เผลอเล่นน้องสาว 4
ผมขับรถออกจากบ้านช่วงเวลาประมาณเกือบบ่ายสองโมง ลองโทรเข้ามือถือของเกศ เพื่อจะบอกกับเธอว่าผมขับรถตามมาแม้มีสัญญาณเรียกเข้าแต่เธอก็ไม่ได้รับสาย จนสายตัดไป ผมเข้าใจว่าเธอกำลังยุ่งกับงานสัมมนาเป็นแน่ จึงขับรถต่อไป
อย่างระมัดระวัง แม้ใจจะโบยบินไปถึงเชียงใหม่แล้วก็ตาม ที่ผมไม่กล้าขับรถเเร้วนักเพราะตลอดทั้งคืนเมื่อวาน ผมเป้นคน
นั่งเฝ้าดุอาการของพ่อที่โรงพยาบาลเลยหลับๆตื่นๆตลอดทั้งคืน กลัวว่าจะหลับในเสียก่อนขณะที่ขับรถนั่นเอง
จนเกือบเที่ยงคืนที่ผมมาถึงโรงแรมแบบรีสอร์ตที่เกศพักอยู่ มองเห็นป้ายติดต้อนรับคณะสัมมนาของเกศโชร์หราที่ซุ้ม
ประตูทางเข้า ผมจอดรถไว้ที่หน้าล็อบบี้ แล้วโทรหาเกศอีกครั้ง รอสายสักครู่เธอจึงรับ
"มีอะไรหรือต้น..คุณลุงเป็นไงบ้าง...."
เสียงของเมียผมดูเนือยๆ คงเหนื่อยจากทำงานหนักแน่ๆ
"พ่อไม่เป็นไรมากหรอก โรคคนแก่น่ะ..นี่เกศรุ้มั๊ยว่าตอนนี้ต้นอยู่ไหน..."
ผมบอกอาการของพ่อไป แล้วร้องถามเมียด้วยความตื่นเต้น เธอคงเซอร์ไพรซ์แน่ถ้ารู้ว่าผมขับรถตามมาที่เชียงใหม่ด้วย
นึกแล้วยิ่งคิดถึงอยากไปหาเมียเต็มทน
"ที่บ้านละสิ...แค่นี้นะเกศงวงแล้วก็เพลียด้วย.."
แม้ผมจะรุ้สึกผิดหวังกับคำตอบของเมียเล็กน้อย ที่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยอยากคุยด้วย และพยายามจะรีบวางหู
"ใครว่า...ตอนนี้ต้นอยุ่ที่ล็อบบี้ของโรงแรมต่างหากจ๊ะ..ลงมารับหน่อยสิจ๊ะเมียจ๋า...."
ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น คิดว่าเธอคงจะดีใจที่ได้ยินเช่นนี้
"ห๊า!...ว่าไงนะ..ต้นพูดจริงป่าว..."
แต่น้ำเสียงของเมียผมนั้นมันดูเหมือนจะตกใจมากกว่าตื่นเต้นเสียอีกที่รู้ว่าผมมารออยู่แล้วที่ล็อบบี้
"จริงสิจ๊ะ..ต้นจะโกหกทำไม..ฮ่าๆๆๆ..ลงมารับต้นหน่อยนะ...ดีใจละสิที่ต้นขับรถตามมา..."
ผมกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ พร้อมยิ้มคาดการณ์ว่าเกศคงทั้งแปลกใจ และดีใจที่ผมขับรถตามมาจนถึงเชียงใหม่
จากนั้นผมก็กดวางสาย นั่งรออยู่ในรถอีกสักพัก เมียผมก็ยังไม่ลงมา จนเริ่มรุ้สึกว่าทำไมมันนานเกินไปนะ กำลังจะเริ่ม
หมดความอดทนพอดี ก็เห็นเกศเปิดประตูหน้าล็อบบี้โรงแรมมองมา ด้วยเสื้อคลุมปิจาม่าของโรงแรม ซึ่งด้านในคงชุด
นอนเป็นแน่ ผมรีบเปิดประตูรถลงไปยืนข้างๆ ในขณะที่เกศเดินทำหน้าเนือยๆลงมาหา
"จะมาทำไมไม่บอกก่อน..."
