แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nueng1710 เมื่อ 2022-9-7 08:56
คุยกันหน่อย : เนื่องจากเราคิดพล๊อตไว้่คร่าวๆ แล้วฮะว่าจะให้เป็นไปอย่างไร ตอนแรกจะเขียนแนว NC วาบหวิวแต่เขียนไปมากลายเป็นแนวช่องน้อยสีมากสีไปได้ ถ้าหากเพื่อนที่อ่านเบื่อแนวนี้อย่าเพิ่งว่ากันน้า อยากให้อ่านแบบผ่อนคลาย แต่รับรองว่า NC มาแน่นอน 5555 ฝากเป็นกำลังใจให่้ด้วยนะฮะ
วันและเวลาผ่านไปไวมากๆ จนผมจะเรียบจบ ม.ปลายแล้วและได้โควต้าเข้าไปเรียน ระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ ฯรูปร่างหน้าตาผมก็เปลี่ยนแปลงไปมากพอดู ไม่ได้ดูอ้อนแอ้นเหมือนเด็ก ๆแล้วซ้ำยังมีส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นมาอีก จนผมแปลกใจแต่ที่เปลี่ยนแปลงไปพอสมควรจนผมใจหายคือ พ่อของผมท่านดูแก่ขึ้นมากเพราะน่าจะทำงานหนักขึ้นพ่อบอกว่ากิจการงานที่บ้านดีขึ้นมากเพราะได้มือขวาที่ช่วยงานอย่างขยันขันแข็งเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นมาก และแทบไม่มีเรื่องเสียหายใด ๆ เลย
มือขวาที่พ่อพูดถึงก็คือ“พี่ดำหรือพี่ดำรง” พ่อบอกว่าไม่อยากเรียกดำ มันดูเชยไปเรียก 2 พยางค์ดูเพราะกว่า555 ดูพ่อผมสิ ท่าทางจะถูกใจมือขวาอย่างพี่ดำรง ยิ่งนัก แต่พี่ดำรงหรือพี่ดำนั้นสำหรับผม 3 ปีผ่านมานั้นผมไม่ได้คุยไม่ได้เห็นหน้าเท่าไรนักเพราะผมแทบไม่ค่อยได้กลับบ้านเลยพ่อขับรถมาเยี่ยมหาผมโดยมากับพี่ชัยเสียส่วนใหญ่
“คุณหนุ่มคุณหนุ่มนี่สูงใหญ่ ขึ้นเยอะเลยนะครับเนี่ย ไม่เหมือนตอนเด็ก ๆ เลย”
“โหวพี่ชัย จะว่าผมอ่อนแออ่ะสิตอนเด็กๆ แต่ไม่เหมือนพี่ชัยเนี่ยดูแก่ลงเยอะเลยอ่ะ 555”ผมรู้พี่ชัยไม่ได้หมายความอย่างนั้นหรอก ก็คงแซวเล่นตามประสานั่นแหล่ะ ผมเลยแซวแกกลับไปบ้าง ก็พี่ชัยดูโทรมลงไปเยอะเลยอ่ะ
“จะไม่แก่ได้ไงไหวอ่ะครับคุณหนุ่มงานเยอะแถมกิจการบ้านคุณหนุ่มก็ดีขึ้นเป็นกอง ได้กองหนุนดีๆ อย่างบ้านเสี่ยอีกบ้านคุณหนุ่มนี่เรียกว่าเศรษฐีย่อม ๆ เลยนะครับเนี่ย”
ผมรู้สึกขอบคุณพี่ชัยและพี่ ๆคนงานที่บ้านที่ช่วยพ่อผมทำงานอย่างขยันขันแข็ง พวกเค้ามีบุญคุณกับผมนะถ้าไม่ได้พวกเค้าช่วยพ่อผมทำงานส่งผมเรียน ผมคงไม่ได้เรียนสูงถึงขนาดนี้แน่มิหนำซ้ำกำลังจะได้ไปเรียน มหาวิทยาลัยชื่อดังอีกด้วย
“ผมดีใจนะที่พี่ชัยอยู่กับพ่อผมช่วยพ่อผมทำงาน ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ”
“ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกคุณหนุ่มยังมีอีกคนนะครับที่ขยันทำงาน ตั้งใจทำงานเป็นอย่างดีเลย”
“ใครครับ ?”
