เพลิงชาย ตอนที่ 2
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Maximam เมื่อ 2021-4-14 08:25คืนนี้ หลังจากที่เจ้าหลวงดนุอาบน้ำเสร็จก็เตรียมจักเข้านอน เจ้าหลวงดนัยจึงเข้ามาแบบเงียบ ชา แก้ว
และพัน นายข้าหลวงผู้ใกล้ชิดเจ้าหลวงดนุจึงพูดหยอกๆ "พระนายท่านเหตุใดจึงไม่เรียพระนายเจ้าเล่าพระเจ้าคะ"
แก้วเอ่ยถาม "พระนายเจ้าหาเหมาะไม่เพราะมันเหมือนการหมิ่นพระนางเจ้าในเจ้าหลวงองค์ก่อนที่มีราชเทวี
เป็นสตรีขาใช่บุรุษ" เจ้าหลวงดนัยยกนิ้วโป้งให้ ชาจึงถามต่อ "แล้วคืนนี้เจ้าหลวงดนัยไม่มาประทับเรือนหลวง
ของพระนายท่านหรือพระเจ้คะ" เจ้าหลวงดนุถอนหายใจ แล้วตอบว่า "วังหลังตอนนี้หามีเเค่เรือนเดียวไม่อย่า
ลืมสิ พระองค์ต้องมีรัชทายาทสืบราชสมบัติ" พันจึงถามต่อ "แล้วพระนายท่านไม่หึงบ้างเหรอพระเจ้าข้า"
เจ้าหลวงดนุจึงกลับว่า "งานวังหลังมีตั้งมากมายถ้าข้าเอาแต่ตามหึง คงไม่ต้องทำงานทำการอะไรหรอก"
"นี่สินางแก้วของพี่ พี่เลือกคนไม่ผิดจริงๆ" เจ้าหลวงดนัยเอ่ยขึ้น เจ้าหลวงดนุจึงหันมาพบและพบว่าทั้ง 3 คน
ออกไปไหนแล้วก็ไม่รู้ "คืนนี้ไม่ได้พระทับกับพระสนมเอกหรือพระเจ้าคะ" เจ้าหลวงดนุเอ่ยถาม
"ดูเถิดอุส่ามาหายังไล่กันอีก ก็บอกแล้วไงว่าจิลลดามาในฐานะแม่ของรัชทายาท หนึ่งเดียวในใจพี่มีเพียงเจ้า"
"บาปกรรมเล่นความรู้สึกคน เเล้วอีก 2 เมืองเล่าพระเจ้าคะ"
"เจ้าหลวงประจิมทิศเกรงในท่านเจ้าคุณวิชย มิกล้านำใครมาถวายตัวหากวิชยไม่อนุญาต ส่วนเจ้าหลวง
ทักษิณทิศก็เห็นว่าการมีราชเทวีตามสายทิศก็หามีคุณไม่ดูเช่นเจ้านางมยุราเป็นตัวอย่าง"
"แล้วการข้างหน้าเล่าพระเจ้าคะ หากต้องทำศึกหรือปราบเมืองใดบาทบริจาริกาจะไม่มีติดมือมาหรือ"
"555ข้าดีใจนะ ที่เจ้าหึงและหวงข้าดนุ"
"มีเมียเมืองใดบ้างหละที่จะยินดีให้ผัวมีเมียเพิ่ม"
"ให้พี่ได้เชยชมเจ้าหน่อยเถิดนะคนดีของพี่"
แสงตะเกียงในห้องดับลงก็คงชัดเจนและว่า ตับ ตับ ตับตับ
เช้าวันรุ่งขึ้นสมเด็จเจ้าหลวงมีราชโองการที่จะประทับเสวยกระยาหารเช้าร่วมกับพระมหาเทวัญเจ้า กอง
วิเศษจึงนำเครื่องพระกายาเสวยมาที่เรือนหลวงพระมหาเทวัญ เจ้านางมยุราที่เช้านี้กุรีกุจรตามหาสมเด็จ
