Thanaphon โพสต์ 2021-10-16 23:51:12

สาปสวาท อาถรรพ์โลกีย์ ตอนที่2

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Thanaphon เมื่อ 2021-12-6 04:27

               หลายเดือนต่อมาจากกระท่อมหลังน้อยที่พ่อแม่ยกให้ บึก เอาไว้ใช้เป็นเรือนหอร่วมกับ เดือน บัดนี้ก็ได้เปลี่ยนเป็นบ้านไม้หลังใหญ่แข็งแรง โดยที่บึกเอง หวังจะใช้บ้านหลังนี้สร้างครอบครัวอันแสนสุข ที่อุดมไปด้วยตน เมียรัก และลูกน้อยที่กำลังใกล้จะลืมตาออกมาดูโลกเต็มที      "อุ้ย! พี่บึกอ่ะ เดือนตกใจหมด"      เดือนเอ่ยสะดุ้งตกใจ เมื่อถูกฝ่ามือหนาใหญ่ของชายคนรัก สวมกอดเข้ามาจากทางด้านหลัง อย่างที่ไม่ทันระวังได้ตั้งตัว ในขณะที่กำลังยืนมองเหม่อถึงอนาคตของลูกน้อยที่ใกล้จะเกิดมา อยู่หน้าระเบียงบ้าน       "พี่ขอโทษ ก็พี่คิดถึงลูกหนิ อยากรู้ใจจะขาดแล้ว ว่าลูกของเราจะเป็นชายหรือหญิง"      บึกเอ่ยยิ้ม พร้อมลูบไล้ท้องโย้ของเมียรักไปมา อย่างมีความสุข       "พี่บึกอ่ะ เล่นอะไรก็ไม่รู้ ดูสิ ลูกดิ้นใหญ่เลย ว่าเเต่พี่ว่าลูกของเราจะเป็นลูกชาย หรือลูกสาว"      "ไม่รู้สิ พี่รู้เพียงว่า ไม่ว่าลูกของเราจะเกิดมาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง พี่ก็รักหมดนั่นแหละจ๊ะ"      "เดือนก็เหมือนกันจ๊ะพี่ ว่าแต่พี่จะตั้งชื่อให้ลูกว่าอะไรดี ถ้าเป็นผู้หญิง เดือนขอตั้งชื่อให้ว่า บัว นะจ๊ะพี่"       "บัว ชื่อเพราะดีนะ พี่ชอบ แต่ถ้าลูกเป็นผู้ชาย พี่จะให้ชื่อว่า ดิน จะได้ดูแข็งแรงเหมือนพ่อมัน"       "จ๊ะพี่…."       สองผัวเมียต่างโอบกอดกันไป เอ่ยยิ้มถึงอนาคตของทายาทตัวน้อยกันไปอย่างมีความสุข โดยหารู้ไม่ว่า ความสุขของตนทั้งสองนั้น ราวกับเป็นรอยมีดอันแสนคมกริบทิ่มแทงจิตใจ ให้กับเจ้าของสายตาที่คอยแอบยืนดูอยู่เป็นอย่างมาก       "อีเดือน มึงนะมึง คนที่พี่บึกสมควรจะกอด จะหอม มันคือกู! ไม่ใช่มึง! อีเพื่อนทรยศ!"       ดาวเรือง เอ่ยพรึมพรำ พร้อมกำหมัดแน่น ด้วยอารมณ์ที่โกรธแค้นเต็มที่ เมื่อได้เห็นภาพบาดตาบาดใจของอดีตเพื่อนสาว ที่กำลังถูกชายหนุ่มที่เธอแอบหลงรักกอดจูบอย่างรักไคร่ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกสติ แล้วจึงได้รีบพุ่งร่างเดินจากมาทันที                   ช่วงเวลาหัวค่ำ ณ. บริเวณท้ายหมู่บ้าน อันเป็นที่ตั้งศาลของนางมารร้ายในคราบเจ้าแม่ ที่ดาวเรืองหลงเชื่อนับถือ       "เจ้าแม่เจ้าขา เมื่อไหร่ลูกจะสมหวังกับพี่บึกสักทีล่ะเจ้าคะ ลูกรอมานานเกินไปแล้วนะเจ้าคะ รอเสียจนตอนนี้อีเดือน ศัตรูหัวใจของลูกมันท้องโย้ ใกล้จะคลอดแล้วนะเจ้าคะ"       ดาวเรืองยกมือไหว้ เอ่ยสบถถึงความต้องการที่มันคับแน่นอยู่เต็มจิตใจออกมาต่อหน้าศาลไม้ทันที หลังจากที่วางถาดเครื่องเส้นบูชาได้ ทันใดนั้นเอง สายลมในบริเวณก็ได้พัดพาเสียงหัวเราะอันเย็นสยองที่คุ้นหูดังแว่วขึ้นทันที      "หึหึหึ!!!"       ก่อนจะปรากฏรูปกายของแม่หญิงหน้าตาสะสวย ผิวพรรณเรืองแสงขาวเนียนผุดผ่องราวกับนางสวรรค์ ในชุดกระโจมอกประดับด้วยเครื่องทองโบราณ ต่อหน้าต่อตาดาวเรืองทันที      "จ้า เจ้าแม่…."       เล่นเอาดาวเรืองถึงกับเอ่ยเสียงสั่นตะกุก ด้วยความสยดจิตสยองใจไม่น้อย   "หึหึหึ!...รออีกหน่อยสิว่ะ อีดาวเรือง ในเมื่อข้าบอกว่าจะทำให้เอ็งสมหวัง มันก็ต้องสมหวัง แต่มันยังไม่ถึงเวลา...หึหึหึ"    นางมารเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกพร้อมแสยะรอยยิ้มอันชวนสยองให้หญิงสาวที่นั้งพับเพียบอยู่ตรงหน้า เล่นเอาดาวเรืองถึงกับต้องรีบก้มหน้าหลบหลีกความน่าเกรงกลัวทันที    "จะ...จ่ะเจ้าแม่…"    ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงสั่นเป็นอันว่ารับทราบ   "แล้วเอ็งก็อย่าลืมสัญญาที่ให้กับข้าไว้ล่ะ ถ้าเอ็งลืมละก็ เอ็งจะไม่ได้อะไรเลย แม้แต่ชีวิตของเอ็ง! เข้าใจไหม อีดาวเรือง!"   นางมารเอ่ยวาจาลั่น ราวกับเสียงคำรามของอสูรร้าย เล่นเอาจิตใจของดาวเรืองที่สั่นหวั่นไหวด้วยความเกรงอยู่แล้ว พอมาเจอนางมารข่มขู่เรื่องชีวิตเอาแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้กระเจิงสั่นสะท้านหนักกว่าเก่า จนมิอาจจะทานทนนั้งอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว    "จา...จ่ะ...เจ้าแม่...ลูกไม่ลืม...ไม่มีวันลืมแน่นอนจ่ะ...ของ...ของบูชา...ลูกเตรียมมาให้แล้วนะจ๊ะ...ลูก...ลูกขอตัวลาแล้วนะจ๊ะ...เจ้าแม่…"   ไม่รอช้า ดาวเรืองรีบลุกพรวดขึ้นอย่างไว แล้วรีบนำพาร่างบอบบางของตนวิ่งเข้าหมู่บ้านไปทันที      "หึหึหึ...หาใช่มีมึงที่รอเพียงผู้เดียวไม่ อีดาวเรือง กูเอง...ก็ทนรอ...จนแทบจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน…"   นางมารเอ่ยพรึมพรำ พร้อมเหลือบสายตาที่คมกริบ ลงไปมองเล็บยาวบนปลายนิ้วทั้งสิบ ที่บัดนี้มันได้ค่อยๆเลือนลางจนแทบจะจางหายไปกับอากาศลงไปทุกทีๆ


