ใครยังไม่เคยอ่านแนะนำ ลองอ่านตอนก่อนๆ ด้วยนะครับ เดี๋ยวงง
อย่างน้อยก็ ep1 ก็ยังดี 5555
และขอบอกว่า ส่วนที่เปิดอ่านให้ฟรี (รวมถึงทุกตอนที่ผ่านมา) ที่บางทีดูยาวจนเหมือนจะจบแล้ว
จริงๆ คือเป็นแค่ส่วนนึงของเนื้อหาในตอนนั้นๆนะครับ บางคนอ่านแค่ส่วนฟรีแล้วคิดว่าจบแล้ว
เนื้อหาเต็มๆ เสียวๆ อยู่ในส่วน Zenny น้าา ยังมีเนื้อหาอีกยาวมากกก ใครที่พลาดตอนก่อนๆ ไปย้อนไปอ่านได้ค้าบ
ตอนก่อนหน้านี้... ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 ตอนที่ 4 ตอนที่ 4.5 ตอนที่ 5 ตอนที่ 6 ตอนที่ 7 ตอนที่ 8
ตอนที่ 9 ตอนที่ 10 ตอนที่ 11 ตอนที่ 11.5 ตอนที่ 12 ตอนที่ 13 ตอนที่ 14
ตอนที่ 15 ไม่เป็นไรนะ
ตอนนี้ไม่มีอะไรเสียวมาก แต่เพื่อความต่อเนื่องก็ลองอ่านกันดูนะคับบ
(เอ็กซ์บรรยายครับ)
เช้าวันนี้ผมก็ไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าอีกเช่นเคย ผมอยากไปเจอไอ้โจ
อยากรู้ว่ามันชอบเพลงที่ผมร้องรึเปล่า ทำไมถึงไม่ตอบอะไรกลับมาเลย
แต่ผมก็ไปไม่ทันดักรอไอ้โจอยู่ดี
เหตุผลเป็นเพราะผมตื่นสายเนื่องจากตื่นนอนกลางดึก(เพราะความฝันบ้าๆนั่น)
เมื่อผมไปถึงโรงอาหาร ผมก็เจอไอ้โจนั่งกินโจ๊กอยู่แล้ว แต่มันไม่ได้นั่งคนเดียว มีไอ้แมน ไอ้แว่น
ไอ้ก๊อต ไอ้บอล แล้วก็ไอ้นัทนั่งอยู่ด้วย เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ผมกับไอ้โจจะได้ไม่กระอักกระอ่วนต่อกัน
“เห้ย วันนี้มาเช้าเชียวนะ”ไอ้แมนพูดพลางตบหลังผมเมื่อผมนั่งลงข้างๆมัน
คนอื่นๆก็ส่งเสียงทักทายผม เว้นก็แต่ไอ้โจที่นั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะ
ในตอนแรกผมเห็นมันพูดอะไรสักอย่างอยู่ แต่เมื่อผมมา มันก็นิ่งเงียบและไม่พูดอะไรอีก
“แล้วกูเคยมาสายด้วยเหรอ”ผมตอบยิ้มๆผลที่ได้รับคือเสียงโห่จากทั้งโต๊ะ
จริงๆแล้วผมมาสายทุกวันนั่นแหละ ถ้าไม่ติดว่าอยากมาเจอไอ้โจล่ะก็
ผมไม่มีวันมาแต่เช้าแบบนี้หรอก
“เพลงเมื่อคืน เป็นไงมั่งวะ” ไอ้แมนแอบลดเสียง กระซิบกระซาบกับผมสองคน
ไอ้เรื่องทำคลิปร้องเพลงมันก็เป็นคนคิดอีกนั่นแหละครับ แต่ผมเลือกเพลงด้วยตัวของผมเอง
เพราะอยากให้มันรับรู้ ว่าผมอยากขอโทษมันจริงๆ
“ไม่รู้เว้ยย มันไม่ได้ตอบอะไรกูเลย”นึกแล้วก็ขัดใจระคนน้อยใจ ถึงผมจะไม่ได้เสียงดีอะไร
แต่ผมก็ตั้งใจร้องจริงๆนะ ถ้าไปร้องที่The voice รับรองกรรมการหันมาทุกคน
“เหรอวะ ตอนมึงไม่มากูก็แย็บๆถามถึงมึงแล้ว แต่ไอ้โจไม่พูดอะไรสักคำ มึงร้องเพี้ยนป่าวสัส”
“เพี้ยนพ่อมึงสิ ตรงคีย์เป๊ะๆไม่มีหลุดสักคำ ไม่เชื่อมึงเอาไปฟังเลย”ไอ้แมนนี่ก็ปากหมา
ผมฝึกร้องเพลงนี้อยู่นานเป็นชั่วโมง ร้องเป็นสิบๆรอบกว่าจะกล้าอัดคลิป
“มึงสองคนกระซิบเหี้ยไรกันเนี่ย”ไอ้บอลถาม ผมกับไอ้แมนหยุดสุมหัวกันทันที
