อ่านเรื่องราวก่อนหน้า : ** เพื่อความอรรถรสในการอ่านเพราะเรื่องราวจะร้อยเรียงเป็นไทม์ไลน์ อาจจะมีการพูดถึงบุคคลใน EP ก่อนหน้า และ อาจมีเรื่องราวใน EP นี้ / **เรื่องจะเรียงตาม EP ไม่ต้องสนใจ Part ข้างหลังครับ**
EP 1 : ครั้งแรกของผม...เกิดจากความแค้นต่อเด็กป.4
มี 346 ซื้อ คุณต้องจ่าย 5 Zenny เพื่ออ่านกระทู้นี้ จ่ายเงินสำหรับกระทู้นี้
ขอบคุณมากนะครับ
ขอบคุณครับ
ชอบมากครับ รอติดตามตอนต่อไป:lol
ขอบคุณครับ
สนุกมากครับ
เนื้อเรื่องดีสนุกทุกตอนเลยครับ
สนุกดีครับ
ขอบคุณมากๆครับ
ขอบคุณครับ
ติดซีรี่ส์เรื่องนี้ซะแล้ววว รอตอนไป
เสียวมากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุนครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
สนุกมาก อ่านทุกบรรทัดเลย
ขอบคุณคับ
ขอบคุณครับ
EP 1 : ครั้งแรกของผม...เกิดจากความแค้นต่อเด็กป.4
EP 4 : มัธยมหรรษา Part 2 ร้อนรักห้องน้ำชาย กับ เด็กชายนายก้นงอน
EP 5 : ตอน กาลครั้งหนึ่ง เมื่อเราบวชเณร
Part 1 : ความทรงจำดีๆ กับ เด็กชายที่เราไม่เคยมอง
EP 5 : ตอน กาลครั้งหนึ่ง เมื่อเราบวชเณร
Part 1 : ความทรงจำดีๆ กับ เด็กชายที่เราไม่เคยมอง
<< สำหรับผู้อ่านท่านไหน ที่เคร่งเรื่องศาสนา ผ่านได้เลยครับ >>
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนปิดเทอมใหญ่ ก่อนที่ผมจะขึ้น ม.3 เมื่อผมตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ บวชสามเณรภาคฤดูร้อน เหตุผล ไม่ใช่ว่าผมอยากจะซึมซับ รับรสพระธรรมอะไรนักหรอก เพราะว่าผมไม่อยากอยู่ที่บ้านอามากซะเท่าไหร่ ตอนนี้ความสัมพันธ์ของผมกับอาเริ่มเลวร้ายลงมาก
สาเหตุแรกคือ ถ้าผู้อ่านคนไหนเคยอ่านเรื่องของผมกับ หรั่ง(EP3) และ นัท(EP4) กันมา จะรู้ว่าการที่ผมจะมีกิจกรรม Sex กับเพื่อนทั้งสองคนที่โรงเรียน ผมต้องรอทำกันหลังเลิกเรียน ไม่ว่าจะเป็นห้องที่ไม่มีคนใช้ หรือแม้กระทั่งห้องน้ำ แถมต้องรอตอนคนอื่นในโรงเรียนกลับบ้านไปอีก กว่าจะได้ทำก็ปาไปเกือบหกโมงเย็น ทำเสร็จกว่าจะถึงบ้านก็หนึ่งทุ่ม ซึ่งก็ทำให้อาคังทั้งดุและต่อว่าผม หาว่าผมเป็นคนเถลไถล และเป็นเด็กดื้อ
สาเหตุที่สองคือ อาคังลดลูกจ้างที่ร้านลง 2 คน แล้วให้ผมมาช่วยงานที่ร้าน ทำให้ผมไม่มีเวลาอ่านหนังสือ รวมถึงการทำการบ้าน ทำให้ผมเครียดกลัวผลการเรียนจะตกลง แถมผมขอไปเรียนพิเศษ อาคังก็ไม่ยอมให้ผมไปเรียน เพื่อที่จะให้ผมได้อยู่ช่วยงานร้านวันเสาร์ - อาทิตย์ ช่วงหลังๆ เลยทำให้ผมเหวี่ยงอารมณ์ใส่อาคังบ่อยครั้ง เพราะความเครียดและเหนื่อย
