รักพ่อดินที่สุดในโลกเลย ♥ [2]
“พ่อดินฮะ...ถ้าเกิดว่า...นมข้นมัน...หมดกระป๋องแล้ว…ใช้นมข้นของพ่อดินเอามาราดขนมปังกินแทนได้มั้ยฮะ?”
เราถามขึ้นในขณะที่พวกเรากำลังนั่งขนมปังกับนมข้นรองท้องยามเช้ากันอยู่
หลังจากวันนั้นที่เราแอบตื่นมารีดน้ำนมข้นของพ่อเขาออกมาแล้ว
เราก็อดสงสัยไม่ได้จริงๆว่าไอ้น้ำสีขาวขุ่นเหนียวเนอะมีกลิ่นคาวนี่มันไว้ใช้ทำอะไรกันแน่
ยิ่งเราเคยกินมันเข้าไปแล้วด้วยครั้งหนึ่ง มันก็ยิ่งคาใจเข้าไปอีก
เพราะเราได้แต่สงสัยว่าไอ้น้ำสีขาวขุ่นที่มันออกมาจากท่อนเอ็นไอ้จู๋ของพ่อดินที่พ่อเขาบอกว่าเป็นนมข้นเนี่ย...
มันกินแล้วจะเป็นยังไงต่อ? มันมีประโยชน์ต่อร่างกายหรอ?
เพราะในตอนเด็กเราคงถูกสอนกันมาว่า ถ้าเรากินอะไรเข้าไปจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย
หรืออย่างขนมที่พวกเราชอบกินกัน เราจะได้เรียนรู้มาว่ามันไม่ค่อยจะมีประโยชน์เท่าไหร่
แต่มันอร่อยไง เราเลยชอบกิน
แต่นมข้นของพ่อดินที่เราเคยกินเข้าไปเนี่ย ก็พอจะจำรสสัมผัสและกลิ่นได้มันไม่ได้อร่อยเลยสักนิด
รสชาติตอนกลืนลงไปก็แปลกประหลาด
แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ใหญ่มักจะสอนเราเสมอๆ ก็คือ ของมีประโยชน์มักไม่ค่อยอร่อย...
งั้นก็แปลว่านมข้นของพ่อดินก็มีประโยชน์งั้นสินะ!
ก่อนหน้านี้เราเองก็เคยเอาเรื่องวิธีทำนมข้นไปถามครูที่สอนวิชาวิทยาศาสตร์มาเหมือนกัน
ซึ่งครูเขาก็บอกว่านมข้นมันทำมาจากนมที่เรากินเนี่ยแหละแต่มันต้องเอานมไปผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน
กว่าจะได้ออกมาเป็นนมข้น
ก็เลยคิดว่า อ๋อ สงสัยนมข้นของพ่อดินก็ต้องเอาไปผ่านกระบวนการก่อนเหมือนกันละมั้งมันถึงจะอร่อย...
“พรูดดดดด ...แค่ก! แค่ก!!”
หลังจากที่เราถามออกไป พ่อดินก็สำลักขนมปังออกมาทันทีพอเห็นพ่อเขาสำลักแบบนั้นเราเลยเดินไปลูบหลังให้
“อย่าบอกนะ... ว่าหนูเอานมข้นของพ่อมาทาขนมปัง...เหรอ?” พ่อดินให้มาถามเราพร้อมกับสีหน้าที่ดูแหยงๆ
“ปะ...เปล่านะฮะ ผมก็แค่...สงสัย อยากรู้เฉยๆ” เรารีบปฏิเสธทันที
พ่อดินยิ้มกริ่มแล้วหันมามองหน้าเราทันที ก่อนจะเอามือมาหยิกแก้มเรา
“หนูห้ามเอามันมากินอีกเด็ดขาด รู้มั้ยครับไอ้ตัวแสบ มันไม่ดี...”
“แต่ว่า...พ่อดินเคยให้ผมกินนี่ฮะ ผมก็เลยรู้สึกสงสัย...”
“แน้! เดี๋ยวนี้เถียงพ่อหรอครับ มานี่ซิต้องโดนทำโทษซะหน่อยแล้ว!!”พูดจบพ่อดินก็ยกตัวเราขึ้นไปนั่งบนตัก
แล้วเอาหน้ามาซุกไซร้ตรงแก้มและคอเราทันทีถึงมันจะรู้สึกจั๊กจี้จนเราต้องหัวเราะออกมา
แต่พูดตามตรงว่าพอโดนพ่อเขาทำแบบนี้บ่อยๆเข้า เราเองก็รู้สึกชอบไปแล้ว...
