เส้นทางของคนร่าน ตอนที่ 3
เส้นทางของคนร่านตอนที่ 3อรรถวิทย์เดินทางมาถึงสถานีตำรวจแต่เช้าตรู่นายตำรวจเวรที่อยู่ประจำ สภ. แม้จะไม่เคยเจอหน้าค่าตาเขามาก่อน แต่คงพอจะรู้ข่าวการมาถึงของผู้กองคนใหม่เมื่อเห็นเขาจึงกระวีกระวาดเดินออกมาต้อนรับทันทีด้วยความที่ยังอยู่ในช่วงค่อนรุ่ง ยังไม่มีชาวบ้านเดินทางมาติดต่อราชการใด ๆนายตำรวจชั้นผู้น้อยจึงถือโอกาสนั้นเดินนำหน้าผู้กองคนใหม่พาเขาไปยังห้องทำงานประจำตำแหน่งระหว่างทางนั้นก็แนะนำสถานที่ไปด้วยตลอดทาง
ห้องประจำตำแหน่งของอรรถวิทย์อยู่บนชั้น2 ในห้องมีโต๊ะทำงานตั้งอยู่ที่มุมหนึ่ง ข้าง ๆกันมีโต๊ะและตู้ใส่เอกสารที่ตอนนี้สำนวนคดีที่ค้างตั้งอยู่ไม่มากเท่าไรอีกมุมหนึ่งของห้องเป็นโต๊ะบูชาพระขนาดย่อมที่มีพระพุทธรูปวางตั้งอยู่ 1องค์
อรรถวิทย์หยิบแฟ้มสำนวนคดีที่กองอยู่ออกมาเปิดอ่านคดีเหล่านี้เป็นคดีที่ยังไม่ปิด บางคดีรู้ตัวคนร้ายแต่ยังไม่สามารถตามจับกุมตัวได้ บางคดีก็ยังอยู่ในชั้นสืบสวนหาหลักฐานและพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อนำมาพิจารณาคดี สิ่งที่อรรถวิทย์สังเกตเห็นได้จากแฟ้มคดีต่างๆ คือ แทบทั้งหมดเป็นคดีเล็ก ๆ ที่ดูไม่สลักสำคัญเท่าไรซึ่งมันผิดวิสัยจากเมืองที่ได้ชื่อว่ามีผู้มีอิทธิพลคุมอยู่ ถ้าไม่เป็นเพราะตำรวจในพื้นที่สามารถจัดการคดีใหญ่ๆ ได้จนหมด อีกเหตุผลที่ไม่พบคดีเหล่านี้ก็น่าจะมาจากการมีนอกมีในอะไรกันบางอย่างของผู้บังคับใช้กฎหมายกับผู้มีอิทธิพล
แต่อรรถวิทย์ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไรนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่เขาถูกย้ายมาประจำการที่ สภ. แห่งนี้ อีกปีกว่าสารวัตรที่ประจำการอยู่ก็จะเกษียณอายุราชการทางผู้ใหญ่ตั้งใจว่าจะให้เขามารับตำแหน่งนี้ต่อ เพื่อหวังให้เขาทำหน้าที่ปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้ราบคาบ
อรรถวิทย์มัวเพลินกับการอ่านแฟ้มคดีจนไม่ได้สนใจอะไรรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แล้วสารวัตรก้องเกียรติก็เดินเข้ามาในห้องอรรถวิทย์รีบลุกขึ้นทำความเคารพผู้บังคับบัญชาของเขาทันที
