mon-mon โพสต์ 2021-10-18 09:22:41

รูปแบบรัก

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย mon-mon เมื่อ 2021-10-18 09:22

บทที่ 1 ครั้งแรกที่ต่างแดน
   ผมได้เดินทางไปทำงานที่ตะวันออกกลางหรือดินแดนแห่งอาหรับ กลิ่นอายแห่งความเคร่งครัดทางศาสนาที่ปิดกั้นโลกภายนอกไม่ให้ไหลทะลักเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมหรือความทันสมัยต่าง ๆ เพราะฉะนั้นสภาพบ้านเมืองหรือชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนยังล้าหลังกว่าบ้านเราะประมาณ 10-20 ปี จะมีเมืองใหญ่ ๆ เท่านั้น ทั้งประเทศที่พอจะมีร้านค้าให้พอจับจ่ายซื้อข้าวของเครื่องใช้ไว้สนองความต้องการของผู้คน
   เครื่องบินของสายการบิน PIA ปากีสถานเนชั่นแนล แอร์ไลน์ ได้นำผมและเพื่อนคนงานไทยกว่า 80 ชีวิต ร่อนลงจอด ณ สนามบินเมืองทริโปลี ประเทศลิเบีย กว่าจะผ่านพิธีตรวจเข้าเมืองได้ก็เสียเวลาไปหลายชั่วโมง เจ้าหน้าที่แขกที่มีหนวดยาวเฟื้อย ยักคิ้วหลิ่วตาทำกิริยากรุ้มกริ่มใส่พวกเราที่หน้าตาหล่อ รวมทั้งผมด้วย แต่เราก็เฉย ๆ เพื่อให้การตรวจเสร็จสิ้นโดยเร็ว
   ออกจากสนามบินมีรถบัสจากบริษัทนายจ้างมารับ รถวิ่งผ่านอาคารบ้านเรือน ซึ่งเป็นตึกเตี้ย ๆ สถาปัตยกรรมแบบอาหรับซึ่งเป็นแบบกล่องสี่เหลี่ยมไม่มีหลังคา แต่จะลาดซีเมนต์เป็นพื้น เพราะฝนไม่ใช่ความสำคัญที่จะทำหลังคาแบบจั่วเหมือนบ้านเรา ฝุ่นจากทะเลทรายต่างหากที่พวกเขาต้องการจะปิดกั้นบ้านเรือนให้มิดชิดเพราะว่าปีหนึ่ง ๆ ทั่วประเทศมีปริมาณน้ำฝนเพียงน้อยนิด เทียบกับฝุ่นจากทะเลทรายซึ่งพัดผ่านทั้งปี ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง รถบัสก็นำพวกเราทั้งหมดมายังแคมป์ที่พักซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ มีไว้สำหรับอบรมคนงานที่มาใหม่ แล้วก็เป็นศูนย์จ่ายงานไปยังไซท์งานต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศ เราทั้งหมดขนกระเป๋าสัมภาระเข้าไปยังห้องพัก ซึ่งเป็นห้องพักรวม ห้องหนึ่งก็นอนกันประมาณ 10-12 คน เพราะไม่ได้อยู่ถาวร เราจะพักที่นี่ 1-2 เดือน จากนั้นก็จะแยกย้ายกันไปทำงานตามตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละคน เสียงประกาศทางเครื่องกระจายเสียงบอกให้คนงานไปกินข้าวเย็นที่โรงอาหาร จากนั้นก็จะเป็นการอบรมซึ่งเป็นการแนะนำให้รู้กฎระเบียบข้อบังคับของบริษัท และข้อห้ามของประเทศนี้ ก็มีห้ามดื่มสุรา ของมึนเมา ห้ามทะเลาะวิวาท หรือยุ่งเกี่ยวกับคนของเขา โดยเฉพาะผู้หญิง ซึ่งชาวอาหรับถือว่าเป็นข้อห้ามที่ถ้าใครฝ่าฝืน จะได้รับโทษสถานหนักทีเดียว
   เสร็จสิ้นการอบรมก็มืดค่ำพอดี อากาศเริ่มหนาวเย็น เราทุกคนก็ทะยอยกันไปอาบน้ำ ซึ่งเป็นห้องอาบน้ำรวม มีบริการน้ำอุ่น น้ำร้อนจากฝักบัว บางคนก็นุ่งกางเกงในอาบ แต่ก็มีส่วนมากที่เปลือยกายอาบ ท่ามกลางไอความร้อนจากน้ำที่ฟุ้งกระจาย ผมทำใจกล้าเปลือยเหมือนกัน แต่ไปยืนอาบด้านในสุดซึ่งไฟสลัว ๆ มองคนข้าง ๆ ซึ่งเป็นหนุ่มวัยเดียวกันกับผม ยืนรองรับความร้อนจากน้ำอย่างสบายอารมณ์ ซึ่งผมกับเขารู้จักกันแล้วบนเครื่องเพราะว่าเราได้ที่นั่งติดกัน เขาชื่อชัย ชัยจัดว่าเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง หุ่นสูง มีกล้ามพองามแบบนักกีฬา ผิวออกขาวซึ่งผิดจากหนุ่มอีสานทั่ว ๆ ไป เวลาเขาก้มลงเอาสบู่ถูขาเห็นก้นงอนขาว ๆ ของเขาแล้ว มันอดคิดไม่ได้ ขณะคุยกันผมก็แอบชำเลืองมองเขาบ่อย ๆ บางครั้งก็เจอสายตาเขามองมายังผมเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะว่าผมไม่ได้แสดงออก
   เราคุยกันหลายเรื่อง ทราบว่าชัยก็ยังโสด ยังไม่ได้แต่งงานเหมือนผม เขามาทำตำแหน่งขับรถดั๊ม ส่วนผมมาตำแหน่งกุ๊ก ทำอาหารให้คนงานกิน ชัยปิดฝักบัวยืนซับตัวด้วยผ้าขนหนู ผมก็เลยปิดฝักบัวเดินมายังที่เขายืนอยู่ ลีลาการเช็ดตัวของชัยน่าดูมาก โดยเฉพาะตอนที่เขาเช็ดเคของเขา รู้สึกว่าเขาจะพิถีพิถันเป็นพิเศษ ไม่ใช่อุปทานนะครับ ผมรู้สึกว่าเคของเขาเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ นี่กะประมาณว่าถ้าแข็งเต็มที่ก็คงประมาณ 8 นิ้วเห็นจะได้ ใหญ่เกินมาตรฐานชายไทยโดยทั่วไปจริง ๆ ชัยหยิบกางเกงในตัวจิ๋วสีขาวมาใส่ นุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วถามผมว่า
