มาลัยสามชาย ตอนที่ 10 แพ้รักสนามรบ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Maximam เมื่อ 2021-4-13 06:53เมื่อครั้นได้ฤกษ์ยกทัพ เจ้าชายกริชทัต เจ้าคุณดนุ และวิชย ได้เดินทางนำทัพทางเรือไปที่เกาะมัลดะยะ
โดยมีเจ้าชายมัททานำทางทัพไป เมื่อถึงเกาะเมืองมัลดะยะทั้งหมดก็เปลี่ยนชุดเป็นชาวเมืองโดยไม่มีใครรู้เว้นแต่
ชาวเมืองที่จำเจ้าชายมัททาได้ "เจ้าชาย" เสียงเรียกของน่านน้ำองครักษ์ของเจ้าชายมัททาเอ่ยขึ้นหลังจาก
ได้พบเจ้าชาย "เจ้าหาเรียกข้าเช่นนี้ไม่พวกดั้งขอมันจะรู้เอาได้ แล้วแผนการที่ข้าส่งมาให้เจ้าทำแล้วหรือยัง"
เจ้าชายเอ่ยถาม น่านน้ำจึงตอบว่า "เรียบร้อยเเล้วครับนายท่าน พลธนูหน้าไม้ต่างขึ้นประจำการบนเขา
ก็เหลือแต่ให้พวกมันขึ้นมาบนเกาะ" "นั้นอย่าช้ามัททาเร่งพาเราไปที่เรือนครัวเถิด" เจ้าคุณดนุเอ่ยขึ้น
มัททาพาทุกคนไปเรือนครัวในฐานะกองเสบียง แผนการอาหารปนเห็ดเมาก็เริ่มขึ้น ดนุมีความเก่งเรื่อง
อาหารจึงเรียนรู้อาหารพื้นเมืองของมัลดะยะไว และทำออกมาน่าทานมากๆ "หือน่าทานจัง ข้าขอ...."
เจ้าชายมัททาตีมือน่านน้ำ "หากินได้ไม่นี่อาหารมีเห็ดเมาเจ้ากินเข้าเสียการใหญ่เเน่" "เหตุใดจึงต้องใช้
เห็เมาด้วยเล่า ยาพิษหยดเดียวพวกมันก็ตายหมดไม่ต้องออกแรง" น่านน้ำเอ่ยขึ้น ดนุจึงตอบไปว่า
"ทหารดั้งขอก็เหมือนพวกท่านห่างบ้านห่างเรือนมาออกศึก พวกเขาคือคนบริสุทธิ์ที่ทำตามคำสั่ง ลองนึกดู
หากท่านตายแนวหลังของเจ้าจะอยู่อย่างไร" "ท่านนี่น้ำใจงามยิ่งนักหามีในตำรารบใดที่จะปราณีคู่ต่อสู้ นั้นข้า
ขอออกไปตรวจตารอบๆก่อนนะ" น่านน้ำพูดขึ้นก่อเดินออกไป วิชยจึงถามขึ้นว่า "คนรักท่านหรือมัททา"
มัททาจึงตอบไปว่า "หือ หาใช่ไม่น่านน้ำเป็นองครักษ์ของข้า อีกอย่างเขาคนละลัทธิกับเราหารักเพศเดียวกันได้ไม่"
"แล้วกับพี่ชายข้าเล่าท่านคิดอย่างไร" เจ้าชายกริชทัตเอ่ยขึ้น "ข้าไปเตรียมที่นอนให้พวกท่านดีกว่า" เจ้าชาย
มัททาพูดแบบเขินๆ "มิต้องเลยเดี๋ยวข้าไปทำเอง นั่งคุยกันตรงนี้ไปก่อน" วิชยเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นไปเตรียมที่นอน
"อาหารเรียบร้อยที่นี้ก็เหลือแค่" "คนเทียบเชิญใช่ไหม" ดนุเอ่ยถามหลังจากเจ้าชายกริชทัตพูดจบ "ใช่ ต้องมี
คนเทียบเชิญพวกนั้นเข้ามา" "ข้าจะไปเอง สำหรับมีด้วยกัน 3 ชุด ชุดเเรกเป็นของพวกเราไม่มีเห็เมา ชุดสอง
เป็นของเทียบเชิญ และชุดสามเป็นของเลี้ยงตอนรับ" "ดนุ ท่านควรไปเสี่ยงเยี่ยงนั้นไม่ให้คนของข้านำไปดีกว่า"
มัททาเอ่ยขึ้น "ไม่ได้ข้ารับปากท่าเจ้าเมืองมัลดะยะว่าชาวเมืองต้องปลอดภัย ฉะนั้นข้าจะเป็นผู้ทำการนี้เอง ขอแต่
อย่าเพิ่งบอกเจ้าหลวงขุนคดีธรรม ความเป็นห่วงของเจ้าหลวงอาจทำเราเสียการใด" แล้วหากเกิดอะไรกับท่าน"
เจ้าชายกริชทัตเอ่ยถาม ดนุจึงตอบอย่างเด็ดเดี่ยว "ข้าเกิดในตระกูลนักรบทั้งพ่อทั้งตาก็ล้วนแต่เป็นนักรบ
นักรบตายได้แต่แผ่นดินสลายไม่ได้"
ค่ำคืนนี้เมืองบูรพาดนัยรู้สึกเป็นกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก นอนไม่หลับ และมีกังวล พระอุปราชย์จึงเอ่ยถาม
"เป็นอันใดไปไปน้องพี่"
"กระหม่อมรู้สึกกังวลใจพระเจ้าคะ"
"คิดมากหน่า ทุกคนต้องปลอดภัย พรุ่งนี้เช้าเราก็ออกตีขนาบพวกดั้งขอแล้ว"
"แต่...."
"มือตบอย่าวิชย อยู่ด้วยทั้งคนหาต้องกลัวว่าดนุจะมีภัย เจ้านางมยุราพักตร์ยังไม่หายแดง"
"ถึงอย่างไรกนะหม่อมก็ยังกังวล"
"นั้นก็หาอะไรทำให้ผ่อนคลาย มินธากับพสุออกเดินทางที่เกาะเเล้วเหลือแค่เจ้ากับข้าสองคนเท่านั้น"
"เจ้าพี่จะ...." พระอุปราชย์ขยำเข้าไปที่เป้าของดนัยก่อนพูดขึ้นว่า "ลืมแล้วหรือไงตอนเด็กๆเจ้ากับข้ามัก
ผลัดกันชักให้กันบ่อยๆ" ดนัยถึงกับหน้าแดงเหงื่อการแตกพลักเพราะพระอุปราชย์กำลังชักว่าวให้อยู่
"ข้าจำได้ตอนที่ข้าสอบวิชาการปกครองเจ้าก็ผ่อนคลายความเครียดให้ข้าแบบนี้มิใช่หรือ"
"ซีสสสพระเจ้าคะ แต่ตอนนี้ระหม่อมแต่งงานแล้ว" "ข้าเเค่ชักว่าหาได้เล่นข้างหลังเจ้าหน่อย 5 5 5 ใกล้ยัง"
เรวัตรัวข้อมือไวขึ้นไม่ช้า "โอ๊ววววเจ้าพี่ข้าแตกแล้วโอ๊ววววว" ดนัยน้ำแตกคามือเรวัต เรวัตล้างมือจนเกลี้ยง
ก่อนพูดกับดนัยว่า"นอนหลับได้ยัง"
ครั้นเช้าตรู่ทุกหน่วยทุกกองต่างเตรียมเเผมและประจำการ ทัพเหนือ ทัพตะวันออก และทัพตะวันตกต่างมา
พร้อมหน้า ขาดก็แต่ทัพใต้ที่ยังไม่มาประจำการเพื่อเตรียมเข้าช่วย "เป็นอย่างที่ข้าว่าไว้จริงด้วย" เจ้าชายพสุ
พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้า เจ้าชายมินธาเลยเอ่ยปลอบ "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่ก็จะไม่ทิ้งเจ้า เตรียมพร้อมเถิด
ในเกาะส่งข่าวมาว่าคนเทียบเชิญได้ออกไปเทียบเชิญไอ้พวกดั้งขอแล้ว" ดนุเเต่งกายในลักษณะชุดพื้นเมือง
มัลดะยะคือนุ่งโสร่ง(แบบมลายู) ผ้าทับไหล่ซ้ายมิได้ใส่เสื้อ พร้อมผ้าโพกศีรษะ เมื่อพวกดั้งขอเห็นก็พากันทึ่ง
ในความงามของดนุ ต่างพากันมองด้วยจิตเสน่หา "ข้าจะมาเทียบเชิญเหล่าขุนพลและทหารกล้าเข้าพักที่
เมืองมัลดะยะ ขอท่านรับเครื่องคาวหวานเทียบเชิญนี้แล้วเข้าเมืองเถิด" กิริยาอ่อนนุ่ม สุขุมมาดเข้ม น้ำเสียง
ไพเราะ จนทำให้ดยุกไมเคิล แม่ทัพของพวกดั้งขอถึงกับหลงไหล "พระเจ้า ข้าหาเคยเจอชายเมืองใดเป็นเช่น
ดังเจ้า กิริยาอาการช่างงามยิ่งราวกับสตรีเพศ What's your name" ดยุกตรัสถามพร้อมสายตาที่อยาก..4..
