Vitamin25 โพสต์ 2022-6-24 21:58:26

เรื่องของพี่ดิน [4]

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Vitamin25 เมื่อ 2022-6-24 21:58

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นถึงแม้พี่ดินจะรู้สึกตื่นเต้นและอยากลองบ้างก็ตาม
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมพวกพี่เขาถึงตกลงกันง่าย เหมือนกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อน

พอมีจังหวะก็เลยลองถามดู ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย
พวกพี่เขาไม่เคยรู้จักกับพี่กะเทยกลุ่มนั้นมาก่อน แต่ของแบบนี้มันแค่มองตาก็รู้ใจว่าคนไหนเล่นด้วยได้ คนไหนไม่เล่นด้วย

และนี่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกพี่เขาทำแบบนี้เพียงแต่ว่าแคมป์ที่พี่ดินมาอยู่ตอนแรกนั้น
พื้นที่แถบนั้นไม่ค่อยมีกะเทยสักเท่าไหร่ทั้งพี่ดินและพี่เมฆก็เลยไม่ได้มีโอกาสเห็นอะไรแบบนี้

พวกพี่ในวงเหล้านั้นยังบอกต่ออีกว่า ถ้าไปตั้งแคมป์จุดไหนแล้วเจอที่มีกะเทยเยอะๆนะเหมือนสวรรค์เลย
ได้เสียวฟรี แถมไม่ต้องเสียเงินอีกเอาไว้วันหลังจะให้พวกพี่ดินกับพี่เมฆไปลองบ้าง

-----------


ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่วันก็เป็นไปอย่างที่พวกพี่เขาพูดจริงๆคราวนี้พี่กะเทยกลุ่มนั้นก็กลับมาพร้อมกับเพื่อนอีกหลายคน
เหมือนจะเอามาประกบคู่ใครคู่มันเลย

ทีแรกก็ทำเป็นว่ามานั่งกินเหล้ากัน ซื้อกับแกล้มมาฝากเต็มไปหมด
พอพวกพี่เขาเริ่มเมา คราวนี้พวกพี่กะเทยก็เริ่มลูบไล้ตามเนื้อตัวไปมาเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้กัน

พี่ดินบอกว่าถึงจะรู้สึกเกร็งๆอยู่บ้างแต่พอเริ่มเมาใจมันที่มันอยากกระหายเต็มที่อยู่แล้วก็เลยโดนชักจูงได้ง่าย
อีกทั้งตอนนั้นในวงเริ่มเหลือกันไม่กี่คนแล้ว ที่สำคัญพี่เขาบอกว่า พี่เมฆหายไปก่อนใครเลย!

ด้วยความที่ใกล้บริเวณนั้นมันก็มีป่าหญ้าขึ้นรก ซึ่งที่พวกเขาจะมีเซ็กส์อะไรกันก็ต้องในป่าแบบนี้เท่านั้น
จะพาเข้าไปที่แคมป์ก็ไม่ได้ เดี๋ยวคนอื่นรู้

คือเรื่องนี้นอกจากคนในวงเหล้าที่นั่งกินกันประจำ คนอื่นในแคมป์ก็แทบไม่มีใครรู้เลย
เพราะพอเลิกงานมา ถ้าคนไหนมีลูกมีเมียก็ไม่ค่อยมาสุงสิงกับพวกพี่เขาอยู่แล้ว
และแน่นอนว่าในแคมป์นั้นคนอื่นก็ไม่มีใครอยากเดินเฉียดเข้ามาใกล้กลุ่มที่นั่งกินเหล้าเช่นกัน

เรื่องที่พวกพี่เขามีเซ็กส์กับกะเทยก็เลยจะรู้กันแค่ในวงเหล้า
พี่กะเทยคนที่มาคลอเคลียกับพี่ดินนั้นพาพี่ดินเดินเข้าไปในป่าข้างทางเลือกบริเวณที่ลึกและห่างใกล้จากคู่อื่นสักหน่อย

พอถึงจุดที่มั่นใจว่าลับตาคนแน่นอนแล้ว พี่กะเทยคนนั้นก็ลงมือปลดตะขอกางเกงพี่ดินทันที
ซึ่งไอ้จ้อนของพี่เขามันก็แข็งรออยู่แล้ว พี่กะเทยคนนั้นก็จับคลำลูบไปมาก่อนจะบอกว่า มันใหญ่มาก ทำไมยาวจัง จะใส่ได้มั้ยเนี่ย...