เจ้าหลวงเพื่อนำหลานของตนขึ้นถวายตัวเป็นพระราชเทวัญฝ่ายทักษิณทิศเพื่อทวงอำนาจให้ตน จึงรีบ
ตามไปที่เรือนหลวงพระมหาเทวัญธิราชเจ้า "เครื่องกายาเสวยเตรียมพร้อมเเล้วพระเจ้าคะ ทูลเชิญเสด็จ
ทั้งสองพระองค์ ที่ชานเรือนริมสระบัวพระเจ้าคะ" วิชยการทูลเชิญทั้งสองพระมาที่โต๊ะเสวย ระหว่างที่เสวย
มื้อเช้าอย่างสำราญ เสียงที่หน้าเรือนก็ดังขึ้น "ข้าจักมาเข้าเฝ้าสมเด็จเจ้าหลวง" เจ้านางมยุราเอ่ยขึ้น
สมเด็จเจ้าหลวงทรงเสวยพระกายาหารกับพระมหาเทวัญธิราชเจ้า ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าเฝ้าเพลานี้พระเจ้าคะ"
"โอหัง เป็นแค่ทหารไพร่มีสิทธิ์อะไรมาสอนเจ้าป้าของข้า" พีมัท ลูกชายของน้องชายเจ้านางมยุราเอ่ยขึ้น
เสียงเข้าไปถึงที่เสวย "เสียงเจ้านางมยุรานี่ พี่ชา ท่านไปดูเถิดแล้วทูลเชิญประทับรอที่ห้องรับรองรอสมเด็จ
เสวยเสร็จ" พระมหาเทวัญเอ่ยขึ้น สมเด็จเจ้าหลวงจึงตรัสตอบ "อย่า รบกวนท้าววิชยทีเถิดให้กลับไปรอ
พระราชโองการสั่งให้เฝ้า" พระเจ้าคะ เมื่อมือตบชั้นหนึ่งแห่งทวารัตตะออกโรงเองงานนี้สนุก
"มีอะไรกันเหตุจึงเอะอะราวกับตลาดสดหน้าวัง หารู้หรือไท่สมเด็จทั้งสองกำลังเสวยมื้อเช้า"
"ใครกันเจ้าป้า ถึงกล้าพูดกับเราเช่นนี้"
"นี่หนะเหรอ คางคกไง คางคกที่ได้อวยยศให้นั่งบนเสลี่ยงลอยไปลอยมาเลยทำตัวมาเทียมหงส์อย่างเรา"
"ขอบพระทัยเจ้านางมยุราที่ช่วยแนะนำข้า แหม่ข้านี่มันก็คางคกชั้นดีได้นั่งบนเสลี่ยงหลวงมีพุ่มยศประดับ
น่าสมเพชหงส์อย่างเจ้านางนะ ที่ต้องเดินตีนเปล่าไร้ซึ่งเสลี่ยงหลวง"
"นี่เจ้า วันนี้ข้าจะตบปากเจ้าให้เลือดอาบเป็นแค่ขี้ข้ากล้ามาตีฝีปาก"
"ถ้าคิดว่าข้าจะอยู่เฉยให้ตบก็เข้ามา ป้าเจ้าข้ายังตบมาเเล้วคิดเหรอว่าเจ้าข้าจะไม่กล้า"
"พีมัท อีนี่มือมันหนักนัก อย่าสู้กับมัน ข้ากับหลานจะมาพบสมเด็จเจ้าหลวง"
"สมเด็จเจ้าหลวงมีรับสั่งให้กลับไปแล้วรอพระราชโองการเรียกเข้าเฝ้า"
"โอหัง มีสิทธิ์อะไรมาสั่งข้า ข้าจะเข้า"
"พูดไม่ฟังกันหรืออย่างไร"
"เจ้าป้าเป็นไงเป็นกัน ข้าจะพาเจ้าป้าเข้าไปเอง" พีมัทไม่เชื่อในคำเจ้านางมยุราจึงบุกขึ้นไปถึงบันไดขั้นที่ 3
วิชยจึงตบสลัดจนพีมัทเซจับราวบันไดแทบไม่ทัน แต่ด้วยที่ว่าแรงชายกับชายพีมัทจึงลุกขึ้นง้างมือจะตบกลับ
