ประสบการณ์ของนิว “พี่อาทิตย์ ผู้ชายคนแรกของผม”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย New_NJ เมื่อ 2022-5-19 12:21สวัสดีครับ นิวกลับมาครั้งนี้พร้อมกับเรื่องเล่าประสบการณ์ของตัวเองที่เกิดขึ้นครั้งแรกในชีวิตของผม เรื่องเล่าตอนนี้จะบรรยายเยอะหน่อย ถ้าใครที่ไม่ชอบอ่านแนวบรรยายก็ขออภัยด้วยนะครับ
ผมชื่อนิวผมเป็นลูกชายคนเล็กสุดจากบรรดาลูกชายล้วนทั้ง 4 คน ครอบครัวของผมเป็นคนไทยที่มีเชื้อสายจีนปนมาจากทั้งทางป๊าและม๊า พื้นเพป๊ากับม๊าของผมเป็นคนกรุงเทพฯ หลังจากที่ป๊ากับม๊าแต่งงาน ทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็ได้ให้ทั้งป๊ากับม๊ามาดูแลกิจการของที่บ้านที่มีสาขาอยู่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน กิจการของที่บ้านผมมีอยู่ 2 อย่างคือเป็นตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกกับอะไหล่และศูนย์ซ่อมบำรุง(ที่เป็นของฝั่งทางปู่) และอีกกิจการหนึ่งคือขนส่งรถบรรทุก(ที่เป็นของฝั่งทางตา) ผมกับพี่ชายทั้งสี่เกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัด แต่ในบรรดาลูก 4 คนจะมีเพียงผมกับพี่คนรองที่เรียนจนจบชั้นม.ปลายที่นี่ ส่วนพี่อีกสองคน พอจบชั้น ป.6 ก็ไปเรียนต่อมัธยมฯที่กรุงเทพฯ
ตอนเด็ก ๆ พอถึงช่วงเวลาไหว้ครูที่โรงเรียนทีไร ถ้าปีไหนผมได้ถือพานไหว้ครู ผมจะชอบโดนเพื่อน ๆและพี่ชายแซวว่าผมกับเพื่อนผู้หญิงที่ถือพานคู่กันเป็นแฟนกันตลอด ตอนนั้นก็แค่รู้สึกขำ ๆ กับคำพูดของคนรอบข้าง เพราะผมไม่เคยมีความรู้สึกใด ๆ กับเพื่อนผู้หญิงคนนั้นหรือกับผู้หญิงคนอื่น ๆ เลยไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะอายุมากกว่าหรือน้อยกว่า
วันหนึ่งในช่วงปิดเทอม ป.5 หลังจากที่ผมเลิกเรียนพิเศษในตอนบ่ายพอผมกลับมาถึงบ้านก็เจอไอ้อาร์ม ที่เป็นเพื่อนผมกำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องรับแขกกับป๊าม๊าผม ไอ้อาร์มเพื่อนผมคนนี้จะมีนิสัยห้าว ๆ ทะลึ่ง ๆ หน่อยมันบอกผมว่าที่บ้านมันจะไปต่างจังหวัด 2-3 วันแต่มันขี้เกียจไปมันเลยขอมาอยู่บ้านกับผมจนกว่าที่บ้านมันจะกลับ หลังจากที่คุยกันเสร็จป๊ากับม๊าก็กลับไปบริษัทผมก็ชวนอาร์มขึ้นชั้นสองไปเล่นเกมส์ ช่วงค่ำหลังจากที่ผมกับอาร์มและคนในบ้านกินข้าวเย็นเสร็จผมกับอาร์มก็รีบขึ้นห้องนอนไปดูหนังกันเพราะก่อนหน้านี้อาร์มบอกผมว่าเขาเอาแผ่นซีดีหนังมาหลายเรื่อง ผมจำไม่ได้ว่าหนังสองเรื่องแรกที่ผมกับอาร์มดูเป็นเรื่องแนวไหนแต่เรื่องที่สามที่อาร์มเปิดให้ผมดูนี่สิผมจำได้แม่นเลย เพราะมันเป็นหนังโป๊ ที่ไม่ใช่หนังแนว 18+ ที่ผมเคยเห็นเพื่อนคนอื่น ๆ ดูหรือพูดถึงกัน แต่นี่เป็นหนังโป๊แบบโป๊จริง ๆ จอทีวีที่แสดงภาพอยู่ก็เป็นผู้หญิงกับผู้ชายที่กำลังสอดใส่และมี sex กันแบบจริง ๆ โดยที่ไม่มีการสวมถุงยางอนามัยหรือเซ็นเซอร์หรือเบลอภาพเลย อาร์มบอกผมว่าเขาแอปก๊อปปี้แผ่นนี้มาจากของพี่ชาย ตอนนั้นผมกับอาร์มนอนคว่ำหน้าลงบนเตียงมุดอยู่ในผ้าห่มตั้งใจดูหนังแผ่นนี้กันไม่ละสายตา ตลอดเวลาที่ดูกันอยู่นั้น อาร์มจะคอยพูดถึงนักแสดงหญิงหลายๆ คนในเรื่องกับผมเรื่อย ๆ แต่ความรู้สึกในตอนนั้นผมแทบจะไม่ได้โฟกัสที่นักแสดงหญิงเลย เพราะนักแสดงชายนั้นดึงดูดผมมากกว่า ยิ่งตอนฉากที่นักแสดงชายกับหญิงมีเซ็กส์กันบนรถไฟตอนนั้นผมคิดแค่ว่า ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อมาก ๆ ถ้าแสดงละครหรือหนังปกติน่าจะโด่งดังมากแน่ ๆ เลย (นักแสดงชายคนนั้นคือ Jeff Stryker ลองเอาชื่อเขาไปค้นหารูปตอนที่เขาหนุ่มๆ ดูนะครับ โคตรหล่อเลย) แต่ตอนนั้นผมก็คิดแค่นั้น พอหนังจบผมกับอาร์มก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำแล้วเข้านอน
พอถึงช่วงใกล้เปิดเทอม เฮียนัทพี่ชายคนรองของผมก็กลับบ้านหลังจากที่ช่วงปิดเทอมเฮียนัทจะไปเรียนพิเศษอยู่ที่กรุงเทพฯ พอกินข้าวเย็นกันเสร็จ ป๊าม๊าก็เข้าห้องนอนเฮียนัทก็ชวนผมไปนอนดูหนังกันที่ห้องนั่งเล่นเพราะเขาซื้อแผ่นหนังมาใหม่และหนังเรื่องนี้ก็ทำให้ผมเริ่มโฟกัสที่นักแสดงชายอีกครั้ง... ที่ผ่านมาผมก็ดูหนังที่มีฉากผู้ชายถอดเสื้อหรือผู้ชายต่อสู้กันมาก็เยอะ แต่ผมก็ไม่เคยคิดอะไร แต่พอดูหนังจบแล้วเข้าห้องนอน สมองของผมก็เอาแต่คิดถึงภาพร่างกายที่มีมัดกล้ามที่มันเลื่อมไปด้วยเหงื่อของพระเอกหนังเรื่องที่ดูจบไปเมื่อกี้อยู่ตลอดเวลา คิดภาพนั้นอยู่นานสองนานกว่าจะหลับ... หนังเรื่องนั้นมีชื่อเรื่องว่า The Scorpion King ตอนนั้นผมคิดว่าถ้าเจอคนหุ่นแบบนี้ตัวเป็น ๆ จะตัวใหญ่หรือน่ากลัวมากไหมนะ...
ช่วงปีใหม่ตอนที่เรียนอยู่ชั้น ป.5 ตอนนั้นป๊าผมจัดงานเลี้ยงปีใหม่ให้พนักงาน 2 วัน วันแรกป๊าจะเลี้ยงพนักงานในบริษัทขายรถบรรทุกส่วนอีกวันจะเลี้ยงพนักงานและคนงานในบริษัทขนส่งรถบรรทุก ทั้งสองวันนั้นผมก็ไปร่วมงานด้วย แต่ในวันที่สองที่เป็นงานเลี้ยงให้พนักงานบริษัทขนส่งรถบรรทุก ผมได้เจอกับผู้ชายคนนึงที่ดูจะสะดุดตาผมมาก ๆ เขานั่งอยู่ที่โต๊ะเกือบริมสุดทางด้านหลัง ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไรอายุเท่าไหร่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นคนงานในบริษัทของบ้านผมหรือไม่ เพราะในงานเลี้ยงบริษัทแต่ละครั้ง ป๊าผมจะให้พนักงานเอาครอบครัวมากินเลี้ยงได้ด้วย ผมก็เลยไม่รู่ว่าเขาจะเป็นพี่ เป็นน้อง หรือสามีใครที่ทำงานในบริษัทผมรึเปล่า และที่เขาสะดุดตาผมนั้นเพราะรูปร่างกับหน้าตาของเขา เพราะเขามีใบหน้าที่หล่อ ๆ เข้ม ๆ ผมสั้นรองทรง สวมกางเกงขายาวสีดำกับเสื้อยืดสีเทาที่ตรงแขนเสื้อนั้นค่อนข้างจะรัดแน่นเพราะเขามีกล้ามแขนที่ใหญ่มาก ใช่ครับ ที่เขาสะดุดตาผมเพราะรูปร่างเขาเหมือนกับพระเอกหนังเรื่อง The Scorpion King. ความรู้สึกในตอนนั้นผมก็อธิบายมันไม่ถูกว่าทำไมผมถึงต้องคอยชำเลืองหันไปมองเขาบ่อยๆ แต่ที่แน่ ๆ ตอนนั้นผมไม่ได้มีความรู้สึกในเชิงลามกกับเขาแน่นอน มันเป็นความรู้สึกแค่อยากมองเขาเฉย ๆ...