พี่ดินก็สงสัยเลยถามไปว่า จะให้ใส่อะไร พี่กะเทยเลยตอบกลับมาว่า ‘ก็ใส่ตูดไง’
พี่ดินเลยรีบบอกปัดใหญ่เลยว่า ‘ไม่ๆๆๆ ผมไม่ได้จะใส่เข้าไปในตูดพี่ ผมจะให้พี่อมเฉยๆ’ (ตรงนี้คือเรานั่งฟังยังขำอ่ะ)

จากนั้นพี่กะเทยก็เลยจัดการใช้ปากโลมเลียให้ พี่ดินบอกว่ามันเสียวมากเป็นความรู้สึกเสียวจนตัวเกร็ง
จนต้องเอามือไปจับต้นไม้แถวนั้นไว้เพื่อพยุงตัวเพราะทั้งเมาด้วยแล้วมันเสียวขนาดที่ว่าขาสั่นจนเกือบยืนไม่อยู่

ตรงนี้พอเห็นเรามองอ่อนใส่ มีการแซวเราด้วยนะ
ว่าเขาให้อมกันนะ ไม่ใช่ให้ดูด ‘ไม่เหมือนหนูตอนเด็กหรอก เห็นของพี่จับดูดเอาๆ ทำอย่างกับเป็นขวดนมเลย มันเจ็บนะนั่น’
พอพี่เขาพูดจบเลยหยิกไปหนึ่งทีหมั่นไส้

แหมมม ถ้าทำเป็นตั้งแต่เด็กขนาดนั้นแปลว่าเราก็ต้องเคยทำกับคนอื่นมาแล้วสิ!!
สักพักพี่กะเทยก็เงยหน้ามาถามทำนองว่า ‘จะให้ทำเสร็จเลยมั้ย’ พี่ดินบอกว่า ก็ทำให้เสร็จเลยสิพี่จะหยุดทำไม (โอ๊ยยยยพี่เขาเล่าเรื่องเสียวแต่เรานั่งขำ 55555)

จากนั้นพี่กะเทยก็ใช้ทั้งปาก แล้วมือรูดตรงลำโคนพี่เขาไปมา ไม่นานพี่ดินก็เสร็จแล้วตอนเสร็จดันไม่บอกพี่คนนั้นเขาด้วย ปล่อยน้ำใส่ปากเขาเฉยเลย

พี่กะเทยพอน้ำของพี่ดินเข้าปากก็รีบคายออกทันที พร้อมกับบ่นพี่ดินใหญ่เลยจะเสร็จแล้วทำไมไม่บอกเขา...

พี่ดินก็รีบขอโทษ ก็คนไม่รู้ นึกว่าให้ปล่อยใส่ปากได้เลย...

พูดจริงๆ นะตอนเรานั่งฟังนี่นั่งขำมากอ่ะ

---------

พอเสร็จกิจครั้งนั้น วันต่อมาพอรวมกลุ่มกันต่างคนต่างก็เล่าเรื่องของตัวเองกัน
ซึ่งครั้งนี้พี่เมฆเขาเล่าด้วยว่า เขาได้ลองถึงขนาดใส่เข้าไปในตูดด้วย แต่พี่คนที่เป็นคู่ขาพี่เมฆเขาบ่นว่าเจ็บ
ก็เลยไม่ได้ทำต่อ มันก็เสียวดี แต่เสียดายถุงยางมากกว่า ใส่แล้วไม่ทำให้เสร็จ มันเปลือง...

พี่ในวงก็เล่าต่อว่า ถ้าลองได้ใส่แล้วจะติดใจข้างในตูดมันบีบรัดแล้วก็เสียวไม่แพ้กับจิมิ๊ของผู้หญิงเลย

แต่เวลาทำให้ระวัง ต้องอีกฝ่ายล้างก้นให้ดีๆ เพราะถ้าทำไม่ดีอาจจะมีสิ่งแปลกปลอมติดมาได้

หมายถึงอึนั่นแหละ...

ตอนนั้นพอได้ฟังพี่เขาก็แหยงๆ ไม่คิดจะใส่หรอก แค่ให้อมก็พอแล้ว

ต่อมาเหมือนทางฝังนั้นก็รู้ว่า สามารถจะมาหากินผู้ชายจากที่แคมป์นี้ได้ก็เหมือนบอกกันปากต่อปาก

พี่ดินบอกว่าชอบเลย เสียวฟรีอย่างที่พี่ในวงเหล้าบอกจริงด้วย
ตอนหลังเริ่มชิน ยืนแอ่นให้อมเลยบางทีมารุมอมรุมเลียให้พี่เขาพร้อมกันสองคนก็มี

ตรงจุดนี้เราเองก็ตกใจเหมือนกัน ได้แต่หันไปมองช้าๆ หืมมม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แค่คิดไม่ถึงว่าจะขนาดนี้55555

แต่สุดท้ายก็ได้แค่นั้น ไม่ได้มีอะไรเกินเลย พี่เขาก็เคยลองที่จะใส่เข้าไปอยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นความรู้สึกยังไง
แต่มันใส่ไม่ได้ รูตูดมันไม่ได้เหมือนรูจิ๊มิของผู้หญิงมันไม่ได้มีน้ำหล่อลื่นช่วยให้ใส่เข้าไปง่าย

พอเป็นรูตูด แค่จะยัดเข้าไปก็ยากแล้ว จะไปแหกรูเขามากก็ไม่ได้ถ้าเกิดตูดเขาฉีกขึ้นมา
กลัวไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาให้ ด้วยความเป็นเด็กพี่เขามองแบบนั้นไปอีก

แต่ว่านะ...หนูจำได้ ตอนนั้นพี่ยังยัดใส่เข้ามาในตูดหนู ทั้งที่หนูยังเด็ก!! ไม่กลัวหนูตูดฉีกบ้างรึไง!!!
พอเราโวยวายใส่พี่เขาก็ขำพร้อมกับโยกหัวเราไปมา บอกว่า ‘ก็ตอนนั้นมันหมั่นเขี้ยว เราเอาแต่ร้องอ๊ะๆๆอยู่นั่น เห็นแล้วอดใจไม่ไหว’

อ๋อจ้า...
-----------

พี่ดินเล่าต่อว่า แต่สุดท้ายมันก็มีปัญหาเข้ามาจนได้ ทั้งที่จริงแล้วพวกพี่เขาก็ใช้ชีวิตปกตินะ
ถึงเวลาเลิกงานจะสุงสิงอยู่แต่กับพวกพี่กลุ่มวงเหล้าเป็นหลัก
แต่เวลาทำงานคือใครใช้ทำอะไรก็ได้หมดไม่เคยเกี่ยงเลย

แต่พอพวกคนในแคมป์บางคนรู้เริ่มรู้เรื่องที่พวกพี่เขาไปมีเรื่องอย่างว่ากับกะเทยก็เลยโดนล้อ
เหมือนเขาจะล้อแบบเอ่ยชื่อแค่พี่ดินกับพี่เมฆเพราะเป็นเด็กสุด แต่ไอ้ที่ล้ออ่ะมันเหมือนกระทบพี่คนอื่นในวงเหล้าด้วย

สุดท้ายก็เลยมีปัญหากัน ชกต่อยตามภาษา พี่ดินกับพี่เมฆก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ช่วยแยก
แต่อย่างว่าคนมันเยอะก็ตะลุมบอนกันมั่วไปหมด

พอหัวหน้ามาก็โดนด่ากันทั้งหมด แต่ฝ่ายที่เป็นวงเหล้าจะโดนหนักสุด
พวกพี่เขาก็น้อยใจเหมือนทำนองว่าเวลางานก็ทำเต็มที่แต่ทำไมเวลาโดนด่าถึงต้องเอาเรื่องที่ตั้งวงเหล้ามาด่าด้วย
เขาอุตส่าห์ไปหาที่นั่งกินกันนอกแคมป์แล้วเพราะไม่อยากมีปัญหาเนี่ยแหละ

สุดท้ายก็เคลียร์กันไม่ลงตัว พวกพี่วงเหล้าก็ขอเบิกค่าแรงทั้งหมดเลย จะไม่ทำงานที่นี่แล้วเพราะรู้สึกเหมือนหัวหน้าลำเอียง

ตรงนี้จากที่เราจับใจความได้ เหมือนฝั่งคนที่เขาไม่ได้มากินเหล้าด้วยจะอิจฉาพวกพี่ดินกับพี่เมฆ
ที่หัวหน้าพยายามสอนงานแล้วก็ปั้นให้มาเป็นช่าง เพราะหลายคนในแคมป์ทำงานกับหัวหน้ามาหลายปี
ยังเป็นได้แค่จับกัง ยังไม่เคยโดนสอนงานให้เป็นช่างเลย... ก็เลยพยายามหาเรื่องแซะแขวะ
แต่พอดีมันกระทบกับคนอื่นในวงเหล้าด้วย แล้วทางนั้นก็เหมือนเป็นผู้ใหญ่พอๆ กันต่างฝ่ายต่างก็เลยไม่ยอมแล้วมีปัญหากันในที่สุด
หลังจากนั้นหัวหน้าก็เรียกพี่ดินกับพี่เมฆไปคุย บอกว่าเสียดายเห็นว่าเป็นคนฉลาดและขยันทั้งคู่ อยากให้อยู่ทำต่อ
แต่พวกพี่เขาไม่อยากอยู่แล้วเหมือนกันเพราะถ้ากลุ่มพวกพี่วงเหล้านี้ไป แล้วพวกพี่เขาอยู่ต่อก็คงเคว้งพอสมควร

หัวหน้าเลยตัดสินใจส่งพี่ดินกับพี่เมฆไปทำงานที่แคมป์ของคนรู้จักเขา เหมือนจะฝากทำงานที่นี่ไว้ก่อน
ถ้าหากฝั่งหัวหน้าขาดคนก็จะยืมตัวพี่ดินกับพี่เมฆมาช่วยเป็นครั้งคราวไม่ต้องมาอยู่ประจำจะได้ไม่มีปัญหา เพราะเสียดายฝีมือ

พวกพี่เขาเลยตกลง ที่พวกพี่ดินไม่ได้ตามพี่ในวงเหล้าไป พี่เขาบอกว่าเพราะพอมันมีปัญหาต่างคนต่างก็ไปคนละทาง
บางคนก็กลับไปอยู่บ้านก่อน บางคนก็จะไปหาญาติ ต่างๆ นานา
ซึ่งพี่ดินเองเขาก็ไม่อยากกลับมารบกวนแม่เราแล้ว เลยตัดสินใจไปทำงานต่อที่แคมป์ของคนรู้จักหัวหน้า

-----------

พอมาทำที่ใหม่พวกพี่เขาสองคนได้เรียนรู้และมีประสบการณ์จากแคมป์เก่าแล้ว
ทำให้เขารู้ว่าไม่ควรสุงสิงหรือสนิทกับใครมากจนเกินไป เพราะเดี๋ยวจะมีปัญหาตามมาอีก
ยังไงอยู่กับคนหมู่มาก ไม่ว่าจะที่ไหน ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องมีปัญหาตามมาอยู่ดีคนเรามันร้อยพ่อพันแม่มาอยู่รวมกัน

ใครชวนกินเหล้าก็กินด้วยพอเป็นพิธี นั่งกินพอหอมปากหอมคอก็ขอตัวไปนอนพัก ไม่ได้คลุกคลีคุยเล่นสนิทสนมอะไรกันแล้ว

พี่ดินบอกว่าก็ตะลอนทำงานกับแคมป์ก่อสร้างอยู่นานเป็นปีกว่า แต่ก็ไม่เห็นหัวหน้าจะขึ้นค่าแรงให้สักที
ถึงเขาจะบอกว่าฝึกให้เป็นช่างก็เถอะ แต่มันเหมือนเพิ่มงานให้พวกพี่เขาสองคนแต่ไม่ได้เพิ่มค่าแรงให้

ตอนแรกพี่เขาไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่จังหวะที่ตอนนั้นแคมป์ย้ายไปตั้งใกล้กับนิคมโรงงานอุตสาหกรรมพอดี
แล้วเห็นป้ายรับสมัครพนักงานพร้อมระบุด้วยว่าไม่ต้องใช้วุฒิสมัคร พี่ดินก็เลยชวนพี่เมฆไปลองถามดูว่าได้เงินเดือนเท่าไหร่ยังไง

ซึ่งค่าเงินเดือนอ่ะประมาณ 5,000 แต่จะมีค่าโอทีและค่าอื่นๆอีกรวมๆ แล้วก็ 9,000

ซึ่งพอมาคิดรวมกันมันมากกว่าค่าแรงของพี่เขาซะอีก เพราะตอนนั้นหัวหน้าก็เพิ่มให้นะแต่ก็ให้ค่าแรงแค่วันละ 180 บาท…
ซึ่งมันเป็นค่าแรงรายวันถ้าหากช่วงไหนไม่ได้ทำงานก็ไม่ได้เงิน

