จากไดอารี่สู่ซีรีย์เรียกน้ำตา
เมื่อชีวิตเกิดมา เราไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตนได้แต่เราสามารถยืนหยัดที่จะต่อสู้อุปสรรคต่างๆนานับประการได้ ถึงแม้จะรู้ว่าอุปสรรคนั้นเรามิอาจเอาชนะมันได้นี่คือหนึ่งตัวอย่างของคนที่ต่อสู้โรคร้ายเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตต่อไปแม้หลายคนอาจจะทราบดี แต่เมื่ออ่านทุกครั้งก็อดที่ยิ้มทั้งน้ำตาไม่ได้ทุกทีอิเคอุจิ อายะ เด็กสาววัย 15 ปี เธอเติบโตขึ้นมาในครอบครัวเล็กๆ ที่แสนจะอบอุ่นคุณพ่อประกอบอาชีพขายเต้าหู้ ส่วนคุณแม่นั้นเป็นนักสุขอนามัยของอำเภอ เพราะฉะนั้นเรื่องความเป็นอยู่ของลูกๆจึงวางใจได้ว่า จะต้องได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีและถูกสุขอนามัยแน่นอน
http://i184.photobucket.com/albums/x165/lopzang/ayatitle.jpg
ภาพถ่ายของอายะในช่วงวัยต่างๆ
ในวันที่อายะ กำลังจะมีความสุขกับอนาคตสดใสของเธอหลังจากที่สอบเข้าม.ปลายในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงได้อยู่ดีๆ เธอก็พาร่างของตัวเอง ล้มครืนไปยังพื้นซีเมนต์บนท้องถนน อาการเหล่านั้นอาจดูเหมือนกับอุบัติเหตุ แต่ด้วยความช่างสังเกตของ ชิโอกะ ผู้เป็นแม่ที่มีอาชีพเป็นนักสุขอนามัยทำให้คุณแม่ของอายะ สงสัยว่าการหกล้มครั้งนี้ดูผิดธรรมชาติจากคนปกติทั่วไป ตรงที่ว่าเมื่อคนเราหกล้มจะต้องมีการยื่นมือไปยันกับพื้นโดยอัตโนมัติแต่อายะกลับทิ้งตัวเอาหน้าไปฟาดที่พื้นถนนโดยตรง
http://learners.in.th/file/523070240-6/b30093018.jpg
รอยยิ้มของสาวน้อยผู้อาภัพ
ถึงแม้อาการจากการหกล้มครั้งนั้นจะไม่รุนแรงมากนัก แต่แม่ของอายะก็ขอร้องให้เธอเข้าตรวจโดยละเอียดอีกครั้งก่อนที่จะทราบในต่อมาว่า อายะกำลังป่วยเป็นโรคSpinocerebellar Degeneration(สมองส่วนหลังและไขสันหลังเสื่อม)
โรคที่ทำให้เซลล์สมองในส่วนหลังค่อยๆ ถูกทำลายไปทีละนิด จนสุดท้ายก็ทำลายไปจนหมด ทำให้สมองส่วนหลังซึ่งมีหน้าควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ถูกทำลายถาวรไปด้วย
http://i184.photobucket.com/albums/x165/lopzang/ayabefore.jpg
อายะกับใบหน้าที่สดใสก่อนจะป่วย
ตอนแรกคุณแม่พยายามปกปิดผลตรวจไม่ให้อายะรู้ เนื่องด้วยรับความเป็นจริงไม่ได้ถึงโรคประหลาดที่ลูกสาวของเธอกำลังเผชิญ แต่ด้วยความเป็นคนฉลาดและช่างสังเกตของอายะ ทำให้ตัวเธอค่อยๆ รับรู้ว่าร่างกายเธอกำลังมีสิ่งไม่ปกติเกิดขึ้น
...เธอเริ่มใช้ตะเกียบคีบอาหารไม่ได้...เริ่มหยิบจับสิ่งของไม่ถนัด...เริ่มพูดตะกุกตะกัก...
http://learners.in.th/file/523070240-6/20db1ywo.jpg
ป่วยหนักเพียงใด ใบหน้าก็ยังมีรอยยิ้ม
จนในที่สุดเมื่อคุณพ่อและคุณแม่ของอายะ ยอมรับความเป็นจริงเสียทีว่าลูกสาวตัวเองกำลังป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่ได้แล้วหันหน้าเข้ามาพูดคุยกันกับอายะ...พร้อมกับคนอื่นๆ ในครอบครัว และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ใครหลายคนเสียน้ำตาไปกับ..... 1 Litre of Tears
http://image.ohozaa.com/ib/z30093797kb8.jpg
http://i184.photobucket.com/albums/x165/lopzang/ayamom.jpg
คุณแม่และอายะ(ในช่วงอาการระยะสุดท้าย...) ให้ลูกสาวชี้นิ้วไปที่ตัวอักษรฮิรางานะ ทีละตัวแทนคำพูด...
1 Litre of Tears เป็นซีรี่ส์ญี่ปุ่นของสถานีฟูจิทีวี ออกอากาศทางทีวี ด้วยความที่มันสร้างจากไดอารี่ 46 เล่มของคิโต อายะผู้ที่ป่วยเป็น Spinocerebellar Degeneration จริงๆ ทำให้มีการจับตามองตั้งแต่ซีรี่ส์ยังไม่ฉาย ว่าจะมีการดัดแปลงตรงไหนไปจากเดิมบ้าง
และแล้วเมื่อ 1 Litre of Tears ได้ออกอากาศจริงๆ ถึงแม้เรื่องราวในซีรี่ส์จะไม่เหมือนกับชีวิตจริงๆ ของอายะเท่าไหร่นัก (เช่น อายะตัวจริง ไม่มีแฟนหนุ่มในขณะที่กำลังทำการรักษา และเหตุการณ์ในซีรี่ส์เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ในยุค 1982 ตามเรื่องจริง) แต่ก็มีกระแสตอบรับที่ล้นหลามจากเรื่องราวในซีรี่ส์ ที่สะท้อนภาพของการต่อสู้กับโรคร้ายของเด็กสาวคนนึงได้อย่างสะเทือนใจ
http://www.bloggang.com/data/gamyui/picture/1210081697.jpg
http://www.bloggang.com/data/gamyui/picture/1210081781.jpg
จากไดอารี่สู่ซีรีย์ดัง
เครดิต:http://www.bloggang.com
(¯`°•.¸♥♥¯`°• ศรรกราหน้าทะเล้น •°´¯♥♥¸.•°´¯)
เรื่องนี้เค เคยดูแล้วครับ ขอบอกควรหามาดู ชึ่งมากๆเลยครับ ถึงจะจบด้วยความตาย แต่ก็มีแง่คิดหลายอย่างครับ ขอบคุณครับ{:5_146:}
หน้า:
[1]