“ไอ้เอ็กซ์ เรื่องไอ้ครูเดชนั่นน่ะ มึงจะเอาไงต่อวะ”ไอ้นัทถามขึ้นมา
ปกติมันเป็นคนเฮฮาไม่เครียดอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องของทีมฟุตบอลนี่มันเครียดครับ
แทบจะเป็นเรื่องเดียวเลยมั้งที่มันเอาจริงเอาจัง ผมก็เกือบลืมเรื่องของไอ้ครูนั่นไปซะสนิท
“เออ ดีและที่พูดขึ้นมา กูว่ากูจะไปปรึกษาโค้ชหมีก่อนว่ะ เผื่อเค้าจะช่วยเปลี่ยนโค้ชให้ได้
ตอนนี้เค้าเป็นหัวหน้าหมวดแล้วไม่ใช่เหรอ”โค้ชฟุตบอลคนเก่าของพวกผมชื่อหมีครับ
จริงๆแล้วแกชื่อสมหมาย แต่เนื่องจากตัวแกบึ้กล่ำเหมือนหมี พวกเราก็เลยเรียกว่าโค้ชหมี
“เออไอ้นัทมันเล่าให้พวกกูฟังแล้วนะ พวกมึงก็ใจร้อน เสือกไปต่อยกับครู”ไอ้แมนพูด นอกจากผม
ไอ้นัท และไอ้โจ คนอื่นๆคงไม่รู้เรื่องเมื่อวาน เพราะพวกมันไม่ได้อยู่ในทีมฟุตบอล
“ใครว่าล่ะ ก็เม่งหาเรื่องพวกกุก่อนนี่หว่า ครูห่าไรโรคจิตชิบหาย ไปฟ้องผ.อ.เม่งยังได้เลยมั้ง
พวกเรามีพยานเยอะแยะ ทั้งทีมเลยนะมึง”ผมพูดตามข้อเท็จจริง แม้มันจะเป็นครู
แต่พวกเรามีพยานทั้งทีม เว้นก็แต่ไอ้ห่าพีกับไอ้ห่าต้น สองลูกสมุนของไอ้เชนเท่านั้นแหละ
ลองได้รู้พฤติกรรมโรคจิตรังแกนักเรียนของไอ้ครูนั่น ไม่มีโรงเรียนไหนบ้าเอามันไว้หรอก
แต่กระนั้นไม่มีใครส่งเสียงตอบรับคำพูดของผมเลย
“กรูว่าเรื่องมันจะไม่ง่ายแบบนั้นดิวะ”ไอ้ก๊อตพุดสีหน้าเป็นกังวล คนอื่นๆก็มีสีหน้าแบบนั้นด้วย
ดูท่าก่อนที่ผมมาพวกมันจะแลกเปลี่ยนข้อมูลอะไรกันมากมายทีเดียว
“ทำไมวะ”ผมถาม รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล
“ไอ้ครูเดชนั่นมันไม่ใช่ครูธรรมดานะเว้ย กูได้ยินไอ้แม็คพูด ว่าครูนั่นน่ะใช้เส้นพ่อไอ้เชนเข้ามา
เพราะอย่างงั้นมันเลยได้ห้องทำงานส่วนตัว แถมพอเข้ามาก็ได้เป็นโค้ชทันทีอีก”อ๋อ
มิน่าละ..คนของพ่อไอ้เชน มิน่า
ไอ้พีกับไอ้ต้นถึงได้ตอบรับคำสั่งไอ้ครูนั่นเหมือนเป็นทาสซะขนาดนั้น ก็เป็นครูของลูกพี่นี่นะ
(ไอ้แม็คนี่ก็เป็นเพื่อนคนนึงของไอ้เชนน่ะครับ ไอ้ก๊อตมันอยู่ชมรมบาส
เลยได้รู้เรื่องเกี่ยวกับกลุ่มของไอ้เชนเยอะ)
“แต่มันจะทำอะไรเราได้วะ เรามีพยานทั้งทีมเลยนะ”ผมยังยืนกราน
แต่น้ำเสียงไม่มั่นใจเท่าในตอนแรก เป็นที่รู้กันดีว่าพ่อไอ้เชนมีอิทธิพลต่อโรงเรียนนี้ขนาดไหน
ไม่งั้นลูกสุดเหี้ยของมันคงจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนไปนานแล้ว
“ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะวะ”ไอ้นัทพูด บทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้จบเพียงเท่านี้
ผมลอบมองหน้าไอ้โจ รู้สึกได้ว่ามันรีบหันหน้าหลบในช่วงเสี้ยววินาทีนั้น ถ้าเป็นแบบนั้น
เมื่อกี้มันก็จ้องหน้าผมอยู่น่ะสิ...
