ทัณฑ์บริสุทธิ์ ตอน จุดจบของชมรมว่ายน้ำ ภาคปฐมบท
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jokecup เมื่อ 2022-3-8 22:52รีรันนิยายเก่าที่เคยแต่งไว้นานแล้วอีกเรื่อง เอามาปรับเนื้อหาใหม่นิดนึงเรื่องนี้แต่งไว้ก่อนและเป็นโครงร่างแรกของ วงเวียนกาม ชื่อตัวละตอนแรกก็ชื่อ พลวิทย์ กับ สุนัย เหมือนในวงเวียนกามแต่พอเอามาลงใหม่ขอเปลี่ยนชื่อใหม่จะได้ไม่สับสนกันครับชอบไม่ชอบอย่างไรติชมกันได้ครับ
static/image/hrline/line8.png
ทัณฑ์บริสุทธิ์ ตอน จุดจบของชมรมว่ายน้ำ
ปฐมบท
1 อาจารย์พีรวิทย์
พีรวิทย์อาจารย์หนุ่มหล่อ ที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงในวัย 33 ปีส่วนหนึ่งเพราะอาชีพครูพละที่ทำให้เขาต้องออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอทำให้เขามีรูปร่างที่ดูดีกว่าชายหนุ่มวัยเดียวกันทั่วไป แม้เครื่องแบบประจำตัวชุดพละก็ไม่อาจบดบังกล้ามแกร่งทั้งบริเวณอก แขน หน้าท้อง หรือต้นขาได้ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงบั้นท้ายงอนงามที่เบียดตัวนูนจนเห็นเป็นรูปร่าง และกระเปาะเบื้องหน้าที่แลเห็นเป็นรูปทรงดึงดูดสายตาผู้พบเห็น
ชายหนุ่มเพิ่งเดินออกจากห้องอาจารย์ใหญ่หลังจากที่ถูกเรียกเกูพบเพื่อแจ้งให้ทราบถึงข่าวดีว่าเขาได้รับเลือกจากบอร์ดบริหารของโรงเรียนให้รับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพลศึกษาของโรงเรียน แทนอาจารย์ปริญญาหัวหน้าคนเก่าที่เพิ่งลาออกไป
พีรวิทย์เข้ามาเป็นอาจารย์พละที่โรงเรียนแห่งนี้ได้สิบปีแล้วหลังเรียนจบจากวิทยาลัยครูแห่งหนึ่ง วินัยเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันได้ชวนให้เขามาทำงานที่โรงเรียนแห่งนี้เพราะเห็นว่าที่นี่น่าจะเหมาะกับเขามากกว่าโรงเรียนเดิมที่สอนอยู่เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่ไม่ได้เน้นแค่วิชาการเพียงอย่างเดียวแต่ยังสนับสนุนให้เด็กทำกิจกรรมหลากหลายด้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกีฬา วินัยจึงคิดว่าพีรวิทย์น่าจะได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาให้เกิดประโยชน์สูงสุดที่โรงเรียนแห่งนี้
แรกทีเดียวพีรวิทย์พยายามปฏิเสธตำแหน่งนี้เนื่องจากเขารู้ดีว่าวินัยเพื่อนรักของเขาเองก็คาดหวังกับตำแหน่งนี้เหมือนกันและส่วนตัวเขาเองก็คิดว่าวินัยเหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่งนี้มากกว่าเขา เนื่องจากอายุงานที่มากกว่าแต่เมื่ออาจารย์ใหญ่ได้ชี้แจงถึงเหตุผล ที่ชมรมว่ายน้ำซึ่งมีเขาเป็นผู้ดูแลอยู่มีผลงานดีเด่นเป็นที่น่าพอใจขึ้นเรื่อยๆ ต่างจากชมรมฟุตบอลที่วินัยดูแลซึ่งมีผลงานที่ย่ำแย่และตกต่ำลงเรื่อยๆ ชายหนุ่มจึงไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรเพื่อแย้งกับมติของบอร์ดบริหารได้แม้ลึกๆ เขาจะหวั่นใจว่าเพื่อนรักอาจไม่พอใจและส่งผลต่อมิตรภาพอันยาวนานของพวกเขาทั้งคู่
ชายหนุ่มเดินมาจนถึงอาคารฝ่ายพลศึกษาเข้าไปยังห้องพักอาจารย์ เขาเห็นวินัยกำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะประจำตัว พอรู้ว่าเขาเดินเข้ามาเพื่อนสนิทก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มทักทาย
“เป็นไงมั่งวะ อาจารย์ใหญ่เรียกให้เข้าพบเรื่องอะไร”
พีรวิทย์ยิ้มตอบเพื่อนได้ไม่เต็มที่นักเพราะยังรู้สึกหวั่นใจอยู่
“เอ่อ...เรื่องหัวหน้าฝ่ายน่ะ อาจารย์ใหญ่บอกว่าบอร์ดบริหารแต่งตั้งให้กูเป็นหัวหน้าฝ่ายคนใหม่”
วินาทีนั้นทุกอย่างดูเงียบกริบไปพักหนึ่งก่อนที่วินัยจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงมาหาเขา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มยกมือขึ้นจับมือเขาเพื่อแสดงความยินดี
“ไอ้วิทย์ มึงน่ะเหมาะสมที่สุด บอร์ดบริหารเขามองไม่พลาดหรอก กูยินดีกับมึงด้วย”
“มึงไม่เสียใจเหรอวะ จริงๆ แล้วกูว่ามึงน่าจะเหมาะสมมากกว่า แต่เมื่อมันเป็นมติบอร์ดก็ไม่รู้จะขัดได้ยังไง”
วินัยยังยิ้มแย้มเช่นเดิม “มึงอย่าห่วง ไม่เป็นเรื่องเลย ไม่ใช่ความผิดของมึงสักหน่อยในเมื่อมันเป็นมติของบอร์ด ขอให้มึงเต็มที่กับตำแหน่งใหม่ กูจะคอยเป็นกองหนุนให้เอง”
พีรวิทย์เริ่มรู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนสนิท
“ขอบใจมึงมาก ไม่ผิดหวังเลยที่เราเป็นเพื่อนกันมานาน”
“เออ อย่าเกรงใจเลย เอาอย่างนี้ดีกว่า วันศุกร์นี้ชมรมฟุตบอลของกูจะจัดเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่ให้กับมึงห้ามปฏิเสธเด็ดขาดนะเว้ย”
พีรวิทย์ยิ้มรับไม่ปฏิเสธน้ำใจของเพื่อน เขาไม่ได้รู้สึกเอะใจเลยว่า ตำแหน่งใหม่ที่เพิ่งได้รับจะนำพาสิ่งเลวร้ายมาให้และทำให้ความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างเขากับเพื่อนสนิทมาถึงจุดสิ้นสุด
2. อาจารย์วินัย
วินัย อาจารย์หนุ่มวัย 33 ปีเขามีรูปร่างที่ล่ำสัน บึกบึน สูงใหญ่ ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามแทบทุกสัดส่วน ซึ่งเป็นผลจากความใส่ใจในการดูแลรักษารูปร่างหมั่นออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ และด้วยรูปร่างที่ล่ำสันสูงใหญ่ทำให้นักเรียนต่างรู้สึกเกรงกลัวเขามากกว่าครูคนอื่นๆ แม้กับเพื่อนครูด้วยกันเองก็ไม่ค่อยมีใครอยากสนิทกับเขามากนักเพราะความเป็นคนยิ้มยากและพูดน้อยของเขานั่นเอง
เขามาเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ช่วงฝึกสอนเมื่อโรงเรียนเห็นผลงานที่เขาไปมีส่วนช่วยให้ทีมฟุตบอลของโรงเรียนชนะการแข่งขันระดับภาคได้จึงบรรจุให้เขาเป็นอาจารย์ประจำทันทีที่เรียนจบ แล้วเข้ามาเป็นโค้ชประจำทีมฟุตบอลเรื่อยมาจนทุกวันนี้
แรกที่เข้ามาทีมฟุตบอลของโรงเรียนมีผลงานที่โดดเด่นอยู่แล้วเนื่องจากมีคนที่เก่งและตั้งใจอยู่หลายคน เมื่อมารวมกับเทคนิคที่เขาสอนยิ่งทำให้ทีมแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจนสองปีต่อมาสามารถฟันฝ่าไปจนถึงตำแหน่งแชมป์ระดับประเทศ และรักษาตำแหน่งอยู่ได้หลายปีจนเมื่อถึงเวลาไม้ผลัดใบ นักกีฬาเด่นๆ ในทีมเรียนจบออกไป และเขาไม่สามารถพัฒนานักกีฬาหน้าใหม่ๆมาทดแทนได้ทัน ทำให้มาตรฐานของทีมเริ่มลดลงเรื่อยๆ และสุดท้ายกลายเป็นทีมระดับรองซึ่งส่งผลต่อความนับหน้าถือตาของเขาภายในโรงเรียนที่ลดลงไปเรื่อยๆ เช่นกัน
หลังจากที่เขามาสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ได้สักพักตำแหน่งอาจารย์พละได้ว่างลงจากการลาออกของอาจารย์เก่า เขาจึงเสนอชื่อพีรวิทย์กับอาจารย์ใหญ่เนื่องจากเห็นว่าเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันมีทักษะด้านกีฬาน่าจะมาช่วยพัฒนาด้านกีฬาของโรงเรียนได้อีกแรง ซึ่งเมื่ออาจารย์ใหญ่ได้คุยกับพีรวิทย์ก็ได้เห็นแววของเขาและบรรจุให้เขาเข้ามาทำงานที่นี่ตามที่วินัยต้องการ
พีรวิทย์ได้รับมอบหมายให้เป็นโค้ชของทีมว่ายน้ำด้วยซึ่งช่วงแรกผลงานของชมรมไม่สู้ดีนัก แต่ช่วงสี่ถึงห้าปีที่ผ่านมานี้ พีรวิทย์สามารถพัฒนาและยกระดับชมรมว่ายน้ำของเขาขึ้นมาจนสามารถผลิตนักกีฬาไปเป็นแชมป์ระดับประเทศแล้วยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นทีมชาติยิ่งเพิ่มความโดดเด่นให้ชมรมว่ายน้ำมากยิ่งขึ้น ซึ่งสวนทางกับชมรมฟุตบอลของวินัยโดยสิ้นเชิง
และเพราะผลจากความโดดเด่นนี้เองที่ทำให้วันนี้วินัยได้รับทราบข่าวร้ายที่สุดตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานที่นี่ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพลศึกษาที่เขาตั้งมั่นว่าจะต้องเป็นของเขาเพราะลำดับความอาวุโสของการทำงาน กลายเป็นว่าถูกเพื่อนสนิทที่เขาเป็นคนชักชวนให้เข้ามาทำงานชิงตัดหน้าไป มันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่เป็นตัวทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนให้ขาดสะบั้นลงไปจนไม่มีทางเหมือนเดิม
3. ความหลังครั้งเก่า
“เอ่อ...เรื่องหัวหน้าฝ่ายน่ะ อาจารย์ใหญ่บอกว่าบอร์ดบริหารแต่งตั้งให้กูเป็นหัวหน้าฝ่ายคนใหม่”
วินัยเหมือนโดนสะกดไปชั่วขณะทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นหลุดออกจากปากพีรวิทย์เขาเหมือนโดนไม้หน้าสามตีแสกหน้าเข้าอย่างจัง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่อาจแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาได้จึงต้องแสร้งแสดงความยินดีต่อข่าวดีของเพื่อนสนิท
ตั้งแต่ที่เขาคบกับพีรวิทย์มานี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ จากครั้งแรกที่เขาคบเป็นเพื่อนกับพีรวิทย์ด้วยความจริงใจมาตลอดแต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้เพื่อนเปลี่ยนแปลงและมัวหมองไป
เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดตอนที่ทั้งคู่ยังเรียนวิทยาลัยครูด้วยกันช่วงนั้นพีรวิทย์เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ มากกว่าเขา เพราะผิวพรรณที่ขาวสะอาดและรูปร่างหน้าตาที่ดูดีหล่อเหลา ผิดกับเขาที่ผิวดูคล้ำกร้านมากกว่า แม้เขาจะรู้สึกน้อยใจและเคยอิจฉาเพื่อนบ้างแต่ก็เป็นความรู้สึกเพียงเล็กน้อย จนเมื่อชลดาเข้ามาในชีวิตทั้งคู่เธอเรียนที่เดียวกับพวกเขา เขารู้จักเธอผ่านเพื่อนคนหนึ่งที่เรียนด้วยกันแม้เขาจะพยายามจีบชลดาอย่างไรก็ไม่เป็นผล จนเมื่อบังเอิญเขาพาพีรวิทย์ไปเจอเธอนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่รักกัน
พีรวิทย์ไม่รู้หรอกว่าทุกครั้งเขาต้องจำใจชวนมันไปเที่ยวด้วยเพื่อเป็นตัวล่อให้ชลดาออกมาพบเขาแต่นั่นยิ่งเป็นการกระทำที่ผิด เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้สองคนนั้นได้ทำความรู้จักกันมากยิ่งขึ้นแล้วหลังจากนั้นวินัยก็คือส่วนเกินของความสัมพันธ์นี้ เขาเจ็บปวดเจ็บใจที่โดนเพื่อนรักหักหลัง ไม่นานพวกเขาก็แยกย้ายไปฝึกสอน วินัยมาฝึกสอนที่โรงเรียนชายล้วนแห่งนี้ที่ต้องการครูที่มีความสามารถด้านการกีฬาอย่างแท้จริง เขาคิดว่าจะลืมความเจ็บช้ำครั้งนั้นไปแล้วมาเริ่มชีวิตใหม่ที่นี่
จนเมื่อรู้ว่าทางโรงเรียนต้องการอาจารย์พละคนใหม่เขาจึงรีบเสนอชื่อเพื่อนรักของเขาให้มารับงานนี้ ซึ่งใครๆ ก็คิดว่าเพราะความปรารถนาดีเพื่อช่วยเพื่อนแต่ความจริงที่มีมากกว่านั้นซึ่งไม่มีใครรู้ก็คือ เขาต้องการดึงพีรวิทย์ให้ห่างจากชลดาและหวังว่าความห่างไกลนั้นจะทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จืดจางลงซึ่งก็ได้ผลตามที่เขาคิดเอาไว้ เพราะหลังจากนั้นไม่นานนัก ด้วยภาระหน้าที่ๆ ได้รับมอบหมายทำให้พีรวิทย์ไม่มีเวลาที่จะเดินทางไปหาแฟนสาวในช่วงวันหยุดจนที่สุดทุกอย่างก็จบลงไป วินัยจำได้ว่าเขาเองที่เป็นคนปลอบใจพีรวิทย์ ในคืนที่พีรวิทย์ชวนเขาไปดื่มเหล้าเคล้าน้ำตาซึ่งพีรวิทย์คงไม่ได้เห็นรอยยิ้มอย่างผู้ชนะที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากของเพื่อนผู้แสนดีอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นวินัยคิดว่าเขาจะกลับมาเป็นเพื่อนสนิทกับพีรวิทย์ได้ใหม่โดยไม่มีอะไรให้ตะขิดตะขวงใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็ทำให้เขาได้รู้ว่า แก้วที่เคยร้าวบัดนี้มันได้กลายเป็นเศษแก้วที่ไม่มีวันประสานได้ดังเดิมอีกต่อไป
4. ไกรภพ
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้วินัยได้สติจากความคิดที่กำลังเตลิดไปไกลเขาออกปากอนุญาตให้ผู้เคาะประตูเข้ามาในห้องได้ ผู้ที่เปิดประตูเข้ามาเป็นเด็กหนุ่มร่างกายสูงใหญ่แต่งกายด้วยเครื่องแบบนักเรียน วินัยพยักหน้าแทนคำอนุญาตให้นั่ง เด็กหนุ่มจึงนั่งลงที่เก้าอี้เบื้องหน้าอาจารย์ของเขา
“มึงได้ข่าวเรื่องหัวหน้าอาจารย์ฝ่ายพละคนใหม่แล้วใช้ไหมวะ”
ทั้งภาษาและสรรพนามที่เรียกใช้บ่งบอกถึงความสนิทสนมของทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างดี
“ครับ” เด็กหนุ่มตอบรับสั้นๆ ตามนิสัยของเขา
“กูเลยเสนออาจารย์พีรวิทย์ไปว่าวันศุกร์นี้ชมรมฟุตบอลของเราจะจัดงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่ให้เขา กูก็เลยจะให้มึงช่วยจัดเตรียมงานนี้ให้กูหน่อย”
“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”
อาจารย์วินัยยิ้มน้อยๆพร้อมฉายประกายความเจ้าเล่ห์ผ่านดวงตา
“แล้วอีกอย่างที่รู้กันเฉพาะมึงกับกู ของสำคัญที่กูเคยขอไว้ ขอจากพ่อมึงมาให้กูด้วย”
เด็กหนุ่มเบื้องหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์เป็นการตอบรับคำแล้วจึงลุกจากเก้าอี้ไป
วินัยขยับกายเอามือรองศีรษะแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ย้อนนึกถึงเด็กหนุ่มที่เพิ่งก้าวออกจากห้องไป
ไกรภพเป็นลูกชายของผู้มีอิทธิพลของเมืองนี้ด้วยระดับผลการเรียนและความสามารถด้านอื่นๆคงไม่ทำให้เขาโดดเด่นขึ้นมาในโรงเรียนแห่งนี้ได้ถ้าไม่ใช้บารมีและเงินทองของผู้เป็นพ่อเข้าช่วย แม้จะขึ้นชื่อเรื่องความอื้อฉาวด้านพฤติกรรมแต่ดูเหมือนอิทธิพลที่แผ่ขยาย และเงินจำนวนมากสามารถปิดเรื่องอื้อฉาวสารพัดให้เงียบกริบได้เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นดูเหมือนไกรภพเองก็จะเจริญรอยตามพ่อของเขาทุกกระเบียดแต่ทุกคนก็กลัวเกรงบารมีของพ่อเขาจนไม่อาจจัดการอะไรได้