ผ่านช่วงปีใหม่ไปได้ไม่กี่วัน อาม่า(ยาย)ผมที่บินมาอยู่ด้วยช่วงปีใหม่ก็เริ่มมีอาการไม่สู้ดี ป๊ากับม๊าเลยพาอาม่าบินกลับไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ ช่วงนั้นผมกับเฮียนัทก็อยู่บ้านกันแค่สองคนเกือบ ๆ 2 อาทิตย์ ส่วนบริษัทก็มีญาติ ๆ ที่อยู่ในเครือมาช่วยดูแล พอป๊าม๊าพาอาม่ากลับกรุงเทพฯได้ไม่กี่วันเฮียนัทก็ไปนอนค้างที่บ้านเพื่อนเลยทำให้ผมอยู่บ้านคนเดียว... ช่วงเช้าวันเสาร์วันนึง ป๊าโทรมาหาผมบอกว่าจะมีคนไปตัดหญ้าที่หลังบ้าน ถ้ามีคนมากดกริ่งให้ผมออกไปเปิดประตูรั้วให้เขาหน่อย พอสาย ๆ ก็มีคนมากดกริ่ง พอผมเดินออกไปถึงประตูรั้วผมก็เจอกับผู้ชายกล้ามใหญ่ที่เคยเจอเขาในงานเลี้ยงบริษัท วันนี้ที่หัวเขาสวมหมวกสาน ใส่เสื้อยืดสีน้ำตาลที่สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก๊อตพร้อมกับกางเกงวอร์มสีกรมท่าและรองเท้าผ้าใบแบบนักเรียนมัธยมฯ ที่บ่าสะพายเครื่องตัดหญ้ากับมืออีกข้างถือถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ เขายิ้มส่งมาพร้อมกับพูดสวัสดีทักทายผมแล้วบอกว่าเลขาป๊าผมบอกให้เขามาตัดหญ้าผมก็เลยเปิดประตูรั้วให้เขาเข้ามา พอเขาเดินไปที่หลังบ้านผมก็รีบกลับเข้าไปในตัวบ้านแล้วไปยืนมองเขาผ่านหน้าต่างครัวเพื่อที่จะได้เห็นเขาได้อย่างชัดเจน เขาวางเครื่องตัดหญ้าลงแล้วจัดการดึงสายสตาร์ทให้เครื่องทำงานจากนั้นก็ยกขึ้นสะพายบ่าแล้วก็เริ่มตัดหญ้าทันที ผมกดโทรศัพท์บ้านไร้สายในมือหาป๊าบอกว่ามีคนมาตัดหญ้าแล้ว แล้วผมก็ถามป๊าทันทีว่าเขาคนนี้เป็นใครป๊าบอกว่าเขาเป็นคนงานยกของในบริษัทขนส่งของบ้านเรา วันนี้เป็นวันหยุดเขาป๊าผมเลยให้เลขาถามคนงานที่หยุดวันนี้ว่าใครตัดหญ้าได้บ้างจะให้มาตัดหญ้าที่บ้านผมแล้วจะจ่ายเงินพิเศษให้ผมเลยร้องอ๋อผ่านสายโทรศัพท์ไป พอวางสายจากป๊าเสร็จ ผมก็ลากเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวมานั่งมองเขาอยู่ที่หน้าต่าง ในตอนนั้นป๊าผมยังไม่ได้ทำสระว่ายน้ำ ที่หลังบ้านตรงนั้นเลยเป็นแค่ลานกว้าง ๆ กับมีต้นไม้ใหญ่ 5-6 ต้นอยู่เท่านั้น แต่ดูแล้วคงจะใช้เวลาตัดนานพอสมควรผมเลยกลับไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วเปิดทีวีดู
ผ่านไปพักใหญ่ผมเลยเดินไปส่องที่หน้าต่างครัวอีกครั้งก็เห็นผู้ชายคนนั้นกำลังนั่งพักเอาหมวกสานที่สวมมาพัดใบหน้าอยู่ใต้ต้นมะม่วง ผมเลยเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเอาน้ำดื่มขวดใหญ่กับเครื่องดื่มเกลือแร่ยี่ห้อดังติดมือมาแล้วเปิดประตูครัวเดินออกไปหาเขาที่นั่งอยู่ ผมเดินไปหยุดที่หน้าเขาแล้วยื่นของที่อยู่ในมือให้เขาแล้วเริ่มสนทนากับเขาเท่าที่จำได้ก็มีประมาณนี้
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มร่างใหญ่คนนั้นพูดกับผมหลังจากที่รับขวดน้ำไปจากมือผม
“เหนื่อยไหมครับพี่” ผมถามเขา
“ไม่เท่าไหร่ครับ คุณเป็นลูกชายของคุณ...(ชื่อพ่อผม)ใช่ไหมครับ”
“ครับ ผมชื่อนิวนะ แล้วพี่ชื่ออะไร”
“ผมอาทิตย์ครับ”
เท่าที่ผมจำได้หลังจากนั้นผมก็พูดคุยถามนั่นถามนี่เกี่ยวกับตัวเขา เขาอายุ 26 ปี(ในตอนนั้นผมอายุ 10 ย่าง 11 ปี) เขาเป็นคนจังหวัดอุบลฯซึ่งไกลจากจังหวัดที่ผมอยู่พอสมควรเลย เขามาทำงานที่นี่เพราะมีญาติเขาคนหนึ่งทำงานเป็นคนขับรถบรรทุกขนส่งในบริษัทของผมชวนเขามาทำงานด้วย ผมเรียกเขาว่าพี่อาทิตย์ แต่เขาบอกให้ผมเรียกเขาว่าทิตย์ เฉย ๆ ก็ได้ แต่ผมรู้สึกว่าเรียกทิตย์เฉย ๆ มันเหมือนเรียกพระสึกใหม่ผมเลยเรียกเขาว่า “พี่ซัน” แทน ผมก็จำไม่ได้ว่าคุยอะไรกับเขาต่อรึเปล่า แต่จากนั้นผมก็เข้ากลับมาในตัวบ้านจนพี่เขาตัดเสร็จก็เดินมาเรียกผมที่หน้าประตูบอกว่าเขาตัดหญ้าเสร็จแล้วให้ผมกดเปิดรั้วให้หน่อยเขาจะกลับ หลังจากนั้นผมก็มีโอกาสได้เจอพี่เขาบ้างตอนที่ผมไปเล่นที่บริษัท
ตอนปิดเทอมหน้าร้อนจะขึ้นชั้น ป.6 อาม่า(ยาย)ผมก็อาการทรุดลง ป๊ากับม๊าก็รีบลงไปกรุงเทพฯ เพียงไม่กี่วันต่อมา ก่อนวันสงกรานต์อาม่าของผมก็ได้จากไป ช่วงนั้นการเดินทางทางเครื่องบินคนยังไม่ค่อยพลุพล่านเท่าไหร่ ผมกับเฮียนัทแล้วก็ลูกพี่ลูกน้องอีกคนเลยได้บินด่วนลงไปกรุงเทพฯ เราใช้เวลาเกือบ 10 วัน ในการจัดงานให้อาม่าหลังจากที่ทำพิธีฝังเสร็จผมกับลูกพี่ลูกน้องคนนั้นก็บินกลับบ้านก่อนคนอื่นเพราะผมต้องกลับไปเรียนพิเศษ ไม่กี่วันถัดมาป๊าม๊ากับเฮียนัทก็กลับ แต่ป๊ากับม๊ามาได้ไม่ถึง 5 วันก็ต้องบินกลับไปกรุงเทพฯอีกรอบเรื่องจัดการมรดก ผมกับเฮียนัทก็เลยอยู่บ้านกันแค่ 2 คนตอนนั้นป๊าซื้อรถมอไซต์ให้เฮียนัทไว้ขับไปเรียน ช่วงนั้นเฮียนัทเห็นผมเบื่อ ๆเลยชวนผมว่าจะพาผมไปหัดขับมอไซต์
ที่ด้านหลังของบริษัทจะมีอาคารที่สร้างเป็นที่พักคนงานที่ทำงานในส่วนของขนส่งรถบรรทุก เป็นอาคาร 3 ชั้น สร้างยาวเรียงขนานกัน 2 อาคาร เหมือนหอพักทั่วไป เนื่องจากที่ดินตรงที่เป็นที่ตั้งของบริษัทเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ถนนที่สร้างเอาไว้ใช้ภายในเลยเป็นทางยาวตลอดแนวจากด้านหลังสุดไปจนถึงทางด้านหน้าบริษัทยาวประมาณ 400 เมตร เฮียนัทเลยพาผมมาฝึกขับรถมอไซต์ที่นี่ ตอนนั้นเป็นช่วงตอนเย็น พอเฮียนัทพาผมขับเข้ามาก็เจอพี่ยาม 2-3 คนเราทักทายพวกเขาเสร็จก็ขับเข้ามาด้านในจนสุดทาง ผมเห็นมีคนงานนั่งจับกลุ่มทำกิจกรรมกันหลายคน พวกเขาเห็นผมกับเฮียนัทก็ทักทาย เฮียนัทบอกพวกเขาว่าจะพาผมมาหัดขับรถ หลังจากนั้นก็มีคนงานวัยรุ่น 2-3 คนเดินมาทางผมแล้วพวกเขาก็ช่วยกันบอกผมว่าต้องขับยังไง พอเฮียนัทเห็นว่าผมมีคนสอนเขาก็หนีผมไปเล่นฟุตบอลกับกลุ่มคนงานคนอื่น แรก ๆ ผมก็ค่อย ๆ เร่งคันเร่งช้า ๆ พอเริ่มประคองรถได้ก็ค่อย ๆ ออกตัวไปจนถึงหน้าบริษัทแล้วค่อย ๆ หันหัวกลับมา ผมขับวนอยู่หลายรอบจนขี้เกียจเลยหยุดหัดแล้วเปลี่ยนเป็นนั่งดูเฮียนัทกับคนงานคนอื่นเตะบอลแทน ผมสังเกตดูรอบ ๆ ไม่เห็นพี่ซัน ผมเลยถามพี่คนงานคนนึง ตอกแรกผมเรียกพี่ซัน พี่คนที่ผมถามเขาก็ทำหน้างง ๆ แล้วบอกไม่รู้จักคนชื่นนี้ ผมเลยบอกว่าพี่อาทิตย์ พี่คนนั้นเลยพยักหน้าเข้าใจแล้วบอกว่าพี่เขาออกไปกินข้าวข้างนอกกับเพื่อนคนอื่น ๆ ไม่นานเฮียนัทก็เดินมาตรงม้านั่งที่ผมนั่งคุยเล่นกับพี่คนงาน 2-3 คนอยู่ ทั้งตัวเฮียนัทเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ผมเลยชวนเฮียนัทกลับบ้าน พอผมขึ้นซ้อนท้ายแล้วเฮียนัทออกรถ กลิ่นเหงื่อของเฮียนัทที่ลอยมากับลมด้านหน้าก็ประทะเข้ากับผมเต็ม ๆ ผมบ่นเฮียนัทใหญ่เลยว่าเหม็นเหงื่อ เฮียนัทก็เอาแต่หัวเราะแล้วบอกว่า ไว้อีกสักหน่อยผมก็จะมีกลิ่นตัวเหมือนเขานี่แหละ พอถึงด้านหน้าบริษัทผมก็เห็นพี่ซันกับกลุ่มเพื่อนเขาอีก 5-6 คนเดินมาผมเลยสะกิดให้เฮียนัทจอดแล้วทักพี่ซัน ตอนแรกที่คนอื่นได้ยินผมเรียกพี่ซันเขาก็ทำหน้างง ๆ กัน พอผมบอกเหตุผลไปพวกเขาก็พยักหน้าเข้าใจแล้วเรียกพี่เขาว่าพี่เขาว่าซันเหมือนผม
“น้องนิวกับน้องนัทมาทำอะไรครับ” พี่เขาถามผมกับเฮียนัท
“พาไอ้ตัวเล็กนี่มาหัดขับมอไซต์น่ะพี่” เป็นเฮียนัทที่ตอบออกไป
“แล้วทำไมคนหัดขับมอไซต์ให้ ถึงเหงื่อเต็มตัวเลย” พี่ซันพูดออกมาขำ ๆ หลังจากนั้นผมก็จำไม่ได้แล้วว่าเราคุยอะไรกันอีกแต่ก่อนที่ผมกับเฮียนัทจะออกรถไป พี่ซันก็บอกว่าไว้ว่าง ๆ ถ้าเฮียนัทไม่อยู่มาให้เขาหัดขับให้ก็ได้ จากนั้นเราก็กลับบ้านกัน
และก็เป็นอย่างที่พี่ซันพูดจริง ๆ พอเฮียนัทรู้ว่ามีคนอาสาสอนผมขับมอไซต์ เฮียนัทก็ชอบพาผมไปที่หอพักคนงานแล้วให้พี่ซันสอนผมแทน ส่วนเฮียนัทก็ไปเล่นกีฬากับคนงานคนอื่น ๆ หลังจากครั้งนั้นผมก็ไปหาพี่เขาทุกวันในตอนเย็นเพื่อให้พี่ซันสอนผมขับมอไซต์ แรก ๆ เราก็ขับกันแค่ด้านในบริษัท ไม่นานพี่เขาก็พาผมออกถนนใหญ่จากนั้นก็พาผมไปหัดที่มหาลัยการกีฬาที่กว้างขวาง วันแล้ววันเล่าจนผมเปิดเทอมผมก็ไม่ได้ไปหัดขับมอไซต์กับพี่ซันอีกเลยเพราะหลังเลิกเรียนผมต้องไปเรียนพิเศษแล้วกลับค่ำเกือบทุกวัน จนถึงช่วงปิดเทอมแรก ผมก็ได้กลับไปหัดขับมอไซต์กับพี่ซันอีกครั้งแต่ครั้งนี้เฮียนัทให้ผมไปคนเดียวเพราะเขาเริ่มมีงานของโรงเรียนที่ต้องทำและวันนั้นเองที่ทำให้ผมได้รู้สึกอะไรบางอย่างกับคนที่เป็นเพศชายแบบเดียวกันกับตัวเองขึ้นมา...