เกศทักทายผมก่อนด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนหงุดหงิด แต่ผมเข้าใจว่าเธอคงเป็นห่วงที่ผมขับรถทางไกลกลางค่ำกลางคืน
มาจนถึงเชียงใหม่เป็นแน่
"คิดถึงเกศจัง....แต่ต้นโทรหาแล้วนะเมื่อบ่าย แต่เกศคงงานยุ่งเลยไม่ได้รับสาย...แล้วทำไมลงมาช้าจังล่ะ"
ผมตอบพร้อมกับหันซ้ายแลขวา เมื่อเห็นว่าปลอดคนแล้วจึงเอื้อมมือไปคว้าเอวคอดกิ่วของเมียดึงเข้ามาหา กะว่าจะกอด
รัดให้หายคิดถึงสักหน่อย แต่เกศกลับขืนตัวไว้
"อย่าต้น..ประเจิดประเจ้อ..เดี๋ยวมีคนมองเห็น...เกศอาบน้ำอยู่เลยลงมาช้าน่ะ..."
เกศดุผมเบาๆ คิ้วสวยขมวดมุ่น พร้อมทำหน้านิ่ว ยื่นมือเรียวยาวมาปลดมือของผมที่โอบรอบเอวคอดกิ่วออกทันที
"ต้นมาอย่างนี้รู้มั๊ยว่ามันสร้างปัญหาให้เกศ.."
น้ำเสียงของเกศยังดูเครียดๆ ขณะที่เธอพาผมเดินเข้าไปในล็อบบี้
"มีปํญหาอะไรหรอ..." ผมถามเพราะรู้สึกงงๆสับสนไม่เข้าใจ
"ก็มันไม่มีห้องจะพักน่ะสิ...ห้องของต้นเกศยกเลิกไปแล้ว และทางรีสอร์ตก็เปิดขายให้คนอื่นพักไปแล้วเช่นกัน"
เกศอธิบายเสียงเบาๆ พร้อมเดินนำผมไปที่ลิฟท์โดยสาร
"งั้นเปิดห้องใหม่ก็ได้ ไม่เห็นเป็นไรเลยที่รัก..."
ผมพูดพร้อมเอื้อมมือไปโอบเอวคอดของเมียอีกครั้งขณะที่ประตูลิฟท์ค่อยๆปิด
"ถ้ามีก็ดีน่ะสิ..แต่ตอนนี้แขกเข้าพักเต็ม100% แล้วรู้มั๊ย...เห้อ.."
เกศอธิบายพร้อมถอนหายใจสั้นๆ สีหน้าแสดงความอึดอัด อย่างเห็นได้ชัดเธอคงหนักใจไม่รู้จะหาที่นอนให้ผมได้อย่าง
ไรเป็นแน่
"งั้นให้ผัวนอนห้องเมียสักคืนนึง..พรุ่งนี้เช้าอาจมีห้องว่างก็ได้จริงมั๊ย.."
ผมพูดยิ้มๆ ทำหน้าหื่นๆทะเล้นๆ พร้อมดึงเมียเข้ามาหวังจะกอด ประตุลิฟท์ดันเปิดเสียก่อน เกศชิงรีบเดินออกไปจน
มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องพักห้องหนึ่ง แล้วยื่นมือเคาะประตุเบาๆ แม้ผมจะแปลกใจแต่ก็ยังไม่ทันถามไถ่ เจ้าของห้องก็เปิดประตู
ออกมาช้าๆ เป็นห้องของไอ้หน้าขาว นายสันต์หัวหน้าของเกศนั่นเอง
"พี่สันต์คะ..เอาไงดี..."
เมียผมร้องถามเจ้าของห้อง ทันที่ที่เราทั้งสองก้าวตามกันเข้ามาในห้อง ผมมองไอ้หน้าขาวเห็นมันใส่เสื้อคลุมปิจาม่าแบบ
เดียวกับที่เกศสวมอยุ่ ผูกเชือกที่เอวไว้เพียงหลวมๆ แลเห็นไรขนอ่อนๆที่หน้าอกแพลมออกมาจากรอยแยกของสาบเสื้อ
พร้อมสงสัยว่าทำไมมันจึงรู้เรื่องการมาของผมด้วยเล่า
"อืมมมมพี่ว่าให้น้องต้นนอนห้องเดียวกับพี่แล้วกัน ส่วนเกศไปนอนห้องของเกศ..."
ผมได้ยินชัดเจน อยากตะโกนด่ามันว่าไอ้บ้าเหลือเกิน ใครจะบ้านอนกับไอ้พวกเกย์ได้ล่ะ เผลอไผลไปมิเสียพรมจรรย์รูดาก
หรอกรึ จึงรีบหันหน้าไปทางเมียแล้วขยิบตาส่งสัญญาณว่าผมไม่ยอมแบบนี้แน่
"เอาไงดีล่ะ..ให้นอนห้องเดียวกับเกศก็ไม่เหมาะ..ให้นอนคนเดียวแล้วเกศมานอนห้องพี่สันต์ก็ไม่ดี..เห้อ..นี่นะเพราะไม่รุ้จัก
โตเสียที..ทำให้เกศอึดอัดใจ..."
