ขอโทษครับพี่สาว ss3 ตอนที่ 3
หลังจากวันนั้นบวันที่พี่ธันโดนผมบังคับให้ชักว่าต่อหน้าผมผมก็พยายามเลี่ยงการเจอหน้าทั้งสองคน ดีที่พวกพี่สวยกับพี่ธันต้องไปทำงานส่วนผมยังไม่ได้เข้าโรงเรียนเพราะเป็นช่วงปิดเทอมจึงวุ่นกับการเตรียมการสอนมากกว่าในระหว่างนี้ผมก็ยื่นเรื่องขอเข้าพักที่บ้านพักครูกับทางโรงเรียนแต่พอไปดูสภาพบ้านจริงๆมันไม่ไหวคงต้องซ่อมเยอะมาก เลยตัดวินใจมาเช่าบ้านอยู่เองแทนผมย้ายออกจากบ้านของตัวเองในช่วงกลางวันเพราะพี่สาวกับพี่เขยต้องไปทำงานโชคดีที่มีหมอภัทรอาสามาช่วยเป็นขับรถให้เพราะผมเอามาแต่ของจำเป็นจริง ๆ แล้วผมก็เก็บไว้แล้วด้วยเลยใช้เวลาไม่เยอะ บ้านเช่าของผมเป็นบ้านเดี่ยวสภาพโครงการค่อนข้างเก่าแล้วแต่ดีหน่อยตรงที่มีพื้นที่รอบ ๆ บ้าน แล้วก็ราคาถูก ช่วงแรก ๆก็วุ่นกับการจัดบ้านกับหาซื้อของจำเป็นเข้าบ้านเพื่อฆ่าเวลาไปในแต่ละวันพี่ภัทรเข้ามาตามอาการบ้างสามสี่วันครั้งมาทีผมเกรงใจพี่เขามากเลยตัดสินใจไปหาหมอจิตตามที่เขาแนะนำ พี่เขาถึงได้วางใจแล้วก็ถึงช่วงเปิดเทอม อาการของผมไม่ได้รุนแรงมาก แค่พยายามเลี่ยงที่คนเยอะๆเพราะกลัวอาการกำเริบโดยที่ผมคุมไม่ได้แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นสักครั้งทำให้ผมค่อนข้างเบาใจ ผมเลยเบาใจ ในวันหนึ่งที่ดูปรกติเหมือนทุกวันในระหว่างที่กำลังเดินมาที่รถกลับต้องชะงักเมื่อพี่ธันมันนั่งพิงรถของผมอยู่พี่ธันเองก็มองมาทางผมเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้ว่าผมคงหลบการประทะไม่ได้แล้วเพราะมันเองก็เห็นผมแล้วผมทำใจดีสู้เสือเดินเข้าไปที่รถของตัวเองอย่างปรกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ผมกดปลดล็อคแล้วเดินเอาของไปใส่ที่ด้านหลังโดยทำเหมือนพี่ธันเป็นอากาศ “พี่มาหาเพราะจะบอกว่าข้าวสวยรู้เรื่องคืนนั้นของเราแล้ว”ผมชะงักไปจากเรื่องที่มันเอามาบอกถึงผมจะเคยเอาเยรื่องนี้มาขู่มันราวกับอยากให้ข้าวสวยรู้แต่ลึกๆแล้วผมอยากให้เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราสองคนตลอดไปด้วยซ้ำ“แล้วพี่สวยรู้ได้ไงละ”“พี่เป็นคนสารภาพกับข้าวสวยเอง”ผมเกลียดน้ำเสียงนิ่ง ๆราวกับเรากำลังพูดคุยเรื่องทั่วไปไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเฮ้ยนี้มันเรื่องที่มันมามีอะไรกับน้องเมียตัวเองเลยนะเว้ย “แล้วพี่ได้บอกไปหรือเปล่าว่าพี่เมา”“ไม่ได้บอก”“แล้วพี่สวยว่าไงบ้าง”“ก็เสียใจ อาละวาดแล้วก็ไม่ฟังเหตุผลอะไรอีก”“พี่มาหาผมเพื่อที่จะบอกเรื่องนี้ใช่ไหม”“อืม”“ผมทราบแล้วงั้นผมขอตัวกลับนะครับ”ผมเปิดประตูรถฝั่งคนขับสตาร์ทรถได้ก็ขับออกมาเลยโดยแอบมองกระจกหลังเห็นภาพที่พี่ธันยืนมองมาทางรถผมด้วยสายตาที่ไม่อาจคาดเดาความหมายภาพนั้นค่อย ๆ เล็กลงเพราะความห่างที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนลับสายตาไปผมขับรถกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย เพราะถ้าผมเกิดไปเฉี่ยวชนจะไม่แปลกใจเลยสักนิดเพราะในหัวผมมีแต่เรื่องที่พี่ธันบอก ผมอดคิดไม่ได้มันวนไปวนมาอยู่ในหัว เข้ามาในบ้านได้ก็เดินไปกินยาก่อนเลยผมยังคงใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ในหัวกลับคิดแต่เรื่องเดิม ๆทำให้ผมเหม่อลอยจนไม่เป็นอันทำอะไร“พี่โอ๊ตครับ พี่โอ๊ตฮัลโหล”เสียงของต่อนักศึกษาฝึกสอนที่ผมเป็นพี่เลี้ยงให้ดึงสติผมกลับมาตอนนี้ผมมาวิ่งออกกำลังกายวันเว้นวันผมทำเป็นกิจวัตรของผมหลังจากย้ายมาที่บ้านนี้เพราะใกล้กับสนาม เจ้าต่อรู้ว่าผมมาวิ่งที่สวนนี้ประจำก็ขอตามมาวิ่งด้วย“โทษที ว่าไงนะ”“พี่เป็นอะไรพักนี้เหม่อลอยแปลก ๆ นะครับ คิดถึงสาวที่ไหนหรือเปล่า”“บ้า สาวเสยที่ไหนไม่มี”“แล้วเอาไงอะผมถามว่าพี่จะไปกินข้าวร้านเดิมหรือเปล่า”“อือ เอาดิ”ผมตอบส่ง ๆ ไป พอมีต่ออยู่เป็นเพื่อนชวนคุยนู้นนี่ก็ทำให้ผมลืมเรื่องของพี่ธันไปได้บ้างผมเลยขอตามไปเล่นเกมที่หอของต่อ เพื่อฆ่าเวลายังไงพรุ่งนี้ก็ไม่ได้เข้าโรงเรียนอยู่แล้วเพราะเป็นวันเสาร์ผมเล่นเกมกันจนดึกกว่าจะได้กลับกลับมาก็เจอรถที่คุ้นตาจอดในหน้าบ้านที่ไม่มีคนอยู่ไม่ห่างจากบ้านของผมมากนักผมมองก็จำได้ว่าเป็นรถของใคร แต่เลือกที่จะทำเป็นไม่เห็น แล้วเข้าบ้านตามปรกติผมวนมาเดินดูจากทางหน้าต่างบ้านอยู่บ่อย ๆ ก็ไม่เห็นตัวเจ้าของรถจนผมแกล้งปิดไฟบนบ้านทำเป็นว่าเข้านอนแล้ว พอย่องมามองที่หน้าต่างรถคันนั้นถึงได้สตาร์ทแล้วขับออกไป นี้พี่ธันรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่แล้วมันมาเฝ้าดูผมตั้งแต่เมื่อไหร่วันรุ่งขึ้นผมเลือกที่จะไปถามข้อมูลจากเครือข่ายป้าข้างบ้านแล้วก็ไม่ผิดหวังเพราะรู้ขนาดว่ามาตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่ที่บ้านนนี้แรก ๆมาแทบทุกวัน แถมบอกลักษณะของพี่ธันได้แม่นยำมากด้วยขนาดบอกว่าเห็นลงจากรถแค่ไม่กี่ครั้ง ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้อยู่เป็นอาทิตย์จนในที่สุดก็เป็นผมเองที่ทนไม่ไหวก๊อก ๆๆ ผมเดินไปเคาะกระจกรถของพี่ธันในคืนวันเสาร์ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมามันทำแบบนี้แทบทุกวัน กระจกค่อย ๆ ลดลงเผยให้เห็นคนในรถ“พี่จะมาส่องดูบ้านผมทำไมทุกวัน”ความเงียบคือคำตอบที่ผมได้ผมมองไปทางบ้านป้าศรีที่ผมเคยไปถามเรื่องพี่ธัน เห็นแกกำลังเปิดม่านมองมาทางนี้ลับๆ ล่อ ๆ เลยตัดสินใจชวนมันเข้าบ้าน“เข้าไปคุยกันที่บ้านไป”พี่ธันยังคงนิ่งเงียบไม่ตอบโต้ใดๆ “ถ้าไม่เข้ามาก็กลับบ้านไปเถอะพี่ป้าข้างบ้านเขาจะแจ้งตำรวจหลายรอบแล้วนะ”ผมพูดจบก็เดินกลับเข้าบ้านเลยแต่ดีหน่อยตรงที่ได้ยินเสียงเปิดปิดประตูรถ ถึงผมจะไม่หันกลับไปมองก็เถอะพี่ธันเดินตามเข้าบ้านมาเงียบ ๆ ผมบอกใหมันนั่งที่โต๊ะกินข้าวเพราะบ้านผมไม่มีโซฟาหรอก ส่วนใหญ่ผมก็อยู่แต่ชั้นบน “พี่ตามมาดูผมตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วรู้ได้ไงว่าผมอยู่นี่”“ตั้งแต่ที่โอ๊ตย้ายมาแรกๆ”“แล้วพี่รู้ได้ไงว่าผมอยู่ที่นี่”“ภัทรบอก”ห๊ะ...ผมเองก็ลืมไปแล้วว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นเพื่อนกัน ที่แท้พี่ภัทรก็เป็นสายให้กับพี่ธันนี้เองเรื่องนี้ผมโง่เองแหละ“แล้วพี่มาตามดูผมทำไมผมย้ายออกมาก็เป็นเรื่องที่ดีกับพวกพี่ไม่ใช่หรอ”“...”แล้วผมก็ได้คำตอบเป็นความเงียบอีกครั้งผมมองหน้าไอ้พี่ธันแล้วดูมันไม่มีความสุขแปลก ๆ แต่แล้วยังไงใครสนผมยังจำไม่ลืมว่าโดนทำอะไรมาบ้าง เมื่อไม่ตอบก็ไม่มีความจำเป็นที่จะให้อยู่ต่อ“ดึกมากแล้วพี่กลับไปเถอะเดี่ยวพี่สวยเป็นห่วง”“....”