" I'm Da-nu Welcome to Maฺn-Da-Ya City"
" Good. ข้าไม่คิดว่าเมืองกันดารจะมีคนเก่งอย่างเจ้าที่พูดภาษาเราได้"
"จะเมืองกันดารหรือเมืองมั่งมี ก็เป็นคนที่มีสมองเช่นกัน หากดยุกตรองให้หนักก็จะรู้ว่ามิควรตรัสเช่นนี้"
"ว่าจาเจ้านี่ชั่งคมคายและร้ายกาจนัก ข้าอยากได้เจ้ามาเป็นดัซเซสซะแล้วสิ ทหารเคลื่อนพลเข้าพักที่เกาะ
มัลดะยะข้าจะพักเเรมที่นี่ก่อนจะบุกไปตีเมืองทวารัตตะ" และแล้วก็เป็นไปตามกลศึกที่ดนุวางไว้พวกดั้งขอ
เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทัพทางทะเล เมื่อเข้าเมืองต่างก็กินอาหารที่พวกดนุทำไว้จนหมดสิ้น "อาหาร
เมืองนี้อร่อยนักข้าไม่เคยได้กินที่ไหนมาก่อน" ดยุกพูดขึ้น "อร่อยก็กินเยอะๆข้าจักไปนำมาเพิ่ม" ดยุกไมเคิล
จับข้อมือดนุไว้แล้วดึงมานั่งข้างๆ "มิต้องสั่งคนของเจ้าไปเอามาข้าอยากกินอันนั้นเจ้าป้อนข้าที" ดนุทำหมู
สเต๊ะฝีมือรสเด็ดป้อนให้ดยุกกิน ดยุกไมเคิลถึงกับเคลิ้มในรอยยิ้มและการเอาใจใส่โดยไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มนั้น
อาบไว้ด้วยยาพิษ และแล้วเหล่าทหารก็เกิดอาการเมาเซเพราะฤทธิ์เห็ดเมา ดยุกเริ่มรู้เเล้วว่านี่คือกลศึก
"พวกเจ้ากล้ามอมข้าเหรอ" ตุบ ดนุเข้าที่มุมปากดยุกไมเคิลหวังให้สลบ "ใช่ ไอ้พวกดั้งขออย่างเจ้าคิดเหรอ
ว่าจะฉลาดเกินบ้านอื่นเมืองอื่น พวกเจ้าคุมตัวแม่ทัพผู้นี้ไว้" "คิดเหรอจะจับข้าได้" ดนุถูกไมเคิลจับตัวเอาไว้
ตอนนี้ด้านนอกกำลังโกลลาหลเพราะทหารของพวกดั้งขอต่างถูกจับตัวไปโดยทัพของพระอุปราชย์และ
เจ้าหลวงขุนคดีธรรม ขาดก็แต่ทัพของเจ้าพระญาทักษิณทิศที่ไม่มาช่วยตีขนาบทำให้บางส่วนด้านทิศใต้
ของเกาะถูกโจมตีจากพวกดั้งขอ แต่กลอุบายที่วางไว้ก็ใช้ได้ผลเพราะเหล่าพลธนูหน้าไม้ที่หลบซ่อนต่างซุ่มยิง
เข้าที่มือพวกดั้งขอจนบาดเจ็บ เเละจับตัวพวกเหล่าแม่ทัพไว้ได้ เมือเจ้าหลวงมาถึงเกาะ "แย่เเล้วเจ้าพี่รีบไปช่วย
ดนุเถิดทางนี้พวกข้ารับมือเอง" เจ้าชายกริชทัตเอ่ยขึ้น ดนัยไม่รอช้าเร่งตามไปช่วยคนรักของตนโดยทันใด
พระอุปราชย์กำลังจะตามไปเสริมแต่กริชทัตห้ามไว้ "ขอเดชะเจ้าพี่ รีบไปช่วยฝั่งมินธากับพสุรับมือก่อนเถิด