ผมขับมอไซต์ของเฮียนัทไปที่หอพักคนงานแล้วถามหาพี่ซันกับพี่คนงานคนอื่นๆ พี่คนหนึ่งบอกผมว่าพี่ซันไปช่วยซ่อมรถบรรทุกที่โกดังเก็บของที่ผมขับผ่านมาผมเลยขับมอไซต์ย้อนกลับไปที่โกดัง พอเดินเข้าไปก็เห็นคนงานที่ใส่ชุดช่าง 4-5 คนกับคนงานที่ไม่ได้เป็นช่างอีก 2-3 คนกำลังช่วยกันจับนั่นดึงนี่กับเครื่องยนต์ของหัวลากเทรลเลอร์ที่ใช้ในงานขนส่งอยู่ ผมเดินเข้าไปจนถึงตรงที่พวกเขาซ่อม คนทั้งหมดที่ทำอยู่นั้นก็ผละออกจากตัวรถแล้วจัดการปิดหัวรถลงมีคนงานคนหนึ่งเห็นผมเข้าเลยทักทาย หลังจากนั้นพี่ซันที่นอนบนแผ่นเลื่อนมุดอยู่ใต้ท้องรถก็ดันตัวออกมาทักผม ผมบอกเขาไปว่าผมจะมาหัดขับรถ แต่เห็นพี่เขาทำงานอยู่เลยบอกว่าไว้วันหน้าค่อยมาใหม่ พี่คนนึงเลยบอกผมว่าซ่อมเสร็จพอดี ผมก็บอกไปอีกว่าไม่เป็นไร ดูท่าคงจะเหนื่อยกันเยอะผมไม่รบกวนดีกว่า ผมเดินออกมาข้างนอกโกดังเตรียมจะขับมอไซต์กลับบ้าน แต่พี่ซันก็วิ่งออกมาหาผมเขาบอกว่าจะขอยืมรถมอไซต์ออกไปซื้อกับข้าวได้ไหมผมก็เลยบอกว่าได้ ตอนแรกผมว่าจะรอพี่เขาที่นี่แต่พี่ซันบอกว่าให้ผมไปด้วยเพราะเข้าไม่อยากเอารถเฮียนัทไปคนเดียว พอผมขึ้นซ้อนหลังพี่ซันแล้วเขาออกตัว พอความเร็วรถเริ่มเพิ่มขึ้นลมที่ประทะกับผมก็ค่อย ๆ แรงขึ้น และแน่นอนกลิ่นเหงื่อของคนขับที่อยู่ด้านหน้าผมก็ค่อย ๆ โชยมาพร้อมกับลม ไม่นานพี่ซันก็พูดประโยคหนึ่งกับผมที่ผมจำได้ตลอดจนถึงทุกวันนี้
“เหม็นหน่อยนะครับ กลิ่นเหงื่อคนใช้แรง...ทนไม่ไหวบอกนะครับ”
“อ๋อ... ครับ... ไม่เป็นไร” ผมตอบพี่เขาไปแค่นั้น แล้วก็ก้มหน้าลงนิดหน่อย
ลมที่พัดมานั้นปะทะทั้งหน้าทั้งผมของผม ผมค่อย ๆ หลับตาลงแล้วหายใจเข้าออกช้า ๆ เป็นจังหวะ กลิ่นเหงื่อของพี่ซันที่ลอยเข้าจมูกผมนั้นช่างต่างจากกลิ่นเหงื่อของเฮียนัทที่ผมเคยบ่นให้เฮียนัทไปว่าเหม็น แต่กลิ่นเหงื่อของพี่ซันมันกลับไม่ได้รู้สึกเหม็นเลยสำหรับผม กลับตรงข้ามกันสะอีก ผมค่อย ๆ เอาหน้าไปใกล้ ๆ แผ่นหลังของพี่ซันแล้วสูดลมหายเข้าไปเต็ม ๆ ปอด จู่ ๆหัวใจผมก็เต้นแรงขึ้น ผมลืมตาแล้วมองแผ่นหลังพี่ซัน ลากสายตาขึ้นไปจนถึงคอของพี่เขา มือผมที่จับอยู่ที่ราวจับด้านหลังเบาะก็ค่อย ๆ ปล่อยจากที่จับแล้วเอามาจับที่เอวของพี่เขาเบา ๆ แทน
“พี่ขับเร็วไปไหม”
พอผมจับเอวพี่เขา พี่ซันก็ถามผมขึ้นมาทันทีผมเลยปฏิเสธไปว่าผมไม่ถนัดจับที่ด้านหลัง
“งั้นก็จับพี่แน่น ๆ หน่อยก็ได้นะ เดี๋ยวร่วง”
พอพี่ซันพูดมาแบบนั้นผมเลยค่อย ๆ กางมือทั้งสองออกแล้วจับลงไปที่เอวพี่เขาจนเต็มฝ่ามือ สัมผัสจากฝ่ามือที่อยู่ตรงเอวพี่ซันนั้นมันทั้งแน่นและอุ่นมาก ๆ หัวใจผมก็ยิ่งเต้นแรงขึ้นไปอีก ความรู้สึกในใจผมตอนนั้นมันบอกผมว่าอยากโน้มหน้าลงไปที่แผ่นหนังนั้นแล้วกอดแต่มันก็ไม่กล้าทำ จู่ ๆ ความจำในหัวผมมันก็ฉายภาพของพระเองหนังเรื่อง The Scorpion King ที่ผมเคยดูกับเฮียนัทขึ้นมาในหัว ภาพของพระเอกที่ตัวมัน ๆ ล่ำ ๆ ...
“ถ้าพระเอกในหนังใช้แรงจนเหงื่อออกคงจะมีกลิ่นแบบนี้สินะ” ความคิดในหัวผมผุดขึ้นมา แล้วจู่ ๆ ภาพของหนังโป๊ที่ไอ้อาร์มมันเคยเปิดให้ผมดูก็ซ้อนทับกับภาพของพระเอกหนัง The Scorpion King ภาพของ Jeff Stryker ที่มีเซ็กกับผู้หญิงแล้วเหงื่อออกตามตัว......
.
.
.
“ถ้า The Rock หรือ Jeff Stryker เป็นพี่ซันแล้วเราเป็นนางเอกในหนังหรือผู้หญิงบนรถไฟคนนั้นล่ะ... จะเป็นไงนะ...”
ความคิดนี้ที่ผุดขึ้นมาในหัวแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแล้วหยุดลงแค่นั้นแล้วปล่อยให้ภาพที่ผมเห็นในหนังทั้งสองเรื่องเป็นตัวผมกับตัวพี่ซันแทน...แล้วทำไมไอ้จู๋เรามันถึงแข็งขึ้นมาอย่างนี้ล่ะ...
เชี่ยนิว...!!! นี่แกคิดอะไรของแกเนี่ย... ผู้ชายกับผู้ชายงั้นเหรอ... เกย์... เกย์... เขาบอกว่าเกย์คือชายรักชาย... หรือกูเป็นเกย์วะ...
ผมพยายามนึกว่า ถ้าเราเป็น Jeff Stryker แล้วกำลังเย็ดผู้หญิงอยู่....... หยึ๋ย!!! ไม่ได้ว่ะ... หรือว่ากูจะเป็นเกย์วะ...
ผมหยุดคิดแค่นั้นแล้วมองที่แผ่นหลังพี่ซันอีกที... แต่สุดท้าย ภาพที่ผมคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงแล้วโดนผู้ชายกระทำนั้นก็กลับมาอีกครั้ง
“กูต้องเป็นเกย์แน่ ๆ เลย” ผมพูดออกมาเบา ๆ
“ถึงตลาดแล้ว น้องนิวจะไปกับพี่ไหมครับหรือจะรอที่รถ” พี่ซันพูดบอกผมตอนที่เลี้ยวเข้ามาในตลาด พอพี่เขาจอดรถเสร็จผมเลยบอกเขาไป
“รอนี่ดีกว่า” พอผมตอบพี่เขาไปเขาก็ตอบรับแล้วรีบเดินเข้าไปซื้อของในตลาด ส่วนผมก็เอาแต่คิดภาพในหัวซ้ำไปมาตลอด จนพี่เขาเดินกลับมาพร้อมกับถุงกับข้าวเยอะแยะในมือผมจึงค่อยหลุดออกจากภาพในหัว
“โห... ทำไมซื้อเยอะขนาดนี้เนี่ย” ผมเห็นกับข้าวในมือพี่เขาแล้วร้องทัก
“เพื่อนฝากซื้อหลาย ๆ คนน่ะ”
ผมช่วยพี่เขาเอาถุงห้อยที่แฮนด์รถ ส่วนถุงที่ห้อยไม่ได้ผมก็อาสาถือช่วย พอเสร็จพี่ซันก็ก้าวขาคร่อมรถกดปุ่มสตาร์ทแล้วค้นเอาของบางอย่างในถุงแล้วเอี้ยวตัวมาทางผม
“อะ อันนี้พี่ซื้อให้ กินเล่นไปนะ”
พี่ซันพูดจบก็เอาวาฟเฟิลไส้กรอกยื่นมาจ่อตรงปากผม ผมก็รีบอ้าปากงับไว้ พี่ซันยกยิ้มขำ ๆ แล้วก็หันหน้ากลับไปแล้วก็ออกรถ ผมก็เอามือข้างที่ว่างมาจับที่ไม้วาฟเฟิล ปล่อยปากที่คาบออกแล้วมองที่วาฟเฟิลไส้กรอก แล้วสมองด้านต่ำของผมมันก็ทำงานอีกรอบ “ถ้าใส้กรอกอันนี้เป็นแท่งอยู่ในกางเกงของพี่ซันล่ะ...” ผมสะดุ้งกับความคิดนี้ของตัวเองแล้วพยายามหันหน้าไปมองตึกรามบ้านช่องตามสองข้างทางแล้วรีบกินวาฟเฟิลไส้กรอกที่อยู่ในมือให้หมดๆ
ผมกลับมาถึงบ้านก็รีบกินข้าวแล้วเข้าห้องนอน อาบน้ำใส่ชุดนอนเสร็จก็กระโดดขึ้นเตียง
“ตกลงเป็นเกย์จริง ๆ ใช่ไหมนิว” ผมพูดขึ้นมาในห้องแล้วเอามือกุมกันไว้ที่หน้าอก ผมค่อย ๆ หลับตานึกถึงภาพผู้หญิงสวย ๆ แต่มันก็แค่นั้น ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงเลยหลังจากนั้นผมก็ลองนึกถึงภาพผู้ชาย แต่เพียงแค่คิดคำว่าผู้ชาย ภาพของพระเอกหนังกับภาพของพี่ซันก็เด้งขึ้นมาทันทีไม่พอแถมยังมีความรู้สึกด้วยว่าอยากลองสัมผัสตัวของพวกเขา
“มึงเป็นเกย์จริง ๆ นิว” ผมพูดออกมากับตัวเองแล้วปิดไฟข่มตานอนพยายามนึกถึงทะเลหรือที่ที่อยากไปเที่ยวจนสมองเริ่มโล่งค่อยหลับไป
หลังจากคืนวันนั้นที่ผมมั่นใจแน่นอนแล้วว่าตัวเองเป็นเกย์เพราะผมเริ่มรู้สึกว่าจะมองตามผู้ชายที่หล่อ ๆ หรือล่ำ ๆ ตลอด และที่สำคัญผมเริ่มมีความต้องการในการอยากใกล้ชิด อยากสัมผัสตัวของพี่ซันมากขึ้น แต่ผมก็ไม่เคยทำอะไรล้ำเส้นไปกว่าการแอบมอง จนผมขึ้นชั้นมัธยมต้น โรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ สังคมใหม่ และชั้นเรียนตอน ม.1 นี่เองที่ทำให้ผมได้รู้เรื่องการ "ช่วยตัวเอง" จากเพื่อนผู้ชายคนอื่น และการช่วยตัวเองในครั้งแรกของผมก็เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้มากจากเพื่อนที่โรงเรียน ผมลองทำตามที่เพื่อนเคยพูดไว้ แต่แตกต่างจากที่เพื่อนผมพูดไว้หน่อยตรงที่มันบอกว่าจินตนาการถึงผู้หญิงสวย ๆ อึ๋ม ๆ มาเป็นผู้ชาย หล่อ ๆ ล่ำ ๆ แทนและแน่นอน ผู้ชายในจินตนาการการช่วยตัวเองครั้งแรกของผมคือพระเอกหนังโป๊กับพี่ซัน ยิ่งกว่านั้นผมจิตนาการไปถึงกลิ่นเหงื่อของพี่เขาที่ผมเคยได้สัมผัสตอนที่ซ้อนมอไซต์ นั่นยิ่งทำให้อารมณ์พลุ้งพล่านจนในที่สุดผมก็ถึงจุดหมายปลายทางในการเรียนรู้เรื่องเพศครั้งแรก... และครั้งต่อ ๆ มา ผมก็ลองเปลี่ยนผู้ชายในจิตนาการในการช่วยตัวเองไปเรื่อย ๆ ...