ผมเลยหาเรื่องที่จะไม่อยู่บ้านอา นี่ก็คือเหตุผลที่ผมสมัครใจที่จะไปบวชสามเณร เพราะจะทำให้ผมไม่ต้องอยู่บ้านอาในช่วงปิดเทอมใหญ่ แม่ผมที่อยู่ต่างประเทศ ได้ข่าวก็ดีใจมากที่ผมจะบวชเณร ทำให้อาคังไม่กล้าที่จะห้ามผมและขัดใจแม่ (เพราะว่าแต่ละเดือน แม่ส่งเงินมาให้อาคัง เป็นค่าเลี้ยงดูเดือนละหมื่นกว่าๆ) ส่วน น้องเซน(EP2) ผมก็เสียดายนะ เพราะปิดเทอมใหญ่ เราทั้งสองคนก็สามารถเล่นเสียวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ผมมาคิดถึงความเครียดที่ผมอาจจะได้รับตอนที่อยู่ที่บ้าน ก็เลยต้องตัดใจ เพื่อพักร่างกาย จิตใจและสมอง เพื่อเตรียมตัวที่จะเรียน ม.3 เทอมหน้า
การบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ณ วัดแห่งนี้ จะจัดขึ้นทุกปี วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาก มีหลายโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ จะมี เด็ก 2 ประเภทที่มาบวช ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่สมัครใจมาบวช กับอีกประเภทเป็นเด็กที่เกเรมากๆ จนฝ่ายปกครองของ รร. ส่งมาบวชเพื่อดัดนิสัย มีเด็กเข้าร่วมโครงการประมาณ 100 กว่าคน มีตั้งแต่เด็กเล็กยันเด็กโต ช่วงก่อนที่จะบวชเณร เด็กๆทุกคนจะต้องมาเข้าค่ายเพื่อละลายพฤติกรรมก่อน 7 วัน และเด็กทุกคนต้องมาหัดท่องบทสวดก่อน ตอนที่จะบวชเณรทุกคนจะได้ท่องถูก รวมถึงการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์
วันแรกพอถึงที่เข้าค่าย ค่ายนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าและมีถ้ำขนาดใหญ่ด้วย บรรยากาศดีมาก เด็กแต่ละคนมักจะจับกลุ่มอยู่กับเด็กที่อยู่จังหวัดเดียวกัน โรงเรียนผมมีนักเรียนมาบวชกันไม่ถึง 10 คน แถมผมดันไม่รู้จักพวกเขาอีก เพราะอยู่คนละห้อง คนละชั้น แถมตอนแรกผมก็คิดว่า เจ้านิค คนที่ให้ใบปลิวผมมาเมื่อ EP ที่แล้ว มันจะมาบวชด้วย อย่างน้อยผมก็จะได้อุ่นใจ มีเพื่อนที่เราเคยคุยกัน มาบวชด้วยกัน แต่นิคดันบอกผมว่า เขาบวชตั้งแต่ก่อนขึ้น ม.2 แล้ว ผมเลยเคว้งเลย ทำให้ผมต้องเสี่ยงดวงหากลุ่มอยู่ (เหตุผลแอบแฝงที่แท้จริงของผมก็คือ เพื่อนๆที่อยู่โรงเรียนเดียวกันที่มาบวช ไม่ค่อยมีคนน่ารัก 55 เลยต้องเสี่ยงดวงไปหากลุ่มที่มีเด็กน่ารักอยู่ )
ผมเดินไปเดินมา จนได้เจอเด็กคนหนึ่งหล่อละมุนมาก ผมเลยเดินไปขอเข้ากลุ่มอยู่ด้วย โดยอ้างว่า ผมมาคนเดียวไม่รู้จักใคร ซึ่งกลุ่มนี้เป็นเด็กนครปฐม การที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับคนที่เราหมายตา มันมีนัยยะที่สำคัญมาก เพราะว่าตัวผมและกลุ่มจะได้นอนด้วยกันเป็นเวลาถึง 6 คืน ซึ่งที่ที่เรานอน ผมก็จำไม่ค่อยจะได้ว่าเป็นกลดหรือเป็นเต๊นท์ในตอนนั้น แต่ที่นอนสามารถนอนได้ประมาณ 3 คน ซึ่งคนที่ผมเล็งไว้ เขาขอเพื่อนแถวบ้านที่มาบวชด้วยกันให้มานอนด้วย ผมก็ไม่ขัดข้อง
