Snooker ตอนที่ 4 น้ำตก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Hanabi เมื่อ 2021-7-31 08:57คำเตือน
เรื่องต่อนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น อ่านเพื่ออรรถรสอย่าได้หาถึงความเป็นจริงแต่อย่างใด อาจมีคำที่หยาบคาย ฉากอนาจาร ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี ควรได้รับคำแนะนำ.
แน่นอนว่าตามมารยาทคนไทย ผมเลยยกมือไหว้พ่อแม่ไอ้หนึ่งทันที คิวเองก็มารยาทดี ไม่ต้องบอกยกมือตามผมมาติด ๆ
"สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่" ผมทักทาย
ปกติผมจะเรียกตามเพื่อนครับ อย่างไอ้หนึ่งมันเรียกพ่อแม่ ผมก็เลยเรียกพ่อแม่ตาม ถ้าอย่างไอ้ตี๋ มันเรียกพ่อแม่ว่า ป๊าม๊า ผมก็เรียกป๊าม๊าตาม ผมสนิทกับ 3 คนนี้มาตั้งแต่เรียนประถมแล้ว พวกเราเป็นเพื่อนกันมาจนพวกเรากำลังขึ้น ม.4 ในเทอมที่จะถึงนี้
"ไม่เจอนานเป็นหนุ่มแล้วนี่" พ่อไอ้หนึ่งทักผมทันที ที่เขาทักก็ไม่แปลก เพราะครั้งก่อนที่พวกเราเจอกันก็ปีที่แล้ว แถมตอนนั้นผมก็ยังตัวเล็ก ๆ ยังไม่แตกเนื้อหนุ่มเช่นทุกวันนี้ หากเทียบกับเพื่อนในกลุ่มบอกเลยผมขยายร่างช้าสุด
"ต้องรีบโตสิพ่อ ไม่งั้นเดี๋ยวตามไอ้หนึ่งไม่ทัน" ผมก็พูดติดตลกกลับไป
"โตแต่ตัวนะสิ ยังเล่นเป็นเด็ก ๆ อยู่เลย" แม่ไอ้หนึ่งพูดบ่นลูกตามเคย
"โตแต่ตัวอะไรแม่ จู๋ผมก็ใหญ่ขึ้นนะ" ไอ้หนึ่งพูดกวนบาทาตามนิสัย แม่มันก็ได้แต่ทำตาเขียวใส่
"เด็ก ๆ คุยไปก่อน พ่อกับแม่ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนนะ" พ่อไอ้หนึ่งพูดก่อนจะพาแม่แยกกลุ่มออกไป
"ไงพวกมึง" ผมทักทันที
"เชี้ย ที่กูมาช้าเพราะไอ้หมอกเลย" หนึ่งรีบแก้ตัว เพราะมันรู้ว่าผมกำลังจะบ่นอะไร
"เพราะมึงเร่งกูนั่นละ กูเลยลืมหยิบเอากระเป๋าผ้ามา เลยต้องให้วนรถกลับไปเอา" ไอ้หมอกก็รีบแก้ตัวไม่แพ้กัน
"บอกว่าไม่ต้องก็ได้ ขากลับก็นั่งท้ายรถเอา" ไอ้ตี๋เสริม
"ก็กูจะไปนอนบ้านไอ้นุ๊กเหอะ ไม่เอากระเป๋ามาแล้วกูจะเอาผ้าไหนเปลี่ยน จะให้กูนอนแก้ผ้ากับไอ้นุ๊กไง" หมอกร่ายยาวทำให้ผมรู้ว่า หมอกมันจะมานอนกับผมโดยไม่ถามผมสักคำ
"เชี้ย จะมานอนกับกูแล้วไม่บอกก่อน ห้องกูไม่ว่างเหอะ" ผมบอกทันทีเพราะคิวนอนห้องผมอยู่
"ไม่ว่าง? พี่เต้มาหรอ" หมอกถาม
