อำมหิตเกินมนุษย์ตัดจู๋เด็กขาดถึงโคน2รายรวด (Cr)
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 19 พ.ย. ร.ต.อ.ภัทร ม้ายอุเทศ หัวหน้าสายตรวจ สน.ตลาดพลู ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน มีชายทำร้ายทารุณเด็กบริเวณ รั้วโรงเรียนวัดใหม่ยายนุ้ย ซอยวุฒากาศ 24 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สายตรวจ จำนวนหนึ่งรุดไป ตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบนายมานิต สีมาธรรมทาน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 288/21 ซอยวุฒากาศ 24 ยืนคุมตัวเด็กชาย 2 คน ในสภาพอิดโรย ยืนโงนเงนไม่มีเรี่ยวแรง คนแรกชื่อนายจเร หรือจิ๋ว หน่อไม้ อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/34 ซอยวุฒากาศ 30 นักเรียนชั้น ม. 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านนั้น ซึ่งถูกพักการเรียน เพราะประพฤติตนไม่เหมาะสม นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ มือทั้ง 2 ข้างถูกพันธนาการใส่กุญแจมือ ตามเนื้อตัวเลอะเทอะไปด้วยคราบเลือดแห้งเกรอะกรัง ที่น่าอเนจอนาถใจมาก คือใบหูข้างซ้ายถูกตัดขาดหายไป เหลือเพียงปลายติ่งหูนิดเดียว ขณะที่เป้ากางเกงยังเต็มไปด้วยคราบเลือด ต้นขาทั้ง 2 ข้างมีคราบเลือดไหล เป็นทางไปที่หัวเข่า เมื่อถอดกางเกงออกถึงกับตะลึง เมื่อพบว่า "ไอ้จู๋" ถูกตัดขาดหายไปจนกุดด้วน เหลือเพียงถุงอัณฑะเท่านั้นส่วนอีกคนชื่อ ด.ช.กิตติ หรือเป้ อุดรพลู อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/15 หมู่ 11 ซอยวัฒนา แขวงบางค้อ เขตจอมทอง ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาวเลอะคราบเลือดเกรอะกรังไม่แพ้กัน ข้อมือทั้ง 2 ข้างถูกมัดรวมกันจนแน่นด้วยลวดทองแดงสายไฟฟ้า นุ่งกางเกงขายาวสีเขียวขี้ม้า เป้ากางเกงคราบเลือดเกรอะกรังไม่แพ้กัน เมื่อถอดกางเกงออก พบภาพหดหู่ อวัยวะเพศถูกตัดขาดจนกุดอีกคนเหมือนกัน โดยบาดแผลยังมีเลือดไหลซึม เด็กทั้ง 2 คนยืนยันว่านายมานิตเชือดจู๋ทิ้ง จึงรีบนำส่ง รพ.ตำรวจ ให้แพทย์ผ่าตัดเย็บบาดแผล พร้อมควบคุมตัวนายมานิตไปสอบสวนดำเนินคดีที่โรงพัก
นายมานิตให้ปากคำว่า เดิมทีเป็นช่างทาสี ทำงานอยู่ที่ห้างฟิวเจอร์พาร์คบางแค ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวเดินทางไปทำงานที่ประเทศตะวันออกกลาง ส่วนเด็กทั้ง 2 คนรู้จักกันมานานแล้ว เนื่องจากมีบ้านอยู่ใกล้กัน โดยทั้งคู่มักไปมั่วสุมดมกาวอยู่บริเวณ ท่าน้ำวัดใหม่ยายนุ้ย ซึ่งตนต้องเดินผ่านไปทำงานเป็นประจำ นานเข้าทั้ง 2 ขอไปกินข้าวและไปเที่ยวที่บ้าน ก็ไม่ได้รังเกียจ แต่ ประมาณเดือนเศษที่ผ่านมา จับได้ว่าทั้งคู่แอบขโมยเงินที่วางไว้ 130 บาทไป จึงให้ไปหามาใช้คืน ถ้าไม่ได้ไม่ต้อง เข้าบ้าน หลังจากนั้นก็ไม่เห็นเด็ก 2 คนอีกเลย จนเมื่อค่ำวันที่ 11 พ.