   "เสร็จหรือยัง ไปกันได้แล้ว หนาวเป็นบ้า"
ผมเลยต้องรีบเดินตามเขาไป อดระทึกใจไม่ได้เมื่อเห็นแผ่นหลังกว้าง กล้ามเนื้อแข็งแกร่งของชัย หลังจากคุยกันกับเพื่อน ๆ ผมก็ได้นอนข้าง ๆ กับชัย แต่อีกส่วนหนึ่งยังคงคุยกันอยู่ ซึ่งจะเป็นกลุ่มของคนที่มีอายุแล้วคุยกัน แซวกันบ้างเรื่องเมียทางบ้าน ว่าพวกเรามาทำงานยังงี้กว่าจะกลับก็ 2-3 ปี เมียบางคนอาจจะหนีไปกับชู้เลยก็ได้ ผมนอนฟังเขาคุยกันไปเรื่อย ๆ ใจหนึ่งก็คิดถึงภาพชัยเมื่อตอนอาบน้ำด้วยกันตอนหัวค่ำ ทำให้ผมเกิดอารมณ์ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ท่อนเนื้อกลางลำตัวเริ่มขยายใหญ่ ผมซุกมือไว้ที่ท่อนเนื้อนั้น กลัวคนอื่นสังเกตเห็นก็เลยนอนตะแคง ซึ่งชัยนอนลืมตาอยู่ข้าง ๆ
   "เป็นไง นอนไม่หลับหรือ"
ชัยถาม
   "อือ มันแปลกที่ อีกอย่างอากาศหนาวกว่าบ้านเรานะ"
ผมเลยชวนชัยคุย
   "ชัยมีแฟนหรือยัง"
ชัยมองหน้าผมคล้ายถามในใจก่อนตอบว่า
   "แต่ก่อนมี แต่เดี๋ยวนี้ไม่มี"
   "หมายความว่าไง"
ผมงง เลยถามไป
   "อ้าว ก็ก่อนที่จะมาทำงานนี่นะเคยมี แต่เดี๋ยวนี้ไม่มี"
   "หมายความว่าโดนแฟนทิ้ง หรือว่านายทิ้งเขา"
ผมถามต่อ ชัยหยุด ถอนหายใจครู่หนึ่งก่อนตอบว่า
    "มันไม่ถึงกับโดนแฟนทิ้งนะ คือว่าฐานะทางบ้านเรามันต่างกัน ญาติผู้ใหญ่เลยกีดกัน อีกอย่างเราก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน"
   "แล้วแฟนนาย แต่งงานหรือยัง"
ผมถามต่อ
    "แต่งไปแล้ว ก่อนที่เราจะมาทำงานที่นี่ เดือนกว่า ๆ เอง"
   "กับใคร"
   "กับเพื่อนเราเอง เป็นตำรวจ"
   "เราเสียใจด้วยนะ"
   "อะไร"
ชัยถาม
    "ก็ที่นายอกหักไง"
   "มันไม่ถึงกับอกหักหรอกนะ"
   "แสดงว่านายไม่ได้ชอบเขาเท่าไหร่ล่ะสิ"
   "ทั้งรักทั้งชอบเลยล่ะ แต่ทำไงได้ แล้วนายล่ะ"
ชัยถาม
   "ก็เหมือนนายนั่นแหละ ยังไม่มีแฟน คิดว่าจะทำงานหาเงินสร้างหลักฐานเสียก่อน เมื่อเรามีพร้อมทุกอย่าง แฟนหรือว่าอะไรก็ตามมาเอง"
   "จริงของนาย"
ชัยเห็นด้วยกับคำพูดของผม
    "แล้วกะจะอยู่สักกี่ปี"
ชัยถาม
    "ก็คงจะไปเรื่อย ๆ ถ้าหากว่าไม่มีปัญหาอะไร นายคิดดูนะ เราอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลถึงขนาดนี้ ทนได้ก็ควรทนเอา คิดเสียว่าคนที่เขาอยากจะมาแต่ไม่ได้มา เรานี่โชคดีกว่าคนอีกหลายพันหลายหมื่นคน เราน่าจะใช้โอกาสนี้สร้างเนื้อสร้างตัว จริงไหม"
   "เออ นายพูดถูก"
ชัยเห็นดีเห็นงามไปกับผม ผมขยับตัวลุกขึ้น ชัยเลยถามว่า
   "นั่นนายจะไปไหน"
   "ไปห้องน้ำ ปวดฉี่"
ผมตอบ
    "เราไปด้วยคนสิ"
ดึกมากแล้วประมาณเกือบเที่ยงคืน บรรยากาศภายนอกเงียบ ลมหนาวพัดโชยมาเย็น ๆ เสียงหรีดหริ่งร้องระงม เสียงสุนัขเห่ามาเป็นระยะ ๆ แคมป์บรรยากาศชวนให้คิดถึงบ้านชะมัด ผมเดินเข้าไปในห้องส้วม ที่ข้างนอกมีโถฉี่สำหรับไว้ยืนฉี่
    "เฮ้...ไหนบอกว่าจะมาฉี่ไง ทำไมเข้าห้องส้วม ปวดท้องหรือ"
ชัยถาม
   "ทั้งสองอย่างแหละ"
ผมตอบพร้อมกับปิดประตู แต่ไม่ได้ใส่กลอน ควักไอ้หนูออกมา ซึ่งขณะนี้มันแข็งโด่ชัน ทำยังไงก็ฉี่ไม่ออก เสียงชัยกดน้ำราดโถดังซู่ ๆ
   "เฮ้ย...พล เสร็จหรือยังวะ เรารอที่หน้าห้องน้ำนะ"
แต่ให้ตายเถอะ ทำยังไงก็ฉี่ไม่ออก ทั้ง ๆ ที่ปวดเหน็บที่ท้อง ผมก็เลยจัดการถลกหนังหุ้มที่เคลงจากนั้นกำให้แน่น รูดท่อนเอ็นขึ้นลง ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้มันสงบลงได้ ผมรีบสาวว่าวดังพั่บ ๆ เพราะชัยรออยู่
   "เฮ้ย...ทำอะไรอยู่ว่ะ"
ชัยพูดพร้อมกับผลักประตูซึ่งไม่ได้ใส่กลอนเข้ามา ผมตกใจไม่นึกว่าชัยจะเปิดเข้ามา จะเก็บเคก็เก็บไม่ทัน
   "อ๋อ! ชักว่าวเหรอ"
ชัยแทรกตัวเบียดเข้าในห้องน้ำ
   "เราก็อยากเหมือนกัน เอางี้ เรามาชักแข่งกันดีไหม"
ชัยถาม ผมมองหน้าชัย
   "จะดีเหรอ"
ชัยไม่ตอบ ควักเคออกมา ซึ่งมันกำลังน่วม ๆ อยู่ ชัยจัดการร่นหนังหุ้มออก แล้วก็เริ่มชักท่อนเอ็นเข้าออก สายตาก็จับจ้องอยู่ที่เอ็นของผม เราหันหน้าชนกัน ซึ่งท่อนเคของเราทั้งสองเกือบจะชนกัน
   "ของนายใหญ่ไม่เบาเลยนะ"
   "ของนายก็ใช่ย่อยเหมือนกันนี่"
ผมก็ชักไปเรื่อย ๆ ด้วยความตื่นเต้นที่ชักว่าวต่อหน้าคนอื่น ชัยจับท่อนเคของเขามาชนหัวเคของผม ผมได้ทีเลยแอ่นท่อนเคไปทักทายบ้าง
   "นายใกล้หรือยัง"
ชัยถาม

