Vitamin25 โพสต์ 2022-8-12 23:57:42

รักพ่อดินที่สุดในโลกเลย ♥ [4]

“ไง พ่อหนุ่มเนื้อหอมช่วงนี้ได้ข่าวว่าเสน่ห์แรงมากเลยไง๊มึง”

พอขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาถึงในบ้าน พี่เมฆก็เอ่ยปากแซวพ่อดินทันทีด้วยความที่พวกเรากำลังนั่งกินข้าวเช้ากันอยู่
พ่อเขาก็เลยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป หรือแกล้งทำเป็นเมินพี่เมฆก็ไม่รู้

“ทำเป็นไม่ตอบกู...นี่ไง หมับเข้าให้!” พี่เมฆเดินไปข้างหลังพ่อดิน พร้อมกับเอามือล้วงไปตรงเป้าของพ่อเขาพร้อมกับขยำมืออย่างแรง...

ทำให้พ่อดินที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ด้วยท่านั่งขัดสมาธิ ถึงกับสะดุ้งโหยงจังหวะนั้นทำเอาเราหัวเราะชอบใจมาก

“บ๊ะ! ไอ้ห่านี่!! วอนโดนตีนแต่เช้าเลย”

พ่อดินหันไปดุพี่เมฆ ก่อนจะหันมากินข้าวต่อด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์นักแต่ที่จริงแล้วดูเหมือนพ่อเขากำลังเขินมากกว่า

“มีคนขำชอบใจที่มึงโดนจับไข่วะไอ้ยักษ์ สงสัยกูต้องจับบ่อยๆ ซะแล้วววว” พอพี่เมฆพูดจบก็มองมาทางเรา
เราที่ลืมตัวเผลอหัวเราะลั่นเสียงดังก็พยายามก็พยายามกลั้นหัวเราะ
แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ...

“ฮึ่ม! อ้าวๆ...นี่ก็อีกคน…มัวแต่นั่งขำ เดี๋ยวจะโดนทุบหัว รีบกินข้าวเลยเดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก”
พอเห็นพ่อดินทำเสียงเข้มใส่ เราเลยพยายามเก็บอาการแล้วนั่งกินข้าวต่อ

โธ่...พ่อดินอ่ะ ก็มันตลกนี่ ขอขำหน่อยก็ไม่ได้...

“เออ...ไอ้ยักษ์ เมื่อวานตอนเย็นกูเจอดาวด้วยดาวเล่าให้ฟังบอกว่า เพื่อนเขาเอากับข้าวมาให้มึงที่บ้าน แล้วเจอมึงดุกลับไปร้องไห้โฮเลย
โห...มึงทำงี้ แล้วสาวที่ไหนจะกล้าเข้าหามึงวะไอ้ห่า” พี่เมฆขึ้นมานั่งบนแคร่พร้อมกับหันไปหาพ่อดิน พร้อมกับบ่นอุบใส่ทันที

“หะ…กูนี่นะดุเขา ดุอะไรวะ?” พ่อดินขมวดคิ้วทำหน้าสงสัย ก่อนจะวางช้อนลงทำสีหน้าเหมือนครุ่นคิด

สักพักก็เล่าเรื่องวันนั้นให้พี่เมฆฟัง...

“นี่ไง โห... เขาแซวไอ้ตัวเล็กเล่นนิดเดียวมึงก็ไปดุทำเสียงแข็งใส่ ใครได้ยินก็ตกใจทั้งนั้นแหละ”

“กูก็แค่บอกว่ากูไม่ชอบให้ใครมาเรียกน้องมันแบบนั้นแค่นี้ก็ไปร้องไห้หาว่ากูดุ เฮ้อ...”พ่อดินถอนหายใจยาวพร้อมกับทำสีหน้าเบื่อหน่าย
พอเราเห็นพ่อเขาทำหน้าแบบนั้นก็รู้สึกใจเสียนิดหน่อย หรือว่าเป็นเพราะเรากันนะ...

“มึงก็เกินไป...บางทีไอ้ตัวเล็กมันอาจจะไม่รู้สึกอะไรก็ได้”

“ไอ้เมฆ...ถึงน้องมันจะตัวเล็ก แต่ก็มีความรู้สึกเหมือนกัน...มึงนึกถึงตอนตัวเองเป็นเด็กดิไอ้ห่า... เวลาพวกผู้ใหญ่มาพูดอะไรไม่ดีกับเรา
เรายังไม่ชอบเลย น้องมันก็ไม่ชอบเหมือนกัน แต่แค่พูดออกไปไม่ได้แล้วอีกอย่างกูกับน้องก็คุยกันตลอด
เรื่องความรู้สึกของน้องกูไม่อยากคิดแทนเขาว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไร ถ้าน้องไม่ชอบหรือรู้สึกไม่ดี
กูก็แค่พูดแทนเท่านั้นในฐานะผู้ปกครองที่เป็นเหมือนพ่อน้องมันอีกคนหนึ่ง
คนอื่นจะมองกูยังไงก็ช่างแต่กูแค่อยากให้น้องอยู่กับกูแล้วรู้สึกสบายใจที่สุดแค่นั้นเอง
สำหรับกูตอนนี้ความรู้สึกของน้องสำคัญที่สุด”

พ่อดินพูดอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจังให้พี่เมฆฟัง ทำให้ตัวเมฆถึงกับทำสีหน้าอึ้งๆ รวมทั้งตัวเราด้วย
คือตอนนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจที่พ่อดินเขาพูดหรอก แต่แค่ฟังแล้วรู้สึกดีมากเหมือนกับว่าพ่อเขาให้ความสำคัญกับเรามากจริงๆ
รู้สึกว่าคิดไม่ผิดเลยที่เลือกอยู่ต่อกับพ่อเขา...