ตอนเดินขึ้นไปเข้าแถวบนห้อง ผมเห็นไอ้โจวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ข้างๆไอ้แว่นอีกครั้ง
ผมนึกน้อยใจมันขึ้นมาทันที นี่มันยังไม่ยอมนั่งกลับมากับผมอีกเหรอนี่
ผมมองเลยไปที่กระเป๋าไอ้แว่น แล้วก็เกิดความคิดบางอย่าง
“แว่นๆ” ผมดึงหลังเสื้อไอ้แว่นไว้ก่อนที่มันจะเข้าไปในห้อง มันหามามองเป็นเชิงถาม
“มีอะไร”
“ช่วยอะไรกูหน่อยดิ” ผมยิ้มแป้นให้มัน มึงไม่นั่งข้างกูก็ไม่เป็นไรหรอกไอ้โจ กูไอ้เอ็กซ์ซะอย่าง
เมื่อผมเข้าไปในห้อง ไอ้แว่นก็เดินไปนั่งข้างหลังเงียบๆตามที่ผมขอ
ส่วนข้างๆไอ้โจยังเป็นที่นั่งว่างอยู่ ผมค่อยๆเดินเข้าไปก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งช้าๆ
ไอ้โจไม่ได้สังเกตเลยว่าผมเข้ามานั่งข้างมันแล้ว เพราะมันกำลังเสียบหูฟังดูอะไรในมือถืออยู่ก็ไม่รู้
คงจะคิดว่าผมเป็นไอ้แว่น ผมแอบเหลือบมอง รู้สึกภาพในคลิปมันดูคุ้นๆ
แล้วตัวผมก็ร้อบวาบด้วยความตื่นเต้น - มันดูคลิปร้องเพลงของผมอยู่
“แน่ะ! ดูไรอะ” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ผลก็คือไอ้โจตกใจร้องเหวอ สะดุ้งโหยงจนแทบตกเก้าอี้
ทำเอาผมรู้สึกผิดนิดๆที่ไปแกล้งมัน มันรีบปิดคลิปในมือถือ ก่อนจะหันมามองผมตาเขียวปั๊ด
สีหน้านี้คุ้นตาน่ารักเสียจนผมต้องยิ้มยิงฟันตอบ ไอ้โจไม่พูดอะไรแต่หันไปมองด้านหลัง
ซึ่งมีไอ้แว่นที่กำลังยิ้มแหยพลางโบกมือขอโทดอยู่
“อย่าไปว่ามันเลย กูขอมันเองแหละ”คำพูดของผมเรียกความสนใจของไอ้โจกลับมา
แต่พอเห็นหน้าที่มันมองผม ผมคิดว่ามันไม่สนใจผมนั่นแหละดีแล้ว
“มีอะไร” มันยังคงมีท่าทีเหมือนเดิม คือมีสีหน้าเย็นชา สงวนคำพูดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมอดน้อยใจนิดๆไม่ได้ แบบนี้ก็แสดงว่าน้องหมีกับเพลงของผมไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสิ -
ไม่หรอก เมื่อกี้มันยังดูคลิปร้องเพลงของผมอยู่เลยนี่ คำพูดนี้ทำให้ผมกลับมามีกำลังใจอีกครั้ง
“ก็แค่อยากนั่งข้างมึง
แล้วมึงไม่ยอมนั่งข้างกู”ผมพยายามทำหน้าสลดให้ดูน่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่สีหน้าของไอ้โจไม่ได้อ่อนโยนลงเลย
“แล้วคิดจะถามกูบ้างมั้ย ว่ากูอยากนั่งกับมึงรึเปล่า” มันหันหน้าไปมองกระดาน
ปล่อยให้ผมโดนคำพูดของมันเชือดใจเอาเต็มๆ
“ก็ถ้ากูถามก่อน กูจะได้เห็นมึงนั่งดูคลิปกูแบบนี้เหรอ”อารมณ์น้อยใจทำให้ผมเผลอโพล่งออกไป
แต่จะปิดปากก็ไม่ทันแล้ว ช่างมันแล้วกัน อยากใจร้ายดีนัก อย่างน้อยประโยคนี้ก็ได้ผล
ไอ้โจชะงักไปทันที
“กูไม่ได้ดูซะหน่อย”มันปฏิเสธเสียงแข็ง เบือนหน้าหนีซึ่งคงไม่ใช่เพราะไม่อยากมองหน้าผมหรอก
เป็นเพราะมันต้องซ่อนสีหน้าของมันเองมากกว่า
“ปากแข็ง”ผมยั่วโมโห ซึ่งก็ได้ผลอีก มันหันกลับมาด่าผมทันที
“ไม่ได้ดูโว้ย!”สะกิดนิดหน่อยถึงกับตบะแตกเลยทีเดียว ไม่มีใครรู้จุดอ่อนของไอ้โจดีเท่าผมหรอก
“กูร้องเพราะปะ”ผมยื่นหน้าไปใกล้มัน ทำให้มันถอยหลังหนี