นอกจากมันจะนั่งนิ่งไม่ยอมกลับบ้านแล้วยังไม่ตอบอะไรใด ๆ กับผม ผมเองก็ไม่รู้จะทำอะไรกับมันดีเลยได้แต่นั่งอยู่เงียบ ๆกันทั้งคู่“....สวยท้อง”อยู่ ๆพี่ธันก็ทำลายความเงียบ แถมเรื่องที่บอกก็ไม่รู้ว่าผมต้องดีใจหรือเสียใจหรือแค่อยากให้ผมรู้ ผมทำตัวไม่ถูกเหมอนกันนะ“แล้วพี่บอกผมทำไมจะให้ผมดีใจกับพี่หรอที่พี่จะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์เสียทีจริงสิพ่อกับแม่อยากอุ้มหลานมานานแล้วนี่ ดีใจด้วยนะ”“ไม่ใช่ลูกของพี่”“ห๊ะ!!!!พี่หมายความว่าไง ถ้าไม่ใช่ลูกของพี่แล้วจะเป็นลูกใครพูดอย่างนี้ไม่รับผิดชอบนี้หว่า”ถึงผมจะไม่ถูกกับข้าวสวยแต่ยังไงก็เป็นพี่สาวผม พี่ธันจะบอกว่าพี่สวยนอกใจพี่ธันงั้นหรอ เป็นไปได้ยังไงรักผัวหลงผัวขนาดนั้น แม้แต่น้องชายตัวเองยังระแวงเลย“พูดดิพี่ เงียบทำไมละ”“พี่กับสวยไม่ได้มีอะไรกันมานานมากแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องของเรา หลังจากโอ๊ตย้ายออกมาไม่นาน พี่ก็สารภาพเรื่องของโอ๊ต สวยเสียใจแล้วก็ประชดพี่ด้วยการแอบไปเดทกับเพื่อนร่วมงานที่เข้ามาจีบพี่พยายามง้อแล้ว จนที่สุดแล้วสวยก็ท้องกับเพื่อนที่ทำงาน”“แล้วพี่จะเอาไงต่อ”“หมายถึงเรื่องไหนละแต่จะเรื่องไหนพี่ก็ไม่รู้จะต้องทำยังไง พี่ทำผิดกับเราทั้งคู่ ข้าวโอ๊ตพี่ก็ทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยส่วนข้าวสวยพี่ก็ละเลยเขาจนเกิดเรื่อง”พี่ธันเล่าออกมาด้วยใบหน้าที่เศร้าไม่รู้ว่าผมเห็นใจหรือเป็นแค่คนใจอ่อน แต่ดูแล้วผู้ชายคนนี้ก็คงเจออะไรมาหนักอยู่เหมือนกันจากความผิดพลาดครั้งนั้นนั้นทำให้ผมเริ่มเห็นใจเขาขึ้นมาบ้าง เพราะตลอดมาผมเห็นและคิดแค่ในมุมของผมคนเดียวผมละเกลียดตัวเองจริง ๆที่พอถึงเวลาก็ไม่เคยเก่งเหมือนที่ตัวเองหวังไว้“คืนนี้มันดึกแล้วพี่ก็นอนนี่เลยแล้วกัน พรุงนี้วันเสาร์ต้องไปทำงานป่ะ”พี่ธันส่ายหัวแทนคำตอบพร้อมสายตาที่มองออกไปนอกน้าต่างที่เห็นแค่พุ่มไม้มืดๆ ก็นั้นแหละแกคงไม่ได้มองแกแค่คิด “พี่ย้ายรถมาจอดหน้าบ้านผมก่อนแล้วกันวันหลังถ้ามาก็เข้ามาเลยไม่ต้องไปจอดหน้าบ้านคนอื่น เขาจะแจ้งตำรวจจับเอานะ”ผมชวนคุยให้พี่ธันคลายเศร้าบ้างแต่ไม่รู้มันได้ผลไหม เพราะพี่ธันแค่ลุกไปย้ายรถมาจอดที่หน้าบ้านผมตามที่บอกผมให้แกอาบน้ำแล้วให้แกใส่เสื้อผ้าของผม ถึงขนาดตัวจะต่างกันนิดหน่อยแต่ก็พอใส่ได้ ผมปูผ้าห่มให้พี่ธันนอนที่พื้นส่วนผมนอนบนเตียงเราต่างนอนกันไปเงียบ ๆ ผมรู้ว่าพี่ธันก็หลับไม่ลง ผมเองก็เช่นกัน“พี่หลับหรือยัง”“ยัง”ผมทนไม่ไหวเลยทำลายความเงียบนั้นลงเอาวะอย่างน้อยก็ให้เขาเบาใจเรื่องของผมไปก็ยังดีเพราะดูแล้วปัญหาที่พี่ธันเพิ่งเจอก็ดูหนักหนา แถมต้นเรื่องก็มาจากผมด้วยส่วนหนึ่ง“ผมถามจริง ๆ พี่มาเฝ้าดูหน้าบ้านผมทำไม”“ก็แค่เป็นห่วงแต่ไม่รู้จะทำยังไงดีภัทรบอกอาการของโอ๊ตมันต้องใช้เวลาเยียวยา แถมอยู่ ๆก็ย้ายออกมาเลยไปบังคับให้ภัทรมันบอกที่อยู่ พอมาถึงก็ไม่กล้ามาเจอหน้าเพรารู้สึกผิดเลยได้แต่เฝ้ามอง พอโอ๊ตหลับพี่ก็กลับ”“เรื่องผมเอาเป็นว่าผมให้อภัยพี่แล้วนะ ไม่ต้องเป็นห่วงผมแล้ว ผมกลับไปใช้ชีวิตตามปรกติแล้ว สอนหนังสือเด็กมาเป็นเทอมไม่เคยมีอาการสักครั้งเลยผมเก่งไหมละ”“อือ ขอบคุณนะ”หลังจากนั้นก็ไม่มีหัวข้อจะพูดกันอีกเลยได้แต่ข่มตาหลับไปทั้งคู่ คืนนั้นเป็นคืนที่หนาวหน่อยสำหรับเราทั้งคู่ เพราะผ้าห่มของผมได้กลายเป็นผ้าปูที่นอนให้กับอีกคนไปแล้วแต่ภายในใจมันอบอุ่นขึ้นมาเพราะผมได้ละทิ้งความโกรธความเกลียดลงแล้ว พี่ธันกลับบ้านไปในตอนสาย ๆของวันเสาร์ ผมก็กลับมาใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยของผมไป ดูหนังบ้าง เล่นเกมบ้างแต่พอคล้อยบ่ายเท่านั้นแหละ รถของพี่ธันก็กลับมาจอดที่หน้าบ้านผมอีกรอบผมเดินออกไปดูก็เจอพี่ธันลงมาพร้อมรอบบนหน้าที่แดงเถือก“เฮ้ยพี่ไปโดนอะไรมา”เร็วกว่าความคิดผมกระโจนเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงอย่างลืมตัว พี่ธันไม่ตอบเพียงแต่ส่ายหน้ามา “ข้าวสวยโกรธที่เมื่อคืนพี่หายไปเลยไล่พี่ออกมา พักนี้สวยเป็นอะไรไม่รู้ ใช้แต่อารมไม่เคยจะฟังเหตุผลของพี่เลยพี่ไม่รู้จะไปไหนรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่หน้าบ้านโอ๊ตแล้ว”“แล้วพี่จะเอาไงต่อมาเข้าบ้านก่อนพี่”ผมดึงข้อมือพี่ธันเข้ามาในบ้านให้แกได้พักก่อน ไม่รู้ทะเลาะกันหนักไหม แต่ดูจากรอบนิ้วบนหน้าพี่ธันก็คงหนักหน้าดู“รบกวนโอ๊ตอีกแล้วขอโทษนะ เดี่ยวเย็น ๆ พี่ว่าจะกลับไปที่บ้านพี่”“บ้านพี่คนเยอะไม่ใช่หรอแถมห้องเก่าพี่ก็เป็นห้องหลาน ๆ พี่ไปแล้ว”“เดี๋ยวค่อยหาห้องเช่าไปก่อนรอข้าวสวยอารมดีแล้วค่อยกลับไปง้ออีกที”“เอางี้แล้วกันพี่อยู่ที่บ้านผมไปก่อน ถ้ากลับบ้านได้แล้วจะได้ไม่ต้องเสียเงินมัดจำ”“ขอบคุณนะโอ๊ต ขนาดพี่ทำเหี้ยกับโอ๊ตไว้แท้ๆ”“กฎข้อแรกของการอยู่ด้วยกันนะพี่ช่วยเลิกพูดถึงเรื่องนั้นสักที ผมเกือบจะลืมมันไปอยู่แล้วแท้ ๆ”“อือ ขอโทษนะ”ผมให้พี่โอ๊ตเอาข้าวของเข้าบ้านมามันมีไม่กี่อย่างหรอก แค่กระเป๋าเสื้อผ้ากล่องรองเท้าแล้วก็ข้าวของเครื่องใช้อีกกล่องใหญ่ เห็นพี่ธันเล่าว่า กลับไปถึงบ้านของพวกนี้ก็วางอยู่หน้าบ้านแล้ว เมื่อคืนข้าวสวยคงรอพี่ธันกลับบ้านจนโกรธแต่น่าแปลก ที่ไม่เห็นโทรหาพี่แกเลยสักสาย แต่ช่างเถอะไม่ใช่เรื่องของผมขนของเข้าบ้านเสร็จผมก็พาพี่ธันออกมาซื้อฟูกกับผ้าห่ม กับพัดลมเพิ่มอีกตัว วันอาทิตย์พี่ธันก็กลับไปง้อพี่สวยแต่ก็กลับมาหน้าหง่อย พอถึงวันทำงานก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงานพี่ธันก็ไปง้อพี่สวยตอนเลิกงาน แต่ก็ไม่เห็นจะสำเร็จสักทีพอถามก็บอกว่าเข้าบ้านไม่ได้ด้วยซ้ำ แถมห่วงว่าคนท้องแล้วยังต้องอยู่คนเดียวผมคิดว่าคงแพ้ท้องหนักเพราะลูกคนแรก เลยหงุดหงิดใส่พี่ธันเฉย ๆเดี่ยวผ่านช่วงแพ้ท้องไปก็คงใจอ่อนให้พี่ธันกลับไป แต่ก็เปล่า จากอาทิตย์กลายเป็นเดือนจากเดือนกลายเป็นหลายเดือน ผมเห็นพี่ธันที่มักจะกลับมาตอนค่ำ ๆ เพราะไปรอหน้าบ้านแต่ก็ไม่เคยเห็นได้คืนดีกันสักที“เป็นไงบ้างพี่ พี่สวยยอมเจอหรือยัง”“อือ เจอแล้ว”“อ้าวแล้วทำไมทำหน้าเศร้าขนาดนั้น”“สวยขอหย่ากับพี่วันนี้เขาให้พี่เข้าบ้านได้ แต่พอพี่เข้าไปก็เจอคนนั้นคนที่เป็นพ่อของเด็กในท้องเขานั้งรออยู่ในบ้านแล้ว เขาบอกจะรับผิดชอบสวยต่อจากพี่ แล้วขอให้พี่ไปหย่ากับสวย”“เห้ย...