ไฟรักริษยา EP 2 ต้องปรับตัวให้ได้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nuttsoy เมื่อ 2021-10-23 21:05ตอนที่ 2 ต้องปรับตัวให้ได้
ผมเดินออกจากห้องประชุม ตัวเลื่อนลอย ไม่รู้จะตั้งหลักอย่างไรดี แต่ในเมื่อคุณลุงมอบหมายงานนี้ให้ทำแล้ว ต้องบอกกับตัวเองว่า ต้องทำให้ได้ ผมได้แต่มองเอกสารอะไรก็ไม่รู้ที่ผมไม่รู้จัก นี่แหละนะ ชีวิตเด็กเส้น ผมเชื่อว่า พนักงานหลายคน มีความสามารถกว่าผม ที่จะทำงานตรงนี้ได้ แต่เป็นเพราะผมเป็นหลานเจ้าของบริษัท จึงได้ตำแหน่งนี้มาครอง ผมเดินไปที่ห้องทำงานแม่ และเคาะประตู เพื่อจะขอคำปรึกษา ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เข้ามา" แม่ผมพูดด้วยเสียงหนักแน่น ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป แม่ผมเปลี่ยนเสียงทันที ผมปิดประตู แม่ผมเงยหน้าขึ้นมา
"อ้าว เพชร ว่าไงลูก" ผมมองหน้าแม่
"แม่ เพชรทำไม่ได้แน่เลย ตำแหน่งนี้มันดูยิ่งใหญ่เกินไป แม่ไม่เห็นบอกกับผมเลย"
"แม่เองก็เพิ่งทราบเหมือนกันพร้อมลูกนะแหละ เพชรไม่ต้องคิดมาก คุณลุงท่านตัดสินใจไปแล้วทำวันนี้ให้ดีที่สุดเถอะลูก มีอะไรก็ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป เดี๋ยวก็ได้ไปเอง ถามพี่ ๆ เค้าก็ได้ พี่อธิชาตินะ เค้าเก่งเรื่องนี้"
"ครับแม่" ผมพูดอย่างเนือย ๆ
"ไม่เอาน่า เพชร อย่าทำเสียงแบบนี้ ลูกแม่ เก่งอยู่แล้ว"
"ครับแม่ ผมจะพยายาม"
"จ๊ะ แม่เชื่อ ว่าเพชรของแม่ทำได้"
"งั้น ผมกลับห้องนะครับ"
"จ้า" แม่ผมลากเสียงยาวขณะพูด ท่านก็ทำงานไปด้วย นั่งหลังตรง มาดนิ่ง แบบมืออาชีพ ผมเพิ่งเห็นแม่ในมาดนักธุรกิจก็วันนี้แหละผมเดินออกมาจากห้องแม่ กลับห้องตัวเองเห็นพี่ไผ่รอยู่หน้าห้อง
"อ้าว พี่ไผ่ มีอะไรหรอครับ เอ้ย คุณพงศ์เดช มีอะไรหรอครับ" ผมเปลี่ยนคำพูดจากพี่ไผ่เป็นคุณพงศ์ทันที พี่ไผ่ได้ยินได้แต่ยืนขำผมเปิดประตูให้พี่ไผ่เข้ามาในห้อง และปิดห้องเรียบร้อย
"คุณพงศ์เดชมีธุระอะไรครับ" ผมทำสีหน้าแววตาเคร่งขรึมนั่งตัวตรงทันที แต่ไหงพี่ไผ่ของผมยืนขำซะงั้น
"คุณเพชร ไม่ต้องเรียกพี่ว่าคุณพงศ์เดชแล้วครับ"
"อ้าว ทำไมอะครับ" ผมชักงง เดี๋ยวให้เรียกเดี๋ยวไม่ให้เรียก
"ก็คุณเพชรอยู่ในห้องแล้วนี่ครับ" พี่ไผ่พูดสีหน้าเปื้อนยิ้ม
"เออ นั่นสิ" ผมทำหน้างง ๆ ขำตัวเอง พร้อมพิงเก้าอี้อย่างสบายใจ