            ในที่สุดวันแห่งการรอคอยของ บึก ที่จะได้ทำหน้าที่เป็นพ่อคนเต็มตัวก็มาถึง เสียงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดของ เดือน ดังระงมลั่นบ้านในช่วงหัวค่ำ ส่งสัญญานให้รู้ว่า ทารกน้อยที่อยู่ในครรภ์ของตน อยากจะออกมาลืมตาดูโลกเต็มที่แล้ว   "โอ้ยยย!!! แม่จ๋า...เดือนปวดท้อง...โอ้ยยย...ปวดเหลือเกิน…"      เดือนร้องโอดครวญด้วยอาการเจ็บปวดท้องเป็นอย่างมาก ให้ผู้เป็นแม่ยายที่ยืนดูอาการได้รับรู้      "อดทนหน่อนนะเดือนเอ่ย ไอ้บึกมันกำลังวิ่งไปตามยายเเม้นมาให้แล้ว ไอ้ทิดโว้ย! มึงดูไอ้บึกกับยายแม้นสิว่ะ! มันใกล้จะมากันแล้วหรือยัง!"      แม่ยายเอ่ยปลอบใจลูกสะใภ้ ก่อนจะหันใบหน้าไปตะโกนเอ่ยกับผู้เป็นสามี ที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน   ด้วยความที่หมู่บ้านและพื้นที่ในละแวกแห่งนี้ความเจริญนั้นยังเข้ามาไม่ถึง นั่นจึงทำให้ถนนหนทางที่จะนำไปสู่โรงพยายบาลในตัวเมืองนั้นยากเย็นแสนเข็ญ อีกทั้งระยะทางจากตัวหมู่บ้านถึงโรงพยาบาลในเมือง ยังอยู่ห่างไกลกันหลายสิบกิโลเมตร นั่นจึงทำให้ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงใกล้คลอด ที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดารแบบนี้ คือหมอตำแย หมอที่ทำคลอดด้วยมือปล่าว ตามแบบฉบับที่ร่ำเรียนและสืบทอดวิชากันมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น เเละหมอตำแยในหมู่บ้านแห่งนี้ก็คือ ยายแม้น หญิงชราวัยเกือบ70ปี ที่มีผลงานทำคลอดให้ผู้หญิงในหมู่บ้านแห่งนี้มาแล้วนักต่อนัก      "โอ้ยแม่จ๋าาา...ฉันปวด...ปวดท้อง...ปวดจนจะไม่ไหวอยู่แล้ว...โอ้ยยยย!!!"   เดือนร้องครวญครางราวกับคนจะขาดใจ พร้อมใช้ฝ่ามือบางทั้งสองข้างจับกุมท้องโย้เอาไว้อย่างทุรนทุรายเจ็บปวด ก่อนที่เสียงของบึกจะดังขึ้นมาแต่ไกลๆ   "นี่จ่ะยาย! เมียฉันอยู่นี่"   บึกเอ่ยวาจาใส่หญิงชรา ด้วยจิตใจที่ร้อนรนเต็มที่   "เออ เออ ข้ามาแล้ว โทษทีนะนังหนูเอ่ย ข้าแก่แล้ว เรี่ยวแรงไม่ค่อยจะมี ไอ้บึก มึงไปยกน้ำร้อนมาเร็ว"    ยายแม้นรีบพาร่างกายงกๆเงิ่นๆ มานั้งข้างๆร่างของเดือนอย่างไว ก่อนจะเอ่ยบอกกับบึกเสียงเคร่ง บึกจึงไม่รอช้า รีบวิ่งไปนำหมอดินที่บรรจุน้ำร้อนอยู่เต็มหม้อ มาให้หมอตำแยอย่างไว    "มึงเป็นผู้ชาย มึงต้องออกไปก่อน เหลือไว้แค่กู กับแม่มึงก็พอ"   ยายแม้นหันมาเอ่ย   "ฝากเมียกับลูกฉันด้วยนะจ่ะ"   บึกเอ่ยเสียงเข้ม พร้อมใช้สายตามองไปยังเมียรัก ที่กำลังนอนหลับตาร้องไห้เสียงหลง ด้วยความเป็นห่วงสุดหัวใจ   "เออ มึงออกไปได้เเล้วไป"    แม่ของบึกเอ่ย พร้อมใช้ฝ่ามือผลักลำแขนของลูกชายเพื่อไล่ออกไปจากห้องบึกออกมารอที่ระเบียงบ้าน ร่วมกับพ่อของตน ด้วยจิตใจที่สั่นระทึกสุดขีด ทั้งตื่นเต้นที่จะได้เป็นพ่อคน ทั้งเป็นห่วงเมียรักแทบขาดใจ เพียงชั่วอึดใจ เสียงร้องระงมใสของเด็กทารกน้อยก็ดังขึ้น หมายให้ผู้ที่เฝ้ารอคอยอยู่รับรู้ได้ว่า วินาทีนี้เป็นต้นไป ตนจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด   "ไอ้บึกโว้ย! ลูกมึงเป็นผู้ชาย!"   เสียงตะโกนลั่นของมารดา ทำให้บึกที่มีความสุขจนล้นเอ่ออยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณขึ้นไปอีก เมื่อรับรู้ว่า ตนนั้นได้ลูกชาย ได้ทายาทไว้ใช้สืบเผ่าพันธุ์ของตนอย่างที่ตั้งใจ ไม่รอช้า บึกจึงรีบวิ่งเข้าไปดูโฉมหน้าของลูกชายที่อยู่ภายในบ้านทันที ก็เห็นว่าทายาทของตน ได้ถูกมารดาโอบอุ้มเอาไว้ในห่อผ้าอย่างทะนุถนอม เเต่แววตากับไร้ซึ่งความยินดีใดๆ ก่อนที่บึกจะใช้สายตาหันไปมองเดือนเมียรักทันทีด้วยความเป็นห่วง   "เดือน!!!"   บึกเอ่ยลั่น ด้วยวาจาดุดันเรียกเมียรักเต็มที่ ก่อนจะรีบพุ่งร่างของตนเข้าไปหาร่างบอบบางของเมียรักที่นอนรวยรินอยู่บนเตียงไม้ทันที   "พิ พี่บึก...เดือนน...เดือนจะไม่ไหวแล้วพี่…"   เดือนเอ่ยตะกุกตะกักเสียงสั่น ใช้ฝ่ามือของตนกุมฝ่ามือของชายคนรักไว้แน่น   "เดือน...ทำไมเดือนพูดแบบนี้ล่ะ...เดี๋ยวไม่กี่วัน...แผลก็หายแล้ว…"   บึกเอ่ยปลอบใจเมียรักเต็มที่ เมื่อเห็นว่านัยตาของเดือนนั้นเริ่มรวยรินเต็มที   "ยายแม้น เมียผมเป็นอะไร!"   ก่อนจะหันไปถามหญิงชราที่เป็นหมอตำแยเสียงเข้ม   "เมียเอ็ง...เมียเอ็งมันเสียเลือดมากน่ะ…"   หญิงชราตอบอย่างแผ่วเบา   "พี่...พี่บึก...เดือน...เดือนอยากเห็นหน้าลูก…"   ไม่รอช้า บึกรีบลุกยืนขึ้นเดินไปนำพาเอาร่างของทารกน้อย ที่อยู่ในอ้อมอกมารดา อุ้มมาให้เมียรักเห็นหน้าทันที   "หน้าลูกเหมือนเดือนเลยเห็นไหม...ผิวก็ขาวเหมือนเดือนด้วย"   บึกเอ่ยยิ้ม ในขณะที่มองดูทายาทของตนอย่างรักไคร่      "ลูกแม่...แม่รักหนูนะ…"   เดือนเอ่ยขึ้น พร้อมใช้ฝ่ามือที่สั่นระรัวลูบไปตามใบหน้าของลูกน้อยอย่างทะนุถนอม   "เดือน พี่ว่าเดือนนอนพักก่อนเถอะนะ ตื่นขึ้นมา จะได้มีเเรงดูลูก"   บึกเอ่ยบอกเมียรักอย่างแสนห่วง      "พี่บึก...พี่บึกสัญญานะ...ว่าพี่จะดูแลลูกของเรา...ให้ดีที่สุด…"      เดือนเอ่ยขึ้นเสียงสั่น แววตาก็ยังมองไปที่ใบหน้าของลูกน้อยอย่างไม่ละ   "จ่ะ พี่สัญญา เราทั้งสองคน จะช่วยกันเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด…"    บึกเอ่ยบอกเมียรัก พร้อมใช้ฝ่ามืออีกข้างจับกุมฝ่ามือบางไว้แน่น เดือนจึงเผยรอยยิ้มอันเเสนสุขออกมา ก่อนที่สายตาจะค่อยๆหลับลง โดยที่บึกเองไม่เคยคิดเลยว่า การหลับไปของเมียรักในครั้งนี้ จะพรากเอาหัวใจของตนไปตลอดการ


