บุพเพสันนิวาส ภาคพิสดาร ตอนที่ 7
“หาแถง แง่ฟ้า หาง่าย เบื่อหน่าย บงนัก พักตร์ผินหาเดือน เพื่อนเถิน เดินดิน คือนิล นัยนา หาดาย
เพ็ญเดือน เพื่อนดิน สิ้นหา เพ็ญเดือน เลื่อนฟ้า หาง่าย
เดือนเดิน แดนดิน นิลพราย เดือนฉาย เวหาส ปราศนิล”
สิ้นเสียงอ่านบทกลอนของแม่การะเกด ก็ทำเอาทุกคนบนเรือนนั้นถึงกับตกตะลึงในความไพเราะและซาบซึ้งในความหมายของมัน โดยเฉพาะพ่อเดช ที่ก่อนหน้านั้นเพิ่งจะดูถูกดูแคลนแม่การะเกดไปหมาดๆว่าจะแต่งโคลงกลอนเป็นหรือเปล่าก็มิรู้ได้ ถึงกับเปลี่ยนความคิดใหม่ทันที ดั่งบทกลอนนี้ได้เปลี่ยนจิตใจที่เคยเย็นชากับนางมาโดยตลอดกลับกลายเป็นเริ่มรู้สึกพิศวาสนางขึ้นมาเสียดื้อๆ
แม่จันทร์วาดคู่ขาเก่าของพ่อเดชที่เพิ่งจะแต่งโคลงอ่อยเขาอยู่เมื่อครู่เองก็ถึงกับเจ็บแปลบในใจ ที่ร่ายโคลงจีบกันไปจีบกันมาอยู่ดีๆก็โดนแม่การะเกดกินเรียบทั้งกระดานด้วยกลอนเพียงบทเดียว ยิ่งเห็นคุณพี่เดชจ้องมองไปยังแม่การะเกดอย่างไม่ยอมละสายตาเช่นนี้ นางก็เข้าใจได้ทันทีว่าคู่ขาของนางแอบปันใจให้ผู้อื่นเสียแล้ว
หลังจากที่การละเล่นต่อโคลงจบลง ทั้งขุนเรือง ขุนเหล็ก ขุนปาน และแม่หญิงจันทร์วาดก็ขอตัวลากลับ โดยมีพ่อเดชไปส่งทุกคนที่ท่าน้ำหน้าบ้าน พอทุกคนออกเรือไปจนลับสายตาแล้ว แม่การะเกดก็เดินลงมาหาพ่อเดชถึงศาลาท่าน้ำ
“คุณพี่ ข้ามีเรื่องจะถามคุณพี่เจ้าค่ะ” แม่การะเกดเอ่ยขึ้น
“เจ้ามีเรื่องอันใดก็ว่ามา”
“ตอนอยู่บนเรือน คุณพี่ขำอะไรข้าไม่ทราบเจ้าคะ เห็นจ้องหน้าข้าแล้วก็หัวร่อหึหึอยู่คนเดียวตั้งหลายครั้ง”
แม่การะเกดซักถาม เพราะเห็นว่าหลังจากที่นางอ่านกลอนจบ สายตาที่พ่อเดชมองมายังนางก็เปลี่ยนไป มันช่างอ่อนโยนรับรู้ได้ถึงความเมตตาเอ็นดู และมีแววเจ้าชู้อยู่ในทีทั้งที่แต่ก่อนเขามิเคยจะสนใจมองหน้าแม้แต่หางตา
และก็เป็นอีกครั้งที่กลิ่นหอมประหลาดโชยมาแตะจมูกของนาง แม่การะเกดหลับตาข่มใจไว้พลางนึกในใจ
‘อย่าเพิ่งมาตอนนี้สิ เจ้าจิตของข้า ข้ารู้ว่าเจ้าอยากถูกคุณพี่โล้สำเภาเป็นนักหนา แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้นะ’
แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล ความกำหนัดของนางพุ่งสูงขึ้นไปอีกอย่างรวดเร็ว ความชื้นแฉะในรูหอยของนางก็ก่อตัวขึ้นมาทันที แม่การะเกดรู้สาเหตุมาจากอาจารย์ชีปะขาวแล้วว่า เจ้าของร่างเดิมตัวจริงเขาอยากถูกโล้สำเภาใจแทบขาด แต่ไม่ว่าจะให้ท่าคุณพี่ขนาดไหนก็ไม่เคยสำเร็จ ทั้งนุ่งน้อยห่มน้อยให้เขาเห็นผิวกายใต้ร่มผ้าก็แล้ว ทั้งยั่วยวนต่างๆนานาก็แล้ว แต่คุณพี่กลับไม่เคยเล่นด้วยเลยสักครั้ง แถมยังโดนมนต์กฤษณะกาลีสาปแช่งจนตายไปทั้งที่ยังไม่ทันได้ถูกเปิดซิงเลย พอแม่การะเกดมาอาศัยอยู่ในร่างนี้ได้ไม่นานก็ถูกแรงปรารถนาชักพาไปให้ต้องโดนโล้สำเภาเสียจนหอยบอบช้ำไปหมดแล้ว แถมตอนนี้ยังมาอยู่ตามลำพังกับชายที่นางปรารถนาในตัวเขาเป็นที่สุด ไม่ว่าจะหักห้ามใจอย่างไรก็ไม่อาจหยุดอาการคันยุบยิบในร่องรูหอยนี้ได้เลย
“ข้าชอบบทกลอนของออเจ้า” เขาเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
“แลข้าก็ยังชอบ..ออเจ้า..อีกด้วย”
พ่อเดชกล่าวต่ออย่างตะกุกตะกักด้วยความเขินอายนิดๆ แม่การะเกดถึงกับหน้าแดงซ่านดั่งผลตำลึงสุก นางเขินที่อยู่ๆเขาก็มาสารภาพรักเช่นนี้ ตอนนี้ภาพในหัวของนางนั้นเตลิดไปไกลถึงตอนที่นางได้โล้สำเภากับเขาอย่างเมามันแล้ว
“คะ..คุณพี่ว่ากระไรนะเจ้าคะ”
แม่การะเกดถามด้วยปากสั่นๆ ไม่อาจควบคุมเสียงให้เป็นปกติได้
“ข้าบอกว่า.....ข้าชอบออเจ้า”