   "เกือบแล้วล่ะ"
   "เรามาเปลี่ยนกันชักดีไหม เราคิดว่าของนายน่าชักมา"
ชัยพูดพร้อมกับยื่นมือมาจับเคของผม ผมก็เลยยื่นมือไปจับเคของชัยบ้าง โห...เต็มไม้เต็มมือจริง ๆ ชัยจับเคของผมกระทอก ผมก็จับเคของชัยกระทอกเหมือนกัน
   "อืม...ดีมากพล นายกำแน่น ๆ นะ แล้วกระทอกสุด ๆ เลย เราเกือบแล้วล่ะ"
   "เราก็เหมือนกัน ออกพร้อมกันนะ"
พูดจบผมก็กำเคอันเขื่องของชัยแน่น แล้วกระทอกขึ้นสุดลงสุดไม่กี่อึดใจชัยก็แขม่วท้องพ่นน้ำรักสีขาวข้นคลัก พุ่งเป็นสายกระเซ็นไปติดเขอระที่ฝาผนังห้องน้ำ เหนียวหยดเป็นทางมันออกมามากจริง ๆ ผมซี้ดปากรู้สึกเสียวตื้อที่หัวเค ชัยคงรู้เลยกำเคผมแน่นสาวว่าวขึ้นลงเร่งสปีด ผมทนกลั้นไม่ไหวเลยปล่อยกระฉูดออกมา พุ่งไปทาบทับกับคราบน้ำรักของชัยเป็นทางยาว เราทั้งคู่หยุดหอบ ชำระทำความสะอาดเคแล้วเก็บเข้าที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ต่างคนต่างไม่พูดอะไรสักคำ ผมนึกกระหยิ่มในใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ นึกไม่ถึงว่าชัยก็ชอบอย่างนี้เหมือนกัน
   เรากลับมาถึงห้องล้มตัวลงนอน พวกที่คุยกันเมื่อครู่ต่างก็นอนหลับกันหมดแล้ว ผมสังเกตชัยยังไม่ได้หลับ ยังลืมตาโพลงในความมืด ผมขยับเข้าไปใกล้ตัวเขา อากาศมันหนาวถึงแม้จะมีฮีตเตอร์ ผมยื่นมือไปบีบมือชัยเบา ๆ ชัยหันหน้ามามองผมก่อนที่จะบีบมือผมเป็นเชิงตอบรับ คืนนั้นทั้งคืนผมหลับฝันดีที่สุด นับเป็นวันแรกที่เริ่มต้นได้รับประสบการณ์ประทับใจ