ย. ขณะกลับบ้าน เห็นทั้งคู่นั่งดมกาว อยู่ที่หน้าวัด ก็ไม่ได้สนใจ หลังจากกลับบ้านไปเปลี่ยนกางเกงยีนแขวนไว้ข้างฝา โดยใส่กระเป๋าสตางค์อยู่ในกระเป๋าหลังกางเกงยีน พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า พบว่ากระเป๋าสตางค์มีเงินสด 1,000 บาท พร้อมบัตรเอทีเอ็มหายไป ตอนแรกเข้าใจว่าพี่ชายเป็นข้าราชการซึ่งพักอยู่ ชั้นบนหยิบเอาไป แต่เมื่อสอบถามแล้วบอกว่าไม่รู้เรื่องเกิดเอะใจนึกถึงเด็กทั้ง 2 คน
หนุ่มจอมโหดให้การต่อว่า ต่อมาวันที่ 15 พ.ย. รีบไปตรวจสอบยอดเงินที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาหนองแขม ซึ่งเปิดบัญชีไว้ พบว่ามีการกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มไปแล้วตั้งแต่เวลา 04.05 น. ของวันที่ 12 พ.ย. ที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาวุฒากาศ เมื่อเข้าแจ้งความที่ สน.ตลาดพลู พนักงานสอบสวนแนะนำ ให้ไปประสานเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อขอตรวจสอบ เทปวีดิโอวงจรปิด ว่าใครเป็นคนร้าย ในที่สุดพบว่า นายจเร และ ด.ช.กิตติ เป็นหัวขโมย นำบัตรเอทีเอ็มไปกดจริง ทำให้เกิดความโมโหและเคียดแค้นที่โดนเด็กเหลือขอไม่รู้จักบุญคุณ เลยหาทางสั่งสอนด้วยตนเอง ไม่ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
มือเชือดสุดโหดให้การต่ออีกว่า จากนั้นแผนการต่างๆก็เริ่มขึ้น จากการกลับไปปล่อยข่าวกับชาวบ้านในชุมชนว่ารู้ตัวหัวขโมยเอทีเอ็มไปกดแล้ว คือนายพัฒน์ เพื่อนของนายจเร และ ด.ช.กิตติ เพื่อหวังให้ทั้งคู่โผล่ออกมา ปรากฏว่า เย็นวันที่ 17 พ.ย. เห็นทั้งคู่ไปนั่งมั่วสุมที่หน้าวัดใหม่ยายนุ้ย จึงเข้าไปทักทายตีสนิทให้ตายใจ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมกับให้เงินไปซื้อกาวมาดมจนเมามาย ก่อนชวนไปเที่ยวที่บ้าน หวังจะคาดคั้นและสางแค้นเรื่องเงิน โดยออกอุบายท้าทายให้นายจเรและ ด.ช.กิตติแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการใส่กุญแจมือพันธนาการไม่ให้หลบหนี ด้วยความเมา นายจเรคว้าเอา กุญแจมือไปใส่ก่อน ส่วน ด.ช.กิตติยอมให้นายมานิตใช้ ลวดสายไฟฟ้ามัดมือไว้จนกระทั่งหลับไป