            หลังจากที่พิธีแห่งความโศรกเศร้าเสียใจ ที่เกิดขึ้นกับเมียรักผ่านพ้นไป บึกเองก็แทบจะไม่พูดจากับใครเลย ไม่ว่าจะเป็นบิดา มารดา หรือรวมไปถึงญาติพี่น้องคนอื่นๆ ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือบึกเอง แทบจะไม่อยากเห็นหน้าของ ดิน ลูกชายตัวน้อยของตนเลยด้วยซ้ำ เพราะนับตั้งแต่ที่เดือนเมียรักได้จากไป ความเสียใจก็ได้นำพาเอาความอคติที่มีต่อลูกชาย มาใส่ไว้ภายในจิตใจของตนอย่างหนักหน่วง ด้วยความคิดที่ว่า เพราะเด็กคนนี้คือสาเหตุที่ทำให้เมียรักต้องจากไปนั่นจึงทำให้ ดิน ทารกตัวน้อยที่เพิ่งจะเกิดมาลืมตาดูโลกได้ไม่กี่วัน ขาดแคลนความอบอุ่นจากบิดาอย่างสาหัส จะมีก็แต่เพียงอ้อมกอดของ ปู่กับย่า และป้า ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อ ที่คอยผลัดกันมอบให้เท่านั้น    คืนนี้เป็นคืนแรกที่บึกนั้นจะต้องนอนอยู่เพียงลำพัง ท้ามกลางความอ้างว้างว้าเหว่ปราศจากร่างของเดือนเมียรัก จะมีก็แต่ร่างของทารกตัวน้อย ที่นอนสลบไสลอยู่ภายในแปลไม้เพียงเท่านั้น เพราะถึงตนจะอคติต่อลูกชายในไส้มากแค่ไหน แต่สัญญาที่ได้ให้ไว้กับเดือนเมียรัก มันก็ย่อมสำคัญกว่าสิ่งใดเสมอในขณะที่ตนกำลังนอนจมอยู่กับความเศร้าเสียใจอยู่นั้น จู่ๆก็ได้มีสายลมปริศนา พัดเข้ามาในช่องหน้าต่างอย่างแรง พร้อมกับนำพากลิ่นหอมปริศนาส่งกลิ่นคละคลุ่งจนเต็มห้องนอน บึกสูดดมกลิ่นความหอมนัน่อย่างสะใจ ทันใดนั้นเอง จากความเศร้าเสียใจที่มี ก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์กำหนัดอย่างหนัก จนท่อนเอ็นที่นอนสลบไสลอยู่ภายใต้ผ้าขาวม้าผืนบาง ได้แข็งผงาดจนตะลุผ้าขาวม้าออกมาตั้งตระหง่าน      "พี่บึกจ๊ะ...พี่บึก...ออกมาหาดาวเรืองที…"      ก่อนจะปรากฏเสียงใสของดาวเรืองดังแววมาเป็นระยะๆ ไม่รอช้าบึกรีบพาร่างสูงใหญ่กำยำ พร้อมด้วยแท่งทวนแข็งแกร่งที่ขนาดเทียบม้าศึก เดินออกไปหาต้นเสียงทันที   คืนนี้ราวกับเป็นคืนต้องมนต์ เพราะมันช่างเงียบสงัดจนดูวังเวง แม้แต่เสียงของแมลงป่าน้อยใหญ่ที่ร้องแข่งกันขับขานเป็นประจำก็เงียบสนิท จะมีก็แต่เพียงเสียงใสร้องเรียกของหญิงสาวดาวเรืองเท่านั้นที่บึกได้ยินบึกเดินไปหยุดที่หัวบันไดบ้าน ก็พบกับร่างของดาวเรือง ที่ยืนรออยู่ด้านล่าง ในสภาพนุ่งชุดนอนที่เป็นผ้าพริ้วบาง ส่งผลให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนอวบอั๋น อันปราศจากชุดชั้นในปกคลุม   "พี่บึกจ๋า...ดาวเรืองกลัว...ดาวเรืองเหงา...คืนนี้ขอดาวเรืองมานอนด้วยคนสิจ๊ะ...พี่บึกจ๋า…"   ดาวเรืองเอ่ยด้วยน้ำเสียงสวาท ใส่ชายร่างสูงใหญ่กำยำตรงหน้าเต็มที่ ไม่รอช้า บึกรีบก้าวขาลงจากบันได ไปรับร่างขาวอวบอั๋นของหญิงสาวอย่างไว ทันทีที่สองฝ่ามือหนาใหญ่เนื้อสากของบึก สัมผัสเข้ากับเนินเนื้อช่วงเอวอันอวบอั๋นของดาวเรืองได้ ตนก็รีบพุ่งริมฝีปากหนา เข้าหาเนินหน้าอกอวบใหญ่ตรงหน้าทันที อย่างหิวกระหาย ราวกับเสือตัวร้ายที่ได้เปิปเนื้อสดใหม่ของกวางน้อยเพศเมีย   "อุ้ยยย...พี่บึกจ๋าาา...สงสัยจะหิวหน้าดู...ดาวเรืองว่า...ขึ้นไปข้างบนบ้านกันเถอะจ่ะ...คืนนี้...ดาวเรืองจะให้พี่บึกได้กินอย่างเต็มที่เลย…"      จากนั้นร่างสูงใหญ่กำยำก็ได้โอบอุ้มร่างขาวเนียนอวบอั๋นเดินขึ้นบ้านไปทันที ดั่งกับว่าเจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวเข้าเรือนหอ   พอทั้งคู่เข้ามาภายในห้องได้ ด้วยความหลงไหล และกระหายในตัวของชายผู้ดี ที่ถูกสะสมมาอย่างหนัก ดาวเรืองจึงไม่รอช้า รีบกระเด้งร่างออกจากวงแขนแกร่งของบึกอย่างไว รีบรีบใช้ฝ่ามือบางทั้งสองข้าง ลูบไล้ไปตามเรือนกายของชายตรงหน้าอย่างเร้าอารมณ์      "พี่บึกจ๋า...จับตรงไหนก็แน่น...แข็งแรงไปทุกส่วนเลยจริงๆ...คืนนี้ดาวเรืองขอ...ทำหน้าเมียให้พี่…แทนอีเดือนเองนะจ๊ะ…"      ไม่รอช้า ผ้าขาวม้าผืนบางก็ได้ถูกฝ่ามือของหญิงสาวดึงถลกออกอย่างไว เผยให้เห็นดุ้นเอ็นยักษ์ที่ทั้งยาวและใหญ่ เต็มสองลูกตาของดาวเรืองทันที   "พิ...พี่บึกจ๋า...ทำไมมันถึงได้ใหญ่...ยาวขนาดนี้…"   ดาวเรืองถึงกับตกตะลึงในความใหญ่โตของดุ้นเอ็นมหากาฬตรงหน้าเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่ที่เธอได้ผ่านผู้ชายมาถึงสองคน ยังไม่เคยมีชายหน้าไหน ที่จะมีดุ้นเอ็นขนาดใหญ่และยาวเร้าจิตใจได้แบบชายตรงหน้ามาก่อน ก่อนที่เธอจะถูกร่างสูงใหญ่แกร่งกำยำของบึก ผลักให้นอนลงไปบนบนเตียงข้างๆอย่างไว สองเต้าอวบใหญ่ก็ได้ถูกริมปากหนาตามมากระทั่นจู่โจมทันที จ๋วบบบ!!!   "อุ้ยยยพี่บึกจ๋าาาา...อุ้ยยยยดาวเรืองเสียววว…"   ดาวเรืองครางสั่นสะท้านด้วยความเสียวแทบขาดใจ ก่อนที่ทั้งสองขาขาวอวบอั๋นของเธอ จะถูกฝ่ามือหนาใหญ่ของบึกจับแยกออกจากกัน ในที่สุด ดุ้นเอ็นมหากาฬขนาดเทียบม้าศึก ที่ดาวเรืองได้เฝ้ารอคอยมานานนับปีจากชายผู้นี้ ก็ได้บุกทะลวงเข้ามาภายในช่องกลีบรูสวรรค์รัดแน่นของเธออย่างสาสม    "โอ้ยยย!! พี่บึกจ๋าาา...เจ็บบบ...อู้ววววเบาๆก่อนสิจ๊ะ...อ้าาาาาส์!!!"   ดาวเรืองร้องลั่น เมื่อถูกดุ้นเอ็นแกร่งขนาดเทียบม้าศึก กระทุ้งเข้ามาพุ่งชนรบสวาทภายในช่องกลีบสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง แต่ด้วยความที่ชายผู้นี้ได้ตกอยู่ภายใต้มนต์เสน่ห์ที่เธอได้สวดไล่ใส่มากับสายลมเมื่อก่อนหน้า นั่นจึงทำให้การรบสวาทในครั้งนี้ จึงไม่มีคำว่าแผ่วกำลังแต่อย่างใด เเต่เมื่อสายตาของเธอได้เหลือบไปเห็นทารกน้อย ทายาทที่เกิดมาจากสายเลือดครึ่งหนึ่งของเพื่อนทรยศอย่างเดือน ที่กำลังนอนหลับสลบไสลไม่รู้ประสีประสาอยู่ภายในเปลไม้ ความสะใจของกลิ่นไอแห่งการล้างแค้น ก็ได้มาเยือนจิตใจ ฝังกลบความเจ็บไปเป็นปิดทิ้ง   "อีเดือน...ในที่สุด...พี่บึก...ก็ตกมาเป็นผัวกู...มึงเห็นไหม อีเดือน...ว่าผัวของมึง...กำลังเย็ดกู...กำลังหลงหีกู...อู้วววพี่บึก...พี่บึกผัวจ๋าาาา…."      ดาวเรืองครางลั่น ส่งสายตาเขม่งไปยังเด็กทารกน้อยอย่างแสนสะใจ ในที่สุดพรที่เจ้าแม่ได้ให้กับเธอไว้ มันก็สำริดผลสมหวังดั่งใจเสียที แถมความโชคดีในครั้งนี้ มันยังเป็นโชคที่ช่างใหญ่ และยาวจนคับแน่นเจ็บระบมรูแคมสวรรค์ไปหมดต่อไปนี้เธอจะสร้างครอบครัวใหม่ระหว่างเธอ กับบึก และลูกคนใหม่ ส่วนเด็กคนนี้ก็จะถูกเธอเขี่ยทิ้งไป และจะไม่ให้มีสายใยความเป็นพ่อของบึก หลงเหลือไปถึงเด็กคนนี้เลย แม้สักเส้นเดียว เพื่อล้างแค้นอดีตเพื่อนที่เธอเคยรักอย่างสาสม