“ว่าแต่...ช่วงนี้พ่อก็ไม่ได้ให้หนูเห็นนมข้นเลย...แล้ว...หนูไปเอานมข้นมาจากไหนน้า?...” จู่ๆพ่อดินก็ยื่นหน้ามาใกล้แล้วสบตาเรา
สีหน้าของพ่อเขายิ้มแปลกๆ เหมือนจะรู้ทัน
เราเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก ประโยคที่พ่อเขาถามเหมือนจะไม่รู้แต่สีหน้าของพ่อเขาเหมือนรู้ตัวแล้วเลย
“เอ่อ...ผม...ผมหิวข้าวแล้วฮะพ่อดิน เรากินข้าวกันดีกว่า” เรารีบเปลี่ยนเรื่องและเบี่ยงหน้าหนีทันที
“ไอ้ตัวแสบ...รีบทำเป็นเปลี่ยนเรื่องเลยนะ มีพิรุธนะเราเนี่ย!” พ่อดินพูดจบก็เอานิ้วมาดีดตรงกลางหน้าผากเราหนึ่งที
พอเห็นพ่อเขาคลายตัวจากเรา เราเลยทำทีว่ารีบวิ่งไปดูหม้อข้าวทันที
ก็จู่ๆ พ่อดินนั่นแหละ...ไม่ยอมให้เราเห็นกระจู๋ของพ่อเขาแล้ว เราก็เลยต้องแอบตื่นมารีดนมข้นออกมาดู...
ก็มันคาใจ อยากรู้นี่หน่า...ไอ้น้ำนี้มันคืออะไร
-----------
ผ่านไปไม่นาน บ้านต้นไม้ที่พ่อดินสร้างให้ มันก็เสร็จสมบูรณ์ในที่สุด
ถึงรูปร่างจะไม่ได้เป็นทรงบ้านอย่างที่เราวาดฝันไว้ก็ตาม
แต่พ่อดินก็ทำบันไดให้สามารถปีนขึ้นไปนั่งเล่นข้างบนได้เป็นพื้นไม้กระดานและมีไม้กั้นรอบๆ สูงเท่าประมาณเอวเรา
ถ้านั่งเล่นก็จะสามารถพิงหลังไปกับผนังได้เลย ทำให้ไม่ต้องกลัวตก
ส่วนกิ่งไม้ข้างบนพ่อดินก็จะเอาไม้กระดานมาตีเป็นแผงให้ เหมือนหลังคาก็จะช่วยกันแดดได้
แต่สิ่งที่ชอบที่สุดคือ พ่อเขาทำชิงช้าไว้ให้เรานั่งเล่นด้วยที่ใต้ต้นก้ามปูนั่นพ่อดินนี่น่ารักที่สุดเลย!
ทำให้พวกเราและเพื่อนๆ ย้ายถิ่นฐานจากการวิ่งเล่นในพื้นที่บ้านของพ่อเขามาเป็นบริเวณใต้ต้นก้ามปูแทน
ยิ่งวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นะ บางทีช่วงกลางวันพี่บัวถึงกับเอาครกมาตำส้มตำให้พวกเรากินกันด้วย
พอนั่งล้อมวงกินด้วยกันกับเพื่อนๆแบบนี้ก็อร่อยไปอีกแบบเหมือนกันนะ
แต่ว่า...ช่วงหลังๆมา พอถึงวันเสาร์-อาทิตย์พ่อดินจะไม่ค่อยรับงาน
ส่วนใหญ่พ่อดินก็จะบอกว่าให้เราอยู่บ้านนอนดูหนังกับพ่อเขาไม่อยากให้เราออกไปวิ่งเล่น...
แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วเพื่อนเราก็ต้องมาตามให้ออกไปวิ่งเล่นกัน พอเห็นเราไม่ออกไป
เพื่อนๆก็เลยขอเข้ามานั่งดูหนังด้วย สุดท้าย...ก็เต็มห้องจ้า 555555
ต่อมาพ่อดินก็เลยพาเราไปขี่รถเล่นแทน จำได้ว่าพ่อเขาพาเราไปหลายที่มากๆ
ถึงจะเป็นแค่มอเตอร์ไซค์ แต่รู้สึกว่าพ่อดินพาเราตะเวนไปเที่ยวซะทั่วเลย
หลายครั้งก็พาขี่เที่ยวข้ามจังหวัดก็มีนะ แบบบริเวณจังหวัดรอบข้างที่อยู่ติดกันอ่ะ
ตอนเด็กเราก็ชอบนะ รู้สึกเวลาที่ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปกับพ่อเขานี่เพลินมากๆไม่รู้สึกร้อนเลย
แต่ว่า...พอเราไม่อยู่บ้านบ่อยๆเข้าเราจะโดนเพื่อนๆยึดเอาบ้านต้นไม้ไปแล้วเนี่ย!
-----------
วันนั้นจำได้ว่าเป็นวันหยุด พ่อดินก็เลยชวนพวกพี่เมฆและพี่จอมไปจับปลาที่คลองใหญ่
เป็นลำคลองที่ทอดยาวไหลผ่านหลายตำบล หลายหมู่บ้านโดยความที่เป็นคลองสาธารณะที่เป็นส่วนรวม
คลองนี้ก็เลยไม่เคยถูกสูบน้ำออกให้คนลงไปจับปลาก็เลยจะทำให้มีปลาค่อนข้างชุก
(ปกติตามต่างจังหวัดถ้าเป็นห้วยหนองคลองบึงที่มีพื้นที่แบ่งเขตชัดเจนพอถึงช่วงเข้าฤดูฝนใหม่ๆ
เขาจะชอบสูบน้ำออกแล้วให้คนลงไปจับปลากันก็อาจจะต้องเสียค่าลงไปจับตามแต่ราคาที่ตกลง
ถ้าคนที่อยู่ต่างจังหวัดน่าจะคุ้นชินกับการจับปลาแบบนี้แต่ด้วยความที่คลองนี้มันกินพื้นที่หลายหมู่บ้านมากๆ
ก็เลยจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้)
ทีนี้พอพวกเพื่อนๆ เรามาหาเราที่บ้านพ่อดินบ่อยๆ ก็เริ่มคุ้นชินกับพ่อเขาแล้วพวกนั้นก็เลยขอไปด้วย
เราเองก็ช่วยขอพ่อเขาอีกแรง พ่อดินก็ต้องยอมใจอ่อนเลยไปเอารถไถที่บ้านแม่ของเขามา
ทำให้ตลอดเส้นทางมีแต่เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวเฮฮาของเด็กๆ ดังเต็มถนนไปหมด
เมื่อไปถึงที่หมายแล้ว สิ่งที่ทำให้เราและเพื่อนๆ ต้องหน้าจ๋อยกันหมดก็เพราะพ่อดินบอกว่า
‘ห้ามลงเล่นน้ำเด็ดขาดน้ำมันค่อนข้างลึกเดี๋ยวจะจมน้ำเอา ให้นั่งดูอยู่ริมฝั่งเท่านั้น’
ตอนนั้นที่เราโดนสั่งห้ามด้วยคงเป็นเพราะ ถ้าพ่อเขาอุ้มเราลงไปเล่น เพื่อนคนอื่นก็ต้องอยากลงไปเล่นน้ำตามแน่ๆอดเลย...
โดยวิธีหาปลาของพวกพ่อเขาก็คือ จะเดินไปวางเบ็ดตามจุดต่างๆ ดูก่อนว่าจุดไหนปลาติดเบ็ดง่าย
นั่นก็แปลว่าตรงนั้นมีปลาชุกก็จะพากันไปหว่านแหบริเวณนั้นกัน
พอได้ที่แล้วพวกพ่อดินเขาก็ถอดเสื้อผ้าใส่เพียงกางเกงในตัวเดียวพร้อมที่จะลงไปหว่านแห่แล้ว พูดตามตรงว่าตอนนั้นทำไมก็ไม่รู้เหมือนกันอดที่แอบชายตามองเป้าของพ่อเขาไม่ได้เลย...รู้สึกอยากจับ อยากลูบเป้าพ่อเขาเล่นจัง...