พระเจ้าข้า ทัพใต้หาได้มาช่วยเราไม่" "เจ้าว่าอะไรนะ กระทำการเช่นนี้ก็มิต่างจากกบฎศึก ส่งข่าวถึงสมเด็จฯ
เจ้าหลวง จับตัวเจ้านางมยุราและพระญาติไว้เว้นแต่เจ้าชายพสุ ข้าจะไปช่วยน้องรับมือ"
"ใช้ข้าตามไปช่วยด้วยเถิด เจ้าชายดนุเสี่ยงชีวิตช่วยเมืองข้าไว้ให้ข้าได้แทนคุณ"
"อย่าให้พี่ห่วงหน้าพะวงหลังเลย นำพลไปเสริมทัพช่วยเจ้าชายดนัยเถิดมัททาพี่จะรีบกลับ กริชทัต พาพวก
เชลยที่จับได้ไปเฝ้าสมเด็จฯเจ้าหลวงหากมันโดนหนีลงทะเลปล่อยตายทันทีห้ามช่วย"
"พระเจ้าข้า" เจ้าชายกริชทัตกับวิชยและทับตะวันตกต่างคุมตัวพวกเชลยดั้งขอไปที่เมืองมวารัตตะ "ข้าเป็นห่วง
ดนุจังเลย" วิชยพูขึ้น "พระเอกขี้ม้าขาวไปช่วยเเล้วอย่างไรก็รอด"
ที่แหลมโพธิ์ด้านเหนือของเกาะดยุกไมเคิลพาตัวดนุมาด้วย "แสบมากนะเจ้าที่กล้าเล่นไม้นี้กับข้า สงสัยอยาก
ให้ข้าเปิดบริสุทธิ์ขาวๆ แน่นๆแบบนี้กินไม่ให้เหลือซาก" "นายท่านข้าอยากลองชิม กินแต่ผู้หญิงจนเบื่อข้า
อยากลองแบบนี้" ทหารคนสนิทของดยุกเอ่ยขึ้น "หลังตีนกูนี่ คนนี้ว่าที่ดัซเซสของข้า5555" ดยุกไมเคิล
เอ่ยขึ้น พร้อมหัวเราะอย่างสะใจ ที่ไม่เมาก็เพราะว่าดยุกได้กินยาแก้เมากันไว้งานนี้ดนัยจะมาช่วยดนุทันไหมเนี่ย
"อย่าเข้ามานะเว้ย"
"หมัดเจ้านี่ทั้งหนักและนุ่มละมุนข้าชอบอยากโดนอีก 555"
"ทุเรส ไอ้โรคจิต ไอ้บ้ากาม ไอ้ต่ำตม"
"จะเป็นเมียของผัวแล้วยังปากดีอีกเหรอ"
"555ดยุกไมเคิลเจ้านี่มัน Buffalo it your Buffalo ข้าคือดัซเซสแห่งดยุคองค์รองของทวารัตตะ เจ้าไปอยู่
ขุมใดมาถึงหารู้เรื่องนี่ไม่"
"หา....เจ้ามีผัวแล้ว"
"ใช่ และผัวของข้าก็กำลังตามมาช่วยเจ้าไม่รอดแน่ๆ"
"555ดีข้าจะได้เย็ดเจ้าต่อหน้าผัวของเจ้าและให้ทหารของข้าจับผัวของเจ้าทำเมียแก้กำหนัด ว่าแต่มีผัวแล้ว
อย่างนี้ก็ขยายเเล้วดิ 555 พวกมึง จับว่าที่ดัซเซสของข้าอ้าขาดิ อยากรู้ว่าผัวของนางเปิดทางไว้กว้างแค่ไหน"
ระหว่างที่ทหารกำลังรุมจับตัวดนุนั้น พระเอกก็ขี่ม้าขาวมาช่วยได้ทัน "ปล่อยเมียข้ามาเดี๋ยวนี้ไอ้พวกดั้งขอ"
"ว้าวว ผัวหล่อเมียสวย เข้ากันได้ดีนี่หว่า5555 ว่าอย่างไรดยุกแลกเมียกันใช้ไหม"
