รักนะครับ...พ่ออีกคน เล่ม2 : บทที่1 (ความสัมพันธ์)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย surhatamit เมื่อ 2022-10-17 20:04"ตื่นได้แล้วครับคนดี" เสียงของ 'เขา' กระซิปที่ข้างหู และในวินาทีถัดมา ริมฝีปากนั้นก็ประกบลงที่ใบแก้มของผม จุ๊บ ! กลิ่นยาสีฟันหอมฟุ้ง
".........."
"ตื่นน๊าาาาา" เสียงนั้นเคลื่อนห่างออกไป ทำให้รู้ว่าเขากำลังเลื่อนหัวลงต่ำไปตามลำตัวของผม และหลังจากนั้นก็.... จ๊วบ !! คราวนี้ริมฝีปากนั้นไม่ใช่แค่จูบ แต่เขาดูดยอด-อก จนเกิดเสียงดังลั่น จริงๆก็ได้ยินตั้งแต่เขาเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วครับ แต่ถ้าาา แกล้งหลับ แล้วจะโดนแบบนี้ ใครมันจะไปอยากตื่นกันหล่ะเน้อ
"ยังไม่ตื่นหรอ งั้น...." เขากดจมูกลงกับตัวของผมก่อนจะเลื่อนหัวต่ำลงไปอีก กระทั่ง.. "เอ๋ !! ตื่นแล้วนี่นาา"
ในที่สุดผมก็หุบยิ้มเอาไว้ไม่ได้ ก็มันโคตรจะเสียวเลยอ่าาา ควยจึงตุงดันจมูกของเขาที่ดุนลงมา
"ต่อนะคราาาาบ กำลังเสียวเลยยย" ผมตื่นมาสบตา มันเป็นเช้าธรรมดาที่วิเศษมากอีกวันหนึ่ง
"เจ้าเล่ห์นักนะ รู้ใช่ไหมว่าเด็กไม่ดีต้องโดนอะไร" เขาขู่ด้วยสีหน้ามันเขี้ยว
"งื้ออออ ไม่เอาๆ ผมจะเป็นเด็กดีแล้วววววว" การโดนสั่งห้ามชักว่าวหรือสำเร็จแก่ความใคร่คงจะเป็นอะไรที่ทรมานที่สุดสำหรับผมแล้ว โดยเฉพาะเมื่อผมตัดสินใจเชื่อฟังเขาอย่างแทบจะไม่มีข้อแม้ ผมรีบทำตัวอ้อน แม้รู้ว่าเขาเองก็อยากเล่นงานผมแทบแย่ ตั้งแต่ผมขึ้น ม.2 และโตจนได้ขนาด ทั้งเรือนร่าง และอวัยวะเพศ เขาก็แทบไม่หยุดเล่นควยผมเลย แต่... ถ้าอ้อนสักนิด แล้วมันทำให้หัวใจเขาฟูได้อีกหน่อย ทำไมผมจะไม่ทำกันหล่ะเน้อ ในที่สุดสีหน้าเขาก็อ่อนลง และยิ่งเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เร้าร้อน
"ถอดกางเกงดิ"
ผมรีบดึงกางเกงออก แต่ก็ยังไม่ไวพอ เขาถึงยื่นมือเข้ามาช่วยกระชากมันออกจากปลายขา เมื่อร่างผมเปลื่อยเปล่า เขาจับควยผมที่แข็งโป้กราวท่อนไม้ บีบและว่าว ใบหน้าเขาก้มลงซบที่พุงของผม ทั้งดูดและดมอย่างหื่นกระหาย และผมระเบิดเสียงครางออกมา เร้าบรรยากาศในห้องให้เต็มไปด้วยกามรมณ์
ลิ้นเขาตวัดไปทั่วพุง มันเสียวอย่างระทวยจนผมตัวงอ แต่ผมกลับรีบเอามือทั้งสองสอดประสานไว้หลังท้ายทอย และผ่อนความเสียววูบทั้งหมดออกมาด้วยการร้องครางให้ดังยิ่งกว่า ดวงตาเขาเบิกกว้างจ้องมองอาการผมอย่างตื่นตลึงและชื่นชอบเป็นที่สุด อื้อ แบบนี้ค่อยคุ้มที่นอนคิดมาทั้งคืนหน่อย ก็ผมอยากหาอะไรใหม่ๆให้เขาได้แสียวและมีความสุขไปเรื่อยๆน่ะสิครับ
เราสบตากันชั่วขณะ และต่างรู้ซึ้งถึงความคิดจนไม่ต้องมีบทสนทนา ฮ่าๆๆ ซะ ซวยแล้วสิกู เขาดู..ชอบฉิบหายเลย เล่นไซร้พุงผมแทบไม่มีหยุด ผมเกร็งพุงทนไว้จนเป็นตะคริวหน้าท้อง ถึงยอมปล่อยมือดันหัวเขาออก เขาหัวเราะชอบใจใหญ่
"ยั่วอะไรพิเลนๆเองนะ"
"อื้อออออ" ไม่มีคำเถียงเลยครับ ตะคริวที่พุงนี่เจ็บชะมัด กว่าอาการจะทุเลา อารมณ์ของพวกเราก็แทบจะหมดไปแล้ว เหลือเพียงเสียงหัวเราะ ซึ่งมีค่าไม่แพ้กัน
"ปะๆๆ อาบน้ำ วันนี้เราจะออกไปข้างนอกกัน"
"คราาาบ"
........