“ไม่ได้เรื่อง”มันตอบทันควัน ผมยิ้มแป้นอีกครั้ง
“ไหนบอกไม่ได้ดูไง”
“มึง! อะ ไอ้เหี้ย”มันกัดฟัน อ้าปากจะด่าผมแต่ก็ด่าออกมาไม่เป็นคำ ผมทำหน้าตายียวน
ลืมไปเลยว่ามันอาจจะชกหน้าผมเข้าให้สักหมัด
ลืมไปชั่วขณะว่าเรากำลังโกรธกันแทบจะมองหน้ากันไม่ติดเพราะสิ่งเลวๆที่ผมทำลงไป
แต่เพียงแค่นี้ ในช่วงเวลานี้ นี่ก็ถือเป็นความสุขเล็กๆของผมแล้ว
“อยากนั่งตรงนี้ก็นั่งไปเลย กูย้ายที่เองก็ได้”มันลุกพรวดขึ้น เร็วจนผมจับตัวไว้ไม่ทัน
ดูท่าผมจะลืมตัวกวนประสาทมากไปหน่อย
“อ้าวๆ จตุภัทธ์ จะลุกไปไหนอีกล่ะ นั่งที่ได้แล้ว”เสียงสวรรค์ดังขึ้น
เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกดีใจเวลาเมื่ออาจารย์เข้าห้องมา ไอ้โจยอมนั่งลงเงียบๆ
ผมอดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มยียวนไปให้มันอีกรอบ มันเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ย้ายไปกูก็ย้ายตามอยู่ดีแหละ” ผมพูดเบาๆมันหามาอ้าปากจะด่าผมอีกครั้ง
“นี่ๆ อย่าเสียงดัง เราอยู่หน้าห้องนะ เพราะมึงแหละ อยากย้ายที่เอง”มันหุบปากลง
ดูหงุดหงิดที่เอาชนะผมไม่ได้ หลังจากนั้น ไม่ว่าจะพูดอะไรไป มันก็ไม่ตอบอะไรกลับมาอีกเลย
ผมจะเล่นกับมันมากก็ไม่ได้ เพราะดันนั่งอยู่ตรงหน้าห้อง ทำอะไรไม่ถนัดซะเลย
ไม่รู้ว่าไอ้แว่นทนนั่งข้างหน้าแบบนี้ได้ยังไง
คาบสี่ก่อนพักของวันนี้เป็นคาบแนะแนว โดยปกติแล้วผมไม่เคยชอบวิชานี้เลย
รู้สึกกระดากแปลกๆที่ต้องมานั่งเขียนความฝันของตัวเองลงในกระดาษ
หรือไม่ก็ต้องมาพูดถึงพระคุณพ่อแม่ให้เพื่อนทั้งห้องฟัง
ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้ล้วนเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่ในใจดีอยู่แล้ว
ไม่จำเป็นจะต้องสร้างสรรค์คำพูดดีๆออกมานำเสนอเลย มันจะทำให้ดูเสแสร้งซะเปล่าๆ
แต่ก็เป็นอีกครั้ง ที่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกขอบคุณวีชานี้
อาจารย์สั่งให้ทุกคนในห้องแยกโต๊ะกัน แม้ผมจะไม่เต็มใจนัก
แต่ก็จำเป็นต้องขยับโต๊ะออกห่างจากไอ้โจ
“วันนี้ครูจะให้นักเรียนบอกความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเพื่อนในห้องนะคะ
ครูเชื่อว่าทุกคนคงจะมีอะไรในใจที่อยากจะบอกกับเพื่อนอีกคน อาจจะอยากขอโทด
อยากขอบคุณหรือบางคนอาจจะแอบชอบ(ถึงตรงนี้มีเสียงโห่ฮาตอบรับจากทั่วห้อง)
แต่ว่าไม่กล้าบอกต่อหน้าเพื่อน และทุกคนก็คงอยากรุ้ว่าเพื่อนคิดยังไงกับตัวเอง
ครูจะให้โอกาสทุกคนได้บอกความในใจของตัวเองให้เพื่อนฟัง ทุกคนจะได้รับกระดาษหนึ่งแผ่น
(อาจารย์เริ่มแจกกระดาษตามโต๊ะ) ให้เขียนชื่อทุกคนไว้ที่มุมกระดาษ
กระดาษของทุกคนจะถูกส่งไปทั่วห้อง เมื่อได้กระดาษของใครก็เขียนความรู้สึกที่มีต่อคนนั้นลงไป
เข้าใจมั้ยคะ”หลายๆคนพยักหน้าเข้าใจ รวมทั้งผม
มี 46 ซื้อ คุณต้องจ่าย 10 Zenny เพื่ออ่านกระทู้นี้ จ่ายเงินสำหรับกระทู้นี้