พ่อเดชกล่าวย้ำขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่จริงจังยิ่งกว่าเดิม แม่การะเกดเห็นท่าไม่ดี หากอยู่ในสถานการณ์นี้ต่อไปคงไม่แคล้วต้องตกเป็นเมียคุณพี่แน่ๆ นางเลยแกล้งเฉไฉพูดไปเรื่องอื่น
“แล้ว..วันนี้คุณพี่ไม่ไปกินสุรากับขุนเรืองเหรอเจ้าคะ”
“ไม่จำเป็นต้องเมาสุราทุกวันหรอก”
แม่การะเกดยังพยายามเฉไฉต่อ จึงกล่าวกลอนหนึ่งขึ้นมา ทั้งที่ตอนนี้หว่างขานางเฉอะแฉะไปหมดแล้ว นางคิดว่าหากโดนเขารุกจีบเข้ามาอีกเพียงนิดเดียว นางคงไม่อาจทานทนต่อความหงี่ร่านในใจตอนนี้ได้อีกต่อไป
“ไม่เมาเหล้า แต่เรา ยังเมารัก
สุดจะหัก ห้ามจิต คิดไฉน
ถึงเมาเหล้า เช้าสาย ก็หายไป
แต่เมาใจ นี้ประจำ ทุกค่ำคืน”
“ออเจ้ากล่าวกลอนนี้ด้วยเหตุอันใด”
“กล่าวให้ใครก็ไม่รู้เจ้าค่ะ ฟาดทั้งแม่จันทร์วาด ฟาดทั้งแม่มะลิ”
“ข้าว่าออเจ้ายังลืมไปอีกผู้หนึ่ง”
“ใครหรือเจ้าคะ คุณพี่ยังเอาเรือสำเภาไปจอดในอ่าวของใครมาอีกเจ้าคะ”
พ่อเดชก้มลงไปกระซิบข้างหูของแม่การะเกดเบาๆ
“ลองไปส่องคันฉ่องในห้องนอนของข้าดูทีฤา แล้วคอยดูกันว่าจักเป็นผู้ใด”
พูดจบก็หันหลังกลับขึ้นเรือนไป ปล่อยให้แม่การะเกดยืนคันยุบยิบในรูหอยอยู่คนเดียว ภาพในหัวของนางนั้นนึกไปจนถึงชั่วขณะที่เขาและนางเสร็จสมพร้อมกัน แข้งขานางถึงกับสิ้นเรี่ยวแรงยันกายไว้ไม่อยู่ต้องทรุดตัวลงนั่ง รูหอยของนั่งก็เกร็งตอดตุบๆ น้ำรักของนางทะลักแตกซ่าออกมาทั้งที่ยังไม่ได้มีสิ่งใดล่วงล้ำเข้าไปเลยด้วยซ้ำ
‘นี่เราถึงกับน้ำแตกเพราะแค่คำพูดไม่กี่คำของเขาเลยเหรอเนี่ย ตายแล้ว ทำไมเจ้าถึงขี้เงี่ยนอย่างนี้นะแม่การะเกด แล้วข้าจะทำยังไงดีเนี่ย’ นางได้แต่นึกด่าตัวเองในใจ
คืนนั้นแม่การะเกดนอนไม่หลับ นางนอนพลิกตัวไปมาด้วยความกระสับกระส่าย ความเงี่ยนที่เข้าเกาะกุมจิตใจมันมีอำนาจมากเสียจนนางห้ามใจตัวเองไว้ไม่ได้อีกต่อไป นางจึงตัดสินใจ
‘เอาวะ เป็นไงเป็นกัน คืนนี้ข้าต้องโล้สำเภากับคุณพี่ให้ได้....แต่ว่า....’
แม่การะเกดยังกังวลอยู่เรื่องหนึ่ง บัดนี้นางมิใช่หญิงบริสุทธิ์ดังเช่นเก่าก่อนแล้ว นางผ่านท่อนควยชายอื่นมาถึงสามคนด้วยกัน รูสังวาสของนางคงต้องมีรอยบอบช้ำจนคุณพี่ต้องจับได้แน่ว่านางไม่ซิงอีกต่อไป พลันนางก็นึกไปถึงคำของอาจารย์ชีปะขาวในคราวก่อน
“ออเจ้าเอามนต์บทนี้ไปท่องดู”
อาจารย์ชีปะขาวยื่นหนังสือพับเล็กๆมาให้พับหนึ่ง แม่การะเกดเปิดออกดูแล้วอ่านข้อความข้างใน
“จำได้หรือยัง”
“จำได้เจ้าค่ะ”
“มนต์บทนี้แม้จะสั้น แต่ทรงพลังยิ่งนัก เจ้าเคยบอกว่าหอยของเจ้าผ่านท่อนควยมามากจนมิเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว กว่าจะเจอเนื้อคู่ก็คงบอบช้ำบานอ้าไปถึงไหนต่อไหนแล้วใช่ไหม ข้าจักให้มนต์บทนี้แก่เจ้า มันชื่อว่ามนต์ม่านพรมจรรย์ เจ้าจงตั้งจิตสมาธิ ท่องนะโม 3 จบแล้วค่อยตามด้วยมนต์บทนี้ มันจะทำให้เครื่องเพศของออเจ้ากลับคืนสภาพดังเดิมเหมือนตอนที่เจ้ายังเป็นสาวพรมจรรย์ แต่จงจำไว้อย่างนึง มนต์บทนี้มิควรใช้พร่ำเพรื่อ มันจักทรงอานุภาพได้แค่เพียงสองสามครั้งแรกเท่านั้น หากเจ้าไปเสพสังวาสกับผู้อื่นจนเครื่องเพศของเจ้าทรุดโทรม แล้วหวังว่ามนต์นี้จะช่วยให้รูของเจ้ากลับคืนมาดังเดิมได้ทุกครั้งนั้น...เจ้าคิดผิด มันจะยิ่งเสื่อมอำนาจลงไปเรื่อยๆจนสุดท้ายมันจะไม่มีผลอะไรอีกต่อไป ถึงเวลานั้นหากเจ้าเพิ่งจะเจอเนื้อคู่ ข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้วหนานังหนู”
อาจารย์ชีปะขาวร่ายยาวถึงอานุภาพของมนต์บทนี้ นี่มันเทคนิคการทำรีแพร์ในสมัยอยุธยานี่นา แม่การะเกดคิด
“นี่แหละตัวช่วยของข้า ท่านอาจารย์เจ้าขา ขอข้าลองดูสักครั้งนะเจ้าคะ มันจำเป็นจริงๆ ข้าจะให้คุณพี่รู้ไม่ได้ว่าหอยข้ามันบานไปถึงไหนๆแล้ว”