                สามปีต่อมาดิน เด็กชายตัวน้อยที่นับวันโตขึ้น ก็ยิ่งฉายแววเด่นของ เดือน มารดาของตนชัดเจนมากขึ้นในทุกวัน ทั้งหน้าตาที่น่ารัก น่าเอ็นดูจิ้มลิ้ม และผิวพรรณที่ขาวเนียนผุดผ่อง ผิดแปลกจากเด็กผู้ชายทั่วไปยิ่งนัก นั่นจึงทำให้ดิน เป็นที่รักของปู่กับย่ารวมไปถึงป้าของตน ที่ต่างคนก็ต่างช่วยกันหล่อหลวมเลี้ยงดูอย่างรักไคร่ จะมีก็แต่ บึก ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าพ่อแท้ๆ ที่นับวันเข้า ความอคติที่มีอยู่ภายในจิตใจต่อลูกชายในไส้คนนี้ ก็ยิ่งทวีขึ้นเป็นอย่างมาก แล้วยิ่งเห็นว่าลูกชายตัวน้อย ได้รับมรดกยีนส์เด่นจากอดีตเมียรักอย่างเดือนมาเต็มๆแล้วด้วย ก็ทำเอาตนนั้นถึงกับไม่อยากจะแตะต้องลูกชายเลยสักนิด ซึ่งผิดกับอีกคนหนึ่ง"แม่นกกาเหว่าไข่ไว้ให้แม่กาฝัก แม่กาก็หลงรักคิดว่าลูกในอุทร"คำที่ว่านี้นั้นใช้ได้กับ ดาวเรือง โดยแท้จริง จากที่อคติและเกลียดเด็กชายดิน จนถึงขั้นจะตัดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกให้ขาดสะบั่นออกจากกัน แต่แล้วก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความน่ารัก และไร้เดียงสาของเด็กชายผู้นี้อย่างขัดขืนไม่ได้ ดาวเรืองทั้งรัก ทั้งคอยดูแล เลี้ยงดูเอาใจใส่เด็กชายดินราวกับลูกในไส้เลยก็ว่าได้ อาจจะเป็นเพราะว่า หลายต่อหลายครั้ง ที่เธอพยายามลองกัดฟันฝืนความเจ็บปวด เพื่อให้บึกกระแทกดุ้นเอ็นขนาดยักษ์เข้ามาอัดฉีดน้ำเชื้อฝังไว้ภายในมดลูกลึกๆ เพื่อจะได้ผลิตทายาทสมใจ แต่เจ็บแล้ว เจ็บเล่า ที่เธอยอมอดทนก็ไม่เป็นผล เธอก็เลยกะว่าจะเอาเด็กดินนี่แหละ เป็นลูกของตนไปเสียเลย และที่สำคัญก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องที่ว่า ภายในใจลึกๆของเธอเอง ที่เวลาเห็นหน้าเด็กชายดิน ความสำนึกผิดปาบต่อเพื่อนเคยรักอย่างเดือน มันก็เริ่มแจ่มแจ้งขึ้นทุกวัน ว่าสาเหตุที่เดือนต้องมาจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควรนั้น มันมาจากเธอที่ไปขอร้องให้เจ้าแม่บันดาลช่วยทั้งสิ้น ถ้าจะให้ย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในอดีต เธอก็คงจะทำไม่ได้ สิ่งที่ทำได้และคงจะเป็นหนทางเดียวเพื่อให้จิตใจรู้สึกผิดน้อยที่สุด ก็คงจะเป็นการเลี้ยงดูเด็กชายดินให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ และจะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับเจ้าแม่ที่ศาลไม้นั่นอีกเป็นอันขาด เพราะเธอคิดว่าเรื่องที่เจ้าแม่ได้ขู่เธอเอาไว้คงไม่เป็นผล และจะได้เป็นการไถ่ปาบต่อเพื่อนสาวที่เธอรัก ก่อนที่เรื่องราวในอดีตมันจะค่อยๆถูกหัวสมองดูดกลืนเลือนลางไปตามกาลเวลา จางหายแม้กระทั้งคำสัญญาที่เธอเคยลั่นวาจาให้ไว้กับใครคนหนึ่ง          ในช่วงสายของวันหนึ่ง ในขณะที่ดาวเรืองกับลูกเลี้ยงอย่างดิน เดินกลับเข้ามาในบ้าน หลังจากที่ชวนกันออกไปทำบุญแต่เช้าตรู่ ก็เห็นว่าบึกนั้น กำลังเดินเตรียมอุปกรณ์เลาะข่ายดักปลาจ้าละหวั่น   "อ่าว พี่บึก เตรียมจะไปลงข่ายที่ไหนเหรอจ๊ะพี่"   ดาวเรืองเอ่ยถาม   "อ่าว กลับมาพอดีเลย พี่ว่าจะไปลงข่ายในบึงใหญ่ที่หมู่บ้านโน้นนะ เห็นเขาบอกว่าปลากำลังชุม"   "แล้วไปกันเยอะไหมน่ะพี่ ฉันเป็นห่วง ช่วงนี้ยิ่งหน้าฝนอยู่ด้วย น้ำมันจะไม่แรงเหรอจ๊ะพี่"       "ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก ไปกันเยอะ นับสิบกว่าคนได้ ว่าแต่ดาวเรืองก็ดูแลบ้านดีๆนะ ถ้าหิวข้าวก็กินกันก่อนได้เลยไม่ต้องรอพี่"   บึกเอ่ยยิ้มเสียงเข้ม ก่อนจะเดินพุ่งร่างสูงใหญ่กำยำตรงมาหาเมียรัก แล้วบรรจงจูบลงไปที่แก้มขาวฟอดใหญ่ เล่นเอาดาวเรืองถึงกับเขินอายลูกเลี้ยงที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่น้อย   "บ้า! พี่บึกอ่ะ ทำอะไรก็ไม่รู้ ดูสิ ลูกมองใหญ่เลย"   "จะไปอายมันทำไม ไอ้ดิน มึงก็พอจะรู้ประสีประสาแล้ว ก็หัดช่วยงานบ้านแม่บ้างนะ อย่าให้เสียข้าวสุก!"   บึกหันไปเอ่ยกับเด็กชายดิน ด้วยวาจาดุดัน ทำเอาดินนั้นถึงกับมีสีหน้าเกรงไม่น้อย   "พี่บึก! พูดกับลูกแบบนั้นได้อย่างไง โอ๋ ดิน มาหาแม่มา เดี๋ยวแม่พาไปกินขนมอร่อยๆ"   ดาวเรืองรีบเดินเข้าไปสวมกอดลูกเลี้ยงตัวน้อยอย่างรักไคร่   "พี่ก็ระวังๆด้วยนะจ๊ะพี่บึก กลับมาเดี๋ยวดาวเรืองจะนวดหลังให้"    ก่อนที่เธอจะหันใบหน้ามาส่งแววตาสวาทให้กับผู้เป็นสามี      "จ๊ะ งั้นพี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวไอ้พวกนั้นมันรอ"   บึกเอ่ยยิ้ม พร้อมฉายแววตาเจ้าเลห์กลับไป ก่อนจะรีบพยุงข่ายดักปลาแล้วเดินออกจากบ้านไป                เย็นวันนี้ท้องฟ้ามืดดำสลั่วด้วยฤทธิ์ของพายุที่โหมกระหน่ำเข้าไม่เว้นวัน แต่ดูเหมือนว่าวันนี้นั้นจะหนักกว่าที่ผ่านมา เพราะเล่นพัดพาต้นไม้สูงใหญ่แกว่งกระส่ายไปตามแรงลมอย่างไม่รู้ทิศ สายฟ้าก็ต่างพากันส่งเสียงและฟาดแสงหนักอย่างโกลาหล ก่อนจะสาดกระสุนน้ำฝนเม็ดใหญ่ตกลงมาฉาบใส่หลังคาบ้านเรือนผู้คน และพื้นดินไปทั่วอย่างมัวดิน   ดาวเรืองรีบวิ่งไปปิดบานหน้าต่างทุกบานอย่างไว ภายในใจก็สั่นหวิวไหวอย่างไม่ทราบสาเหตุ พาให้นึกเป็นห่วงบึก สามีรักเป็นอย่างมาก เพราะช่วงเวลาก็เย็นย้ำมากแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววของสามีเดินกลับเข้าบ้านมาเลยสักนิดเปรี้ยง!!!   ในขณะที่เธอกำลังมองหาสามีอยู่ที่หน้าต่างอย่างเหม่อลอย ทันใดนั้นเองสายฟ้าก็ส่งเสียงคำรามลั่นไปทั่วหมู่บ้านอย่างแรง ส่งผลให้เด็กชายตัวน้อยในวัย3ขวบพอดิบพอดีอย่างดิน ร้องลั่นระงมไม่เป็นท่า เธอจึงรีบปิดหน้าต่างบานนั้นทันที ก่อนจะรีบเดินเข้ามาหาร่างของลูกเลี้ยง   "โอ๋...โอ๋...ดิน ไม่ต้องกลัวนะลูก แม่มากอดแล้วโอ๋..โอ๋"   เดือนรีบอุ้มร่างของลูกเลี้ยงขึ้นมานั่งสวมกอดไว้บนตักอย่างเร็ว ทันใดนั้นเอง บานหน้าต่างที่ถูกปิดลงกลอนไว้อย่างแน่นหนา ก็ถูกสายลมปริศนาพัดพาให้เปิดออกอย่างแรง   ปังงง!!!ก่อนที่เสียงหัวเราะเย็นสยองอันคุ้นหูจะดังแว่วขึ้นมากับสายลม      "หึหึหึ…."   ดาวเรืองรับรู้ได้ทันที ว่านี่คือเสียงของเจ้าแม่ ที่เธอเคยนับถือบูชาเมื่อ3ปีก่อน ทำเอาเธอถึงกับสั่นสะท้านด้วยความกลัวเป็นอย่างมาก แต่สองแขนก็ยังคงโอบกอดลูกเลี้ยงไว้แน่น      "ไม่ อย่าเข้ามานะ ลูกขอโทษ ที่ปล่อยปะละเลยการบูชา ไว้ฝนหยุดเมื่อใด ลูกจะนำของไปถวายนะเจ้าค่ะ"   ดาวเรืองเอ่ยพรึมพรำเสียงสั่นต่อสายลมปริศนา   "แม่ แม่จ๋า แม่คุยกับใคร"   เด็กชายดินเอ่ยถามอย่างสงสัย เมื่อ้ห็นว่าแม่เลี้ยงของตนเอ่ยวาจาอยู่คนเดียว   "หึหึหึ! อีดาวเรือง! มึงก็บอกลูกเลี้ยงมึงไปสิ ว่ามึงคุยอยู่กับใคร! หึหึหึ!!!"   ทันใดนั้นเสียงอันเย็นสยองของนางมารก็ดังแว่วขึ้นทันที      "ไม่ เจ้าแม่ อย่ามายุ่งกับครอบครัวของลูกเลยนะ เจ้าแม่อยากได้อะไร เดี๋ยวลูกจะหาไปบูชาให้"      "บูชาเหรอ อีคนทรยศ! อีคนหลอกลวง! ของที่กูอยากได้ มึงก็รู้อยู่เต็มอกว่าคืออะไร! ส่งไอ้เด็กนั่นมาให้กูบัดเดี๋ยวนี้!!! หึหึหึ!!!"   นางมารร้ายเอ่ยเสียงคำรามลั่น ราวกับเสียงของฟ้าฟาดเมื่อช่วงครู่ไม่มีผิด ทำเอาความทรงจำและคำสัญญาแล่นเข้ามาหาหัวสมองของดาวเรืองทันที   "ไม่! ไม่! อย่านะเจ้าแม่ ลูกขอร้อง! อย่ายุ่งกับดินเลย ดินมันยังเด็ก ยังไม่รู้ประสีประสาอะไรเลยด้วยซ้ำ"   ดาวเรืองเอ่ยขอร้องทั้งน้ำตา      "แม่จ๋า แม่ร้องไห้ทำไม หนูกลัว…"   ทำเอาเด็กชายดินถึงกับเอ่ยเสียงสั่น เมื่อหันมองขึ้นไปเห็นใบหน้าของแม่เลี้ยง   "หึหึหึ อีทาสชั้นต่ำ! มึงกล้าขัดกูรึ! กูบอกให้เอาไอ้เด็กนั่นมาให้กูบัดเดี๋ยวนี้! เร็ว!!!"   นางมารร้ายเอ่ยคำรามขึ้นอีกครั้งอย่างแรงกล้า เล่นเอาบ้านทั้งหลังถึงกลับสั่นไหวไปตามแรงเสียง   "ไม่! ก็บอกว่าไม่ไง ดินมาลูก กอดแม่ไว้"      ดาวเรืองรีบจับร่างของดินพลิกให้หันใบหน้ามาแนบชิดกับอ้อมอกของตนพร้อมกอดเอาไว้แน่น   "หึหึหึ! มึงท้าทายหูเองนะ อีทาสชั้นต่ำ!!!"   ทันใดนั้นเอง ร่างของนางมารร้ายก็ได้ปรากฏกายขึ้น แล้วรีบใช้ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยเล็บยาวอันคมกริบ บีบที่ลำคอของดาวเรืองอย่างแรง ทำเอาหญิงสาวถึงกับสะดุ้งตกใจสุดขีด ทั้งสิ่งที่ถูกกระทำ และภาพตรงหน้าที่ได้เห็น เจ้าแม่ที่เธอคุ้นเคยในร่างของหญิงสาวหน้าตาสะสวย ผิวพรรณขาวเปร่งประกายผุดผ่อง บัดนี้ได้กลายเป็นยายแก่หนังเหี่ยว พร้อมด้วยหน้าตาที่แสนน่าเกลียดน่ากลัว ราวกับคนมีอายุนับร้อยๆปี   "ดิ ดินลูก หนี หนีไปเร็ว"   ดาวเรืองรีบผลักร่างของลูกเลี้ยงตัวน้อยให้ออกจากอ้อมอกของตนทันที เพื่อหมายจะให้ดินวิ่งไปที่บ้านของปู่ย่าที่ปลูกถัดไปไม่ไกลกัน แต่กับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อร่างของดินหลุดออกมาได้ ก็หมายจะวิ่งไปช่วยแม่สุดริด แต่ก็ต้องสะดุดหยุดลง พร้อมส่งเสียงร้องลั่นออกมาอย่างแรง    กรี๊ดดดด!!!!   "อ้ายยยย!!! แม่จ๋าาา!!!!"   เมื่อนางมารร้ายตรงหน้าหันใบหน้าอันแสนสยดสยองมาแสยะยิ้มให้ตน ดาวเรืองที่ยังพอมีสติอยู่ จึงรีบทำมือไล่เพื่อให้ดินรีบหนีไปและนี่คือสิ่งที่เธอจะสามารถทำให้เพื่อไถ่ความผิดปาบที่มีอยู่เต็มจิตใจต่อเพื่อนรักอย่างเดือนเป็นครั้งสุดท้ายพอร่างของดาวเรืองแน่นิ่งไป นางมารร้ายจึงรีบเปลี่ยนเป้าหมายสายตามาที่เด็กชายดินทันที   "หึหึหึ! เจ้าไม่ต้องกลัวพี่หรอก อีน้องทรยศ เจ้ารู้ไหม ว่าข้ารอคอยเจ้ามาหลายภพ หลายชาตินานเหลือเกิน และในที่สุด ข้าก็เจอเจ้า! หึหึหึ!!! ต่อไปนี้ข้าจะใช้เจ้า เป็นตัวนำพาพลังความอมตะมาให้แก่ข้า และชาตินี้ ข้าจะได้ล้างแค้นที่เจ้า! เคยทำไว้กับข้าอย่างสาสม! หึหึหึ"    นางมารร้ายค่อยๆพาร่างอันเหี่ยวเฉาของตน เดินตรงไปยังร่างของเด็กชายดินทีละก้าวๆ   "แม่! แม่จ๋า!! อย่าาา!!!หนูกลัววว!!!!"    เด็กชายดินร้องตะโกนลั่นสุดเสียงทั้งน้ำตา ด้วยความกลัวอย่างขีดสุด ก่อนที่แววตาจะค่อยๆปิดสนิทลง