โดยที่ระหว่างพวกพ่อเขาลงไปจับ ก็ให้พวกเราก่อไฟรอไว้ถ้าได้ปลามาจะได้เอามาย่างกินกันเลย
พวกพ่อดินลงไปหว่านแหจับปลาได้สักพักใหญ่ ก็ได้ปลามาใส่ในถังเยอะแยะเลย
ส่วนใหญ่จะเป็นพวกปลาช่อนและปลาดุก ปลาหมออะไรพวกนี้ แต่ขนาดพวกมันจะใหญ่มากๆ
น่าจะเป็นเพราะเป็นเพราะผสมพันธุ์บวกกับฤดูวางไข่ของปลาด้วยมั้ง
หลังจากนั้นจู่ๆ ก็เริ่มมีคนจอดรถแวะดูพวกพ่อเขาจับปลากัน
จากตอนแรกมายืนดูไม่กี่คนสักพักก็มายืนออกันเกือบสิบคน บางคนก็รอที่จะเหมาปลาอารมณ์ประมาณว่ารอซื้อไปขายต่อนั่นแหละ
“ไงไอ้ตัวแสบ พ่อขายปลาพวกนี้ได้มั้ยครับ? แล้วเดี๋ยวพ่อให้เงินหนูไปซื้อขนมกินกับเพื่อนๆ”
หลังจากที่พ่อดินเดินขึ้นมาจากคลอง ก็เดินตรงมาถามเราทันที
“ผมก็อยากกินปลาที่พ่อดินหามาได้...”เราตอบไปหน้ามุ่ยๆ ทำไมไม่รู้ จู่ๆ ก็รู้สึกหวงปลาพวกนั้น
ก็พวกพ่อเขาอุตส่าห์ลงไปหามา จะมาขอซื้อกันง่ายๆ ได้ยังไง!
“งั้นเหรอ?...อืมมมม งั้นพ่อเอาตัวใหญ่สุดเก็บไว้ให้หนูแล้วกันตกลงมั้ยครับไอ้หมาน้อย”
พอได้คำตอบที่รู้สึกพอใจเราก็ยิ้มให้พ่อเขาทันที ก่อนจะโดนพ่อดินหยิกแก้มเบาๆ
หลังจากนั้นพ่อเขาก็เดินไปหากลุ่มคนที่จะมารอซื้อปลาทั้งที่ยังใส่แค่กางเกงในตัวเดียว
แถมเปียกชุ่มจนเห็นไอ้จู๋ของพ่อเขาเป็นลำเลย...
จังหวะที่ยืนคุยกันอยู่นั้น เราเห็นพวกผู้หญิงที่มารอซื้อปลาบางคนสายตาไม่ได้อยู่ที่ปลาในถังพวกนั้นสักนิด
แต่เราสังเกตุเห็นระยะสายตาของผู้หญิงพวกนั้น เล็งไปที่เป้าของพ่อเขาต่างหาก...
“พ่อดินฮะ ผมเอาผ้าขาวม้ามาให้นุ่ง เดี๋ยวจะหนาวฮะ” เราหยิบผ้าขาวม้าของพ่อเขาที่วางอยู่ใกล้ๆเราแล้วรีบเอาไปให้พ่อเขานุ่งทันที
“อ้าว แล้วของพวกพี่ละ พวกพี่ก็หนาวเป็นนะโว้ย!” พี่เมฆโวยวายขึ้นทันที
พอเห็นว่าเราไม่ได้หยิบไปให้พี่เมฆกับพี่จอมด้วยเราเลยเดินกลับมาแล้วหยิบไปให้พี่เขาสองคน
“เออ ก็แค่นี้ แทนที่จะหยิบมาให้ด้วยตั้งแต่ทีแรก สงสัยจะหวงไข่พ่อมันมั้งกลัวคนขโมย” พอพี่เมฆตัดพ้อจบ ก็โดนพ่อดินลั่นฝ่ามือลงที่กลางหัวดังเพี๊ยะทันทีทำเอาคนตรงนั้นหัวเราะกันใหญ่
หลังจากที่พูดคุยตกลงกันได้ก็มีผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มนั้นจะไปเอาตาชั่งที่บ้านมาให้
จะได้ชั่งกิโลถูก แล้วจะขายกิโลละเท่าไหร่ก็ค่อยว่ากันไป
พวกพ่อดินไม่ได้ว่าอะไรก็ตกลงตามนั้นเพราะทีแรกพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะหาปลามาขายกันอยู่แล้ว
แต่พอเห็นช่องทางที่พอจะได้เงินพวกพ่อเขาก็เลยตกลง
สักพักผู้หญิงคนนั้นกับเพื่อนก็กลับมาพร้อมกับตาชั่งตัวใหญ่แล้วก็ถุงหูหิ้วอีกจำนวนหนึ่ง
พอขายปลาไปจนหมด ก็เหลือปลาช่อนตัวใหญ่แค่ตัวเดียว
ที่พ่อดินเขาแยกมาใส่อีกถังหนึ่งเก็บเอาไว้ให้เรา...