บทที่ 2 รสชาติโฟร์แมนเกาหลี
   หลังจากอบรมตรวจโรคเสร็จ เช้าวันต่อมาเราทั้งหมดก็ถูกส่งไปยังไซท์หน่วยงานผลิตที่เรียกว่า PRODUCTION ส่วนชัยก็แยกไปไซท์งานหน่วยบำรุงถนน ซึ่งห่างจากที่ผมจะไปอยู่ประมาณ 1000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทะเลทรายล้วน ๆ เรียกว่าทะเลทรายซาฮาร่า
      สำหรับไซท์งานที่ผมอยู่เป็นไซท์งานขนาดใหญ่ มีคนงานหลายชาติหลายภาษา เช่น เกาหลี ไทย จีน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม บังคลาเทศ แล้วก็ฝรั่ง แต่ที่นี่คนเกาหลีจะเป็นเจ้าของโปรเจคต์งานและเป็นนายจ้างด้วย
   วันแรกที่เริ่มทำงานก็โดนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ เพราะว่าเขาจะเลือกคนไปทำงานที่ครัวฝรั่ง พอดีผมมีพื้นฐานอยู่บ้างก็เลยได้รับเลือก จริง ๆ แล้วผมจะต้องทำที่ครัวไทยแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่านายจ้างพอใจจะให้เราไปทำตรงไหน ที่ผมอยู่เป็นครัวฝรั่งมีกุ๊กสองคน คือผมกับหัวหน้ากุ๊กที่เป็นเกาหลีอีกคน รับผิดชอบทำให้ฝรั่งกิน 10-15 คน
   วันแรกที่ไปทำงานเจอหัวหน้ากุ๊ก ทีแรกคิดว่าเป็นคนแก่ที่ไหนได้ยังหนุ่มอยู่เลย อายุประมาณ 27-28 ปี ที่สำคัญหน้าตาจัดว่าหล่อมาก ผิวพรรณขาว สะอาด แรก ๆ ก็ยังสื่อภาษากันยังไม่ได้นักเพราะว่าเขาชอบพูดเกาหลีปนอังกฤษ แต่พอผ่านไปสัก 3 เดือนก็เริ่มที่จะคุ้นเคย ดูเขาเป็นคนอารมณ์ดี ชอบหยอกล้อผม จับเนื้อต้องตัวด้วย ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะนึกชอบเขาตั้งแต่วันแรกที่เห็นแล้ว ทราบว่าเขาหรือ Mr. คิม นี่มาอยู่ได้สามปีกว่าแล้ว เป็นหนุ่มยังไม่ได้แต่งงาน เพราะประเพณีของชาวเกาหลีผู้ชายจะแต่งงานได้ก็ต้องอายุ 28 ปีขึ้นไป ส่วนผู้หญิงต้อง 25 ปีขึ้นไปและผู้ชายจะต้องมีบ้าน รถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เสียก่อน เมื่อทุกอย่างพร้อมชายหญิงก็จะแต่งงานกันโดยที่ไม่มีสินสอดทองหมั้นอย่างไทยเรา แต่จะจัดงานแต่งงานโดยที่ฝ่ายหญิงจะรับผิดชอบเรื่องอาหารการกินเลี้ยงแขกในงาน ส่วนฝ่ายชายนั้นก็รับผิดชอบเรื่องบ้าน รถยนต์ เงินออม ซึ่งนับว่าดีเป็นการแชร์กันหลาย ๆ อย่าง Mr. คิมนี่มักจะมาเล่นที่ห้องนอนผมเป็นประจำ ซึ่งที่ผมนอนนี่จะเป็นห้องส่วนตัวอยู่ติดกันกับห้องเขาไม่ไกลนัก ก็จะถามเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทย แล้วก็เรื่องทั่ว ๆ ไป แต่ไป ๆ มา ๆ ก็จะถามเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ที่เมืองไทย ผมก็บอกไปตามประสบการณ์จริงบ้าง แต่งเองบ้างและเป็นการหยั่งเชิงดูว่าเขาจะชอบแบบเราหรือไม่ ถ้าชอบล่ะสนุกแน่
   แล้ววันหนึ่งผมก็ทราบความจริงแล้วว่าเขาชอบแบบไหน วันนั้นขณะที่ผมนั่งดูทีวีในห้องรับแขกในที่ทำงานคนเดียว Mr. คิม เขาก็เข้ามาดูทีวีด้วย ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาเป็นนายจ้างเราอยู่แล้ว พอในทีวีถึงตอนที่มีบทเลิฟซีนเมคเลิฟกัน Mr. คิม ก็เขยิบเข้ามานั่งใกล้ ๆ ผม จากนั้นก็ลูบไล้ที่ต้นขาของผม จากนั้นก็คลำที่เป้า ซึ่งตอนนี้อารมณ์ผมกระเจิดกระเจิง รู้สึกพอใจมากที่เขาทำกับผมอย่างนั้น เขาจัดการรูดซิปผมแล้วก็ควักน้องชายผมออกมา ซึ่งตอนนี้มันเริ่มมีน้ำใส ๆ ซึมที่ยอดปลายบ้างแล้ว แล้วเขาก็จัดการถลกหนังหุ้มผมออก แล้วก็กำเคผมกระทอก ผมรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็เลยบอกว่า
   "ไปที่ห้องดีกว่า ที่นี่เดี๋ยวใครมาเห็น"
เขาพยักหน้ารับ ผมเก็บอาวุธเข้าที่ จากนั้นก็ปิดทีวีแล้วเดินนำเขาไปที่ห้องของผม พอถึงห้องเขาก็ผลักผมให้นอนลงที่เตียง จัดการกับเสื้อผ้าของผม ผมก็ถอดเสื้อของเขาเช่นกัน ไม่นานเราทั้งสองก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เขานั่งคุกเข่าลงที่หว่างขาผม จับเคของผมและของเขามาทาบทับวัดขนาดกัน ของผมใหญ่กว่านิดหนึ่ง แต่ของเขาก็ไม่เบา ที่บริเวณหัวเหน่าปกคลุมไปด้วยเส้นไหมสีดำตัดกับผิวกายที่ขาวสะอาดทำให้น่าดูมาก เขาเริ่มทาบทับบนตัวผม โดยให้ตำแหน่งที่เคเราทั้งสองบดขยี้กัน ปากก็ชอนไชที่ใบหู ต้นคอ จากนั้นก็กัดเม้มที่ยอดอกทั้งสองของผมสลับกันไปมา ผมได้แต่ครางซี้ดซ้าดในลำคอ ผมเสียวเกือบทนไม่ไหว เลยดึงตัวเขาลงมา ผมเป็นฝ่ายทำบ้าง ผมใช้ลิ้นละเลงที่ยอดอกอันแดงเรื่อของเขา ช่างเต็มปากเต็มคำดีแท้ จากนั้นก็ไซ้ไปทั่วบริเวณใบหน้า ซอกคอ ใบหู แล้วก็วนเวียนลงมาที่ท้องน้อย ผมซุกไซ้บริเวณพงหญ้าอันรกครึ้ม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ตรงขาหนีบสร้างความตื่นเต้นให้กับผมเป็นอย่างมาก เสียง Mr. คิม ครางอู้อี้ในลำคอ แล้วผมก็จัดการกับอาวุธของเขาด้วยปาก ผมห่อปากแล้วใช้ลิ้นตวัดส่วนปลายสลับดูดเน้น ๆ เข้าลึก ๆ Mr. คิม แขม่วท้องกระเด้าเคเข้ามาในโพรงปากผม ผมเกือบสำลักตั้งหลายครั้ง ดีที่ใช้มือยันเอวเขาไว้ ผมเลยกลับหัวกลับเท้าเป็นท่า 69 เราต่างปรนเปรอความเสียวให้กันและกัน ผมบอกว่า
   "ผมใกล้จะออกแล้ว"
Mr. คิม เลยบอกให้ผมจัดการกับหลังบ้านของเขา ผมจัดการให้เขานอนคว่ำหน้าให้ก้นขาวงอนลอยเด่นขึ้นมา แล้วใช้โลชั่นละเลงที่ช่องทาง ผมค่อย ๆ สอดปลายนิ้วกลางเข้าไปก่อน เป็นการเปิดทาง จากนั้นก็เพิ่มจำนวนนิ้วจากหนึ่งเป็นสองเป็นสามชักเข้าชักออก รูของ Mr. คิม ตอบรับด้วยการบีบรัดเป็นจังหวะ
   จากนั้นผมจึงค่อย ๆ ดันเคอันเขื่องของผมเข้าไปช้า ๆ เสียง Mr. คิม ซี้ดปากบอกเสียวมาก ผมเลยดันพรวดเดียวสุดโคนเลย จากนั้นผมก็เริ่มโยกย้ายส่ายเอวเข้าออก รูของ Mr. คิม ฟิตมากเลยครับ แล้วผมก็เปลี่ยนเป็นท่านอนหงาย จับขา Mr. คิมพาดบ่า ปากก็จูบแล้วก็แลกลิ้นกัน ผมจับเคของ Mr. คิม ชักว่าวไปด้วย โยกเอวกระเด้าไปด้วยไม่นานน้ำรักของ Mr. คิม ก็แตกคามือของผม พอ Mr. คิมถึงจุดสุดยอดช่องทางของเขายิ่งบีบรัดเคผมแน่นเข้าไปอีก ผมเลยสวนกดเข้าไปลึก ๆ แล้วฉีดน้ำรักอุ่น ๆ เข้าไปเต็มรูก้นเลย แล้วเราก็นอนกันโดยที่อาวุธของผมยังแช่อยู่ในรูก้นเขาเลย
   จากนั้นก็ไปชำระล้างทำความสะอาดที่ห้องน้ำ เขาเปิดก้นให้ผมดูเห็นเป็นรอยลึกสีแดง ก็ใช่สิครับของผมก็เจ็ดนิ้วกว่า ๆ แถมอวบอีกต่างหาก จากนั้นเราก็แลกลิ้นกันอีกนานพอสมควร ผมกลับมาที่ห้องนึกทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ซึ่งมันไม่น่าจะลงเอยอย่างนี้ ดู ๆ ไป Mr. คิมเขาออกจะมาดแมนเอามาก ๆ ด้วย แต่ก็นั่นล่ะนะ ในบรรยากาศที่ไม่มีผู้หญิงเลย และห่างบ้านมาตั้ง 2-3 ปี จิตใจคนเรามันก็เปลี่ยนไปได้ อะไรที่มันทดแทนได้ก็คว้าไว้ก่อน