"ไอ้ทุเรสเก็บไปใช้ที่เมืองเจ้าเถิด ปล่อยคนรักข้ามาไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน"
"น้ำหน้าอย่างเจ้าจะทำอะไรข้าได้"
"ได้สิ555 อย่าลืมสิว่าความรักของเจ้ามันไม่สมหวังอุปราชย์ไร้เมีย เพราะโดนเมียสวมเขาอย่างเจ้า"
"เจ้า ปากดีนักข้าจะจูบเมียเจ้าให้ระทวยเอาให้ลืมลีลารักของเจ้าไปเลย"
"ต่อให้ลีลาเจ้าจะดีแค่ไหน ก็หาสู่ผัวรักของข้าได้ไม่ถึงเจ้าจะจูบก็ได้แค่ปากแต่หาได้หัวใจข้า" ดนุพูดขึ้นพร้อม
ส่งสายตาหาดนัยเหมือนมีแผน ไมเคิลซึงพูดกลับว่า "ข้าไม่เชื่อพวกเจ้าหรอก" "นั้นเจ้าก็ปล่อยคนรักข้ามา
ข้าจะทำให้เจ้าดู" ดนัยพูดเชิงท้าทายเพราะรู้ว่าไมเคิลเป็นพวกชอบเซ็กส์แบบซาดิสและชอบโชว์ จึงเอาสิ่งนี้
มาเป็นตัวล่อ "ไม่ข้าไม่ได้โง่ขนาดนั้นข้าปล่อยเมียให้เจ้า เจ้าก็พากันหนี้สิ" ดนุจึงใช้มารยาเกย์รับในการปลอบ
ประโลม ดนุใช้มือลูกไล้ไปที่มบหน้าของไมเคิล แล้วพูดว่า "น๊าาา...ท่านรูปหล่อท่านไม่อยากเห็นลีลาข้ากับผัว
ของข้าหรือไร" ดนุกัดริมฝีปากตนพร้อมขยำนมตัวเองเป็นเชิงยั้วอารมย์ และลูบไล้ไปตามอกของไมเคิลจน
ไมเคิลผลักตัวดนุออก ดนุได้ใช้มีดพกที่ดึงจากเอวไมเคิลตวัดบาดเข้าที่มือของไม่เคิลจนเลือดอาบ "เจ้า
กล้าทำกับนายข้าแบบนี้อย่าอยู่เลย" องครักษ์ไมเคิลเอาปืนเล็งที่ดนุแต่ช้าไป ดนัยเหนี่ยวไกปืนยิงเข้าที่มือ
องครักษ์ ส่วนลูกน้องที่เหลือก็โดนดักซุ่มยิ่งเข้าที่มือด้วยธนูของเจ้าชายมัททาเเละพวกที่มาช่วย ดนัยลง
จากม้าและมาสวมกอดดนุต่อหน้าต่อตาไมเคิล "เจ้าเป็นอันใดหรือไม่" พร้อมกับเอาเสื้อคลุมใส่ให้ดนุ
"ข้ามิเป็นไรขอบพระทัยเจ้าพี่และเจ้าชายมัททาที่มาช่วย" "555" ไมเคิลขำเสียงดังก่อนจะพูดว่า "อนาถนัก
รบทุกที่ชนะทุกแดน แต่มาแพ้ภัยกับมารยาเกย์อย่างเจ้า ฆ่าข้าสิทำไมไม่ฆ่าข้า" ดนัยจึงเอ่ยขึ้นว่า "ถ้าท่าน
แพ้เพราะศึกสงครามท่านคงไม่โดนแค่มือ ท่านคิดว่านี้เป็นมารยาแต่ท่านก็มิระวังเพราะกามราคะที่รักของ
คนอื่นไงจึงทำให้ท่านแพ้รักสนามรบแบบนี้"
ที่เมืองทวารัตตะ พระอุปราชย์นำทุกคนเข้าเฝ้าสมเด็จฯเจ้าหลวง พระมหาเทวี และขุนนางที่หอหลวง
"นี่เหรอดยุกแห่งอาณาจักรไมกิ้ล" สมเด็จฯเจ้าหลวงเอ่ยถาม