ผู้ต้องหามือเชือดจู๋ให้การว่า พอวันที่ 18 พ.ย. ได้เริ่มต้นคาดคั้นทั้งคู่อย่างจริงจังว่า ใครเป็นคนเอาไปแน่ แต่ก็ไม่มีใครยอมรับ ทำให้เหลืออด ทนไม่ไหว ตะคอกว่ากูรู้แล้วว่ามึงทั้งคู่เอาไป แต่นายจเรก็ปากแข็งไม่ยอมรับอยู่ดี ด้วยความโมโหสุดขีด จึงใช้เท้าถีบที่อกจนนายจเรหงายหลังตึง เสร็จแล้วเหยียบที่ใบหน้าไม่ให้ดิ้น พร้อมกับดึงใบหูซ้าย ของนายจเรขู่ให้รีบรับ แต่นายจเรบอกว่าไม่ได้เอาไป จึงค่อยๆใช้มีดโกนกรีดเลาะโคนใบหู ทีละน้อยๆ พร้อมกับถามว่าจะรับหรือไม่ นายจเรไม่รับแถมยังร้องดิ้นด้วยความเจ็บปวด ต้องใช้ผ้าขนหนูยัดปาก กระทั่งใบหูขาดวิ่นติดมือ จากนั้นหันไปชูชิ้นส่วนใบหูขู่ให้ ด.ช.กิตติที่นั่งดูตาปริบๆด้วยความหวาดผวาเห็น พร้อมกับถามว่าจะรับหรือไม่ แต่ยังไม่มีใครยอมรับอีก จึงหันไปเล่นงาน ด.ช.กิตติบ้าง
มือเชือดอำมหิตให้การอย่างไม่สะทกสะท้านต่อว่า หลังจากนั้นได้หันหลังนั่งทับอก ด.ช.กิตติ จัดการถอดกางเกงแล้วกดคมใบมีดโกนคมกริบตรงโคนอวัยวะเพศ แล้วกรีดฉับจนจู๋ขาดติดมือ โดยที่ ด.ช.กิตติดิ้นพราดๆหวีดร้องด้วยความเจ็บปวด ชาวบ้านได้ยินเข้ามาสอบถาม แต่บอกไปว่าเล่นกันแรงไปหน่อย จากนั้นใช้ผ้าขนหนูยัดปากไว้ แล้วหันไปถามนายจเรว่าจะยอมรับหรือไม่ นายจเรไม่ยอมรับ จึงจับถอดกางเกง จัดการเชือดไอ้จู๋จนขาดด้วนไปอีกคน แล้ววางชิ้นส่วนอวัยวะเพศไว้ต่อหน้าให้ทั้งคู่ดู เสร็จแล้วให้กินยาแก้อักเสบ ปล่อยให้นอนดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด กองอยู่กับพื้นห้องตรงนั้นกระทั่งเช้า โดยนายมานิตอ้างว่า เพื่อหวังจะพาไปธนาคาร ให้ดูเทปวงจรปิดที่บันทึกภาพของทั้งคู่ขณะไปกดเอทีเอ็มตอนเช้า กระทั่งถูกตำรวจจับเสียก่อน ส่วนไอ้จู๋ของทั้งคู่และใบหูซ้ายของนายจเร นำไปโยนทิ้งลงคลองด่านหน้าวัดใหม่ยายนุ้ยไปแล้ว สำหรับสาเหตุที่ต้องเชือดของรักของสงวนของเด็กชายทั้ง 2 คน เพราะว่าถือเป็นอวัยวะสำคัญของผู้ชาย เมื่อตนต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองที่หาได้มาด้วยความยากลำบาก ก็ต้องแลกกับของรักของหวงของทั้งคู่
ภายหลังจากสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากักขังผู้อื่นให้เสื่อมเสียอิสรภาพ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนควบคุมตัวไปทำแผนประกอบ คำรับสารภาพที่บ้านเกิดเหตุ โดยพบว่าบริเวณห้องพัก ชั้นล่างมีกล่องกระดาษปูพื้น เต็มไปด้วยคราบเลือดแห้งเกรอะกรัง นอกจากนี้ ยังพบใบมีดโกนเปื้อนเลือด 2 ใบ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวไปมุงดูหลายสิบคน ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่านึกไม่ถึงว่านายมานิตจะโหดร้ายป่าเถื่อนผิดมนุษย์มนาถึงขนาดนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามนายมานิตถึงเรื่องราวที่ก่อคดีสะเทือนใจนี้ นายมานิตกล่าวอย่างไม่ไยดีว่า การกระทำดังกล่าว มันสาสมกับความผิดที่เด็กก่อขึ้นแล้ว เนื่องจากตนต้องสูญเสียเงินที่สะสมมาทั้งชีวิต แลกกับการตัดอวัยวะเพศของรักของหวงของผู้ชาย ทำให้ไม่มีโอกาสร่วมเพศ ดีที่ไม่ตัดถุงอัณฑะด้วย ทำให้ยังมีโอกาสมีลูกได้ บางประเทศหากจับได้ว่าลักขโมยถึงขนาดตัดแขนตัดมือเลยก็มี พร้อมกับจะแจ้งความจับเด็กทั้งคู่ในข้อหาลักทรัพย์ต่อไป