“โห...เออ มึงพูดมาแบบนี้ กูไปไม่ถูกเลยห่า...เห็นมั้ยไอ้ตัวเล็กพ่อดินของเอ็งเสียสละมากนะเฮ้ย ถ้ามัวแต่อยู่ดูแลเอ็งแบบนี้....
ต่อไปอาจจะหาเมียไม่ได้แล้วนะโว้ยโตขึ้นเอ็งต้องมาเป็นเมียให้พ่อเขาด้วย เข้าใจมั้ย?”

เพี๊ยะ!!!

พอพี่เมฆหันมาทางเรา พอพูดจบไม่ทันขาดคำฝ่ามือของพ่อดินก็ฟาดลงที่กลางกบาลของพี่เมฆอย่างจังจนพี่เขาร้องเสียงหลง

เห็นแบบนี้มีหรอที่เราจะไม่ขำ ก็บอกแล้วไงสำหรับเราไม่ว่าใครจะถูกกระทำภาพที่เห็นมันก็ตลกทั้งนั้นแหละ 555555

“เออไอ้ยักษ์ กูลืมบอกเลย เดี๋ยวอีกวันสองวันนี้จะมีงานนะ แต่ว่าเป็นงานที่จังหวัดอื่นวะเขาจะเร่งทำให้เสร็จก็เลยหาคนไปช่วย”
หลังจากโดนลั่นกบาลไปหนึ่งที พี่เมฆรีบเปลี่ยนเรื่องตัดเข้าเรื่องงานทันที

“งานที่จังหวัดอื่นก็ต้องไปค้างอ่ะดิ... กูคงไม่รับวะงานนี้ลองหาคนอื่นไปแทนละกัน เพราะถ้ากูไปไม่มีใครอยู่กับน้อง”

“เฮ้ย แต่งานนี้ได้เงินเยอะนะมึง งานเขาเร่งจริงๆเขาหาคนอยู่”

“พ่อดินฮะ...พ่อดินไปทำงานก็ได้นะ ผมอยู่คนเดียวได้...” พอเห็นพี่เมฆบอกว่าได้เงินเยอะเราเลยสะกิดพ่อเขาทันที

“หืมมมม หนูจะอยู่คนเดียวได้แน่เหรอ?ไม่กลัวเหรอครับไอ้ลูกหมา”พอเจอพ่อเขาถามกลับมาแบบนี้เราก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ได้แต่อมยิ้มหน่อยๆ
แหะๆ ก็กลัวแหละ... แต่อยากให้พ่อดินไปทำงานมากกว่า เสียดายเงิน!

“เออๆ ยังไงพรุ่งนี้เช้ากูบอกละกัน เดี๋ยวคืนนี้กูขอคุยกับน้องก่อนไม่รู้จะอยู่คนเดียวได้จริงป่าว กลัวผีอย่างกับอะไรดี”
พ่อดินพูดจบก็ทุบหัวเราเบาๆโชว์พี่เมฆไปทีหนึ่ง ชิชะ ทำเป็นมารู้จุดอ่อนเราซะได้!

...

คืนนั้นก่อนจะเข้านอนพ่อดินก็ชวนเราคุยถึงเรื่องที่พ่อเขาจะไปทำงานที่อื่นอีกครั้งหนึ่ง

พ่อดินเล่าให้ฟังว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อเขาต้องไปทำงานที่อื่นเพราะบางครั้งพวกงานรับจ้างอะไรแบบนี้ ละแวกบ้านเรามันก็ไม่ได้มีตลอด
ก็เลยต้องรับงานจ้างที่ไปทำต่างอำเภอ ต่างจังหวัดอะไรแบบนี้บ้าง

เราเลยเข้าใจว่าอ๋อ...เพราะแบบนี้นี่เอง ถึงว่าที่แต่ก่อนบางทีเราก็ไม่ค่อยเห็นหน้าพ่อเขาเท่าไหร่

พ่อเขาถามย้ำอีกครั้งว่า เราจะอยู่คนเดียวได้จริงเหรอ?
ถ้าไม่กล้าอยู่คนเดียวก็ไม่เป็นไรพ่อเขาไม่รับงานนี้ก็ได้

พูดตามตรง ยังไงก็กลัวอยู่แล้ว แต่ยังไงก็อยากให้พ่อเขาได้ไปทำงานอยู่ดี...
อีกอย่างมันก็ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยอยู่คนเดียวสักหน่อย คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...

“พ่อดินไปทำงานเถอะฮะ ผมอยู่ได้ สบายมากกกก” เรายิ้มแป้นแล้นตอบกลับไป

“อยู่ได้แน่นะ…ถ้าเกิดกลางคืนกลัวแล้วร้องไห้ขี้มูกโป่งขึ้นมาไม่มีคนโอ๋นะเออ”

“ไม่เป็นไรฮะ เดี๋ยวนอนกอดหมอนของพ่อดินเอาก็ได้ผมจะได้รู้สึกเหมือนพ่อดินอยู่ข้างๆ”

“ฉลาดพูดนักนะ ไอ้ลูกหมาเอ้ย!”พูดจบพ่อเขาก็โน้มตัวลงมาหอมแก้มเราไปมา

ว่าไปถ้าพ่อเขาไม่อยู่สักพัก เราก็คงรู้สึกเหงาเหมือนกันแน่ๆเลย...

---------

เมื่อถึงวันที่พ่อเขาต้องไปทำงาน พ่อดินก็ถามย้ำกับเราอีกหนึ่งรอบเพื่อความมั่นใจ
เราก็ยังตอบยืนยันเหมือนเดิมว่าอยู่ได้...