แล้วพี่ว่าไงยอมเลิกป่ะ”“คงต้องยอมถึงจะไม่อยากก็เถอะ”พี่ธันพูดไปหน้าตาก็ไหลอาบข้างแก้มช้าๆ พี่แกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำมั้งว่ากำลังร้องไห้อยู่ ผมปล่อยให้แกจมอยู่กับความคิดไปเงียบๆ ด้วยการไปเจียวไข่มาให้มาให้ เสียใจยังไงก็ต้องใช้ชีวิตต่อจะปล่อยให้หิวตายก็ไม่ดี ผมยกข้าวไข่เจียวมาให้พี่ธัน แกเงยขึ้นมามอง“ขอบใจนะแต่พี่ไม่อยากกินอะไรเลย”“เห้ยพี่ กินก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงเสียใจนะ”พี่ธันหัวเราะออกมาเบาๆ กับมุกตลกเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผม พร้อมกับดึงจานข้าว ไปนั่งกินผมนั่งลงมองพี่ธันกินข้าว แค่เห็นก็เบาใจไปได้เปราะหนึ่งแล้ว“เป็นไงพี่ อร่อยป่ะ”“อร่อยดีนะ วันหลังคงต้องทำให้พี่กินบ่อยๆ แล้ว เออจริงสิพี่ลืมไป พรุ่งนี้พี่กับโอ๊ตก็ไม่เกี่ยวข้องกันแล้วคงต้องย้ายออกสินะ”“พี่ไปหย่ากับข้าวสวยแล้วย้ายออกทำไมอยู่ ๆ ไปเถอะ มีพี่อยู่เป็นเพื่อนก็ดีเหมือนกัน”“ที่ว่าเคยชอบพี่นี่ยังชอบอยู่ป่ะ”“ถามทำไมเนี๊ยะก็บอกไปแล้วว่าเรื่องมันนานมากแล้ว เลิกชอบไปนานแล้วเถอะ”“ดี งั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้พี่จะทำให้ข้าวโอ๊ตกลับมาชอบพี่ให้ได้”“เดี๋ยว ๆ moveon เร็วเกินไปหรือเปล่า”“ไม่เร็วหรอก ก็ไม่มีใครห้ามนี่ว่าเสียใจไปด้วยมีคนใหม่ไปด้วยไม่ได้”“พูดบ้าอะไรไม่รู้ ไปนอนละ”ผมหนีมานอน ไม่รู้พี่ธันเข้ามาตอนไหนแต่พอรุ่งเช้าผมก็แยกไปสอนหนังสือ ส่วนพี่ธันวันนี้ลางานเพราะต้องไปเดินเรื่องหย่าให้พี่สวยพอผมกลับมาบ้านตอนเย็นแกก็เตรียมกับข้าวไว้ให้แล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องที่พี่ธันจะจีบผมแกไม่ได้พูดเล่นเพราะแกมักจะหยอดคำหวาน ๆ เสี่ยว ๆ แถมด้วยการกระทำที่เสมอต้นเสมอปลายมันทำให้ผมค่อย ๆ เปิดใจให้พี่เขาช้า ๆ บางทีการมีคนคอยเอาใจใส่ดูแลก็ดีไปอีกแบบ“คืนวันลอยกระทงพี่จองตัวข้าวโอ๊ตไว้เลยนะไปลอยกระทงกัน”“ไม่ได้พี่ทางโรงเรียนมีจัดขบวนผมต้องไปร่วมด้วย”“อ่าวหรอไม่เป็นไรเดี่ยวรอโอ๊ตเดินเสร็จก่อน เราค่อยไปเที่ยวกัน”“เอาแบบนั้นหรอ ได้พี่”“ดีงั้นเดี๋ยวพี่ทำวกระทงเผื่อโอ๊ตด้วยอันนึง”“ไม่เห็นต้องลำบากเลยพี่ผมลอยอันเดียวกับพี่ก็ได้”“ก็ดีเหมือนกันฟิลเหมือนซ้อมเป็นแฟนกันเลย”“เบา ๆ บ้างเถอะหยอดอยู่นั้น”“ก็โอ๊ตไม่ยอมใจอ่อนให้พี่เสียที”“เสียใจเสร็จแล้วหรอมาขอโอ๊ตเป็นแฟนอะ”“อูย....ยังเจ็บอยู่นิดๆ แต่ตอนนี้เริ่มเจ็บอีกแล้ว ข้าวโอ๊ตมาสะกิดแผลเก่าพี่”พี่ธันแกล้งโอดอวยแสร้งว่าเจ็บหน้าอกพร้อมทำท่าประกอบ ผมหมั่นไส้เลยตีแขนไปทีหนึ่ง แมร่งขยันหยอดจริง ๆ ...วันลอยกระทงผมโดนจับให้แต่งชุดไทยเดินถือกระทงกับครูสาวอีกคนคู่กัน เดินตามหลังป้าโรงเรียน ปีนี้คนเยอะกันเสียจริงผมเดิน ๆหยุด ๆ จนถึงสวนสาธารณะที่เป็นจุดสิ้นสุดขบวนถึงได้ขอตัวแยกออกมาจากขวน เพราะกลัวว่าคนรอจะคอยนาน เดินออกมาไม่เท่าไหร่ก็เจอพี่ธันยืนถือข้าวของให้ผมมืออีกข้างก็ถือกระทงอันสวยเอาไว้“รอนานไหมพี่ ป่ะ”“ไม่นาน สนุกดี เมื่อกี้ถ่ายรูปโอ๊ตมาเยอะเลย”“เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนชุดก่อนนะพี่ค่อยมาเดินเล่นกัน”“เปลี่ยนทำไมไม่ต้อเปลี่ยนหรอก ชุดนี้ก็หล่อดีออก”“แต่โอ๊ตอายคนเขา”“ว่าที่แฟนพี่หล่อขนาดนี้ไม่ต้องอายหรอก ป่ะไปเดินเล่นในงานกัน”