“พี่จ๊ะ งั้นพวกฉันขอซื้อปลาช่อนตัวใหญ่นั่นก็แล้วกัน”ผู้หญิงคนนั้นเดินมาดูปลาช่อนในถังพร้อมกับหันไปบอกพ่อดิน
“เอ่อ...อันนั้นผมเก็บไว้ลูก น่าจะไม่ได้...” พ่อดินตอบอย่างลังเลก่อนที่จะหันมาหาเรา ที่กำลังทำหน้าบูดเล็กๆ
เป็นสัญญาณให้พ่อเขารู้ว่า จะขายให้ไม่ได้นะ!
“เอ่อ...คงขายไม่ได้หรอก เดี๋ยวลูกผมงอนเอา...ถ้างั้นเดี๋ยวพวกผมลงไปหาให้ใหม่แล้วกันถ้าไม่ได้ตัวใหญ่ก็อย่าว่ากันนะ ฮ่า”
พ่อดินหันไปบอกผู้หญิงสองคนนั้น พร้อมกับคุยกันหัวร่อต่อกระซิก ดูสนุกสนาน
สักพักพ่อเขาก็เดินมาก่อนจะถอดผ้าขาวม้าออกแล้วโยนมาคลุมหัวเรา
“ทำหน้าบูดใส่พ่อเหรอ? ขี้งอนนักนะไอ้ลูกหมากลับบ้านไปเดี๋ยวจะโดน” พ่อดินทุบหัวเราเบาๆหนึ่งที
ก่อนจะเดินไปหาพื้นที่หว่านแหหาปลามาขายให้ผู้หญิงสองคนนั้น
----------
ระหว่างที่พวกพ่อเขาลงไปงมแหจับปลาในคลอง พวกผู้หญิงสองคนนั้นก็ตะโกนลงไปคุยเล่นกับพวกพ่อเขาเป็นระยะๆ
เราที่นั่งฟังอยู่รู้สึกไม่ชอบใจแปลกๆ ในใจก็คิดอยากให้ผู้หญิงพวกนั้นกลับไปสักที
จะมายุ่งอะไรกับพ่อดินเขานักหนา
แถมพ่อดินยังชม และขอบคุณพวกพี่เขาด้วยที่หาตาชั่งมาให้ รู้สึกไม่ชอบใจจริงๆ
(อันที่จริงก็เป็นเรื่องปกตินะที่เขาต้องขอบคุณอยู่แล้ว แต่ตอนเด็กไงงี่เง่าไปตามภาษา แค่แอบงี่เง่าในใจคนเดียวนะ 55555)
เรารู้สึกน้อยใจนิดหน่อยก็เลยลุกออกจากตรงนั้นไป
“อ้าวมิน จะไปไหน ไม่มากินปลาด้วยกันหรอ?” พี่บัวทักขึ้น ตอนที่เห็นเรากำลังลุกเดินออกไปจากวง
“ไม่อ่ะพี่บัว มินไม่ค่อยหิวเดี๋ยวมินไปเดินเล่นแถวนี้หน่อยดีกว่า” เราตอบกลับไป
พี่บัวพยักหน้ารับก่อนจะหันกลับไปนั่งปิ้งปลาที่พวกพ่อดินแบ่งตัวเล็กๆมาให้กินกันอย่างเอร็ดอร่อย
เราเดินเลียบลำคลองออกมาเรื่อยๆในใจหวังว่ากลับไปจะไม่เจอผู้หญิงสองคนนั้นอยู่แล้ว
ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยจริงๆ...
ระหว่างทางนั้นเราก็เดินชมนกชมไม้ แล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่ง...
