก็แตกใส่กันโดยน้ำดนัยแตกเข้าตูดของดนุ ส่วนน้ำของดนุแตกใส่
หน้าท้องของตัวเอง "ไงครับสุดหล่อ" ดนัยยังเอาควยคารูตูดของดนุไว้อยู่เเล้วซ้ำอีกรอบ จนดนุเพลียหลับ
เรือนเจ้าชายกริชทัต
"มีอันหรือพระเจ้าคะถึง....." วิชยเอ่ยขึ้นเมื่อเจ้าชายกริชทัตมองเข้าแล้วยิ้มๆ ก่อนตอบไปว่า
"ตบซะพระราชเทวีคว่ำต่อหน้าพระพักตร์ขนาดนี้ ข้าชักกลัวเจ้าซะเเล้วสิ"
"กลัวด้วยเหตุอันใดพระเจ้าคะ"
"555 ข้าอยากอาบน้ำเตรียมน้ำให้ข้าด้วย แล้วก็ถูตัวและเหงื่อไคลด้วย" เจ้าชายกริชทัตเอ่ยขึ้นแล้วเดินไปที่
ห้องสรง วิชยเตรียมการให้เรียบร้อยและก็กำลังจะออกจากห้องสรง เจ้าชายกริชทัตจึงเอ่ยขึ้นว่า
"จะไปไหนคุณหนูสาม"
"เตรียมชุดให้เจ้าชายอย่างไรเล่า"
"ข้าสั่งคมจักรไว้เเล้ว เจ้าลืมแล้วหรือว่าข้าสั่งอะไร"
"กระหม่อมก็เตรียมน้ำสรงให้แล้วนี่พระเจ้าคะ"
"แล้วที่ข้าสั่งให้ถูกตัว..."
"กระหม่อมเป็นเพียงข้าทาสหาควรถูกต้องกายเจ้าชายไม่"
"อีกหน่อยเจ้าก็ขึ้นที่พระเทวัญของข้าเหตุใดจึงต้องตัวข้ามิได้"
"พูดไปเรื่อยนะพระเจ้าคะ"
"ลืมแล้วหรือข้าทูลขอทูลกระหม่อมพ่อ พระมารดา และท่านเจ้าพระยาบูรพาปราบศึกแล้วนะ หรือว่าข้าหา
ถูกใจเจ้าไม่" เจ้าชายพูดเชิงน้อยใจ ก่อนที่วิชยจะตอบ "หาไม่พระเจ้าคะ ก็ได้พระเจ้าคะ"
"นั่งนิ่งทำไม ถอดชุดให้ข้าสิหรือจะให้ข้าอาบทั้งชุด" เจ้าชายพูดพร้อมส่งยิ้มให้ วิชยเริ่มถอดชุกเจ้าชายออก
ที่ละชิ้น ละชิ้นจนเหลือเพียง "ผ้าเตี่ยวผืนนี้....." วิชยยังพูดไม่จบเจ้าชายก็เอ่ยขึ้นว่า "หากอยากเห็นก็ถอด
ออกแต่ระวังงูใหญ่ฉกตานะ" วิชยเขินอายอย่าหน้าแดงก่อนที่จะบอกกลับว่า "นั้นเจ้าชายลงแช่ตัวทั้งผ้าเตี่ยว
นี่แหละพระเจ้าคะ"
"แล้วข้าจะล้างตรงนั้นได้อย่างไรเล่าคุณชายสาม" เจ้าชายพูดจบก็เปลื้องผ้าผืนสุดท้ายออกแล้วก้าวลงแช่ตัว
ในอ่างน้ำ วิชยถึงกับตะลึงในร่างกายที่แสนกำยำและก้นที่แน่นและขาวถึงแม้จะเห็นเพียงด้านหลังก็ตาม "อึ้งอึ้ง
ช้าอยู่ใยมาขัดตัวให้ข้าได้เเล้ว" เจ้าชายเอ่ยขึ้น วิชยจึงเข้ามาถูตัวขัดคราบเหงื่อไคลให้ สองตาต่างสบกับพร้อม
กับมือที่ลูบถูกร่างกายจนทำให้ทั้งคู่.......อิอิอิ.........
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ {:5_135:} ดีๆๆๆ ขอบคุณครับ มีลุ้นตลอดเลย เสียวมากครับ สนุกมากครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกมากครับ สนุกคับ ขอบคุณมากเลยครับ หน้าหงายไปเลย เจอวิชยะตบเข้าไป
ว่าแต่ เจ้าชายกับคุณหนูสามน่ารักอ่า
เริ่มกว่าฟินเขินกว่า ดนัยดนุแล้ว
งื้อออออออ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2