แม่การะเกดนั่งพับเพียบพนมมือตั้งสมาธิท่องนะโมสามจบแล้วจึงเอ่ยขึ้น
“จิตติจิตตัง ไยจึ่งฟิตจัง เหมือนใหม่หนอ จิตติ”
พอร่ายจบก็มีประกายแสงปรากฏขึ้นรอบๆตัวแม่การะเกดอยู่วูบหนึ่งก่อนจะสลายไป แม่การะเกดอยากรู้ผลลัพธ์จึงรีบถลกผ้านุ่งขึ้นมาถึงเอวแล้วนั่งยองๆก้มลงไปมองที่หว่างขาของตัวเอง เอามือแหวกกลีบแคมทั้งสองข้างออกจากกันจนเห็นติ่งแตดด้านในก็พบว่า ช่องสังวาสของหล่อนนั้นปิดสนิทซ่อนตัวอยู่ภายใต้กลีบแคมเนื้อจนดูราวกับหญิงบริสุทธิ์ก็ไม่ปาน แม่การะเกดถึงกับอุทานด้วยความดีใจ
“ชั้น...ชั้นกลับมาซิงเหมือนเดิมแล้ว...ไชโย๊”
นางกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดีอยู่สักพักก่อนจะนึกได้ว่ากำลังตั้งใจจะทำอะไร จึงค่อยๆแต่งตัวให้เรียบร้อย แลประพรมน้ำอบน้ำปรุงจนหอมฟุ้งไปทั้งตัว พลางจับดูที่สะโพกก็รู้สึกได้ว่าตัวเองยังใส่กางเกงในอยู่ จึงถอดออกพับเก็บไว้ในหีบพลางคิดในใจว่า ไปให้คุณพี่โล้สำเภาจะใส่กางเกงในไปไยกันให้เกะกะ ไปมันทั้งโล่งๆอย่างนี้แหละ เมื่อตระเตรียมการพร้อมแล้วจึงก้าวออกจากหอนอนของตัวเองแล้วมุ่งหน้าไปยังหอนอนของคุณพี่ทันที
ภายในหอนอนของพ่อเดช เขายังคงนอนครุ่นคิดไปมาว่าแม่การะเกดคนนี้เป็นใครกัน แม่การะเกดที่เขารู้จักก่อนหน้าที่จะร่ายมนต์กฤษณะกาลีนั้นไม่เป็นที่พึงใจของเขายิ่งนัก ออกจะรังเกียจเสียด้วยซ้ำ แต่นางที่อยู่ในตัวของแม่การะเกดคนนี้กลับทำให้เขารับรู้ถึงความกระสันในกายจนอยากจะพิชิตความสาวของนางให้จงได้ ยิ่งวันนี้พอได้ยินบทกลอนที่นางแต่งแล้วถึงกับทำให้ควยของเขาลุกตั้งขึ้นมาใต้ผ้านุ่ง จนเขาต้องหาอะไรมาปิดไม่ให้ใครรู้ว่าเขานั้นเงี่ยนเพียงใด
ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตู จึงเดินไปเปิดให้ผู้มาเยือน
“แม่การะเกด ออเจ้ามาทำอะไรที่นี่”
เขาพูดพลางใช้มือกดท่อนควยของตัวเองให้สงบลง เพราะความคิดฟุ้งซ่านที่เขามีต่อนางเมื่อครู่
“ข้ามีเรื่องมาคุยกับคุณพี่เจ้าค่ะ”
แม่การะเกดตอบคำถามแล้วก้าวเท้าเข้ามาในห้อง จัดแจงปิดประตูลงกลอนอย่างดีโดยไม่ทันฟังคำอนุญาตจากเจ้าของห้อง
“เจ้ามีธุระอันใดก็ว่ามาเถิด ดึกมากแล้ว”
“คุณพี่เจ้าคะ วันก่อนที่ข้าพาแม่มะลิมาหาและยกให้เป็นเมียคุณพี่ คุณพี่ไปทำอย่างไรเจ้าคะ นางถึงได้หนีไปแต่งงานกับออกหลวงสุรสาครอีก คุณพี่ไล่นางไปอย่างนั้นหรือเจ้าคะ”
แม่การะเกดเลียบเคียงถาม ทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าเขาคงพึงใจในตัวแม่มะลิเป็นอันมาก ไม่อย่างนั้นแล้วคงไม่โล้สำเภากันสามวันสามคืนจนแม่มะลิท้องป่องได้บุตรไปเป็นของแถมอย่างนั้นหรอก
“หาเป็นเช่นนั้นไม่ ข้าพึงใจในตัวนางเป็นอันมาก แต่การที่นางไปแต่งกับออกหลวงผู้นั้น เป็นการตัดสินใจของนางเอง”
“แล้วคืนนั้นคุณพี่ทำกระไรแม่มะลิบ้างเจ้าคะ”
การะเกดเริ่มวกเข้าเรื่องทีละนิด
“มิใช่เรื่องอันใดที่เจ้าจะต้องมาถามข้าไม่แม่การะเกด อันที่จริงเจ้าเองก็น่าจะรู้ดีกว่าข้า แลเจ้ายังรู้จักการละเล่นโล้สำเภาเป็นอย่างดี ดูทีฤาเจ้าคงจะผ่านผู้ชายมามิใช่น้อย”
พ่อเดชยังปากไม่ตรงกับใจเหมือนเคย ทั้งที่ควยของเขาตั้งลำโด่ขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังทำเป็นพูดกระแนะกระแหนแม่การะเกด ทั้งที่จริงเขาแทบอยากจะจับนางกดลงบนฟูกแล้วฟัดให้สาแกใจเสียตรงนั้น
“คุณพี่ ทำไมถึงดูถูกข้าอย่างนั้นเจ้าคะ การที่ข้ารู้จักวิธีโล้สำเภา ไม่ได้แปลว่าข้าจะต้องเคยโล้สำเภานะเจ้าคะ”