ช่วงชั้น ม.2 วันนึงผมตามป๊าไปทำงานที่บริษัท ผมนั่งเล่นนอนเล่นเกมส์ PSP ที่ป๊าซื้อให้ที่ห้องทำงานป๊าอยู่นานจนเบื่อ ป๊าเลยบอกให้ผมออกไปเดินเล่นสำรวจบริษัทดู ผมพยักหน้ารับแล้วก็เดินออกจากห้องทำงานไปตามส่วนต่างๆ ของบริษัท ตึกตรงฝั่งที่ป๊าผมอยู่เป็นบริษัทขายรถ ส่วนตึกอีกด้านเป็นบริษัทขนส่งที่ม๊าผมอยู่ ผมเดินเล่นสำรวจดูจนทั่วทั้งสองตึกเสร็จเลยเดินออกไปที่ด้านหลังที่ซึ่งเป็นส่วนของฝ่ายซ่อมบำรุง โกดังเก็บรถกับพวกอะไหล่ ถัดไปก็เป็นโกดังเก็บของกับเก็บรถของฝั่งบริษัทขนส่งที่ม๊าทำ ผมเดินเข้าไปดูการทำงานของคนงานที่นั่น นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นการทำงานของพนักงานอย่างจริง ๆ จัง ๆ เพราะปกติผมไม่เคยเดินมาดูเลยสักครั้ง หัวหน้าแผนกโกดังเห็นผมเดินมาก็รีบถามผมว่ามีอะไรรึเปล่า ผมเลยบอกไปว่าไม่มีอะไรแค่มาเดินเล่น หลังจากนั้นผมก็ถามคำถามเกี่ยวกับการทำงานของพวกเขาว่าแต่ละวันต้องทำอะไรบ้างหัวหน้าแผนกคนนั้นก็ตอบคำถามผมอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ถึงหูผมจะฟังแต่สายตาของผมนั้นกลับมองไปที่คนงานชายหนุ่มหลายสิบคนที่กำลังขนของขึ้นรถ-ลงรถกันอย่างขยันขันแข็ง แต่ละคนนั้นมีใบหน้าที่เปียกเหงื่อแทบจะทุกคนและแต่ละคนนั้นก็มีรูปร่างที่ดูแข็งแรง พอดูไปดูมาสมองส่วนต่ำก็เริ่มจินตนาการถึงชายหนุ่มพวกนั้นว่า ถ้าเขามายืนล้อมผมตอนที่เปียกเหงื่ออย่างนี้แล้วถอดเสื้อผ้าออกมันจะรู้สึกยังไง พอเป็นนั้นผมก็รีบหันหน้าหนีจากภาพที่ดูอยู่เพราะผมเริ่มรู้สึกว่าน้องชายตัวเองมันกำลังจะตื่น...
“อ้าว น้องนิว มาทำอะไรครับ” แต่เสียงเรียกชื่อผมจากพี่ซันนั้นเรียกให้ผมหันไปทางต้นเสียงที่เขาเปล่งออกมา พอผมหันไปก็เจอพี่เขากำลังเดินลงมาจากด้านหลังรถบรรทุกคันหนึ่งแล้วเดินมาทางผม ภาพที่เห็นคือพี่ซันมีผ้ารัดหน้าผากสีดำที่รัดผมขึ้นไปด้านบน ใบหน้ามีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มไปหมด เสื้อที่สวมอยู่บนตัวเขาเป็นเสื้อกล้ามสีดำที่เป็นแบบรัดรูปที่เปียกเหงื่อเผยให้เห็นกล้ามเนื้อส่วนบนได้อย่างชัดเจน แถมกล้ามแขนใหญ่ๆ ล่ำ ๆ นั้นก็มันวาวไปด้วยเหงื่อ มือทั้งสองข้างสวมถุงมือช่าง ที่เอวมีเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงินที่เป็นยูนิฟอร์มฝ่ายโกดังของบริษัทมัดไว้ที่เอว ส่วนกางเกงก็เป็นกางเกงยูนิฟอร์มขายาวสีน้ำเงินแบบเข้าชุดเหมือนกับเสื้อ รองเท้าที่ใส่ก็เป็นแบบเซฟตี้สีดำ
“หวัดดีพี่ซัน”
“หวัดดีครับ โกดังมันร้อนมาทำอะไรครับ”
“ผมเบื่อห้องทำงาป๊าเลยมาเดินเล่นเฉย ๆ”
ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงพักเที่ยงพอดี พอเสียงออดดังบอกเวลาพักคนงานแต่ละคนเลยทยอยวางงานที่ทำอยู่ในมือแล้วพากันทยอยเดินไปตรงอาคารที่เป็นศูนย์อาหารของบริษัท
“น้องนิวกินข้าวที่ไหน” พี่ซันถามผม
“ยังไม่รู้เลย” ผมตอบพี่ซันไปแล้วกดมือถือถามป๊า ป๊าบอกว่ากำลังจะโทรหาผมพอดีเพราะม๊ามารอกลับบ้านไปกินข้าวเที่ยงผมเลยบอกป๊าไปว่าผมขอไปกินที่ศูนย์อาหารบริษัทได้ไหม ป๊าก็ไม่ได้ว่าอะไร พอวางสายจากป๊าผมเลยบอกกับพี่วันว่าผมจะไปกินที่ศูนย์อาหารด้วย พี่เขาพยักหน้าให้แล้วก็เอามือมาดันหลังผมพร้อมกับพูดว่า “ปะ ไปกินข้าวกัน”
ที่ศูนย์อาหารของบริษัทนั้น นอกจากจะมีพนักงานในบริษัทแล้วก็มีลูกค้าที่มาใช้บริการกับทางบริษัทเราใช้บริการด้วย หรือบางทีแม้แต่คนด้านนอกบริษัทเองก็มานั่งกินหรือซื้อกลับไปกินที่บ้านก็มี ผมจำได้ว่าวันนั้นผมสั่งกระเพราะหมูกรอบแล้วพี่ซันก็สั่งตาม พอได้อาหาร พี่ซันก็ชวนผมไปนั่งกินกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเขา เพื่อนพี่เขาบางคนก็มีแซวพี่แกบ้างว่าตีสนิทกับลูกประธานเพราะอยากได้เงินเดือนเพิ่มเหรอแล้วก็พากันหัวเราะ... ผมก็เริ่มพูดคุยกับเพื่อนพี่เขาคนอื่น ๆ บ้าง พอคุยไปคุยมาจนถึงเรื่องหนัง พี่ซันเลยถามผมว่าผมน่าจะมีแผ่นหนังเยอะ ถ้าผมไม่ว่าอะไรเขาจะขอรบกวนยืมมาดูได้ไหม ช่วงนั้นการก๊อปปี้แผ่นซีดีกำลังแพร่หลาย ผมเลยบอกให้พี่เขาไปซื้อแผ่น cd-r มา แล้วอยากได้เรื่องไหนผมจะก็อปให้หลังจากนั้นพี่ซันก็มักจะซื้อแผ่นเปล่ามาให้ผมก๊อปหนังให้เรื่อย ๆ
จนถึงช่วงที่ปิดเทอมหน้าร้อนจะขึ้น ม.3 ผมได้ขอป๊าไปเรียนพิเศษดนตรี ช่วงนั้นผมเลยไม่ค่อยได้เจอพี่ซัน วันนึงผมเลิกเรียนพิเศษเสร็จแล้วกลับมาถึงบ้านป๊ากับม๊าบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องไปกรุงเทพฯสัก 4-5 วัน เลยถามว่าผมจะไปด้วยหรือจะอยู่บ้าน ตอนนั้นผมกำลังสนใจในเรื่องเรียนตีกลองเลยบอกป๊าว่าไม่อยากขาดเรียนและตอนนั้นเฮียนัทก็ไปต่างประเทศกับพี่คนอื่นๆ ผมเลยต้องอยู่บ้านคนเดียว เข้าวันที่ 2 ที่ป๊ากับม๊าไม่อยู่หลังจากที่ผมเลิกเรียนตีกลองในตอนค่ำก่อนเข้าบ้านผมได้แวะร้านสะดวกซื้อ ซื้อขนมกับน้ำอัดลมก็เจอพี่ซันกำลังเลือกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ พี่ซันทักผมว่าทำไมกลับบ้านค่ำจัง ผมเลยบอกว่าพึ่งเรียนพิเศษเสร็จพอผมกับพี่เขาจ่ายเงินเสร็จ ตอนที่เดินออกจากร้านเพื่อที่จะกลับบ้านพี่ซันก็ถามผมว่าช่วงนี้ผมมีหนังใหม่บ้างไหมผมเลยบอกว่ามีเยอะเลยเพราะเวลาเข้าร้านขายซีดีทีไรต้องได้มาไม่ต่ำกว่า 3-4 เรื่อง พี่ซันเลยถามผมว่ามีชื่อเรื่องอะไรบ้าง ผมไล่ชื่อหนังที่พอจำได้ให้พี่เขาฟังแต่มันก็ยังไม่ครบผมเลยลองถามพี่เขาว่า “พี่ซันไปเลือกที่บ้านไหมล่ะ” พอผมพูดจบพี่ซันก็มองหน้าผมแล้วรีบตอบ “ไม่ครับ พี่ไม่กล้าเข้าไปบ้านน้องนิวหรอก”
“ไม่เป็นไรพี่ซัน นิวอยู่คนเดียว ป๊ากับม๊าก็ไม่อยู่”
“ป๊ากับม๊าน้องนิวไม่อยู่พี่ยิ่งไม่กล้าเข้าไปครับ”
พี่ซันแสดงออกชัดเจนว่าเขาเกรงใจที่จะเข้าบ้านผมมากๆ แต่สุดท้ายผมก็ตื๊อเขาจนในที่สุดเขาก็ยอมเดินตามผมมาที่บ้าน
“ชาติก่อนน้องนิวต้องทำบุญมาเยอะแน่ ๆ ถึงเกิดมาสบายแบบนี้”
พี่ซันพูดกับผมตอนที่เขาเดินเข้ามาในตัวบ้านผมเป็นครั้งแรก ผมพาพี่เขาเดินไปที่ห้องดูหนังแล้วผมก็เดินขึ้นไปเอาโน้ตบุคของตัวเองกับหนังที่ผมมีบางส่วนในห้องมาให้พี่เขาเลือก พอพี่เขาได้หนังที่ต้องการ 5-6 เรื่องผมก็จัดการก๊อปปี้แผ่นหนังให้เขาโดยที่ใช้ทั้งโน๊ตบุคและคอมตั้งโต๊ะที่มีอยู่ในห้องดูหนังก็อปแผ่น ระหว่างที่รอผมก็ค้นแผ่นก๊อปปี้ที่ผมเคยก๊อปไว้แล้วไม่ได้เขียนกำกับแผ่นนั้น ๆแยกออกมา
“ทำไรครับ”
