รักพ่อดินที่สุดในโลกเลย ♥ [8]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Vitamin25 เมื่อ 2022-10-2 20:09หลังจากนั้นเราก็เฝ้าตั้งคำถามกับตัวเองมาตลอดเลยว่าคนเราเขาอมกระเจี๊ยวหรือไอ้จู๋กันทำไมนะ?
ยิ่งสองมันมาพูดว่าเห็นมาจากหนังโป๊ด้วยกลายเป็นว่าเรารู้สึกสงสัยหนักยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก
เพราะเหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งที่คนอื่นทั่วไปเขาก็ทำกันงั้นหรอ?แต่ทำไมเราถึงไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยล่ะ?!!
ตอนนั้นเราจำได้ว่า เราลองอมลูกอมหรือลองดูดอมยิ้มดู
แล้วก็มาลองนั่งคิดเอาเองว่าถ้าเราอมลูกอม เรายังได้ความหวานหอมจากลูกอม
แล้วที่พ่อดินเขาเคยให้เราอมท่อนเอ็นหรือไอ้จู๋ของเขาละ? เราได้อะไรยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย
เพราะตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กเรารู้สึกว่าทุการกระทำมันต้องมีสาเหตุสิเหมือนกับว่าเราต้องการคำอธิบาย ว่าพ่อเขาให้เราทำแบบนั้นทำไม?
แล้วยิ่งตอนหลังคือพ่อเขาแทบจะไม่ให้เราแตะต้องตรงส่วนนั้นของเขาไปแล้ว
ด้วยความที่พอเวลาผ่านมาสักพักใหญ่ทำให้เรารู้สึกว่าการที่จะเริ่มเปิดประเด็นในเรื่องนี้เป็นเรื่องยาก
คือตอนเด็กก็เข้าใจแหละว่าการที่พ่อดินไม่อยากให้เราจับแตะหรือทำอะไรกับเจ้าท่อนเอ็นของเขาแล้ว
นั่นก็หมายความว่าเขาไม่อยากให้เรายุ่งกับตรงนี้อีก และพ่อเขาเองก็คงไม่อยากพูดถึงละมั้งตอนเด็กเราเข้าใจว่าแบบนั้นนะ
แล้วก็เลยกลายเป็นว่าเรายิ่งรู้สึกสนใจมากเข้าไปอีกเพราะว่าเราไม่ได้ถามพ่อเขาไงมันไม่ได้คำตอบก็เลยรู้สึกเหมือนมันติดค้างอยู่ในใจมาตลอด
หรือไม่ก็ต้องเป็นจังหวะเหมือนที่เราเล่าไปในตอนที่แล้วว่า ตอนเรานอนดูหนังกับพ่อเขา แล้วในหนังมันมีฉากจูบดูดดื่มกันพอดี
เราถึงได้กล้าที่จะหยิบมาพูดคุยในเรื่องนี้ก็ได้คุยได้ถามแค่ในเรื่องที่เห็นพอดีละนะ...ไม่กล้าถามมากกว่านั้น
ไหนจะเรื่องที่ท่อนเอ็นหรือกระเจี๊ยวของพ่อเขาไม่เหมือนของเราอีกก็เพราะว่าของพ่อดินเขาตรงหัวสามารถหุ้มหนังลงจนเห็นข้างในได้ด้วย
ซึ่งพอเรารู้ก็รู้สึกประหลาดใจมากเพราะเราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าไอ้จู๋ของคนเราที่จริงแล้วเป็นแค่หนังหุ้มส่วนข้างในไว้อีกทีหนึ่ง
(ตอนเด็กก็เคยลองทำนะ คืออยากรู้ว่าของเราดึงหนังลงมาได้มั้ย ปรากฏว่าดึงไม่ได้แค่พยายามจะดึงก็เจ็บแล้ว เลยล้มเลิกไป)
แต่กับของพ่อดิน พอของพ่อเขาแข็งตัวขึ้นมา ก็รูดหนังลงมาได้อย่างง่ายดายเลยทำให้รู้สึกแปลกประหลาดใจสุดๆ
----------
และแล้ว วันที่เรารอคอยก็มาถึง วันที่พ่อดินเขาทำงานมาหนักและเหนื่อยมากถ้าวันไหนพ่อเขาดูเหนื่อยๆ
พ่อดินจะไม่เปิดหนังซีดีดูแต่จะเปิดแค่ทีวีช่องธรรมดาทั่วไปดูแทน
เพราะเท่าที่เราสังเกตถ้าเป็นวันที่พ่อเขาเหนื่อยๆ หลังจากที่เราหลับไปสักพัก
ก็จะรู้สึกได้ว่าพ่อเขาดูทีวีต่ออีกหน่อยก็ปิดแล้วก็นอนตาม
แต่ถ้าวันไหนพ่อเขาเปิดหนังซีดีดูนั่นแหละ พ่อเขาน่าจะไม่เหนื่อยเพราะหนังมันยาวไง กว่าจะจบก็ดึก
เพื่อนๆ สงสัยใช่มั้ย ว่าทำไมเราต้องรอให้พ่อเขาเหนื่อย
ก็เพราะว่าในตอนเด็กนั้นเราเชื่อมาเสมอเลยว่า ถ้าพ่อดินทำงานมาเหนื่อยจะเป็นคนที่หลับสนิทมากๆ
เวลาเราตื่นมาแอบจับเจ้าจู๋ของพ่อเขาเล่นพ่อเขาจะไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเลย
ซึ่งตอนเด็กก็เชื่อแบบนั้นมาตลอด ว่าพ่อเขาเป็นคนหลับลึกและตื่นยากทั้งที่ความจริงไม่ใช่เลย 55555555
แล้ววันนั้นเราก็จำได้ว่าท่าทีของพ่อดินที่กลับมาจากทำงานดูเหนื่อยกว่าปกติ
ตรงนี้เราจะสังเกตได้จากการที่พ่อเขากลับมาถึงบ้านก็จะยิ้มให้เราแล้วก็นั่งนิ่งๆถ้าพ่อเขาเหนื่อย
เขาจะค่อนข้างพูดน้อย สีหน้าแววตาจะดูเลยว่าพ่อเขาดูล้าๆ แล้วชอบถอนหายใจออกดังฟู่ๆคล้ายคนที่ดูดบุหรี่แล้วเวลาพ่นควันออกมา...