แม่การะเกดเริ่มมีน้ำโหขึ้นมานิดๆ อันที่จริงเพราะพ่อเดชพูดแทงใจดำนางต่างหาก แต่ก็ทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน
“แล้วจักให้ข้าเชื่อได้อย่างไรเล่า ว่าเจ้ามิเคยโล้สำเภากับผู้ใดมาก่อน ทั้งที่เจ้าดูเหมือนกับผู้หญิงเจนจัดเยี่ยงนี้”
“คุณพี่ก็พิสูจน์ด้วยตัวเองสิเจ้าคะ”
พูดจบแม่การะเกดก็สะบัดผ้านุ่งออกจนท่อนล่างเปลือยเปล่า ยืนอวดเนินสวาทของตนเองให้พ่อเดชที่นั่งอยู่บนที่นอนได้เห็นอย่างเต็มตา ที่คุณพี่ของนางพูดมาอย่างนั้นนับว่าเข้าทางยิ่งนัก แม่การะเกดกำลังหาช่องที่จะให้เขาได้เชยชมโหนกหีบริสุทธิ์เหมือนใหม่ของนางอยู่พอดี นางมั่นใจว่าหากได้เห็นแล้วคงไม่แคล้วต้องได้เสียเป็นเมียผัวกันในคืนนี้อย่างแน่นอน ซึ่งก็จริงดังที่คาด เพราะพอพ่อเดชได้เห็นเนินเสียวของหล่อนที่โหนกอูมเป็นโคกสูงชัน กลีบแคมเบียดชิดเป็นเส้นตรงจนมองไม่เห็นติ่งแตดแพลมออกมาเพียงสักนิด เส้นขนที่ปกคลุมนั้นบางเบาเรียบลู่เป็นเส้นตรงหายลงไปในช่องว่างระหว่างซอกขา เขาไม่เคยเห็นเนินสังวาสของผู้ใดงดงามแลน่าเย็ดเท่าของแม่การะเกดมาก่อนเลยในชีวิต มันช่างปลุกเร้าอารมณ์ในตัวเขาจนท่อนควยพองจนแทบจะระเบิดออกมาให้ได้
แม่การะเกดถือวิสาสะนั่งลงบนฟูกนอนของพ่อเดช และนั่งถ่างขาออกจากกันจนกว้าง กระนั้นร่องแคมของนางก็ยังอ้าออกจากกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มิได้บานอ้าอย่างหมดสภาพตามที่เขาดูถูกเอาไว้แต่อย่างใด เขาถึงกับดวงตาเบิกกว้างด้วยความตะลึงและกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“คุณพี่เข้ามาดูใกล้ๆสิเจ้าคะ จะได้รู้ว่าข้าพูดความจริง”
แม่การะเกดบอกให้พ่อเดชเข้ามาดูใกล้ๆ พ่อเดชก็ไม่ขัดคำ ก้มลงไปเพ่งมองของลับของสงวนของแม่การะเกดจนปลายจมูกเกือบจนชนติ่งเสียวเหนือกลีบแคมอยู่รอมร่อ ด้วยความห่างเพียงคืบนั้นทำให้เขาสูดดมเอากลิ่นคาวสวาทของแม่การะเกดเข้าไปเต็มปอด น่าแปลกใจที่มันไม่เหม็นอับหรือเหม็นกลิ่นฉี่เลยสักนิด กลับมีแต่ความหอมจรุงที่ปลุกเร้าความกำหนัดในตัวเขาให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นทุกขณะ พ่อเดชค่อยๆแลบลิ้นปาดลงไปกลางร่องกลีบของแม่การะเกดจากบนลงล่าง แล้วตวัดลิ้นกลับจากล่างขึ้นบน ทำเอาแม่การะเกดถึงกับสะดุ้งยกสะโพกลอยขึ้นมาตามลิ้นของเขา พ่อเดชเองก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันเพราะเขาไม่เคยกระทำเยี่ยงนี้กับหญิงใด แม้แต่แม่หญิงจันทร์วาดที่โล้สำเภากับเขามานับสิบๆครั้งหรือแม่มะลิที่เพิ่งโดนเขาโล้สำเภาอยู่สามวันสามคืนติด เขาก็ไม่เคยลงไปสัมผัสส่วนสงวนด้วยปากหรือลิ้นมาก่อน ด้วยนึกรังเกียจว่าเป็นของต่ำจึงใช้เพียงนิ้วมือกับท่อนควยเท่านั้นที่สอดแทงผ่านเข้าออกในช่องสังวาสของแต่ละนาง แต่กับแม่การะเกดผู้นี้เขากลับลงลิ้นเลียให้อย่างไม่นึกรังเกียจ และพบว่ามันกระตุ้นความกำหนัดให้ทั้งตัวเขาเองและแม่การะเกดอย่างเห็นได้ชัด
“ซี้ด...คุณพี่เจ้าขา ข้าไม่นึกมาก่อนเลยว่า คุณพี่จะทำกับข้าเยี่ยงนี้ ข้าแค่บอกให้คุณพี่ดูว่าข้ายังบริสุทธิ์อยู่หรือไม่เท่านั้น ไยคุณพี่จึงแกล้งข้าจนข้าเสียวไปหมดอย่างนี้”
แม่การะเกดแกล้งตัดพ้อพ่อเดช ทั้งที่หมายใจอยู่แล้วว่าจะให้เขาเลียช่องเสียวของนาง แต่ก็แกล้งทำเป็นใสซื่อเสียอย่างนั้น
“ข้าขอโทษนะแม่การะเกด แค่ดูอย่างเดียวนั้นยังมิอาจบอกได้ว่าเจ้าบริสุทธิ์จริงดังว่า ข้าจึงต้องขอดมแลชิมน้ำในอ่าวของเจ้าด้วย ว่ายังมีกลิ่นและรสของหญิงพรมจรรย์อยู่หรือไม่”