พี่ซันถามผม ผมก็ตอบไปว่าจะแยกแผ่นที่ไรท์แล้วแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรออกจากซองเก็บเพื่อที่จะเอามาเปิดดูแล้วจะเขียนกำกับ พี่ซันก็ช่วยผมทำโดยที่เขาเป็นคนเอาแผ่นนั้น ๆ ไปเปิดกับเครื่องเล่นที่อยู่ในห้องดูหนัง พอรู้ว่าเป็นแผ่นอะไรผมก็จะเอาปากกาเมจิกเขียนไว้บนแผ่น ถ้าแผ่นไหนเปิดไม่ได้ผมก็สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นแผ่นโปรแกรมคอมฯ ก็จะแยกไว้อีกกอง ผมกับพี่เขาทำช่วยกันไปเรื่อย ๆ จนเหลือไม่ถึง 10 แผ่น ก็แจ็คพอตแตกเพราะแผ่นที่เปิดล่าสุดเป็นหนังของ Jeff Stryker ที่ผมเคยขอเพื่อนมาก๊อปไว้
“เฮ้ย!!!” ผมร้องออกมาทันทีที่โปรเจคเตอร์ในห้องดูหนังฉายภาพต้นเรื่องนั้นขึ้นมา
“หนังโป๊นี่” พี่ซันพูดออกมา
ผมรีบคลานไปตรงเครื่องเล่นแผ่นตรงที่พี่ซันนั่งอยู่ กดเอาแผ่นออกมาแล้วกลับมานั่งที่เดิม
“นี่มีหนังแบบนี้ด้วยเหรอ” พี่ซันถามผมยิ้ม ๆ ผมรู้สึกออกร้อนที่หน้าเลยพูดปัดไปว่าสงสัยของเฮียนัทมั้ง ผมจัดการเขียนกำกับแผ่นนั้นลงไปแล้วยัดใส่กระเป๋าเก็บแผ่นซีดี พี่ซันเห็นผมทำแบบนั้นก็ค่อย ๆ คลานมานั่งใกล้ ๆ ผม
“น้องนิวก๊อปแผ่นนี้ให้พี่ด้วยสิ” พี่ซันพูดกระซิบที่ข้างหูผมอย่างกลับกลัวคนอื่นได้ยินทั้ง ๆ ที่มีเราอยู่กันแค่ 2 คน ตอนที่ลมที่ออกจากปากพี่ซันสัมผัสบริเวณหูผม ผมรู้สึกขนลุกพร้อมกับหัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันที ผมดันตัวออกห่างแล้วเออออรับปากว่าจะก๊อปให้ พอก๊อปแผ่นหนังจนหมดทุกเรื่องผมก็เดินออกไปส่งพี่ซันที่หน้าบ้าน ก่อนพี่ซันจะเดินออกไปเขาถามว่าขอเบอร์ผมไว้ได้ไหม ผมก็บอกเบอร์ให้พี่เขาไปหลังจากวันนั้นพี่ซันก็จะโทรมาถามผมประจำว่าผมมีหนังใหม่หรือหนังโป๊เรื่องอื่นไหม เรื่องหนังปกติผมก็ตอบไปว่ามีส่วนหนังโป๊ผมก็ปฏิเสธว่าไม่มีหรอก แต่พี่ซันก็จะชอบแซวว่าผมต้องมีอยู่แต่โกหกเขาแน่ ๆ…
ช่วงปิดเทอมเดือนตุลาฯ ป๊ากับม๊าชวนผมกับพี่ ๆ ไปเยี่ยมป้า+กับไปเที่ยวภูเก็ต แต่ผมก็ไม่ไปเพราะผมสมัครเรียนเบสเพิ่มที่โรงเรียนสอนดนตรี พอผมอยู่บ้านคนเดียว นอกจากเพื่อนที่โรงเรียนกับที่เรียนพิเศษแล้วผมก็ได้พี่ซันคุยเป็นเพื่อนเพิ่มมาอีกคน วันอาทิตย์วันนึงผมไม่มีเรียนพิเศษแล้วรู้สึกเบื่อ ๆ อยากนั่งรถเล่น แต่ว่าผมขับรถยนต์ยังไม่เป็นบวกกับอายุยังน้อย เลยได้แต่ขี่มอไซต์วนไปวนมาที่บ้านกับบริษัท พี่ซันที่เดินออกมาจากหอพักแล้วเห็นผมเลยร้องถามผมว่าผมจะขับมอไซต์ไปไหนผมเลยบอกว่าไม่ได้ขับไปไหน ผมแค่เบื่อ ๆ เลยขับวนเล่น พี่ซันเลยถามว่าทำไมไม่ไปห้างหรือไปเล่นกับเพื่อนผมเลยบอกว่าจริง ๆ อยากนั่งรถยนต์เล่นมากกว่า แต่ว่าขับไม่เป็นบวกกับไม่มีคนขับเป็นอยู่บ้านสักคน พี่ซันเลยพูดขึ้นว่า “พี่ขับเป็นแต่ไม่มีรถ ถ้ามีรถพี่จะพาไปนั่งรถเล่น” ผมเลยมีความคิดบางอย่างขึ้นมาในหัว ผมถามพี่ซันว่าวันนี้ว่างไหม เขาบอกว่าว่าง กำลังจะไปซื้อข้าวเที่ยงพอดีผมเลยบอกว่าเดี๋ยวผมเลี้ยงข้าว แต่ขอให้เขาขับรถพาผมไปนั่งรถเล่นได้ไหม เขาทำหน้างง ๆ ผมเลยบอกว่าที่บ้านผมมีรถแต่ไม่มีคนขับ ส่วนพี่ขับรถเป็นแต่ไม่มีรถ “ฉะนั้นพี่ซันก็มาขับรถให้นิว เดี๋ยวนิวเลี้ยงข้าวเที่ยง+ข้าวเย็นด้วยเลย” ผมไม่รอคำตอบพี่ซัน ผมจัดการดึงแขนเขาขึ้นมาซ้อนท้ายมอไซต์ผมแล้วขับพาเขามาที่บ้าน
“เอาอย่างนี้จริงดิ” พี่ซันพูดกับผมตอนที่ผมขับมอไซต์เข้ามาจอด
“เอ่อ... น้องนิว พี่ไม่กล้าขับอ่ะ” พี่ซันมองรถเก๋งที่จอดอยู่แล้วพูดขึ้นมา
“ทำไมล่ะ ก็พี่ขับรถเป็นนี่ กลัวอะไร”
“กลัวรถที่บ้านน้องนิวนี่แหละ”
“กลัวมันทำไม”
“ก็ดูยี่ห้อสิ พี่ไม่กล้าขับหรอก”
พี่ซันมองรถเก๋ง 3 คันที่จอดอยู่โรงรถแล้วส่ายหน้าไปมา ผมเลยถามว่างั้นเอากระบะก็ได้ พี่ซันหันมาถามว่าบ้านผมมีกระบะด้วยเหรอผมบอกว่ามีอยู่หลังบ้านเพราะตอนนั้นป๊าทำที่จอดหน้าบ้านไว้แค่ 3 คัน ผมเดินลากแขนพี่ซันอ้อมมาที่ด้านหลังแล้วชี้รถกระบะ 4 ประตูแบบยกสูงให้พี่ซันดู
“คันนี้ขับได้ไหม”
“คันนี้โอเคครับ” เขาพูดยิ้ม ๆ ให้ผม ผมก็พยักหน้าแล้วเดินเข้าไปเอากุญแจรถกระบะมายื่นให้เขา ผมบอกให้เขาขับไปรอผมที่หน้าประตูรั้วแล้วตัวเองก็เข้าไปเอากระเป๋ากับจัดการล็อกบ้านให้เรียบร้อย พอผมเปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างคนขับพี่ซันก็ออกตัว พี่ซันถามผมว่าอยากไปไหนผมเลยบอกว่าไปจังหวัดไกล้ ๆ นี้ได้ไหม เพราะมันห่างกันชั่วโมงนิด ๆ พี่ซันตอบรับเสร็จก็พาผมขับรถข้ามจังหวัด ระหว่างทางเราก็แวะซื้อของกินกับเข้าปั๊มบ้าง เราคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้และก็ไม่พ้นเรื่องหนังโป๊ ผมโดนพี่เขาแซวอยู่หลายทีจนไปไม่เป็น พอมาถึงจังหวัดที่ผมอยากมาผมก็บอกให้เขาขับไปร้านอาหารร้านหนึ่งที่ที่บ้านผมชอบมากินถ้ามาที่นี่
“พี่ว่าพี่กินตามสั่งปกติดีกว่ามั้ง ร้านแบบนี้แพงแน่ ๆ”
พี่ซันบอกผมหลังจากที่จอดรถที่ลานจอดของร้าน แต่ผมไม่สนใจเดินลงรถดุ่ม ๆ เข้าไปในร้าน พนักงานพาผมไปเลือกโต๊ะผมเลยเลือกโต๊ะที่ติดริมแม่น้ำ พี่ซันก็เดินตามมานั่งลงที่ตรงข้ามผม พอกินเสร็จพี่ซันก็พาผมนั่งรถเล่นต่อ ผมจำไม่ได้ว่าเราไปที่ไหนกันบ้าง แต่กลับมาถึงบ้านเกือบ ๆ 2 ทุ่ม ผมเลยเลี้ยงข้าวพี่ซันที่ร้านตามสั่งใกล้ ๆ บ้าน พอกลับมาถึงบ้าน พี่ซันล็อกรถเสร็จก็ยื่นกุญแจรถให้ผมพร้อมพูดแซวผมอีกว่า “อยากได้หนังโป๊จากน้องนิวอีกจัง” ผมเลยตีไปที่ไหล่พี่เขา พี่เขาก็แกล้งตีผมกลับเบา ๆ แต่ผมไม่หยุดแถมยังชกตามตัวพี่เขาต่ออีก แล้วพี่เขาก็ทำกับผมกลับเอาไปเอามาเราทั้งคู่เริ่มวิ่งไล่กันไปมาพอพี่ซันจับผมได้ก็จี้เอวผมจนผมลงไปนอนดิ้นหัวเราะที่พื้น ผมรู้สึกว่าจะหายใจไม่ทันเลยตัดสิ้นใจเอาแขนทั้งสองข้างส่งไปโอบรอบตัวพี่เขาแล้วดึงลงมากอดพอพี่ซันล้มตัวลงทับผม ตอนนั้นหน้าพี่เขาซบอยู่ที่ซอกคอผมแล้วหัวเราะแต่ลมหายใจพี่เขาที่พ่นออกมานี่สิ สัมผัสเข้าที่ซอกคอผมเต็ม ๆ จนผมรู้สึกขนลุกแต่ผมก็ไม่ยอมปล่อย กลิ่นโรลออนผู้ชายจาง ๆ จากตัวพี่ซันลอยเข้าจะมูกผม เริ่มทำให้สติผมกระเจิง
“ปล่อยพี่ได้แล้ว ไม่หนักเหรอ” พี่ซันพูดบอกผมหลังจากที่ผมกอดพี่เขาไว้นาน ผมเลยคลายแขนออกแต่พี่ซันกลับทำให้ผมคิดไปไกลอีกครั้งเพราะแทนที่เขาจะลุกออกไปจากตัวผมเฉย ๆ เขากลับเอาแขนตัวเองสอดเข้ามาที่หลังของผมแล้วโอบผมลุกขึ้นยืน
“ตัวเบามากกก” พี่ซันพูดขำ ๆ ให้ผม แต่ใจผมนี่โคตรเต้นแรงเลย #โดนกอดครั้งแรกเป็นแบบนี้เองเหรอ...