"จะฆ่าข้าก็ฆ่าเสียเถิดอย่ารีรอ" ดยุกไมเคิลตอบด้วยความฉุนเชียว
"ฆ่าเจ้าแล้วศึกสงบไหม บิดาเจ้าก็ต้องหาเรื่องมาตีเมือข้าอีก พวกข้ารักสงบไม่ระรานใคร"
"พวกท่านต้องการอะไร"
"สัญญาสงบศึกไม่ก้าวล่วงหรือล้ำเขตเเดนกัน ถ้าพระบิดาท่านตกลงข้าก็จะส่งเจ้ากลับเมืองพร้อมพระบิดา
ในวันทำสัญญา หากบิดาท่านไม่มาข้าจะถือว่าเจ้าคือเชลยของเมืองข้าเท่านั้น"
"พระอุปราชย์เรวัต ส่งสารไปยังพระบิดาของดยุกไมเคิลให้มาที่เมืองงภายใน 3 วัน"
"พระเจ้าคะ"
"เบิกตัวพวกหนอนบ่อนไส้เข้ามาไต่สวน" สมเด็จฯเจ้าเอ่ยขึ้น ราชทัณฑ์นำตัวเจ้าเมืองทักษิณ พระราชเวี
มยุราและเจ้าชายพสุใส่ขื่อคาไว้ตามกฎกบฎศึก เจ้าชายมินธาถึงกับเข่าทรุดแล้วทูลถาม "เหตุใดเจ้าชายา
พสุจึงต้องโทษพระเจ้าคะ ทั้งที่พระองค์ก็ช่วยงานศึกจนมีชัย" สมเด็จเจ้าหลวงจึงตรัสขึ้น "ตามกฎบัญญัติ
จะต้องใส่ขื่อคาผู้คิดคดและพระญาติทั้งหมด" "ข้าหาได้เป็นอันใดไม่เจ้าพี่มินธาหาต้องเป็นห่วง" เจ้าชาย
พสุเอ่ยขึ้นแต่แล้วก็โดนพระราชเทวีมยุราใช้เท้ายันลูกชายตัวเอง เจ้าชายมินธาจึงเข้ามาพยุงตัวพสุขึ้น
"นางลูกไม่รักดี คิดแต่จะเอาตัวรอด ทำไมหะ พวกมันดีนักหรือไงจึงไม่คิดเข้าข้างแม่และตาของเจ้า"
"หยุดนะมยุรา ต่อหน้าข้าเจ้ายังกล้าทำร้ายลูกแบบนี้เจ้าหาควรมีความเป็นแม่ไม่"
"ก็ลงพระอาญาข้าเลยสิเพคะ ในเมื่อหมดรักข้าก็มิจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่"
"พระราชเทวี เจ้าหาสำนึกผิดไม่สมเด็จฯเจ้าหลวงยังเมตตาให้เจ้าได้เจอลูก ลูกเจ้าก็ยอมรับโทษตามกฎ
ทั้งที่ไม่มีความผิด ถ้าไม่มีรักต่อผัวก็น่าจะมีรักต่อลูกเจ้าบ้าง อย่าลืมสิว่าลูกเจ้าก็รับอวยเป็นพระลูกหลวง
มีศักดิ์เป็นถึงเจ้าชายทักษิณทิศทั้งที่จริงลูกควรมียศแค่เจ้าพสุเท่านั้น "
"พระมหาเทวีเจ้า มิต้องสอนข้าดอก ข้าหามองเห็นในความหวังดีท่านไม่"
"เจ้าแม่ พอเถอะอย่าให้ทุกอย่างมันเลวร้ายลงกว่านี้เลย"
"ไม่ต้องมาสอนข้า อีลูกไม่รักดี"
"มยุราเจ้ายังคิดว่าพสุเป็นลูกของเจ้าหรือไม่"
"ไม่ มันไม่ใช่ลูกข้านับจากวันที่มันร่วมหลับนอนกับไอ้มินธา ข้าหามีลูกอย่างมันไม่"
"เจ้าแม่...."