เมื่ออาบน้ำจนตัวหอม ผมก็เดินโป้ๆลงมาที่ชั้นล่าง มีเสื้อผ้าชุดหนึ่งแขวนไว้ที่ข้างๆเตารีด มันยังอุ่นอยู่เลย แสดงว่าเขาเพิ่งรีดเสร็จไม่นาน เสียงผัดกับข้าวดังมาจากครัว และมีกลิ่นของอร่อยๆที่ผมชอบหอมโชยมา ...
เขาดูแลผมดีจริงๆเลย ไม่ใช่แค่ปีกว่าๆที่ผ่านมา ที่ผมเรียกเขาว่า "พ่อ" หรอกนะครับ แต่เขาดูแลผมดีมาตั้งแต่ผมจำความได้เลย ไม่ว่าจะในฐานะลุง หรือ คนรักของพ่อแท้ๆของผมก็ตามที ทุกสิ่งที่เขาทำ ช่างอบหัวใจผมจนอุ่นอะไรเช่นนี้ ในวินาทีที่เขาขอเป็น พ่อ ของผม แทนพ่อแท้ๆ ที่จากไป ผมยังรู้สึกถึงความสุขที่เอ่อล้นขึ้นมาในหัวใจได้อยู่เลย ... ผมโคตรอยากทำให้เขามีความสุข ผม...จะสามารถเป็นอะไรมากกว่านี้ได้ไหมนะ ???
ผมจึงเดินโป้ๆเข้าไปในห้องครัว และสวมกอดเขาเอาไว้จากด้านหลัง
"ระวังมือนะครับรุจ เดี๋ยวโดนน้ำมัน" พ่อ เอาผ้ากันเปื้อนถกขึ้นมาป้องกันมือของผมไว้ด้วย "แล้วนี่ทำไมยังไม่แต่งตัวล่ะฮ๊ะ"
"ไม่มีอะไรครับ"
"หึ จะอ้อนขออะไร หรือทำอะไรผิดมาอีกรึไง" พ่อแซว "ทำตัวเหมือนพ่ออีกแล้วนะ"
"แล้ว...เมื่อเช้า พ่อผมเขาเคยทำแบบนั้นด้วยหรอครับ"
สิ้นคำถามนั้น เสียงผัดกับข้าวก็หยุดลงทันที พ่อหันกลับมาหาและขยี้หัวผมแรงๆ "ไม่เลยยยย อันนี้ รุจทำได้ดีกว่าพ่อแท้ๆตั้งเยอะ ฮ่าๆๆๆ" ในที่สุด พ่อก็หื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาใช้ผมผัดกับข้าวแทน เพื่อจะมากอดผมจากด้านหลัง และดุนเป้าตุงๆใส่ร่างที่ยังโป้เปลือยของผม "แอ่นก้นมาหน่อยยย อ้าา ดี ดีมากคราาบ ผัดดีๆด้วย โดนเด้าแรงๆสักทีดีไหมเนี้ย อื๊อ !! อีกทีนะ อื๊อ !!!!"
โคตรเสียวเลย ... กับข้าวเกือบไหม้ เพราะจุดโฟกัสของเราสองคนเปลี่ยนไป
"ตกลงว่าเป็นอะไร" พ่อถามอีกครั้งบนโต๊ะอาหาร ผมได้แต่ส่ายหน้า เพราะยังไม่แน่ใจสิ่งที่คิดเอาไว้ ผมรู้แค่ว่า ผมอยากทำให้เขามีความสุขกว่านี้ แต่ไม่แน่ใจเลยว่าจะทำได้ไหม อย่างเช่นเป็นตะคริวนี่ก็ไม่ได้สนุกเลยนะ แฮะๆๆ ซึ่งมันก็ดีแล้วที่ผมไม่ได้รีบพูดออกไป
.......