บทที่ 3 สุขสันต์วันช้อปปิ้ง
   และแล้ววันหยุดประจำสัปดาห์ก็มาถึง ซึ่งที่นี่เขาจะหยุดเฉพาะวันศุกร์เท่านั้น เพราะว่าเป็นวันหยุดแห่งศาสนาอิสลาม ทางบริษัทก็จะจัดหารถบัสนำคนงานเข้าไปในเมืองเพื่อจัดหาซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น เช่น สบู่ ยาสีฟัน แต่คนไทยส่วนมากจะไปซื้อข้าวปลาอาหารเพื่อมาทำกินพิเศษ หลังจากที่กินข้าวที่โรงอาหารมาทั้งสัปดาห์ ส่วนผมก็จะไปโทรศัพท์มายังเมืองไทยเดือนละครั้ง เวลาที่นี่ต่างจากเมืองไทย 6 ชั่วโมง ก็จะโทรบ่ายโมง เพื่อที่จะให้ตรงกับเวลาที่เมืองไทย 19-20 นาฬิกา หลังจากโทรศัพท์เวลาที่เหลือส่วนมากผมก็จะไปเดินหาซื้อของที่ตลาด ซึ่งที่นี่จะเรียกว่า "มุนดก" เป็นภาษาชาวมุสลิม มุนดกจะเป็นแหล่งรวมสินค้านานาภัณฑ์ ผู้คนเลยมากมาย ที่นี่แปลกตอนกลางวันจะไม่ค่อยมีคนไม่ว่าที่ตลาดหรือว่าที่ไหนก็ตามแต่ พอประมาณ 4 โมงเย็นเป็นต้นไปผู้คนจะเริ่มออกจากบ้านเรือนมาจับจ่ายซื้อของ หรือเตรียมข้าวปลาอาหารไปนั่งกินปิคนิคตามสวนสาธารณะ กว่าจะกินเสร็จก็ประมาณ 4-5 ทุ่มโน่น ที่มุนดกหรือตลาดนี่จะมีแต่ผู้ชายแขกเท่านั้นที่ขายของ ส่วนผู้หญิงถ้าแต่งงานแล้วก็จะอยู่บ้านเฉย ๆ ผลิตลูกอย่างเดียว ที่นี่ก็จะมีแขกหนุ่มหล่อ ๆ เยอะมาก เพราะประเทศลิเบียเป็นประเทศที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของหลายประเทศ เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส อเมริกา จึงได้มีการผสมผสานกันหลายเชื้อชาติ ลูกออกมาจึงค่อนข้างหน้าตาดีเป็นส่วนมาก โดยเฉพาะแขกหนุ่ม ๆ ที่หล่อประทับใจ สันจมูกโด่ง มีเคราเขียว ๆ ขนตางอน ๆ และผู้ชายแขกร้อยทั้งร้อยชอบผู้ชายด้วยกัน โดยเฉพาะกับคนต่างชาติที่เข้าไปทำงาน เวลาไปตามตลาดหาซื้อข้าวของจะโดนพูดจาในเชิงเกี้ยวพาราสีเลยทีเดียว เพราะว่าบ้านเมืองเขาไม่มีที่ระบาย ผู้หญิงกลายเป็นสิ่งของต้องห้าม เพราะฉะนั้นหนุ่มแขกจึงหันมาระบายกับผู้ชายด้วยกันกับคนต่างชาติ เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ถ้าเจอคนที่เป็นเกย์อย่างผมก็ดีไป