คนที่ผมหมายตาไว้ ชื่อ สันต์ เป็นเด็กที่หน้าหวานมากและหล่อเอาการอยู่ หุ่นดี ผิวไม่ขาวมากแต่เนียน คุยเก่ง อยู่ชั้น ม.1 คือดูโดยรวม ผมคิดในใจ Type เกย์รับ แน่ๆ และเพื่อนของสันต์ ชื่อ ป๋อง เป็นเด็กหน้าตาปานกลาง หน้ากลมๆ ผิวขาวเหมือนคนเหนือ ดวงตาจะเหมือนคนที่ง่วงตลอดเวลา แถมไม่ค่อยยิ้มด้วย ป๋องเค้าจะเป็นคนเงียบๆ คำที่พูดออกมาแต่ละวันสามารถนับคำได้เลย และเหมือนน้องจะดูประหม่าเวลาเจอคนเยอะๆ แต่ก็ดูน่ารักดีแบบเด็กๆ น้องป๋องอยู่ชั้น ป.5
สาเหตุแรกคือ ถ้าผู้อ่านคนไหนเคยอ่านเรื่องของผมกับ หรั่ง(EP3) และ นัท(EP4) กันมา จะรู้ว่าการที่ผมจะมีกิจกรรม Sex กับเพื่อนทั้งสองคนที่โรงเรียน ผมต้องรอทำกันหลังเลิกเรียน ไม่ว่าจะเป็นห้องที่ไม่มีคนใช้ หรือแม้กระทั่งห้องน้ำ แถมต้องรอตอนคนอื่นในโรงเรียนกลับบ้านไปอีก กว่าจะได้ทำก็ปาไปเกือบหกโมงเย็น ทำเสร็จกว่าจะถึงบ้านก็หนึ่งทุ่ม ซึ่งก็ทำให้อาคังทั้งดุและต่อว่าผม หาว่าผมเป็นคนเถลไถล และเป็นเด็กดื้อ
สาเหตุที่สองคือ อาคังลดลูกจ้างที่ร้านลง 2 คน แล้วให้ผมมาช่วยงานที่ร้าน ทำให้ผมไม่มีเวลาอ่านหนังสือ รวมถึงการทำการบ้าน ทำให้ผมเครียดกลัวผลการเรียนจะตกลง แถมผมขอไปเรียนพิเศษ อาคังก็ไม่ยอมให้ผมไปเรียน เพื่อที่จะให้ผมได้อยู่ช่วยงานร้านวันเสาร์ - อาทิตย์ ช่วงหลังๆ เลยทำให้ผมเหวี่ยงอารมณ์ใส่อาคังบ่อยครั้ง เพราะความเครียดและเหนื่อย
ผมเลยหาเรื่องที่จะไม่อยู่บ้านอา นี่ก็คือเหตุผลที่ผมสมัครใจที่จะไปบวชสามเณร เพราะจะทำให้ผมไม่ต้องอยู่บ้านอาในช่วงปิดเทอมใหญ่ แม่ผมที่อยู่ต่างประเทศ ได้ข่าวก็ดีใจมากที่ผมจะบวชเณร ทำให้อาคังไม่กล้าที่จะห้ามผมและขัดใจแม่ (เพราะว่าแต่ละเดือน แม่ส่งเงินมาให้อาคัง เป็นค่าเลี้ยงดูเดือนละหมื่นกว่าๆ) ส่วน น้องเซน(EP2) ผมก็เสียดายนะ เพราะปิดเทอมใหญ่ เราทั้งสองคนก็สามารถเล่นเสียวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ผมมาคิดถึงความเครียดที่ผมอาจจะได้รับตอนที่อยู่ที่บ้าน ก็เลยต้องตัดใจ เพื่อพักร่างกาย จิตใจและสมอง เพื่อเตรียมตัวที่จะเรียน ม.3 เทอมหน้า
การบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ณ วัดแห่งนี้ จะจัดขึ้นทุกปี วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาก มีหลายโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ จะมี เด็ก 2 ประเภทที่มาบวช ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่สมัครใจมาบวช กับอีกประเภทเป็นเด็กที่เกเรมากๆ จนฝ่ายปกครองของ รร. ส่งมาบวชเพื่อดัดนิสัย มีเด็กเข้าร่วมโครงการประมาณ 100 กว่าคน มีตั้งแต่เด็กเล็กยันเด็กโต ช่วงก่อนที่จะบวชเณร เด็กๆทุกคนจะต้องมาเข้าค่ายเพื่อละลายพฤติกรรมก่อน 7 วัน และเด็กทุกคนต้องมาหัดท่องบทสวดก่อน ตอนที่จะบวชเณรทุกคนจะได้ท่องถูก รวมถึงการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์