สายตาเราไปเจอเข้ากับอะไรบางอย่างที่ลอยอยู่ในน้ำ
กลุ่มลูกปลาสีแดงจำนวนมาก ลอยอยู่เป็นกลุ่มๆ เราเลยเดินไปดูใกล้ๆเพราะรู้สึกแปลกดีเราไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้
เราค่อยๆเดินย่องเบาๆ ตามทางที่พวกกลุ่มลูกปลาว่ายไป
จนในที่สุดเราก็เห็นลำตัวปลาช่อนขนาดใหญ่ค่อยๆ ลอยขึ้นมาใกล้ผิวน้ำจนเห็นลำตัวเด่นชัด
เรารู้สึกดีใจมาก ว่าจะวิ่งกลับไปบอกให้พ่อดินมาจับเพราะปลาช่อนตัวนี้มันใหญ่มากจริงๆ
แต่จู่ๆ... ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าถ้าเกิดเราลงไปจับได้เองละ...
แล้วปลาตัวใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเราเป็นคนจับได้ พ่อดินจะต้องชมเราว่าเก่งแน่ๆเลย!
ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนเด็กคิดได้ยังไง...หรือเราดูหนังเยอะไปรึเปล่า?
ทำไมตอนนั้นถึงได้คิดว่าว่าการที่เห็นปลาตัวใหญ่มาใกล้ผิวน้ำขนาดนี้เราจะสามารถจับมันได้ด้วยมือเปล่า?!
พอคิดได้แบบนั้น เราเลยค่อยๆ หาจังหวะที่ตัวแม่ปลาช่อนที่มีขนาดใหญ่นั่นลอยเข้ามาใกล้ฝั่ง
คือตรงริมฝั่งคลองบางจุดจะมีต้นไม้ขึ้นและมีกิ่งไม้ทำให้เราสามารถจับและไม่ลื่นตกลงไปในน้ำได้
แน่นอนว่าตอนนั้นเรามั่นใจมากว่าเราจะสามารถจับปลาตัวใหญ่นั่นได้ด้วยมือเปล่าเพียงข้างเดียว
คงเพราะเรารู้สึกว่ามันลอยมาใกล้ผิวน้ำมากด้วยละมั้งก็เลยคิดว่าต้องจับได้แน่ๆ 55555
พอปลาช่อนตัวใหญ่มันลอยมาใกล้ฝั่งมากที่สุด บวกกับตรงนั้นมีกิ่งไม้ยื่นไปพอดีเราเลยจับกิ่งไม้ไว้แล้วค่อยๆ ปล่อยตัวลงไป
แต่ว่าตอนจะลงไป...เราลืมถอดรองเท้าออก ถึงแม้เราจะจับกิ่งไม้ไว้
แต่มันก็ทำให้เราลื่นจนขาข้างขวาเราตกลงไปในน้ำทันที
วินาทีนั้นเราคิดแล้วว่าปลาคงตกใจว่ายหนีไปแล้วแหละ...แต่ไม่ทันที่เราจะได้คิดอะไรต่อจากนั้น
จู่ๆ เราก็สัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างที่แหลมคมมาขบกัดเข้าที่บริเวณน่องขาเรา
พร้อมกับดึงกระชากอย่างรุนแรง จนเราจับกิ่งไม้ไว้ไม่อยู่ เกือบลื่นไถลตกไปทั้งตัว
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก ฮือออออออออ พ่อดินช่วยด้วย!! ผมโดนอะไรกัดไม่รู้!!!” เราร้องตะโกนลั่นเพื่อเรียกให้พ่อเขามาช่วย
ระหว่างนั้นเราก็พยายามสะบัดออกและดึงเท้าขึ้นมา ก็เห็นว่าเลือดอาบเลย
เราพยายามพยุงตัวขึ้นไปนั่งริมฝั่งให้ใกล้จากน้ำมากที่สุดคือตอนนั้นในหัวเราคิดไปแล้วว่า เราโดนจระเข้กัดแน่ๆ
หลังจากนั้นไม่นานพ่อดินก็รีบวิ่งมาหน้าตาตื่นแล้วรีบอุ้มเรากลับไปตรงที่เขานั่งย่างปลากินกัน
“พ่อดิน ผมเจ็บ ผมโดนจระเข้กัดอ่ะ ฮืออออ” พอเราพูดจบ เราคิดว่าทุกคนจะเห็นใจ เขากลับหัวเราะกันใหญ่เลย...
อะไรกันเนี้ย เรากำลังเจ็บอยู่นะ!!