   และวันนั้นก็เช่นกัน ผมได้เข้าไปตลาดท่ามกลางชาวอาหรับ กลิ่นเครื่องเทศฟุ้งกระจาย ผมตกเป็นเป้าสายตาของคนที่นั่น กอปรกับผมมีรูปร่างหน้าตาที่จัดว่าหล่ออยู่แล้วและอีกอย่างอาจเป็นคนต่างชาติที่ผิดแผกไปจากคนที่นั่น ผมเดินดูเสื้อผ้าไปเรื่อย ๆ ร้านไหนคนขายหล่อถูกใจก็ดูนานหน่อย อาศัยที่เป็นคนที่พูดภาษาอังกฤษได้หน่อยก็เลยสนุกเพราะแขกที่นี่เขาพูดสองภาษา คือ ภาษาอาระบิคกับอังกฤษ
   "ฮัลโหล สะดิ๊ก"
เสียงทักทายดังขึ้นข้างหลังผม ผมหันควับไปเจอสายตาคู่หนึ่ง พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก เขาพูดพร้อมกับยื่นมือมาจับมือผม
    "ไฮ...สะดิ๊ก"
ผมพูดตอบ คำว่า "สะดิ๊ก" เป็นภาษาอาระบิคแปลว่า "เพื่อน" หรือ "เพื่อนรัก" ขณะที่สัมผัสมือผม แขกหนุ่มคนนั้นใช้มือเกาที่ฝ่ามือผม ซึ่งเป็นซิกซ์พิเศษเป็นที่รู้กันว่าเขาต้องการอะไร
   "Do you Business?"
ถ้าเป็นประโยคโดยทั่วไปคงแปลว่าคุณประกอบธุรกิจไหม? แต่ในสถานการณ์นั้นก็ต้องตีความว่า "คุณขายตัวไหม" ผมหน้าชาขึ้นมาทันที ผมสำรวจแขกหนุ่มคนนี้อายุคงไม่เกิน 20 ปี แต่งตัวสะอาดสะอ้าดโกนเคราเขียวครึ้ม ยิ้มเห็นฟันขาวสวยเป็นระเบียบ พูดจบเขาก็ฉุดมือผมเข้าไปที่ร้านขายเสื้อผ้า
   "How much?"
เขากระซิบที่ข้างหูผมว่าเท่าไหร่
   "Fifty"
ผมบอกไปว่า 50 ดีน่าร์ 1 ดีน่าร์ลิเบียเท่ากับ 120 บาทไทย บวกลบคูณหารเองก็แล้วกันครับว่าเท่าไหร่ เขาทำท่าลังเลนิดหน่อยก่อนจะบอกว่า
   "OK"
เขาเดินไปบอกเพื่อนให้ช่วยเฝ้าหน้าร้านให้ด้วย แล้วเดินนำผมเข้าไปหลังร้าน เพื่อนหนุ่มคนนั้นหลิ่วตาใส่ผม ยิ้มเห็นฟันขาว พอถึงที่ซึ่งมีเพียงเตียงขนาดย่อมพอจะนอนได้คนเดียวกับเครื่องนอนที่มีเพียงหมอนใบหนึ่งกับผ้าห่มกองอยู่บนเตียง นอกนั้นก็เป็นลังกระดาษที่บรรจุเสื้อผ้า กางเกงยีนส์ที่นำมาขายวางกองทับกันเป็นชั้น ๆ พอปิดประตูลงกลอนได้เขาก็ตรงดิ่งมาที่ผมที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ
    "You are very handsome"
เล่นชมกันซึ่ง ๆ หน้าก็เขินสิครับ ผมเลยบอกเขาไปว่า
   "You too"
คุณก็เหมือนกัน ผมหยอดคำหวานให้เขา เขาจับคางผมเชิดขึ้นมองหน้าเขา สบกับดวงตาซึ้ง ๆ ขนตางอนงามเป็นแพหนา เขาประกบปากผม เราต่างแลกลิ้นกันด้วยรสชาติแปลก ๆ แต่ก็สร้างความเสียวซ่านได้ไม่น้อย เราต่างช่วยกันถอดเสื้อผ้าจนในที่สุดเราทั้งคู่ก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า "ซาเล็ม" ซึ่งเป็นชื่อของเขาก็ลดตัวลงใช้ฟันขบเบา ๆ ที่ยอดอกของผมพร้อมกับละเลงลิ้นไปมา ผมได้แต่ยืนบิดไปมาด้วยความเสียว
   เขาดึงมือผมไปจับเคของเขา กำเคอันเขื่องของซาเล็มไว้แน่นราวกับว่ามันจะดิ้นหลุดหายไป ที่หัวหน่าวไม่มีขนเพชรขึ้นเพราะได้รับการตัดตกแต่งมาอย่างสะอาด เพราะชาวมุสลิมถือว่าการมีขนที่รักแร้และบริเวณอวัยวะเพศเป็นสิ่งสกปรก เพราะฉะนั้นหนุ่มสาวชาวมุสลิมทุกคนเมื่อเริ่มโตพอที่จะมีขนเพชร เขาก็จะถูกสอนถึงวิธีกำจัดขนบริเวณนั้น ซึ่งโดยทั่วไปก็จะใช้วิธีโกน เมื่อขึ้นมาใหม่ก็โกนอีก ผมผลักซาเล็มให้นอนลงบนเตียงแล้วเริ่มไซ้ที่ซอกคอและติ่งหู แล้วลงมาวนเวียนที่หัวนมทั้งสองข้าง ซาเล็มได้แต่ครางอู้อี้ในลำคอ คงจะเสียวมาก
   จากนั้นผมก็เลื่อนลงมาที่ท่อนเอ็นอันเขื่องกลางลำตัว ใช้ลิ้นหยอกล้อสลับกับการดูดดุน ซาเล็มผงกหัวขึ้นมามองการกระทำของผม น้ำใส ๆ ของซาเล็มเริ่มซึมออกมาที่ปลายท่อนเอ็น ซาเล็มส่งสัญญาณให้ผมมานอนบนเตียง ซึ่งผมรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ซาเล็มจับขาผมขึ้นพาดบ่า พร้อมทั้งใช้น้ำมันมะกอกละเลงที่ช่องทางด้านหลังของผม พร้อมกับที่ท่อนเคของเขา จากนั้นก็นำร่องด้วยการแหย่นิ้วเข้าไป ผมขมิบรูทักทายนิ้วของซาเล็ม เขาชักนิ้วเข้าออก จากนั้นก็เพิ่มจำนวนนิ้วทำให้ช่องทางผมขยายกว้างขึ้น ผมให้สัญญาณกับซาเล็มว่าพร้อมแล้ว ซาเล็มถอดถอนนิ้วทั้งหมดออก เอาท่อนเคอันเขื่องมาจ่อที่ช่องทางผม จากนั้นค่อย ๆ ดันเข้ามา ผมใช้มือยันหน้าอกของซาเล็มไว้ เพราะว่ารู้สึกเจ็บและมันรู้สึกคับตื้อเพราะท่อนเคของซาเล็มใหญ่มาก ผมจับมือของซาเล็มมาชักที่ท่อนเอ็นของผม เพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวด ซาเล็มเริ่มสาวท่อนเอ็นของผม ทำให้ผมลืมความเจ็บปวดลงไปบ้างพร้อมกับรู้สึกเสียวที่ช่องประตูหลัง