"แล้วพี่ไผ่มาหาผมทำไมหรอครับ เฮ้อ หายอึดอัดซักที ต้องคอยมานั่งพูดที่ไม่ใช่ตัวเอง" ผมระบายความทุกข์ให้พี่ไผ่ฟังพร้อมถอนหายใจเฮือกยาวยาว
"เดี๋ยวก็ชินครับ คุณเพชร ที่พี่มา คุณลุงให้ผมมาสอนการทำบัญชีให้คุณเพชรครับ"
"เออ พี่ไผ่ ไม่ต้องเรียกเพชรว่าคุณเพชรก็ได้ เรียกเพชรเฉย ๆได้และ"
"พี่ไม่คุ้นนะครับ พี่เรียกคุณเพชร ว่าคุณเพชรมาตั้งแต่เด็ก ๆ"
"เออวะ ผมลืม ผมนี่ก่งก๊งจริง ๆ เลย" ผมพูดจนลืมมองเอกสารที่พี่ไผ่ถือมาทั้งตั้ง
"พี่ไผ่ นี่อย่าบอกนะ ว่าทั้งหมด ไม่เอาอะ เพชรไม่เรียน" และผมก็ลุกจากเก้าอี้นั่ง และเดินไปทางตู้โชว์
"เอาน่าคุณเพชร สู้ ๆ เดี๋ยวก็ได้" พี่ไผ่ให้กำลังใจผม ทั้ง ๆ ที่ผมไม่อยากมีความสามารถด้านนี้ ตอนเรียนวิชานี้ที่อเมริกากับตอน ม ปลายก็จะอวกแตกอยู่แล้ว นี่มาเจอที่ทำงานเต็ม ๆ แต่ผมก็ได้แต่ยืนเก๊กหล่อตรงตู้ ไม่มีอะไรหรอกครับ ถ่วงเวลาเฉย ๆ
"มานี่เลยคุณเพชร อย่าดื้อ" พี่ไผ่ลากเก้าอี้มาที่โต๊ะทำงานผมและนั่งลง ผมเลยจำใจต้องเดินตามไปนั่งโต๊ะตัวเองผมมองสภาพตัวเองแล้วก็สมเพช โต๊ะเก้าอี้ครบชุดหรูหรา แต่ไม่มีความสามารถ ความรู้ที่เรียนมาก็แค่การตลาดพื้น ๆ เทียบไม่ได้เลยกับพี่ไผ่ที่ทำงานกับคุณลุงมาเป็นปี แต่ก็เอาวะ ลองดูก็ได้ บัญชีนี่หนีไม่พ้นจริง ๆ แต่ก็ดีกว่ามาเรียนภาษาไทย ถ้าอันนั้นนะ ผมไม่ยอมเด็ดขาด
" ครับ ๆๆๆๆ อะ อะ" ในที่สุด ผมก็ไปนั่งข้างพี่ไผ่จนได้ ผมต้องตั้งใจ ตั้งใจและก็ตั้งใจ เพื่อที่พ่อแม่จะได้ไม่ผิดหวังและโดนคุณลุงว่า พี่ไผ่ก็ให้ผมทำ ทำ ทำ ฝึกทำแบบฝึกหัดบัญชี ตั้งแต่ ปีที่แล้วทั้งปี มีเป็นโจทย์ปัญหามาเลย ยิ่งกว่าสอบที่มหาลัยอีก ผมเห็นจนมึนจะอวกเป็นตัวเลขอยู่แล้ว พี่ไผ่บวกลบเลขไวมาก ส่วนผมนะหรอ ตามพี่ไผ่ไม่ทันทุกที และส่วนใหญ่ผมก็มักจะคำนวณผิด นี่ขนาดแค่ใช้เครื่องคิดเลขบวกลบนะเนี่ย ผมยังพลาดเลย นับประสาอะไรกับเรื่องอื่น
"อ้าว ผิดอีกแล้วอะ พี่ไผ่"
"คุณเพชรต้องระวังเรื่องนี้ให้มากนะครับ เพราะถ้าผิดแม้เพียงตัวเดียว จะทำให้ผิดไปทั้งหมดได้"
"ครับ พี่ไผ่ รู้แล้วน่า แต่ทำไงได้ละ มันผิด" ผมรับคำมาอย่างหน้าจ๋อย ๆ และผมก็คิดใหม่อีกรอบ คราวนี้ ผมทำอย่างระมัดระวังกว่าเดิม ครั้งหลังผมทำถูก พี่ไผ่กาถูกให้ผมโคตรดีใจ อารมณ์ประมาณนักเรียนได้ดาวจากคุณครู
"ว่าแต่ ทำไมเราต้องเรียนบัญชีด้วยครับ เราก็แค่จ้างคนที่เก่งบัญชีมาทำ ทุกอย่างก็จบ" ผมออกความเห็น