ว่าแล้วพี่ธันก็เอากระเป๋าผมไปสะพายแล้วใช้มือข้างที่ว่างมาจับข้อมือแล้วลากผมไปตามทาง สองข้างทางมีร้านรวงมาขายของ ผู้คนก็เยอะแต่ไม่เบียดเสียดกันเท่าไหร่ เสียงเพลงดังจนไม่รู้จะฟังเพลงจากร้านไหนประกอบด้วยไฟที่ตกแต่งหลากสีสัน ทำให้เหมือกลับมาเป็นเด็กอีกครั้งผมกับพี่ธันเดินแวะร้านนั้นร้านนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นร้านของกิน เดินหิ้วถุงเต็มไม้เต็มมือกันมาสุดท้ายก็มาจบที่ท่าน้ำที่เตรียมให้คนมาลอยกระทงผมเดินไปขอจุดเทียนจากร้านขายกระทงแถวนั้น พี่ธันรออยู่ที่ท่าเพราะถือของเต็มไปหมดจุดเทียนเสร็จก็กลับมาหาพี่ธัน แกวางของลงที่นั่งแถว ๆนั้นก่อนจะเดินลงมาลอยกระทงพร้อมผม“สาธุขอให้คนข้าง ๆ ใจอ่อนยอมรับผมเป็นแฟนสักทีด้วยเถิด”พี่ธันแกล้งอธิฐานออกมาให้ผมได้ยินผมอดยิ้มในความทะเล้นนี้ไม่ได้ จากนั้นเราทั้งคู่ก็ประคองให้กระทงลอยน้ำไปยืนมองสักพักพร้อมลุ้นไปด้วยว่าจะจมไหมจนในที่สุดกระทงของเราทั้งคู่ก็ลอยไปจนกลางแม้น้ำจนได้ พี่ธันชวนผมขึ้นจากท่าน้ำเพราลึก ๆ แล้วแกคงกลัวว่าของที่วางไว้จะหาย“ลืมถามแม่คงคาเลยว่าจะได้พรเมื่อไหร่ขี้เกียจรอแล้ว”“....”“เป็นอะไรเงียบทำไมครับ เหนื่อยแล้วหรอ”“เปล่าดูเหมือนแม่คงคาจะพรพี่แล้วอะ”พี่ธันทำหน้างง ๆเพราะที่ผ่านมาแกหยอดผมมาตลอด ผมเบรกแกตลอด แต่รอบนี้ผมว่าคงถึงเวลาเสียที่ที่ผมจะลองคบในสถานะใหม่ให้เราได้เรียนรู้กันและกันมากขึ้น“ก็บอกแล้วไง แม่คงคาให้พรแล้วรีบ ๆ ขอนะเดี๋ยวพรหมดเวลาซะก่อน”“ฮ๊ะ?”อยู่ๆ ก็บื้อขึ้นมาซะงั้นโถ่คนเรา“ช่างมันเถอะ ป่ะ กลับกันโอ๊ตเริ่มหนาวแล้ว”“เดี๋ยว....ตะกี้ข้าวโอ๊ตบอกว่าพี่ได้รับพรแล้ว”“อือ ก็ขออะไรไว้หละ”พี่ธันเหมือนเริ่มเข้าใจแล้วจากรอยยิ้มกว้างจนเห็นเหงือกนั้น ดวงตาสีไสสะท้อนแสงไฟหลากสีเป็นประกายขึ้นมา“งั้น....ข้าวโอ๊ตเป็นแฟนกับพี่นะครับ”“โอ้ยปฏิเสธไม่ได้สงสัยเจ้าแม่ดลใจแน่เลย เป็นก็เป็น”พี่ธันยิ้มกับมุกตลกของผมพร้อมดึงผมเข้าไปกอด จนคนรอบ ๆ มอง ผมนี้อายแทบแรกแผ่นดินนี้ถ้าผู้ปกครองหรือนักเรียนมาเห็นผมแล้วเอาไปล้อในห้องเรียนจะว่าไง ผมลากพี่ธันออกมาจากตรงนั้นมุ่งตรงไปที่พี่ธันบอกว่าจอดรถไว้แล้วพากันหลับบ้าน พี่ธันยิ้มตลอดทางเหมือนคนบ้า ผมกลับมาก็ล้างเครื่องสำอางแล้วอาบน้ำเป็นอย่างแรกพรุ่งนี้ค่อยเอาชุดไปคืนโรงเรียน พอเช็ดหัวให้แห้งเสร็จก็หลับเลย เหมือนปิดสวิตวันนี้เป็นวันที่เหนื่อยจริง ๆ ไม่ใช่เดินเหนื่อยนะครับ แต่รอจนเหนื่อย ไหนจะรอแต่งหน้าแต่งตัว กว่าขบวนจะเคลื่อนอีก หลับไปสักพักก็รู้สึกเหมือนมีคนมากอดจนรู้สึกอึดอัดลืมตาขึ้นมาก็เจอพี่ธันที่เอาแขนกับขามาก่ายผมอยู่“พี่ทำอะไรของพี่เนี๊ยะลงไปนอนที่ตัวเองได้แล้ว วันนี้ผมง่วงอยากนอนแล้ว”“ไม่ลงไปหรอกวันนี้จะนอนกับแฟน”“งั้นก็นอนดี ๆดิผมอึดอัด”“โถข้าวโอ๊ตวันนี้วันลอยกระทงนะ เค้าบอกว่าวันนี้เป็นวันเสียตัว เรามาเป็นหนึ่งในนั้นกันเถอะ”“ผมเสียตัวให้พี่ไปตั้งนานแล้วลืมหรือไง”“ครั้งนั้นไม่นับ”พี่ธันไม่รอให้ผมต่อล้อต่อเถียงปีนขึ้นมาคร่อมผมไว้ จับมือผมไปจูบ ผมมองการกระทำของพี่ธันพี่ธันเองก็มองตามกลับมาสายตานั้นที่เห็นผ่านแสงจันทร์ที่ลอดผ่านเข้ามาจนมันสลัวดึงดูดผมเป็นอย่างมากพี่ธันก้มลงมาช้า ๆ จนหน้าเราชิดกัน ปากผมเผย่อรับปากพี่ธันที่ค่อย ๆ ประกบลงมาเราจูบกันช้า ๆ เบา ๆ ไม่รุกล้ำ ดูดดื่ม ค่อย ๆ ซึมซับความหวานของรสจูบเบา ๆมือผมเริ่มโอบกอดตัวพี่ธันที่อยู่ด้านบน พี่ธันเองก็เลื้อยมือเข้ามาใต้เสื้อผ้าของผมบีบคลึงไปตามลำตัวราวกับจะเค้นหาก้อนไขมันที่หน้าอกเหมือของผู้หญิงแต่ผมไม่มีสิ่งนั้นให้หรอกนะ ผมเปลี่ยนจากการกอดรัดเอามือมาประคองใบหน้าของพี่ธันเอาไว้ค่อยๆเปิดปาก ให้พี่ธันได้ใช้ลิ้นเข้ามาแลกเปลี่ยนเอ็นไซม์ที่ประติเราใช้ย่อยแป้งแต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นสารหล่อลื่นระหว่างลิ้นร้อน ๆ ของเราทั้งคู่ มือของผมกับพี่ธันทำหน้าที่ผลัดเปลื้องเสื้อผ้าให้กันและกันพี่ธันจูบไล้ซอกขอของผม ไรหนวดนั้นตำไปทั่วทุกที่ที่สำรวจ ที่น่าแปลกคือผมกลับรู้สึกดีกับความรู้สึกเจ็บจิ๊ดๆ นั้น จนในที่สุดผมกับพี่ธันก็มาอยู่ในร่างที่เปลือยเปล่าทั้งคู่ เจ้าธันน้อยแข็งชูชนวนๆ อยู่ท่าหน้าขาของมจนรู้สึกได้ ผมยกคอมาดูพี่ธันที่จูบซับไล่ลงมาที่หน้าท้องของผมจนรู้สึกจั๊กจี้พี่ธันเอามือจับรูดควยหกนิ้วกว่าของผมจนแข็งคามือแก ก่อนที่แกจะค่อยๆอมควยผมเข้าไปแค่เข้าไปครั้งแรก แกก็เอาเข้าไปเกือบมิดลำ แต่ก็ต้องสำรอกออกมาเพราะความอมไม่เป็นของแกพี่ธันไวเพราะควยผมไปโดนลิ้นไก่ ผมยิ้มให้กับความเด๋อนั้น แกจับควยผมตั้งแล้วค่อยๆ อมให้อีกครั้ง รอบนี้ไม่ทำเหมือนครั้งแรก แต่ค่อย ๆ อมตรงส่วนหัว ลิ้นของแกเลียและดูดหัวควยของผมสลับกันไปไม่รู้ว่าแกรู้สึกยังไง รู้แต่ผมเสียวมากเพราะไม่เคยมีใครทำให้เพราะนี้ก็เป็นครั้งแรกของผมถ้าไม่นับที่โดนข่มขืนครั้งนั้นผมเอามือมายกหน้าพี่ธันออกจากควยผมเพราะขืนให้แกทำต่อไปผมคงปลดปล่อยออกมาก่อน แน่ๆ พี่ธันไม่ถามอะไร แต่จับขาผมแยกออกแล้วให้ชันเข่าก่อนที่แกจะลงไปแล้วก็เลียช่องทางด้านหลังให้ผม มันเป็นความรู้สึกประหลาดใจว่าแกคงรักผมเอามากๆ ถึงได้ยอมเลียในส่วนที่ไม่สมควรเลียเลยสักนิด มันเปียกชุ่ม ความรู้สึกเสียวโลดแล่นเข้ามาความรู้สึกการถูกรุกล้ำจากปลายลิ้นที่ค่อย ๆ ชอนเข้ามาที่รูมันบอกไม่ถูก แต่ไม่นานจากลิ้นก็เปลี่ยนเป็นนิ้วมือพร้อมความรู้สึกแสบเข้ามาแทนที่ พี่ธันคงใส่นิ้วเข้ามาแล้วเพราะพี่ธันเงยหน้ามามองปฏิกริยาของผม เราสบตากันในมุมที่ไม่สวยเลยสักนิดนิ้วพี่ธันแช่นิ่งค้างรูผม ผมพยักหน้าน้อยๆ พี่ธันถึงได้ชักเข้าออกช้า ๆพอผมเริ่มปรับตัวได้กับนิ้วชี้นั้น แกก็ใส่นิ้วกลางเข้ามาเพิ่มความเจ็บแสบค่อยๆเริ่มมีความรู้สึกอื่นเข้ามาปะปน มันเป็นความเสียวแบบที่บรรยายไม่ได้รู้แต่สมองผมตอนนี้มันขาวโพลน ไม่อยากหาเหตุผลใช้ความรู้สึกนำให้เราทั้งคู่พี่ธันเอามือข้างที่ว่างอยู่มาจับควยผมชักไปด้วย นั้นยิ่งทำให้ผมยิ่งเสียวจนคุมตัวเองไม่ได้และก็ต้องปลดปล่อยน้ำรักออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้“อะ...พี่ธัน..ผม...อื้อ”ผมน้ำแตกคามือพี่ธันที่จับควยผมอยู่ของเหลวหนืดสีขาวขุ่นไหลรดไปตามนิ้วมือ พี่ธันยกมันมาดมก่อนที่จะเอาลิ้นมาแตะชิมจากนั้นก็เอาที่เหลือมาป้ายที่รูของผมแล้วค่อย ๆดึงนิ้วออก“พี่ขอเข้าไปในตัวโอ๊ตนะครับ”“อือ...”พี่ธันป้ายน้ำรักเสร็จก็เอาตัวมาทาบทับผมไว้ช่องทางด้านหลังของผมรับรู้ถึงหัวรบที่กำลังจะทำงานมาจ่อที่ปากทาง ยิ่งการขออนุญาตจากผมเป็นการตอกย้ำสถานะว่าเรากำลังจะเป็นของกันและกันพี่ธันค่อย ๆ ดันควยเข้ามาช้า ๆ มันให้ความรู้สึกไม่เหมือนนิ้วเลยสุกนิดเพราะอาวุธของพี่ธันมีขนาดใหญ่กว่านิ้ว แต่สายตาพี่ธัรที่จ้องมองผมอยู่ตลอดการสอดใส่มันช่วยปลอบประโลมให้ผมค่อย ๆ หายใจช้า ๆ ลดการเกร็งที่รูตูดจนในที่สุดควยพี่ธันก็เข้ามาจนหมด เรามองตากันราวกับว่าใครละสายตาก่อนคนนั้นคือคนแพ้พี่ธันก้มมาจูบผม ก่อนจะโยกตัวเข้าออกช้า ๆ “อือ พี่...