ผมเดินพาพี่ซันมาจนถึงหน้าบ้านแต่พี่เขายังไม่ยอมกลับ ผมถามว่าทำไม เขาก็กอดอกมองผมแบบมีเลสนัยแล้วพูดว่า “ไม่เชื่อหรอกว่าน้องนิวไม่มีหนังโป๊อีกนะ.. นะ.. พี่ขอสักเรื่องหน่อยสิ” พี่ซันพูดจบก็ทำหน้างุ้ย ๆ อ้อน ๆ ส่งมา จู่ ๆ ผมก็รู้สึกออกร้อนที่หน้า เพียงแค่อึดใจเดียว พี่ซันยกคิ้วขึ้นทั้งสองข้างแล้วมองหน้าผมแบบสงสัย
“หืม... ทำไมหน้าแดง... เขินเหรอ... นี่น้องนิวเขินพี่เหรอ” พอพี่เขาพูดจบผมก็รีบหันหน้าหนีจะเข้าบ้าน แต่พี่ซันก็ไม่หยุดพูดล้อผมขำ ๆ ว่าผมเขินเขาอยู่เรื่อย ๆผมเลยบอกไปว่าถ้าไม่หยุดล้อจะไม่ให้หนังจริง ๆ นะ เขาก็เลยเงียบแล้วทำท่ารูดซิปปาก แต่ก็ยังอมยิ้มใส่ผมอยู่ ผมเข้ามาในบ้านแล้วบอกให้พี่เขาไปรอที่ห้องดูหนัง ผมเดินขึ้นไปเอากระเป๋าโน้ตบุคที่ห้องนอนกับแผ่นซีดีเปล่าลงมาหาพี่ซัน ผมเปิดโน้ตบุคเอาฮาร์ดดิสแบบพกพา 2 อันมาเสียบแล้วเขาโฟลเดอร์ที่เก็บหนังไว้จากนั้นก็หันโน๊ตบุคไปหาพี่ซันแล้วบอกให้พี่เขาเลือกดูเอาว่าอยากได้เรื่องไหน พี่ซันยิ้มแฉ่งส่งมาแล้วจัดการคลิกเลือกดูหนังไปเรื่อย ๆ ผมเห็นพี่เขาตั้งใจเลือกหนังอยู่เลยเดินขึ้นห้องนอนไปเอา PSP มานั่งเล่นที่โซฟาในห้องดูหนังรอ
ผ่านไปสักพักพี่ซันก็บอกว่าได้หนังที่ต้องการแล้วผมก็จัดการเอาฮาร์ดดิสที่มีหนังที่เขาอยากได้ไปเสียบที่คอมตั้งโต๊ะแล้วไรท์แผ่น ระหว่างที่รอนั้นพี่ซันถามผมว่าขอดูเรื่องอื่นอีกหน่อยได้ไหมผมก็อนุญาตแล้วบอกให้พี่เขาเสียบฮาร์ดดิสอีกอันจากนั้นพี่เขาก็ตั้งใจดูหน้าจอโน้ตบุคต่อ แต่แล้วเขาก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปจามเดิมที่มีท่าทีกระตือรือร้นในการเลือกหนัง จู่ ๆ ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นจ้องเขม็งที่หน้าจอ บางทีก็มีคิ้วขมวด บางทีก็มีสีหน้าอึ้ง ๆ สลับจากมองหน้าจอมามองหน้าผม พอผมหันไปมองเขาก็กลับไปมองจอเหมือนเดิม พอเครื่องซีดีรอมของคอมตั้งโต๊ะส่งแผ่นที่ไรท์แผ่นสุดท้ายออกมาผมก็จัดการเดินไปกดปิดเครื่อง
“น้องนิวเป็นเกย์เหรอ” พี่ซันพูดกับผมตอนที่ผมยื่นแผ่นซีดีอันสุดท้ายที่ไรท์เสร็จให้เขา
“พี่ซันว่าอะไรนะ”
“น้องนิวเป็นเกย์เหรอ”
ผมเงียบ ไม่มอนหน้าพี่ซัน แต่ก็พยักหน้าน้อย ๆ ส่งไปให้ พี่ซันไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาแค่ยิ้มน้อย ๆ ส่งมาให้ผมแล้วเขาก็กลับไปสนใจหน้าจอต่อ ตอนนั้นผมก็นึกขึ้นได้ว่าฮาร์ดดิสลูกนั้นมันมีหนังเกย์กับคลิปแล้วก็รูปผู้ชายอยู่ แสดงว่าพี่เขาต้องเปิดเจอแน่ ๆ ผมเลยเงียบเดินไปนั่งลงที่โซฟาแล้วไม่มองไปที่ทางพี่ซันอีกเลย
“เคยทำรึยัง” จู่ ๆ พี่ซันก็ถามผมขึ้นมา
“ทำอะไร” ผมหันไปถามเขา
“ก็แบบนี้ไง” พี่ซันหันหน้าจอโน้ตบุคที่กำลังฉายภาพของผู้ชายญี่ปุ่น 2 คนที่กำลังมีเซ็กกันอยู่มาทางผม
“บ้าเหรอ ไม่เคย”
“หึหึ” พี่ซันหัวเราะแค่นั้นแล้วก็หันหน้าจอกลับไป
“แล้วเคยชักว่าวรึยัง”
“พี่ถามอะไรเนี่ย”
“ถามก็ตอบสิครับ... เคยยัง”
“ก็เคย” ผมตอบเสียงเบา
“หึหึ” พี่เขาหัวเราะกลับมาแล้วก็กดอะไรสักอย่างกับโน้ตบุคแล้วหันมาทางผมอีก
“แล้วแบบนี้ล่ะ เคยยัง”
ผมหันไปมองที่หน้าจอโน้ตบุคเป็นภาพของผู้ชายญี่ปุ่นหุ่นลีน ๆ กล้ามสวย ๆ คนนึงกำลัง ดูดอมท่อนลำของผู้ชายหุ่นล่ำ ๆ อีกคนอยู่
“ไม่เคยเหอะ!!!” ผมพูดปัด ๆ ไปแบบไม่สนใจแต่พี่เขาก็ยังไม่หยุดแกล้งผมอีก
“แล้วอยากลองไหมล่ะ”
“ไม่เอา ไม่อยากลอง ไม่อยากอะไรทั้งนั้น” ผมตอบพี่ซันไปแล้วล้มตัวนอนหันหน้าเข้าหาพนักพิงของโซฟาเอา psp มาเล่นต่อ
“โอเค โอเค ไม่แกล้งก็ได้ พี่จะกลับละ” พี่ซันพูดขึ้นมาผมเลยค่อย ๆ หันไป พี่ซันหยิบเอาแผ่นซีดีที่ไรท์เสร็จมาถือไว้แล้วลุกออกจากโต๊ะผมก็เดินพาพี่เขามาส่งที่หน้าบ้าน พอผมเปิดประตัวรั้วเสร็จพี่ซันก็เอามือข้างนึงมาจี้เอวผมแล้วพูดขึ้น
“คืนนี้อย่าแอบชักว่าวล่ะ” พี่ซันพูดเสียงนิ่ง ๆ แล้วเดินออกไปผมเลยส่งมือไปตีที่ไหล่ พี่เขาก็หัวเราะไล่หลังมาแล้วโบกมือบ๊ายบายให้ผม แต่คืนนั้นแทนที่ผมจะหลับอย่างสบาย สุดท้ายภาพของพี่ซันในวันที่เหงื่อชุ่มตัวในโกดังก็ตามมาหลอนสมองของผมจนในที่สุดน้องชายของผมมันก็งอแงตื่นขึ้นผมเลยต้องจัดการช่วยให้มันสงบ แต่ตอนที่ผมกำลังช่วยตัวเองอยู่นั้นพี่ซันก็โทรมาขัดจังหวะผมกดรับสายแล้วถามเขาไปทันทีว่าดึก ๆ ดื่น ๆ โทรมามีอะไร
“ชักว่าวอยู่เหรอครับ หึหึ” พี่ซันพูดมาผมเลยโวยวายใส่เขาไป เขาก็เอาแต่หัวเราะส่งมาผมเลยบอกว่าจะกดวางสายแล้ว พี่เขาเลยพูดประโยคสุดท้ายมาว่า “ครั้งหน้าถ้าไม่มีเพื่อนชักด้วย บอกพี่นะ พี่จะไปชักเป็นเพื่อน ฮาฮาฮา” พอพี่เขาพูดจบผมก็กดวางสายทันที หลังจากวันนั้นถ้าผมเจอพี่ซันที่บริษัทหรือที่อื่นพี่เขาจะชอบแซวผมโดยการที่อมยิ้มแล้วมองผมด้วยหางตาผมก็จะแลบลิ้นส่งไปให้เขาอยู่เรื่อย ๆ
ปิดเทอมใหญ่จะขึ้น ม.4 ผมก็ไม่ค่อยได้เจอหน้าพี่ซันเลยเพราะผมเรียนพิเศษหนักมาก บวกกับตอนนั้นผมเริ่มสนิทกับพี่กอล์ฟเพื่อนเฮียนัทมากขึ้นเลยไม่ค่อยได้ไปเล่นที่บริษัท พี่ซันก็มีโทรหาผมบ้าง แต่สวนมากผมไม่ค่อยได้รับสายเขาเท่าไหร่จนก่อนหน้าที่จะเปิดเทอมอีกไม่ถึงอาทิตย์ พี่ซันก็โทรมาหาผมในช่วงเช้า เขาบอกว่าอาทิตย์หน้าจะกลับบ้านแล้ว ผมเลยถามว่าจะกลับกี่วันเขาบอกว่าเขาจะกลับถาวรเลย ผมรู้สึกงง ๆ อยู่เลยถามเขาใหม่ เขาบอกว่าเขาต้องกลับไปอยู่บ้านช่วยที่งานบ้านเพราะพ่อเขาล้มป่วยเขาเลยโทรมาบอกผมว่าก่อนกลับเขาจะไปกินเลี้ยงกับเพื่อนสนิทที่ร้านหมูกระทะ เขาเลยชวนผมไปกินด้วยถ้าผมสะดวก แต่ผมปฏิเสธไปเพราะกลัวคนอื่นจะมองไม่ดีหรือคิดว่าผมเลือกปฏิบัติกับพนักงานในบริษัท แต่หลังจากนั้นความรู้สึกที่ว่าถ้าไม่ได้เจอพี่ซันอีกจะเป็นยังไงก็ค่อย ๆ เกิดขึ้นในความคิดผม
วันที่กินเลี้ยงส่งพี่ซันที่ร้านหมูกระทะเป็นวันที่บ้านผมต้องไปงานเลี้ยงของญาติที่ต่างจังหวัดแต่ผมไม่ยอมไปด้วยให้เหตุผลแค่ว่าผมรู้สึกไม่สบายเหมือนจะเป็นไข้ วันนั้นเลยมีแค่ป๊ากับม๊าแล้วก็เฮียนัทที่ไปงานเลี้ยงต่างจังหวัด เวลาประมาณ 2 ทุ่ม พี่ซันก็โทรมาหาผมบอกว่าพึ่งกลับมาจากไปกินหมูกระทะผมเลยลองชวนพี่ซันมาที่บ้านบอกว่าจะไรท์หนังให้เขาเอากลับไปดูที่บ้าน พี่เขาตอบตกลงแล้วบอกว่าอาบน้ำเสร็จจะมาหา พอพี่เขามาถึงผมก็บอกให้พี่ซันเลือกหนังที่พี่เขาอยากได้แล้วผมก็จัดการไรท์ให้เขาทุกเรื่องตามที่เขาต้องการ
“พี่ซัน คืนนี้นอนเป็นเพื่อนนิวได้ไหม”
ตอนนั้นไม่รู้อะไรดลใจให้ผมถามพี่เขาไปแบบนั้น ผมคิดว่าพี่เขาคงปฏิเสธ แต่เขากลับพยักหน้ายิ้ม ๆ ส่งมาให้ พอผมไรท์หนังให้พี่เขาเสร็จผมก็ชวนพี่เขาขึ้นมาที่ห้องนอนแล้วผมก็เข้าไปอาบน้ำ หลังจากนั้นผมก็เปิดหนังเรื่องThe Scorpion King นอนดูกับพี่เขาที่บนเตียง พอดูใกล้จบผมเลยพูดให้พี่เขาฟังว่า ตอนแรกที่ดูเรื่องนี้ ผมเคยคิดว่าถ้าเจอผู้ชายหุ่นแบบพระเอกในหนังตัวจริงๆ มันจะดูน่ากลัวไหม แต่พอวันหนึ่งที่ผมได้เจอพี่ซันที่งานเลี้ยงปีใหม่ตอนนั้นความรู้สึกของผมก็เริ่มสนใจในตัวเขาขึ้นมา มันไม่ได้รู้สึกถึงเรื่องอย่างว่าในตอนแรกแต่มันเป็นความรู้สึกที่น่าดึงดูด แบบว่าอยากมองไม่ละสายตามากกว่า หลังจากนั้นผมก็เล่าเรื่องต่างๆ ที่ผมเคยรู้สึกให้พี่เขาฟัง พอพี่เขาฟังจบเขาก็พูดกับผม
“พี่ทำให้เราเป็นเกย์รึเปล่าเนี่ย หึหึ”
พี่เขาพูดเบา ๆ ขำ ๆ แล้วเอามือลูบหัวผม
“พี่ซัน ถ้านิวขอจับกล้ามพี่จะได้ป่าว”
ผมถามพี่เขาออกไปแล้วหันไปมองหน้าเขา เขายิ้มแล้วพยักหน้าให้ ผมค่อย ๆเอามือลูบไปตามกล้ามท้องของพี่ซันผ่านเสื้อยืดที่เขาใส่ มันทั้งแน่นทั้งแข็งมาก ๆ ผมพูดบอกพี่เขาไป พี่เขาหัวเราะแล้วพูดว่าก็เขาทำงานหนักตั้งแต่เด็กแถมยกของหนักทุกวันไงเลยเป็นแบบนี้
“แป๊บนะ” พี่เขาพูดขึ้นมาหลังจากที่ผมลูบกล้ามท้องพี่เขาไปได้สักพัก เขาดันตัวขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อยืดออกโยนไปที่ข้างเตียงแล้วนอนลงตามเดิม
“จะได้เห็นชัด ๆ ไง” พี่เขาพูดจบก็ยกยิ้มแล้วจับเอามือผมไปวางแปะตรงซิกแพคอีกรอบผมก็ลูบไปมาแล้วถามพี่เขาอีกที
“จับหน้าอกได้ไหม” ผมถามพี่เขาออกไป
“จับได้ครับ” เขาตอบกลับแล้วหลับตาลง ผมก็ค่อย ๆ เอามือไปลูบหน้าอกพี่ซัน จากตอนแรกใช้แค่มือเดียว ผมก็ดันตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิหันหน้าไปทางพี่เขาแล้วเอามือทั้งสองไปลูบที่หน้าอกของพี่เขาแต่ละข้างไปมาจนผมรู้สึกได้ว่าหัวนมของพี่แข็งค่อย ๆ แข็งขึ้นมา ผมมองไปที่ใบหน้าของพี่ซัน เขาหลับตาหายใจสม่ำเสมอแต่เขากัดกรามแน่นจนนูนเด่นขึ้น
“พอแล้วไหม” พี่ซันพูดกับผมทั้ง ๆ ที่หลับตาอยู่แต่ผมไม่ยอมหยุดแล้วลากมือไปลูบตามแขนพี่เขาต่อ
“พี่ซันเกร็งแขนหน่อยได้ไหม” ผมบอกพี่ซันเขาก็เกร็งแขนให้ผมทันทีโดยที่ไม่พูดอะไร
“โคตรใหญ่ โคตรแข็งเลย ดูสิสองมือกำรอบยังไม่ถึงเลย” ผมพูดออกมา
“พอแล้ว” พี่ซันพูดจบก็จับมือผมออกจากตัวเขา ผมก็เลยปล่อยมืออีกข้างออกแล้วนั่งนิ่ง
“น้องนิวถอดเสื้อดิ ให้พี่ดูกล้ามน้องนิวหน่อย”
“นิวไม่มีกล้ามหรอก พี่ก็น่าจะรู้”
“พี่ยังถอดให้ดูเลย เร็วสิ พี่ขอดูหน่อยแค่ครั้งเดียวเอง” พี่ซันคะยั้นคะยอจนผมยอมถอดเสื้อออก พอผมวางเสื้อลงพี่ซันมองหน้าอกกับหน้าท้องผมไม่ละสายตาเลย
“พอแล้ว อายอ่ะ” ผมเห็นพี่ซันมองไม่วางตาเลยเอามือทั้งสองข้างกอดอกตัวเองไว้
“ขาวทั้งตัวเลยไหมเนี่ย” พี่ซันพูดจบก็ส่งมือมาจับแขนผมที่กอดอยู่ออก ผมรู้สึกอายเลยหลับตาหันหน้าหนี
พี่ซันส่งมือหนาของเขามาลูบที่หน้าอกกับหน้าท้องผมไปมาพอช่วงไหนที่ลูบโดนหัวนมผม ผมก็บิดตัวหนี
“เป็นไร”
“มันจักจี้” ผมตอบพี่เขาไป แต่แท่นที่เขาจะหยุดเขากลับเอานิ้วโป้กับนิ้วชี้มาจับหัวนมผมแล้วบี้ไปมาเหมือนกับกำลังหมุนวอลลุมวิทยุยังไงยังงั้น ผมร้องครางออกมาพร้อมกับบอกให้เขาหยุดแต่แทนที่เขาจะหยุด เขากลับส่งมืออีกข้างมาทำกับหัวนมผมอีกด้าน ผมรู้สึกจักจี้ขึ้นกว่าเดิมจนตัวบิดไปบิดมาแต่พี่ซันก็ไม่ยอมลดละแถมยังหัวเราะให้ผมอีก ผมทนเกร็งตัวไม่ไหวเพราะหมดแรงเลยล้มตัวลงนอนพี่ซันก็ยังไม่หยุด ดันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วส่งมือทั้งสองข้างมาบี้หัวนมผมต่อ
“อ๊า... ไม่ไหวอ่า...พอแล้ว”
“เสียงน่าฟังจัง” พี่ซันเริ่มบี้นิ้วลงมาหนักขึ้นจนเริ่มเจ็บ ผมลืมตามองดูหน้าหัวนมตัวเองที่พี่ซันยังบี้อยู่จนเปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งสองข้าง ผมมองหน้าพี่ซันที่ตาเขายังจ้องที่หน้าอกผมอยู่แล้วจู่ ๆ ความรู้สึกสยิวก็เกิดขึ้นในใจ ความเจ็บที่หน้าอกเริ่มเปลี่ยนเป็นความเสียว ผมเริ่มกัดริมฝีปากตัวเองแล้วครางเสียงเล็กๆ ออกมาพร้อมกับหลับตาลง
“อิ๊... อ๊ะ...”