เสียดายตอนนี้ไม่มีพาสเสียวๆเลย {:5_124:}
สนุกมากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
โค้ชอัปรีย์
ขอบคุณ
ขอบคุณมากนะครับ
อย่าปล่อยโค้ชรอดนะ
สุดท้ายโจก็ยอมคุยกับเอ็กซ์ดีๆซะที
เป็นไปอย่างที่คิดจริง เด็กไอ้เชนทั้งนั้น
ขอบคุณครับ
ดีมากครับ
สนุกดี
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมาก
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
โอ้ยยยย ฉากคืนดีแบบว่า….ดราม่ามากกก อย่างน้อยก็ ep1 ก็ยังดี 5555
และขอบอกว่า ส่วนที่เปิดอ่านให้ฟรี (รวมถึงทุกตอนที่ผ่านมา) ที่บางทีดูยาวจนเหมือนจะจบแล้ว
จริงๆ คือเป็นแค่ส่วนนึงของเนื้อหาในตอนนั้นๆนะครับ บางคนอ่านแค่ส่วนฟรีแล้วคิดว่าจบแล้ว
เนื้อหาเต็มๆ เสียวๆ อยู่ในส่วน Zenny น้าา ยังมีเนื้อหาอีกยาวมากกก ใครที่พลาดตอนก่อนๆ ไปย้อนไปอ่านได้ค้าบ
ตอนก่อนหน้านี้... ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 ตอนที่ 4 ตอนที่ 4.5 ตอนที่ 5 ตอนที่ 6 ตอนที่ 7 ตอนที่ 8
ตอนที่ 9 ตอนที่ 10 ตอนที่ 11 ตอนที่ 11.5 ตอนที่ 12 ตอนที่ 13 ตอนที่ 14
ตอนที่ 15 ไม่เป็นไรนะ
ตอนนี้ไม่มีอะไรเสียวมาก แต่เพื่อความต่อเนื่องก็ลองอ่านกันดูนะคับบ
(เอ็กซ์บรรยายครับ)
เช้าวันนี้ผมก็ไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าอีกเช่นเคย ผมอยากไปเจอไอ้โจ
อยากรู้ว่ามันชอบเพลงที่ผมร้องรึเปล่า ทำไมถึงไม่ตอบอะไรกลับมาเลย
แต่ผมก็ไปไม่ทันดักรอไอ้โจอยู่ดี
เหตุผลเป็นเพราะผมตื่นสายเนื่องจากตื่นนอนกลางดึก(เพราะความฝันบ้าๆนั่น)
เมื่อผมไปถึงโรงอาหาร ผมก็เจอไอ้โจนั่งกินโจ๊กอยู่แล้ว แต่มันไม่ได้นั่งคนเดียว มีไอ้แมน ไอ้แว่น
ไอ้ก๊อต ไอ้บอล แล้วก็ไอ้นัทนั่งอยู่ด้วย เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ผมกับไอ้โจจะได้ไม่กระอักกระอ่วนต่อกัน
“เห้ย วันนี้มาเช้าเชียวนะ”ไอ้แมนพูดพลางตบหลังผมเมื่อผมนั่งลงข้างๆมัน
คนอื่นๆก็ส่งเสียงทักทายผม เว้นก็แต่ไอ้โจที่นั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะ
ในตอนแรกผมเห็นมันพูดอะไรสักอย่างอยู่ แต่เมื่อผมมา มันก็นิ่งเงียบและไม่พูดอะไรอีก
“แล้วกูเคยมาสายด้วยเหรอ”ผมตอบยิ้มๆผลที่ได้รับคือเสียงโห่จากทั้งโต๊ะ
จริงๆแล้วผมมาสายทุกวันนั่นแหละ ถ้าไม่ติดว่าอยากมาเจอไอ้โจล่ะก็
ผมไม่มีวันมาแต่เช้าแบบนี้หรอก
“เพลงเมื่อคืน เป็นไงมั่งวะ” ไอ้แมนแอบลดเสียง กระซิบกระซาบกับผมสองคน
ไอ้เรื่องทำคลิปร้องเพลงมันก็เป็นคนคิดอีกนั่นแหละครับ แต่ผมเลือกเพลงด้วยตัวของผมเอง
เพราะอยากให้มันรับรู้ ว่าผมอยากขอโทษมันจริงๆ
“ไม่รู้เว้ยย มันไม่ได้ตอบอะไรกูเลย”นึกแล้วก็ขัดใจระคนน้อยใจ ถึงผมจะไม่ได้เสียงดีอะไร
แต่ผมก็ตั้งใจร้องจริงๆนะ ถ้าไปร้องที่The voice รับรองกรรมการหันมาทุกคน
“เหรอวะ ตอนมึงไม่มากูก็แย็บๆถามถึงมึงแล้ว แต่ไอ้โจไม่พูดอะไรสักคำ มึงร้องเพี้ยนป่าวสัส”