อื้อ”“ทนหน่อยนะครับคนดีของพี่”พี่ธันเริ่มเร่งจังหวะการเด้านั้นผมถ่างขาออกให้พี่ธันขยับได้สะดวกตามสัญชาตญาณ ตอนนี้เราเชื่อต่อกันทั้งร่างกายและความรู้สึกพี่ธันจับขาผมยกขึ้น พร้อมกับยกตัวไปนั่ง แล้วโยกเย็ดผม ท่านี้ทำให้เห็นหน้าท้องท่ามัดกล้ามจากแสงที่ลอดผ่านเข้ามาในห้องพี่ธันก็อารมพุ่งพล่านถึงขีดสุด ไม่รู้การร่วมเพศของเราใช้เวลาไปนานเท่าใดแต่มันไม่สำคัญเลยสักนิด เพราะในที่สุดพี่ธันก็เอาขาผมทั้งสองข้างพาดบ่า ทำให้ก้นผมยกขึ้นแล้วก็ซอยได้ถนัดยิ่งขึ้นจนในที่สุดน้ำรักของแกก็ไหลทะลักเข้ามาในร่างกายของผมพี่ธันล้มมาทับผมเต็มตัวราวกับคนหมดแรง แต่เปล่าแกกลับมากอดรัดผมแน่นจะหายใจแทบไม่ออก พร้อมเด้าส่งให้ลูก ๆ ที่ไม่มีทางได้ปฏิสนธิของแกเข้ามาในร่างของผมให้ลึกที่สุดเราทั้งคู่นอนหอบหายใจจากกิจกรรมที่ทำร่วมกันไปเมื่อกี้ไม่มีการพูดคุยใด ๆ ช่องทางด้านหลังของผมรู้สึกเจ็บขัด ๆ นิด ๆเพราะการเชื่อมต่อของเราเมื่อกี้ พอพี่ธันดึงส่วนนั้นออกตูดผมก็พยายามสมานตัวเองให้กลับมาสู่สภาพเดิมแต่ดูเหมือนว่าการฟื้นสภาพจะถูกขัดขวางจากการที่จู่ ๆพี่ธันก็จับตัวผมขึ้นมานั่งทับหน้าท้องของแก พร้อมกับที่แกเอาตัวมานั่งพิงหัวเตียงไว้“พี่จะทำอะไร”“รอบเดียวไม่พอหรอกพี่อยากให้โอ๊ตทำให้พี่ด้วย”“เอาสิ จะเอาคืนให้สาสมเลย”“พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นโอ๊ตต้องทำแบบนี้ต่างหาก”พี่ธันจับตัวผมยกขึ้นแล้วเอาควยมาจ่อตูดผมแล้วกดให้ควยเข้ามา อื้อ แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าแกต้องการอะไร “จุกอะ มันเข้าลึก”“นั่งให้พี่หน่อยนะครับคนดีพี่อยากให้โอ๊ตทำให้”ผมพยักหน้ารับก่อนที่จะโยกตัวเองขึ้นลง ๆ แขนก็คล้องคอพี่ธันที่ตอนนี้เอามือมาจับบั้นท้ายของผมแล้วยกขึ้นลงตามจังหวะของผมผมนั่งเทียนให้แกอยู่นานในที่สุดแกก็เปลี่ยนท่าให้ผมมานอนคว่ำแล้วแกมาทาบทับที่ด้านหลังแล้วเด้าเย็ดมือพี่ธันกุมมือผมไว้ พร้อมกับการซุกไซร้ที่หลังคอจนในที่สุดน้ำสองของเราก็หลังออกมาพร้อมกัน แต่อย่าได้คิดว่าค่ำคืนนี้จะจบลงง่าย ๆนะครับ เพราะพี่ธันจับผมสำเร็จอารมใคร่ของแก ไปจนถึงสี่รอบจนในที่สุดเราก็มาหยุดที่การให้ผมนอนซุกอกโดยมีแขนของพี่ธันเป็นหมอนเราทั้งคู่หลับไปเพราะความเพลีย โดยแต่หวังว่าวันพรุ่งนี้และวันต่อ ๆไปของเราจะเป็นวันที่ดีของเราทั้งคู่จบ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณนะ สนุกมาก Happy ending คิดว่าพี่สวยไม่จบแค่นี้ สนุกดีครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ อูยยยย
วันก่อนยังคิดถึงอยู่เลย หายไปนานจนลืมไปเลยว่า
พี่ธันมีอาชีพอะไร 555
จบอย่างสวยงาม แต่ถ้าจะยังไม่จบก็อย่าดราม่ากับ
พี่สาวนะ เครียด คริๆๆ
ฉากรัก หวานดีครับ ซึ้ง
ปูเสื่อคอย ss4
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกมาก ตอนนี้ครอนข้างดราม่า
แต่จบดีนะครับ ขอบคุณครับ สมุดมาก คือบรรยายช่วงความสัมพันธ์ได้ดีมากเลยอะ เก่งงงชอบบบบบ ดีใจด้วยครับจบลงด้วยดี สนุกมากเลยครับ สุขสมหวัง อยากให้มีต่อจังครับ ขอบคุณครับ