ก่อนจะพาเราไปที่บ้านป้าปู และช่วยฝากฝังให้ป้าปูช่วยดูแลเราอีกแรงหนึ่งตอนแรกป้าปูก็ให้เรามาอยู่กับป้าเขาก่อน...

แต่ด้วยความที่หลังจากตอนนั้น... ที่เราได้ยินเรื่องที่ลุงสินคุยกับพ่อดินแล้วเรารู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
ก็เลยขออยู่คนเดียวที่บ้านของพ่อดินเขาดีกว่า

ถึงจะรู้สึกกลัว แต่มันก็ดีกว่า เพราะเรารู้สึกว่าเรามองหน้าลุงสินไม่ติดยังไงก็ไม่รู้...
เด็กอ่ะเนอะ พอเผลอไปได้ยินคำพูดที่เกี่ยวกับตัวเองเข้า แล้วรู้สึกไม่สบายใจก็จะไม่อยากอยู่ใกล้คนๆนั้นแล้ว

ป้าปูก็เลยบอกว่าให้เราแวะมาหาป้าเขาทุกเช้าและเย็น เพื่อมาเอากับข้าวเราจะได้ไม่ต้องทำกับข้าวเอง เราก็เลยตกลงตามนั้น

“เอาล่ะ ไหนลองทวนให้พ่อฟังอีกรอบสิ ว่าเราคุยกันไว้ว่ายังไงบ้าง...” เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนพ่อดินย่อตัวลง พ่อเขาก็ถามขึ้นแล้วมองหน้าเราอย่างตั้งใจ

“หลังเลิกเรียนให้กลับบ้านทันที ถ้าเพื่อนชวนเล่นบอกว่าให้ชวนกันไปเล่นที่บ้านต้นไม้,
ห้ามไปไหนกับคนแปลกหน้า หรือแม้กระทั่งคนที่พอจะรู้จักก็ตาม ยกเว้นลุงสินกับป้าปู,
พอเข้าห้องแล้วล็อคประตูให้เรียบร้อย ห้ามเปิดประตูให้ใครทั้งนั้น นอกเสียจากจะได้ยินเสียงของลุงสินและป้าปูเหมือนกัน,
แล้วก็...ที่สำคัญห้ามไปเล่นน้ำเด็ดขาด...”

“เก่งมาก...อ่ะนี่ วันก่อนพ่อเข้าอำเภอเอาพระไปเลี่ยมใส่กรอบมาให้” พอเราพูดจบ พ่อดินก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแล้วหยิบเอาสร้อยพระมาสวมให้เรา

“เก็บรักษาไว้ดีๆ นะครับ เวลาที่หนูนอนใส่เอาไว้กันผีหลอกจะได้ไม่กลัวผี”

“ขอบคุณครับพ่อดิน”

“มาหอมแก้มพ่อหน่อยเร็วพ่อจะได้มีแรงไปทำงานหาเงินมาให้ไอ้หมาน้อยมันกินขนม”
เรารีบเข้าไปหอมแก้มพ่อดินทันทีจากนั้นพ่อเขาก็หอมแก้มเราคืนฟอดใหญ่ทั้งสองข้าง รวมทั้งหอมตรงกระหม่อมเราด้วย

“ทำงานเสร็จแล้วพ่อจะรีบกลับมานะครับ ถ้าหนูกลัวก็ไปอยู่กับป้าปูนะ...”

พอพ่อดินพูดจบเราก็โผกอดพ่อเขาแน่น พ่อเขาก็กอดเราคืนเหมือนกันพร้อมกับลูบหัวไปมาเบาๆ

ถึงตอนแรกเราจะคิดว่าอยู่ได้ก็เถอะ
แต่พอเจอแบบนี้ก็เริ่มรู้สึกอยากเปลี่ยนใจให้พ่อเขาไม่ไปซะแล้วสิ...

ตอนที่พ่อดินยืนส่งเราหน้าโรงเรียน เราแทบไม่กล้าเดินหันหลังให้พ่อเขาเลยเพราะกลัวว่าจะหันกลับไปไม่เห็นเขาแล้ว มันรู้สึกใจหายแปลกๆ

แต่แล้วครูในโรงเรียนก็เข้ามาทักเพราะเห็นเราเดินถอยหลังเข้าโรงเรียนกลัวว่าจะเป็นอันตรายเดี๋ยวล้ม
ก็เลยมาบอกให้เดินหันหน้าดีๆจังหวะที่เราหันไปคุยกับครูแค่แปปเดียว พอหันกลับไปที่หน้าโรงเรียนก็ไม่เจอพ่อเขาแล้ว...

ความรู้สึกมันเหมือนใจมันร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มเลย...

---------

ตอนเดินกลับมาบ้านแล้วมันว่างเปล่ามาก พอไม่ได้ยินเสียงของพ่อดินเขาแล้วนี่มันรู้สึกเหงาจริงๆ

เราไม่ลืมที่จะรีบไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีก็คืออาบรอบนี้แล้วรอกินข้าวเย็นเสร็จ เตรียมตัวนอนเลย 55555

เวลาที่พ่อเขาไม่อยู่ตอนกลางคืนเราก็ต้องนอนเปิดไฟตลอด แถมปิดหน้าต่างหมดทุกบานเลย

แต่สิ่งที่ทำให้เรานอนหลับสนิทได้ก็คือ การเอาหมอนของพ่อเขามานอนกอดแล้วก็ดมกลิ่นพอรู้สึกว่าได้กลิ่นของพ่อดินแล้ว
เรารู้สึกปลอดภัยขึ้นมาทันทีเลยถึงแม้ว่าพ่อเขาจะไม่ได้นอนอยู่ข้างๆ เราก็ตาม

