เผลอเล่นน้องสาว 3 ต่อ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย senipatt เมื่อ 2021-7-31 22:24เสียงเกศกำลังกระเส่าเพราะความเงี่ยนอยาก ร้องครวญครางไม่ทันสิ้นเสียง ก็ร้องขึ้นด้วยความตกใจ แล้วรีบลุกขึ้ยืนดึงกาง
เกงขึ้นมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว เมื่อแลเห็นพ่อผมเดินออกมาจากหน้าบ้าน ทำท่าจะเดินมาทางเรือนเพาะชำของแก ผมก็เร่ง
รีบจัดควยแข็งโด่ยัดอัดเข้าไปในกางเกงอย่างทุลักทุเล แล้วสำรวจความเรียบร้อยได้ทัน ก่อนพ่อจะเดินผ่านพุ่มไม้เข้ามาแล
เห็นเราทั้งสองคนยืนคุยทำหน้าไม่รุ้ไม่ชี้อยู่ที่หน้าเรือนเพาะชำ
"สวัสดีค่ะคุณลุง..เอ้อ..บ่ายนี้เกศขอยืมตัวนายต้นให้ทำธุระหน่อยนะคะ..."
"ตามสบายลูก...ต้นมันอยู่เฉยๆยังไม่ได้ทำการทำงานอะไร..หนูเกศเรียกใช้ไหว้วานได้เลย..ไม่ต้องขออนุญาติจากลุงหรอก..."
พ่อพูดอย่างอารมณ์ดี เกศหันไปคุยกับพ่อทำหน้าตาใสซื่อ ก่อนจะคุยอะไรกับพ่ออีกสองสามประโยค ก็หันกลับมาหาผมแอบ
อมยิ้มหลิ่วตาไม่ให้พ่อเห็น
"เดี๋ยวตามมานะต้น..อย่าชักช้าล่ะ..เกศรีบ.."
ยัยพี่เกศเมียตัวแสบของผมหันกลับมาร้องบอกเสียงเข้มดูเป็นงานเป็นการ แต่ภายใต้ใบหน้าสวยใสนั้นแอบอมยิ้มที่หลอกพ่อ
ได้สำเร็จแล้วเดินจากไป พ่อผมทำท่าจะพูดบ่นอะไรตามประสาคนแก่ของท่าน แต่ผมรีบชิงกล่าวลาแล้วเดินเร็วๆ ตามก้น
งอนๆอวบใหญ่ของยัยตัวร้ายไปจนทัน
"ต้นนี่เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ..คราวหลังอย่าทำอะไรเสี่ยงๆแบบนี้อีกนะ.."
เกศกระซิบพูดเบาๆพอให้ได้ยินกันแค่สองคน เมื่อผมเดินเข้ามาจนทัน ดันมาโทษผมคนเดียว ใครกันเล่าที่อยากโดนเย็ด
ครั้งที่สอง ผมอยากจะเถียงกลับ แต่ก็กลืนคำพูดนั้นลงคอได้ทัน
"จะไปไหนกันหรอ..."
"คอนโดไงล่ะสามีขา...ฮิอิ...เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเจอกันนะ..."
เกศพูดยิ้มๆหัวเราะเบาๆ ให้กับความเจ้าเล่ห์ของตนเอง จากนั้นก็เดินบิดสะโพกแยกไปยังเรือนของตนเอง ผมก็แยกขึ้นบ้าน
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อย่างรวดเร็ว แล้วเดินลงมารอเกศที่จอดรถ สักครู่เธอก็เดินลงมาด้วยเสื้อผ้าที่แลดูเรียบร้อย ก่อน
จะโยนพวงกุญแจรถของเธอใส่มือผม แล้วจากนั้นผมก็ขับรถไปยังคอนโด รังรักของเราแล้วใช้เวลาทบทวนกิจกรรมที่ทำคั่ง
ค้างไว้หน้าเรือนเพาะชำอย่างชุกโชก ทั้งต้นทั้งดอกคิดทบทวนในช่วงบ่ายวันหยุด จนห้องเล็กๆอบอวลไปด้วยไฟรักไฟ
เสน่หา ไม่รู้กี่ครั้งกี่ท่า จนเราสองคนกอดกันเพลียหลับไปจนกระทั่งเย็น
หลังจากบ่ายวันหยุดนั้น ผมกับเกศก็ไม่ได้มีกิจกรรมบนเตียงกันอีกเลย เพราะเธอมัวแต่ยุ่งๆเรื่องงานสัมมนาที่เชียงใหม่ตอน
ต้นเดือน จนบางคืนกลับบ้านดึกๆดื่นๆ แต่กลับไม่โทรบอกให้ผมออกไปรับเหมือนเช่นเคยผ่านมา ควาสัมพันธ์ของผมกับเกศ
เพียงแอบจู่จี๋กอดจูบลูบคลำกันได้บ้าง ตอนที่ลับตาผู้ใหญ่ จนกระทั่งถึงวันเวลา ที่เกศบอกไว้ว่าจะไปสัมมนาที่เชียงใหม่ เรา
สองคนก็ออกเดินทางไปที่สนามบินดอนเมือง เพื่อขึ้นเครื่องบินไปเชียงใหม่กัน
"ไม่รีบไปเช็คอินหรอเกศ.."