   พอผมเผลอซาเล็ก็ดันเคกดลึกเข้ามาในร่างกายผม ผมถึงกับร้องอึ๊ย...ด้วยความเสียวแบบสุด ๆ ซาเล็มเริ่มกระแทกเคเข้าออก จากความเจ็บตื้อก็เริ่มกลายเป็นความเสียวเข้ามาแทน จังหวะที่ซาเล็มชักเคออกผมถึงกับร่อนก้นตามด้วยความเสียดายความเสียว จากนั้นซาเล็มก็ก้มลงมาแลกลิ้นกับผม พร้อมกับครางในลำคอ
   "I love you, very exellence"
ซาเล็มเริ่มกระแทกถี่ขึ้นเป็นลำดับ ผมรู้ว่าซาเล็มใกล้ถึงจุดหมายแล้ว ก็เลยขมิบที่รูก้นเป็นระยะ ๆ ผมเองก็เช่นกันเสียวทั้งที่รูก้นเสียวทั้งที่ท่อนเค เพราะว่าโดนซาเล็มกำกระทอกชักว่าวอย่างเมามัน และในที่สุดผมก็ทำนบแตก น้ำรักสีขาวข้นคลักพุ่งกระฉูดเลอะที่หน้าอกของซาเล็มที่เต็มไปด้วยขนอันเซ็กซี่ ปฏิกิริยาสุดยอดนี้ทำให้รูก้นของผมขมิบบีบรัดท่อนเคของซาเล็มอย่างรุนแรง ซาเล็มเลยกระเด้าออกสุดเข้าสุด จากนั้นก็กดแช่เคให้เข้าไปในรูก้นของผมแบบลึกที่สุดก่อนจะฟุบตัวลงทับผม พร้อมกับฉีดน้ำรักร้อน ๆ เข้ามาในตัวผมอย่างมากมายจนรู้สึกว่ามันเอ่อออกมาข้างนอกด้วย
   ผมเสยผมซาเล็ม สายตาประสานกันก่อนที่ซาเล็มจะประกบจูบผม เราแลกลิ้นกันสักครู่ ซาเล็มก็ถอนท่อนเอ็นอันเขื่องออก หลังจากที่มันอ่อนตัวลงแล้ว จากนั้นเราก็ทำความสะอาดด้วยกระดาษทิชชู่ให้กันและกัน แล้วก็ใส่เสื้อผ้า ซาเล็มยื่นธนบัตรใบละ 10 ดีน่าร์ 5 ใบให้ผมแล้วเราก็ออกมา เจอสายตากรุ้มกริ่มเพื่อนของซาเล็ม ผมร่ำลาซาเล็มแล้วนั่งแท็กซี่มาเพื่อทำงานในช่วงเย็น กลับถึงแคมป์ผมรีบจัดการอาบน้ำชำระล้างร่างกาย รู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ที่ช่องทาง ผมล้วงมือไปสำรวจมีเลือดติดมือออกมา คงจะฉีกขาดเพราะของซาเล็มใช่เล็ก ๆ และมันก็เป็นครั้งแรกของผมด้วยที่โดนพังประตูหลัง นี่ถ้าไม่หล่อจริงผมไม่ยอมให้หรอกจะบอกให้