อันที่จริง พ่อดินก็ให้เราชวนพี่บัวมานอนเป็นเพื่อนนะ แต่ว่าเราไม่เอาเรารู้สึกว่าไม่อยากให้ใครมานอนทับที่ของพ่อเขา
ตอนเด็กรู้สึกแบบนั้นจริงๆ นะ หวงทุกอย่างที่เป็นของพ่อเขาหมดเลยยยย

ช่วงที่พ่อดินไม่อยู่รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปช้ามาก กว่าจะผ่านพ้นแต่ละวัน แต่ละคืนบางวันช่วงเย็นป้าปูก็มานั่งเล่นนั่งคุยด้วย แถมชวนให้ไปนอนกับเขา
แต่เราก็ยังยืนยันที่จะไม่ไปถึงแม้จะกลัวก็ตาม ตอนนั้นพูดตามตรงเราก็ไม่เข้าใจตัวเองตอนเด็กเหมือนกัน
ทำไมจะต้องอยากอยู่ที่บ้านของพ่อเขาขนาดนั้น หวงอย่างกับว่าเป็นหมาเฝ้าบ้านอ่ะ55555

...

ทุกวันๆ ก็ผ่านไปเหมือนจะเป็นปกติ
แต่สุดท้ายมันก็มีเรื่องเกิดขึ้นจนได้...

วันนั้นเราจำได้ดีว่ามันเป็นวันหยุด วันที่พวกเราไม่ได้ไปโรงเรียนทำให้ทุกคนแห่มาเล่นที่บ้านต้นไม้กัน
ทว่าช่วงบ่ายกลับมีฝนตกลงมาพวกเราเลยต้องย้ายเข้าไปหลบฝนกันที่บ้าน
เพราะเป็นอันรู้กันดีว่าถ้าฝนตกไม่ควรหลบอยู่ใต้ต้นไม้นี่ก็คืออีกหนึ่งอย่างที่พวกผู้ใหญ่จะสอนเรามาเสมอๆ

แต่ขนาดเรามาหลบอยู่กันตรงแคร่ใต้บ้านก็ยังไม่วายหาอะไรมาเล่นเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวแข่งกับเสียงฝนกันได้อีก

เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ พอฝนเริ่มซา แต่ละคนก็เริ่มขอตัวกลับบ้านเพราะว่ามันเลยช่วงเที่ยงมาแล้ว
พวกเราก็ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกันเลย ต่างคนต่างก็เลยต้องแยกย้ายกลับไปที่บ้านของตัวเอง
ก็เป็นอันเข้าใจตรงกันว่า การละเล่นของพวกเราในวันนี้คงจบลงแค่นี้แหละ เพราะฝนมันตก

จนกระทั่งทุกคนแยกย้ายกลับไปกันหมด เหลือเพียงแต่เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มที่ยังนั่งอยู่


“อ้าวสอง ไม่กลับบ้านหรอ?” เราทักไปขณะที่เห็นเพื่อนคนนี้นั่งอยู่บนแคร่แล้วมองดูนู่นดูนี่ไปเรื่อย

สองเป็นเพื่อนผู้ชายในกลุ่ม ที่มักจะไม่ค่อยได้ออกมาวิ่งเล่นกับพวกเราเท่าไหร่นานๆ จะได้ออกมาสักครั้ง
เพราะที่บ้านของสองค่อนข้างเป็นคนที่จะมีฐานะก็เลยไม่ค่อยชอบให้ลูกของตัวเองมายุ่งวุ่นวายกับเด็กในหมู่บ้านเท่าไหร่
สองกับพวกเราก็เลยมักจะได้วิ่งเล่นกันที่โรงเรียนเท่านั้น

“ไม่อ่ะ วันนี้ที่บ้านเราไม่มีคนอยู่เขาไปงานศพที่อีกอำเภอหนึ่งกันหมด กว่าจะกลับก็คงค่ำๆ...”พอสองตอบกลับมาแบบนั้นเราก็เลยไม่ได้ว่าอะไร

ลักษณะของสองนั้นดูเผินๆ จะเป็นเด็กผู้ชายที่คล้ายกับเรา เป็นคนเรียบร้อยและพูดเพราะ
แต่ก็คือดูออกอ่ะ ว่าสองเป็นเด็กผู้ชายปกติเลย ไม่ได้นุ่มนิ่มอ่อนแอ้นแบบเรา555555

“เอ้อ…นี่มิน...วันนี้เราขอกินข้าวเที่ยงด้วย… ได้ป่าว”

“ก็ได้...แต่เราไม่ได้มีกับข้าวอะไรหรอกนะ มีแค่ไข่อ่ะกินไข่เจียวได้ใช่ป่ะ?”

“ได้ดิ! ฮ่า เรากินได้ แค่ไม่อยากกลับไปกินที่บ้านเฉยๆกินคนเดียวมันเหงา” พอสองตอบกลับมาแบบนั้นเราก็เลยก่อไฟแล้วทอดไข่นั่งกินข้าวกัน

สองบอกว่า ทีแรกพ่อกับแม่ก็จะให้ไปด้วย แต่พอพี่ชายของสองไม่ไปสองก็เลยไม่อยากไปด้วย
เราก็เลยถามว่า อ้าวไหนบอกอยู่คนเดียว แล้วพี่ไปไหนอ่ะ

สองก็เลยบอกว่าพี่น่าจะไปเที่ยวบ้านแฟน ตอนนี้ติดแฟนมาก แต่จริงๆสองก็ไม่ได้ติดพี่อะไรหรอก
แค่อยากหาโอกาสออกมาวิ่งเล่นกับเพื่อนบ้างเพราะมีแต่เวลาที่พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านเท่านั้นแหละ สองถึงจะออกมาเล่นกับพวกเราได้