“เฮ้ย!!!... ครางอย่างนี้เลยเหรอ” พี่ซันตกใจ ผมเลยลืมตามองพี่ซัน พี่ซันก็มองหน้าผม
“กะ... ก็มัน... มันเสียว” คำสุดท้ายผมพูดเบา ๆ พี่ซันยกยิ้มให้ผมแล้วปล่อยมือออกจากหัวนมผมแล้วเขาก็ล้มตัวลงนอนหงายมองหน้าผมยิ้ม ๆ ผมเลยอยากเอาคืนเขาบ้าง
ผมดันตัวลุกขึ้นแล้วไปนั่งคร่อมที่ช่วงเอวพี่ซัน เขามีท่าทีตกใจแต่ไม่ได้พูดหรือแสดงการปฏิเสธอะไร ผมลองส่งมือไปทำแบบเดียวกับที่เขาทำกับผมก่อนหน้านี้ แต่แทนที่พี่ซันจะมีอาการเหมือนผมที่โดน เขากลับหลับตาแล้วยิ้มเอามือทั้งสองไปผสานกันไว้ที่ใต้หมอนแทนพร้อมกับที่พี่ซันครางเสียงทุ้มต่ำออกมา
“ทำต่อสิ พี่กำลังสบายเลย” เพราะผมหยุดมือที่เล่นหัวนมเขาพี่ซันพูดกับผมพร้อมกับรอยยิ้มกว้า จู่ ๆ ภาพที่ผมเคยดูไหนหนังเกย์ก็ผุดขึ้นมาในหัวผมเลยตัดสินใจถามพี่ซันออกไปในสิ่งที่ผมต้องการ
“นิวขอชิมได้ไหม”
“ชิมอะไร”
“หน้าอกพี่อ่ะ”
“หึหึ เอาดิ ลองดู” พี่ซันตอบกลับพร้อมกับหลับตาลงอีก ผมค่อยๆ โน้มหน้าลงไปที่หน้าอกพี่ซัน แล้วเริ่มทำตามอย่างในหนังที่เคยดู เริ่มจากแลบลิ้นสัมผัสกับเม็ดอมกสีน้ำตาลเข้ม พี่ซันมีอาการกระตุกเป็นจังหวะอย่างเห็นได้ชัดตามการกระทำของลิ้นผม จากที่เอาลิ้นเขี่ยไปมาผมก็เริ่มครอบปากลงดูดหน้าอกพี่เขา พี่ซันเริ่มมีเสียงครางเล็ดลอดออกมาเป็นจังหวะ ตอนนั้นสมองที่ทำหน้าหน้าที่ผลิตความคิดความต้องการของตัวผมเองครอบงำทั้งตัวไปหมดแล้ว ผมเลยเริ่มปล่อยให้ร่างกายตัวเองทำตามที่ใจต้องการ ผมทั้งดูดทั้งเลียหน้าอกพี่ซันอย่างหิวกระหาย “ทำไมโคตรดีอย่างนี้วะ” ผมคิดคำนี้ขึ้นมาในใจไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ทำตามที่ใจต้องการ พอได้ทำแล้วทำไมมันหยุดไม่ได้เลย
“อ้า... อดอยากมาจากไหนครับ” พี่ซันครางถามผมแต่ผมไม่สนใจ ผมละริมฝีปากออกจากหน้าอกของพี่ซันแล้วมองดู หน้าอกที่ขึ้นลูกของเขาตอนนี้เปียกไปด้วยน้ำลายของผมจนเกือบทั่ว ผมถอยตัวลงต่ำจากนั้นเอาหน้าลงไปซุกที่ซิกแพคเรียงตัวสวยของพี่ซัน สูดดมเอาไออุ่นจากตัวผู้ชายคนนี้เข้าจนเต็มปอดแล้วแลบลิ้นลากเลียซิกแพคแต่ละลูกอย่างละเอียดยิบ พี่ซันไม่พูดอะไรต่อ มีเพียงเสียงครางกับมือที่จับหัวผมเล่น ไม่นานก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาดันที่คอผมเลยผละหน้าออกจากซิกแพคแล้วมองดู ตรงส่วนกลางของกางเกงบอลที่พี่ซันใส่นั้นนู่นเด่นเป็นลำพาดไปทางขวามือผมมองหน้าพี่ซัน เขายกยิ้มแล้วพูดขึ้นมาแค่สั้น ๆ “อยากทำอะไรทำเลย” ผมจึงไม่ขออนุญาตอะไรพี่เขา จัดการเอามือตัวเองจับที่ขอบกางเกงบอลกับกางเกงในรูดลงพร้อมกัน ท่อนลำอวบใหญ่สีเข้มดีดผึ่งออกมานอนราบไปกับหน้าท้อง ผมค่อย ๆ เอามือที่สั่นของตัวเองไปจับให้มันตั้งลำชูขึ้นมา
“ไง เห็นของจริงครั้งแรกละสิ ใช่ไหม”
ผมไม่ตอบอะไรพี่เขา เพราะตอนนั้นหัวใจของผมมันเต้นแรงจนเหมือนจะกระเด็นออกมาจากหน้าอกยังไงยังงั้นเลยให้ตายสิ ผมค่อย ๆ เอามือดึงรั้นหนังที่หุ้มปลายออกช้า ๆ พอส่วนหัวหลุดจากเปลือกหุ้มมันก็บานออกเหมือนดอกเห็ดสีม่วงเข้ม ผมค่อย ๆ เอาจมูกไปสูดดม พี่ซันก็หัวเราะกับการกระทำของผม พี่ซันบอกผมว่าสะอาดแน่นอนมั่นใจได้ ผมลองสูดดมกลิ่นอีกที มันไม่มีกลิ่นอะไรเลยหรืออาจจะเป็นเพราะพี่เขาอาบน้ำมาแล้ว ผมลองชักท่อนลำนั้นเข้าออกช้า ๆพี่ซันก็ล้มหัวลงนอนหลับตา ความต้องการในตัวผมสั่งให้อ้าปากแล้วค่อย ๆ ครอบมันลงไปบนท่อนลำนั้น พอปากผมสัมผัสท่อนลำ พี่ซันเด้งตัวหนีผมทันที
“เฮ้ย เอาจริงดิ นึกว่าจะแค่ชัก” พี่ซันร้องถามผมท่าทีตกใจ
“ไม่ได้เหรอ” ผมถามพี่ซันออกไปเขาขำพรืดออกมาแล้วบอกผม
“ไม่ใช่ไม่ได้ แต่พี่ไม่คิดว่านิวจะกล้าอมจริง ๆ”
“งั้นขออมได้ไหม” ผมถามพี่ซันออกไป
“เอ่อ... กะ... ก็ได้ครับ” พี่ซันมีท่าทีกระอึกกระอัดแต่ก็ตอบรับผมแล้วล้มตัวลงนอน
“พี่ไม่มีโรคแน่นอน สาบานได้” พี่ซันพูดจบก็เอามือมาลูบแก้มผม
ผมค่อย ๆ ไถลตัวลงไปนอนทับหน้าขาของพีซันแล้วจัดการอมท่อนลำของพี่เขาที่มีท่าทีอ่อนลงนิดหน่อยจนมันกลับมาแข็งอีกรอบไม่นานผมก็ผละออก
“มันคับปากจังอ่ะ” ผมพูดแล้วจับของพี่ซันชักขึ้นลง
“เขาเรียกควยใหญ่ครับ” พี่ซันพูดตอมผมกวน ๆ
“ตกลงจะเอาไง จะชักกับพี่ไหม” พี่ซันถามผมหลังจากที่ผมชักของพี่เขาเล่นอยู่นาน
“อายยังไงไม่รู้” ผมพูดอ้อมแอ้มเบา ๆ พี่ซันก็หัวเราะแล้วสั่งให้ผมรีบถอดกางเกงออก ผมก็ทำตามพี่เขาอย่างว่าง่าย แล้วพอถอดกางเกงเสร็จ พี่ซันมองจ้องตัวผมที่เปลือยเปล่าแล้วพูดออกมา
“โหหห... ขาวยันไข่” ผมรู้สึกอายเลยรีบเอามือปิดน้องชายตัวเองพี่ซันก็หัวเราะให้กับท่าทางที่ผมทำ
“เปิดหนังไหม” ผมถามพี่ซัน เขาพยักหน้าให้ผมเลยเดินไปค้นเอาแผ่นหนังของ Jeff Stryker เรื่องหนึ่งมาเปิด เรื่องนี้ในตอนแรก Jeff Stryker เขาจะมีเซ็กกับผู้หญิง หลังจากฉากแรกจบไปนั้นเขาจะมีเซ็กกับผู้ชาย พอหนังเริ่มเล่นพี่ซันก็บอกให้ผมหยิบเอาทิชชู่มาด้วย พอได้ผมก็รีบกลับมานอนลงข้างพี่ซันที่เตียงเขาบอกให้ผมชักพร้อมกับเขาแต่อย่าชักเร็วเดี๋ยวแตกเร็วแล้วจะไม่สนุก ผมก็ทำตามเขา
“มีฉากผู้ชายด้วยเหรอ” หนังเล่นมาจนถึงพาร์ทที่พระเอกมีเซ็กกับผู้ชาย ผมรีบหันไปถามพี่ซันว่าจะให้กดข้ามไหมแต่พี่เขาบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวดูไปพร้อมกันก็ได้ ผมก็เลยปล่อยเลยตามเลย แต่แทนที่ผมจะดูหนังกับพี่ซัน ก็กลายมาเป็นผมมองหน้าพี่ซันแทนส่วนพี่เขาก็เอาแต่สนใจหนังที่ฉายอยู่ บางทีก็พูดขึ้นมาว่า “รูก้นมันเล็ก ๆ แล้วยัดควยใหญ่ๆ ขนาดนั้นเข้าไป ไม่เจ็บตายห่าเหรอ” พอพี่เขาเห็นผมเงียบไปนานก็หันมาหาผม
“มีอะไรเหรอ” พี่ซันถามผม
“อยากลองจูบ” ผมพูดไปตรง ๆ
“เอ่อ... พี่เคยจูบแต่ผู้หญิง ยังไม่เคยจูบผู้ชายน่ะ” เขาตอบผมมายิ้ม ๆ ผมก็นึกว่าเขาคงไม่เอาด้วย
“แต่ลองดูก็ได้ จูบก็คงเหมือนกัน” พี่ซันพูดต่อจนจบประโยค ผมมองที่หน้าพี่เขานิ่ง ๆ แล้วค่อย ๆ เอื้อมใบหน้าเข้าไป
นี่เป็นจูบครั้งแรกของผม ผมแค่เอาริมฝีปากไปแนบกับริมฝีปากพี่ซันแล้วผละออกพี่ซักก็หัวเราะแล้วบอกว่านี่มันจุ๊บ ไม่ใช่จูบ พอเขาพูดจบก็เอามือข้างที่ว่างมาจับคางผมบีบเบา ๆ ให้ผมอ้าปาก จากนั้นพี่ซันก็ดึงปากผมเข้าไปกระกบพี่ซันเริ่มจากดูดเม้มตามริมฝีปากบน-ล่างของผมไปมา จากนั้นก็เอียงหน้าแล้วประทับปากลงมาที่ปากผมแล้วบดจูบตามหลัง พี่ซันทำซ้ำ ๆ ไปมา ผมเอามือข้างที่ว่างไปจับที่หัวไหล่พี่ซันแล้วปล่อยมือของตัวเองข้างที่ชักท่อนลำอยู่ตามไปจับที่ไหล่อีกข้าง ไม่นานพี่ซันก็ปล่อยมือของตัวเองที่ชักอยู่มาจับที่หลังผมแล้วลูบไปมา ผมไม่รู้ว่าพี่เขาแสดงสีหน้ายังไงเพราะผมเอาแต่หลับตารับสัมผัสจูบของพี่ซันอยู่ตลอดเวลา