“ตามสบายเถอะผู้กองผมแวะมาทักทายผู้กองก่อนจะออกเดินทางไปราชการที่กรุงเทพผมให้เจ้าหน้าที่เอาแฟ้มคดีต่าง ๆ มาให้ผู้กองดูเพื่อศึกษางานที่นี่เรามีคดีไม่มาก แต่มีหลายคดีที่ยังปิดไม่ได้ แต่ผู้กองอาจจะรู้สึกไม่ตื่นเต้นเพราะส่วนใหญ่เป็นคดีเล็กๆ พื้นที่เราไม่ค่อยมีคดีใหญ่ ๆ เพราะคนในพื้นที่นี้รักสงบส่วนมากที่เกิดเป็นคดีเพราะคนต่างถิ่นที่เข้ามา เห็นอย่างนี้ไม่รู้ว่าผู้กองจะรู้สึกผิดหวังหรือเปล่าที่ถูกย้ายมาประจำที่นี่ผมรู้คนรุ่นใหม่อย่างพวกคุณไฟในการทำงานยังเต็มเปี่ยม อยากกระโจนเข้าไปทำคดียาก ๆเพื่อความก้าวหน้า แต่เอาเถอะ ไหน ๆ ก็ย้ายมาแล้วผมหวังว่าผู้กองจะเป็นกำลังสำคัญในการสะสางคดีต่าง ๆ ที่ค้างอยู่ ช่วงอาทิตย์ที่ผมไม่อยู่ผมอยากให้ผู้กองค่อย ๆ ศึกษาเรียนรู้พื้นที่ ทำความรู้จักกับคนที่นี่ไปก่อนผมกลับมาเราค่อยคุยรายละอียดการทำงานกัน”
อรรถวิทย์รับคำผู้บังคับบัญชาหลังจากที่หัวหน้างานออกจากห้องไปได้สักพัก ก็มีนายตำรวจอีกคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา
“ยินดีต้อนรับครับผู้กองอรรถวิทย์ กระผมหมู่ชยุตย์ขอรายงานตัวครับผมผมได้รับมอบหมายจากสารวัตรก้องเกียรติให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้กอง และได้รับมอบหมายให้ช่วยพาผู้กองไปทำความรู้จักกับเมืองนี้ครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักหมู่ชยุตย์เรียกผมว่าผู้กองอรรถ หรือผู้กองเฉย ๆ ก็ได้ เอาสิ ผมก็อยากไปสำรวจเมืองอยู่เหมือนกันขอเวลาผมเคลียร์อะไรบางอย่างสัก 15 นาที แล้วเดี๋ยวเราเจอกันข้างล่าง”
“รับทราบครับผู้กองอรรถ”
หลังจากนั้นอรรถวิทย์ก็ขึ้นรถที่มีนายตำรวจหนุ่มทำหน้าที่เป็นคนขับพาเขาชมสถานที่ต่างๆ ในเมือง การเดินทางนั้นอรรถวิทย์ไม่ได้รู้จักเพียงแค่ภูมิทัศน์ของเมืองเท่านั้นหมู่ยุทธนายังได้เล่าพื้นเพของเมืองแห่งนี้ให้อรรถวิทย์ได้ทราบพร้อมพาเขาไปรู้จักกับชุมชนต่าง ๆ และพาไปเจอกับบุคคลที่ได้รับการนับหน้าถือตาในเมืองอีกด้วย
สองนายตำรวจหนุ่มพากันออกสำรวจพื้นที่กันจนเย็นย่ำกว่าจะเสร็จภารกิจก็เป็นเวลาใกล้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว อรรถวิทย์จึงขอให้หมู่ชยุตย์ช่สยส่งเขาที่บ้านพักตำรวจแทนที่จะต้องย้อนกลับไปที่สภ.
บรรยากาศตอนเย็นในพื้นที่นั้นยังมีแดดอ่อน ๆ เมื่อตอนที่หมู่ชยุตย์พาเขาไปชมเมือง อรรถวิทย์เห็นว่าเลยจากบ้านพักของเขาไปไม่ไกลมีสวนสาธารณะอยู่นายตำรวจหนุ่มจึงคิดจะไปสำรวจพื้นที่และปลดปล่อยพลังงานการได้ออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นหนึ่งในกิจกรรมสุดโปรดของเขา
อรรถวิทย์รื้อชุดกีฬาออกมากองเสื้อผ้าที่ยังจัดไม่เสร็จดีแล้วเขาก็เลือกได้ชุดที่จะใส่ไปออกกำลังกาย ท่อนบนเป็นเสื้อกล้ามสีเหลืองฟิตพอดีตัวเผยให้เห็นกล้ามเนื้อของคนใส่อย่างชัดเจน ท่อนล่างเป็นกางเกงผ้าร่มขาสั้นสีเข้าชุดกันกางเกงนั้นแม้จะไม่ได้ฟิตเข้ารูปเหมือนเสื้อ แต่มันมีความยาวเพียงแค่คืบกว่า ๆเท่านั้น ความยาวของมันจึงลงมาคลุมแค่เพียงต้นขาของผู้สวมใส่เท่านั้น อรรถวิทย์เลือกรองเท้าวิ่งสีขาวแถบน้ำเงินมาใส่หลังจากนั้นเขาจึงออกเดินมุ่งไปที่สวนสาธารณะ
พอมาถึงสถานที่จริงอรรถวิทย์พบว่าสวนสาธารณะแห่งนี้มีอาณาบริเวณที่กว้างขวางกว่าที่เขาคิดไว้มาก ภายในสวนถูกจัดแบ่งเป็นโซนต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลายอรรถวิทย์เดินอยู่ในพื้นที่ที่ใช้เป็นลู่วิ่ง สองข้างทางที่เขาเดินผ่านเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ช่วยเป็นร่มเงาให้กับนักวิ่งพอเดินต่อไปอรรถวิทย์ก็เจออื่น ๆ เช่น โซนอุปกรณ์ออกกำลังกาย โซนเครื่องเล่นเด็กสนามฟุตบอล สนามบาสเกตบอล สนามวอลเลย์บอล และลานสำหรับการออกกายบริหารแบบต่าง ๆ
แต่ละโซนคลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลากหลายวัยอย่างที่สนามฟุตบอล อรรถวิทย์เจอเด็ก ๆ จับกลุ่มเล่นฟุตบอลกันอยู่ คะเนจากอายุเด็กๆ ที่เล่นน่าจะอยู่ในช่วงวัย 10 ขวบโดยประมาณ นายตำรวจหนุ่มนึกสนุกยืนดูเด็กๆ แข่งขันกันสักพัก แล้วเขาก็เดินต่อไปที่ลานออกกำลังกาย เขาเห็นคนในวัยเกษียณจับกลุ่มกันออกกายบริหารกันตามความถนัดบรรยากาศเหล่านี้ช่างต่างจากที่เขาคาดคิดไว้ว่าจะเป็นเมืองที่มีอาชญากรรมชุกชุม
อรรถวิทย์เดินมาถึงอีกฝั่งหนึ่งของสวนเป็นส่วนที่ติดกับแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นของต้นไม้และสายน้ำทำให้บริเวณนี้เป็นที่เป็นสถานที่ปิกนิกขนาดย่อมๆ ของครอบครัว และเป็นที่ออกเดทของหนุ่มสาว
นายตำรวจหนุ่มเห็นพื้นที่ว่างที่ไม่ค่อยมีคนอยู่ห่างออกไปเขาค่อย ๆ เดินไปตรงนั้น แล้วเริ่มออกกายบริหารเพื่อคลายกล้ามเนื้อก่อนการวิ่งชายหนุ่มไม่ได้ออกกำลังกายหนัก ๆ แบบนี้มาหลายวันเขาจึงใช้เวลาในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อนานกว่าปกติ