"มินธา"
"พระเจ้าข้า"
"ปลดตรวนและขื่อคาออกจาตัวพสุแล้วพามานั่งที่ตั่งประจำตำแหน่งดังเดิม"
"พระเจ้าข้า" มินธาทำตามคำสั่งและพาพสุมานั่งยังที่ประทับ
"ข้าขอยกพระลูกหลวงเจ้าชายพสุ ราชบุตรขึ้นเป็นพระโอรสองค์ที่ 3 ของข้าเเละพระมหาเทวีเจ้าบุษบงกช
ให้อารักษ์จารึกไว้ว่าโอรสองค์นี้พระมารดาสิ้นพระชนต์หลังการประสูติ"
"เจ้าพ่อ" เจ้าชายพสุเอ่ยขึ้นพร้อมกับทรุดตัวลงกับพื้น
"ไร้แม่ผู้ให้กำเนิดก็ยังมีแม่บุญธรรม"
"เจ้าพี่ข้าหายอมไม่นี่ลูกข้า"
"หุบปาก มยุรา เมื่อครู่เจ้าพูดเองไม่ใช่หรือว่าเจ้าไม่มีลูก แล้วนางปริกคนของเจ้าไปไหน"
"มันก็หาทางช่วยข้าหนะสิ"
"ช่วยเจ้า เรื่องอันใด" พระมหาเทวีเจ้าเอ่ยถาม
"ก็ช่วยให้ข้าหลุดพ้นจากพวกเจ้าไง ทัพใหญ่จาไมกิ้ลจะบุกเข้ายึดเมืองทวรัตตะและอีกไม่นานข้าก็จะได้เป็น
พระมหาทวีเจ้าผู้ครองอาณาจักรแทนสมเด็จพระมหาราชาเจ้าหลวงรัตตะอย่างไร"
"บังอาจ ทหารไปตามตัวนางปริกมาอย่าให้มันทำการอะไรได้สำเร็จ" พระอุปราชย์ออกคำสั่งตามตัวนางปริก
คนรับใช้ใกล้ชิดของพระราชเทวีมยุรา
"ป่านนี้มันคงส่งข่าวเสร็จแล้ว555 ทนหน่อยนะพ่อข้าหาทางช่วยพวกเราได้แน่"
"มยุรา พ่อว่าเรายอมรับโทษดีกว่าเจ้าคิดการเกินตัวแบบนี้ไม่คุ้ม"
"เหตุใดเล่าท่านพ่อมันจะไม่คุ้ม เมื่อก่อนอาณาจักรนี้ถูกปกครองด้วยเจ้านายเมืองใต้ เหตุใดข้าจักเป็นเช่นนั้น
ไม่ได้"
"แล้วเจ้ารู้จุดจบของทวดเจ้าไหมว่าเป็นนอย่างไร เเพ้ศึกแทบทุกทิศจนเกือบจะเสียอาณาจักรทั้ง รู้เพียงงาน
วังหลังยังพลาด แล้วเจ้าไม่รู้งานอะไรสักอย่างเจ้าคิดว่าจะรอดไหม มยุรา"
"ก็ขุนพลอีก 3 ทิศไงพ่อ" พระมหาเทวีเจ้าจึงเอ่ยขึ้นว่า "เจ้านี่มันเขลามาก ไม่รู้หรือว่าอาณาจักรนี้อยู่ได้
ด้วยการเกี่ยวดอง ลูกเจ้าเกี่ยวดองกับมินธาก็เพื่อเมืองเหนือเเละใต้ ดนัยพ่อมีศักดิ์เป็นขุนนางเมืองบูรพา
เชื้อเครือเดียวกับข้า ดนุคุณหญิงมาลัยก็มีศักดิ์เจ้านายเมืองประจิมเชื้อเครือพระนางกัณตรี แล้วเจ้าประกาศ
ปาวๆว่าไม่ขอญาติดีกับเมืองใด หากเจ้าได้สมปรารถณาคิดหรืออีก 3 เมืองจะช่วยเจ้า"
"นางปริกบ่าวของเจ้านางมยุราขอเข้าเฝ้าพระเจ้าข้า....." เสียงทหารหน้าหอหลวงเอ่ยขอ สมเด็จฯเจ้าหลวง
จึงให้เข้ามา "อีปริก มึงทำสำเร็จเเล้วใช่ไหม กูจะได้ให้มึงเตรียมเป็นคุณท้าว"
"ขออภัยเพคะเจ้า ทูลฝ่าบาทและพระมหาเทวีเจ้าหม่อมฉันถึงเกเรไปบ้างแต่หม่อมฉันก็หาคิดคดต่อบ้านเกิด
ได้ไหม จริงอย่างที่เจ้าชายมัททาเคยพูดไว้ให้เป็นเมืองขึ้นของคนภาษาเดียวกันยังดีกว่าเพคะ นี่เพคะสาร"
"อีปริก อี....อีทรยศ มึงหักหลังกู อีสารเลว" เจ้าหลวงขุนคดีธรรมหยิบสารที่ปริกทูลถวายและอ่านให้ทุกคนฟัง
"ให้ยกพลมาตีเมืองทวารัตตะทางด้านใต้จะยกเมืองใต้ให้พวกท่านปกครองทั้งหมด"
"บัดซบ"
"พระทัยเน็นก่อนเพคะเจ้าพี่"
"มึงเปลี่ยนสารกูหรือ กูบอกจะยกลูกให้เป็นของวัญไม่ใช่เมือง"