เรานั่งฟังไปด้วยความเข้าใจและเห็นใจ ก็เด็กอ่ะเนอะ เห็นเพื่อนเขาวิ่งเล่นกันตัวเองก็อยากออกมาเล่นด้วยเป็นธรรมดา

“มิน...ไปดูหนังที่บ้านเราม่ะ?” หลังจากกินข้าวเสร็จนั่งคุยเล่นกันไปสักพักสองก็ชวนเราไปดูหนังที่บ้าน

“...ไม่เอาอ่ะ ถ้าพ่อกับแม่ของสองกลับมา เรากลัวโดนดุอ่ะสิ...” เรารีบปฏิเสธทันที ก็แหงละ เขาหวงลูกชายไม่อยากให้มายุ่งวุ่นวายกับพวกเราขนาดนี้
ถ้าเกิดอยู่ๆ เราไปนั่งโผล่ที่บ้านเขาขึ้นมาน่าจะโดนด่าเละเลย...

“หรอ...งั้น เดี๋ยวเราเอาหนังมาเปิดดูที่นี่ได้ป่ะ?”

“อืม.... ก็ ก็ได้ แต่ว่าห้ามนั่งบนที่นอนนะ...” เราครุ่นคิดก่อนจะตอบตกลงกลับไปใจจริงก็ไม่อยากให้เพื่อนขึ้นไปบนบ้านเท่าไหร่หรอก
เราก็หวงบ้านพ่อดินเขาเหมือนกันแต่เห็นว่าสองเป็นเด็กเรียบร้อยเราเองก็เลยคิดว่าน่าจะคุยกันง่ายคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

สองพยักหน้ารับก่อนจะเอาถุงพลาสติกคลุมหัวแล้วปั่นกลับไปเอาหนังที่บ้านของตัวเองท่ามกลางสายฝนที่ตกปรอยๆ...

--------

หลังจากนั้นไม่นาน สองก็ปั่นจักรยานกลับมา พวกเราสองคนก็เลยขึ้นไปดูหนังกัน

“หนังเรื่องอะไรหรอ?” เรารู้สึกสงสัยนิดหน่อยเพราะกลัวจะเป็นหนังสงครามหรือหนังบู๊อะไรพวกนี้ ตอนนั้นเราเด็กด้วยแหละ ไม่ชอบแนวนี้เลย...

“รอดูเลย...” สองหันมายิ้มให้ก่อนจะไปจัดการเปิดหนังด้วยท่าทีทะมัดทะแมง ก็คงเปิดดูที่บ้านจนชินจนรู้ระบบเกี่ยวกับเครื่องเล่นพวกนี้หมดแล้วมั้ง

หนังที่สองเปิดให้เราดู มันเป็นหนังที่แปลกมาก มันไม่มีโฆษณาหรืออะไรขึ้นมาเลย
ปกติหนังในแผ่นซีดีสมัยก่อนนะถ้าไม่กดเลื่อนก็คือโฆษณายาวมากกกกก กว่าจะได้ดูหนังเกือบครึ่งชั่วโมงอ่ะ

แต่นี่เหมือนเปิดมาสักพักเป็นจอดำๆ แล้วก็เข้าเรื่องทันที


แล้วหนังก็ตัดเข้าเรื่องเป็นฉากพูดคุยที่เป็นภาษาญี่ปุ่นหรือจีนเนี่ยแหละ ในหัวเรามีแต่ความสงสัยเต็มไปหมดว่ามันคือหนังอะไร
ปกติเราจะดูหนังพากย์ไทยกันตลอดเลย แล้วนี่จะดูรู้เรื่องหรอ...

เสร็จแล้วสองก็ไปหยิบรีโมทเครื่องเล่นซีดีขึ้นมา แล้วก็กดเลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเร็ว...ในขณะที่ภาพมันเลื่อนๆ ไป
เราก็เห็นว่าผู้หญิงกับผู้ชายกำลังทำอะไรกันบางอย่างสักพักทั้งสองคนนั้นก็ไม่มีเสื้อผ้าอยู่ที่ตัวเลยสักชิ้น!!

“สอง...นี่อะไรอ่ะ?!!”พอเราพูดจบสองก็กดให้หนังมันเล่นต่อทันที ซึ่งมันเป็นฉากที่ผู้ชายกับผู้หญิงกำลังทำบางอย่างกันอย่างดุเดือด...
เพราะผู้หญิงดิ้นและร้องครวญครางเหมือนคนที่กำลังทรมานอย่างมาก

“หนังโป๊ไง มินไม่เคยดูหรอ?” สองหันมาถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย...

“มะ...ไม่อ่ะ...แล้วสองไปเอามาจากไหน?” เราก็รู้สึกสงสัยทันทีว่าเด็กอย่างสองไปหาหนังโป๊มาได้ยังไง

“ของพี่อ่ะ เราแอบเอามา เคยเห็นพี่ดู เราก็อยากดูบ้าง” สองตอบกลับมาแล้วหันไปนั่งมองหน้าจอแบบใจจดใจจ่อ

...