“อ้าวก็ นายดำรงศักดิ์ ยังไงหล่ะครับรายนั้นตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนละคนเลย เหล้ายาไม่แตะต้องไม่มีเรื่องชู้สาวมาเกี่ยวข้อง ตั้งใจทำงาน ช่วยงานพ่อคุณหนุ่มตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตจนเป็นที่โปรดปรานของคุณหนึ่งเลยนะครับนั่น”
อื้อหือ ... นายดำรงศักดิ์ พี่ดำหรือเนี่ยผมดีใจที่มีการเปลี่ยนแปลงดีๆ ของพี่เค้า ผมยังมีความหวังดีให้พี่เค้าเสมอถึงแม้เราจะไม่เคยได้คุยกันสักครั้ง ถึงผมจะกลับบ้านแต่ก็กลับไปแป้บเดียวปิดเทอมก็ไม่ได้กลับ มีแต่พ่อมาหามาพักด้วยแปลกใจว่าทำไมถึงทิ้งงานทิ้งบ้านมาหาผมได้ ที่แท้ก็มีมีขวาไว้ใจได้นี่เอง
3 ปีแล้วที่ไม่ได้เจอไม่ได้เห็น(รักแรก) พี่ดำ แต่ก็เดาเอาได้ว่าคงไม่จำเป็นเท่าไรหรอกพี่ดำก็คงไม่ได้อยากเจอผมอยู่แล้ว อีกอย่างผมไม่ได้อยู่บ้านมาเกือบ 3 ปีพี่ดำเค้าคงลืมไปหมด และท่าทีท่าทางผมก็เปลี่ยนไปหมดแล้วด้วย ..................................................................................
ผมกำลังจะม.6 แล้ว กำลังเตรียมตัวเข้าพิธีจบการศึกษาที่โรงเรียน ตามประเพณีนิยมในสมัยนี้แต่สิ่งที่ผมแปลกใจคือ ผมบอกกำหนดการคร่าว ๆให้พ่อฟังแล้วและพ่อบอกว่าจะมาหาผมที่โรงเรียน แต่วันนี้กลับเงียบหายไปและใจผมก็หวิว ๆ อย่างบอกไม่ถูก
ตื้ด.....ตื้ดดดดดดดดดดดดดดด
“สวัสดีครับ.....ผม.....”
“พ่อ พ่อครับ นั่นไม่ใช่เสียงพ่อนี่นา ใครเอาโทรศัพท์พ่อมาเล่น”
“ครับผม ดำรงศักดิ์พูดครับ”.