แต่ว่าพ่อเขาไม่ได้สูบบุหรี่นะ จะว่าไปพอเรามาอยู่กับพ่อเขาก็แทบไม่เคยเห็นพ่อเขาแตะบุหรี่อีกเลย
และคิดว่าตอนทำงานก็ไม่น่าจะสูบด้วยเพราะถ้าสูบยังไงเราก็ได้กลิ่นแน่นอนเพราะบุหรี่หรือยาเส้นอะไรพวกนี้สูบแค่ทีเดียวกลิ่นก็ติดเต็มตัวไปหมดแล้ว
พอเห็นแบบนั้น เราก็เลยเอาน้ำเย็นมาให้พ่อเขา แล้วบีบนวดปรนนิบัติพ่อเขาตามปกติ
...แต่ในใจเราเนี่ยสิ ดันคิดถึงแผนการร้ายเอาไว้แล้ว...
ซึ่งวันนั้นก็เป็นอย่างที่เราคิด เพราะคืนนั้นพ่อเขาเข้านอนไวเราเองตอนนั้นก็นอนกระสับกระส่ายพอสมควร
กลัวตัวเองจะนอนหลับเพลินถ้าไปตื่นเอาเช้าพร้อมกันนี่อดเลย
แล้วสุดท้ายด้วยความหลับๆ ตื่นๆ เป็นกังวลกลัวว่าพ่อเขาจะตื่นก่อน
ทำให้สุดท้ายเราลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้ามืดเท่าที่จำความได้มันเป็นช่วงเวลาน่าจะตีสี่กว่า
เพราะเราหันไปมองนาฬิกาปลุกที่ตั้งอยู่บนหัวนอน
เรานอนลืมตาแล้วสังเกตร่างกายพ่อเขาอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะมั่นใจแล้วว่าพ่อเขายังหลับสนิทอยู่เราก็เลยค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นให้เบาที่สุด
จากนั้นก็ค่อยๆดึงขอบกางเกงของพ่อเขาลง แน่นอนว่าพอดึงลงปุ๊ปก็จะเห็นเจ้าปลิงทะเลตัวป้อมนอนสงบนิ่งอยู่ทันที
เพราะว่าพ่อดินเขาไม่ชอบใส่กางเกงในตอนที่นอนน่ะสิ
ตอนนั้นใจเต้นตึกตักพอสมควร เพราะครั้งนี้ที่เราอยากจะลองทำมันไม่ใช่แค่การจับเล่นหรือรีดน้ำนมข้นอะไรแบบนั้น
แต่เราอยากลองใช้ปากดู...อยากค่อยๆสังเกตความรู้สึกของตัวเองว่าเรารู้สึกยังไงเวลาทำ
เผื่อเราจะได้เข้าใจมากขึ้นว่าเขาใช้ปากอมเจ้าท่อนนี้กันทำไม
เราค่อยๆก้มลงแล้วดมกลิ่นก่อนจะใช้ปากงับเจ้าปลิงทะเลที่ดูอวบอ้วนนั่นเบาๆเราได้กลิ่นหอมอ่อนของสบู่ที่พวกเราใช้อาบน้ำกัน
นี่เป็นอีกสาเหตุที่ตอนนั้นเรากล้าจะใช้ปากกับท่อนเอ็นของพ่อเขาเพราะรู้สึกว่าตรงนี้ก็ดูสะอาดดี
อาจจะแค่รู้สึกแปลกๆนิดหน่อย ก็นะยังไงตรงนี้ก็คือไอ้จู๋ที่ไว้สำหรับฉี่นี่หน่า...
ตอนที่เราใช้ปากงับเบาๆ ตอนนั้นรูปร่างยังยาวๆ ป้อมๆ เนื้อสัมผัสนุ่มๆจากนั้นเราก็ลุกมาจับของตัวเอง
เพื่อดูว่าเหมือนกันมั้ยสรุปก็คือเหมือนกันนั่นแหละ (แต่ตอนเด็กคือสงสัยมากเลยนะ เราคิดว่าไม่เหมือนกัน55555)
พอเราจับเล่นไปสักพักปลิงตัวอ้วนก็ขยายใหญ่และเริ่มแข็งขึ้นจากนั้นก็ตั้งชูชันชี้โด่ชี้เด่อยู่ตรงหน้าเรา
ที่จริงลักษณะแบบนี้ก็ดูเหมือนของเราทุกอย่างยกเว้นขนาด แต่ต่างตรงที่ว่าของพ่อเขาเอาเนื้อที่หุ้มตรงส่วนปลายลงได้ด้วยเนี่ยแหละ!
หลังจากที่เราเอาเนื้อหุ้มตรงปลายลงเราก็พยายามยื่นหน้าไปใกล้ๆแล้วเพ็งดู
หรือว่าที่เขาไว้ใช้อมได้ ต้องรอให้หนังหุ้มปลายเปิดออกมา เหมือนเวลาปอกผลไม้อะไรแบบนี้หรือเปล่าถึงจะกินในส่วนของข้างในได้
จากนั้นก็เกิดคำถามขึ้นมาอีกว่า... แล้วเรากินน้ำสีขาวขุ่นนั่นกันทำไมละ?
ได้แต่นั่งคิดแล้วก็สงสัยอยู่คนเดียว จากนั้นเราก็หันไปมองหน้าพ่อดินพอเห็นว่าพ่อเขายังนอนหลับตาพริ้มอยู่
เราก็เลยหันกลับมามองเจ้าท่อนเอ็นที่ตั้งแข็งอยู่ตรงหน้า จากนั้นก็เริ่มเข้าไปดม
ถ้าสังเกตดีๆ จะไม่มีกลิ่นของฉี่แหะ แต่จะเป็นกลิ่นคาวๆ แปลกๆ
กลิ่นมันคนละอย่างกับฉี่แน่ๆ เราค่อยๆ ใช้มือรูดขึ้นลงไปมา จนน้ำเมือกใสๆ เลอะเต็มมือเราไปหมด
เรายกขึ้นมาดมใกล้ๆ ยอมรับนะว่าตอนนั้นสงสัย ก็เลยเอาลิ้นแตะไปนิดหนึ่ง 555555
แต่รสชาติมันไม่ใช่...มันไม่ใช่ของที่จะกินได้อ่ะ มันคาวมาก
หรือว่ามันต้องทำให้สุกอะไรก่อนหรือเปล่า ในหัวก็คิดจินตนาการไปไกลลลลมาก
เราตัดสินใจเอาชายเสื้อของตัวเอง ไปเช็ดน้ำเมือกนั้นออกนั่นทำใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆอ้าปากกว้าง
ตอนนั้นน่าจะอ้าปากกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วแล้วค่อยลงไปครอบกับบริเวณหัวที่ถูกเปิดออกนั่น
เราค่อยๆใช้ปากและลิ้นดูดอมในหัวก็พลางคิดถึงรสสัมผัสพวกขนมลูกอมที่เราเคยกินต่างๆ
แล้วสักพักเราก็สัมผัสได้ถึงความคาวที่สัมผัสกับลิ้น เรารีบถอนปากออกทันทีเพราะว่าน้ำเมือกใสๆ นั่นมาอีกแล้ว
ตอนนั้นเรางงนิดหน่อยเพราะจำได้ว่าเราก็เช็ดออกไปแล้วทำไมถึงมีออกมาอีก
หรือว่าจริงๆมันคือน้ำลายของเราเองตอนนั้นก็คิดได้แต่สงสัยแล้วคิดไปต่างๆนานา
แล้วอยู่ๆในหัวก็คิดถึงคำว่า ‘นมข้น’ ที่พ่อดินเคยบอก
เราตาลุกวาวเหมือนจะคิดอะไรออก จากนั้นก็ค่อยๆ ลุกจากที่นอนแล้วเดินย่องไปเปิดตู้เย็นเอานมข้นออกมา...
หรือว่าที่จริงแล้วต้องใช้นมข้นราดกิน?!
พอกลับมาคราวนี้เราก็เอาชายเสื้อเช็ดคราบน้ำลายและน้ำเมือกนั่นออก
ก่อนจะค่อยๆ เทนมข้นลงช้าๆ บนส่วนหัวนั่น แล้วก็รีบก้มลงเอาปากลงไปดูดทันที
เราตั้งใจดูดมากเพราะตอนนั้นกลัวนมข้นที่เทลงไปมันจะหกเลอะเทอไปโดนส่วนอื่นจนเป็นเสียงดัง ‘บ๊วบ’
เราสะดุ้งนิดหน่อยแล้วเหลือบตาไปมอง ในใจก็กลัวพ่อดินจะตื่นขึ้นมาเห็น
ตอนนั้นเรารู้สึกดีใจมาก มันเหมือนเราได้คำตอบมาอย่างหนึ่งเพราะความรู้สึกมันเหมือนกับการที่เราเอานิ้วจิ้มน้ำข้นแล้วดูดเลย
แต่...ก็สงสัยอีกแหละว่าทำไมเราต้องเอานมข้นมาเทดูดตรงนี้ละ (ทั้งที่ก็ไม่มีใครบอกนะว่าให้เอานมข้นมาเท
แต่เราคิดเอาเองว่าอาจจะใช้นมข้นเทราดแล้วให้ดูด เพราะพ่อดินเขาเคยพูดไงว่าน้ำสีขาวขุ่นนั้นคือนมข้นงี้555555)
หลังจากนั้นเราก็บรรจงเทนมข้นแล้วก็ดูด พอมันหมดหวาน เราก็เทใหม่เรื่อยๆ วนไป
ตอนที่ทำเนี่ยในใจก็เฝ้าคิดหาคำตอบไปด้วยนะ แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี...
สักพักก็ได้ยินเสียงหายใจของพ่อเขา เหมือนเขาเริ่มหายใจถี่และแรงขึ้นเพิ่มกับบริเวณกล้ามหน้าท้องที่เกร็งเป็นพักๆ
เราเริ่มรู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้เดี๋ยวอีกสักพักพ่อเขาต้องตื่นแน่เลย
ถึงจะรู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้คำตอบอะไร แต่ก็พอแล้วดีกว่าเอาไว้วันหลังค่อยลองใหม่
แต่มันก็มีความรู้สึกแวบหนึ่งโผล่เข้ามา ขอลองอีกสักทีละกัน...
แต่รอบนี้เหมือนนมข้นที่เอาออกจากตู้เย็นมานาน มันจะไม่ค่อยหนืดเหมือนตอนแรกๆแล้ว
พอเทลงไปก็เลยไหลย้อยลงมาตรงโคนเต็มเลย เราเลยต้องรีบก้มเลียเก็บหลักฐานให้หมด
พอเราเลื่อนไปถึงโคนหัวแล้วก็อมๆดูดจนความหวานของนมข้นหมดไป จังหวะนั้นพ่อเขาก็หายใจดังมาก
แต่สิ่งที่ทำให้เราตกใจที่สุดก็คือ มือของพ่อเขามาจับตรงต้นคอแล้วเราดึงออก
เราตาเบิกโพลงแล้วหันไปมองหน้าพ่อเขาทันที
“ทำอะไร...หะ ไอ้ตัวแสบ...”