audiwoods โพสต์ 2021-10-18 10:01:44

โดนถลวงในต่างแดนด้วยดุ้นของนอกเลยนะ

สมพร โพสต์ 2021-10-18 11:39:22

สุดยอดมาก

4554 โพสต์ 2021-10-18 12:13:54


สุดยอดมาก

mojimaru โพสต์ 2021-10-18 15:09:16

มาต่ออีกนะครับ

eg1 โพสต์ 2021-10-18 18:54:12


ขอบคุณคับ

nuangnut1996 โพสต์ 2021-10-18 21:52:06

สนุกมากครับ

jumpingblue โพสต์ 2021-10-19 15:29:17

สนุกมากๆเลยจ้า

devilkid โพสต์ 2021-10-20 17:19:04

สนุกดีครับ ขอบคุณนะครับ

artwin โพสต์ 2021-10-22 01:02:33

ขอบคุณมากครับ

blackorchid โพสต์ 2021-10-22 23:14:21

ชอบแนวนี้ครับ

kkkggg โพสต์ 2021-10-24 23:01:45

สนุกคับ

JayJJ โพสต์ 2021-10-25 10:15:01

ว้่วๆๆๆ

worrawitaya โพสต์ 2021-10-30 11:36:09

สนุกดีหลายเชิ้อชาติ

Somchun โพสต์ 2021-10-31 06:45:11

ขอบคุณครับ
รอ Next Ep อยู่นะครับ

luckypaulo โพสต์ 2021-11-1 06:55:19

ชอบมาก ขอบคุณครับ

2936 โพสต์ 2021-11-1 21:00:11

ขอบคุณครับ

robmaung โพสต์ 2021-11-4 04:56:57

ขอบคุณมากครับ

brown โพสต์ 2021-11-4 07:29:29

ขอบคุณครับ

armmer22 โพสต์ 2021-11-5 09:32:40

ขอบคุณครับ
หน้า: [1] 2 3 4
ดูในรูปแบบกติ: รูปแบบรัก