พ่อเดชอ้างเหตุผลไปข้างๆคูๆ ทำเอาแม่การะเกดนึกหัวร่ออยู่ในใจ โถ...คุณพี่หนอคุณพี่ มันมีซะที่ไหนละคะที่มาเลียหอยคนอื่นเขาแล้วจะบอกได้ว่ายังซิงหรือไม่ซิง คุณพี่นี่อ่อนหัดกว่าที่ข้าคิดเสียอีกนะเจ้าคะ แม่การะเกดคิดแล้วจึงทำเป็นเนียนตามน้ำต่อไปอีก
“แล้วน้ำในอ่าวของข้า ยังใสบริสุทธิ์อยู่ใช่ไหมเจ้าคะ คุณพี่”
“ยังใสสะอาดก็จริง แต่ยังมิอาจบอกได้ ข้าต้องขอตรวจร่างกายของเจ้าให้ถ้วนทั่วเสียก่อน” พ่อเดชยังคงไปแบบน้ำขุ่นๆ
แม่การะเกดจึงปลดผ้าแถบที่พันรัดหน้าอกอยู่ออก อาภรณ์ชิ้นสุดท้ายที่ปกปิดร่างกายของหล่อนบัดนี้ถูกโยนทิ้งไปที่พื้นอย่างไม่ไยดี เหลือเพียงเนินอกกลมกลึงขาวผ่อง สองเต้าตั้งชันไม่หย่อนคล้อย หน้าอกของแม่การะเกดนั้นงอนงามได้รูปทรงดูราวกับหยดน้ำ ขนาดที่ใหญ่กำลังพอเหมาะกับฝ่ามือของเขาทำให้เขาลืมตัวโอบอุ้มเนินกะเปาะนั้นอย่างแผ่วเบาก่อนจะบีบขยำอย่างทะนุถนอมราวกับกลัวว่านมของนางจะแตกสลายลงได้หากเขาออกแรงมากเกินไปสักนิดเดียว
“แม่การะเกด หน้าอกของเจ้าช่างงดงามยิ่งนัก ข้ามิอาจละสายตาจากเรือนร่างของเจ้าได้เลยแม้สักนาทีเดียว”
พ่อเดชเอ่ยชมด้วยความยินดียิ่ง เขาตื่นเต้นมากที่หญิงงามดุจนางฟ้าจำแลงผู้นี้กำลังถูกเขาลูบไล้เชยชมโดยมิขัดขืน เขานึกตำหนิตัวเองในใจว่ามองข้ามนางผู้งดงามปานนี้ไปได้อย่างไร ทั้งที่นางก็อยู่ใกล้เขาแค่เพียงเอื้อมมือ จะเด็ดดอมเมื่อใดก็สามารถทำได้ตลอดเวลา แต่เขากลับมัวไปลุ่มหลงอยู่ในรสสวาทของแม่หญิงจันทร์วาดอยู่ได้ตั้งนาน มาบัดนี้เขาตาสว่างแล้วและจะไม่ปล่อยให้แม่การะเกดก้าวพ้นออกจากห้องนอนนี้ไปแน่ หากเขายังไม่ได้โล้สำเภาจนน้ำท่วมอ่าวของนางให้สมดังใจอยากเสียก่อน
“คุณพี่เจ้าขา คุณพี่จะบีบหน้าอกของข้าไปจนถึงเมื่อใดเจ้าคะ ข้าเกรงว่านมของข้าจะต้องบอบช้ำป่นปี้ลงไปด้วยน้ำมือของคุณพี่เป็นแน่แท้” แม่การะเกดเอ่ยเสียงกระเส่าปนออดอ้อน
“มิต้องกังวลไปหรอกหนา ข้าจักรับผิดชอบทุกความบอบช้ำที่เกิดขึ้นกับออเจ้าแต่เพียงผู้เดียว”
พูดจบพ่อเดชก็ก้มลงไปซุกไซร้ดอมดมกลิ่นกายจากแม่การะเกด ไล่จากซอกคอของนาง ลามไปงับที่ติ่งหูและขบเล่นเบาๆ จากนั้นก็ระเรื่อยมาจนถึงนมสองเต้าที่ปลิ้นไปปลิ้นมาตามแรงบีบ เขาไล่งับยอดอกสองข้างสลับกันไปมาทั้งซ้ายขวา ลิ้นรัวตวัดหยอกเล่นกับหัวนมจนแม่การะเกดสะดุ้งบิดส่ายไปมาด้วยความเสียวซ่าน พลันกดศีรษะพ่อเดชให้จมลงบนหน้าอกของตนเองมากขึ้นไปอีก
“ซี้ด...คุณพี่เจ้าขา คุณพี่ทำข้าเสียวเหลือเกินเจ้าค่ะ...ซี้ด...คุณพี่นี่เก่งสุดยอดไปเลยนะเจ้าคะ”
ไม่วายที่แม่การะเกดจะยังมีอารมณ์ขัน แม้ว่านางจะอยู่ในอารมณ์ร่านราคะเพียงใดก็ยังพูดติดตลกได้อยู่ดี แต่พ่อเดชก็ไม่มีเวลาใส่ใจคำพูดใดๆของแม่การะเกด เพราะกำลังเพ่งความสนใจอยู่แต่กับหน้าอกทั้งสองข้างของนาง ยิ่งเขาบีบขยำและไล่ลิ้นดูดเลียสลับไปมาเพียงใด นางก็ยิ่งแอ่นอกบิดส่ายไปมาสู้กับเขาอย่างไม่มีทีท่าจะยอมแพ้ และเมื่อเขาสอดมือเข้าไปใต้หว่างขาของนางก็พบว่าเมือกแฉะลื่นนั้นได้ถูกขับออกมาเตรียมไว้รอท่าเขาอยู่แล้ว เพียงเขากรีดนิ้วผ่านร่องเสียวของนางจากล่างขึ้นบน สะกิดติ่งแตดที่ปลายยอดนิดหนึ่ง สะโพกของนางก็เด้งลอยขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ
เขาลองสอดนิ้วแทงเข้าไปในรูสังวาสของแม่การะเกดก็พบว่ามันคับแน่นเป็นอย่างมาก แม้น้ำหล่อลื่นที่ถูกขับออกมานั้นจะเนืองนองและฉาบนิ้วของเขาจนลื่นเพียงใด แต่ก็ไม่อาจช่วยให้การแทงนิ้วเข้าไปในช่องสังวาสนั้นสะดวกเท่าใดนัก ด้วยว่าอาการขมิบรัดในร่องรูของนางนั้นตีบแน่นเสียจนรัดนิ้วของเขาแทบขาด
“ซี้ด...คุณพี่เจ้าขา เป็นอย่างไรเจ้าคะ ทีนี้จะเชื่อข้าได้หรือยัง ว่าข้ายังบริสุทธิ์อยู่...อูย...”