“สอง...ปิดเถอะ เราว่ามันไม่ค่อยดีเลย...” หลังจากนิ่งอึ้งกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าเรารู้สึกว่าไม่อยากจะดูต่อแล้วก็เลยรบเร้าให้สองปิดดีกว่า

“มินรู้สึกอะไรป่ะ?” แต่สองก็ไม่ได้สนใจที่เราพูดสักนิดแถมถามอะไรกลับมาก็ไม่รู้

“รู้สึกว่าสงสารผู้หญิงคนนั้น เราไม่อยากดูแล้ว...” ด้วยความที่ฉากในเรื่องนั้นถึงจะเป็นฉากที่เข้าด้ายเข้าเข็มกัน
แต่ผู้หญิงนั้นดูร้องโหยหวนและทรมานเหมือนกำลังเจ็บปวดมันเป็นฉากที่ทำให้เราไม่อยากเห็นเลยสักนิด

เพราะว่า...มันดันทำให้เรานึกถึงเรื่องในวันนั้นวันที่พ่อดินพยายามจะเอาไอ้ท่อนนั้นของเขายัดใส่เข้ามาในตูดเรา
เราเองก็ดิ้นทุรนทุรายและพยายามขัดขืนเหมือนกัน ตอนนั้นยังไม่เข้าใจว่าการกระทำแบบนี้เรียกว่าอะไร
แต่เข้าใจว่ามันต้องเป็นการลงโทษอย่างหนึ่งแน่นอน เพราะผู้หญิงคนนั้นดูทรมานมากๆ

...ซึ่งตอนโตมาเข้าใจว่าไม่ใช่

“สงสารทำไม เนี่ยแหละที่เขาเรียกว่า เอากัน”

พอสองตอบกลับมาแบบนั้น คำว่า ‘เอากัน’มันก็ทำให้เรารู้สึกหน้าแดงและร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
เพราะท่าทีที่เราเห็นในหนังกับท่าทีที่พ่อดินเคยทำกับเราแต่ก่อน มันดูคล้ายกันมากไหนจะการจูบปากและเอาลิ้นมาพันกันการดูดนม ทุกการกระทำต่างๆ...

นี่เรา...กับพ่อดิน ‘เอากันหรอ?’ ในหัวเรารู้สึกงุนงงและสับสนไปหมดเหมือนอยู่ๆ เราได้รับข้อมูลอะไรที่มันแปลกใหม่และเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
ก็เลยรู้สึกช็อคและสมองชาไปเลย...

แต่สิ่งที่ดึงสติเรากลับมาได้แบบเฉียบพลันนั่นก็คือเสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังเดินขึ้นมาข้างบน
แบบกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ทำให้เราตกใจมากเราเลยรีบจะไปปิดเครื่องซีดี

แต่ก็คงจะไม่ทันแล้ว...

----------

ทุกคนเชื่อในจังหวะนรกมั้ย ทุกครั้งที่เราทำอะไรไม่ดีหรือกำลังหลบซ่อนทำอะไรบางอย่างอยู่
จะต้องมีคนที่รู้จักเราเข้ามาเห็น หรือรับรู้เรื่องพวกนั้นทุกทีเลย...

และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็เช่นกัน

วันนั้นที่พวกเรากำลังนั่งดูหนังโป๊กันอยู่ ป้าปูเอากับข้าวมาให้พอดี คงเพราะเห็นว่าฝนตกประจวบกับมันเริ่มจะเย็นแล้วกลัวว่าเราจะไม่มีอะไรกินข้าว
ก็เลยมาเห็นเข้าจังหวะนี้พอดี แถมตอนนั้นที่เรานั่งดูกันก็ไม่ได้มีการลดเสียงหรืออะไรด้วยเปิดเสียงดังปกติเลย
ฉะนั้นแค่เข้ามาในเขตตัวบ้านก็คงจะได้ยินเสียงแล้ว...

แน่นอนว่าพวกเราโดนป้าปูดุไปยกใหญ่ แต่คำพูดหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกผิดและแย่ในเวลาเดียวกันก็คือประโยคที่ว่า
“ป้าผิดหวังในตัวเรามากนะ...” มันเป็นคำพูดสั้นๆ แต่ตอนเด็กฟังแล้วสะเทือนใจมากเหมือนเรารู้สึกเป็นคนไม่ดีและแย่มากไปเลย...

จากวันนั้นเป็นต้นมาทำให้กลายเป็นว่า เรายิ่งไม่ค่อยกล้าสู้หน้าป้าปูเข้าไปอีกมันยิ่งทำให้เราคิดถึงพ่อดินเขามากๆ

ในใจตอนนั้นมันรู้สึกได้ว่าพ่อเขาเป็นคนเดียวจะฟังที่เราพูด...
จะฟังที่เราอธิบายและคำพูดของพ่อเขาจะต้องทำให้เราสบายใจแน่ๆเราเชื่อแบบนั้น

พอมาโรงเรียนกลับกลายเป็นว่าเราเองก็ไม่คุยกับสองเลย ไม่ได้โกรธหรืองอนอะไรนะ
แค่ไม่รู้จะพูดอะไร ก็ทำสีหน้าปกติ แต่ในใจตอนเด็กก็รู้สึกโทษสองแหละว่าทั้งหมดมันเป็นเพราะสอง

แต่สองเองก็เข้ามาเล่นกับเราเหมือนเดิมปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

แล้วจำได้ว่าช่วงนั้นมันใกล้ถึงช่วงวันแม่เหมือนกัน...
ซึ่งในงานที่โรงเรียนจัดนั้นเราปล่อยโฮออกมามากกว่าใครๆ
ทุกคนก็เข้าใจว่าเราคงคิดถึงแม่...ก็ใช่...นั่นก็เหตุผลหนึ่ง

แต่ในใจสำหรับเด็กคนหนึ่งแล้วมันรู้สึกแย่กว่านั้น เพราะวันแม่ปีนั้น
เราได้ถูกเลือกให้เป็นนักเรียนดีเด่นต้องพาแม่มางานโรงเรียนด้วยแต่แม่เราไม่อยู่ ครูก็เลยให้เชิญญาติผู้ใหญ่มาแทน

ตอนนั้นเราทะเลาะกับญาติๆ แล้ว แถมยังไม่กล้าสู้หน้าป้าปูเพราะเรื่องเหตุการณ์วันนั้นอีก...เราก็เลยต้องปฏิเสธให้ครูเอาคนอื่นขึ้นไปบนเวทีแทน

มันทำให้เรารู้สึกเหงาและหดหู่มาก พาลคิดไปว่าแค่พ่อดินไม่อยู่ด้วยทุกอย่างมันแย่ลงขนาดนี้เลย...
คิดถึงพ่อเขา คิดถึงสุดๆ อยากจะกอดมากๆเลย พอคิดแล้วก็ได้แต่นั่งร้องไห้จนเพื่อนๆต้องเข้ามาปลอบ...