ตอนออกจากบ้านผมถึงสังเกตุว่าชุดของเราเป็นสีขาว เอ๊ะ วันนี้แล้วหรอ ?? ไม่นานพ่อก็ขับรถพาเรามาจอดที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งครอบครัวของผมมากันเป็นประจำในปีหลังๆมานี้ เราเดินลัดเลาะไปจนถึงกำแพงที่มีภาพผู้ล่วงลับมากมาย กระทั่งมาหยุดที่ภาพคนคนหนึ่ง หน้าตาเขาละม้ายคล้ายผมเป็นที่สุด เพราะนั่นคือพ่อแท้ๆของผมเอง
พ่อวางช่อดอกไม้สีเหลืองทองแซมด้วยสีม่วงลงบนพื้นตรงหน้าภาพ "หวัดดี ... ไอ้คุณแฟน" พ่อเอ่ย และน้ำตาก็ไหลริน มันเป็นครั้งแรกที่เขาสามารถเรียกคนรักว่าแฟนต่อหน้าสมาชิกในครอบครัวได้สักที มันจะสุข และเศร้าฉิบหายขนาดไหนกันนะ ในเมื่อคนรักของเขาไม่อยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว พ่อเริ่มพรรณาถึงปัญหาชีวิตที่รุมเร้า และบ่นน้อยใจที่เขาจากไปเร็วเหลือเกิน ทุกวันนี้จึงไม่มีใครร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมต้าน อย่างทุกครั้งที่ผ่านมา
ในตอนนั้นเองที่ผมได้ตระหนักว่า ผม...ไม่อาจแบ่งเบาภาระใดๆของพ่อได้เลย ชีวิตของผู้ใหญ่ ยังมีด้านอื่นๆอีกมากมาย ทั้งหน้าที่ ธุรกิจ หนี้สิน ครอบครัว ผมต้องใช้เวลาอีกนับสิบปีกว่าจะโตจนเข้าใจภาระพวกนั้น และอีกหลายปีจากนั้นถึงจะช่วยเขาแบกภาระได้สักอย่าง .... คงไม่แปลกถ้าผมจะตัวสั่น เมื่อได้เห็นด้านที่มันไม่ได้มั่นคงของคนตรงหน้า เมื่อได้เห็นภาระที่เขาต้องแบก ผมจึงสั่น เพราะเมื่อเช้าผมยังอยากทำทุกอย่างให้เขามีความสุขอยู่เลย แต่มาตอนนี้กลับได้รู้แล้วว่ามากเท่าไรก็ไม่พอ และต่อให้ผมมีมากพอ ผมก็...ไม่แน่ใจว่าจะยกให้เขาทั้งหมดได้รึเปล่า ... การเป็นเมีย มันไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง มันยังมีภาระ และหน้าที่ต่อสามี ต่อครอบครัว ซึ่งตัวผมในเวลานี้ ไม่กล้าที่จะเสนอหน้าเข้าไปแบกรับเอาไว้เลย
สักครู่ใหญ่ๆ คุณแม่กับสามีใหม่ และน้องสาวของผมก็เดินทางมาถึง พ่อปาดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วทักทายน้องสาวของตน
"เป็นเด็กดีของลุงรึป่าวคะ" แม่อ้าแขน ผมปรี่เข้าไปสวมกอด อ้อมแขนของแม่อบอุ่นเสมอเลย "กลับมานอนบ้านสักคืนไหม ให้แม่ได้หายคิดถึงหน่อย"
ถึงจะอยากตอบรับในทันที เพราะตอนนี้บรรยากาศมันช่างเศร้าเสียเหลือเกิน แต่ผมก็ไม่ลืมพ่อหรอกนะ ใครจะไปทิ้งเขาได้ลงคอกันในวันคืนแบบนี้ คุณแม่ก็คงเห็นสายตาที่เรามองกัน จึงเอ่ยปากชวนพ่อด้วย "พี่ด้วย หนูคิดถึงจะแย่ มาเถอะ ทั้งสองคน" เราจึงตอบตกลง