หลัง ๆ ผมเริ่มหายใจไม่ค่อยตรงจังหวะเลยดันหน้าอกพี่เขาออกพี่ซันถามว่าเป็นอะไร ไม่ชอบเหรอผมเลยบอกว่าเปล่า ขอหายใจนิดนึง เขายกยิ้มแล้วดึงแก้มผมไปหอม “น่ารัก” พี่ซันพูดออกมาสั้น ๆ แล้วกลับไปนอนหงายดูหนังต่อ พอผมรู้สึกว่าตัวเองควบคุมการหายใจได้ก็โน้มหน้าไปจูบกับพี่ซันต่อ พี่เขาก็ตอบรับผมทันที ครั้งนี้พี่เขาเอามือทั้งสองข้างจับที่ท้ายทอยผมแล้วบดจูบไปมาไม่นานเขาก็ปล่อยมือออกแล้วจู่ ๆ ก็จับเอวผมแล้วยกตัวผมขึ้นไปนอนทับตัวเขาโดยที่ปากเขายังจูบกับปากผมอยู่ พอผมขึ้นไปนอนทับบนตัวพี่เขา ท่อนลำพี่เขาสัมผัสกับช่วงขาอ่อนของผม จากแค่จูบตอนแรกพี่ซันก็เริ่มเปลี่ยนเป็นใช้ลิ้นไล่ต้อนลิ้นผมไปมาในปาก ตอนนั้นทำเอาผมหายใจผิดจะหวะบ่อยมาก ๆ พี่ซันผละออกไปแล้วบอกให้ผมค่อย ๆ หายใจแล้วจับจะหวะดี ๆ แล้วก็เริ่มประกบปากกันใหม่ จากที่นอนนิ่ง ๆ พี่ซันก็จับเอวผมดันขึ้นลงให้ตัวสไลด์ไปกับตัวเขา แต่พอทำแรง ๆ มันฝืด พี่ซันเลยถามว่ามีโลชั่นหรือออยไหมผมพยักหน้ารับแล้วรีบลุกไปเอาเบบี้ออยในห้องน้ำมาพี่ซันรับเบบี้ออยจากมือผมไปแล้วเปิดฝาบีบลงบนตัวเขา เอามือลูบไปมานิดหน่อยก็ดึงแขนผมขึ้นไปนอนทับเขาเหมือนเดิม ครั้งนี้มีเบบี้ออยช่วยหล่อลื่น ผมก็เริ่มสไลด์บนตัวพี่เขาไปมา
“ชักพร้อมกันนะ” พี่ซันบอกกับผมผมก็ดันตัวขึ้นนั่งทับหน้าขาพี่ซัน ผมกับพี่ซันเริ่มจับท่อนลำของตัวเองชักพร้อมกันแล้วก็มีสลับจับของกันและกันชักบ้างช่วงที่พี่ซันบอกว่าเขาใกล้แล้วผมเลยหยุดชักของตัวเองแล้วจับมือพี่เขาออกจากท่อนลำของเขาเอง ผมค่อย ๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปให้ท่อนลำของเราแนบกัน จากนั้นผมก็ใช้มือรวบเอาท่อนลำของเราทั้งคู่ชักพร้อมกัน พี่ซันดูการกระทำของผมแล้วยกยิ้มพร้อมกับส่งมือทั้งสองข้างมาเขี้ยหัวนมผมรั่ว ๆ
“พี่จะออกแล้วครับ พี่จะแตกแล้ว”
“เหมือนกันพี่ซัน นิวจะออกแล้ว”
พี่ซันเริ่มส่งเสียงร้องครางอออกมาดังขึ้นผมก็รีบสาวมือชักเร็วขึ้น ไม่นานกล้ามเนื้อบนตัวพี่เขาก็เกร็งพร้อมกับร้องครางออกมา “อ๊า... แตกแล้ววว” ท่อนลำพี่ซันกระตุกในมือผมหงึก ๆ แล้วพ่นน้ำออกมาระรอกแรกแล้วน้ำของผมก็ออกตาม ระรอกถัด ๆ มาของพี่ซันมันเยอะมาก ๆ และแรงด้วย มันแรงจนกระเด็นไปเลอะที่หน้ากับผมของพี่ซัน มีบางส่วนโดนหมอนที่เขาหนุนอยู่ด้วย พอพี่เขาหยุดตัวกระตุก ผมก็ค่อย ๆ นอนทาบตัวเขาลงไปแล้วสไลด์ตัวกับน้ำว่าวของเราทั้งคู่ไปมา เสียงพี่ซันหัวเราะหึหึดังอยู่ที่ข้างหูผม ผมบอกว่าขอนอนแบบนี้แป๊บนึงนะ พี่ซันตอบกลับมาแค่สั้น ๆ ว่า “ครับ” จากนั้นผมก็หลับตาลงเอาหูแนบฟังเสียงหัวใจที่เต้นรัวของพี่ซัน พอเสียงนั้นดังกลับมาเป็นจังหวะสม่ำเสมอผมก็หันหน้าไปจูบพี่ซันพี่เขาก็ตอบรับจูบผมเป็นอย่างดี พอผมพอใจกับรสจูบนั้นก็ดันตัวเองขึ้น พี่ซันเอื้อมมือไปดึงทิชชู่มาจัดการเช็ดตัวผมแล้วตามด้วยตัวเขาจนสะอาดจากนั้นเราทั้งคู่ก็เข้าไปอาบน้ำกัน
ผมตื่นตอนรุ่งเช้าเพราะพี่ซันปลุก พี่ซันกลัวว่าป๊ากับม๊าผมจะกลับมาก่อนเลยจะรีบกลับหอ
ผมเดินไปเปิดประตูรั้วให้พี่ซันแล้วถามเขาว่าเขาจะไปทำอะไรต่อ เขาบอกว่าเขาจะไปทำความสะอาดห้องพักแล้วก็ว่าจะนอนเอาแรง พอใกล้ถึงเวลารถออก เพื่อนเขาจะไปส่งที่ท่ารถ ผมพยักหน้ารับจากนั้นพี่ซันก็เดินออกไป ผมก็เดินเข้าบ้านตัวเอง
ป๊าม๊าและเฮียนัทก็กลับมาตอนเที่ยงกว่า ๆ
วันนั้นทั้งวันผมก็เอาแต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงนึกถึงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
แต่พอคิดไปคิดมา ผมรู้สึกว่าตัวเองทำเรื่องที่เสี่ยงไปรึเปล่า ถ้าป๊าม๊ามาเห็นก่อนที่พี่เขาจะออกบ้านล่ะจะเป็นยังไง พอคิดได้อย่างนั้นผมเลยนั่งสำนึกกับตัวเองพร้อมกับบอกกับตัวเองว่าต่อไปห้ามทำแบบนี้กับคนในบริษัทของที่บ้านเด็ดขาด
จนถึงค่ำ พี่ซันโทรมาหาผมบอกว่าเขากำลังจะไปท่ารถแล้ว ผมก็บอกเขาไปแค่ว่าขอให้เดินทางปลอดภัยถ้ามีโอกาสคงได้เจอกัน เขาก็บอมผมมาว่า
“ไว้อะไร ๆ ลงตัวแล้วมีเวลา พี่จะมาหานะ”
พอสิ้นคำพูดนั้นผมก็กดวางสายแล้วเข้านอน คืนนั้นผมหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทั้งคืน...
ช่วงแรกที่พี่ซันกลับไปแล้ว เขาจะโทรมาเล่นกับผมแทบจะวันเว้นวัน
แต่พอเวลาผ่านไปเป็นเดือนสองเดือนเขาก็โทรมาน้อยลงจนเหลือแค่ 2-3 อาทิตย์จะโทรมาครั้งนึง
จวบจนช่วงที่ผมใกล้จะสอบปลายภาคเรียนแรกของ ม.4 พี่ซันก็โทรมา เขาบอกผมว่า
“พี่จะแต่งงานเดือนหน้านะ”
ตอนนั้นผมก็อวยพรให้เขาโชคดีและมีความสุข
“ที่แต่งเพราะผู้ใหญ่เขาอยากให้แต่ง แต่ พี่ไม่ลืมน้องนิวนะ ถ้ามีโอกาสพี่จะกลับไปหา”
พี่ซันบอกผมมาแบบนั้น ผมก็คิดแค่ว่า เอ้อ... ก็ดีที่อย่างน้อยเขาจะไม่ลืมเรา...
.
.
.
หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้รับสายพี่ซันอีกเลย พอผมโทรไปเขาก็บอกว่า “งานในไร่ยุ่งมาก เดี๋ยวว่างแล้วจะโทรหา”
แต่พอผ่านไป 2 อาทิตย์ ผมก็เลยลองโทรหาพี่ซันอีกที...
“ขอโทษค่ะ... เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
.
.
.
จากวันแรกที่ผมเจอพี่เขา เวลาผ่านมาแล้วกว่า 20 ปี.
จากวันแรกที่ผมเจอหน้าพี่เขาเป็นครั้งสุดท้าย เวลาผ่านมาแล้ว 15 ปี.
ผมไม่รู้ว่าพี่เขาจะอยู่ที่ไหนหรือจะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า...
แต่สุดท้ายแล้ว...... พี่เขาก็ลืมผมไปจริง ๆ......
.
.
แต่สำหรับผม ยังคงไม่เคยลืมเขาไปจากความทรงจำอยู่ดี...... “พี่อาทิตย์” ผู้ชายคนแรกของนิว.
............................................END............................................
ประสบการณ์ครั้งแรกของผม ครั้งนี้ผมอาจจะบรรยายเยอะหน่อยนะครับเพราะมีหลายคำพูดกับหลายเรื่องที่ผมจำมันไม่ค่อยได้แล้ว
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะครับ
นิว NJ.
ดีครับ มีความทรงจำดีๆเก็บไว้ ขอบคุณครับ. ชอบสไตล์การเขียนของไรท์มากครับ สุดยอด ขอบคุณครับ ขอบคุณ ขอบคุณมาก
ขอบคุณครับ{:sm-45:} ขอบคุณนะฮะ ดีครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณนะ ความทรงจำที่ดี แต่จบเศร้า ขอบคุณ ชอบอ่ะน่ารักดี ขอบคุณมากคราบบบ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ละมุนมากเลยเขียนแล้วอ่านเพลินดีขอบคุณมากครับ น่ารักน่าเศร้า บรรยายได้ละเอียดมากเลยครับ อ่านง่าย {:5_146:}