                  วันเวลาได้ล่วงเลยมาถึง10ปี ทุกสิ่งในหมู่บ้านและพื้นที่แห่งนี้ก็ได้เปลี่ยนไปตามกาลเวลาโลก แสงสว่างของไฟฟ้าตามบ้านเรือน และถนนหนทาง อีกทั้งรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ก็ได้สอดแทรกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต ของผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย เพื่อบ่งบอกให้ผู้คนในที่แห่งนี้ได้รับรู้ว่า ความเจริญนั้นกำลังเติบโตขึ้นในทุกๆวัน   รวมไปถึง ดิน เด็กชายตัวน้อยวัย3ขวบในวันนั้น ก็ได้เจริญเติบโตขึ้นตามกาลเวลา เป็นเด็กชายวัยมัธยมต้น อายุ13ปี ที่มีหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ปากนิด จมูกหน่อย อีกทั้งผิวพรรณยังขาวเนียนผุดผ่อง ราวกับเป็นร่างเดียวกันกับ เดือน มารดาผู้ให้กำเนิดไม่มีผิด ซึ่งนั่นเอง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนมักจะคิดว่าดินนั้น ไม่ใช่ลูกแท้ๆของบึก เพราะสองพ่อลูกคู่นี้ หาได้แตกต่างเพียงหน้าตาและผิวพรรณไม่ อีกทั้งรูปร่างและกำลัง ก็ไม่มีส่วนใดคล้ายคลึงกับบิดาผู้หลั่งน้ำเชื้อให้กำเนิดเลยสักนิด       "ดินเอ้ย! ป้าซื้อน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋มาให้"      เสียงตะโกนลั่นจากหน้าบ้าน บ่งบอกให้เด็กชายที่กำลังแต่งชุดนักเรียนอยู่ภายในห้องรับรู้ได้ทันที ว่าป้า บุญ ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อนั้น ได้นำอาหารเช้ามาส่งให้ตนก่อนไปโรงเรียนเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา      "จ้าป้า!..."   ดินจะตะโกนเอ่ยกลับไปเสียงใส ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องลงบันไดบ้านไปหาคนต้นเสียงทันที      "เอ้า กินเยอะๆนะ เอ็งจะได้ตัวโตๆ เหมือนลูกชาวบ้านเขาสักที ไอ้บึกมันเลี้ยงลูกอย่างไงของมันว่ะ ยิ่งเลี้ยงยิ่งเล็ก"      ป้าบุญเอ่ย ในขณะยื้นถุงน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ให้เด็กชายดิน   "พ่อเขาก็เลี้ยงหนูดีนะป้า แต่ก็ไม้รู้เหมือนกันว่าทำไม หนูตัวไม่สูงสักที"      ดินเอ่ยยิ้มเสียงใส ยิ่งทำให้หญิงตรงหน้าเอ็นดูหลานชายคนนี้เข้าไปกันใหญ่      "เออ ว่าไม่ได้เลยนะพ่อเอ็งเนี่ย แล้วมันไม่อยู่บ้านเหรอ"      "พ่อออกไปนาแต่เช้าแล้วจ่ะ"      "เออ เอ็งก็ตั้งใจเรียนนะดินเอ่ย โตไปจะได้มีการมีงานทำสบายๆ ไม่ต้องมาลำบากตากแดดเหมือนพ่อเอ็ง"      "จ่ะป้า หนูจะตั้งใจเรียน ปีนี้หนูจะเอาที่1มาฝากป้าให้ได้เลย"      ดินเอ่ยยิ้มอย่างฉอเลาะ แสดงความน่ารักสดใส ของเด็กวัยไร้เดียงสาออกมาให้โลกใบนี้ได้เห็น อย่างไม่มีปมกังวลและความเกรงกลัวใดๆ เพราะภาพอันสยดสยองและโหดร้าย ที่ตนได้ประสบพบเจอเมื่อ10ปีก่อนนั้น บัดนี้ได้หายมลายไปจากความทรงจำของเด็กชายผู้นี้อย่างหมดสิ้น ราวกับว่ามีใครร่ายมนต์ตราลบล้างเหตุการณ์เหล่านี้ออกไป                           ณ.ริมคลองน้ำท้ายหมู่บ้าน บึก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่แกร่งกำยำวัย30ต้นๆ กำลังดำฝุดดำว่าย หาเก็บฝูงปลาโชคร้ายที่ว่ายมาติดข่ายของตน ที่ได้ปักดักเอาไว้เมื่อวานก่อนอย่างขะมักเขม้น หลังจากเสร็จจากการทำนา บึกก็มักจะใช้เวลาอยู่ตามคูคลอง หาปูหาปลาอยู่แบบนี้เป็นประจำ ทันใดนั้น    "เห้ย! ไอ้บึก! เป็นไงบ้างวะ ได้ปลาเยอะไหม"      ก็ได้มีเสียงปริศนาตะโกนแววขึ้น บึกจึงรีบหันไปมองที่ต้นเสียงอย่างไว ก่อนจะเอ่ยยิ่มตอบไปเสียงเข้ม    "อ่าว พี่ทุย! ก็พอได้น่ะพี่ ช่วงนี้ปลาไม่ค่อยชุม แล้วที่ต้นคลองเป็นไงบ้าง"      ปรากฏว่าเป็น ทุย ชายหนุ่มรุ่นพี่ในหมู่บ้าน ที่กำลังพ่ายเรือตรงมามาตน      "ที่ต้นคลองแม้ง! คนก็เยอะฉิบผายเลยว่ะ กูก็เลยว่าจะกลับแล้ว"   ทุยเอ่ยตอบ   "แล้ววันนี้ไอ้ยิ้มมันไม่ได้ไปโรงเรียนเหรอพี่ ถึงได้พามันมาด้วย"   บึกเอ่ยถามเสียงเข้ม เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเด็กชายวัยมัธยมต้น ที่นั้งอยู่บริเวณท้ายเรือกำลังส่งสายตาจ้องมายังตนเป็นประกายมันวาว   "วันนี้มันหยุดน่ะ แม่มันไปทำธุระที่บ้านญาติสองสามวัน มันเลยขอเกเรียนสะเลย"      "พ่ออ่า หนูไม่ได้เกเรียนสักหน่อย ก็วันนี้พ่อสัญญาแล้วหนิ ว่าจะให้หนูกินปลาช่อนของพ่อทั้งวันเลยไง"   เด็กชายยิ้ม ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของทุย เอ่ยวาจาอย่างจีบปากจีบคอราวกับเด็กผู้หญิง ซึ่งการกระทำนั้นก็ไม่ได้ทำให้บึกสงสัยแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าเด็กชายผู้นี้มีนิสัยตุ๊ดแต๋วมาตั้งแต่อยู่ชั้นประถม   "อะไรกันว่ะ ปลาช่อนของพ่อเอ็ง"   แต่ที่บึกสงสัยคือคำพูดของเด็กชายยิ้มมากกว่า      "เอ่อ ก็กูไปสัญญากับมันไง ว่าวันนี้กูจะหาปลาช่อนให้มันกินทั้งวัน แต่แม้งยังหาไม่ได้สักตัวเลย"   ทุยเอ่ยวาจาดุดัน ก่อนจะหันใบหน้าไปมองยังลูกเลี้ยง      "อยากกินปลาช่อนเหรอ เออ น้าได้ติดมาตัวหนึ่ง เอาไหมล่ะ"    บึกเอ่ย ก่อนจะใช้มือฝ่ามือหนาลงไปควานหาปลาช่อนที่อยู่ในข้อง      "ไม่เป็นไรว่ะไอ้บึก ขอบใจมาก มึงเก็บไว้ให้ลูกมึงกินเถอะ กูไปก่อนล่ะ"      ทุยรีบเอ่ยสวนเสียงเข้มทันที ก่อนจะค่อยๆพายเรือออกไป   "ลองพายไปดูท้ายคลองก็ได้พี่ ตรงนั้นปลาน่าจะชุม"      บึกตะโกนสวนเสียงเข้ม ก่อนจะก้มใบหน้า ใช้สายตาไปมองปลาช่อนที่อยู่ในข้องของตน      "สัส ดีแล้วแหละไอ้ยิ้ม ที่มึงไม่ได้แดกปลาช่อนตัวนี้ ถ้าขืนมึงแดกไป มึงคงได้แดกปลาช่อนยัดไส้น้ำควยกูแน่"   บึกเอ่ยพรึมพรำถึงเหตุการณ์เมื่อก่อนหน้า ที่ตนนั้นได้ใช้นิ้วหนาทั้งห้า ชักเค้นลำเอ็นขับน้ำเชื้อเหนียวข้นออกมา ให้ไหลไปกับสายธารา เป็นอาหารฝูงปลาในลำคลอง และหนึ่งในปลาผู้ที่ได้มีโอกาสเปิปอาหารอันโอชะในครานี้ นั่นก็คือปลาช่อนที่อยู่ในข้องตัวนี้ ก่อนที่บึกจะค่อยๆหยิบมันออกมา แล้วปล่อยมันให้ว่ายกลับคืนสู่ธรรมชาติไปเพราะด้วยความที่ยังหนุ่มยังแน่น อีกทั้งยังมีนิสัยกัดมันเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว นั่นจึงทำให้บึกเอง มักจะมีความต้องการณ์ทางเพศสูงในทุกวัน และการจากไปของ ดาวเรือง เมียคนที่สองเมื่อ10ปีก่อนนั้น มันจึงทำให้น้ำกามชั้นดี ไม่มีรูให้ฝากกักเก็บเอาไว้อย่างถาวร แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้จิตใจของตน คิดถึงและห่วงหาดาวเรืองเลยแม้แต่นิด เพราะตั้งแต่ดาวเรืองจากไป จากอารมณ์ตัณหาและรักไคร่ที่มีต่อกัน มันก็พลันหายไปในชั่วพริบตา ซึ่งแตกต่างจาก เดือน เมียเเรกที่ไม่มีวันไหนเลยที่ตนนั้นจะไม่คิดถึง และห่วงหากับใบหน้า สรีระ และความคับแน่นของช่องรูแคมสวรรค์ที่เธอมอบให้ มันยังคงฝังจิตตราตรึงใจมาจนถึงในทุกวันนี้ ครั้นตนจะหาเมียใหม่ ก็ยังคงติดใจ ในคำสัญญาที่ให้ไว้กับเดือนอย่างมั่นคง นั่นจึงเป็นสาเหตุ ที่มักจะทำให้ตนนั้นอดใจในอารมณ์ตัณหาไม่ไหว จึงได้ขับน้ำกามออกมาจากดุ้นเอ็นขนาดเทียบม้าศึก สาดใส่ให้หลั่งไหลไปกับคูคลองในทุกๆวัน                พอเห็นว่าได้ปลาจนเกินครึ่งข้องแล้ว บึกก็ได้พาร่างกำยำของตนว่ายเข้ากลับหาฝัง ก่อนจะจัดการล้างคราบดินโคลนที่ติดอยู่ตามเนื้อตัวออกจนเกลี้ยง จากนั้นจึงสาวเท้านำปลาที่หาได้เดินกลับบ้าน ในสภาพเปลือยเปล่าช่วงบน ส่วนช่วงล่างใส่เพียงผ้าข้าวม้าผืนบางมีถูกพันรัดเอวแกร่งและต้นขาเอาไว้แน่นตามฉบับหนุ่มชนบท เผยความสูงราว185ซม.