ท้ายเสียงเกศหันมาดุแว๊ดใส่ผมเบาๆ จนผมหน้าเสีย นึกดูว่านี่มันเป็นความผิดของตนเองหรืออย่างไร อุส่าห์ขับรถตามมา
ด้วยความรักเป็นห่วงและความคิดถึง ยังมาโดนดุให้เสียหน้า โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่นแบบนี้
"งั้นผมลงไปนอนรอที่รถก็ได้ ตัดปัญหา..."
ผมพูดตวัดเสียงสูง เพราะเริ่มมีอารมณ์โกรธ แต่ไม่ได้โกรธเกศเมียของผมเลย โกรธไอ้หน้าขาวที่มายืนฟังทำหน้ายิ้มๆตา
วาวๆมองผมต่างหาก
"ไม่ดีหรอกน้องต้น...เอางี้ละกัน งั้นนอนห้องพี่กันเสียทั้งหมด ห้องใหญ่เตียงกว้างเหลือเฟือ...ว่าไงครับเกศ.."
ไอ้เวรหน้าขาวเอ๊ย แทนที่มันจะถามความคิดเห็นจากผม ดันยื่นหน้าไปขอความคิดเห็นจากเมียของผมแทน มันชักจะแสดง
บทบาทเกินหน้าที่แฟนกำมะลอเสียแล้ว แถมยังลอยหน้าส่งยิ้มหวานๆตาเยิ้มๆมาให้ผมเสียวสันหลังวุบๆ
"อืม..งั้นก็ได้ค่ะ..ต้องรบกวนพี่สันต์แล้ว..."
เมียผมก็อีกคน ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ไม่ถงไม่ถามผมซักคำว่าเห็นดีด้วยหรือไม่ จัดการตกปากรับคำไปเสียแล้ว
"งั้นตามมา เอากระเป๋าสัมภาระไปเก็บที่ห้องเกศก่อน..."
เหมือนเมียผมจะร้องสั่ง เล่นเอาผมชักอายหน้าแดง แบบนี้มันจงใจข่มผัวชัดๆ โดยเฉพาะข่มต่อหน้าไอ้หน้าขาว เดี่ยวเถอะ
กลับไปห้องอยู่กันสองต่อสองจะต้องจัดการเสียหน่อย ผมได้แต่คิดแค้นขุ่นเคืองแบบขำๆไว้ในใจ เดินตามเกศมา นึกว่าห้อง
ของเธอจะอยู่ไกล ที่ไหนได้อยู่ติดกับห้องไอ้หน้าขาวเสียงั้นแหละ
ผมรีบเดินตามหลังเกศเข้าไปในห้อง วางกระเป๋าไว้ใกล้ทางเดินหน้าตู้ ตามองปราดตามร่างของเมียไปที่เตียงนอน ซึ่ง
ยังคงอยู่ในสภาพที่เรียบร้อย ผ้าปูตีงเปร๊ยะ เหมือนไม่เคยถูกใช้ แล้วรอจังหวะที่เมียเผลอ ผมรีบตรงไปรวกอดเอวด้านหลัง
ของเกศ แล้วดันไปจนเธอล้มคว่ำลงบนเตียง
"ว๊ายต้น..จะทำอะไรน่ะ.."
เกศร้องด้วยความตกใจ แต่เมื่อเห็นผมขึ้นคล่อมนั่งทับบนก้นงอนๆเปลือยๆ สอมือล้วงผ่านสาปเสื้อคลุมปิจามาเข้าไปคลำ
หาอกอวบ..นึกแปลกใจเล็กน้อยที่เมียผมไม่ได้ใส่บราไว้ข้างใน
"อย่าต้น..พะ..พี่สันต์อยู่ห้องข้างๆ เดี๋ยวเขาได้ยินเสียง..."