ต่อมานายเจริญ หน่อไม้ อายุ 41 ปี พ่อของนายจเร ทราบข่าวเดินทางไปพบตำรวจ ให้การว่ามีอาชีพขับรถ 4 ล้อเล็กรับจ้าง วิ่งระหว่างวัดสิงห์เดอะมอลล์ท่าพระ ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก นายจเรเป็นลูกคนโต แม่ถูกฆ่าตายไปเมื่อปี 44 มีนิสัยเกเรชอบลักเล็กขโมยน้อย เมื่อประมาณเดือนเศษไปก่อคดีลักทรัพย์ในท้องที่ สน. บางขุนเทียน ชอบเที่ยวเตร่มั่วสุมกับเพื่อนฝูงไม่ค่อยกลับบ้าน ครั้งสุดท้ายหายหน้าไปเมื่อวันที่ 11 พ.ย. แต่เห็นว่าโตแล้วจึงไม่ได้ติดตาม เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ทราบราย ละเอียด แต่หลังจากได้ไปดูอาการของลูกที่ รพ.ตำรวจ เห็นสภาพแล้วตกใจมาก ไม่คิดว่าคนทำจะจิตใจเหี้ยมโหดได้ขนาดนี้
สำหรับเด็กที่ถูกเชือดจู๋ทั้ง 2 คน ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน รพ.ตำรวจ เพื่อรักษาผ่าตัดเย็บตกแต่งบาดแผล โดยแพทย์พบว่าทั้งคู่มีอาการสาหัส อวัยวะเพศถูกคว้านตัดขาดจนติดโคน ไม่เหลือส่วนอวัยวะเพศให้เห็นเลย ต้องดูอาการแทรกซ้อนอย่างน้อย 3 วัน ส่วนใบหูของนายจเรคาดว่าต้องทำศัลยกรรมต่อไป แพทย์ระบุว่าไม่สามารถผ่าตัดต่ออวัยวะเพศให้เด็กชายทั้ง 2 คนได้ เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนอวัยวะเพศที่ถูกตัดขาดมาให้ อีกทั้งบาดแผลเกิดการติดเชื้อและล่วงเลยเวลามาเกิน 24 ชั่วโมงแล้ว ทำให้ได้แค่รักษาบาดแผลตามอาการที่เกิดขึ้นเท่านั้น ต่อไปต้องบำบัดเรื่องสภาพจิตใจ เพราะทั้งคู่ยังอยู่ในช่วง เป็นวัยรุ่น ถ้าทราบว่าอวัยวะเพศไม่สามารถใช้งาน ได้จะทำใจได้หรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ
Ref: http://www.hewhew.com/view_topic3.php?t=201#
หวาดเสียว
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ น่าสงสารจัง น่าสงสาร แต่เรื่องจริง หรือ เรื่องแต่งครับ utain1234 ตอบกลับเมื่อ 2021-11-30 04:11
น่าสงสาร แต่เรื่องจริง หรือ เรื่องแต่งครับ
เรื่องจริงนะ เคยเป็นข่าวอยู่เมื่อหลายปีก่อน น่ากลัวมาก เศร้า ป่านนี้เด็ก 2 คนนี้เป็นผู้ใหญ่แล้ว อยากรู้จักว่าตอนนี้ชีวิตเป็นอย่างไร ชาวบ้านเดินไปดูแล้วเดินกลับ สภาพพพ ไม่รู้ได้ไงก่อน น่ากลัวนะ จบกัน ขอบคุณครับ {:5_128:}{:5_131:}{:5_131:} น่าสงสาร ขอบคุณครับ โหดร้ายมาก
หน้า:
[1]