พอแดดเริ่มร่มอรรถวิทย์ก็เริ่มออกวิ่งอย่างช้า ๆ ปะปนไปกับนักวิ่งคนอื่น ๆ ระหว่างที่วิ่งนายตำรวจหนุ่มรู้สึกว่าเขาตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร ทั้งกลุ่มคนที่วิ่งด้วยกันและกลุ่มคนที่อยู่รอบ ๆสนามนายตำรวจหนุ่มไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเขาเป็นสมาชิกหน้าใหม่ในที่นั้นจึงทำให้เขาได้รับความสนใจ หรือเป็นเพราะกางเกงผ้าร่มขาสั้นที่เขาสวมใส่ที่สั้นมากอรรถวิทย์เริ่มรู้สึกถึงความสั้นของมันอย่างชัดเจนก็ตอนที่เขารู้สึกเย็นที่ขาเมื่อมันต้องปะทะกับแรงลมตอนที่เขาออกวิ่ง
แม้จะไม่ได้ออกกำลังกายมาหลายวันแต่อรรถวิทย์ก็ยังฟิตและเฟิร์ม เขายังวิ่งต่อแม้ผู้คนในสนามจะทยอยถอยทัพกลับบ้านกันไปคนในสวนสาธารณะเริ่มบางตา อรรถวิทย์ค่อย ๆ ชะลอฝีเท้าที่วิ่งลง แล้วเปลี่ยนเป็นเดินอย่างช้าๆ แทน สักพักเขาก็ออกจากสนาม ชายหนุ่มเดินออกมายังพื้นที่โล่งที่ไม่มีคนเขายืนเท้าสะเอวพักร่างกาย ค่อย ๆ ปรับจังหวะการหายใจของตนเองเหงื่อไหลโทรมกายของเขาขึ้นเรื่อย ๆอรรถวิทย์ตั้งใจว่าเขาจะยืดเหยียดกล้ามเนื้ออีกสักเล็กน้อยก่อนจะเดินทางกลับที่พัก
แล้วเขาก็เริ่มมันด้วยท่าที่เขาชื่นชอบ
ชายหนุ่มยืนตัวตรงค่อย ๆ อ้าขาทั้งสองข้างออกไปด้านข้างลำตัวจนตึง ก่อนจะค่อย ๆโน้มลำตัวลงไปด้านหน้าอย่างช้า ๆจนหัวของเขาแทบจะปักลงพื้น ชายหนุ่มนับ 1– 5 ช้า ๆก่อนจะค่อยๆยืดลำตัวขึ้นมาอยู่ในท่าตั้งต้นเขานับ 1 – 5 หลังจากนั้นเขาก็โน้มลำตัวลงในท่าเดิมอีกครั้งจำนวนครั้งที่เพิ่มขึ้นยิ่งทำให้เขาโน้มลำตัวลงไปได้มากขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งเขาโน้มตัวลงไปได้มากขึ้นเท่าไรกางเกงด้านหลังของเขามันก็ยิ่งค่อย ๆ รั้งสูงขึ้นมากขึ้นเท่านั้น
ตอนที่อรรถวิทย์โน้มตัวลงไปในครั้งที่5 หูเขาก็แว่วเสียงหัวเราะคิกคักขึ้น แม้จะก้มตัวอยู่แต่อรรถวิทย์สอดส่ายสายตามองหาต้นโดยการมองลอดจากหว่างขาแล้วเขาก็พบที่มาของเจ้าของเสียง
กลุ่มเด็กชาย 3 – 4คน ยืนมองเขาอยู่ไม่ไกล เด็ก ๆ กลุ่มนั้นยังคงหัวเราะขบขันเขาไม่หยุด
“ไม่กลับบ้านกันเหรอพวกเจ้า มืดค่ำแล้วพ่อแม่ไม่เป็นห่วงเหรอ”
“เพิ่งซ้อมบอลเสร็จกำลังรอครูแชมป์มารับ”
เด็กคนหนึ่งบอกขณะที่อรรถวิทย์ค่อยๆยืดตัวกลับขึ้นมาพออยู่ในท่าตัวตรงเขาก็หันหน้ามาหาเด็กๆ แต่ถูกเด็ก ๆ ห้ามไว้
“พี่ทำต่อสิครับ มันตลกดี”
“ท่านี้น่ะเหรอ ตลกยังไง”