พี่ดินกับพี่เมฆก็เลยสนใจ เพราะพอเริ่มโตสักหน่อยแล้ว มาอยู่ที่กรุงเทพฯ นานพอสมควรก็เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง
และเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น พวกพี่เขาเองก็ไม่อยากเตร็ดเตร่ทำงานไปเรื่อยแบบนี้เหมือนกัน

แน่นอนว่าพอไปบอกหัวหน้าค่อนข้างไม่พอใจ เพราะไม่อยากให้ออก
(เราว่าเขาน่าจะปั้นให้เป็นช่างแต่หลอกใช้ในค่าแรงกรรมกรแน่เลย เพราะถ้าตีเป็นช่าง ค่าแรงจะแพงกว่ากรรมกรมากนะ)

หัวหน้าก็เหมือนหัวหมอพองานตรงนี้จบจ่ายค่าแรงให้พวกพี่เขาแค่ครึ่งเดียว
บอกว่าถ้าย้ายไปทำที่ใหม่ด้วยกันจะจ่ายที่เหลือให้

พวกพี่เขารู้สึกไม่พอใจมันค่าแรงของเขา เขาก็ควรจะได้ทั้งหมดในทีเดียวเพราะทุกทีก็จ่ายแบบนี้
แต่ครั้งนี้ทำไมถึงต้องรอจ่ายที่เหลือตอนย้ายไปทำที่ใหม่ด้วย

พวกพี่เขาเลยไปสมัครงานที่โรงงานนั้นกันก่อน ถ้าหากว่าเขารับเข้าทำงานก็ไม่ต้องตามหัวหน้าไป ก็เข้าทำงานที่โรงงานกันไปเลย

ซึ่งสุดท้ายโรงงานนั้นก็รับพี่เขาทั้งคู่เข้าทำงานจริงๆ คงเพราะเป็นเด็กหนุ่มและดูแข็งแรงกันทั้งคู่ด้วยก็เลยได้งานง่าย

สมัยนั้นน่าจะเพราะคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาหางานทำ ก็น่าจะไม่ได้มีวุฒิอะไรกันด้วย
กฎเกณฑ์ในการสมัครเข้าทำงานก็เลยจะไม่ได้ยุ่งยากอะไรเท่าไหร่เหมือนตอนนี้มั้ง

ซึ่งการที่พี่เขาเริ่มเข้ามาทำงานโรงงานเนี้ยมันการเป็นว่าเหมือนเป็นจุดเปลี่ยนอะไรในชีวิตของพี่เขาอะไรหลายๆ อย่างเลย

เพราะเหตุผลที่แท้จริง ที่พี่ดินเลือกโรงงานนี้ ก็เพราะว่าตอนย้ายแคมป์มาทำงานทีนี้เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่นี้

ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงในแบบที่พี่ดินชอบเลยก็คือขาว ตาโตน่ารัก ซึ่งก็คิดว่าน่าจะเป็นสเป็คของผู้ชายหลายๆคนทั่วไปด้วย
คอยตามสังเกตุมานานแล้วแต่ก็ไม่กล้าจีบเพราะกลัวผู้หญิงคนนี้จะมีแฟนแล้ว...

คงเพราะพี่เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่หนุ่มกรรมกรด้วยมั้ง ก็เลยไม่กล้าจีบสาวโรงงาน

แต่พอตอนหลังพี่เมฆรู้เข้า ก็เลยช่วยแซวให้ เหมือนผู้หญิงก็จะไม่ได้หรือมีท่าทีรังเกียจหรือปฏิเสธอะไร
แต่ก็นั่นแหละ เด็กหนุ่มบ้านนา พอจะจีบสาวจริงๆมันก็ไม่มีลูกเล่นมาก ก็ต้องค่อยๆหยอดไปเรื่อยๆ

เพราะปกติเคยแต่ใช้เงินแล้วใช้บริการสาวๆ แต่ก็ไม่เคยเริ่มจีบแบบตั้งแต่ต้นสักที...


sirsar โพสต์ 2022-6-24 23:12:13

พี่ดินติดสาวตลอดจริง แถมพอติดทีก็มีปัญหาที{:5_137:}

Vitamin25 โพสต์ 2022-6-24 21:58:27

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Vitamin25 เมื่อ 2022-6-24 21:57