“เพี้ยนพ่อมึงสิ ตรงคีย์เป๊ะๆไม่มีหลุดสักคำ ไม่เชื่อมึงเอาไปฟังเลย”ไอ้แมนนี่ก็ปากหมา
ผมฝึกร้องเพลงนี้อยู่นานเป็นชั่วโมง ร้องเป็นสิบๆรอบกว่าจะกล้าอัดคลิป
“มึงสองคนกระซิบเหี้ยไรกันเนี่ย”ไอ้บอลถาม ผมกับไอ้แมนหยุดสุมหัวกันทันที
“ไอ้เอ็กซ์ เรื่องไอ้ครูเดชนั่นน่ะ มึงจะเอาไงต่อวะ”ไอ้นัทถามขึ้นมา
ปกติมันเป็นคนเฮฮาไม่เครียดอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องของทีมฟุตบอลนี่มันเครียดครับ
แทบจะเป็นเรื่องเดียวเลยมั้งที่มันเอาจริงเอาจัง ผมก็เกือบลืมเรื่องของไอ้ครูนั่นไปซะสนิท
“เออ ดีและที่พูดขึ้นมา กูว่ากูจะไปปรึกษาโค้ชหมีก่อนว่ะ เผื่อเค้าจะช่วยเปลี่ยนโค้ชให้ได้
ตอนนี้เค้าเป็นหัวหน้าหมวดแล้วไม่ใช่เหรอ”โค้ชฟุตบอลคนเก่าของพวกผมชื่อหมีครับ
จริงๆแล้วแกชื่อสมหมาย แต่เนื่องจากตัวแกบึ้กล่ำเหมือนหมี พวกเราก็เลยเรียกว่าโค้ชหมี
“เออไอ้นัทมันเล่าให้พวกกูฟังแล้วนะ พวกมึงก็ใจร้อน เสือกไปต่อยกับครู”ไอ้แมนพูด นอกจากผม
ไอ้นัท และไอ้โจ คนอื่นๆคงไม่รู้เรื่องเมื่อวาน เพราะพวกมันไม่ได้อยู่ในทีมฟุตบอล
“ใครว่าล่ะ ก็เม่งหาเรื่องพวกกุก่อนนี่หว่า ครูห่าไรโรคจิตชิบหาย ไปฟ้องผ.อ.เม่งยังได้เลยมั้ง
พวกเรามีพยานเยอะแยะ ทั้งทีมเลยนะมึง”ผมพูดตามข้อเท็จจริง แม้มันจะเป็นครู
แต่พวกเรามีพยานทั้งทีม เว้นก็แต่ไอ้ห่าพีกับไอ้ห่าต้น สองลูกสมุนของไอ้เชนเท่านั้นแหละ
ลองได้รู้พฤติกรรมโรคจิตรังแกนักเรียนของไอ้ครูนั่น ไม่มีโรงเรียนไหนบ้าเอามันไว้หรอก
แต่กระนั้นไม่มีใครส่งเสียงตอบรับคำพูดของผมเลย
“กรูว่าเรื่องมันจะไม่ง่ายแบบนั้นดิวะ”ไอ้ก๊อตพุดสีหน้าเป็นกังวล คนอื่นๆก็มีสีหน้าแบบนั้นด้วย
ดูท่าก่อนที่ผมมาพวกมันจะแลกเปลี่ยนข้อมูลอะไรกันมากมายทีเดียว
“ทำไมวะ”ผมถาม รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล
“ไอ้ครูเดชนั่นมันไม่ใช่ครูธรรมดานะเว้ย กูได้ยินไอ้แม็คพูด ว่าครูนั่นน่ะใช้เส้นพ่อไอ้เชนเข้ามา
เพราะอย่างงั้นมันเลยได้ห้องทำงานส่วนตัว แถมพอเข้ามาก็ได้เป็นโค้ชทันทีอีก”อ๋อ
มิน่าละ..คนของพ่อไอ้เชน มิน่า
ไอ้พีกับไอ้ต้นถึงได้ตอบรับคำสั่งไอ้ครูนั่นเหมือนเป็นทาสซะขนาดนั้น ก็เป็นครูของลูกพี่นี่นะ
(ไอ้แม็คนี่ก็เป็นเพื่อนคนนึงของไอ้เชนน่ะครับ ไอ้ก๊อตมันอยู่ชมรมบาส
เลยได้รู้เรื่องเกี่ยวกับกลุ่มของไอ้เชนเยอะ)
“แต่มันจะทำอะไรเราได้วะ เรามีพยานทั้งทีมเลยนะ”ผมยังยืนกราน
แต่น้ำเสียงไม่มั่นใจเท่าในตอนแรก เป็นที่รู้กันดีว่าพ่อไอ้เชนมีอิทธิพลต่อโรงเรียนนี้ขนาดไหน
ไม่งั้นลูกสุดเหี้ยของมันคงจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนไปนานแล้ว
“ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะวะ”ไอ้นัทพูด บทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้จบเพียงเท่านี้
ผมลอบมองหน้าไอ้โจ รู้สึกได้ว่ามันรีบหันหน้าหลบในช่วงเสี้ยววินาทีนั้น ถ้าเป็นแบบนั้น
เมื่อกี้มันก็จ้องหน้าผมอยู่น่ะสิ...