อรรถวิทย์ว่าง่ายกลับไปทำท่าเดิมตามที่เด็กๆ ขอ คราวนี้เขาตั้งใจโชว์เด็ก ๆ เต็มที่ด้วยการพยายามก้มหัวลงไปให้ต่ำที่สุดระหว่างที่ทำเขาก็ได้ยินเสียงเด็ก ๆ หัวเราะไม่หยุด พอเขาก้มตัวไปจนสุดเขาก็มองลอดใต้หว่างขาเห็นเด็ก ๆ ชี้มือชี้ไม้มาที่ตัวเขา
“หัวเราะขำอะไรกันนะพวกเจ้า”
เด็กคนหนึ่งเป็นหน่วยกล้าตายถามอรรถวิทย์ออกไปว่า
“พี่ไม่รู้ตัวเหรอว่าตอนที่พี่ก้มลงไปตูดพี่มันออกมาโชว์นอกกางเกง พวกผมเห็นหลายรอบแล้ว”
อรรถวิทย์ยังอยู่ในท่าเดิมเขาทำท่าตื่นตกใจกับสิ่งที่เด็ก ๆ บอก
“เห้ย จริงเหรอพวกเจ้าเห็นก้นพี่จริง ๆ เหรอ”
เด็ก ๆพยักหน้าส่งเสียงหัวเราะกันคิกคัก อรรถวิทย์เห็นดังนั้นเขาก็ยิ่งได้ใจ แกล้งทำเป็นเอามือมาปิดป้องเพื่อไม่ให้เด็กๆ เห็นก้นเขา แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่เขาทำคือการเอามือมือข้างหนึ่งมาเกี่ยวตรงหว่างขากางเกงแล้วเปิดอ้ามันออกทั้งกางเกงผ้าร่มชั้นนอกและกางเกงชั้นในคราวนี้เด็ก ๆ ยิ่งส่งเสียงฮือฮากันใหญ่เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาตอนนี้ไม่ใช่แค่ก้นเท่านั้น แต่มันเห็นไปถึงรูตูดและขนที่ขึ้นรอบ ๆ รูนั้นด้วย
“พี่ ๆกางเกงพี่มันอ้าออกเห็นตูดหมดแล้วพี่ ตอนนี้เห็นไปถึงรูตูดเลย”
“เห้ย จริงเหรออย่ามองสิพี่เขินนะ”
อรรถวิทย์เห็นเด็กๆ หันไปจับกลุ่มซุบซิบกัน ภาพ ๆ หนึ่งในอดีตก็ผุดขึ้นมาในหัวเขาเขารีบเอ่ยปากถามเด็ก ๆ ไป
“ซุบซิบอะไรกันขี้โกงนี่”
“พวกเราสงสัยว่าที่ขึ้นดำๆ รอบ ๆ รูตูดพี่มันคืออะไร”
เด็กคนหนึ่งเอ่ยถามขณะที่เด็กอีกคนเสนอขึ้นมาว่า
“พวกผมขอเข้าไปดูใกล้ๆ ได้ไหม”
แม้หน้าของอรรถวิทย์จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำเพราะเลือดเริ่มตกลงที่หัว แต่เขาก็อนุญาตให้เด็ก ๆ เดินมาดูตูดเขาใกล้ ๆ ได้
“ตูดผู้ใหญ่มันเป็นแบบนี้เหรอวะมีอะไรดำ ๆ ด้วย”
“ดูถนัดไหมอยากให้พี่ถกกางเกงลงมามั้ย จะได้เห็นชัด ๆ”
“เอาเลยพี่เอาเลย”
เด็ก ๆส่งเสียงเชียร์ อรรถวิทย์จึงค่อย ๆ เอามือดึงกางเกงของตัวเองลงมาช้า ๆ จนในที่สุดมันก็หลุดลงมาจนเห็นตูดทั้งหมดของเขาเด็ก ๆ กล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะมองมันใกล้ ๆ แต่เด็กคนหนึ่งทำใจกล้าเอามือเข้าไปจับที่ขนนั้นแล้วหันมาบอกเพื่อน ๆ ว่า
“เหมือนผมเลยว่ะ”
“เห้ยมีผมขึ้นตรงนี้ด้วยเหรอวะ มึงมีรึเปล่าวะ”
เด็ก ๆ หันไปล้งเล้งส่งเสียงดังถามกันเอง แต่ขณะนั้นเองเสียงอรรถวิทย์ก็ดังแทรกขึ้นมา
“โอ๊ย!!!”