“แล้วโทรศัพท์พ่อผมอยู่ที่คุณได้ไง”น้ำเสียงผมร้อนรนยิ่งกว่าสิ่งใด แปลกใจเป็นอย่างมากที่คนรับโทรศัพท์ไม่ใช่พ่อผม
“ใจเย็น ๆ นะครับคุณหนุ่ม.....คุณหนึ่งเป็นลม ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลกำลังเช็คร่างกายคุณหนุ่มฝากโทรศัพท์ไว้กับผม เผื่อมีธุระเรื่องงานติดต่อเข้ามาครับ”เสียงนุ่มทุ้มพยายามอธิบายในสิ่งที่ผมกำลังสงสัยอยู่
“แล้วพ่อผมเป็นอย่างไรบ้างครับ”น้ำเสียงผมยังติดกังวลอยู่ พ่อผมท่านดูแก่ลงมาก ไม่แปลกใจเลยถ้าท่านจะไม่สบาย
“ตอนนี้กำลังเอ็กเรย์สมองตรวจเชคร่างกาย เพราะคุณหนึ่งล้มกระแทกพื้น เบื้องต้นปลอดภัยดีครับ กำลังรอผลการตรวจครับ”เสียงที่พยายามอธิบายผมคล้ายกับน้ำเสียงที่กำลังค่อย ๆ ปลอบขวัญผมให้หายตกใจจนผมลืมนึกไปว่าเสียงที่พูดคุยกับผมอยู่นี้คือเสียงของ “พี่ดำ”
“ขอบคุณครับคุณพ่ออยู่ รพ..... ใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับคุณหนุ่ม“
“ขอบคุณครับ”
แล้วผมก็วางสายไปน้ำเสียงนุ่ม ทุ้มยังติดอยู่ที่โสตประสาทหู นานมากแล้วที่ไม่ได้ยินเสียงพี่ดำนานมากแล้วที่พี่เค้าไม่เคยพูดดี ๆ ด้วย ครั้งนี้กลับเป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยนปลอบขวัญ เหมือนกับรู้ได้ว่าผมกำลังเสียงสั่นเครือ ด้วยความตกใจ ผมตั้งใจจะไปเยี่ยมคุณพ่องานวันพรุ่งนี้ผมคงต้องขอลาอาจารย์เพราะคงกลับมาร่วมงานไม่ทันแน่และคงไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรแน่ ถ้าหากยังไม่ไปเห็นกับตาว่าพ่อปลอดภัยจริง ๆเพราะเรามีกันแค่ 2 คนเท่านั้น ผมจึงเลือกที่จะไปหาพ่อผมก่อนเป็นอันดับแรก
กว่าจะมาถึงโรงพยาบาลที่พ่อผมรักษาตัวอยู่ก็เย็นมากแล้วและไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเค้าให้เข้าเยี่ยมหรือเฝ้าไข้ไหมเมื่อติดต่อเจ้าหน้าที่เรียบร้อยและได้ทราบว่าพ่อผมพักอยู่ห้องไหน ผมจึงรีบตรงไปที่ห้องพักของพ่อทันที
ก๊อก ก๊อกไม่ทันได้ยินเสียงคนเปิดประตู ผมรีบเปิดประตูและพุ่งพรวดเข้าไปทันทีด้วยความร้อนใจ
ผลัก!! ตัวผมปะทะเข้ากับอกคนคนหนึ่งที่รูปร่างสูงใหญ่เข้าอย่างจัง
“โอ้ยยย” ไม่ทันที่ผมจะล้มคนคนนั้นรีบจับตัวผมไว้ก่อน ที่ผมจะกระเด็นออกมา
“ขอโทษครับ...”เสียงเราทั้งสองประสานกันทันที
“คุณหนุ่ม”เสียงเรียกทุ้มนุ่มของชายหนุ่มตรงหน้า เรียกสติผมให้กลับคืนมาอย่างเร็วไวหลังจากที่เผลอเคลิบเคลิ้มไปกับโครงหน้าของชายหนุ่มคนนั้น
“พี่ดำ” เสียงครางในลำคอของผมทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าเลิกคิ้วขึ้น พร้อมยิ้มขึ้นมาทันทีไม่รู้เพราะอะไรรอยยิ้มนั้นช่างดีใจปนโล่งใจอย่างไรไม่รู้
“พ่อผมเป็นไงบ้างครับ...”ผมถามขึ้นทันทีเมื่อเหลือบไปเห็นร่างของบิดานอนหลับอยู่บนเตียงสีขาว
“คุณหนึ่ง หลับไปสักพักแล้วครับคงเพลียเพราะหักโหมงานมากไปคงรีบเคลียร์งานเห็นบอกว่าจะไปงานจบการศึกษาของคุณหนุ่มให้ทัน” ประโยคที่ยาวที่สุดออกจากปากชายหนุ่มซึ่งครั้งหนึ่งแม้กระทั้งมองหน้า เค้ายังไม่มองมาทางผมเลยสักครั้ง ..........................................................................