ในร่างที่แกร่งใหญ่กำยำอาบสีแทนเข้ม อุดมด้วยกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง และบึกบึนสมชื่อไปทุกสัดส่วน ไล่ตั้งแต่ต้นคอ รามลงมายันบ่ากว้างแกร่งดุจหินผา แผงอกบึกบึน กล้ามเนื้อขึ้นแกร่งหนาแข็งแรงเป็นลูกประดับด้วยเม็ดไตสีน้ำตาลเข้มอมดำทั้งสองฝั่งข้าง อีกทั้งกล้ามและลำแขนยังแข็งแรงชวนหลงไหล แฝงไปด้วยเส้นเลือดแกร่งขึ้นเต็มลำแขน ในส่วนของหน้าท้องนั้น ก็ช่างแน่นหนาแกร่งกำยำไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงชวนสัมผัส ประดับด้วยไรขนหนาดกดำ ที่ขึ้นไล่รามตั้งแต่บริเวณใต้สาดือ หายเข้าไปในผ้าขาวม้าผืนบาง อีกทั้งใบหน้ายังหล่อคมเข้ม เสริมเสนห์ด้วยตอหนวดที่ขึ้นครึ้มรำไร ให้ธรรมชาติ และฟ้าดินได้ชื่นชมความเป็นยอดชายของตน และไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ชายหนุ่มพ่อหม้ายวัย30ปลายๆผู้นี้ ถึงได้เป็นที่หมายปอง ของสาวน้อย และสาวใหญ่แม่หม้าย รวมไปถึงเป็นที่หมายใจของเหล่าพวกตุ๊ดแต๋วในพื้นที่แห่งนี้อีกด้วย                ในขณะที่สองเท้าของบึก กำลังย่ำออกจากบริเวณท้ายคลอง ทันใดนั้น หูของตนก็ได้ยินเสียงร้องกึ่งเสียงครางปริศนาดังแว่วมาแต่ไกลๆ และเสียงเหล่านี้เอง ก็เป็นเสียงที่ตนนั้นเฝ้าถวิลหามาตลอดเกือบ10ปี   "สัส! ใครมันมาเย็ดกันกลางคลอง กลางป่าแบบนี้ว่ะ ไม่อายเจ้าป่าเจ้าเขากันหรือไง!"   บึกสบถพรึมพรำ พร้อมจิตใจที่สั่นระทึก อีกใจก็อยากจะเดินกลับ เพราะไม่อยากจะยุ่งเรื่องของชาวบ้าน แต่ยิ่งตนก้าวเท้าถ้อยห่างมากเท่าไหร่ ก็เหมือนกับว่า เสียงแว่วสวาทปริศนาที่ได้ยินนั้น มันจะเรียกร้องให้ตนเข้าไปค้นหาจุดตำตอเสียให้ได้ และแล้วสองเท้าที่จะถ้อยออกห่าง ก็กับค่อยๆก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระทึก บึกค่อยๆเดินแหวกกอพง กอหญ้าที่ละนิดๆให้เบาเสียงมากที่สุด เพียงอึดใจ เสียงสวาทปริศนาก็ค่อยๆดังแจ่มชัดขึ้น   ตั่บ!! ตั่บบบบ!!ตั่บบบบบ!!!      "อุ้ยยยยพ่อจ๋าาา...อ้าาาาส์...พ่อจ๋าาาาา...รูหนูบานหมดแล้ววอ้าาาส์"      "ซี๊ดดดสัสส...ก็มึงดื้อกับกูดีนัก! กูบอกให้ถึงบ้านก่อนก็ไม่ยอมฟัง เจอกูจับเย็ดกลางป่าเลยเป็นไงซี๊ดดด!!!"   ภาพตรงหน้าทำเอาบึกแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา ทุย ชายหนุ่มรุ่นพี่วัยเกือบ40 ที่ตนรู้จัก กำลังกระหน่ำอัดดุ้นเอ็นเข้ารูทวารของ ยิ้ม ลูกเลี้ยงเพศชายวัยมัธยมต้น ในท่าหมาอย่างดุเดือดและบ้าคลั่ง เล่นเอาเนื้อบริเวณแก้มก้นของยิ้มนั้น สั่นกระเพื่อมไปตามแรงเย็ดเป็นคลื่นๆ ทุยจัดการใช้ลำเอ็นขนาด7นิ้ว อัดกระเเทกเย็ดรูทวารลูกเลี้ยงอย่างเน้นๆและมิดลำทุกครั้ง เล่นเอาบึก ที่แอบยืนดูอยู่ ถึงกับรู้สึกอุจาดตา และเวทนาแทนเด็กชายยิ้มเป็นอย่างมาก แต่แทนที่ยิ้มจะร้องเจ็บปวด กับครางลั่นให้พ่อเลี้ยงของตนนั้น กระแทกลำควยเข้ามาในรูทวารอย่างแรงเต็มที่      "อุ้ยยยพ่อจ๋าาาแรงๆเลยย...อ้าาายิ้มเสียวววรู...ปลาช่อนของพ่ออ...ทั้งกินอร่อย...ทั้งยาวใหญ่...แน่นรูยิ้มที่สุดเลยพ่อจ๋าาา…."      ยิ้มครางลั่น ใช้เล็บทั้งสิบจิกไปบนพื้นหญ้าแน่น พร้อมทั้งแอ่นรูทวารให้ทุยกระแทกเย็ดอย่างเต็มที่ ราวกับเป็นเพศเมียที่ร่านสวาทดุ้นเอ็นของเพศผู้ไม่มีผิดเพี้ยน   "ซี๊ดดด...ทำไมมึงร่านถึงใจกูแบบนี้ว่ะ อียิ้ม! สัส! รูแม้งก็ทั้งรัด ทั้งตอดควยกูแน่นกว่ารูหีของเมียมึงอีก...ซี๊ดดดด!!!"   ทุยครางเสียงสั่นดุดันเต็มที่ ในขณะที่เอวแกร่งในร่างของชายหุ่นหมี ก็ยังคงทำหน้าที่กระแทกลำควยเย็ดเข้า เย็ดออกรูทวารลูกเลี้ยงอย่างไม่หยุดหย่อน จนทั้งสองร่างของชายต่างวัยนั้น ชุ่มโชกและมันวาวไปด้วยเม็ดเหงื่อ และนั่นก็ทำให้บึกรับรู้ความจริงว่า ปลาช่อนที่เด็กดินติดใจหนักหนา หาใช่เป็นปลาตามแม่น้ำอย่างที่ทุยได้เอ่ยกับตนไม่ แต่มันคือ ดุ้นควยขนาด7นิ้ว ที่กำลังกระสวกเข้าออกรูตูดลูกเลี้ยงของตนต่างหาก ตั่บบบ!!! ตั่บบบบ!!! ตั่บบบบบ!!!   "สัสสอียิ้มมม...เมียพ่ออ...อ้าาากูจะแตก...จะเเตกแล้วววว!!!"   "อ้าาาแตก...แตกใส่รูหนูเลยย...พ่อจ๋าาาา...หนูอยากเป็นเมียพ่ออ...พ่อจ๋าาา...ผัวววจ๋าา!!!"      ทุยเร่งกระแทกลำควยเข้าหารูตูดของลูกเลี้ยงอย่างบ้านคลั่ง นงยิ้มเองก็ไม่น้อยหน้า แอ่นรูทวารเข้าสู้ดุ้นควยของพ่อเลี้ยงอย่างไม่ยอมแพ้ จนเสียงคราง และเสียงเย็ดกันของคนทั้งคู่ ดังระงมไปทั่วบริเวณคุ้งน้ำ ก่อนที่ร่างหมีอันแข็งแกร่งของทุย จะเกร็งกระตุกหลายต่อหลาย พร้อมร่างบอบบางของลูกเลี้ยงที่สั่นสะท้านหลายต่อหลายรอบ หมายให้รู้ว่า น้ำเชื้อพ่อพันธุ์ของทุยนั้น ได้เข้าไปผสมพันธุ์อยู่ภายในลำไส้ใหญ่ของลูกเลี้ยงเป็นที่เรียบร้อย   "อุ้ยยยพ่อจ๋าาา...กลับไปถึงบ้าน...พ่อต้องเย็ดหนูแทนแม่อีกนะพ่อจ๋าาา...อ้าาาส์"      "สัสอ่าาา...มึงได้น้ำควยกูไปสองน้ำแล้วนะ ยังไม่พอใจอีกเหรอหึ"   "ยังจ๊ะพ่ออ...ก็ปลาช่อนของพ่อมันอร่อยติดใจหนูหนิจ๊ะ คอยดูนะ คืนนี้หนูจะดูดกินปลาช่อนพ่อทั้งคืนเลย…"   สองพ่อลูกนอกสายเลือดเอ่ยและกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินลงไปล้างคราบน้ำเหงื่อ และคราบน้ำเชื้อในหนองน้ำพอเห็นเช่นนั้น บึกจึงค่อยๆรีบรุดพาร่างสูงใหญ่กำยำของตน เดินจากภาพอันอุจาดตาออกมาทันที ตอนนี้ภายในหัวสมองของตน สับสนและวุ่นวายจนรู้สึกผะอืดผะอม กับภาพการเสพสังวาทสุดประหลาด ที่ตนนั้นเพิ่งจะมีโอกาสได้พบเห็นเป็นครั้งแรก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ทุย ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิง จะกล้ามีสัมพันกับรูทวารได้ลง และรูทวารนั้นก็ไม่ใช่ของใครอื่น แต่กับเป็นของ ยิ้ม ลูกเลี้ยงเพศชาย โดยที่บึกเองไม่ทันได้สังเกตุและรู้สึกเลยว่า ภาพอันแสนอุจาดตาที่ตนได้พบเจอนั้น มันทำเอาดุ้นเอ็นขนาดเทียบม้าศึกของตน แข็งผงาดจนแน่นปมผ้าข้าวม้าตุงไปหมด   