"หยุดนะ นี่มันอะไรกัน เจ้าเป็นใครกล้าดีอย่างไรจึงจะตบท้าววิชย" พระสนมเอกจิลลดาเดินมาพร้อมกับเจ้าหลวง
บูรพาและพระราชเทวัญมัททา "อะไรนะ เจ้าป้าไหนเจ้าป้าบอกมันเป็นขี้ข้าไง" พีมัทพูดขึ้น เจ้าหลวงบูรพา
จึงตอบให้ว่า "ท้าววิชย ดำรงยศเป็นท่านเจ้าคุณวิชย พระราชเทวัญในเจ้าเมืองประจิมทิศมีสายพระโลหิต
ต่างพระมารดากับพระมหาเทวัญธิราชเจ้า ฐานันดรพระเชษฐาในพระมหาเทวัญธิราชเจ้า ศักดิ์มากกว่า
เจ้าสองป้าหลานอีกนะ" "ท่านเจ้าคุณวิชยนำความทูลสมเด็จทั้งสองทีว่า สมเด็จพระพันปีทรงรับสั่งให้หาที่
พระอุทยานหลวง" พระสนมเอกเอ่ยขึ้นก่อนที่จะหันหลังกลับ วิชยจึงเอ่ยว่า"ทูลเชชิญพระสนมเอกและเจ้าหลวง
บูรพาพยัคฆ์และพระราชเทวัญเจ้าเมืองขึ้นเรือนก่อนเถิด" เจ้าพีมัทจึงพูดขึ้นว่า "เหตุใดไม่เชิญข้ากับเจ้าป้า
ขึ้นเรือนด้วยเล่า" วิชยจึงพูดขึ้นว่า "ไว้มีพระยศเมื่อใดค่อยมาวางมาด หากจะรอก็รอที่ด้านล่าง หากรอมิได้
ก็กลับเรือนเจ้าไปซะ" ทั้งสองพระองค์เสวยเสร็จพอดีจึงออกจากเรือนพร้อมกัน "มีการอันใดหรือพระสนมเอก
บูรพาทิศ" สมเด็จเจ้าหลวงเอ่ยถาม "สมเด็จพระพันปีทรงรับสั่งหาทั้งสองพระองค์ที่พระอุทยานหลวงเพคะ"
"เหตุใดพระสนมเอกบูรพามิทรงให้บ่าวมาเเจ้งเล่า ดูสิเดินมาอย่างนี้ได้เช่นใด" พระมหาเทวัญเจ้าเอ่ยขึ้น
"หม่อมฉันรับอาสามาเองเพคะพระนายท่าน"
"เเล้วท่านพี่บูรพาพยัคฆ์เล่าเดินตามมาคุมด้วยหรือ"
"ได้ข่าวว่าตำหนักพระนายท่านทรงเลยสุนัขพันธุ์ดุไว้ หระหม่อมเป็นห่วงน้องเอ่ยพระสนมเอกเลยชวนเจ้าพี่
เรวัตมาด้วยพระเจ้าคะ"
"เอาหละไปพบสมเด็จพระพันปี"
"สมเด็จเจ้าหลวง ข้ากับหลาน"
"ไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ"
ที่พระอุทยาหลวงฝ่ายใน สมเด็จพระพันปี พระอัครราชเทวีและพระราชเทวีในเจ้าหลวงองค์ก่อนทรงประ
รออยู่ที่าลากลางน้ำ เมื่อมาถึง "สมเด็จพระพันปีมีการอันใดหรือพระเจ้าข้า"
"เป็นไงบ้างสมเด็จเจ้าหลวงสองเรือนคุมได้ไหม"
"สมเด็จตรัสแบบนี้ลูกจักตอบไงดี สองเรือนเรียบร้อยดีพระเจ้าข้า"
"ดีแล้ว พระราชเทวัญ"
"พระเจ้าคะ"
"หาต้องน้อยเนื้อต่ำใจรัชทายาทสำคัญต่อการสืบสกุลเจ้าเข้าใจใช่ไหม"