"เปล่า ๆ น้องกูเอง อ่อนี่น้องคิว" จากนั้นผมก็นึกได้ว่าลืมแนะนำน้องชายให้เพื่อนรู้จัก คิวก็ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ เพราะผมลืมพาคิวเข้าร่วมสนทนา คิวก็มารยาทดี ยกมือไหว้เพื่อนผม
"คิวไม่ต้องไปไหว้พวกมัน เสียมือ" ผมจับมือคิวลงทันที พร้อมหันไปทำหน้ากวนใส่ไอ้ 3 ตัวนี่
"เชี้ยนุ๊ก กวนตีนนะมึง" ไอ้หนึ่งด่าผมตามนิสัย
"คิวอายุเท่าไหร?" ตี๋หันไปถามคิว
"12 ครับ" คิวตอบเสียงใส
"หมอยขึ้นยัง" เป็นไอ้หมอกกวนตีนถาม
คิวอายจนหน้าแดงทันที ที่โดนยิงคำถามแบบนี้ใส่จากคนแปลกหน้า แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ คือภาพที่ไอ้หมอกและอีก 2 คนต้องการเห็น เพราะพวกมันเกรียนเป็นนิสัย เด็ก ๆ ที่โรงเรียนโดนพวกมันแกล้งเป็นว่าเล่น หากไม่มีผมคอยเบรก พวกมันคงแกล้งคนอื่นไปทั่วโรงเรียนแล้ว
"เชี้ยหมอก อย่าแกล้งน้องดิ" ไอ้หนึ่งทำเป็นดุเพื่อน ก่อนจะก้มลงไปใกล้ ๆ คิวแล้วยิ้มให้จากนั้นจึงลูบหัวแบบพี่ชายผู้แสนดี
"สร้างภาพ!!!" ราวกับนัดกันพูด ผม ตี๋ หมอก กล่าวพร้อมกัน พวกเราคุยไม่นานพ่อกับแม่หนึ่งก็กลับมา ในมือของพ่อไอ้หนึ่งมีวิทยุสื่อสารที่เรียกว่า ว๊อกกี้ท๊อกกี้ ตอนแรกผมกำลังจะถาม แต่พ่อไอ้หนึ่งชิงตอบก่อน
"เจ้าหน้าที่ให้มา ไว้ติดต่อฉุกเฉินนะ เพราะพวกเราจะเข้าไปที่น้ำตกเป็นกลุ่มแรก ปกติจะมีเจ้าหน้าที่ไปประจำที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว แต่พวกเรามาเช้าเกินไปหน่อย เดี๋ยวพวกเขาตามไปทีหลัง"
ผมก็ไม่ค่อยรู้อะไรมาก แต่พวกผมไม่ได้สนใจอะไรพวกนี้อยู่แล้ว ใจของพวกผมไปอยู่ที่น้ำตกแล้ว จริงอยู่ที่ช่วงนี้เป็นฤดูร้อน หากแต่น้ำตกที่อุทยานนี้เป็นน้ำตกตาน้ำ มันจึงมีน้ำตลอดปี แต่ถ้ามาช่วงฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่น้ำตกสวยที่สุด เพราะยังมีน้ำฝนตกค้างอยู่ พวกเราเดินไปตามเส้นทางที่ทางเจ้าหน้าที่บุกเบิกไว้ ตามทางจะมีป้ายบอกระยะทาง ตลอดจนป้ายชื่อต้นไม้สำคัญ ๆ คงต้องการให้เป็นความรู้ พวกเราเดินกันไม่นาน แต่ก็ทำให้เหนื่อยพอตัว และแล้วพวกเราก็มาถึงแอ่งน้ำใหญ่ซึ่งใสมาก พอมองย้อนขึ้นไปก็เห็นผาน้ำตกที่ไหลมาเป็นเส้นสาย เสียดายนักที่ไม่มาช่วงฤดูหนาวคงจะได้เห็นเป็นม่านน้ำตกแทน แต่อย่างน้อยเส้นสายน้ำนี้ก็ตกมากระทบโขดหินแตกกระจ่ายจนเกิดละอองน้ำ ทำให้พอจะมองเห็นเส้นสายรุ้งที่สะท้อนแสงแดดบาง ๆ