“จระเข้มาจากไหนวะไอ้ตัวเล็ก เอ็งนี่ดูหนังมากไปนะเนี่ย” พี่เมฆพูดพร้อมกับนั่งลงช่วยดูแผลให้
พ่อดินไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมา ได้แต่เอาน้ำมาล้างแผลให้เรา
พอเลือดออกหมดก็เห็นบริเวณตรงนั้นเป็นเนื้อสีขาวเลย... พอสักพักเลือดก็ไหลออกมาอีก
จังหวะนั้นมีลุงคนหนึ่งขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านมาพอดี ลุงเขาก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
พอเขาเดินมาถึงเห็นแผลเรา ลุงก็เดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขา
ก่อนจะราดอะไรบางอย่างลงที่แผลเราทันที...
ใช่!ลุงเขาราดลงทันทีแบบไม่รีรอ หรือไม่ถามความพร้อมจากเราสักนิด
เรากอดพ่อดินไว้แน่นพร้อมกับกรีดร้องดังสนั่นด้วยความเจ็บปวด
เพราะสิ่งที่ลุงเขาราดลงไปตรงแผลนั้นมันคือเหล้าขาว!!
จะบอกว่าการโดนเหล้าขาวราดแผลสดๆ นั้น ไม่ต่างจากแอลกอฮอล์ทำแผลเลย
ปกติแอลกอฮอล์ทำแผลเขาแค่เอาสำลีจุ่มๆแล้วเช็ดแผลแต่นี่ลุงเล่นเอาเหล้าราดลงไปเลย...คิดดูว่าเจ็บแสบขนาดไหน
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะครับคนเก่งๆ ป่ะๆ พ่อพากลับบ้านดีกว่าไปซนอีท่าไหนให้โดนตัวอะไรกัดแผลถึงได้เหวอะขนาดนี้ ไอ้ตัวแสบเอ้ย!”
พ่อดินเอาผ้าขาวมาพันทับแผลไว้ให้ก่อนจะหันไปบอกให้พวกเพื่อนๆเราเก็บของขึ้นรถ
ไม่พูดพร่ำทำเพลงทุกคนรีบเก็บสัมภาระแล้วขึ้นรถไถเดินทางกลับทันทีโดยที่พ่อดินให้พี่เมฆเป็นคนขับ แล้วพ่อเขาให้เรานั่งตักแล้วลูบหัวเราเป็นระยะๆ
----------
และเมื่อถึงบ้าน สิ่งที่โชคร้ายที่เราต้องเจออีกก็คือ...พ่อดินเอาแอลกอฮอล์ล้างแผลมาราดให้อีกรอบ
เพราะพ่อเขาบอกว่าผ้าขาวม้าเขาสกปรก เดี๋ยวแผลเราจะติดเชื้อ
และคนที่ราดแอลกอฮอล์ให้ก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นพี่เมฆเรานี่ได้แต่กอดพ่อดินแล้วร้องไห้จ๊าก ดังลั่นไปหมด
พึ่งจะโดนมาหมาดๆโดนอีกแล้วหรอ?!!
หลังจากนั้นพ่อดินก็เอาสำลีและผ้าก็อตมาพันแผลเราให้เรียบร้อย เสร็จแล้วเราก็ผล็อยหลับไปเพราะความเพลีย
พอเราตื่นขึ้นมา พ่อเขาก็ถามว่าเราไปโดนอะไรกัดมา...เราก็เลยเล่าให้พ่อเขากับพวกพี่เมฆฟัง
แต่ตอนนั้นเราก็ยังปิดท้ายว่าโดนจระเข้กัดอยู่ดีนะ เพราะในหัวมันคิดอย่างอื่นไม่ออกแล้วว่าจะมีตัวอะไรที่อยู่ในน้ำแล้วมากัดเราได้...
พอฟังเสร็จพวกพ่อเขาก็หัวเราะชอบใจกันใหญ่
“หนูไม่ได้โดนจระเข้กัดหรอก...หนูโดนปลาชะโดมันกัดเอาต่างหาก”
พอพ่อดินพูดจบเราก็ทำหน้าสงสัยทันที ว่าปลาชะโดคืออะไรเพราะที่เราเห็นมันคือปลาช่อนนี่หน่า...