... เราได้แต่นั่งอึ้ง ทำตัวไม่ถูก เลยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“เมื่อกี้ทำอะไรกับพ่อครับ? หืมมมม”พ่อดินดึงตัวเราลงไปนอนข้างๆ
“แหะๆ” เรายิ้มแหยๆเพราะไม่รู้จะตอบพ่อเขายังไงดี
“ไอ้หำเอ้ย! ทำพ่อเลอะเทอะแต่เช้าเลยถ้าพ่อดึงออกไม่ทันจะเป็นไงเนี้ย เดี๋ยวก็เข้าปากเข้าคออีกหรอกไอ้ลูกหมา…”
พอพ่อเขาพูดจบเราก็เลยหันไปมองตรงบริเวณก็เห็นน้ำสีขาวขุ่นไหลย้อยลงมาเลอะตรงโคนเต็มไปหมดเลย
แต่เราจำได้ว่าก่อนที่พ่อเขาจะดึงคอเราออก เราก็ดูดเอานมข้นออกหมดแล้วนี่หน่า...
“แล้วเราไปเอาวิธีแบบนี้มาจากไหน?...หืมมม” พ่อดินใช้มือข้างที่โอบตัวเราอยู่ล็อคคอเราให้หันไปมองหน้าพ่อเขา
“ปะ...ป่าวฮะ...” เราตอบกลับไปแบบอ้ำๆ อึ้งๆ
“แนะ เดี๋ยวนี้มีอะไรปิดบังพ่อเหรอ?”
พูดจบพ่อดินก็พลิกตัวมาแล้วปล่อยน้ำหนักนอนทับบนตัวเราเต็ม
“อ๊า! พ่อดินนนน มันหนักกกก” เราร้องโวยวาย เพราะด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ของพ่อเขาพอนอนทับตัวเราแบบนี้ก็หนักสิ หายใจเกือบไม่ออก
“งั้น...ก็บอกพ่อมาสิ ว่าหนูไปเอาวิธีแบบนี้มาจากไหน”พอเห็นเราร้องโวยวายแบบนั้นพ่อดินก็ดันตัวขึ้นนิดนึง แต่ก็ยังคร่อมทับร่างเราอยู่
“คือ...”
“น่ะ มีคงมีคือ... กำลังจะคิดเรื่องโกหกพ่อใช่มั้ย? หืมม ไอ้ตัวแสบ” พูดจบพ่อดินก็ก้มหน้าลงมาแล้วใช้ปากงับเบาๆ ตรงใบหูเราแล้วก็ดึง
ที่จริงก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรหรอกแต่หนวดที่ตำบริเวณใบหูมันรู้สึกจั๊กจี้อย่างบอกไม่ถูก
“ผม...ไม่ได้...จะโกหกกก ฮ่า พ่อดินเอาปากออกก่อนนนน” เราพยายามดึงหัวออก เพราะหนวดของพ่อเขาที่ทิ่มโดนบริเวณนั้น
ทำให้เราจั๊กจี้และรู้สึกเสียวจนขนลุกไปทั้งตัว
พอพ่อเขาเห็นท่าทีเราที่จะดึงใบหูออกจากปากเขา พ่อเขาก็ใช้หนวดซุกไซร้ลงบริเวณรูหูเราใหญ่เลย
ตอนนั้นทำเอาเราดิ้นพล่านเพราะความจั๊กจี้สุดๆ ยิ่งกว่าโดนจี้เอวซะอีก
“จะบอกพ่อได้หรือยัง? ว่าหนูไปเอาวิธีทำแบบนี้มาจากไหนครับ?”พอพ่อดินแกล้งเราสักพัก ก็ถอนหน้าออกแล้วสบตาเราตรงๆ ก่อนจะถามขึ้น
“ไม่ได้...เอามาจากไหนฮะ...ก็...ผมสงสัย...ว่าทำไมถึงพ่อดินถึงเคยให้ใช้ปากดูดและอมก็เลยอยากลองทำดูอีกที...”
เราพยายามตอบตามความจริงแต่ด้วยความเหนื่อยหอบจากการหัวเราะเพราะจั๊กจี้ ตะกี้เลยทำให้เราต้องค่อยๆหายใจเข้าแล้วตอบช้าๆ
“จริงอ่ะ?!...”พ่อดินยิ้มร้ายเหมือนไม่เชื่อในคำตอบเราซะทีเดียว
“แล้วทำไมหนูถึงอยากอมละ?” พ่อเขาถามต่อ
“ก็...ไม่รู้เหมือนกันฮะ แค่อยากลองทำเฉยๆ...” พอตอบออกไป พูดตามตรงตอนนั้นก็รู้สึกเขินเหมือนกัน ทำเอาไม่กล้าสบตาพ่อเขาเลย
“อืมมมม...พ่อก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกแค่อยากรู้ว่าหนูไปเอาวิธีแบบนี้มาจากไหน? นึกว่าใครบอกมา แต่ถ้าหนูคิดเองก็แล้วไป...”
“แต่คราวหน้าไม่เล่นแบบนี้แล้วนะครับ ไอ้ลูกหมา มันไม่ดี...” พ่อเขาพูดจบก็ลูบหัวเราเบาๆ แล้วดันตัวขึ้น
“เข้าใจแล้วครับ...”เราตอบกลับไปเสียงอ่อยๆ พอพ่อเขาบอกว่ามันไม่ดี เราก็เลยรู้สึกแย่เหมือนกำลังทำอะไรผิดเลย...
“เอ่อ...พ่อไม่ได้หมายความว่าที่หนูทำมันไม่ดีนะ ...คือ...มันก็ดี...เอ่อ...คือ พ่อจะบอกยังไงดีล่ะ ฮ่า” พ่อดินตอบตะกุกตะกัก ก่อนหันมามองเราพร้อมกับเกาหัวแกรกๆ
“ถ้าไม่ดี ก็คงเป็นพ่อเองแหละที่สอนหนูให้ทำอะไรแบบนั้น...เอาเป็นว่าพ่อไม่ได้ว่าหนูไม่ดีนะ
งั้น...เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าหลังจากนี้หนูสงสัยหรืออยากรู้อะไรก็ให้ถามพ่อตรงๆได้เลยนะพ่อจะตอบทุกอย่าง ตกลงมั้ยครับ?”