พอพวกเรามาถึง พ่อแม่ไอ้หนึ่งก็เดินสำรวจที่ทาง พอเห็นว่าได้ที่สะดวกปลอดภัย ก็บอกให้ไอ้หนึ่งปูเสื่อไว้นั่งทันที จากนั้นพวกผมที่ช่วยกันแบกข้าวของมาก็จัดแจงวางพวกมันไว้อย่างดี ก่อนจะพากันเดินสำรวจแอ่งน้ำ แล้วก็พากันลงไปเล่นน้ำอย่างที่ใจปรารถนา
"เด็ก ๆ เล่นให้พอ แล้วค่อยขึ้นมากินข้าวนะ" แม่ไอ้หนึ่งตะโกนบอกพวกผม
พ่อแม่ไอ้หนึ่งนั้นก็มาแค่เป็นผู้ปกครองจริง ๆ พวกเขาไม่ได้มาเล่นน้ำกับพวกเราเลย พวกผมก็ชวนแล้วนะ แต่พวกเขาไม่เล่น จะมีเพียงพ่อไอ้หนึ่งที่นาน ๆ จะยกมือถือมาถ่ายรูปพวกเราไว้ พวกผมไม่ได้ถอดเสื้อเล่นน้ำครับ เพราะเอาเสื้อมาเปลี่ยน ไม่ใช่ว่าอายกันแต่เพราะกลัวดำแดด น้ำในแอ่งก็ไม่ได้ลึกมาก คิวก็สามารถยืนได้บ้างให้หัวพ้นน้ำ มันก็เลยได้เล่นกับคนอื่น ๆ
"คิวว่ายน้ำไม่เป็นหรอ" ตี๋ถามน้องชายผม
"ไม่เป็นครับพี่ตี๋" คิวตอบปากสั่น ดูถ้าคิวจะหนาวน้ำ
"คิวขึ้นก่อนไหม" ผมดูทรงน้องแล้วเหมือนจะไม่ค่อยสบาย
"ไม่เป็นไรครับ ผมอยากเล่นน้ำ" คิวแสดงอีกด้านที่ผมไม่ค่อยเห็นออกมา นี่คือคำว่าดื้อสินะ
"คิวพี่สอนว่ายน้ำให้เอาไหม" ตี๋ถามน้องชายผมอีกครั้ง
"เอาครับ" คิวตอบสีหน้าดีใจ ผมที่มองอยู่ก็รู้สึกไม่พอใจนิด ๆ มันควรเป็นหน้าที่ผมสิ ผมเลยแทรกทั้งสองคนไป
"คิวมา ๆ พี่สอนดีกว่า เดี๋ยวไอ้ตี๋แกล้งคิวจมน้ำ แล้วจะกลัวน้ำเอา"
"เชี้ยนุ๊ก กูไม่แกล้งน้องมึงหรอก" ตี๋บ่น ก่อนจะบอกว่า "คิวคอยเกาะไอ้นุ๊กไว้นะ เดี๋ยวพี่พยุงตัวให้ แล้วค่อยหัดตีขานะ" ผมที่ฟังอยู่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็ยื้นมือให้น้องชายจับไว้แน่น แบบว่าจะไม่ยอมให้หลุดมือเด็ดขาด คิวก็กล้า ๆ กลัว ๆจับมือผมแน่นเช่นกัน ทางไอ้ตี๋ก็ค่อย ๆ จับลำตัวคิวให้ลอยในระดับผิวน้ำ โดยให้สองมือช้อนใต้ท้องไว้ คิวก็เริ่มตีขาผมก็ดึงคิวไว้พร้อมถอยหลังไปเรื่อย ๆ โดยมีไอ้ตี๋พยุงคิวไว้อีกแรง คิวดูจะสนุกผมเลยพอใจที่เห็นน้องชายมีความสุข แต่มีอยู่หนึ่งอย่างที่ผมแอบรู้สึกแปลกหน่อย ๆ เพราะไอ้ตี๋ดูมันจะยิ้มไม่หุบ พอผมสังเกตดี ๆ ก็เห็นว่ามือข้างหนึ่งของมันอยู่ตรงเป้าไอ้คิว ผมรู้เลยว่าไอ้ตี๋มันจะแกล้งน้องผมแน่ ๆ มันคงจะจับควยไอ้คิวให้แข็ง แล้วมันจะล้อน้องผม พอผมหันมาดูหน้าคิว เหมือนคิวเองก็รู้ตัวแล้ว มันก็ตีขาเบาลงคล้ายจะพอแล้ว แต่ไอ้ตี๋ก็จี้คิวไปว่า