แม่การะเกดยังแกล้งทำเป็นถามเขาอย่างใสซื่อ
“ยังต้องพิสูจน์ในขั้นตอนสุดท้ายอีกประการหนึ่ง” เขาตอบ
“พิสูจน์อย่างไรเจ้าคะ...ซี้ด”
ระหว่างที่ถาม พ่อเดชก็ยังไม่หยุดแทงนิ้วเข้าออกพลางสะกิดติ่งแตดของนางไปด้วย
“ข้าจักลองโล้สำเภากับออเจ้าดู หากสำเภาของข้าแล่นผ่านปากอ่าวของเจ้าเข้าไปแล้ว มีโลหิตหลั่งไหลออกมา จึงจะถือว่าเจ้านั้นบริสุทธิ์ได้”
หล่อนฟังดังนั้นก็แอบนึกในใจ
‘อีตาบ้า แบบนั้นต่อให้ข้าบริสุทธิ์จริง แต่มันก็ต้องป่นปี้เพราะน้ำมือของท่านน่ะสิ ตาทึ่มเอ๊ย...จะหลอกฟันผู้หญิง หัดใช้มุกให้มันเนียนกว่านี้หน่อยสิยะ’
นางนึกเสร็จแล้วจึงหันมายิ้มเอ่ยปากตอบเขาอย่างไร้เดียงสา
“ถ้าเช่นนั้น คุณพี่ก็จักโล้สำเภากับข้าเถิด แลหากท่านรู้แล้วว่าข้าบริสุทธิ์จริง ท่านต้องขอโทษที่เคยพูดดูหมิ่นข้าด้วย เข้าใจหรือไม่เจ้าคะ”
พ่อเดชนึกกระหยิ่มใจที่แม่การะเกดหลงเชื่อลูกไม้ตื้นๆของเขา หารู้ไม่ว่าเป็นแม่การะเกดต่างหากที่หลอกล่อเสียจนเขาต้องเอาสำเภาเข้ามาแล่นในอ่าวของนางจนได้
“ถ้าเช่นนั้นข้าจักเริ่มแล้วหนา แม่การะเกด”
“ซี้ด...เจ้าค่ะคุณพี่ ข้าเองก็พร้อมแล้วเช่นกัน”
พ่อเดชถอดผ้านุ่งและเสื้อของตนเองออก แผงอกกำยำของเขาก็ปรากฏแก่สายตาของแม่การะเกด นางมิแปลกใจอันใดนักเพราะเคยได้เห็นคู่หมายของตนถอดเสื้อเดินบนเรือนอยู่บ่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้นางตื่นเต้นคือแก่นกายเบื้องล่างของเขาต่างหาก นางเคยเห็นมันเพียงครั้งเดียวตอนที่แอบดูเขากับแม่จันทร์วาดโล้สำเภาใส่กัน แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เห็นชัดเจนอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ รูปร่างของมันดูน่าเกรงขามยิ่งนัก ท่อนควยยาวใหญ่มีเส้นเลือดปูนโปนอยู่โดยรอบ ถึงแม้มันจะไม่ยาวเท่าของหลวงศรียศ แต่ก็แลดูอวบอ้วนกว่า กะประมาณด้วยสายตานางคงกำควยของเขาไม่รอบ ดูจะสูสีกับท่านอาจารย์ชีปะขาวด้วยซ้ำ เพียงแต่ไม่มีเม็ดมุกมหาเสน่ห์ที่แสนจะน่าเกลียดน่ากลัวเท่านั้น หนังหุ้มควยโดยรอบก็มีสีสันพอๆกับสีผิวกายของเขาซึ่งออกดำแดงตามแบบชาวอยุธยา หาได้ดำมะเมื่อมอย่างของท่านอาจารย์ที่เคยทะลวงหีของนางจนแหกมาแล้ว
แม่การะเกดเห็นท่อนควยของคู่หมายแล้วรู้สึกหลงรักมันมากกว่าขยาดกลัวเหมือนอย่างคราวกับท่านอาจารย์ชีปะขาว จนเกือบจะเผลอตัวคว้ามันมาดูดอมตามสันดานเดิมของนาง ยังดีว่านางยับยั้งชั่งใจได้ก่อนเพราะตอนนี้นางต้องแสดงออกประหนึ่งแม่หญิงผู้บริสุทธิ์ จะทำกิริยาไม่สมเป็นกุลสตรีเช่นนั้นมิได้ นางหมายใจว่าครานี้ขอฝากเอาไว้ก่อน โอกาสหน้านางจะต้องขอชิมรสควยของเขาให้ได้เป็นแม่นมั่น
คิดเสร็จนางก็แหกขาอ้าออกเล็กน้อยให้พ่อเดชแทรกตัวเข้ามาตรงกลางได้อย่างสะดวก นางกระดกสะโพกยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อช่วยให้เขาจ่อท่อนลำได้พอดีเข้ากับปากโพรงสังวาสของตัวเอง แล้วเขาก็ค่อยๆกดเอวลงมาช้าๆ ส่วนปลายท่อนควยปักแน่นเข้ามาตรงปากโพรงแต่ก็ยังมิอาจมุดเข้าไปได้ แม่การะเกดสูดหายใจลึกๆพยายามผ่อนคลายอาการเกร็งที่สะโพกลงเพื่อให้ปากทางเข้าถ้ำขยายตัวออกมากขึ้น ซึ่งก็ได้ผลเพราะส่วนปลายท่อนควยพ่อเดชสามารถเสียบทะลวงเข้าไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังเหลือความยาวด้านนอกอีกมากที่ยังรอจะมุดเข้าไปในรูสังวาสของนาง แม่การะเกดกลั้นใจกระดกสะโพกสวนขึ้นรับการกระเด้าของเขาทั้งที่เจ็บรูหอยจนแทบน้ำตาร่วง
‘มนต์ของท่านอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์จริงๆเจ้าค่ะ ทำเอาข้าเจ็บราวกับเสียความบริสุทธิ์รอบสองเลย นี่ถ้าข้าไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน คงเจ็บจากการโดนเย็ดจนร้องไห้แน่ๆเลย’
แม่การะเกดคิดในใจ ครานี้ถึงแม้นางจะเจ็บปวดเพียงใดแต่นางก็อดทนอดกลั้นเอาไว้ได้ พ่อเดชเองก็ถึงกับแปลกใจที่นางผู้นี้มีจิตใจเข้มแข็งยิ่งนัก ไม่ร้องโอดครวญแลไม่บ่นให้ได้ยินสักคำ กับแม่หญิงจันทร์วาดและแม่มะลิที่โดนเขาเปิดซิงเข้าไปยังเจ็บปวดน้ำตาร่วงเดินขาถ่างไปเป็นวันๆ แต่แม่การะเกดกลับทนได้ ไม่ธรรมดาจริงๆเลยหนา
พ่อเดชใช้ความอดทนและพยายามดันเข้าดึงออกอยู่ในโพรงสังวาสของแม่การะเกดอยู่พักใหญ่ เหงื่อเม็ดโตก็ผุดพราวขึ้นบนใบหน้าของคนทั้งสอง ความร้อนจากร่างกายและแรงราคะทำให้อากาศรอบๆตัวของทั้งคู่ร้อนระอุจนเห็นเป็นไอขึ้นมา ขณะนี้พ่อเดชเดินหน้าส่งสำเภาเข้าไปได้กว่าครึ่งลำแล้ว ท่ามกลางการบีบรัดของรูสังวาสแม่การะเกดจนควยเขาเกือบจะขาดเป็นสองท่อน