“ตกลงฮะ!” เราตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ใสขึ้นคงเพราะคำพูดของพ่อเขาทำให้เราคลายกังวลไปมากเลยแหละ
อย่างน้อยต่อจากนี้ถ้าเราสงสัยอะไรจะได้กล้าถามพ่อเขาตรงๆสักทีไม่ต้องแอบทำแบบนี้อีกแล้ว
“แล้ว...เนี้ย ดูซิ เอานมข้นมาเทใส่ของพ่อ เหนียวเหนอะไปหมดเลยไอ้แสบเอ้ย!” พูดจบพ่อดินก็ทุบหัวเราเบาๆ หนึ่งทีก่อนจะเดินออกไป
แหะๆ ก็สงสัยนี่หน่า ก็เห็นเรียกนมข้นๆก็นึกว่าต้องเอานมข้นมาเทแล้วให้ดูดซะอีก
---------
จำได้ว่าเย็นวันนั้น ทีแรกก็กะว่าคืนนั้นจะนอนคุยกับพ่อเขาสักหน่อย
เพราะเรามีเรื่องอยากถามเต็มไปหมดเลยแต่ว่าก็ดันมีเรื่องเกิดขึ้นซะก่อน
วันนั้นคนที่มารับเรากลับไม่ใช่พ่อดิน แต่เป็นลุงผู้ใหญ่บ้านทีแรกเราก็ไม่กล้าไปกับเขา
เพราะพ่อดินไม่ได้บอกเอาไว้ว่าจะให้คนอื่นมารับแต่ลุงผู้ใหญ่ก็ขอให้ไปกับเขา เดี๋ยวจะพาไปเจอพ่อดินเอง
แล้วลุงผู้ใหญ่ก็พาเราขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปไปในวัด ซึ่งมีคนอยู่ตรงนั้นเยอะพอสมควร
เราเห็นพ่อดินอยู่ที่วัด รวมทั้งมีลุงสินและป้าปูอยู่ด้วย
ตอนนั้นก็งงๆนิดหน่อย พอลงรถเราจะวิ่งเข้าไปหาพ่อเขา
แต่ลุงผู้ใหญ่ก็ดึงตัวเอาไว้ก่อนแล้วก็พาเราเข้าไปในโบสถ์
ให้เราไหว้พระ ก่อนจะให้เราจุดธูปแล้วพูดตามเขา เท่าที่จำได้ประโยคพวกนั้นเหมือนเป็นคำสาบานอะไรสักอย่างว่าจะพูดแต่ความจริง
เสร็จแล้วลุงผู้ใหญ่ก็ให้เราปักธูป แล้วเอาน้ำมนต์ให้เราดื่ม พอเราดื่มเสร็จลุงผู้ใหญ่ก็บอกว่า
ต่อจากนี้เราต้องตอบตามความจริงนะ ถ้าโกหกจะตายในสามวันเจ็ดวัน
ตอนนั้นเราก็ตกใจมาก เริ่มรู้สึกกลัวด้วย งงว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็เลยทำได้แต่พยักหน้า
จากนั้นลุงผู้ใหญ่ก็ถาม ซึ่งส่วนใหญ่ก็ถามเรื่องพ่อดินกับพี่นวล ซึ่งเราก็ตอบตามความจริงที่เห็นทุกอย่าง...
จากตรงนี้เราก็ขอสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างที่เราไปโรงเรียนแล้วกันนะ
ก็คือหลังจากตอนก่อนที่เราเล่าว่าป้าปูห้ามไม่ให้พี่นวลมายุ่งกับพ่อดินอีก
ลุงมั่นก็ดันไปประกาศบอกคนในหมู่บ้านว่าเนี่ย พ่อดินทำพี่นวลท้องแล้วไม่รับผิดชอบ
ซึ่งเรื่องแบบนี้มาถึงหูบ้านป้าปูเขาไวอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องมีคนมาบอก
ป้าปูเขาก็เลยมาถามพ่อดินว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อดินก็เลยบอกว่าไม่มีอะไรไม่เคยยุ่งกับพี่นวลเลย
แม้แต่ตัวยังแทบไม่เคยจะแตะ แล้วจะท้องกับพ่อเขาได้ยังไง
ซึ่งป้าปูก็เลยไปเคลียร์กับลุงมั่น แต่ประเด็นมันไม่จบแค่นั้น ลุงมั่นก็ยังคงยืนยันว่าพี่นวลท้องกับพ่อดินจริงๆ
และจะให้พ่อดินแต่งงานกับพี่นวลเพื่อรับผิดชอบให้ได้
พอมันเป็นแบบนี้การคุยกันธรรมดามันเลยไม่จบ สุดท้ายก็เลยไปจบที่บ้านผู้ใหญ่
แต่เหมือนว่าการกระทำของพี่นวลนั้นก็ทำให้คนในหมู่บ้านรู้สึกจริงๆ ว่าพ่อดินกับพี่นวลเขามีอะไรกัน
เพราะพี่นวลทั้งแวะไปหาพ่อดินทั้งเช้าและเย็น ไหนจะบ้านพ่อดินเขาอยู่ไกลหูไกลตาชาวบ้านอีกทำให้เป็นข้อกังขาตรงนี้ขึ้นมา
แต่เหมือนพ่อดินเขาก็ยืนกรานไปว่าไม่มีอะไรจริงๆ ไม่เคยแม้แต่จะคิดแตะต้องตัวพี่นวลเลย
แล้วอีกอย่างพ่อดินเขาอยู่กับเราตลอดเวลาอยู่ที่บ้าน ไม่มีทางที่เขาจะทำเรื่องอย่างว่ากับพี่นวลได้เลยเพราะยังไงเราก็อยู่ด้วย
หลังจากนั้นเมื่อต่างฝ่ายต่างพูดไม่ตรงกัน สมัยนั้นก็ต้องพึ่งพิธีความเชื่อและไสยศาสตร์ก็เลยให้ไปดื่มน้ำมนต์สาบานกันที่วัด