ผมงงๆสงสัยเมื่อมาถึงสนามบินดอนเมืองเรียบร้อยแล้ว แทนที่จะรีบไปเช็คอินเพื่อรอเวลาขึ้นเครื่อง พี่เกศกลับพาผมไปนั่ง
จิบกาแฟเหมือนกำลังรอใครอยู่สักคน จนเวลาผ่านไปร่วมสามสิบนาทีพี่เกศก็ชี้มือให้ดูผู้คนที่เดินชวักไขว่ไปมาตามทางเดิน
"นั่นไงต้น คุณสันต์หัวหน้าเกศเดินมาโน่นแล้ว..."
ผมมองตามนิ้วที่ชี้ให้เห็น ชายหนุ่มรูปร่างค่อนข้างสูงเดินลากกระเป๋าเดินทางใบย่อมๆเดินมาตามทาง มุ่งหน้าสู่ร้านกาแฟที่
เรานั่งรอกันอยุ่ จนกระทั่งคุณสันต์หัวหน้าของเกศเดินเข้ามาใกล้ จึงได้เห็นใบหน้าหล่อคมเข้มของของคุณสันต์ได้ชัดเจน
จริงอย่างที่เกศเคยบอกว่าหน้าตาเจ้านายคนใหม่นี้หล่อมาก มันทั้งหล่อและดูใสสะอาด หวีผมเรียบตึงเปรี๊ยะ ใส่เสื้อสูท
แบรนด์เนม หนีบกระเป๋าถือใบเล็กๆไว้ที่ซอกแขน ผมมองดูแว๊บๆก็เห็นยี่ห้อที่มีข่าวว่ามันแพงระยับ
หลังจากสวัสดีทักทายแนะนำตัวกันเรียบร้อยแล้ว นายสันต์ก็ถือโอกาสนั่งเก้าอี้เคียงข้างพี่เกศทันที แล้วบรี๊พงานกันคร่าวๆ
สลับกับเงยหน้าชำเลืองหางตามามองหน้าผมแว๊บๆ จนทำให้ผมเริ่มรู้สึกอึดอัดเหมือนเป็นคนนอก แต่ที่อึดอัดมากยิ่งกว่านั้น
หาใช่เพราะนายสันต์มันนั่งใกล้เมียผม แต่เป็นประกายสายตาแปลกๆที่ยามชำเลืองมองหน้าผมต่างหาก ที่มันดุชอบกลๆ
ผมนึกไปถึงคำพูดของเกศในครั้งแรกทันที
"หล่อเกิ๊น..สะอาดเรียบร้อยเกินมาตราฐานผู้ชายแท้...." อ่ะ...หรือว่าไอ้หมอนี่มันจะเป็นเกย์ตัวจริง
"เดี่ยวพี่ขอเวลาไปห้องน้ำแป๊บนึงนะจ๊ะน้องเกศ..."
ก่อนจะได้เวลาที่ต้องไปเช็คอิน นายสันต์ขอตัวลุกขึ้นไปห้องน้ำ ทำให้ผมพอมีเวลาชั่วครู่ที่จะได้ถามความข้องใจกับเกศ
ให้รู้เรื่องก่อนที่จะร่วมเดินทางกันไป
"เป็นไงต้น..พี่สันต์เขาดูดีป่าว.." เกศรีบชิงถามผมก่อนทันที ที่นายสันต์เดินลุกจากโต๊ะหายไปเข้าห้องน้ำของสนามบิน
"อืมมมม..ก็หล่อดี..แต่ท่าทางเหมือนเกย์จัง.."
ผมตอบเสียงเรียบๆ แต่ภายในใจนั้นชักจะเริ่มไม่ค่อยพอใจ ที่เห็นเมียทำสุ้มเสียงหน้าตา ชื่นชมผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตา
ผมเยี่ยงนี้ ถึงแม้ไอ้ผู้ชายคนนั้นจะไม่ใช่ผู้ชายแท้จริงแบบผมก็ตามที
"ทำสุ้มเสียงเหมือนไม่ค่อยพอใจ..หึงเกศหรอจ๊ะ..อิอิ..อย่าหึงเลย พี่สันต์เขาไม่สนใจเกศหรอก..เขาสนใจต้นต่างหาก..ฮิอิ..."