ตอนหน้าจะเป็นบทสรุปเรื่องราวของพี่ดินแล้วน้า

ที่จริงเรื่องต่อจากนี้มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหดหู่ในความรู้สึกเราพอสมควร
ก็เลยอยากจะสรุปให้จบในตอนหน้าเลย และไม่อยากให้มันยืดเยื้อเท่าไหร่

แค่อยากเอามาเล่าให้ทุกคนเข้าใจเฉยๆ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้มันเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจพี่เขามากๆ

แต่ที่ต้องเล่าเพราะ มันจะเป็นช่วงที่ต่อกันกับตอนที่แม่พาเรากลับไปอยู่ต่างจังหวัด

ไม่แน่ใจว่าจะมาเล่าอาทิตย์หน้าได้มั้ย เพราะเหมือนมันจะต้องเล่าทั้งสองฝั่งในตอนที่เราเจอกันครั้งแรก (หมายถึงตอนที่เราเห็นพี่เขาครั้งแรกนะ ตอนเด็กแบเบาะไม่นับ เพราะเราจำไม่ได้ 55555)

อันนี้ต้องอธิบายให้ละเอียดมากๆ เพราะมันคือสิ่งที่พี่เขาบอกกับเรา ที่เราเขียนเพิ่มเติมไว้ในตอนที่ 7 ว่าเหตุผลทำไมถึงเป็นเรา ทำไมพี่ดินเขาถึงเลือกเรา

และพอเราได้ฟังจากพี่เขา นั่นก็เลยเป็นความรู้สึกที่ทำให้เราอยากเอามาเล่าให้คนอื่นฟังต่อ

ถ้าเกิดว่ามาเล่าได้จะพยายามพิมพ์ให้เสร็จเลย เพื่อนๆจะได้อ่านทั้งสองมุมต่อกันเลย ก็จะเป็นเรื่องของพี่ดิน

และพี่ยักษ์ที่รัก ซึ่งเป็นเรื่องก่อนที่จะไปเริ่มที่กระท่อมนั่น
มันมีเหตุผลที่เราในวัยเด็กค่อนข้างกลัวพี่เขา และไม่ค่อยกล้าคุยด้วยตั้งแต่ทีแรกมันก็อยู่ในตอนนี้แหละ

แต่ขอตัวไปเรียบเรียงอีกทีน้า เพราะเราเองก็อยากให้ทุกคนเข้าใจความรู้สึกของพี่ดินได้มากที่สุดเหมือนกัน ♥

kangped โพสต์ 2022-6-24 22:09:56

ขอบคุณครับ

lekthai โพสต์ 2022-6-24 22:10:25

ขอบคุณ อ่านเพลิน

Bunbunkup โพสต์ 2022-6-24 22:25:53

ขอบคุณครับ

jumboa โพสต์ 2022-6-24 22:27:15

ขอบคุณ​ครับ.

mojimaru โพสต์ 2022-6-24 22:39:34

ขอบคุณครับ

guide01 โพสต์ 2022-6-24 22:47:18

ขอบคุณมากนะครับ

Homealone โพสต์ 2022-6-24 22:55:59

ขอบคุณครับ

takeshi โพสต์ 2022-6-24 23:27:33

ขอบคุนคับ

kuminum โพสต์ 2022-6-24 23:31:28

ขอบคุณมากครับ

Yud6565 โพสต์ 2022-6-24 23:47:25

ขอบคุณครับ

Fammy โพสต์ 2022-6-24 23:59:37

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2022-6-25 00:11:48

สนุกมากครับ

Oscarbkk โพสต์ 2022-6-25 00:24:48

ขอบคุณครับผม

koth2 โพสต์ 2022-6-25 00:30:43

ขอบคุณครับ เป็นกำลังใจให้น๊าาา
ต่อจากคำตอบของกระทู้ที่แล้ว --> ถึงตอนนันไม่อยู่ในสายตา แต่ตอนนี้ก็ได้อยู่ในใจคนเดียวแล้ว

Forcely โพสต์ 2022-6-25 00:47:36

ขอบคุณครับ^^ Time machine โดเรม่อนต้องเข้าแล้วคุณมิน

audiwoods โพสต์ 2022-6-25 01:34:47

โดนล้อเลียนจนมีเรื่องราวใหญ่โตเลยนะ

butane โพสต์ 2022-6-25 02:09:07

ขอบคุณมากๆเลยนะครับ
หน้า: [1] 2 3
ดูในรูปแบบกติ: เรื่องของพี่ดิน [4]