พ่อเดชหยุดออกแรงอยู่ครู่หนึ่งเผื่อผ่อนลมหายใจออกยาว จังหวะนั้นแม่การะเกดที่กำลังกลั้นใจรอรับแรงกดของท่อนควยจากพ่อเดชอยู่ก็นึกว่าเขาจะหยุดพัก นางจึงคลายใจลงและผ่อนลมหายใจออกบ้างโดยไม่ทันระวังตัว พ่อเดชเห็นเป็นจังหวะจึงกดสะโพกเสียบพรวดส่งควยทั้งลำพุ่งเข้าโพรงสังวาสของหล่อนที่คลายตัวออกรวดเดียวจนมิดยันโคน
“โอ๊ย....คุณพี่..ข้าเจ็บ คุณพี่ทำอะไรเนี่ย...โอ๊ย....ฮือๆๆๆ”
แม้จะเตรียมตัวไว้พร้อมเพียงใด แต่การกระทุ้งเข้ามาสุดแรงโดยไม่บอกไม่กล่าวเช่นนี้ก็ทำเอาแม่การะเกดถึงกับตาเหลือกด้วยความจุกแน่นไปทั้งโพรงหี เลือดแดงฉานไหลออกมาจนเปรอะเปื้อนหน้าขาเป็นทางยาว ความเจ็บปวดที่ไม่ทันตั้งรับทำเอาหล่อนปล่อยโฮร้องไห้ออกมาในที่สุด
พ่อเดชนึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ที่สุดแล้วแม่การะเกดก็เป็นเพียงหญิงสาวปกติทั่วไป ดีใจก็หัวเราะ เสียใจก็ร้องไห้ เจ็บปวดก็ร้องครวญคราง แม้จะทำเป็นเข้มแข็งเพียงใด แต่สุดท้ายก็ต้องเสียเลือดและน้ำตาให้กับท่อนควยของเขา แลคราวนี้เขาคงสยบนางให้ยอมเชื่อฟังอยู่ในโอวาทของเขาได้เสียที ต่อไปจะได้ไม่ดื้อไม่ซนผิดวิสัยหญิงผู้ดีอีก
แต่แม่การะเกดหาคิดเช่นนั้นไม่ นางนึกด่าเขาอยู่ในใจ
‘อีตาขุนบ้า แทงพรวดเข้ามาซะแรงขนาดนี้ หีข้าได้พังกันหมดพอดี อุตส่าห์ร่ายมนต์รีแพร์มาทั้งที ช่วยทะนุถนอมหน่อยไม่ได้หรือไงยะ ผู้ชายนี่มันก็เหมือนกันหมด พอหน้ามืดก็เอาแต่แรงกระเด้าๆๆไม่ยอมสนใจว่าผู้หญิงเขาจะเจ็บจะปวดรึเปล่าเลยสิน่า’
แต่แม่การะเกดก็ฝืนยิ้มข่มความเจ็บพูดออกไปทั้งน้ำตาว่า
“คุณพี่เจ้าขา ทีนี้ท่านจะเชื่อคำข้าได้แล้วหรือยังเจ้าคะ...ซี้ด”
“ข้าเชื่อออเจ้าแล้ว เป็นดังเช่นเจ้าว่าจริงๆ เจ้ายังบริสุทธิ์อยู่จริงด้วย”
“อูย...แต่คุณพี่ก็ทำลายความบริสุทธิ์ของข้าลงจนป่นปี้ไปพร้อมๆกันเสียแล้ว คุณพี่ต้องรับผิดชอบนะเจ้าคะ...ซี้ด”
“ตอนนี้เจ้าตกเป็นเมียของข้าแล้ว ข้าจะต้องดูแลรับผิดชอบเจ้าเป็นอย่างดี ถึงอย่างไรเสียมันก็เป็นหน้าที่ที่ผัวจะต้องดูแลเมียอยู่วันยังค่ำ เจ้ามิต้องกังวลอันใดดอก”
แม่การะเกดคิดในใจ ‘ท่านต่างหากที่ตกเป็นผัวของข้า หาใช่ข้าที่ตกเป็นเมียของท่านไม่ ตาทึ่มเอ๊ย’
แม่การะเกดส่ายสะโพกน้อยๆเป็นสัญญาณให้เขาเริ่มเคลื่อนไหวได้แล้ว น้ำหล่อลื่นที่ถั่งโถมออกมาช่วยบรรเทาทั้งความเจ็บและความคับแน่นในโพรงสังวาสของนาง พ่อเดชเองก็เจนสังเวียนพอที่จะรู้ว่าบัดนี้ถึงเวลาออกเรือสำเภาโต้คลื่นลมแล้ว สำเภาลำใหญ่ของเขาเคลื่อนตัวเดินหน้าถอยหลังครูดผนังอ่าวที่คับแคบนั้นเข้าๆออกๆเป็นจังหวะ น้ำในอ่าวเอ่อท้นขึ้นสูงจนท้องเรือที่เคยครูดติดโขดหินสามารถกางใบแล่นลำโต้คลื่นได้สะดวกยิ่งขึ้น ทุกครั้งที่สำเภาของเขาถอนตัวออกมาแล้วแล่นกลับเข้าไป ส่วนหัวเรือของเขาก็ไปกระแทกเข้ากับผนังโขดหินทางตันในส่วนลึกสุดของอ่าวของแม่การะเกด ทำเอาแม่การะเกดกระถดสะโพกถอยหนีไปจนหัวโขกเข้ากับขอบหัวเตียง เมื่อหมดทางถอยแล้วนางจึงจิกฟูกไว้เป็นหลักยึดก่อนจะแอ่นเอวโต้กลับสวนคืนไปบ้าง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังตั่บๆๆๆเป็นระยะๆโดยมีเสียงสูดปากครางซี้ดซ้าดของคนทั้งสองเป็นส่วนประกอบ ฟังคล้ายกับวงมโหรีกำลังบรรเลงเพลง sound track ประกอบการโล้สำเภาอย่างดุเดือดของเขาและเธอ
แม่การะเกดหลับตาร้องครวญคราง ซึมซาบรับความเสียวที่เขามอบให้เป็นจังหวะ นางมิต้องลืมตาขึ้นมองคู่หมายก็รับรู้ได้ว่าตอนนี้เขาเหนื่อยหอบเพียงใดจากการที่เม็ดเหงื่อของเขาหยดลงกระทบใบหน้าและเนินอกของนาง
“คุณพี่เจ้าขา...คุณพี่รู้สึกอย่างไรบ้างเจ้าคะ...ซี้ด...ข้าเสียวมากเลยเจ้าค่ะ”
“ข้าเสียว...แม่การะเกด ข้าก็เสียวเช่นเดียวกับออเจ้าแหละหนา...อูย”
มิต้องมีคำพูดใดอีก ทั้งสองสบสายตากันจ้องกันไปมา มือของแม่การะเกดโอบรอบคอของเขา ส่วนเรียวขาทั้งสองข้างตอนนี้ก็โอบรัดสะโพกของเขาไว้แน่นเช่นกัน เรือสำเภาของเขากำลังโต้คลื่นขึ้นลงอยู่ท่ามกลางพายุลูกมหึมา ดูราวกับจะอับปางลงได้ทุกนาที
“คุณพี่เจ้าขา ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว...ซี้ด...แรงๆเลยเจ้าค่ะ...อูย...มิต้องกลัวว่าอ่าวของข้าจักต้องยับเยินถึงเพียงใด หากเป็นเพราะสำเภาของคุณพี่ แม้อ่าวของข้าจักต้องพังจนไม่เหลือสภาพ ข้าก็ยอม...ซี้ด...อูย...อ๊ะๆๆ...ข้าถึงแล้ว ถึงแล้วเจ้าค่ะ...ซี้ด...โอว...คุณพี่เจ้าขา...”