"นี่เพคะเอกสารสำคัญ" ปริกเอาเอกสารลบออกมาให้ ดนุจึงช่วยดูเพราะเป็นภาษาอังกฤษ
"เจ้าคงเข้าพระทัยผิด Give the land ยกแผ่นดินให้ ไม่ใช่Give the son is gife"
"ไม่จริง ไม่จริง พวกเจ้าเเปลงสารข้า มันกี๊ฟ เหมือนกันเจ้าเเปลความข้าผิด"
"เอกสารหามีรอยขีดฆ่าไม่ แล้วยังมีตราประทับประจำพระองค์ประทับลงเอกสารนี้ด้วยพระเจ้าคะ"
"ขอบใจเอ็งนางปริก"
"พ่อรู้เรื่องด้วยหรือ"
"ทั้งบ้านมีแค่เจ้าที่เรียนไม่จบแล้วอยากเป็นใหญ่ ที่พระอัครราชเทวัญทรงตรัสหามีผิดไม่"
"ท่านพ่อ"
"เอาหละถือว่าเจ้าพระยายังมีจิตใต่สำนึกดีคิดได้ ข้าจะถอดยศเจ้าให้เป็นสามัญชนห้ามข้องเกี่ยวงานเมืองทั้งปวง
และถอดยศเจ้าเมือออก"
"พระเจ้าคะ"
"ลูกหลานคนอื่นริบทรัพย์ทั้งหมดแจกจ่ายชาวเมืองเป็นการปลอบขวัญ ส่วนเจ้ามยุราข้าขอถอดยศแห่งเจ้านาง
พระนางมุยรา ราชเทวีทักษิณทิศออกเป็นสามัญชนแล้วจำสนมจนกว่าข้าจะตาย"
"เจ้าพี่.... อภัยข้าด้วย เจ้าพี่"
"เอาตัวมันออกไปจำสนม"
"ข้าขอสถาปณาเจ้าชายมินธา ราชบุตรอุดรทิศลูกของข้าที่เกิดจากเจ้านางพระนางมินตยา พระราชเทวีอุดรทิศ
ขึ้นเป็นเจ้าหลวงพระยาปราบศึกทักษิณทิศ ปกครองเมืองทักษิณแทนเจ้าเมืองคนก่อน และอนุญาตให้เจ้าชายพสุ
ราชบุตร เข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าหลวงพระยาปราบศึกทักษิณทิศได้ รั้งที่พระอัครราชเทวัญเอกแห่งเมืองทักษิณทิศ
"เป็นพระมหากรุณาธิคุณพระเจ้าข้า...." มาลัยสามชายที่ได้กรองไว้ใกล้จะสมบูรณ์แล้วสิเนี่ย หากเปรียบไปแล้ว
มาลัยแต่ละชายก็มีความสง่างามในแบบของตน "ทำอันใดหรือบุษบงกช" กรองมาลัยไหว้พระเพคะเจ้าหลวง
"หือเหตุใดมาลัยเจ้าจึงมีสามชาย"
"ก็เปรียบกับลูกๆของเราไงเพคะ ชายเเรกดนัย-ดนุ ชายที่สองกริชทัต-วิชย ชายที่สามมินธา-พสุ ก็จะเหลือแค่
พ่อช่อเอื้องของเราที่ไม่รู้จะปลงใจกับใคร"
"สมเด็จแม่ ลูกขอเป็นรัดข้อคุ้มครองมาลัยทั้งสามชายเอง ส่วนช่อเอื้องนั้น...."
"พ่อว่าพ่อมองมองออกเเล้วนะ" พระอุปราชย์เห็นเจ้าชายมัททาเดินเล่นที่อุทยานพร้อมด้วยดนุและวิชยจึงกราบ
ทูลลาเจ้าพ่อและเจ้าแม่ไปหามัททา "เอ๊....เจ้าพี่หรือว่าพระอุปราชย์ของเราจะไปครองเมืองมัลดะยะซะจริงๆ"
"ขอแค่ลูกมีความสุขคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็มีความสุข จริงไหมกัณตรี มินตยา"
"เพคะเจ้าพี่"................
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ {:5_135:} ดีมากๆ ขอบคุณครับ มีลุ้นตลอดเลย เสียวมากครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ อ่านแ รู้สึกอบอุ่นมากอะครับ ชอบในความรักใคร่
ปรองดอง สามัคคี ช่วยเหลือกันจังครับ ขอบคุณครับ สนุกคับ ขอบคุณมากเลยครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ว้าววสนุกอีกแล้ว ขอบคุณ
หน้า:
[1]
2