ตอนเดินขึ้นไปเข้าแถวบนห้อง ผมเห็นไอ้โจวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ข้างๆไอ้แว่นอีกครั้ง
ผมนึกน้อยใจมันขึ้นมาทันที นี่มันยังไม่ยอมนั่งกลับมากับผมอีกเหรอนี่
ผมมองเลยไปที่กระเป๋าไอ้แว่น แล้วก็เกิดความคิดบางอย่าง
“แว่นๆ” ผมดึงหลังเสื้อไอ้แว่นไว้ก่อนที่มันจะเข้าไปในห้อง มันหามามองเป็นเชิงถาม
“มีอะไร”
“ช่วยอะไรกูหน่อยดิ” ผมยิ้มแป้นให้มัน มึงไม่นั่งข้างกูก็ไม่เป็นไรหรอกไอ้โจ กูไอ้เอ็กซ์ซะอย่าง
เมื่อผมเข้าไปในห้อง ไอ้แว่นก็เดินไปนั่งข้างหลังเงียบๆตามที่ผมขอ
ส่วนข้างๆไอ้โจยังเป็นที่นั่งว่างอยู่ ผมค่อยๆเดินเข้าไปก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งช้าๆ
ไอ้โจไม่ได้สังเกตเลยว่าผมเข้ามานั่งข้างมันแล้ว เพราะมันกำลังเสียบหูฟังดูอะไรในมือถืออยู่ก็ไม่รู้
คงจะคิดว่าผมเป็นไอ้แว่น ผมแอบเหลือบมอง รู้สึกภาพในคลิปมันดูคุ้นๆ
แล้วตัวผมก็ร้อบวาบด้วยความตื่นเต้น - มันดูคลิปร้องเพลงของผมอยู่
“แน่ะ! ดูไรอะ” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ผลก็คือไอ้โจตกใจร้องเหวอ สะดุ้งโหยงจนแทบตกเก้าอี้
ทำเอาผมรู้สึกผิดนิดๆที่ไปแกล้งมัน มันรีบปิดคลิปในมือถือ ก่อนจะหันมามองผมตาเขียวปั๊ด
สีหน้านี้คุ้นตาน่ารักเสียจนผมต้องยิ้มยิงฟันตอบ ไอ้โจไม่พูดอะไรแต่หันไปมองด้านหลัง
ซึ่งมีไอ้แว่นที่กำลังยิ้มแหยพลางโบกมือขอโทดอยู่
“อย่าไปว่ามันเลย กูขอมันเองแหละ”คำพูดของผมเรียกความสนใจของไอ้โจกลับมา
แต่พอเห็นหน้าที่มันมองผม ผมคิดว่ามันไม่สนใจผมนั่นแหละดีแล้ว
“มีอะไร” มันยังคงมีท่าทีเหมือนเดิม คือมีสีหน้าเย็นชา สงวนคำพูดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมอดน้อยใจนิดๆไม่ได้ แบบนี้ก็แสดงว่าน้องหมีกับเพลงของผมไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสิ -
ไม่หรอก เมื่อกี้มันยังดูคลิปร้องเพลงของผมอยู่เลยนี่ คำพูดนี้ทำให้ผมกลับมามีกำลังใจอีกครั้ง
“ก็แค่อยากนั่งข้างมึง
แล้วมึงไม่ยอมนั่งข้างกู”ผมพยายามทำหน้าสลดให้ดูน่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่สีหน้าของไอ้โจไม่ได้อ่อนโยนลงเลย
“แล้วคิดจะถามกูบ้างมั้ย ว่ากูอยากนั่งกับมึงรึเปล่า” มันหันหน้าไปมองกระดาน
ปล่อยให้ผมโดนคำพูดของมันเชือดใจเอาเต็มๆ
“ก็ถ้ากูถามก่อน กูจะได้เห็นมึงนั่งดูคลิปกูแบบนี้เหรอ”อารมณ์น้อยใจทำให้ผมเผลอโพล่งออกไป
แต่จะปิดปากก็ไม่ทันแล้ว ช่างมันแล้วกัน อยากใจร้ายดีนัก อย่างน้อยประโยคนี้ก็ได้ผล
ไอ้โจชะงักไปทันที
“กูไม่ได้ดูซะหน่อย”มันปฏิเสธเสียงแข็ง เบือนหน้าหนีซึ่งคงไม่ใช่เพราะไม่อยากมองหน้าผมหรอก
เป็นเพราะมันต้องซ่อนสีหน้าของมันเองมากกว่า
“ปากแข็ง”ผมยั่วโมโห ซึ่งก็ได้ผลอีก มันหันกลับมาด่าผมทันที
“ไม่ได้ดูโว้ย!”สะกิดนิดหน่อยถึงกับตบะแตกเลยทีเดียว ไม่มีใครรู้จุดอ่อนของไอ้โจดีเท่าผมหรอก