แม่การะเกดร้องเรียกพ่อเดชเสียงหลง พลันในอ่าวก็เกิดคลื่นสึนามิลูกใหญ่ซัดตูมแตกซ่าออกมาจนปากอ่าวของนางมีน้ำท่วมนองไปหมด ขาของแม่การะเกดแข็งเกร็งสั่นระริก ลำตัวบิดส่ายไปมาอย่างเสียวซ่านถึงใจ เสี้ยววินาทีนั้นในหัวของแม่การะเกดก็ขาวโพลนจนมิอาจมองเห็นภาพรอบตัว ในอกเบาโหวงเหมือนลอยละลิ่วตกจากที่สูง นางรู้สึกราวกับขึ้นสวรรค์ก็ไม่ปาน
ส่วนพ่อเดชนั้นพอเห็นแม่การะเกดถึงฝั่งฝันไปแล้วก็เร่งพาตนเองตามไปบ้าง เขากระดกโล้สำเภาต่ออีกชุดใหญ่แบบไม่นับจำนวนครั้ง จนกระทั่งเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป เรือสำเภาของเขาถูกดึงกลับออกมาจนทั้งลำจนพ้นจากปากอ่าวของนาง แม่การะเกดแอ่นสะโพกตามวูบอย่างแสนเสียดาย พลันที่เรือสำเภาหลุดออกไป นางก็ตกใจพลันลุกโผเข้าหาตัวเขาทันที
“คุณพี่..คุณพี่ทำกระไรเจ้าคะ คุณพี่จะหนีข้าไปไหน...อุ๊บ...โอ๊ย”
นางโถมตัวเข้าใส่เขาจนเสียหลัก พ่อเดชทรุดลงไปนั่งจนแผ่นหลังไปกระแทกกับเสาตรงมุมเตียง ส่วนการะเกดก็หน้าคะมำไปอยู่ที่หน้าตักของเขา ท่อนควยของเขาอยู่ห่างจากใบหน้าหล่อนไปไม่ถึงคืบ ทันใดนั้นเองพ่อเดชก็สุดจะกลั้นอีกต่อไป เขาปล่อยให้สำเภาแตกอับปางลงตรงนั้น น้ำขาวขุ่นจึงถูกฉีดเข้าใส่ใบหน้าของแม่การะเกดเต็มๆเป็นระลอก ระลอกแล้วระลอกเล่าจนเปรอะเปื้อนไปทั้งใบหน้า ปากและจมูกของนาง แม่การะเกดสะดุ้งหลับตาปี๋แต่ก็มิได้เบือนหน้าหนี นางปล่อยให้น้ำกามของเขาฉีดพ่นชโลมจนทั่วใบหน้า แลเมื่อทุกอย่างสงบนิ่งนางจึงอ้าปากอมเรือสำเภาของเขาพลางดูดเลียชิมคราบน้ำกามที่เปรอะอยู่โดยรอบอย่างไม่รังเกียจ และแล้วนางก็ได้อมท่อนควยของพ่อเดชสมใจจนได้
“แม่การะเกด เจ้าทำกระไรกัน”
พ่อเดชถามเสียงสั่นๆ ทั้งตัวยังนั่งเกร็งกระตุกจากความเสียวกระสันเมื่อครู่อยู่ไม่หาย
“ข้าก็ทำความสะอาดให้คุณพี่ไงเจ้าคะ ไยคุณพี่จึงไม่ล่มเรือสำเภาในอ่าวของข้า เอาออกมาล่มข้างนอกแบบนี้มันทำให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด เห็นมั้ยคะเนี่ย ข้าจึงได้ทำความสะอาดอยู่นี่ไงเจ้าคะ”
แม่การะเกดบ่นด้วยความเสียดายเล็กๆที่เขามิได้แตกในหีนางอย่างที่ต้องการ แต่แบบนี้นางก็ชอบไม่แพ้กันเพราะได้โอกาสตีเนียนดูดควยให้เขาไปด้วย
“ข้ากลัวเจ้าจักตั้งครรภ์ก่อนถึงวันที่จะได้ออกเรือน จึงมิกล้าล่มสำเภาในอ่าวของเจ้า”
พ่อเดชอธิบาย แต่พอได้ยินคำว่าออกเรือน แม่การะเกดก็หูผึ่งทันที
“จริงหรือคะคุณพี่ คุณพี่จะออกเรือนกับข้างั้นหรือเจ้าคะ เมื่อใดกันเจ้าคะ บอกข้าได้ไหม”
แม่การะเกดเขย่าตัวคุณพี่พลางถามรัวๆด้วยความดีใจ
“มินานดอกหนาแม่การะเกด ข้าพรากความบริสุทธิ์ไปจากเจ้า ข้าจักต้องแสดงความรับผิดชอบอยู่แล้ว เจ้ามิต้องกังวลไป ส่วนจะเป็นเมื่อใดนั้นรอให้ข้าปรึกษากับคุณพ่อเรื่องฤกษ์ยามก่อนเถิดหนา”
แม่การะเกดแอบไชโยโห่ร้องอยู่ในใจที่แผนการของนางประสบความสำเร็จ ได้ทั้งโล้สำเภา ได้ทั้งออกเรือน มิเสียทีที่อุตส่าห์ร่ายมนต์ม่านพรมจรรย์ที่อาจารย์ชีปะขาวมอบให้มา บัดนี้คุณพี่เดชคงติดใจรสหีของข้าจนถอนขึ้นไม่ขึ้นแล้วกระมัง นางนึกพลางยิ้มออกมาพร้อมแววตาของผู้ชนะในที่สุด
ขอบคุณครับ สุดยอด
สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกครับ สุดยอดคับผม สุดยอด ขอบคุณครับ ชนะเลิศ สนุกคับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ พ่อเดชคิดว่าได้เปิดซิง ขอบคุณ
หน้า:
[1]
2