วินัยก็เช่นเดียวกันเขารู้ทั้งรู้ว่าเพราะไกรภพทำให้ชมรมฟุตบอลของเขาตกต่ำลงเรื่อยๆ แต่นอกจากจะไม่สามารถปลดออกจากสมาชิกทีมได้แล้วยังต้องมอบตำแหน่งกัปตันทีมให้ไกรภพควบคุมทีมอีกด้วย สมาชิกคนอื่นๆ ก็ดูจะไม่เดือดร้อนเพราะนอกจากจะได้รับการเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีแล้ว พวกมันยังสามารถใช้ชื่อของไกรภพเพื่อการทำตัวกร่างในโรงเรียนได้อีกด้วยและนั่นเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ไม่ค่อยมีเด็กเก่งๆ หรือคนที่ที่สนใจมาขอสมัครเป็นสมาชิกชมรมจนกลายเป็นยุคมืดของชมรมฟุตบอลของโรงเรียนอย่างที่เห็น
วินัยเองบางครั้งก็ต้องอาศัยพึ่งพาบารมีของพ่อไกรภพเขาจึงไม่อาจใช้อำนาจที่ตนเองมี จัดการอะไรกับไกรภพได้ ยิ่งนานวันเข้าไกรภพยิ่งเปรียบเสมือนแขนขาที่ช่วยเหลือและดลบันดาลสิ่งที่เขาต้องการได้สุดท้ายเขาจึงยอมรับโดยดุษฎีในสิ่งที่ชมรมของเขาเป็น
ก่อนหน้านี้เขาเคยคุยกับไกรภพเอาไว้บ้างแล้วเพราะเริ่มแน่ใจว่าตำแหน่งที่เขาใฝ่ฝันไว้อาจจะไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการ เพราะดูเหมือนว่าคณะกรรมการบอร์ดจะรับรู้ถึงอิทธิพลของพ่อไกรภพที่แผ่บารมีไปทั่วโรงเรียนและตัวเขาเองที่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในพวกของพ่อไกรภพ จึงถูกกันไม่ให้มีอำนาจมากไปกว่านี้จึงดันให้พีรวิทย์ขึ้นมาแทนที่เขา โดยเอาเรื่องผลงานของชมรมมาเป็นข้ออ้าง
และเมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้เขาจึงต้องหาทางเพื่อระบายความรู้สึกคลั่งแค้นที่มีในจิตใจออกไปบ้างและเมื่อไม่สามารถระบายแค้นกับเหล่ากรรมการบอร์ดบริหารโรงเรียนได้เหยื่อของการระบายแค้นของเขาจึงต้องมาลงที่พีรวิทย์ เพื่อนสนิทที่มีบัญชีแค้นที่รอการสะสางนั่นเอง
5. ชมรมว่ายน้ำ
พีรวิทย์รู้สึกได้ถึงความเงียบผิดปกติตอนที่เขาเดินเข้าชมรมว่ายน้ำตั้งแต่ที่สระด้านนอกที่ไม่มีสมาชิกชมรมคนใดอยู่ที่นั่นเลยแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเอะใจอะไร จนกระทั่งเมื่อมาถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของสมาชิกชมรมเขาจึงต้องตกใจกับเซอร์ไพร้ซ์ปาร์ตี้ของเด็กๆ ในชมรมที่ทำให้เขา
“ยินดีด้วยครับอาจารย์” บรรดาเด็กๆ ในชมรมต่างรุมล้อมร่วมแสดงความยินดีกับเขา
“ขอบใจ ขอบใจพวกเธอทุกคนมาก แต่นี่ไม่ใช้ข้ออ้างที่พวกเธอจะโดดซ้อมนะ”
“แหม อาจารย์ครับ เรื่องซ้อมเรื่องเล็ก ขอให้พวกเราร่วมยินดีกับอาจารย์ก่อนนะครับอาจารย์ไม่ต้องกลัวพวกเราจะโดดซ้อมหรอกครับ เห็นไหมครับว่าเราเตรียมพร้อมกันแล้ว”
เด็กหนุ่มหน้าตาดีที่ดูจะเป็นผู้นำกลุ่มกล่าวกับอาจารย์ให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะงดซ้อม เพราะเตรียมพร้อมในชุดว่ายน้ำกันแล้วทุกคนแล้วทุกคนจึงกรูกันวิ่งออกไปที่สระเพื่อเริ่มการซ้อมในวันนี้
พีรวิทย์เข้ามาดูแลชมรมนี้ได้สิบปีแล้วหลังจากที่อาจารย์ผู้ดูแลชมรมคนเก่าลาออกไป เขาซึ่งเข้ามาเป็นอาจารย์ช่วงนั้นจึงต้องรับหน้าที่ดูแลทีมเรื่อยมาจากครั้งแรกที่ทีมยังไม่แข็งแกร่งนัก เขาค่อยๆ ฝึกฝนสมาชิกในทีมขึ้นมาเรื่อยๆ จนสามารถสร้างนักกีฬาที่มีผลงานโดดเด่นได้ปีละคนสองคนจนตอนนี้ชื่อเสียงของชมรมว่ายน้ำของโรงเรียนแห่งนี้ เป็นที่รับรู้ไปทั่วและมีสมาชิกชมรมที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมทีมชาติด้วย
ในรุ่นล่าสุดนี้ดูเหมือนอาทิตย์จะเป็นสมาชิกของชมรมที่โดดเด่นที่สุดเขาเป็นผู้ชนะในการว่ายน้ำระดับเยาวชนของภาค และกำลังเตรียมตัวฝึกซ้อมเพื่อลงแข่งขันในระดับประเทศในอีกสามเดือนข้างหน้านี้พีรวิทย์คิดว่าโอกาสในการได้เป็นตัวแทนทีมชาติของอาทิตย์อยู่ไม่ไกล ถ้าเขาจะได้รับการพัฒนาทักษะการกีฬามากกว่านี้หลังจบการแข่งขันระดับประเทศเขาจึงคิดจะลองคุยกับครอบครัวของอาทิตย์เพื่อให้จ้างโค้ชพิเศษเพื่อมาสอนทักษะเพิ่มเติมให้กับเขาซึ่งไม่รู้ว่าจะมีความเป็นไปได้ขนาดไหนเพราะครอบครัวอาทิตย์เป็นครอบครัวชาวจีนที่สนใจแต่เรื่องธุรกิจการค้า ในบรรดาลูกๆ ทั้ง3 คน มีเพียงอาทิตย์เท่านั้นที่สนใจกีฬา