"เข้าใจดีพระเจ้าคะ กระหม่อมหาได้น้อยเนื้อต่ำใจอะไรไม่ ได้อยู่ในตำแหน่งที่สูงสุดของงชีวิตสามัญชน
กระหม่อมก็มิหวั่นอันใดพระเจ้าคะ"
"พระสนมเอกบูรพาทิศ"
"เพคะ"
"พระมหาเทวัญน้ำพระทัยงาม เก่งรบ เก่งเรือน เจ้ามาอยู่ร่วมกับครอบครัวนี้ งานเรือนเจ้าต้องได้ โดยเฉพาะ
การเลี้ยงดูองค์รัชทายาทให้โตอย่างมีคุณภาพ"
"เพคะ สมเด็จพระพันปี น้ำพระทัยของพระมหาเทวัญธิราชเจ้าหม่อมฉันรับรู้ได้เพคะว่าพระองค์มิชิงดีชิงเด่น
กับผู้ใด อยู่ใกล้ก็รู้สึกสงบ การอันใดที่หม่อมฉันพอช่วยได้ขอให้ทรงบอกหม่อมฉันยินดีทำถวายเพคะ"
"น่าอิจฉาเจ้าพี่สมเด็จเจ้าหลวงนะพระเจ้าคะ หายากนักที่จะมี 2 เมียแล้วปรองดองกันได้"
"อยากมีไหมหละกริชทัต" พระอัครราชเทวีผู้เป็นมารดาเอ่ยถามลูกชายตน
"ไม่กล้าพระเจ้าคะ เรือนลูกเจ้าที่แรง มิควรมีเพิ่มเป็นอย่างยิ่ง" เจ้าชายกริชทัตเอ่ยขึ้นพร้อมกับหัวเราะ
"ถึงคราที่ข้าจะพูดบ้างได้หรือยังเพคะ" เจ้านางมยุราเอ่ยขึ้น
"เจ้ามาด้วยรึ ข้ามิได้เอ่ยหานี่"
"สมเด็จพระพันปีก็น่าจะรู้นี่เพคะว่าข้าเป็นอย่างไร สมเด็จเจ้าหลวงข้าจะถวายตัวเจ้าพีมัทหลานชายข้า
เป็นพระราชเทวัญเทียบพระทีสนมเอกเเห่งเมืองทักษิณทิศเพคะ"
"ถวายบังคมพระเจ้าคะ สมเด็จพี่ ข้าพีมัทพร้อมถวายการดูแลพระองค์ทุกเพลาพระเจ้าคะ"
"ออกตัวได้แรงดีนะ มิเสียเเรงที่เกิดเป็นหลานเจ้านางมยุรา"
"พระราชเทวีมินตยาก็พูดไป มือใครยาวสาวได้ก็ต้องสาว สมเด็จเจ้าหลวงยังหนุ่มยังแน่น หลานข้าคงทำให้
ผ่อนคลายได้ดียิ่งนัก"
"หยุดกล่าววาจาเช่นนั้นนะเจ้านาง สนมเอกจะต้องมีเชื้อสายแห่งเมืองทิศนั้นและเจ้าเมืองต้องนำมาทูลถวาย
เฉกเช่นเจ้านางจิลลดา ที่เจ้าเมืองบูรพาพยัคฆ์ถวายตามจารีต"
"สมเด็จเจ้าหลวงคงลืมไปแล้วกระมังว่า ข้าก็สายเลือดแห่งเมืองทักษิณทิศเช่นกัน"
"ข้าหาลืมไม่เเต่เทียบศักดิ์ตอนนี้เจ้านางคือเจ้านางของเจ้าหลวงในพระโกศ หามีทินนานามแห่งเมืองต่อท้ายไม่"
"ดีใจเหรอเพคะ มหาเทวัญเจ้าที่ผัวทรงเอาใจไม่มีมีเพิ่ม" เจ้านางมยุราแว้งหาเรื่องพระมหาเทวัญเจ้า เจ้าหลวง
ดนุจึงทูลกลับว่า "ใช่ ข้าดีใจ พอใจเจ้านางไหม"
"พระมหาเทวัญเจ้าไม่ยุติธรรมนี่พระเจ้าคะ ที่สายเชื้อเครือบูรพายังได้เป็นสนมเอกแล้วข้า...."