"ตีขาแรง ๆ จะได้ว่ายเป็น" คิวเลยจำต้องตีขาต่อ
"เปลี่ยนกัน" ผมพูดขึ้นมา ตี๋ทำหน้างง
"ตี๋มึงมาจับมือน้อง เดี๋ยวกูไปพยุงตัวคิวเองดีกว่า" ตี๋มันก็คงเกรงใจผมเลย ค่อย ๆ ปล่อยตัวคิวให้ยืนแล้วผมก็ไปทำหน้าที่แทน คิวก็เหมือนรู้ว่าผมเข้าใจมันก็ยิ้มให้อย่างขอบคุณ พอถึงรอบผมช่วยพยุงตัวผมเลยลองจับเป้าคิวเล่นดู ก็เป็นอย่างที่คิด คิวมันควยแข็งอยู่ ผมเลยได้แต่ส่ายหัวกับนิสัยเกรียนของเพื่อนผมพวกนี้ ผมเลยย้ายมือให้ต่ำไปจนถึงขาอ่อน จะได้ไม่ไปขยี้เป้าคิวจนเกินไป คิวเลยตีขาว่ายน้ำได้ดีขึ้น พอคิวเริ่มตีขาได้ที่แล้ว ผมเลยบอกคิวว่าจะปล่อยมือ แล้วให้คิวตีขาต่อให้ตัวลอย คิวดูไม่มั่นใจผมเลยบอกไอ้ตี๋ว่า ผมจะจับมือน้องเอง ตี๋มันก็ยอมก่อนจะย้ายไปเล่นน้ำกับไอ้หนึ่งกับไอ้หมอกแทน พออยู่กันสองคน ผมเลยถามน้องว่า
"คิว ไอ้ตี๋มันเอามือจับควยหรอ"
"ตอนแรก ๆ มือพี่เขาก็อยู่ที่ท้องครับ แล้วก็มาที่เป้าตอนหลัง พอของผมเริ่มแข็งพี่เขาก็ขยำเบา ๆ ครับ" คิวตอบ ผมที่ได้ยินก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะปกติพวกผมเวลาเล่นกันก็ชอบแกล้งปีบเป้าปีบควยของเพื่อนอยู่ แต่พอคิวมาโดนผมกลับรู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่อีกคนก็เพื่อนอีกคนก็น้อง เลยได้แต่ปล่อยไปก่อน จะออกตัวปกป้องเลยก็ใช่ที่ เพราะปกติผมก็ไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วพวกผมก็พากันไปรวมกลุ่มกับไอ้หนึ่ง ก่อนจะพากันเล่นขี่ม้าชนกัน คิวที่ยังเด็กเลยได้แต่ดูผมกับเพื่อนเล่นกันแบบรุนแรง จนพ่อแม่หนึ่งต้องคอยปราม พอใกล้เที่ยงวันพวกผมก็เริ่มหิวแล้ว เลยพากันขึ้นมาหาอะไรกิน กับข้าวก็ง่าย ๆ ข้าวเหนียวหมูทอดกับส้มตำที่เอามามิ๊กทีหลัง เพราะหิวแล้วเหนื่อยจากการเล่น มื้อเที่ยงนี้เลยอร่อยเป็นพิเศษ ตกบ่ายผมก็พากันลงไปเล่นอีกแป๊บก่อนจะพากันขึ้น แล้วกลับบ้าน
แน่นอนว่าไอ้หมอกมันจะไปนอนกับผมที่บ้านด้วย ส่วนคนอื่น ๆ ก็กลับไปกับพ่อไอ้หนึ่ง พอพวกผมมาถึงที่จอดรถ ผมก็มองหาพี่ขันติทันที เพราะพี่เขาบอกไว้ว่าให้ไปหาก่อนกลับ แต่มองอยู่นานก็ไม่เจอ เลยว่าจะกลับเลย แต่ในตอนนั้นเองโทรศัพท์ผมก็มีสายเข้า เป็นชื่อที่ผมพึ่งเมมไว้เมื่อเช้า