เที่ยงนั้นครอบครัวเราได้ใช้เวลาร่วมกันในมื้อกลางวัน ผมได้เล่นกับน้องสาวด้วย แต่เราแทบไม่รู้จักกันเลย เธอโตขึ้นเยอะหลังจากปีกว่าๆที่ผมย้ายไปอยู่กับพ่อ เธอเป็นเด็กร่าเริงเลยทีเดียว ดูท่า พ่อเลี้ยงดีกว่าที่ผมคิดเอาไว้นะเนี้ย พอรู้ว่าคืนนี้ผมจะกลับบ้านด้วย พ่อเลี้ยงก็เอาใจผมใหญ่
ในระหว่างมื้ออาหาร จุดโฟกัสของพ่อก็เริ่มเปลี่ยนไป ตอนนั้นมีชายโต๊ะข้างหลังเรากำลังสบตากับคุณพ่ออยู่ ที่ผมรู้เพราะพ่อสกินชิพกับผมเยอะไป ราวต้องการปลุกเร้าอารมณ์ หรือไม่ก็อ่อยเหยือตัวสำคัญ ผมจึงสังเกตุเห็น โงยย เขาหล่อชะมัด ทั้งคู่ส่งสายตาได้สักพัก ฝ่ายนั้นจึงเริ่มก่อนด้วยการลุกไปเข้าห้องน้ำ ตอนเดินผ่านโต๊ะเรา เขามองและส่งยิ้มให้อย่างเปิดเผย โอยย ละลายเลยครับ ขนาดแม่ยังเขินจนต้องแซวตัวเอง "ฉันลูกสองแล้วนะเผื่อเขาจะไม่สังเกตุ" แต่ก็เพราะเขามองเรารวมๆตอนส่งยิ้มให้ ไม่มีใครนอกจากผมที่สังเกตุเห็นสายตาของทั้งคู่ก่อนหน้านี้ ไม่นานพ่อก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำบ้าง ผมมองออกไปนอกร้านเห็นเขาทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่ เหมือนแลกเบอร์โทรกันและกันเอาไว้ อึ๊ยย เขาดู..ดีมากๆเลย ท่าทางคืนนี้ผมจะไม่ได้กลับไปนอนบ้านคุณแม่เสียแล้ว
พอเราออกมานอกร้าน ผมยังเห็นชายคนนั้นอยู่ไกลๆ ตอนเราเดินช็อปปิ้งในซูปเปอร์มาร์เก็ตก็ผ่านเขาอยู่หลัดๆ หัวใจผมเต้น ตึกๆ ตักๆ ไปหมดเลย วันนี้มันวันอะไรนะ อารมณ์ขึ้นลง หวั่นไหวไปหมด
ไม่นานพ่อก็ขอตัวแยกย้าย แม่หล่ะงงว่าทำไมพ่อถึงเปลี่ยนใจไม่กลับบ้านด้วย แต่ทุกคนเห็นตรงกันว่าพ่อดูอารมณ์ดี จึงไม่ได้รั้งเอาไว้
"ดูแลแม่กับน้องดีๆนะคนเก่ง" พ่อขยี้หัวบอกลา อะ อ้าว !?? ไม่ได้จะพาผมไปด้วยหรอ ??
"ครั๊บ??" ผมแอบงง อาการพ่อเห็นชัดอยู่ว่าพร้อมผสมพันธุ์ แต่คราวนี้กลับไม่ชวนผม เอ... มันยังไงกัน ?? "ครับๆๆ" ผมตอบรับเอาไว้ก่อน ตอนแยกกัน หัวใจผมเต้นแรงกว่าทั้งวัน ปกติ...พ่อไม่เป็นแบบนี้นี่นาาา กับอาหมอที่หล่อๆ พ่อก็ไม่ได้ทำอะไรกับเขา แค่เอาผมไปให้เขาช่วยทำ มันน้อยครั้งและน้อยคนมากเลยนะที่พ่อจะเอาตัวเข้าไปนัวเนียด้วย ??? โอยยย สงสัยจังเลยวุ่ย อยากจะบอกลาคุณแม่แล้วรีบวิ่งตามไปสืบเลย แต่ก็..ไม่ทันเสียแล้ว
รอติดตามตอนะ สนุกมากครับ ขอบคุณ พ่อจะมีผัวใหม่ เสือปืนไว ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เอ๊ะ! ยังไงกัน มีอะไรอีกนะ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ใจนะ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ รอติดตามต่อเลยครับ ขอบคุณครับ แิบตามพ่อไปเลย ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2