ส่วนพีระพลที่เป็นหัวหน้าชมรมว่ายน้ำนั้นน่าจะสร้างผลงานที่ดีได้ไม่ยิ่งหย่อนกว่าอาทิตย์ที่เป็นเพื่อนสนิทกันถ้าไม่ประสบอุบัติเหตุจากการฝึกซ้อมเมื่อ 2 ปีก่อน จนทำให้ต้องพักฟื้นยาวนานและส่งผลต่อการแข่งขันเพราะการบาดเจ็บที่เรื้อรังพีรวิทย์รู้ดีถึงความตั้งใจอันแรงกล้าของพีระพลจึงไม่อนุญาตเมื่อเขาตัดสินใจขอลาออกจากชมรม แถมยังแต่งตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าชมรมเพื่อช่วยเป็นกำลังในการดูแลและฝึกสอนทักษะที่เขามีให้กับรุ่นน้องๆจนทำให้รุ่นน้องๆ พัฒนาได้เร็วขึ้นจากการดูแลอย่างใกล้ชิดของเขา
พีรวิทย์ยืนมองบรรดาลูกศิษย์ในชมรมของเขาต่างตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างแข็งขันยิ่งทำให้เขารู้สึกขอบคุณเด็กๆ เหล่านั้นอยู่ในใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้เขาได้รับตำแหน่งที่น่าภาคภูมิใจ โดยที่ไม่ได้เฉลียวใจว่ามีสมาชิกคนหนึ่งในทีมที่ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับการที่พีรวิทย์ได้รับตำแหน่งในครั้งนี้
6. อาทิตย์และพีระพล
เย็นมากแล้วบรรยากาศที่สระว่ายน้ำคลายความคึกคักลง จากที่เมื่อครู่มีสมาชิกชมรมลงฝึกซ้อมกันอย่างคึกคักบัดนี้เหลือเพียงร่างเดียวที่กำลังแหวกว่ายอยู่
พีระพลที่นั่งอยู่ริมขอบสระกวาดสายตาตามร่างที่กำลังแหวกว่ายไปมาในสระว่ายน้ำพลางหยิบนาฬิกาจับเวลาขึ้นมาดูเป็นระยะ เมื่อผู้ที่อยู่ในน้ำว่ายมาแตะขอบสระเขาก็ระบายลมหายใจออกมาอย่างยืดยาว
“นึกว่าจะว่ายทั้งคืนซะแล้ว” เขาเปรยกับตัวเองเบาๆมองหน้าผู้ที่อยู่ในน้ำที่มองมาทางเขา ชายหนุ่มจึงชูนาฬิกาจับเวลาให้พร้อมยักไหล่ทำหน้าเจื่อนๆ
“เวลาไม่ดีว่ะ”
คนที่อยู่ในน้ำระบายลมหายใจอย่างอ่อนล้าก่อนจะว่ายมาที่ขอบสระบริเวณที่เพื่อนนั่งอยู่ แล้วค่อยๆ โยนตัวขึ้นมานั่งเคียงข้าง
“สงสัยวันหยุดนี้คงต้องเข้ามาซ้อม อีกสามเดือนก็ต้องแข่งแล้วแต่เวลาไม่ดีขึ้นเลย ถ้าทำผลงานไม่ดี โอกาสที่จะติดทีมชาติอาจไม่มี”
“เออน่า อย่าใจร้อน ถ้ามึงจะเข้ามาซ้อม เดี๋ยวกูเข้ามาเป็นเพื่อนด้วย” ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ พยักหน้ายิ้มๆ เขารู้สึกอุ่นใจเสมอไม่ว่าเขาจะทำอะไรจะมีพระพลอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา
“เออเมื่อกี๊ตอนที่อาจารย์วิทย์แจ้งข่าวดีกับพวกเรา มึงสังเกตเห็นอะไรบางอย่างไหม”
อยู่ๆ หัวหน้าชมรมก็เอ่ยอะไรบางอย่างขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอาทิตย์ที่ไม่ทันได้สังเกตอะไรจึงอดปากถามกลับไปไม่ได้
“มีอะไรเหรอวะ”
“กูเห็นเหมือนมีคนหนึ่งที่ดูไม่ได้ยินดีอะไรแถมสีหน้าเหมือนจะไม่พอใจเสียด้วยซ้ำ”
“ใครวะมึงไม่ได้คิดมากไปเองใช่ไหม”
“กูมั่นใจว่าไม่ได้คิดมากไปเองเพราะหลังจากนั้นกูเห็นมันออกไปส่งข้อความอะบางอย่าง พอกูเข้าไปถามมันก็ทำอ้ำ ๆอึ้ง ๆ หาว่ากูเสือกไม่เข้าเรื่อง”
“พอพูดอย่างนี้กูพอจะรู้แล้วว่าคือใครไอ้ขุนใช่ไหม”
“มึงว่ามันยังแค้นอาจารย์วิทย์ไหมที่ตัดสินใจถอดมันจากการแข่งขันว่ายผลัดครั้งก่อน แล้วเลือกส่งมึงลงไปแข่งแทน”
อาทิตย์นิ่งไปนิดหนึ่งเขาไม่กล้าตอบแม้จะรู้ดีถึงรอยร้าวระหว่างอาจารย์พีรวิทย์กับขุน จึงเลี่ยงที่จะให้ความเห็นแล้วพูดออกไปกลางๆ ว่า
“ก็คงเป็นหน้าที่ของหัวหน้าชมรมที่จะสังเกตดูแล้วล่ะวันนี้เหนื่อยแล้ว เรากลับกันเถอะ”
ว่าแล้วอาทิตย์ก็ลุกขึ้นยืนเดินเข้าห้องพักนักกีฬาไป คนที่ยังนั่งอยู่มองตามหลังเพื่อนสนิทที่ อดใจไม่ได้ที่จะมองสำรวจเรือนร่างนั้นรูปร่างของอาทิตย์ช่างสมส่วน ไหล่กว้าง กล้ามแกร่งจากการโหมว่ายว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็กผิวที่ขาวจัดจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ อาจจะเพราะชายหนุ่มมีเชื้อจีนถึงได้มีผิวขาวใสขนาดนี้เอวที่คอดกิ่วได้รูป กล้ามแกร่งที่ต้นขาบั้นท้ายกลมกลึงที่ซุกซ่อนตัวอยู่ภายใต้กางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วทำให้ผู้มองถึงกับใจสั่น จนระงับอาการตื่นตัวของอวัยวะบางอย่างไว้ไม่ไหวจนสุดท้ายต้องสลัดภาพที่ค้างในหัวทิ้งไป แล้วลุกเดินตามเพื่อนสนิทที่หายเข้าไปในห้องพักนักกีฬาแล้ว