“พ่อหนึ่ง เป็นไงบ้างหนุ่ม ท่านโอเคใช่ไหม”เสียงถามจากแพท เพื่อนสนิทคนหนึ่ง
“พ่อเป็นลม ล้มน่ะ เชคสมองและตรวจร่างกายแล้วไม่มีอะไรน่าห่วงมาก พ่อเลยให้เรามางานนี้อ่ะ เสียดายพ่อไม่ได้มาดู”
“โอ้ยยย โล่งใจ ตกใจหมดเลย...ดีแล้วที่ท่านไม่เป็นอะไร”
“ว่าแต่..... ผู้ชายตัวสูงใหญ่โคตรหล่อคนนั้น ใครกันอ่ะ เห็นมายืนรอแถวนี้นานแล้วนะหนุ่ม”
“เอ่อ....คือพี่ที่ทำงานกับพ่อน่ะเค้ารับอาสาขับรถมาส่ง บอกให้กลับก่อนก็ไม่ยอมจะรอกลับด้วย”
“ใช่ ...ไอ้พี่ที่หนุ่มเลยเล่าให้ฟังหรือเปล่าว่าที่เค้าไม่ชอบหนุ่มอ่ะ แล้วแถมยังพูดจากปากหมาใส่หนุ่มอีกด้วย”
“อื้อ...ใช่ คนนั้นแหล่ะ” ผมตอบแพทตามจริงและยังสงสัยไม่หายว่าทำไม พี่ดำรง หรือ พี่ดำ ถึงอาสาขับรถมาส่งผมที่นี่ซ้ำยังรอรับกลับด้วย ไม่ยอมให้ผมกลับเองเสียอีก
“เป็นคำสั่งของคุณหนึ่งฝากมาครับ”พูดน้อยแต่พูดนะ สำหรับเหตุผลที่ให้ผมมา ระหว่างทางที่นั่งรถมาด้วยกันมันไม่ใช่ความอึดอัด แต่มันเป็นความไม่คุ้นเคยมากกว่า ผมไม่รู้เหตุผลอะไรมากนักว่าทำไมพี่ดำถึงเปลี่ยนท่าทีไป ความอ่อนโยน สายตาที่มองมาทางผม หรือแม้กระทั่งคำพูดมันเปลี่ยนไปหมดอาจจะเพราะต่างคนต่างโตขึ้น พี่ดำเองก็เกือบจะ 30 ปีแล้ว ผมเองก็จะ 18 ปีแล้วทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป แต่...สิ่งหนึ่งที่มันอยู่ในใจของผมคือความสั่นไหวที่บอกไม่ถูก พี่ดำในเวอร์ชั่นนี้ ทำให้ใจผมแกว่ง ใจผมวาบหวิว เฮ้ออ...ผมจะกลับมาหลงรัก รักแรกที่เป็นรักข้างเดียวแบบนี้ไม่ได้นะ
“คุณหนุ่มจะกลับไปโรงพยาบาลเลยไหมครับหรือรอทำอะไรอีกหรือเปล่า”
เสียงนุ่มทุ้มถามผม ตอนที่ผมกำลังคุยอยู่กับแพทขนาดลำตัวที่สูงใหญ่ของพี่ดำ ทำให้แพทถึงกับต้องเงยหน้ามอง แพทที่พูดเก่ง ๆถึงกับนิ่งเงียบและไม่กล้ามองพี่ดำเท่าไร เพราะอะไรไม่รู้
“กลับเลยก็ได้ครับ ไม่น่ามีอะไรแล้ว เดี๋ยวพ่อดีขึ้นค่อยกลับมาเก็บของที่หอครับ” ....................................................................................
คล้อยหลังทั้งคู่เดินออกไปจากบริเวณนั้นเสียงถอนหายใจของแพทดังสนั่น ราวกับว่ายกภูเขาออกจากอก
“นึกว่าจะเดินมาต่อยกูคว่ำแล้วคนอะไรโหดเป็นบ้าเลย แค่คุยกันเอง ทำเป็นหวงไอ้หนุ่มไปได้ ไหนว่าเกลียดนักหนาวะ ตะกี้ยังกะจะกินหัวกูเลยบรึ๋ยยย”
|