วันแรกพอถึงที่เข้าค่าย ค่ายนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าและมีถ้ำขนาดใหญ่ด้วย บรรยากาศดีมาก เด็กแต่ละคนมักจะจับกลุ่มอยู่กับเด็กที่อยู่จังหวัดเดียวกัน โรงเรียนผมมีนักเรียนมาบวชกันไม่ถึง 10 คน แถมผมดันไม่รู้จักพวกเขาอีก เพราะอยู่คนละห้อง คนละชั้น แถมตอนแรกผมก็คิดว่า เจ้านิค คนที่ให้ใบปลิวผมมาเมื่อ EP ที่แล้ว มันจะมาบวชด้วย อย่างน้อยผมก็จะได้อุ่นใจ มีเพื่อนที่เราเคยคุยกัน มาบวชด้วยกัน แต่นิคดันบอกผมว่า เขาบวชตั้งแต่ก่อนขึ้น ม.2 แล้ว ผมเลยเคว้งเลย ทำให้ผมต้องเสี่ยงดวงหากลุ่มอยู่ (เหตุผลแอบแฝงที่แท้จริงของผมก็คือ เพื่อนๆที่อยู่โรงเรียนเดียวกันที่มาบวช ไม่ค่อยมีคนน่ารัก 55 เลยต้องเสี่ยงดวงไปหากลุ่มที่มีเด็กน่ารักอยู่ )
ผมเดินไปเดินมา จนได้เจอเด็กคนหนึ่งหล่อละมุนมาก ผมเลยเดินไปขอเข้ากลุ่มอยู่ด้วย โดยอ้างว่า ผมมาคนเดียวไม่รู้จักใคร ซึ่งกลุ่มนี้เป็นเด็กนครปฐม การที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับคนที่เราหมายตา มันมีนัยยะที่สำคัญมาก เพราะว่าตัวผมและกลุ่มจะได้นอนด้วยกันเป็นเวลาถึง 6 คืน ซึ่งที่ที่เรานอน ผมก็จำไม่ค่อยจะได้ว่าเป็นกลดหรือเป็นเต๊นท์ในตอนนั้น แต่ที่นอนสามารถนอนได้ประมาณ 3 คน ซึ่งคนที่ผมเล็งไว้ เขาขอเพื่อนแถวบ้านที่มาบวชด้วยกันให้มานอนด้วย ผมก็ไม่ขัดข้อง
คนที่ผมหมายตาไว้ ชื่อ สันต์ เป็นเด็กที่หน้าหวานมากและหล่อเอาการอยู่ หุ่นดี ผิวไม่ขาวมากแต่เนียน คุยเก่ง อยู่ชั้น ม.1 คือดูโดยรวม ผมคิดในใจ Type เกย์รับ แน่ๆ และเพื่อนของสันต์ ชื่อ ป๋อง เป็นเด็กหน้าตาปานกลาง หน้ากลมๆ ผิวขาวเหมือนคนเหนือ ดวงตาจะเหมือนคนที่ง่วงตลอดเวลา แถมไม่ค่อยยิ้มด้วย ป๋องเค้าจะเป็นคนเงียบๆ คำที่พูดออกมาแต่ละวันสามารถนับคำได้เลย และเหมือนน้องจะดูประหม่าเวลาเจอคนเยอะๆ แต่ก็ดูน่ารักดีแบบเด็กๆ น้องป๋องอยู่ชั้น ป.5
พอผ่านไป 2 วัน ผมและสันต์เราทั้งสองคนคุยกันถูกคอมาก แต่พอได้คุยกันจริงๆ น้องสันต์ดูแมนและห้าวเกินกว่าหน้าตาที่หวานสวยของเขา แต่ด้วยเวลาที่มีแค่ 6 คืน ผมเลยต้องรีบจัดการเป้าหมายแล้ว ผมลองหยั่งเชิงกับสันต์ในคืนที่ 3 แกล้งกอดน้อง แกล้งจับควยของน้อง แต่สันต์มีปฎิกิริยาที่กลับมาค่อนข้างแรง ทำให้ผมแทบหมดหวังทันที และผมรู้สึกเฟลมาก กับเด็กที่ผมมั่นใจมาก