เด็กแพทย์ขี้เงี่ยน PT101 น่ารักเกินเลยจับน้องชักว่าว (เหนือวา)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Kantanaty เมื่อ 2022-11-21 18:44หมี ''อือออ'' หมีส่งเสียงทุ้มต่ำในลำคอทันทีเมื่อสะดุ้งตื่น หยีตาเพราะแสงแดดที่สาดส่องมาจากหน้าต่าง เลื่อนตัวขึ้นนั่งยืดแขนสุดบิดขี้เกียจ ยกมือขึ้นปิดปากหาว หยิบโทรศัพท์มากดเปิดดูเวลาบนหน้าจอ จะ9โมงแล้ว หมีมีเรียนตอน10โมงซะด้วย หมีลุกจากเตียง ถอดบ๊อกเซอร์ตัวจิ๋วที่ใส่อยู่โยนใส่ตะกร้า เมื่อก้าวขาก็ต้องชะงักเพราะเท้าสะดุดกับอะไรบางอย่าง กระป๋องเบียร์ที่ถูกหมีเตะโดยไม่ตั้งใจกลิ้งไปข้างหน้า จริงสิ เมื่อคืนหมีกินเบียร์นี่นา กินไปทำไมหมีก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ช่วงนี้เหมือนมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้หมีนอนหลับได้สนิทอย่างไม่ฟุ้งซ่าน หมีไม่ชินกับการอยู่คนเดียวเหมือนแต่ก่อนแล้ว พยายามปรับตัวแค่ไหนมันก็เหงาอยู่ดี คงเพราะตอนนั้นที่มีน้ำอยู่มันมีความสุขมากเกินไปล่ะมั้ง แม้หมีจะเป็นเพลย์บอยที่ได้ไปทั่ว แต่ลึกๆหมีก็แค่อยากเจอคนที่ใช่และใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเรียบง่ายดูแลกันและกันเท่านั้นเอง แต่ดูเหมือนหมีจะไม่ค่อยมีดวงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ล่ะมั้ง หมีเอาผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอว เก็บกวาดขยะจากเมื่อคืนใส่ถุงเอาไปทิ้งถังขยะ ห้องของหมีรกขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก หมีปล่อยตัวและไม่มีอารมณ์จะเก็บกวาดอะไร เลยปล่อยให้ห้องรกไปแบบนั้น ก็แต่ก่อนมีคนคอยเก็บกวาดให้อยู่ตลอดนี่นา หมีเดินเข้าไปในห้องน้ำ ปลดผ้าแล้วไปยืนใต้ฝักบัว เปิดน้ำให้ไหลรดหัว อาบน้ำล้างตัวให้สะอาด ล้างหน้าแปรงฟันให้สดชื่น เอานิ้วแตะที่ขอบตาตัวเองที่เริ่มคล้ำ ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ นั่งลงเป่าผมให้แห้ง หยิบชุดนักศึกษาออกมารีดลวกๆแล้วสวม เอากล่องซีเรียลที่ใกล้หมดเต็มทีลงมาเทใส่ชามเติมนมแล้วตักกินอย่างรวดเร็วจนหมด เอาชามไปล้างเก็บให้เรียบร้อย ชีวิตของหมีมันช่างน่าเบื่อซะจริงๆ หมีนึกขึ้นได้ว่าลืมทำอะไรบางอย่าง เดินออกไปที่ระเบียง เกือบลืมรดน้ำต้นไม้เลย ปกติหมีสนใจเรื่องต้นไม้ซะที่ไหนกัน แต่เพราะเด็กเกษตรตัวเล็กคนนั้นนั่นแหละ ทำให้หมีมีกิจวัตรประจำวันเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่างซะงั้น ตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่เจอกันหมีก็ไม่ได้ติดต่อกับศศินบ่อยสักเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าหมีไม่อยากติดต่อแต่เพราะศศินหายไปเลยต่างหาก ยังตอบข้อความอยู่แต่ก็ตอบช้าหรือถามคำตอบคำ หมีนัดเจอก็ชอบบอกว่าไม่ว่าง