เขาเป็นเพื่อนสนิทกับอาทิตย์มาตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นเนื่องจากได้เรียนห้องเดียวกัน และสมัครใจมาเจ้าชมรมว่ายน้ำเหมือนๆ กัน แรกทีเดียวทั้งคู่เหมือนจะเป็นคู่แข่งกันทั้งด้านการเรียนและกีฬา แต่เมื่อเวลาผ่านไปตัวเขาเองก็ต้องยอมรับว่าสู้เพื่อนสนิทไม่ได้สักเรื่องเดียวยิ่งหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บระหว่างการฝึกซ้อมยิ่งทำให้ความสามารถของเขายิ่งห่างชั้นจากเพื่อนมากยิ่งขึ้นไปอีก
แต่พีระพลไม่เคยรู้สึกน้อยใจเพราะอย่างน้อยเขาก็ได้พบเพื่อนแท้ หลังวันที่เขาได้รับบาดเจ็บ เขาเห็นเพื่อนสนิทยอมงดฝึกซ้อมเพื่อมาเฝ้าเขาหลายวันทั้งที่ในขณะนั้นเองอาทิตย์ก็มีโปรแกรมการแข่งขันอยู่ด้วยไม่เพียงเท่านั้นเขายังเห็นความใส่ใจของเพื่อนสนิทในการดูแลเขาทุกอย่าง โดยไม่รู้สึกรังเกียจจนรู้สึกตัวอีก เขาก็รู้สึกหลงรักเพื่อนสนิทไปเสียแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้เพราะกลัวว่าถ้าอาทิตย์รู้ความรู้สึกของเขา อาทิตย์อาจจะรังเกียจในตัวเขาก็เป็นได้
เมื่อเดินเข้ามาที่ห้องพักนักกีฬาเขาไม่เห็นเพื่อนสนิทแล้ว จึงเดินไปที่ห้องอาบน้ำได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวดังลอดมาหลังประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่ชายหนุ่มกำลังจะเดินออกไป ก็พลันได้ยินเสียงร้องและเสียงเหมือนคนล้มลงหลังประตูนั้นเขารีบวิ่งแล้วผลักประตูเข้าไป เห็นร่างเพื่อนสนิทล้มลงไปกองกับพื้น
“ช่วยกูที เจ็บขา ตะคริวกิน” สีหน้าแสดงความเจ็บปวดพีระพลรีบปิดน้ำฝักบัวที่กำลังราดรดร่างเขาและเพื่อน ก้มลงดูที่ปลายเท้าพยายามนวดคลายเส้นเพื่อให้อาการเกร็งหายไป
แล้วเขาก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นเพื่อนสนิทนั่งชันเข่าอยู่เบื้องหน้า ตอนนี้ไม่มีสิ่งปกปิดร่างกายเหลืออยู่เลยแม้สักชิ้นเดียว
7. เพื่อนสนิท คิดไม่ซื่อ
พีระพลมองใบหน้าเพื่อนที่แสดงให้เห็นว่าอาการเจ็บปวดเริ่มทุเลาลงมือยังคงนวดเพื่อช่วยให้เพื่อนสนิทผ่อนคลาย สายตาเริ่มไล่ลงมาเรื่อยๆ จากใบหน้า ถคงช่วงคอและไหล่กว้างที่มีหยดน้ำเกราะพราวผิวขาวสะอาดขับให้หัวนมที่เต่งตึงมีสีชมพูสวยสดยิ่งขึ้นดูเหมือนอาทิตย์จะไม่ค่อยมีขนตามตัวมากนัก ตามสไตล์หนุ่มตี๋ทั่วไปแต่นั่นยิ่งเป็นตัวเพิ่มเสน่ห์ให้กับเขาเพราะความเกลี้ยงเกลาของหนั่นเนื้อหนุ่ม
สายตาของพีระพลยังไล่ลงมาเรื่อยๆถึงสะดือ ต่ำลงมาเป็นกลุ่มขนกลุ่มใหญ่ที่ขัดกับผิวบริเวณอื่น กลุ่มขนที่ขึ้นอยู่เหนือของสงวนนั้นดกดำไล่เรื่อยลงไปถึงแก่นกายความเป็นชายที่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีอาการตื่นตัวเล็กน้อย แท่งทวนนั้นอวบสวยแม้จะไม่ยาวมากเพราะยังไม่แข็งตัวเต็มที่ ความขาวไม่ต่างจากผิวหนังบริเวณอื่นยกเว้นที่ส่วนปลายอวัยวะที่เปิดให้เห็นหัวสีชมพูสวยสดเหมือนเจ้าของไม่เคยใช้งานมันมาก่อน
เรื่อยลงไปเขาเห็นปากทางเข้าถ้ำที่ปิดสนิทมีสีชมพูสวยสดไม่แพ้ที่ปลายหัวเปิด เป็นเครื่องยืนยันว่ายังไม่เคยมีสิ่งใดกล้ำกลายเข้าไปในนั้นส่วนหนึ่งอาจจะด้วยกลุ่มไรขนอ่อนๆ ที่ขึ้นรอบ ๆ ปากทางนั้นที่ช่วยกันการรบกวนจากทุกๆสิ่ง ชายหนุ่มไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นสิ่งที่เขาเฝ้าฝันมานาน ทุกอย่างในระยะใกล้ชิดแบบสัมผัสถึงได้แบบนี้
“ช่วยพยุงกูออกไปข้างนอกทีดิวะ อยากยืดแข้งยืดขาบ้าง”เสียงนั้นเรียกสติของพีระพลให้กลับคืน เขารีบลุกขึ้นแล้วพยุงปีกเพื่อนสนิทให้ลุกออกจากห้องน้ำแล้วพาเพื่อนไปนั่งที่ม้านั่งยาวบริเวณห้องแต่งตัว อาทิตย์ถือโอกาสนอนเอาตัวราบลงกับม้านั่งยาวแก่นกายส่วนกลางลำตัวของเขาจึงได้โอกาสชูชันท้าทายสายตาคนที่กำลังจ้องมองอยู่พีระพลเริ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากมองไปทีใบหน้าเพื่อนสนิทตอนนี้เขาเห็นอาทิตย์นอนเอาแขนหนุนท้ายทอย หลับตาอยู่บนม้านั่ง
พีระพลเริ่มเอามือนวดที่ปลายขาเพื่อนสนิทอีกรอบก่อนที่จะไล่สูงขึ้นมาเรื่อยๆ ไปที่ปลีน่อง จนมาสุดที่ต้นขา ตอนนี้สายตาของเขาปะทะเข้ากับแก่นกายกลางลำตัวที่กำลังชูชันอย่างเต็มที่เขาค่อยๆ ไล่ปลายนิ้วขยับขึ้นไปเรื่อยๆ จนตอนนี้สามารถกำแก่นกายที่แข็งเต็มที่ไว้ได้เต็มกำมือ