"ไอ้เรื่องนั้น มันใช่อยู่ครับ แต่ถ้าเจ้าของรู้วิธีการทำบัญชี จะทำให้เราป้องจากการโดนโกงไงครับ”
"ยังไงอะครับ คนทำบัญชีนี่โกงเราได้ด้วยหรอ ก็แค่ทำตามคำสั่ง" ผมพูดออกไปเท่าที่รู้ ถึงแม้จะแสดงความโง่ออกมา
"ถ้าแค่นั้นก็ดีสิครับ แต่บางคน ถ้าเค้าคิดจะทำ เค้าก็เอาตัวเลขไม่จริงมาหลอกเรา ถ้าเราไม่เป็นเลยเนี่ย จะทำให้เราตรวจสอบลำบากครับ ว่าตัวเลขเหล่านี้มันมาอย่างไร ที่หลายบริษัทเจ๊ง ก็เพราะเหตุผลนี้ก็เยอะ"
"อ๋ออออออ" ผมร้องอ๋อยาว และพี่ไผ่เคยคิดอย่างนั้นบ้างรึเปล่า ผมหมายถึงโกงนะ ผมได้แต่คิด แต่ไม่กล้าถามออกไปเพราะรู้ดีว่าพี่ไผ่เป็นคนซื่อสัตย์ ไม่เช่นนั้น คุณลุงคงไม่เลี้ยงดูมายาวนานถึงขนาดนี้ ผมนั่งทำบัญชีกับพี่ไผ่จนถึงใกล้เที่ยง11 โมง ท้องก็ร้องจ๊อก จ๊อกใกล้หิว พี่ไผ่ก็ให้ผมดูเอกสารบัญชีนู่นนี่นั่นอย่างเยอะ ตั้งใจอธิบายมากกกกกก ต้องมากยาวยาวเพราะมันมากจริง ๆ แต่ผมก็ผ่อนคลายอยู่บ้างนะ เพราะผมได้กลิ่นน้ำหอมของพี่ไผ่ มันหอมเย็นดีจริง ๆ
"พี่ไผ่ครับ" ผมพูดในขณะที่ทำแบบฝึกหัดไปถามพี่ไผ่ดีกว่าใส่น้ำหอมอะไร นิดเดียวคงไม่เป็นไร เราสองคนนั่งเงียบอย่างกะอยู่ในป่าช้า
"พี่ไผ่ใส่น้ำหอมอะไรครับ หอมจัง"
"คุณเพชร จริงจังหน่อยสิ มีสมาธิกับงาน อย่านอกเรื่องสิครับ" พี่ไผ่สีหน้าจริงจังมากเลยครับ สีหน้าเคร่งเครียด ดุผมอย่างกับครูที่โรงเรียนตอนผมเป็นเด็กๆผมหน้าจ๋อยอีกแล้วครับท่าน
"ก็ผมหิวแล้วอะครับ พี่ไผ่ ไปกินก่อนได้เปล่า พี่ไผ่ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว"
"ไม่ได้ครับ ไม่ได้เด็ดขาด คุณลุงเคยบอกไว้ว่า การที่จะเป็นนายคน ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ใช่นึกจะกิน ก็ไปกินไม่เป็นเวล่ำเวลา ไม่งั้น เราจะปกครองคนได้อย่างไร" หน้าพี่ไผ่ยังเครียดต่อได้อีก
"โห่ พี่ไผ่ อะไรก็คุณลุง คุณลุงสั่ง เพชรหิวไส้จะหลุดอยู่แล้ว น่า พี่ไผ่ ติ๊ดเดียวเอง" ผมอ้อนวอนพี่ไผ่ เผื่อจะได้ผล และผมก็มึนกับตัวเลขจะแย่อยู่แล้วเนี่ย
"ไม่ได้ครับ พี่ไม่อนุญาต" หา พี่ไผ่กล้าใช้คำว่าไม่อนุญาต โห กฎคุณลุงนี่ แหกไม่ได้เลยซักกะข้อเดียว
"ทำแบบฝึกหัดต่อเลยคุณเพชร เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมง" ผมมองดูนาฬิกาเหมือนยาวนานแสนนาน ผมต้องฝืนใจทำไอ้โจทย์บัญชีที่ไม่เคยคิดชอบ ก็ต้องมานั่งทำแบบอึดอัด ผมนั่งทำไปถอนหายใจไปไม่ค่อยอยากทำ