"ครับพี่ พี่อยู่ไหนอะ" ผมรับสาย
"มองหาพี่ไม่เจออะสิ" พี่ขันพูดด้วยน้ำเสียงกวน ๆ เช่นเคย
"จะให้ไปหาไหมอะครับ" ผมถามกลับ
"ไม่ต้องก็ได้ มองเห็นรถเก๋งสีขาวไหม" พี่ขันถาม ทำให้ผมหันซ้ายหันขวาหารถเก๋งคันที่ว่า ไม่นานก็เจอ พอมองเข้าไปในรถก็เห็นหนุ่มหล่อหน้าขาวส่งยิ้มมาให้
"พี่เลิกงานแล้วหรอ" ผมถามอย่างสงสัย เพราะดูเหมือนว่า พี่ขันจะเปลี่ยนชุดไปแล้ว
"พอดีจะไปจีบเด็กนะ เลยลางานว่าจะไปเลี้ยงข้าวน้องเขา ไม่รู้ว่าน้องเขาจะอยากให้เลี้ยงไหม" ผมที่ฟังก็ยิ้มขำ
"เลี้ยงได้สิพี่ แต่จะไหวหรอ 3 กระเพาะเลยนะ" ผมพูดพร้อมหันไปที่ไอ้คิวกับไอ้หมอกที่กำลังคุยกันอยู่
"ไหวครับ แล้วพวกเรากลับกันไง เหมือนมีเพื่อนมาเพิ่มซ้อน 3 อันตรายนะ" พี่ขันพูดน้ำเสียงจริงจัง
"ไม่เป็นไรพี่ผมขับรถแข็ง" ผมตอบกลับไป
"เอางี้ เรามานั่งรถกับพี่ แล้วให้เพื่อนกับคิวขับนำไปเป็นไง" พี่ขันเสนอ
"คงไม่ได้อะครับ ไอ้หมอกมันขับรถมอไซค์ไม่เป็น คิวก็แล้วใหญ่ไม่เป็นเหมือนกัน"
"พูดจริงปะเนี่ย" พี่ขันถามอย่างไม่ค่อยเชื่อ
"ครับเรื่องจริง พี่จะเลี้ยงข้าวพวกผมก็ขับตามมาเลย" ผมตัดสายแล้วหันไปบอกกับอีก 2 คน
"มึงพอดีมีพี่เขาจะเลี้ยงข้าวสนใจปะ"
"ใครวะ" หมอกถาม ส่วนคิวเหมือนจะเดาได้ สักพักก็มีรถเก๋งมาจอดข้าง ๆ พวกเรา ก่อนจะลดกระจกลงมา
"สนุ๊กตัดสายพี่แบบนี้พี่ก็ต้องยอมอะดิ" พี่ขันพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ผมที่เห็นก็ขำ
"ไอ้หมอก มึงไปนั่งรถเป็นเพื่อนพี่เขาหน่อย แล้วบอกทางเขาไปร้าน... ด้วยนะ" ผมหันไปหาเพื่อนตัวกวน มันก็มองหน้าผมกับพี่ขันสลับไปมา แต่มันก็พยักหน้าแล้วเดินไปเปิดประตูรถพี่ขันโดยไม่รอเจ้าของรถอนุญาต ผมก็ยิ้มให้ทั้งสองคนบนรถก่อนจะสตาร์ทมอเตอร์ไซค์แล้วขับนำรถเก๋งสีขาวออกไป
โปรดติดตามตอนต่อไป...
สนุกมากครับ เจอแค่ครั้งเดียวก็ตามเขาไปแล้ว ขอบคุนน่ะ ขอบคุณคับ ขอบคุณครับ. สนุกมากครับ พี่ขันจะได้3คนเลยไหมนะ สุดยอด ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณ ขอบคุณครับ ต่อๆสนุกๆ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ รอตอนใหม่นะฮะ ขอบคุณครับ รอ