ทุกคนหันไปดูที่ต้นเสียงภาพที่ทุกคนเห็นคือมีเด็กคนหนึ่งใช้มือดึงขนตูดของอรรถวิทย์จนมันหลุดออกมาถึงตอนนี้อรรถวิทย์ยืดตัวกลับขึ้นมา เขาหันหน้ามาหาเด็ก ๆ เพื่อหวังจะจัดการสั่งสอนทั้งที่กางเกงยังร่นไปกองอยู่ที่หน้าขา เด็ก ๆ เห็นควยของอรรถวิทย์ที่ตั้งชันเด้งไปเด้งมาอยู่ตรงหน้าต่างก็ส่งเสียงฮือฮาร้องออกมาดังลั่นด้วยความตกใจ
“เห้ยไอ้จู๋ก็มีขนด้วยว่ะ แถมแข็งเป็นแท่งเลย น่ากลัว”
ว่าแล้วเด็ก ๆก็วิ่งแตกฮือกันออกไป เพราะกลัวว่าจะโดนอรรถวิทย์ที่ลุกขึ้นมาจัดการอะไรสักอย่าง เป็นจังหวะเดียวกับที่มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดใกล้ๆ บริเวณนั้น อรรถวิทย์เห็นดังนั้นก็รีบดึงกางเกงของตัวเองขึ้นมาใส่ทันที เด็ก ๆส่งเสียงร้องดังขึ้นแล้ววิ่งกรูกันไปที่รถ
“ครูแชมป์มาแล้ว”
ผู้ถูกกล่าวถึงลงมาจากประตูด้านคนขับพอเห็นเด็ก ๆ ก็ส่งเสียงดุทันที
“ครูหาตั้งนานทำไมไม่ไปตรงที่นัดครับ แล้วนี่...”
ครูแชมป์ยืนงงที่เห็นชายแปลกหน้ายืนอยู่ไม่ไกลขณะที่อรรถวิทย์ก็ใจเต้นเพราะไม่รู้ว่าเด็ก ๆ จะบอกอะไรกับครูของพวกเขาหรือเปล่าแต่เด็ก ๆ กลับบอกกับครูของพวกเขาแค่ว่า
“เรามาเล่นกับพี่คนนี้พี่เขาใจดี ชวนเราเล่นอะไรสนุก ๆ”
“สนุกมากจะโดนไม้เรียวนะรีบไปขึ้นรถเลย”
ครูแชมป์ขู่เด็กๆ ทำให้เด็ก ๆ ส่งเสียงร้องจ้าด้วยความกลัวแล้วรีบวิ่งขึ้นรถทันทีอรรถวิทย์รีบแนะนำตัวเขากับผู้ที่เพิ่งมาถึง
“ขอโทษทีครับผมเห็นเด็ก ๆ อยู่กันลำพังก็เลยเป็นห่วง เลยอยู่เป็นเพื่อน ผมเป็นตำรวจเพิ่งย้ายมาประจำการใหม่วันนี้ ชื่ออรรถวิทย์ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ยินดีเช่นกันครับคุณตำรวจผมเป็นครูเจ้าพวกนี้ ชื่อชลวิทย์ ชื่อเล่นแชมป์ครับไว้คงมีโอกาสได้เจอกันใหม่นะครับ”
ครูแชมป์แนะนำตัวเองพร้อมกล่าวลาไปพร้อมๆ กัน ขณะที่รถกำลังจะแล่นออกไป เด็กคนหนึ่งก็ตะโกนออกมาจากในรถว่า
“แล้วมาเล่นกันอีกนะพี่”
อรรถวิทย์ส่งสัญญาณมือตอบเด็กๆ กลับไป
พอรถของครูแชมป์แล่นลับตาไปนายตำรวจหนุ่มก็ใจเต้นแรงขึ้นมาทันที เขาแก้ผ้าต่อหน้าเด็ก ๆ ในพื้นที่สาธารณะด้วยถ้าคนอื่นมาเห็นไม่รู้ว่าชีวิต หน้าที่การงานเขาจะเป็นยังไง แต่ชายหนุ่มไม่สามารถห้ามตัวเองได้เมื่อสัญชาตญาณดิบถูกกระตุ้น เขาก็เตลิดปล่อยตัวปล่อยใจลืมความอับอายไปจนหมดสิ้นเลย แต่แม้จะรู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่อรรถวิทย์ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า
เขามีความสุขที่ได้ทำมันลงไป!!!
[โปรดติดตามตอนต่อไป]
ขอบคุณครับ ติดตามทุกๆเรื่องเลย อรรคนี้ชอบโชว์นิหน่า อิอิ ชอบๆ ขอบคุณ รอตอนต่อไปครับ สนุกมากครับ รอติดตามผลงานต่อไป ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ติดตามทุกๆเรื่องเลย ขอบคุณครับ คุณตำรวจชอบโชว์ อ้าาา ชอบแบบนี้ที่สุด เพราะชอบจึงทำ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ชอบครับ แอบโชว์เด็ก โดนเด็กแกล้งซะ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