ไม่รู้หมีไปทำอะไรให้ศศินโกรธหรือเปล่า หรือเพราะดูแลต้นไม้ไม่ดีงั้นเหรอ หมีส่งข้อความไปหาศศิน ของเมื่อวานน้องก็ยังไม่ได้ตอบมาเลยแฮะ 'วันนี้ว่างมั้ย ไปกินข้าวกันเปล่า เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง' หมีเก็บโทรศัพท์ หยิบกระเป๋าและกุญแจรถปิดห้องลงมาข้างล่างคอนโด ขับรถออกไปมหาลัย หมีกดเปิดเพลงระหว่างที่ขับรถ 'หยุดตั้งคำถามและเลิกสงสารตัวเองอย่าไปคร่ำครวญกับความคุ้นเคยเก่าๆ คนที่คิดถึงไม่คิดถึงเรา เหงาไปเขาก็ไม่หันมา' ไม่ใช่ว่าหมีซึมเพราะลืมน้ำไม่ได้ หมีไม่มีทางลืมอยู่แล้ว จะเก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆอยู่เสมอนั่นแหละ ที่เป็นอยู่ก็แค่ยังปรับตัวไม่ได้เท่านั้นเอง เหมือนชีวิตที่เคยเต็มมันหายไปเสี้ยวหนึ่ง เกิดเป็นแผลโหว่ที่ใหญ่เกินจะเยียวยาในเวลาอันสั้น 'เก็บคำว่ารักไว้แล้วกลืนลงไป อย่าให้เค้ารู้ว่าเราจะตาย เสียใจก็ต้องหายใจ เมื่อเธอไม่รักก็จะมีคนแทนเธอ เก็บคำว่ารักไว้แล้วลืมเธอไป ออกเดินทางไกลแม้มันเดียวดาย ถึงมันเจ็บ ถึงเรื่องเราต้องจบ แต่รักยังมีต่อ' ใช่ ชีวิตของหมียังต้องดำเนินต่อไป และรักยังมีต่อ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง หมีจอดรถแล้วเดินไปที่คณะทันตะ แม้ช่วงนี้หมีจะดูหม่นหมองไปบ้างแต่ความหล่อก็ไม่ได้น้อยลงเลย ยังคงเป็นที่นิยมในมหาลัยอยู่ดี ทั้งหน้าตาดี หุ่นล่ำ ตัวสูงใหญ่ นิสัยดีเฟรนด์ลี่ขี้เล่น บ้านรวย เรียนดี ดีกรีเดือนมหาลัย แม้จะมีคนเข้ามาเสนอตัวมากมาย มีบ้างที่หมีกินเล่นๆแก้เหงา แต่ยังไม่คิดจะจริงจังกับคนพวกนั้นหรอก หมีเดินเข้ามาในห้องเรียน ตอนนี้หมีอยู่ปี4แล้ว ทั้งต้องเรียนและปฏิบัติทำเอาหมีล้าไปหมด ทิ้งตัวนั่งลงตรงที่นั่งประจำ เอาชีทเรียนขึ้นมาวางแล้วฟุบหลับกับโต๊ะ วันนี้ก็ไม่มีอารมณ์จะเรียนอีกแล้ว เวลาผ่านไปจนหมดคลาส เพื่อนข้างๆปลุกหมีถึงได้รู้ว่าเรียนเสร็จแล้ว หมีเก็บของใส่กระเป่า เดินออกมาจากห้องเรียน ไม่มีเรียนต่อแล้วหมีคงจะกลับเลย หันมองไปอีกทางก่อนจะเลือกเดินไป จนมาหยุดอยู่ที่คณะเกษตร วันนี้ศศินมาเรียนมั้ยนะ หมีเดินเข้าไปในคณะ พวกรุ่นน้องผู้หญิงผู้ชายวี้ดว้ายกันใหญ่ สงสัยว่าเดือนทันตะคนนี้มาทำอะไรที่นี่ หมีเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าศศินยังไม่ตอบข้อความกลับมาเลย หมีถอนหายใจ วันนี้ก็คงจะไม่ได้เจอสินะ หมีตรงไปที่ลานจอดรถ ขับรถกลับมาที่คอนโด ขึ้นมาบนห้อง โยนกระเป๋าไว้บนโซฟาแล้วเดินไปทอ้งตัวนอนลงบนเตียงอย่างเหน็ดเหนื่อย อยากหายไปให้มันรู้แล้วรู้รอดซะจริงๆ หมีเหลือบไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งหล่นอยู่หลังหัวเตียง ยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมาก็พบว่ามันคือบันทึกส่วนตัวของน้ำ คงเก็บไปคินไม่หมดสิเนี่ย หมีเปิดมันออกดู รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของหมี หลายหน้ากระดาษถูกเขียนถึงผู้ชายที่น้ำแอบชอบ เป็นคนที่ทั้งหล่อ เรียนดี สุขุม เท่ ปากร้ายใจดี ใช่ มันไม่ใช่หมี มันคือเหนือต่างหาก แต่มันก็ถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ก่อนที่ทั้งคู่จะคบกัน หมีเปิดไปหน้าหลังๆหวังว่าจะมีที่เขียนถึงตัวเองบ้าง แต่ก็เจอกับหน้ากระดาษว่างเปล่า เหมือนน้ำจะไม่ได้เขียนมันต่อตั้งแต่มาคบกับหมี หมีลุกขึ้นนั่ง เอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปหาเจ้าของ ''ฮัลโหล'' เสียงปลายสายที่คุ้นหูดังขึ้น ''เธอทำอะไรอยู่เหรอ'' ''ไม่ได้ทำอะไร หมีไม่มีเรียนเหรอ'' ''เค้าเรียนเสร็จแล้ว เธอว่างมั้ย'' ''อื้ม ว่างสิ'' ''มีของเธอลืมไว้นี่อะ เราจะเอาไปคืนให้ได้มั้ย'' ''อะไรเหรอ'' ''สมุดบันทึก'' ''ได้ เจอที่ไหนล่ะ'' ''ร้านเดิมที่ห้างก็ได้'' ''โอเค งั้นเจอกันนะ'' ''เจอกัน'' น้ำวางสายไป ถ้าไม่ได้คิดอะไรแล้ว การเจอกันเพื่อคืนของก็ไม่น่าผิดอะไรนี่ หมีลงมาข้างล่าง บึ่งรถไปที่ห้างประจำที่อยู่ไม่ไกลจากหอมากนัก
น้ำ หมีจอดดรถแล้วเดินเข้ามาในห้าง ตรงไปยังร้านกาแฟที่ทั้งคู่มากันเป็นประจำตอนที่คบกัน น้ำนั่งรออยู่ก่อนแล้ว หมีเดินไปนั่งลงฝั่งตรงข้าม น้ำที่เหม่อลอยอยู่ตกใจเล็กน้อย เงยหน้ามองคนที่เพิ่งมาถึง ''รอนานมั้ย'' หมีถาม พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ น้ำยิ้มตอบ ''ไม่นานหรอก เราเพิ่งมาเมื่อสักพักเอง'' ตอนนี้ทั้งคู่ลดสถานะลงมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หมียังคงห่วงใยและอยากดูแลน้ำไม่เปลี่ยนไปจากตอนที่คบกันเลย แต่จะกลับไปดูแลเท่าแต่ก่อนก็คงไม่ได้แล้ว ได้แค่คอยดูแลอยู่ห่างๆแบบที่เพื่อนที่ดีควรจะทำ ''ไม่สบายหรือเปล่า'' น้ำหน้าตาดูซีดเซียวเหมือนคนนอนน้อย หมียื่นมือไปแตะหน้าผผากน้ำด้วยความเคยชินแต่น้ำกลับผละออกเล็กน้อยทำให้หมีรู้ตัวแล้วเอามือกลับ ''ไม่ได้ป่วยแน่นะ'' ''ไม่หรอก เราแค่นอนน้อยน่ะ ช่วงนี้เรียนหนักมาก'' น้ำยิ้ม หมีเอาสมุดบันทึกยื่นให้ น้ำรับมันมาเปิดดู ''เราก็นึกว่ามันหายไปไหน หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ หมีไปเจออยู่ไหนอะ'' ''มันตกอยู่ใต้เตียงน่ะ แล้วในนั้นเขียนอะไรไว้เหรอ'' ''ก็บันทึกเรื่อยเปื่อยทั่วไปนี่แหละ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก'' ''อ๋อ'' หมีพยักหน้าเข้าใจ ถามไปทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าข้างในมีอะไร และคนที่โยนมันลงไปใต้หัวเตียงแต่แรกก็คือหมีนั่นแหละ ''ผมก็ไม่เซ็ต'' หมีขำ โน้มตัวไปจัดทรงผมให้น้ำ น้ำเงยหน้ามองหมี ทั้งคู่สบตากัน ความรู้สึกหายอย่างพรั่งพรูเข้ามาทำให้หมีผละออก ''แล้วเป็นยังไงบ้าง สบายดีใช่มั้ย'' ''อื้ม สบายดี หมีล่ะ เป็นยังไงบ้าง'' ''เค้าโอเคดี'' ''แต่ใต้ตาไม่โอเคเลยนะ อย่านอนดึกนักสิ'' หมีเกาหัวแก้เขิน ''เค้าติดเกมน่ะ'' ''ยังไม่เลิกเล่นอีกนะ'' จริงๆเลิกเล่นไปนานแล้วต่างหาก ''เราก็มีของจะคืนให้หมีเหมือนกันนะ'' หมีทำหน้าสงสัย ''อะไรเหรอ'' น้ำล้วงไปในกระเป๋า หยิบกล่องเล็กๆใบหนึ่งขึ้นมาเปิด มันเป็นแหวนเงินเรียบๆวงหนึ่ง ''เอามาคืนทำไมอะ'' ''หมีเคยบอกว่า แหวนวงนี้เป็นแหวนวงโปรดของหมี หมีไม่เคยถอดมันห่างตัวเลย และจะให้คนที่หมีรักใส่ไว้แทนตัว'' ''ก็เค้าให้น้ำไง'' ''เราไม่คู่ควรกับมันแล้ว'' ''ทำไมล่ะ ก็น้ำเป็นคนที่เค้ารักนี่ ถึงจะเลิกกันแล้วก็เถอะ'' น้ำยัดมันใส่มือของหมี ''แหวนจะมีคุณค่าถ้ามันอยู่กับคนที่หมีรัก และเค้าก็รักหมีด้วย'' น้ำลูบมือของหมี ''เรากลับก่อนนะ ต้องไปอ่านหนังสือต่อ'' น้ำลุกขึ้นแต่หมีจับแขนของน้ำไว้ ''น้ำจะไปจริงๆแล้วเหรอ'' น้ำหัวเราะเบาๆ ''เราจะไปไหนล่ะ ก็ยังอยู่เป็นเพื่อนหมีตรงนี้นั่นแหละ ไม่ต้องกังวลหรอก'' น้ำดึงมือออกช้าๆแล้วโบกมือให้ ''บ๊ายบายนะ'' ก่อนจะเดินออกไปจากร้าน หมีมองแหวนของตัวเองในมือ ใส่มันกลับไปที่นิ้วที่มันเคยอยู่เมื่อนานมาแล้ว กำมือแน่น พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา หมีไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะต้องกลับมาใส่มันอีกครั้ง หมีลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามันเคยอยู่บนนิ้วของหมีมาก่อน หมีเดินออกมาจากร้านกาแฟด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกยังไงกันแน่น น้ำก็แค่เอาของของหมีมาคืนเหมือนที่หมีทำ แล้วทำไมหมีถึงเสียใจที่น้ำไม่เก็บไว้กันล่ะ หมีเดินมาที่ชั้นลานจอดรถ แต่หัวสมองนั้นเหม่อลอย เอาแต่มองแหวนที่ใส่อยู่ หมีเดินไปเรื่อยๆ ก้าวข้ามไปอีกฝั่ง รู้สึกเบลอและง่วงเหมือนจะหลับทั้งยืน ''ปริ๊นนน!!!!!'' เสียงแตรรถทำให้หมีได้สติและหันไปมอง รถเก๋งคันใหญ่พุ่งตรงมา หมีจะก้าวขาก็ก้าวไม่ออก แรงกระชากเสื้อทำให้หมีหงายหลัง ล้มลงไปก้นจ้ำเบ้าจนปวดไปหมด แต่ก็รอดจากรถที่กำลังพุ่งมาได้ รถคันนั้นขับออกไปโดยไม่ได้จอดสักนิด ''พี่เหม่ออะไรของพี่น่ะครับ!'' เสียงเล็กคุ้นหูทำให้หมีเงยหน้าไปมอง
ศศิน ศศินที่มีสีหน้าตกใจมองมาด้วยสายตาที่เป็นห่วง ''ศิน'' คนตัวเล็กที่ตามหามาหลายวัน ไหงถึงโผล่มาตอนนี้กันล่ะเนี่ย ''พี่เป็นอะไรมั้ยครับ'' ศศินปัดฝุ่นบนเสื้อ มองหารอยแผลบนตัว หมีจับข้อศอกที่มีเลือดออก คงจะถลอกตอนที่ล้มล่ะมั้ง ''เจ็บมากมั้ยครับ'' ''พี่ไม่เป็นอะไรหรอก'' หมีจะลุกขึ้นแต่ก็ต้องทิ้งตัวลงเพราะความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาตรงข้อเท้า ''เป็นอะไรครับ!'' ศศินดูวิตกกังวลมาก ''คงจะข้อเท้าพลิกตอนล้มน่ะ ไม่มีอะไรมากหรอก'' ''พี่หมีนั่งอยู่นี่ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมมา อย่าไปไหนนะ'' ศศินกลับเข้าไปในห้าง หมีพาตัวเองมานั่งบนทางคนเดินให้พ้นจากรถ ศศินกลับออกมาพร้อมกับถุงร้านยาในมือ นั่งลงข้างหมี ''ถกแขนเสื้อขึ้นหน่อยครับ'' หมีทำตาม ศศินเอาน้ำเกลือล้างแผลให้สะอาดแล้วปิดพลาสเตอร์ ''ทำไมถึงเดินไม่ดูทางเลยครับ'' สศินพูดเสียงดุ แต่กลับดูน่ารักซะงั้น ''พี่คงนอนน้อยไปหน่อยน่ะ'' ''พี่ต้องดูแลตัวเองดีๆสิครับ แบบนี้จะไปรักษาคนอื่นได้ยังไงกัน'' ศศินเลื่อนตัวไปนั่งข้างล่าง ''ขออนุญาตนะครับ'' ศศินถกขากางเกงยีนส์ของหมีขึ้น หยิบยานวดในถุงออกมาบีบใส่มือ ค่อยๆบรรจงนวดข้อเท้าของหมีอย่างเบามือ ''ผมเคยนวดให้พ่ออยู่บ่อยๆ พอจะทำได้บ้าง ถ้าเจ็บแล้วบอกผมนะครับ'' หมีพยักหน้า นั่งมองศศินที่กำลังตั้งใจนวดข้อเท้าตัวเองอยู่แล้วยิ้ม ''คิดถึง'' หมีหลุดพูกสิ่งที่คิดอยู่ออกมา ''หืม'' ศศินเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงุนงง ''คิดถึง หายไปไหนมา'' ''ผมไม่ได้หายไปไหนสักหน่อย'' ศศินหลบตา ''โกหก พี่ทักไปก็ไม่ค่อยตอบ ชวนไปไหนก็ไม่ไป ไปหาที่คณะก็ไม่เคยเจอ หลบหน้าพี่ชัดๆ'' ''ผมไม่ได้หลบนะ แค่ช่วงนี้ยุ่งเฉยๆ'' ''ใช่เหรอ'' หมียื่นหน้ามาใกล้กระทันหันทำให้ศศินตกใจเขินหน้าแดง ''โอ๊ย! เบาๆดิศิน'' ''พี่หมีนั่นแหละ เล่นอะไรก็ไม่รู้ ยื่นมาใกล้อะไรขนาดนั้น'' หมีหัวเราะชอบใจ ศศินมองคนตัวใหญ่ตรงหน้าแล้วถอนหายใจ จะให้บอกตรงๆหรือไงว่าศศินหลบหน้าหมีเพราะอยากจะลองตัดใจดู อยากเลิกเป็นก้อนเมฆที่ดอกทานตะวันดอกใหญ่นี้ไม่เคยมอง แต่ทำยังไงก็ไม่ได้ ยังแอบคอยตามดูอยู่ตลอด คอยดูแลอยู่ห่างๆเพราะหมีดูไม่ค่อยโอเค คิดว่าน่าจะเพราะเรื่องของน้ำนั่นแหละ ''แล้วศินมาทำอะไรที่นี่เหรอ'' ''ผมมาซื้อของนิดหน่อย เห็นพี่เดินออกมาพอดีเลยว่าจะเข้ามาทักน่ะครับ'' ''จะมาทักพี่ด้วย?'' หมีเลิกคิ้วสงสัย ''ทำไมล่ะครับ ทักไม่ได้เหรอ'' ''ได้สิ อยากเจอมาตั้งหลายวัน'' คำพูดของหมีทำให้ศศินใจสั่น ศศินปล่อยมือออก เก็บของใส่ถุง ''เสร็จแล้วครับ'' หมีค่อยๆยืนขึ้น เอามือวางบนหัวของคนเตี้ยกว่าแล้วลูบเบาๆ ''ขอบคุณนะครับ'' ศศินหดหัวหนีเพราะเขิน ''ไม่เป็นไรครับ'' หมีมองคนตัวเล็กข้างหน้าแล้วก็อดยิ้มในความน่ารักไม่ได้ ''ทำไมเราชอบโผล่มาตอนพี่สภาพดูไม่ได้ทุกทีเลยนะ ตอนเมารอบนั้นก็ทีนึงละ'' ''เป็นเจ้ากรรมนายเวรของพี่มั้งครับ'' ศศินเล่นมุข ''ไม่หรอก'' หมีโน้มตัวลงมา เอามือหยิกแก้มของศศินเบาๆ ''เป็นนางฟ้าของพี่มากกว่า'' ศศินถึงกับอึ้งไป ทำไมคนเรามันหล่อได้ขนาดนี้กันนะ ศศินดันหมีออก ''กลับบ้านดีๆนะครับ'' ''เดี๋ยวดิ'' หมียื่นมือไปคว้างข้อมือเล็กของศศินไว้ ''เดี๋ยวค่อยกลับได้มั้ย'' ''แต่พี่จะกลับแล้วไม่ใช่เหรอครับ'' ''ไม่อะ ไม่กลับแล้ว ไปเดินเล่นกัน'' หมีเดินจูงศศินเข้าไปในห้าง กลายเป็นว่าทั้งคู่มาเดินห้างด้วยกันซะงั้น ''พี่หมี ปล่อยได้แล้วครับ'' ''อ้อ ขอโทษที พี่ลืมตัว'' หมีปล่อยมือของศศิน ศศินรีบหดมือกลับไป ''พี่หมี ขอผมแวะซื้อชาหน่อยครับ'' ''ร้านไหน'' ''ร้านนั้นครับ'' ''โอเค'' หมีเดินนำไปต่อแถวก่อน ศศินรีบจ้ำอ้าวตามมา ขาก็ยาวยังจะเดินไม่รออีก สศินบ่นในใจ ''เอาอันไหน'' ''เอ่อ'' ศศินแหงนหน้าไปมองเมนู อยู่ๆตัวศศินก็ลอยจากพื้นทำให้ตกใจรีบหันไปมอง หมีอุ้มศศินลอยขึ้น ''เอ้า ก็เห็นมองไม่เห็น'' ''ปล่อยผมลงเลยนะครับ!'' หมีขำ ปล่อยสศินลง ''ไม่เจอไม่กี่วันขี้แกล้งขึ้นเยอะเลยนะครับ'' ''ใครว่า ขี้แกล้งแบบนี้อยู่แล้วต่างหาก'' ศศินสั่งชาที่อยากกิน หมีเลื่อนตัวมาแทรกแล้วจ่ายเงินให้ ''พี่จ่ายให้ผมทำไมครับ'' ''ก็อยากจ่ายให้ เลี้ยงๆ'' ''ผมเกรงใจ'' ''เอาน่า ถือว่าตอบแทนที่ช่วยพี่ไว้ละกันนะ'' ''แค่ชาแก้วเดียวเนี่ยนะครับ'' ''อยากได้อะไรล่ะ ว่ามาเลย'' ''อย่างกับเป็นมหาเศรษฐีเลยนะครับ'' ''ก็ไม่เคยบอกว่าไม่ได้เป็นนี่'' หมียิ้มกวนๆ ศศินรับชามาดูดแล้วเดินหนี หมีขำแล้วรีบเดินตามไป ''ให้พี่ไปส่งนะ'' ''ไม่ต้องก็ได้ครับพี่หมี ผมกลับเองได้'' ''เอารถมาเหรอ'' ''ผมกลับแท็กซี่ครับ'' ''งั้นก็มาด้วยกันนี่แหละมา'' ''ไม่ดีกว่าครับ'' ''ตอนแรกนึกว่าน่ารักอย่างเดียว ดื้อด้วยเหรอเนี่ย หืม'' หมีขยี้ผมของศศินอย่างหมั่นเขี้ยว ''พี่ไปส่งนี่แหละ'' หมีเดินนำศศินที่ใจเต้นแรงเขินค้างไป ทำไมชอบทำอะไรแบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ หมีขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของศศิน ''ขอบคุณมากนะ วันนี้อะ'' หมีบอก ศศินยิ้ม ''ไม่เป็นไรครับ วันหลังก็อย่าไปเดินเหม่อที่ไหนอีกล่ะ'' ''ไม่เหม่อแล้วแน่นอนครับ'' ''ดูแลตัวเองด้วยล่ะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่มีแรงดูแลต้นไม้นะ'' ''จริงด้วยเนอะ'' หมียิ้ม รอยยิ้มที่ทุกคนต่างต้องใจละลายที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เห็นนัก ''เจอกันครับ'' ศศินปิดประตูลงรถเข้าบ้านไป หมีฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยแล้วยิ้มกับตัวเอง นั่นสินะ ชีวิตมันต้องดำเนินต่อไป
วายุ ''ในวันที่เธอมาบอก เรื่องราวความรักของสองเรา ว่าฉันนั้นเคยรู้สึก ว่ามันน้อยลงบ้างหรือเปล่า และหากว่าเป็นอย่างนั้นฉันก็คงจะไปจากเธอ จะนอนก็ยังละเมอคิดถึงเธอคนเดียวทุกวัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้เธอคิดไปอย่างนั้น คิดมากไปนะเธอ'' เสียงร้องนุ่มละมุนของวายุดังก้องไปทั่วร้านอาหารเหนือที่มีลูกค้านั่งกินอาหารอยู่เกือบเต็มร้าน วายังคงรับงานร้องเพลงอยู่ที่ร้านอาหารของแม่เหนืออยู่ จากที่มาแค่ช่วงเย็นบางวันก็เริ่มมาบ่อยขึ้น จนกลายเป็นว่ามาแทบทุกวัน แถมยังได้รับความนิยมจากลูกค้าเสียด้วย ด้วยเสียงที่ไพเราะและหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูทำให้สามารถตกคนฟังได้ไม่ยาก ''แต่ฉันยังทำงานตั้งแต่จันทร์ไปจนวันเสาร์ อาทิตย์ก็ยังมีเราเธอว่ามันน้อยไปรึเปล่า หากว่าน้อยไปฉันจะเล่าให้ฟัง'' วาดีดกีตาร์ด้วยท่าทางสบายๆ สอดส่องสายตาไปทั่วร้านจนพบกับคนที่กำลังมองหา เหนือโบกมือส่งยิ้มมาให้จากโต๊ะด้านหลัง เหนือเป็นคนที่คอยสนับสนุนวามาตลอด ไม่ว่าวาอยากทำอะไรก็จะเชื่อมั่นและคอยอยู่ข้างๆ ตั้งแต่สมัยเด็กจนถึงปัจจุบันที่เป็นแฟนกันแล้ว เหนือก็ยังดูแลวาดีไม่เคยเปลี่ยน เผลอๆดีกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ วายิ้มแล้วร้องต่อ ''ว่ารักที่มีให้เธอมากกว่าดาวที่ลอยบนฟ้า ไม่น้อยกว่านกอินทรีย์และมวลแมลงในท้องนภา มากกว่าพื้นดิน ไม่เท่าเม็ดทรายบนชายหาด และถ้ามันยังคงไม่พอให้เอาทะเลไปรวมกับเขา ให้มีทั้งแสงและเงาละอองดอกไม้ที่ในอากาศ มีแค่เท่านี้ โปรดเธอพิจารณา'' วาดีดกีตาร์ครั้งสุดท้ายจบเพลง ได้รับเสียงปรบมือเหมือนอย่างเคย วาลุกขึ้นโค้งตัวขอบคุณอย่างสุภาพและน่ารัก เก็บกีตาร์ตัวเก่งลงมาจากเวที เหนือเดินเข้ามาหาวา ''วันนี้ร้องเพราะจัง'' เหนือลูบหัวของวา วายิ้มกว้าง ''ขอบคุณครับ'' ''เดี๋ยวพี่มานะ ขอไปเคลียร์บัญชีร้านแปปนึง นั่งรอพี่ก่อนก็ได้'' ''ครับ'' เหนือยีผมวาก่อนจะเดินไปหลังร้าน วาเดินมานั่งที่โต๊ะหลบมุมในร้าน ''ไงมึง'' ''พ่อนักดนตรี'' เพื่อนที่มหาลัยของวาเดินเข้ามาทัก ''อ้าว มากันไงอะ'' ''พวกกูมาหาไรกินกัน โทรหามึงแล้วแต่มึงไม่รับ'' ''เล่นอยู่ รับไม่ได้'' ''แล้วนี่เล่นเสร็จแล้วเหรอ'' เพื่อนของวานั่งลง วาพยักหน้า ''เสร็จแล้ว รอพี่ลมเหนืออยู่'' ''แหม ติดแฟนจังเลยนะมึงเนี่ย'' วายิ้มเขินที่โดนแซว ''ชอบมาตั้งหลายปี ขอติดหน่อยไม่ได้เหรอ'' ''จะอ้วก เลี่ยน'' ''แล้วกับพี่เค้าไปถึงขั้นไหนแล้ว'' ''ขั้นไหน?'' วาทำหน้างง ''เออ เด็ดปะ'' ''นั่นดิ เป็นไงวะ'' วาเข้าใจว่าเพื่อนถามถึงอะไร ''ยังไม่ได้ทำอะไรกันเลย'' ''ห้ะ'' ''จริงปะเนี่ย'' ''ตกใจอะไรขนาดนั้นล่ะ'' ''ใครเค้าก็รู้ว่าพี่เหนือจัดขนาดไหน'' ''อะไรจัดวะ'' ''ก็เซ้กส์จัดไง คนที่เคยลองกับพี่เค้าบอกต่อกันมาว่าโคตรดุ บางคนเดินไม่ได้เป็นวันเลยนะ'' วาหน้าแดง ''พูดเรื่องอะไรกันก็ไม่รู้'' ''ทำมาเป็นเขิน แต่แปลกว่ะ พี่เค้าน่าจะเผด็จศึกมึงไปแล้วสิ'' ''หรือพี่เค้าไม่อยากกับมึงวะวา'' เพื่อนๆขำ แต่วากลับไม่ขำด้วยสักเท่าไหร่ นั่นสิ นอกจากจับมือกับหอมแก้มและจูบนิดหน่อยๆเหนือก็ไม่เคยล่วงเกินอะไรวาเลย หรือเพราะวาจืดชืดไปกันนะ วาไม่มีประสบการณืเรื่องพวกนี้มากซะด้วย วาเองไม่ใช่ไม่รู้เรื่องที่เหนือชอบเรื่องอย่างว่า