         พอกลับถึงบ้าน      "พ่อจ๋าาา...ย่าเขาฝากต้มยำปลามาให้"   เสียงใสอันคุ้นหูของลูกชาย ก็พุ่งใส่แก้วหูทันที บึกมองดิน ลูกชายวัย13ปี อย่างเบื่อหน่าย ถึงแม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ไม่ได้ทำให้อคติภายในจิตใจ ที่มีต่อเด็กชายผู้นี้ลดน้อยลงไปเลย แถมยิ่งได้เห็นว่าดินนั้น ได้รับเชื้อพันธุกรรมมาจากมารดาเต็มๆ มันก็ยิ่งทำให้ตนนั้น อดที่จะคิดถึงเรื่องราวอันแสนขมขืนในคืนนั้นไม่ได้เลย   "ผู้ชายที่ไหนเขาพูดจ๊ะ พูดจ๋ากันว่ะไอ้ดิน! มันต้องพูดครับ!"   บึกเอ่ยดุลูกชายทันที ถึงพฤติกรรมที่ตนเป็นกังวล ว่าดินนั้น จะไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อยอย่างที่ตนหวังเอาไว้   "ก็ย่าเขาสอนนี่จ๊ะพ่อ…"      ดินรีบละสายตา จากที่จับจ้องภาพของพ่อตนอยู่ เป็นก้มหน้าลงทันที ก่อนจะเอ่ยเสียงสั่นด้วยความเกรง   "เถียงเหรอ มึงเถียงกูเหรอว่ะไอ้ดิน"      บึกตะคอกเสียงดุดัน รีบเดินไปกระชากแขนบางของลูกชายอย่างแรง ทำเอาน้ำตาของดินไหลออกมาทันที   "หนูไม่ได้เถียง ปล่อยนะ! หนูเจ็บ!"   ดินใช้แรงทั้งหมดที่มี ออกแรงดึงแขนของตนให้กลับมา   "จะมีวันไหนไหม ที่พ่อจะพูดจาดีๆกับหนู เหมือนกับที่พ่อคนอื่นเขาทำกัน!"   ก่อนจะเอ่ยวาจาลั่นใส่บิดาของตน แล้วรีบวิ่งขึ้นบ้านไปทันที      กลางดึกในคืนนั้นเอง ณ.กลางป่าที่ไม่คุ้นหูคุ้นตา   "ดิน ดินเอ่ย เดินมาหาแม่สิลูก ดินแม่อยู่นี่"    เสียงแว่วอันคุ้นเคย และแสนคิดถึงของดาวเรือง ทำให้ดินรีบเดินตรงไปหาทันที ก็พบว่าดาวเรือง แม่เลี้ยงของตน กำลังยืนรอสวมกอดตนอยู่ ที่บริเวณหน้าศาลไม้เก่าๆ   "แม่จ๋าาา...หนูคิดถึงแม่ที่สุดเลยย…"    ดินร้ำไห้ พร้อมกอดร่างของแม่เลี้ยงไว้แน่น    "แม่ก็คิดถึงหนูนะดิน ถ้าหนูคิดถึงแม่ หนูเอาสร้อยนี้ สร้อมเอาไว้ที่คอตลอดนะ"   ดาวเรืองเอ่ย ก่อนจะยื้นสร้อยคอที่เป็นเหมือนเชือกถัก ประดับด้วยจี้สลักสีดำเท่าเหรียญสลึง ยัดใส่มือของดิน   "สร้อย สร้อยอะไรเหรอจ๊ะแม่"   ดินเอ่ยถาม   "มันคือ สร้อยแห่งการรอคอย ถ้าหนูคิดถึงแม่ รักแม่ หนูก็ต้องสร้อมใส่มันไว้ห้ามถอดออกเป็นอันขาด เข้าใจไหม"   ดาวเรืองเอ่ยย้ำเสียงเคร่ง    "จ๊ะแม่จ๋า แม่ แม่จะไปไหน"   ดินเอ่ย เมื่อเห็นว่าร่างของแม่เลี้ยง ผลักร่างของตนออก แล้วค่อยๆเดินถ้อยเท้าเข้าไปในศาลไม้เก่า ที่ละก้าวๆ    "แม่ แม่จ๋าา เดี๋ยวก่อน แม่ รอหนูด้วย แม่จ๋าา!!!"    ดินร้องลั่น วิ่งตามร่างของแม่เลี้ยงสุดกำลัง แต่ยิ่งวิ่งแรงมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนจะยิ่งไกลออกไปมากเท่านั้น    "แม่!!!....."      ดินสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก็พบว่าเรื่องทั้งหมดนั้น เป็นแค่ความฝันในยามเช้าตรู่ ในขณะที่ดินกำลังจะลุกขึ้นจากเตียงนอน เพื่อไปทำกิจวัตรประจำวัน ตนก็รู้สึกได้ว่า ที่บริเวณฝ่ามือได้มีสิ่งของวางใส่เอาไว้อยู่ และที่ต้องทำให้ดินถึงกับตาลุกโชนด้วยความตกใจนั่นก็คือ สิ่งของที่อยู่ในฝ่ามือนั้น มันคือสร้อยเส้นเดียวกัน กับที่อยู่ในความฝันไม่มีผิดเพี้ยน………..