---------

พอตกเย็นกลับมาบ้าน เราได้แต่นั่งบนแคร่แล้วมองไปที่ถนน มองออกไปอย่างมีความหวังว่าพ่อดินจะกลับมาก่อนวันที่คาดคะเนไว้...

เรานั่งมองถนนหน้าบ้านอยู่แบบนั้นแล้วปล่อยหัวสมองให้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย...
ก่อนที่สุดท้ายเราถอนหายใจก่อนจะเดินขึ้นไปบนบ้านเพราะเห็นว่าใกล้จะมืดแล้ว...

ก่อนจะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ขี่เข้ามาในพื้นที่หน้าบ้าน แล้วขี่เข้ามา
เป็นลุงผู้ใหญ่บ้านนั่นเอง ขี่มาตามมาให้เราไปรับโทรศัพท์
ถึงแม้ว่าพ่อดินจะยังไม่กลับมาแต่โทรศัพท์จากพ่อกับแม่ก็ทำให้เรารู้สึกยิ้มได้บ้าง

เราซ้อนท้ายลุงผู้ใหญ่มาถึงก่อนจะนั่งรอสักพักก็มีสายเข้ามา พอลุงผู้ใหญ่บอกให้มาคุยเราเลยรีบวิ่งไปรับทันที

“ฮัลโหล...แม่...” พอพูดคำว่าแม่ออกไปน้ำเสียงเราสะอื้นนิดหน่อยมันอยากจะร้องไห้อีกแล้ว...

“ฮัลโหลๆ...” เสียงปลายสายตอบกลับมาไม่ใช่แม่แต่เป็นผู้ชายเสียงทุ้มใหญ่

“อ้าว...พ่อหรอฮะ?”

“ใช่ พ่อเอง...เป็นยังไงบ้าง? วันนี้ที่โรงเรียนจัดงานวันแม่ ได้ร้องไห้มั้ย?? หืมมม”

“ฮะ...ก็...ก็...ร้อง...” เราตอบกลับแบบอึกอักตอนแรกว่าจะโกหกว่าไม่ร้อง แต่ยอมรับไปก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง

“ฮ่า โธ่เอ้ย ไอ้ลูกหมาขี้แยเอ้ย”

พอปลายสายพูดกลับมาแบบนี้ เราเริ่มรู้สึกแล้วว่าไม่น่าจะใช่พ่อเราแน่ๆ เพราะประโยคคำพูดและเสียงหัวเราะเหมือนกับพ่อดินเลย...

“เอ๊ะ...นั่นพ่อดินหรอฮะ?” เราลองถามกลับไปเพราะไม่แน่ใจ

“อ้าว ไอ้ตัวแสบ ไม่อยู่ด้วยกันแปปเดียวลืมกันซะแล้ว เดี๋ยวจะโดน!” พอรู้ว่าปลายสายเป็นพ่อดินเราก็ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา

ก็นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เราได้คุยโทรศัพท์กับพ่อดิน แล้วเสียงในโทรศัพท์กับเสียงตอนคุยกันปกติไม่เหมือนกันเลย
เสียงในโทรศัพท์ฟังดูเหมือนคนโตมากๆ เสียงเหมือนคนมีอายุ 55555

พอได้ยินเสียงของพ่อเขา พูดตามตรงมันทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นมาก
พ่อเขาโทรมาถามเรื่องความเป็นอยู่แล้วก็กังวลว่าวันนี้ที่โรงเรียนน่าจะจัดงานวันแม่
กลัวว่าเราจะร้องไห้และเหงาเพราะคิดถึงแม่ก็เลยลองโทรหาดู

ตอนแรกพ่อดินบอกว่าจะโทรมาบ้านลุงผู้ใหญ่ตั้งแต่วันแรกๆแล้ว
แต่ที่นั่นงานเขาเร่งจริงๆเลิกงานทีก็ทุ่มกว่า ทางบ้านเราก็ถือว่าดึกแล้วนะ มันรบกวนลุงผู้ใหญ่ พ่อเขาเลยไม่กล้าโทร

เราคุยกันได้สักพัก เวลาในตอนนั้นเหมือนทุกอย่างมันผ่านไปเร็วมาก...

“ไอ้ตัวแสบครับ เหรียญพ่อจะหมดแล้วหนูมีอะไรจะคุยกับพ่ออีกหรือเปล่า?”

พอพ่อเขาพูดมาแบบนั้น เรารู้สึกใจหายพอสมควร ตอนนั้นก็เงียบแล้วนิ่งคิดไปว่าจะบอกพ่อเขาเรื่องที่เราเผลอดูหนังโป๊กับเพื่อนดีมั้ย?

“พ่อดินฮะ คือ...”

ตื๊ดดดดด

พอได้ยินเสียงสัญญาณนี้เราก็รู้ได้ทันทีว่าสายโทรศัพท์นั้นมันตัดไปแล้ว...
อยากคุยอีกจัง อยากได้ยินเสียงของพ่อดินอีกนิดก็ยังดี...