"คุณเพชร พี่ดุแล้วนะ" เสียงพี่ไผ่ดูเอาจริงที่เห็นผมเหลาะแหละ ผมเลยนั่งทำโดยไม่ถอนหายใจ คิดในใจ กลัวตายอะ มาทำดุ
"อะ อะ อะ พี่ให้พัก นี่ไม่ใช่สงสารคุณเพชรนะ แต่เห็นเพราะว่าใกล้เที่ยงและ เดี๋ยวสมองคุณเพชรจะไม่รับ"
"เฮ้อออออ ค่อยยังชั่ว"ผมนั่งพิงพนักเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย เอามือนวดขมับ
"คุณเพชรนี่ เหมือนเด็ก ๆ ข้างนอก คุณเพชรต้องมีมาดกว่านี้นะครับ" พี่ไผ่พูดไปยิ้มไป
"คร้าบบบบ พี่ไผ่ รู้แล้วน่า"
"คุณเพชรเด็กดื้อ" พี่ไผ่ พูดไป ยักคิ้วไป
"ไม่ดื้อ"
"ดื้อ พี่ว่าดื้อ"
"ไม่ดื้อ"
"ดื้อ"
"พี่ไผ่จะเถียงผมให้มันได้อะไรขึ้นมา เฮ้อออ เถียงกันไปมาอย่างกับเด็กๆ" พี่ไผ่นั่งขำ
"ก็เถียงกับเด็กนี่ครับ พี่เห็นเด็กเถียงกันก็แบบนี้แหละ" พี่ไผ่ยียวนผมได้ใจจริง ๆเลย
"เฮ้ย ผมไม่เด็กแล้วนะ จบมหาลัยแล้ว เด็กได้ไง" ผมชักโกรธ กับการยียวนกวนประสาทของพี่ไผ่
"อะ อะ อะ พี่ยอมคุณเพชร เห็นคุณเพชรยังเด็ก"
"พี่ไผ่!" ผมพูดเสียงดัง โมโหพี่ไผ่ กวนประสาทจริง ๆ ส่วนพี่ไผ่นั่งขำหัวเราะชอบใจ
"โอเคโอเค พี่ไม่แกล้งและ ไปครับ ได้เวลากินข้าวแล้ว" ผมหันไปมองนาฬิกา เออ นั่งเถียงกับพี่ไผ่แป๊บเดียว ครึ่งชั่วโมงและ ไม่เหมือนตอนทำบัญชี เฮ้อ ไม่รู้ว่าตอนกินข้าว จะต้องเจอกับอะไรอีก คุณเพชรจะรอดมั้ยเนี่ย ผมคิด
……………………………………………………………………………………...................................................................................................……
ตอนที่ 3 อาหารกลางวันมื้อแรก
หายใจ ยังงัยกันพี่น้องคู่นี้ ตัวหนังสือหนา อ่านลำบาก ขอบคุณครับผม ขอบคุณคับ ขอบคุณคคับ x-2008 ตอบกลับเมื่อ 2021-9-10 02:54
ตัวหนังสือหนา อ่านลำบาก
ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำ สนุกมากครับ nuttsoy ตอบกลับเมื่อ 2021-9-10 06:13
ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำ
ยินดีครับ ติดตามอ่านอยู่นะครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณคับ มันต้องมีอะไร คริคริ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ใครริษยาใครเนี่ย ข อ บ คุ ณ ค รั บ ไผ่หล่อออออ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2