คำพูดของเกศทำให้ผมสะดุ้ง รู้สึกเหมือนขนลุกซู่ เมื่อนึกตามว่ามีผู้ชายตัวโตๆ หน้าตาหล่อๆ แบบนี้ มาชอบผมแบบนั้น
บรื๋ยยยยย...ผมไม่กล้าคิดต่อ เพราะรู้สึกขยะแขยงทันที
"ไม่เห็นจะเหมือนลูกครึ่งเลย ผมก็ดำ ตาก็ดำ ดีแค่สุงหน่อยขาวหน่อยเท่านั้นเอง..."
ผมยังพูดด้วยเสียงที่แสดงออกถึงความไม่ค่อยพอใจ เมื่อนึกไปถึงไอ้หน้าขาวตัวสูงๆ ที่ไปห้องน้ำ แล้วอารมณ์ก็หงุดหงิดขึ้น
มาอย่างไม่ทราบเหตุผล
"ต้นก็..ไปว่าพี่สันต์เค้า..เค้าเป็นลูกครึ่งจริงๆ แต่คุณแม่ของพี่สันต์เค้าไม่ใช่ฝรั่งจ๋า เค้าเป็นลุกครึ่งฟิลิปปินส์เช่นกัน หน้าตา
เค้าเลยมาทางเอเซียมากกว่าฝรั่ง..." ผมยิ่งรู้สึกหงุดหงิดหนักขึ้นที่ดูว่าเกศออกรับแทนนายนั่นไปเสียทุกเรื่อง
"เอ้อต้นจ๊ะ..เรื่องที่เราคุยกันวันนั้นน่ะ..ตกลงเกศเช็คแล้วนะ พี่สันต์เค้าเป็นเกย์ชัวร์..งั้นตั้งแต่วันนี้ตอนไปเชียงใหม่ด้วยกัน
เกศจะแสดงตนว่าเป็นแฟนของพี่สันต์เขานะจ๊ะ..ไม่ต้องหึงล่ะ.."
"ป๊าวววว!...ใครจะไปหึง..."
ผมพูดขึ้นด้วยเสียงที่สูงกว่าปรกติแม้ปากบอกว่าไม่หึงไม่หวง แต่ใจกับเต้นตุ๊บๆแรงๆแปร๊บๆ แม้ว่าไอ้คุณสันต์มันจะเป็นเกย์
ตามที่เกศบอกก็จริง..แต่มันก็เป็นผู้ชายรูปหล่อ หน้าตาดี รูปร่างดี สรุปคืดมันดูดีกว่าผมทุกเรื่อง มันจึงทำให้ใจผมแกว่งๆ
เต้นแรงผิดปรกติ
"แล้วเกศเช็คยังไงถึงได้รู้ว่านายนั่นเป็นเกย์ชัวร์..."
ผมยังติดใจกับคำพูดของเกศจึงรีบซักถาม แต่ไม่ทันที่เธอจะบอกก็แลเห็นนายสันต์เดินลิ่วๆออกมาจากห้องน้ำเสียก่อน
เกศจึงยังไม่ทันได้ตอบคำถามนี้กับผม
"คุณเกศคุยกับน้องต้นแล้วใช่มั๊ยครับ เรื่องที่เราจะแสดงตัวว่าเป็นแฟนกัน..."
ไอ้นายสันต์ถามทันที ที่เดินกลับมาถึงโต๊ะ แต่ปากแม่งถามเมียผม แต่เสือกส่งสายตาหวานๆมาให้ผม จนรู้สึกอึดอัดกับสาย
ตาของมันเสียเหลือเกิน
"เอ้อ..บอกแล้วค่ะ.."
เกศบอกเสียงเบาๆ ยิ้มๆ แต่ดันหันหน้ามาหลิ่วตาให้ผม เมื่อเธอแลเห็นสายตาของนายสันต์ที่กำลังจ้องมองหน้าผมอย่างมี
ความนัยแปลกๆ
"เราช่วยเหลือกันครับน้องต้น...คุณเกศกับน้องต้นก็จะไม่มีใครมองจับผิด..ผมก็เช่นกันทางบ้านคงไม่เร่งรัดให้ผมมีเมียอีก
แล้ว เพราะมีคุณเกศมาช่วยแสดงรับบทคู่รัก....ผมรับประกันว่าคุณเกศจะไม่มีอะไรเสียหายครับ" ไอ้หน้าขาวพูดเรียบๆ ใบ
หน้าหล่อๆของมันมีรอบยิ้มระบายที่ริมฝีปาก แต่ดันเสือกส่งสายตาหวานๆมาให้ผม จนรู้สึกแขยงขนลุก
"งั้นก็ได้...ขอเพียงนายอย่ายุ่งกับพี่เกศของเราก็โอเคละ..."