“กูร้องเพราะปะ”ผมยื่นหน้าไปใกล้มัน ทำให้มันถอยหลังหนี
“ไม่ได้เรื่อง”มันตอบทันควัน ผมยิ้มแป้นอีกครั้ง
“ไหนบอกไม่ได้ดูไง”
“มึง! อะ ไอ้เหี้ย”มันกัดฟัน อ้าปากจะด่าผมแต่ก็ด่าออกมาไม่เป็นคำ ผมทำหน้าตายียวน
ลืมไปเลยว่ามันอาจจะชกหน้าผมเข้าให้สักหมัด
ลืมไปชั่วขณะว่าเรากำลังโกรธกันแทบจะมองหน้ากันไม่ติดเพราะสิ่งเลวๆที่ผมทำลงไป
แต่เพียงแค่นี้ ในช่วงเวลานี้ นี่ก็ถือเป็นความสุขเล็กๆของผมแล้ว
“อยากนั่งตรงนี้ก็นั่งไปเลย กูย้ายที่เองก็ได้”มันลุกพรวดขึ้น เร็วจนผมจับตัวไว้ไม่ทัน
ดูท่าผมจะลืมตัวกวนประสาทมากไปหน่อย
“อ้าวๆ จตุภัทธ์ จะลุกไปไหนอีกล่ะ นั่งที่ได้แล้ว”เสียงสวรรค์ดังขึ้น
เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกดีใจเวลาเมื่ออาจารย์เข้าห้องมา ไอ้โจยอมนั่งลงเงียบๆ
ผมอดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มยียวนไปให้มันอีกรอบ มันเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ย้ายไปกูก็ย้ายตามอยู่ดีแหละ” ผมพูดเบาๆมันหามาอ้าปากจะด่าผมอีกครั้ง
“นี่ๆ อย่าเสียงดัง เราอยู่หน้าห้องนะ เพราะมึงแหละ อยากย้ายที่เอง”มันหุบปากลง
ดูหงุดหงิดที่เอาชนะผมไม่ได้ หลังจากนั้น ไม่ว่าจะพูดอะไรไป มันก็ไม่ตอบอะไรกลับมาอีกเลย
ผมจะเล่นกับมันมากก็ไม่ได้ เพราะดันนั่งอยู่ตรงหน้าห้อง ทำอะไรไม่ถนัดซะเลย
ไม่รู้ว่าไอ้แว่นทนนั่งข้างหน้าแบบนี้ได้ยังไง
คาบสี่ก่อนพักของวันนี้เป็นคาบแนะแนว โดยปกติแล้วผมไม่เคยชอบวิชานี้เลย
รู้สึกกระดากแปลกๆที่ต้องมานั่งเขียนความฝันของตัวเองลงในกระดาษ
หรือไม่ก็ต้องมาพูดถึงพระคุณพ่อแม่ให้เพื่อนทั้งห้องฟัง
ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้ล้วนเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่ในใจดีอยู่แล้ว
ไม่จำเป็นจะต้องสร้างสรรค์คำพูดดีๆออกมานำเสนอเลย มันจะทำให้ดูเสแสร้งซะเปล่าๆ
แต่ก็เป็นอีกครั้ง ที่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกขอบคุณวีชานี้
อาจารย์สั่งให้ทุกคนในห้องแยกโต๊ะกัน แม้ผมจะไม่เต็มใจนัก
แต่ก็จำเป็นต้องขยับโต๊ะออกห่างจากไอ้โจ
“วันนี้ครูจะให้นักเรียนบอกความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเพื่อนในห้องนะคะ
ครูเชื่อว่าทุกคนคงจะมีอะไรในใจที่อยากจะบอกกับเพื่อนอีกคน อาจจะอยากขอโทด
อยากขอบคุณหรือบางคนอาจจะแอบชอบ(ถึงตรงนี้มีเสียงโห่ฮาตอบรับจากทั่วห้อง)
แต่ว่าไม่กล้าบอกต่อหน้าเพื่อน และทุกคนก็คงอยากรุ้ว่าเพื่อนคิดยังไงกับตัวเอง
ครูจะให้โอกาสทุกคนได้บอกความในใจของตัวเองให้เพื่อนฟัง ทุกคนจะได้รับกระดาษหนึ่งแผ่น
(อาจารย์เริ่มแจกกระดาษตามโต๊ะ) ให้เขียนชื่อทุกคนไว้ที่มุมกระดาษ
กระดาษของทุกคนจะถูกส่งไปทั่วห้อง เมื่อได้กระดาษของใครก็เขียนความรู้สึกที่มีต่อคนนั้นลงไป
เข้าใจมั้ยคะ”หลายๆคนพยักหน้าเข้าใจ รวมทั้งผม
หน้า:
[1]
2