เขาค่อยๆรูดขึ้นรูดลงช้าๆ ก่อนที่จะค่อยๆ เพิ่มความถี่แรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าคนที่นอนหลับตาอยู่มีอาการตอบสนองอาทิตย์เริ่มบิดลำตัวไปมาและเผลอส่งเสียงร้องคราง พีระพลเริ่มเคลื่อนตัวโน้มไปคร่อมที่ตัวเพื่อนสนิทไว้ก่อนที่จะย่อตัวลงไปที่แก่นกลางลำตัวแล้วใช้ริมฝีปากครอบลงไปที่แก่นกายที่กำลังชูชันนั้น เป็นการเร่งเร้าอารมณ์คนที่นอนอยู่ให้แตกกระเจิง
“เสียวว่ะพีท ทำไมมึงใช้ปากเก่งอย่างนี้วะ กูจะทนไม่ไหวแล้ว”
เสียงครางกระเส่าของอาทิตย์ยิ่งทำให้คนที่กำลังใช้ปากเพิ่มความเร็วมากยิ่งขึ้นมือของอาทิตย์เริ่มเคลื่อนมาเกาะกุมและจิกทึ้งที่บริเวณผมของเพื่อนสนิท
“ไม่ไหวแล้ว กูขอแตกในปากมึงนะ”
พูดยังไม่ทันขาดคำพีระพลก็รู้สึกถึงแรงกระฉูดของน้ำข้นเหนียวที่กระเซ็นเต็มตัวเขาไปหมดเด็กหนุ่มเริ่มคลายความหอบเกร็งหลังได้ปลดปล่อยความอัดอั้นบางอย่างออกไปจนหมดตัว เขาค่อยๆลืมตาขึ้นช้า ๆ ทุกอย่างรอบตัวแลดูมืดสนิท จนเมื่อสายตาชินกับความมืดทิดเขาจึงรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องแต่งตัวที่ชมรมว่ายน้ำ แต่มันเป็นห้องนอนของเขาเองไม่มีอาทิตย์อยู่ในห้อง มีเพียงอาทิตย์ในจินตนาการเท่านั้น
เขาเอื้อมมือคว้ากล่องกระดาษทิชชู่มาทำความสะอาดร่างกายก่อนจะค่อยๆ ลุกเดินเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวเพื่อให้สายน้ำช่วยทำความสะอาดร่างกายนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นที่เขาช่วยเพื่อนจากอาการเป็นตะคริว การได้เห็นสัดส่วนซ่อนเร้นของเพื่อนสนิทแบบใกล้ชิดเต็มตาเป็นครั้งแรกทำให้เขาเก็บเอามาจินตนาการถึง และมันปลุกสัญชาตญาณดิบที่ซุกซ่อนในตัวเขาให้เตลิดไปไกล
8. ดำเนินแผนการ
ไกรภพกำลังจัดเตรียมห้องพักนักกีฬาของชมรมฟุตบอลเพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่ให้อาจารย์พีรวิทย์โดยมีลูกทีมช่วยอยู่สองสามคน
“ทำอะไรกันอยู่วะโก้” เสียงที่ถามขึ้นทำให้ไกรภพละมือจากการยกสิ่งของหันมองตามเสียงที่เรียก เขาเห็นยอดเพื่อนสนิทร่วมทีมของเขาเป็นผู้ถามขึ้น ยอดเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีพอใช้รูปร่างสันทัดแต่บึกบึน เขามีตำแหน่งเป็นศูนย์หน้าตัวทำคะแนนให้กับทีม แต่พักหลังๆเหมือนแรงของยอดจะหดหายไป ไม่แข็งแกร่งเหมือนที่เคยเป็น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคนที่ยืนอยู่ข้างกายเขาขณะนี้ก็เป็นได้
วิทยาหรือวิทนีย์แฟนหนุ่มไม่ใช่แฟนสาวไม่เชิงของยอดนั่นเอง เด็กหนุ่มท่าทางกระตุ้งกระติ้งกิริยาท่าทางจัดจ้านเจนโลกแม้จะเห็นอยู่ว่าอายุเพิ่งผ่านการทำบัตรประชาชนมาไม่กี่ปี หล่อนเกาะแขนข้างขวาของยอดแสดงอาการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผู้ชายคนนี้อย่างไม่ปิดบัง จนผู้ที่พบเห็นเอือมระอา
คนในชมรมไม่มีใครรู้รสนิยมว่ายอดเป็นแบบนี้อยู่ๆ เมื่ออาจารย์วินัยรับแม่วิทนี่ย์คนนี้เข้ามาในชมรมเพื่อให้เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยภายในทีมไม่นานหลังจากนั้นทุกคนในทีมก็ได้เห็นทั้งคู่เป็นเงาตามตัวซึ่งกันและกัน แรกๆ ทุกคนก็แปลกใจรับไม่ได้กับพฤติกรรมชวนขนลุกของทั้งคู่ แต่ก็ไม่รู้จะเอ่ยปากห้ามปรามได้อย่างไร สุดท้ายก็ต้องปล่อยเลยตามเลยแล้วหลังจากนั้นทุกคนต่างก็ชินชากับภาพที่เห็น และรับได้กับพฤติกรรมราวผัวเมียกันของทั้งคู่
“กำลังเตรียมงานจัดปาร์ตี้ฉลองตำแหน่งใหม่ให้อาจารย์วิทย์” ไกรภพตอบ แล้วเสริมว่า ”มึงก็มาช่วยกันหน่อยเดี๋ยวไม่ทันการ”
“อุ๊ย อาจารย์พีรวิทย์จะมาชมรมเราเหรอคะพี่โก้” วิทนีย์ร้องเสียงหลงขึ้นมาไกรภพแม้จะรำคาญความดัดจริตของรุ่นน้องสุดเยอะนางนี้ แต่ก็ไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนจึงพยายามเงียบไม่เสวนาด้วยเพื่อตัดปัญหา
”แหม พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย ไปแต่งสวยก่อนดีกว่า อาจารย์วิทย์จะมา จะได้มีสิ่งเจริญหูเจริญตาไว้ให้อาจารย์มอง” ว่าแล้วแม่วิทนี่ย์ก็สะบัดหัวเกรียนเดินจากไป
“อาจารย์วินัยสั่งเหรอวะ แกนึกยังไงถึงจัดงานนี้” ยอดลงมือช่วยเพื่อนจัดเตรียมของแต่ปากก็ชวนคุยไปด้วย เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าคนอย่างอาจารย์วินัยจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับคนที่มาตัดหน้าคว้าตำแหน่งที่ใครๆก็คิดว่าจะเป็นของเขาได้ยังไง
“ไม่แปลกนี่ ก็เขาเพื่อนกัน”