จากนั้นพ่อดินเขาก็อธิบายให้ฟัง ว่าปลาชะโดกับปลาช่อนนั้นมันลักษณะคล้ายๆกัน
แต่ปลาชะโดจะมีลายที่ชัดและตัวใหญ่กว่า แถมปลาชะโดมันไม่กลัวคนด้วยมันค่อนข้างจะดุและมีฟันแหลมคม
ขนาดว่าบางทีถ้าเอาเบ็ดไปวางแล้วเจอมันมากินเบ็ดนี่ มันกัดเบ็ดขาดได้เลยนะ
แล้วพอมันมีลูกด้วย มันก็ยิ่งดุเป็นพิเศษ เพราะมันคงเห็นว่าเราจะไปทำร้ายลูกมันพอหย่อนขาลงไปมันก็งับเข้าให้เลย...
“แล้วทำไมหนูไม่มาตามพ่อให้ไปจับละครับ ทำไมถึงลงไปจับเองแบบนั้น...ถ้าเกิดตกน้ำตกท่าไป มันอันตรายรู้มั้ย? คราวหลังไม่ทำแบบนี้แล้วนะครับ...”พ่อดินวางมือบนหัวเรา พร้อมกับมองหน้าเราด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“เข้าใจแล้วครับ...คราวหลังผมจะไม่ทำแล้ว...” เราพยักหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี
ด้วยความที่ตอนนั้นในห้องมีพี่เมฆและพี่จอมนั่งอยู่ด้วย เราก็เลยไม่ได้พูดเรื่องที่เราอยากลงไปจับปลาเอง
ก็แค่อยากให้พ่อเขาชมเราบ้าง... เพราะกลัวโดนพี่เมฆล้อเอาอีก
“หน้าที่หาปลาเป็นหน้าที่ของพ่อเองส่วนหนูนั่งเป็นกำลังใจให้พ่อริมฝั่งก็พอแล้ว เข้าใจมั้ยครับไอ้ขี้ดื้อ!”
พ่อดินยิ้มให้ก่อนจะลูบหัวเราไปมา พอได้ยินพ่อเขาพูดมาแบบนี้ก็เลยทำให้เรายิ้มกว้างกลับไป
“งั้นเดี๋ยวพ่อลงไปทำกับข้าวมาให้หนูกินดีกว่าปลาช่อนตัวใหญ่ขนาดนี้ทำอะไรกินกันดีน้า...
พ่อทำปลาช่อนแป๊ะซะกินกับผักนึ่งให้ดีมั้ยครับ?หนูจะได้กินผักด้วย”
“กะ...ก็ดีฮะ” เรายิ้มแหยๆ ตอบกลับไป ไม่ใช่กังวลเพราะกลัวว่าพ่อเขาจะทำไม่อร่อยอะไรหรอกนะฝีมือพ่อดินทำกับข้าวน่ะอร่อยสุดยอดอยู่แล้ว...
เพียงแต่...ที่ในใจเริ่มรู้สึกว่าไม่อยากกิน ก็เพราะพอรู้ว่าไอ้ตัวที่มันกัดเราดันเป็นพวกเดียวกับปลาช่อน เราเริ่มไม่อยากกินมันแล้วสิ!
......
อ้อลืมบอกว่า..ผู้หญิงสองคนนั้นที่ว่าเป็นหาตาชั่งมาให้ ก็ยังขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาถึงที่บ้านพ่อดิน เพื่อขอซื้อปลาอีกนะ!!
ขอบคุณครับ เราว่าจะแกะโรตีกินพอดีเห็นขึ้นต้น "นมข้น" เรารีบวางก่อนเลย... {:7_342:}/มีแอบหึงพี่ดินซะด้วยนะตัวเล็กเนี้ยอิ๊ๆ {:4_106:} ยังติดใจเรื่องนมข้น พ่อดินนี่ เสน่ห์แรงนะครับ ขอบคุณมากนะครับ ต้องกันท่าให้ดี ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ มาแล้ว ขอบคุณครับ
เนียเราอะหึงเก่ง งอนเก่ง จินตนาการเก่ง แต่ไม่พูดตรงๆๆ
ปล่อยๆ พ่อเค้าบ้าง 5555555555555 สนุกมากครับ ติดใจนมข้นที่สุดละ น่าลองแอบราดให้พ่อดินชิมดูนะ {:5_137:} พ่อลูกคู่นี้น่าติดตามมาก อยากรู้จะเป็นอย่างไรต่อ ขอบคุณ ขอบคุณครับบ้านต้นไม้ได้เล่าแล้วววว