แล้วด้วยความที่เรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่เราอยู่ในบ้านของพ่อดินเขา ลุงผู้ใหญ่ก็เลยเหมือนมาสอบถามเราเพื่อหวังเอาความจริงจากเราด้วยอีกทาง
ที่ลุงผู้ใหญ่เป็นคนมารับเราคงเพราะกลัวว่าถ้าให้พ่อดินมารับอาจจะมีการนัดแนะกันก่อนอะไรแบบนี้ละมั้ง
ซึ่งคำตอบที่ตอบไป เราก็ตอบไปตามจริงด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ว่าไม่มีอะไรจริงๆพ่อดินไม่เคยแม้แต่จะก้อร่อก้อติกใส่พี่นวลเลย
แทบจะไม่คุยเล่นด้วยเลยดีกว่าและเราก็ไม่เคยเห็นพ่อดินอยู่กับพี่นวลสองต่อสองด้วย พี่นวลไม่เคยแม้แต่จะได้ขึ้นไปข้างบนบ้านเลยด้วยซ้ำ
หลังจากเราตอบคำถามเสร็จลุงผู้ใหญ่ก็พาเราออกมาจากโบสถ์ จากนั้น ก็บอกไปว่าเราตอบว่ายังไงบ้าง
ลุงมั่นที่ยืนฟังคำตอบอยู่ถึงกับโมโหแล้วชี้หน้าด่าเราต่างนานา บอกเรามันเด็กตอแหลขี้โกหก เชื่อไม่ได้
แล้วพาลด่าไปถึงว่ามันนิสัยไม่ดีถึงขนาดญาติมันยังไม่เลี้ยงเลยจะเชื่อมันได้ยังไง
พูดตามตรงว่าคำพูดลุงมั่นมันแรงและกระทบกระเทือนจิตใจเรามาก ทำให้กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่และร้องไห้ออกมา
เพราะที่พวกญาติๆไม่เลี้ยงเรา เขาแค่ไม่อยากเลี้ยง เขาไม่อยากรับผิดชอบเรา เราไม่ใช่เด็กไม่ดีขนาดนั้นสักหน่อย
แต่ด้วยความเป็นเด็กอ่ะเนอะ มันเถียงไม่ทันอยู่แล้ว น้ำตาไหลออกมาก่อน
พ่อดินก็เลยเดินเข้ามาหาเราแล้วอุ้มเราออกไปจากตรงนั้น พ่อเขาปลอบเราจนเราหยุดร้องถึงได้เดินกลับไป
ที่บทสนทนามันยืดยาวและไม่จบไม่สิ้นสักที เพราะลุงมั่นไม่ยอมให้พี่นวลไปตรวจที่โรงพยาบาล
เขายืนยันคำเดียวว่าลูกสาวเขาท้องกับพ่อดินแล้ว ต้องให้แต่งเท่านั้น
แล้วอยู่ๆ ลุงมั่นก็ดันโยงไปถึงเรื่องตอนที่พ่อดินเคยหนีไปอยู่กรุงเทพฯ ที่จะต้องแต่งกับพี่พลอยตอนนั้น
เขาอ้างว่าถ้าให้พี่นวลไปตรวจ แล้วกลับมาพ่อดินไม่อยู่แล้วจะทำไง พูดเหมือนกลัวพ่อเขาจะหนี
พอหยิบยกประเด็นที่มันเคยร้อนในอดีตขึ้นมาแบบ แน่นอนว่ามันก็มีเรื่องมีราวกันเข้าไปอีก
เพราะลุงสินกับป้าปูก็ไม่ยอมเหมือนพูดจาไม่ไว้หน้าเขาด้วย ทะเลาะกันยาวเลยทีนี้
ในเมื่อใช้หลักวิทยาศาสตร์มาอ้างอิงก็ไม่ได้ ใช้วิธีทางไสยศาสตร์ก็แล้วก็ยังไม่จบ
แล้วเหมือนตอนนั้นพวกชาวบ้านก็แบ่งเป็นสองเสียงด้วยนะ บางคนก็เข้าข้างพ่อดิน
บางคนก็ว่าถ้าไม่ได้คิดอะไร ยอมให้พี่นวลไปหาที่บ้านทำไมแทบทุกวัน กลายเป็นว่าพ่อเขาอยู่เฉยๆก็ผิด
ตอนนั้นเหมือนทุกคนหลงประเด็นกันไปหมดแล้ว...
สุดท้ายพ่อดินก็พูดออกไปเลยว่า ถ้าไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้วพี่นวลท้องจริง
แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อดินจะไปด้วยเขาจะถามหมอเลยว่ามีวิธีตรวจมั้ย? ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของพ่อดินจริงหรือเปล่า (สมัยนั้นยังไม่รู้จักคำว่าตรวจดีเอ็นเอนะ)
ถ้ามีวิธีตรวจ แล้วตรวจว่าเป็นลูกพ่อดินจริงๆ พ่อดินจะยอมแต่งงานกับพี่นวลแต่โดยดีแล้วยกที่บ้านที่นาให้ลูกของเขาทั้งหมดเลย
แต่ถึงอย่างนั้นลุงมั่นก็ยังไม่จบนะ ก็ยังยืนยันเสียงแข็งว่าพี่นวลท้องลูกของพ่อดินจริงๆจะให้พ่อดินรับผิดชอบให้ได้ ต้องแต่งเท่านั้น
แต่พ่อดินก็ไม่สนใจอะไร พูดทิ้งท้ายแค่ว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะเหมารถรับจ้างแล้วพาไปตรวจในโรงพยาบาลแต่เช้า
ก่อนจะพาเราขึ้นรถมอเตอร์ไซค์แล้วขี่กลับบ้านไปโดยไม่สนใจคำพูดใครอีกแล้ว...