ว่าจะมีอะไรกับเด็กที่ผมเล็งไว้ได้ ค่ำคืนนั้นจบลงด้วยความเงียบ แม้กระทั่ง น้องป๋องที่นอนริม ก็ไม่มีรีแอคชั่นยังไงที่เพื่อนเขาพูดว่าผม แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้น สันต์ก็คุยกับผมเป็นปกติ สันต์อาจจะแค่คิดว่า ผมแมนๆ จับควยเล่นกันธรรมดา และอาจจะคิดว่า ผมคงไม่ได้คิดเกินเลยไปกว่านั้นนอกจากแกล้งกันธรรมดา สันต์คงแค่ปรามผมเฉยๆ เพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ชอบให้ใครมาเล่นแบบนี้กับเขา
ในช่วงที่อารมณ์ผมนอยๆ ในวันที่ 4 ช่วงกลางวัน ผมนั่งอยู่คนเดียวใต้ต้นไม้ ผมทอดสายไปยังภูเขาเบื้องหน้า แล้วผมก็คิดในใจว่า { นี่ตัวเราจะต้องอยู่ห่างบ้านมาอยู่กับคนที่เราไม่รู้จักและไม่สนิท เราจะอยู่ได้ยังไงตลอดเวลา 2 เดือน นี่เราคิดผิดหรือคิดถูก ป่านนี้ถ้าเราอยู่บ้านคงได้ฟินกับน้องเซนไปได้หลายน้ำแล้ว } จังหวะที่ผมกำลังเหม่อลอยคิดนู้นคิดนี้ อยู่ดีๆก็มีมือเล็กๆ ถือแก้วน้ำยื่นมาใกล้ๆ ระดับสายตาของผม จุดประสงค์ของคนถือแก้วน้ำก็คงจะให้ผมเลิกเหม่อลอยซะที
" อ่ะ พี่ไอติม กินน้ำ " เสียงเล็กๆ พูดขึ้น ผมรับแก้วแล้วเงยหน้าไปมองเจ้าของเสียงเล็กๆนั้น ผมต้องถึงกับสตั้นไปชั่วขณะ เพราะในใบหน้าของคนที่เอาน้ำมาให้ มีรอยยิ้มที่น่ารัก รอยยิ้มนั้นที่เขาคนนั้นไม่เคยยิ้มให้เห็น รอยยิ้มที่ทำให้ผมนั่นอ่อนระทวยและละลายแทบจะในทันที รอยยิ้มนั้นทำให้ตาที่ดูเศร้าๆของเขามีประกายแห่งความสุข ในตอนนั้นใครจะไปรู้เล่าว่า น้องคนที่ 5 ของผม จะกลายเป็น เจ้าป๋อง! คนที่ผมไม่เคยเหลียวมองเลยตั้งแต่แรกเห็น
ในช่วงที่อารมณ์ผมนอยๆ ในวันที่ 4 ช่วงกลางวัน ผมนั่งอยู่คนเดียวใต้ต้นไม้ ผมทอดสายไปยังภูเขาเบื้องหน้า แล้วผมก็คิดในใจว่า { นี่ตัวเราจะต้องอยู่ห่างบ้านมาอยู่กับคนที่เราไม่รู้จักและไม่สนิท เราจะอยู่ได้ยังไงตลอดเวลา 2 เดือน นี่เราคิดผิดหรือคิดถูก ป่านนี้ถ้าเราอยู่บ้านคงได้ฟินกับน้องเซนไปได้หลายน้ำแล้ว } จังหวะที่ผมกำลังเหม่อลอยคิดนู้นคิดนี้ อยู่ดีๆก็มีมือเล็กๆ ถือแก้วน้ำยื่นมาใกล้ๆ ระดับสายตาของผม จุดประสงค์ของคนถือแก้วน้ำก็คงจะให้ผมเลิกเหม่อลอยซะที
" อ่ะ พี่ไอติม กินน้ำ " เสียงเล็กๆ พูดขึ้น ผมรับแก้วแล้วเงยหน้าไปมองเจ้าของเสียงเล็กๆนั้น ผมต้องถึงกับสตั้นไปชั่วขณะ เพราะในใบหน้าของคนที่เอาน้ำมาให้ มีรอยยิ้มที่น่ารัก รอยยิ้มนั้นที่เขาคนนั้นไม่เคยยิ้มให้เห็น รอยยิ้มที่ทำให้ผมนั่นอ่อนระทวยและละลายแทบจะในทันที รอยยิ้มนั้นทำให้ตาที่ดูเศร้าๆของเขามีประกายแห่งความสุข ในตอนนั้นใครจะไปรู้เล่าว่า น้องคนที่ 5 ของผม จะกลายเป็น เจ้าป๋อง! คนที่ผมไม่เคยเหลียวมองเลยตั้งแต่แรกเห็น