talhiw โพสต์ 2021-10-17 00:09:05

ขอบคุณครับ

peekay โพสต์ 2021-10-17 00:49:05

ขอบคุณ​

Maramost โพสต์ 2021-10-17 01:19:45

มาแล้ว คิดถึงไรต์มากๆเลยครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าติดตามอีกแล้ว (เรื่องสเปเชียลเรื่องที่แล้วคือสุดยอดมากครับ ชื่นชม) ขอบคุณและจะรอติดตามผลงานนะครับ

Blackblood888 โพสต์ 2021-10-17 02:03:12

ขอบคุณมากครับ

4554 โพสต์ 2021-10-17 02:18:24

ขอบคุณและจะรอติดตามผลงานนะครับ

tonsevenup โพสต์ 2021-10-17 02:44:18

ขอบคุณครับ

asanai โพสต์ 2021-10-17 02:55:05


ขอบคุณครับ

tazman โพสต์ 2021-10-17 03:00:20

กำลังสนุก

hornyson โพสต์ 2021-10-17 03:01:54

น่าติดตามฮะ ขอบคุณมาก {:5_146:}

natthaphat.sam โพสต์ 2021-10-17 03:03:25

ขอบคุณครับ

prakanboy โพสต์ 2021-10-17 03:18:06

น้องดินต้องออกล่าควยแล้ว

xoman โพสต์ 2021-10-17 03:36:22

ขอบคุณครับ

gaybin โพสต์ 2021-10-17 03:40:53

สนุกมากเลยครับ

rubthai โพสต์ 2021-10-17 03:48:14

ขอบคุณคับ

aka_365 โพสต์ 2021-10-17 04:19:08

สนุกมากเลยครับ​ รอติดตามตอนต่อๆไปครับ

iba โพสต์ 2021-10-17 04:20:29

สนุกครับ รอตอนต่อไปนะ ชอบๆ

sakggg โพสต์ 2021-10-17 04:35:20

ขอบคุณครับ

lekthai โพสต์ 2021-10-17 04:36:04

กำลังสนุกเลย ขอบคุณ

white_blue โพสต์ 2021-10-17 04:41:38

รอตอนต่อไปนะครับ
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9
ดูในรูปแบบกติ: สาปสวาท อาถรรพ์โลกีย์ ตอนที่2