--------
จำได้ว่าเย็นวันนั้นพี่เมฆกับพี่จอมเองก็มานั่งกินเบียร์ที่บ้านพ่อดินด้วยเหมือนกับว่าพรุ่งนี้เช้าจะไปไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนพ่อเขา
บรรยากาศวันนั้นดูเงียบและตึงเครียดกว่าทุกที เพราะป้าปูและลุงสินก็ยังเดินมาบ่นพ่อเขาที่บ้านอีก
เรารู้สึกสงสารพ่อเขามากเลย เพราะเรารู้ว่าพ่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
พ่อดินได้แต่นั่งฟังนิ่งๆ ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป เราจำได้ว่าลุงสินเหมือนจะว่าพ่อดินทำนองว่า
ทำไมถึงโตป่านนี้แล้วยังทำตัวให้มีแต่ปัญหา...
เชื่อมั้ยว่าคำพูดนี้ ถึงลุงสินเขาจะไม่ได้ว่าเรา แต่เรารู้สึกเจ็บปวดจนบอกไม่ถูก
ในหัวมันมีแต่คำถามพ่อดินทำอะไรผิดอ่ะพ่อเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย
จากนั้นพอลุงสินกับป้าปูกลับไป พ่อดินก็ขอให้พี่เมฆกับพี่จอมกลับไปก่อนบอกว่าวันนี้ไม่มีอารมณ์จะกินเบียร์ด้วย
พี่เมฆกับพี่จอมก็เหมือนจะเข้าใจ ได้แต่เดินมาแตะไหล่พ่อเขาเบาๆเหมือนเป็นการปลอบใจ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านไป
เวลานั้น ทุกอย่างรอบตัวมันเงียบไปหมด เราได้ยินแต่เสียงแมลงที่เริ่มร้องระงมในตอนพลบค่ำ
เราไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องพูดยังไงดี เราได้แต่นั่งข้างๆ แล้วมองหน้าพ่อเขาเป็นพักๆ
พ่อดินเองก็นั่งนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่แล้วก็ถอนหายใจยาวเป็นพักๆ
พอเห็นภาพแบบนั้น เราเลยตัดสินใจค่อยๆ วางมือไปบนฝ่ามือพ่อเขาแล้วก็จับไว้
ด้วยความเป็นเด็กเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำยังไงดี เราจะต้องทำยังไงให้พ่อเขาสบายใจขึ้นได้บ้าง...เราก็ไม่รู้เลย
แต่พอเราจับมือพ่อเขา พ่อดินก็หันมามองเราแล้วยิ้มให้
“หิวข้าวแล้วละสิ? ไอ้ลูกหมา หืมมมม” พ่อดินยิ้มให้ก่อนจะยกมือมาลูบหัวเรา
“ผมรู้...ว่าพ่อดินไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะฮะ พ่อดินไม่ได้เป็นคนผิดเลยมันไม่ใช่...ความผิดของพ่อดิน...” เราพูดไม่ทันจบก็เผลอร้องไห้ออกมา
ความรู้สึกมันจุกอกไปหมด มันเป็นความรู้สึกแย่ที่เราไม่สามารถพูดหรือปกป้องอะไรพ่อเขาได้เลย
เจ็บใจที่ตัวเองยังเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ เราเองก็อยากปกป้องพ่อเขาเหมือนกันนะ
“โอ๋ๆ ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวถ้าวันหลังมีใครว่าหนูอีกพ่อจะจัดการซัดให้หมดเลยดีมั้ย?”พ่อดินดึงตัวเราเข้าไปโอบกอด พร้อมกับมืออีกข้างที่ทำท่าปล่อยหมัดฮุกโชว์ให้เราดูทำให้เราถึงกับหัวเราะทั้งน้ำตาออกมา
“ผมไม่ได้กลัวฮะ...ก็แค่ไม่ชอบให้ใครมาว่าพ่อดินผมก็อยากต่อยคนพวกนั้นเหมือนกัน...”เราปาดน้ำตาแล้วหันไปมองหน้าพ่อเขา
“เฮ้ย!! ไอ้หมาน้อยของพ่อ ตัวแค่นี้ แต่โหดเหมือนกันนี่หว่า” พูดจบพ่อดินก็ยกเราไปนั่งตักแล้วดึงแก้มเล่นไปมา
“พ่อไม่เป็นไรครับ...ขอบคุณนะที่อยากปกป้องพ่อ แต่รู้มั้ย...แค่หนูอยู่กับพ่อยิ้มให้พ่อแค่นั้น พ่อก็ไม่เป็นไรแล้ว...”
“เอาล่ะ ไหนยิ้มให้พ่อดูหน่อยสิ” พอพ่อดินพูดจบเราก็เลยหันไปแล้วยิ้มให้พ่อเขา
“ยิ้มกว้างอีก”
เราฉีกยิ้มกว้างตามคำขอของพ่อเขา
“กว้างอีกกกก”
เราฉีกยิ้มจนตาปิด
“ไอ้ลูกหมาเอ้ย! ฮ่า” พ่อดินยกมือมาขยี้หัวเราเบาๆ ก่อนจะก้มลงหอมตรงกระหม่อมเราฟอดใหญ่
“พ่อขอกอดหนูแบบนี้สักพักนะ”พ่อดินค่อยๆ เอาสองมือมาโอบกอดตัวเราที่นั่งบนอยู่บนตักของพ่อเขา
“ได้ฮะ กอดนานๆก็ได้ จนกว่าพ่อดินจะพอใจเลย”
เราจำได้ว่าตอนนั้นพ่อเขากอดเราแน่นมาก เราเองก็ทำได้เพียงแค่กอดพ่อเขาคืนกลับไป อะไรที่ทำแล้วช่วยให้พ่อเขารู้สึกดีขึ้นเราเองก็อยากจะทำ
เราไม่อยากเป็นฝ่ายที่ได้รับการดูแล และปกป้องอยู่ฝ่ายเดียวเราเองก็อยากดูแลและปกป้องพ่อเขาเหมือนกัน...