“แต่กูว่าต้องมีเบื้องลึกอะไรมากกว่านั้น มึงไม่รู้อะไรจริงๆ เหรอไอ้โก้” ยอดยังพยายามคาดคั้น
“เดี่ยวมึงก็รู้เอง ว่าแต่เมียมึงน่ะ ระวังไว้เอาไว้ให้ดีแล้วงกันกูกลัวว่างานนี้แม่จะได้ผัวอีกคน เพราะวันนี้มึงจะได้เห็นของเด็ดของอาจารย์วิทย์แน่นอน” ไกรภพหัวเราะเยาะทิ้งท้ายก่อนเดินจากไป ปล่อยให้ยอดงุนงงกับคำพูดที่เป็นปริศนาของเพื่อนสนิท
ด้านวิทนี่ย์ตอนนี้กำลังเสริมสวยเต็มที่เพราะอาจารย์พีรวิทย์อาจารย์ที่หล่อนแอบปลื้มมานานจะมาที่ชมรม ไม่คิดไม่ฝันว่าวันนี้จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดนอกชั้นเรียนความตั้งใจของหล่อนคือยังไงคืนนี้จะต้องอ่อยอาจารย์พีรวิทย์ให้เต็มที่เผื่อว่าอาจารย์จะสนใจคนสวยแปลกแบบหล่อนบ้าง
9. ระหว่างเรา
วันนี้อาจารย์พีรวิทย์งดการซ้อมของชมรมว่ายน้ำเพราะต้องไปร่วมงานฉลองตำแหน่งใหม่ที่ชมรมฟุตบอลจัดให้ หลังเลิกเรียนอาทิตย์จึงเตรียมตัวกลับบ้านทันทีพีระพลเห็นอย่างนั้นจึงเดินเข้ามาหาเพื่อนสนิทแล้วเอ่ยปากถามว่า
“วันนี้มึงไปนอนบ้านกูไหมอาท พรุ่งนี้จะได้ออกมาพร้อมกัน” อาทิตย์นิ่งงันไปพักหนึ่งเหมือนกำลังชั่งใจว่าจะเอายังไงดีก่อนจะตัดสินใจตอบรับไปว่า
“เออได้ แต่ขอกูโทรบอกที่บ้านก่อน”
อาทิตย์โทรไปที่บ้านของเขาเพื่อขออนุญาตค้างที่บ้านของพีระพล เพราะช่วงวันหยุดนี้ต้องซ้อมกีฬาแม้ที่บ้านจะไม่ค่อยเห็นด้วยและไม่สนับสนุนให้เขาเอาดีด้านกีฬาเพราะต้องการให้มาสืบทอดกิจการค้าของครอบครัว แต่ก็ไม่รู้จะห้ามได้อย่างไรส่วนหนึ่งเพราะเกรงใจพีรวิทย์อาจารย์ที่โรงเรียน ที่คอยดูแลและสนับสนุนอาทิตย์เป็นอย่างดีส่วนพีระพลนั้น ทางบ้านก็เห็นว่าเป็นเด็กที่เรียบร้อย มีสัมมาคารวะดีจากการพบเจอตอนที่มาเที่ยวบ้าน จึงไม่เคยห้ามเวลาที่อาทิตย์ขอไปไหนมาไหนกับเพื่อนคนนี้และรู้สึกอุ่นใจที่มีคนคอยดูแลอาทิตย์อย่างใกล้ชิดด้วย
“ไม่มีปัญหาเรื่องที่บ้านว่ะ แต่มีปัญหาเรื่องชุด พรุ่งนี้กูจะใส่อะไรมาโรงเรียนวะ”
“โถ่ เรื่องแค่นี้ มึงก็ใส่ชุดกูนสิ ถ้ามึงไม่รังเกียจนะ”
“แหม กูจะรังเกียจชุดมึงทำไมวะ กูก็แค่เกรงใจ”
“ถ้ายุ่งยากนัก คืนนี้มึงก็แก้ผ้านอน ผู้ชายด้วยกันไม่ต้องอายหรอกของมึงกูก็เห็นมาแล้ว เมื่อวันก่อนนี้เอง ไม่ต้องอาย” พีระพลได้ทีท้าทายเพื่อนสนิท
“กูไม่อายหรอก ถ้ามึงจะแก้ด้วย” อาทิตย์ท้ากลับบ้าง
“เฮอะ เรื่องอะไร กูไม่ได้ชอบโชว์ เสื้อผ้ากูก็มีใส่ จะนอนเป็นชีเปลือยไปทำไม”
“นึกว่าแน่”
“เอาอย่างนี้ มึงค้างกับกูสองคืนเลย ถ้าคืนนี้มึงแก้ผ้านอนจริงพรุ่งนี้กูจะแก้ด้วย”
“กูก็ยังขาดทุนอยู่ดี แต่ก็เอาเถอะ กูใส่เสื้อผ้ามึงนอนก็ได้ไม่อยากเป็นชีเปลือย แล้วก็ไม่อยากใส่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียวมาโรงเรียนยังไงพรุ่งนี้กูก็ต้องพึ่งเสื้อผ้าของมึงอยู่ดี”
“ก็แค่นั้น ทำเป็นเรื่องเยอะ”
แล้วทั้งคู่ก็ออกจากโรงเรียนมุ่งหน้าสู่บ้านของพีระพล ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่อาจารย์พีรวิทย์กำลังมุ่งหน้าไปที่ชมรมฟุตบอลเพื่อร่วมงานฉลองตำแหน่งใหม่ของเขา ที่เพื่อนสนิทจัดเตรียมเอาไว้ให้
ส่วนที่ชมรมฟุตบอลบรรดาสมาชิกในทีมร่วมยี่สิบคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ยอดมองไปที่อาจารย์วินัยที่กำลังซุบซิบอะไรบางอย่างอยู่กับไกรภพโดยที่ไกรภพคอยพยักหน้ารับคำทุกอย่างส่วนอีกด้านวิทนี่ย์กำลังจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มให้พร้อมสำหรับงานในค่ำคืนนี้ทุกอย่างชั่งดูอึกทึกครึกครื้น ทุกคนในงานไม่รู้ว่าค่ำคืนนี้จะมีโชว์เด็ดให้พวกเขาได้ตื่นตะลึงรวมทั้งอาจารย์พีรวิทย์ที่กำลังเดินทางมา ไม่ได้ล่วงรู้ถึงชะตาร้ายที่ตนเองจะต้องประสบในค่ำคืนนี้
โปรดติดตามตอนต่อไป
อาจารย์พีรวิทย์แย่แน่ครับ ขอบคุณครับ รอผลของแผนการครับ อยากให้เขียนทัณฑ์บริสุทธิ์อีกหลายๆเรื่อง ชอบมากครับ เคยตามหานานมากแล้ว ชอบคู่อาทิตย์มากครับ ขอบคุณคับ ขอบคุณครับ zhanes ตอบกลับเมื่อ 2022-3-9 00:16
ชอบมากครับ เคยตามหานานมากแล้ว ชอบคู่อาทิตย์มากครับ
ตายแล้ว ผมรู้สึกผิดขึ้นมาเลยครับ สนุก ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ แย่แล้ว ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณ สุดยอด ขอบคุณมากๆเลยนะครับ เพิ่งเจอเรื่องนี้เลย