"หยุดนะพีมัท หากสมเด็จพระอนุชาเจ้าหลวงทักษิณทิศราชภัคดี นำเจ้ามาข้าจะมิขัดพระประสงค์ ที่ข้าขัด
ก็เพราะรักษาหน้าเจ้าไว้ให้ดำรงยศคุณชายดังเดิม"
"รักษาหน้าข้าด้วยเหตุใดเล่าพระนายท่าน"
"เจ้ารู้ไหม ถ้าชายหรือสตรีที่ทูลเกล้าถวายโดยเจ้านางหรือขุนนางที่ไรเครือญาติใน 4 ทิศพระยศก็เป็นเพียง
เทวัญชั้นสามัญ เทียบไปเเล้วพระสมนหรือพระเเทวัญชั้นบาทบริจาริกายังมีค่าสูงกว่าชั้นสามัญ"
"เจ้าป้า ข้าไม่ยอม ไม่ยอมด้อยค่านะขอรับเจ้าป้า ข้าไม่ยอม"
"หยุดนะ อย่าทำกิริยาแบบเด็กทารกไร้เดียงสาแบบนี้ ฝ่ายในทุกคนแม้แต่ป้าเจ้าก็ต้องอยูในอานัตของข้า
อย่าให้ข้าต้องใช้พระอาญาฝ่ายในลงโทษเจ้า" ดูท่าพระมหาเทวัญเจ้าจะเริ่มเป็นเพลิงใหญ่ที่พร้อมจะเผาพีมัท
แล้วสิ "นั้นข้าขอทูลลา ไปพีมัท เจ้ายังมีหวัง เจ้าหลวงเมืองใต้หาได้ซื้อใจขุนนางเก่าไปได้หมดไม่ หากมิรับเจ้า
เมืองใต้คงได้แบ่งครึ่งแน่นอน"
"ทหาร จับตัวเจ้านางและหลานชายไปจำตุ 3 วัน อดข้าวอดน้ำ หากรอดให้รักษาหากตายห้ามฝังบนแผ่นดินนี้
โทษฐานข่มขู่หวังร้ายต่อเจ้าหลวง" ทั้งหมดถึงกับตกใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกหลังจากสมเด็จเจ้าหลวงครองราช
แล้วพระมหาเทวัญธิราชใช้อำนาจฝ่ายในลงโทษในฐานะประมุขวังหลัง แม้แต่พระพันปีก็ยังมิเคยสั่งฝ่ายในจำตุ
"พระมหาเทวัญเจ้าวันนี้วันโกน ถือว่าแม่ขอทำทานเถอะนะ"
"ขอพระราชทานอภัยพระเจ้าคะ หากมิลงโทษบ้างใช้กันแต่สงครามน้ำลายวังหลังก็หาควรต้องมีประมุขไม่
กระหม่อมทูลลาพระเจ้าคะ"
เอาหละสิครับเห็นนิ่งๆเงียบๆแบบนี้พอเพลิงมาทีแม้เเต่สมเด็จพระพันปีก็หาช่วยได้ไม่ เจ้านางมยุราและเจ้าพีมัท
หลานชายถูกจำตุจนครบ 3 วันในสภาพอ่อนเพลียเพราะขาดน้ำและอาหารดูถ้าจะสิ้นฤทธิ์อีกหลายวัน...........
ดีมากๆๆ ขอบคุณคับ {:5_119:} ขอบคุณมากครับ สนุกมาก สนุกมากครับ จุกๆ ทุกครั้งนะ ที่อ่านว่าพระเอก จำเป็นต้องมีเมีย ญ เพิ่ม
ทั้งที่มี นายเอก เป็น ช
เพื่อมีลูกอะ ต่อให้จะดีกับสนมเอกแค่ไหน
ลึกๆทุกคนอยากเป็นแค่เมีย ไม่ใช่เมียหลวง
สาแก่ใจข้านัก ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ {:5_119:}{:5_119:} ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เพลิงที่เจ้านางมยุราก่อขึ้นจะแผดเผาให้ตัวเองสิ้นชีพเสียแล้วมั้งเนี่ยะ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกมากเลยครับ ตอน2 แค่ออเดิร์ฟ ยังอีกไกลกว่าจะถึงอาหารหลัก สนุกดีชอบๆๆๆ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]