ขอขยายความเรื่องลุงมั่นหน่อย มันมีประเด็น เพราะต่อมาแกไปเผลอหลุดเรื่องนี้ในวงเหล้าในหมู่บ้านแล้วเขาก็พูดกัน
ซึ่งพวกเราเองก็รู้ตอนที่โตแล้ว
ที่เขามั่นใจว่าลูกสาวเขาจะจับพี่ดินได้ เพราะเขาคิดเอาเองว่าพี่ดินอ่ะอยากมีลูกมาก เลยเอาเรามาเลี้ยง
ทีนี้คิดว่าถ้ายังไงลูกสาวแวะเวียนแกมาอยู่ใกล้ๆ พี่ดินบ่อยๆ ยังไงก็ต้องเผลอมีใจให้ลูกสาวเขาอยู่แล้ว (มั่นสมชื่อจริงๆ)
คือเขาคิดอะไรแบบง่ายๆอ่ะ คิดว่า อ๋อ อยากมีลูกหรอ งั้นนี่ไงส่งลูกสาวไปใกล้ชิดให้พี่ดินรู้สึกอะไรงี้
เพราะในความคิดของลุงมั่นคือ ยังไงถ้าพี่ดินมีลูกของตัวเองก็ดีกว่า เอาลูกของคนอื่นมาเลี้ยงอยู่แล้ว
แต่สิ่งหนึ่งที่ลุงมั่นไม่รู้ คือความสัมพันธ์ของเรากับพี่เขามันมากกว่านั้น พี่เขาไม่ได้คิดง่ายๆ แค่เอาเด็กมาเลี้ยงคนหนึ่งอะไรแบบนั้น ก็นะ...เข้าใจว่าคนภายนอกก็จะเห็นแบบนั้นแหละ...
แล้วตอนนั้นก็มีปัจจัยอื่นๆ ด้วยแหละ ไหนจะเรื่องแฟนเก่าเขาอีก
พูดตรงๆก็คือพี่ดินเขาไม่ได้คิดมักง่ายเหมือนที่ลุงมั่นคิดอ่ะ ที่ว่ามีเมียมีลูกแล้วก็จบไป
แล้วสุดท้ายพี่นวลก็ไม่ได้ท้องนะจริงๆแล้วอ่ะ ที่ลุงมั่นคะยั้นคะยอตะแบงจะให้แต่งให้ได้ เพราะแกมองว่าพี่ดินเหมือนเป็นคนง่ายๆไง
กะว่าพอบอกว่าพี่นวลท้องคงยอมแต่งเลยอะไรงี้
คิดว่าพอแต่งกันไป เดี๋ยวอยู่ไปยังไงก็ได้ท้องลูกพี่ดินสมใจแน่ คิดง่ายเกิ๊นนนนนน
ปวดหัวนะเจอคนแบบนี้ อยากได้ที่ดิน ที่นาทำกินของเขา ถึงกับต้องแต่งเรื่องขึ้นมาให้ลูกสาวเป็นเมียเขาให้ได้เลย
เพลียจ้า 5555555
น่าสงสารจัง ลุงแก่ๆที่การศึกษาไม่ได้สูงมากคิดได้เวย์เดียวเท่านั้นแหละค่ะ
คงไม่ได้คิดผลกระทบที่จะตามมากับหาหลักฐานมายืนยันด้วย
ขอบคุนครับ ชอบพี่ดินครับ ไม่ต้องพูดมากพรุ่งนี้ไปตรวจจบ 5555 สงสารพ่อดิน เจอแต่ปัญหา
มาต่อเร็ว ๆ นะครับ ขอบคุณครับ. ลุงนี่ตรวจเสร็จน่าโดนตืบด้วยนะ อยู่ๆมายัดลูกตัวเองให้คนอื่นซะงั้น ไม่อยากได้โว้ย {:5_138:}{:5_137:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุครับ สงสารจัง ขอบคุณครับ Vitamin25 ตอบกลับเมื่อ 2022-10-2 20:09
ขอขยายความเรื่องลุงมั่นหน่อย มันมีประเด็น เพราะต่อม ...
หว้าอุตส่าห์จะไปลุ้นต่อในตอนหน้าที่ไป รพ. เฉลยไปละว่านวลไม่ท้อง 55555555 มินน้อยแอบซนอีกแล้วนะเดี๋ยวมดขึ้นพี่ดินซะหรอก555{:5_132:} /เรื่องจะให้ลูกสาวจับผู้ชายโดยบอกว่าท้องเราเคยได้ยินผู้ใหญ่เค้าเล่าๆ ให้ฟังเหมือนกัน...สุดท้ายท้องแล้งท้องลมก็แล้วกันไปบางคนก็จำใจอยู่กันเพราะแต่งไปแล้วก็มี {:5_126:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ลักหลับพ่อเค้าอีกแล้ว ดีนะที่พ่อเค้าตื่นมา ถ้าวันใหนเหนื่อยๆคิดวาฝันเปียกละก็ ได้นอนจบกองมดแน่ๆๆ
ประเด็นที่พ่อเค้าถามว่า "เราไปเอาวิธีแบบนี้มาจากไหน?" น่าจะหมายถึงเรื่องเอาจู๋จิ้มนมข้นแล้วดูดมากกว่านะ พ่อเค้าคงตกใจใครบอกเจ้าของกระทู้ให้ลองทำแบบนี้วะ จะได้สั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้หรือคุยแบบนี้อีก เดียวมีอะไรแผลงๆ เช่น เกลือ น้ำปลา ไข่ ผงโกโก้ ให้เจ้าของกระทู้มาทำกับตัวเองอีก เพราะยังเด็กเดียวหมดมุ่นและของบางอย่างอาจจะทำร้ายจู๋ตัวเองได้ แต่หารู้ไม่เจ้าของกระทู้แหละดัวดีเลย 5555555555555555
อิจฉาโมเม้นตอนท้าย ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2