ตอนนั้นรู้สึกจริงๆ ว่าเหมือนใจของเรามันสื่อถึงกันได้ เพราะพ่อเขาก็โทรกลับมาจริงๆ

“ไอ้ตัวแสบเหรียญพ่อหมดแล้ว นี่ขอไอ้เมฆมาหนูดูแลตัวเองดีๆนะครับ
เดี๋ยวพ่อจะรีบทำงานให้เสร็จแล้วรีบกลับไปหาหนูนะ กินข้าวกินปลาด้วยนะอย่ามัวแต่วิ่งเล่น”
รอบนี้พ่อดินรัวคำพูดมาเป็นชุดเหมือนเป็นการบอกให้รู้ว่าพ่อเขาก็น่าจะมีเหรียญเหลือไม่เยอะเหมือนกัน

“พ่อดินครับ พ่อดินดูแลตัวเองเหมือนกันนะผมเป็นห่วง...ผมรักพ่อดินนะคร้าบ” เราก็รีบพูดตอบกลับไปเหมือนกัน
คือตอนนั้นมันก็คิดคำพูดไม่ออก ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว แต่รู้สึกว่าอยากบอกว่ารักพ่อเขาเท่านั้นเอง...

“…”

“...คร้าบ คร้าบ พ่อก็รักหนูเหมือนกัน พ่อจะรีบกลับไปนะ ไอ้ตัวแสบเหรียญพ่อหมดแล้ววววววว”

ตื๊ดดดดดดดดดดด

เฮ้อ...รอบนี้คงไม่มีโทรกลับมาแล้วสินะ... แต่ไม่เป็นไร ได้คุยแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

“ใครโทรมาเรอะไอ้หนู?” ลุงผู้ใหญ่ถามขึ้นทันทีที่พ่อดินวางสายไป

“พ่อดินฮะ”

“โอ้ว! ไอ้ยักษ์อ่ะเรอะ?!! เออ แปลกดีนะ มันไปทำงานที่ไหนก็ไม่เคยเห็นโทรมาบ้านลุงแล้วขอคุยกับพ่อแม่มันบ้างเลย
แต่รอบนี้ไหงโทรมาหาได้ แปลกคนจริงไอ้นี่”

เราไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ได้แต่ยิ้มให้ลุงผู้ใหญ่บ้าน

หลังจากที่ลุงผู้ใหญ่มาส่งเราที่บ้านแล้ว คืนนั้นเรารู้สึกว่าเรานอนหลับง่ายกว่าปกติ
ถึงมันจะหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาก็ตาม มันอดไม่ได้ที่จะร้องไห้จริงๆนะ เพราะยิ่งนอนกอดหมอนของพ่อเขาก็ยิ่งคิดถึง
พอได้คุยกันแบบนี้กลับยิ่งคิดถึงเข้าไปอีก

รีบกลับมานะครับพ่อดิน...

guide01 โพสต์ 2022-8-13 00:24:33

ขอบคุณมากนะครับ

xoman โพสต์ 2022-8-13 00:49:00

ขอบคุณมากนะครับ

sirsar โพสต์ 2022-8-13 00:56:57

พ่อดินรีบกลับมานะ มีคนคิดถึง {:5_139:}{:5_139:}

nuangnut1996 โพสต์ 2022-8-13 01:28:15

สนุกมากครับ

Toyoza โพสต์ 2022-8-13 01:39:20

ขอบคุณครับ

koth2 โพสต์ 2022-8-13 01:47:35

ขอบคุณครับ เศร้าจัง นี้แหละชีวิต พอเจอเรื่องลบแล้ว ก็จะมีเข้ามาอีกเรื่อยๆๆ 55555555
สุดทายได้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ป้าปูฟังมัยอะ

joojubjub โพสต์ 2022-8-13 02:13:34

เมื่อไหร่จะเอากันอีก

napapadon1 โพสต์ 2022-8-13 02:32:47

ขอบคุณครับ

audiwoods โพสต์ 2022-8-13 03:43:07

เก่งจัง​ อยู่บ้านคนเดียวได้

4554 โพสต์ 2022-8-13 04:54:35


ดีงามสุดๆ

winwin2 โพสต์ 2022-8-13 06:06:02

ขอบคุณครับ

lekthai โพสต์ 2022-8-13 07:26:23

ขอบคุณครับผม

pai_2552 โพสต์ 2022-8-13 07:56:24

ขอบคุณครับ

takeshi โพสต์ 2022-8-13 08:27:06

ขอบคุณครับ

ว่พยส โพสต์ 2022-8-13 09:13:47

ขอบคุณ

cvbnmopol โพสต์ 2022-8-13 09:29:05

ขอบคุณครับ

OakyDogie โพสต์ 2022-8-13 09:32:18

ไอ้เรื่องจังหวะนรกเราก็เคยมีเหมือนกันค้นข้อมูลในเน็ตให้แม่ดีๆมีแบนเนอร์โฆษณาเวปโป๊เด้งขึ้นมา พร้อมเสียงโหยหวน...นั่นหละฮะท่านผู้ชม เห็นกันครบเลย ดีไม่โดนด่า {:5_131:}/ก็อ่ะนะอยู่ด้วยกันทุกวัน พอแกไปธุระที่อื่นก็เหงาเลยแถมต้องอยู่บ้านคนเดียวอีก ไหนจะเจอปัญหาเข้ามาอีก{:5_128:}

Botano โพสต์ 2022-8-13 09:51:15

ขอบคุณครับ

boxer15 โพสต์ 2022-8-13 10:31:29

ขอบคุณครับ
หน้า: [1] 2 3
ดูในรูปแบบกติ: รักพ่อดินที่สุดในโลกเลย ♥ [4]