เกศพูดพร้อมพยายามพลิกตัวกลับ เพื่อให้ตัวผมหล่นลงนอนหงาย แต่ผมแข็งขืนไว้ ล้วงมือลงไปบีบคลำลูบไล้อกอวบตึง
มือของเมียเล่นยึกๆ แล้วก้มหน้าจูบไซ้แถวต้นคอ..รู้สึกได้กลิ่นน้ำหอมที่ไม่คุ้นระเหยออกมาจากต้นคอของเมียจางๆ แต่ผม
ไม่ได้สนใจ ล้วงมืออีกข้างปราดเข้าด้านหน้ากลางลำตัว พยายามคืบมือเข้าไปหาเป้าหมาย เนินสวาทอวบๆขนาดใหญ่
ของเมีย แต่คราวนี้เกศขัดขืนเต็มที่ ทั้งแอ่นกลางลำตัวกดแน่นกับฟูก ทั้งพยายามบิดร่างแรงๆ จนผมเสียหลักลงมานอน
ตะแคงข้างๆ
"ต้นบ้า..เล่นไม่รู้เรื่อง..บอกแล้วว่าพี่สันต์อยู่ห้องข้างๆ เดี๋ยวเขาก็รู้พอดีว่าเราเป็นอะไรกัน..."
เกศผุดลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ตวาดเสียงสูงใส่ผม แม้มันจะไม่ดังเท่าไหร่นักก้ตาม แต่ทำให้ผมหน้าเสีย รุ้สึกว่าทำไมเกศ
ต้องแคร์นายหน้าขาวมันมากนักด้วย
"ผัวเมียจะหยอกล้อกัน มันไปเกี่ยวอะไรกับไอ้หน้าขาวด้วยหึ..."
ผมเถียงสุ้เพราะเริ่มรู้สึกอึดอัดกับการกระทำของเมียขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว ทั้งเรื่องที่นอน แล้วเรื่องหยอกล้อเล่นแบบนี้ ใช่ว่า
ผมกับเมียจะไม่เคยทำ ขนาดเย็ดกันในเรือนเพาะชำของพ่อ ก็ยังทำมาแล้ว
"อย่าลืมสิต้นว่า..พี่สันต์เขายังเข้าใจว่าเราเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น..."
มันก็จริงอย่างที่เมียผมบอก เรายืมตัวพี่สันต์เอามาไว้กันคำครหาของคนอื่นเท่านั้น ถึงได้ยอมให้เมียผมแกล้งคบหาแสดง
ตนว่าเป็นแฟนของเขา
"อืมมมมม..ก็ได้.."
ผมตอบสบัดๆใส่ แม้จะจนกับเหตุผลของเมีย แต่หยอกล้อเล่นเล็กๆน้อยๆแค่นี้ทำมาห้าม ทั้งๆที่เราสองคนอยู่ในห้องเดียว
กัน มันดูเกินไปนิดๆ แต่ก็ยินยอมลุกขึ้นยืนถอดผลัดเสื้อผ้าเข้าห้องไปอาบน้ำด้วยความเพลียและเหนียวตัวเพราะขับรถ
ทางไกลมาทั้งวัน
เมื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำที่ประดับตกแต่งไว้งดงาม มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่อยู่ชิดฝาผนัง นึกชมทางโรงแรมนี้ว่าดีจัง ขนาด
เมียผมเพิ่งอาบน้ำไปหยกๆ แต่พื้นห้องกลับแห้งสนิท ระบบการระบายน้ำของที่รีสอร์ตแห่งนี้คงเยี่ยมยอด ผมใช้เวลาอาบน้ำ
เพียงชั่วครู่ก็เอาผ้าเช็ดตัวของรีสอร์ตพันตัวเดินออกมา เกศยังคงนั่งรออยู่บนเตียงทำหน้าบูดๆ มองค้อนควักใส่ผม โดยที่
ผมไม่รุ้ว่าเธออารมณ์เสียด้วยเรื่องอันใดกันแน่
"แต่งตัวเร็วๆต้น..พี่สันต์เขารอนานแล้ว..."
โอ๊ยผมอยากจะร้องตะโกนเสียงดัง ด้วยขัดหูขัดใจ ตั้งแต่มีไอ้หน้าขาวเข้ามาในชีวิตนี้ อะไรๆก็พี่สันต์ๆๆ จนผมเอือมชื่อเอือม
หน้ามันเหลือเกิน จึงปลดผ้าขนหนูจนตัวเปลือย แล้วเปิดกระเป๋าค้นหา กางเกงบ็อกเซอร์ตัวโปรดกับเสื้อยืดมาสวม ชั้นใน
ไม่ต้องใส่มันละ แล้วหยิบปิจามาที่วางเรียงอยู่บนเตียงมาสวมคลุมอย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลาพอจะแปลกใจที่เห็นปิจาม่าตั้งสอง
ตัววางซ้อนกันอยู่
ครับผม ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]