ผมตัดสินใจ พูดย้ำให้ไอ้หน้าขาวรู้ว่าผมยอมตกลงตามนั้น แต่กำชับว่าอย่ามายุ่งกับเมียของผมละกัน ให้มันเป็นเพียงแค่
การแสดงเท่านั้น
เมื่อตกลงตามนั้นพวกเราทั้งสามคนก็เดินไปเช็คอิน ระหว่างกำลังเดินไป เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังมีเสียงเรียกเข้า
ผมหยิบขึ้นมาดู หน้าจอแสดงว่าคนที่โทรมานั้นคือคุณแม่ของผม จึงรีบกดรับสาย ปล่อยให้เกศกับไอ้หน้าขาวเดินล่วงหน้า
กันไปก่อน
"ครับแม่..มีอะไรครับ..."
"ต้นช่วยแม่ด้วย..พ่อเป็นลมล้มหัวฟาดพื้น..ตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย..ทำไงดี..." เสียงแม่ดังขึ้นมาอย่างร้อนรน ตามด้วยเสียง
สะอื้นไห้เบาๆอย่างใจเสีย
"ครับๆ..เดี๋ยวผมกลับไปครับ..."
ผมรีบบอกแม่ไปทันทีด้วยความเป็นห่วงพ่อ แม้จะเป็นห่วงด้านเกศเมียผมก็ตาม ที่ต้องเดินทางไปเชียงใหม่กับไอ้หน้าขาว
ตามลำพัง แต่ต้องรีบเลือกทางพ่อไว้ก่อน
"เกศต้นไปด้วยไม่ได้แล้วละ ทางบ้านโทรมาว่าคุณพ่อหกล้มหัวฟาดพื้น..."
ผมรีบเดินจ้ำไปจนทันเกศกับไอ้หน้าขาวที่เดินเข้าไปต่อแถวรอเช็คอิน แล้วบอกเหตุผลกับเธอ แต่หูอื้ออึงจนไม่ได้ยินว่า
เกศบอกอะไร รีบหันกลับเดินไปจากสนามบินดอนเมืองทันที โดยได้ยินเสียงส่งท้ายจากไอ้หน้าขาวแว่วๆว่า
"ไม่ต้องห่วงนะน้องต้น..ผมจะดูแลคุณเกศเอง...."
ผมรีบเรียกรถรับจ้างกลับบ้านอย่างรีบร้อน แต่กว่าจะมาถึงบ้าน ก็เห็นรถพยบาลจอดอยู่ที่หน้าบ้านแล้ว บุรุษพยาบาลกำลัง
เข็นเตียงคนป่วยออกมาจากประตุบ้าน บนเตียงนั้นมีร่างของพ่อผมนอนสงบอยู่ไม่รุ้สติ แม่เดินมาเคียงข้าง พอท่านเห็นผม
ก็รีบวิ่งตรงมาหาร้องไห้ฟูมฟายพูดฟังไม่ได้สรรพ จากนั้นก็ผละไปขึ้นรถพยาบาลนั่งไปกับพ่อ ผมรีบเอารถที่บ้านขับตามออก
ไป ส่งคุณพ่อจนถึงโรงพยาบาล แต่นับว่ายังโชคดีที่พ่อผมไม่เป็นอะไรมาก แค่หน้มืดเป็นลมแล้วล้มลงหน้าเรือนเพาะชำ
แต่จากการตรวจอาการพบว่าพ่อผมมีโรคลุมเร้าอยู่เพียบครบเซ็ต ทั้งโรคหัวใจ ไขมันในหลอดเลือด และโรคเบาหวานทำ
ให้ผมประหลาดใจที่รุปร่างของพ่อไม่ได้อ้วนลงพุงเลยสักนิด ติดจะผอมๆเสียด้วยซ้ำไป แต่กลับเป็นเบาหวานได้อย่างไรไม่รู้
พ่อผมนอนแอตมินอยู่แค่คืนเดียว พอรุ่งขึ้นหมอก็อนุญาติให้กลับบ้านได้ ช่วงเวลานั้นผมมัวแต่ยุ่งๆห่วงๆเกี่ยวกับเรื่องของพ่อ
จนลืมห่วงเรื่องเมียที่เดินทางไปเชียงใหม่กับไอ้หน้าขาว จนกระทั่งพาพ่อกลับมานอนพักฟื้นที่บ้านแล้ว ผมถึงค่อยนึกถึงเมีย
และตัดสินใจขับรถจากบ้านเดินทางไปเชียงใหม่ในช่วงบ่ายวันนั้นทันที
ขอบคุณครับ สุดยอด
หน้า:
[1]