แต่ก็ลืมคิดไปว่าเหนือจะเบื่อหรือเปล่าที่วาไม่เคยให้เหนือทำอะไรเลย จริงๆถ้าเหนือจะทำวาก็คงไม่ห้ามหรอก ''เฮ้ย พวกกูพูดเล่น ทำหน้าเป็นตูดเชียว'' ''คิดมากอะดิ'' ''เปล่าสักหน่อย'' วาปัดมือเพื่อนที่หยอกล้อ ''คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ'' เหนือเดินเข้ามาที่โต๊ะ ''สวัสดีครับพี่เหนือ'' เพื่อนวายกมือสวัสดี เหนือรับไหว้ตามมารยาท แม้กับวาเหนือจะเป็นผู้ชายที่อบอุ่นที่สุดในโลก แต่กับคนอื่นยังคงมีออร่าความเย็นชาและใบหน้าของคุณชายน้ำแข็งอยู่ดี ''พวกกูไปก่อนนะวา'' ''อ่า เออๆ'' พวกเพื่อนวาลาและออกจากร้านไป เหนือนั่งลงข้างวา ''คุยอะไรกับเพื่อนเหรอ'' ''เปล่าหรอกครับ พวกนั้นมันผ่านมาแถวนี้พอดีเฉยๆ'' ''อ๋อ งั้นกลับกันเลยมั้ย หิวหรือยัง'' ''หิวแล้วครับ อยากกินขนม'' เหนือหัวเราะเบาๆ เอามือวางบนหัวของวา ''งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวจะพาแวะซื้อเค้กที่เราชอบ'' ''เย้'' วาลุกขึ้น เหนือเอา่กระเป๋าและกีตาร์ของวาไปถือไว้ให้ จูงมือพาวาเดินออกจากร้าน มือของวานั้นนุ่มกว่ามือทุกคนที่เหนือเคยจับ และยังอบอุ่นที่สุดอีกด้วย เป็นมือที่จับมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก จนมาตอนนี้ก็ยังได้จับอยู่ ช่างโชคดีจริงๆ เหนือแวะซื้อขนมหวานของโปรดวาหลายอย่าง ขับรถจนมาถึงคอนโดของวา ''จะกินหมดมั้ยเนี่ย'' เหนือมองไปที่กองถุงข้างหลัง ''คือ พี่ลมเหนือครับ'' ''หืม'' เหนือหันมาหาวา ''ขึ้นไปกินกับผมบนห้องมั้ยครับ'' วาถามด้วยแววตาเป็นประกายไร้เดียงสาที่ไม่ว่ามองทีไรเหนือเป็นต้องใจเต้นทุกที ''อืม ไปสิ พี่ไม่มีธุระต่ออยู่แล้ว'' เหนือลงมาจากรถ ถือของไม่เหลือให้วาถือสักนิดนอกจากกระเป๋าแล้วเดินนำไป วาเดินตามเหนือเข้าไปในคอนโด
ลมเหนือ ทั้งคู่เข้ามาในห้อง เหนือวางถุงที่ถือมาบนเค้าเตอร์ในครัว วาปิดประตูแล้วตามเข้ามา ''ซื้อมาเยอะเลย จะกินหมดมั้ยเนี่ย'' ''หมดอยู่แล้ว'' วาตอบอย่างมั่นใจ เหนือขำเบาๆ เอามือลูบหัววาอย่างเอ็นดู ''เดี๋ยวพี่ขอเคลียร์งานแปปนึงนะ'' ''ได้ครับพี่ลมเหนือ งั้นวาอาบน้ำก่อนนะ'' ''อืม อาบเถอะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว'' วาพยักหน้ายิ้มๆ เหนือนั่งลงที่โซฟา เอาโน๊ตบุ๊คขึ้นมาเปิด พิมพ์รายงานกลุ่มส่วนของตัวเองที่ทำค้างเอาไว้เมื่อคืนต่อ วามองเหนือที่นั่งทำงานอย่างขมักเขม้น เหนือมักจะมานั่งเล่นที่ห้องของวาบ่อยๆอยู่แล้ว พอคบกันก็มาบ่อยยิ่งกว่าเดิมจนเกือบจะทุกวัน แต่วาก็ไม่ได้ติดอะไร ยังไงวาก็อยากอยู่กับเหนือนานๆอยู่แล้ว เหนือจะเอางานมาทำที่ห้องของวาไม่ก็มานั่งเล่นกับวา ร้องเพลงด้วยกัน ช่วยวาเขียนเพลง สอนการบ้านวา กินข้าวด้วยกัน นอนกอดกัน แม้จะเขินๆอยู่บ้างแต่วานั้นมีความสุขมาก คำพูดของเพื่อนแล่นเข้ามาในหัว นั่นสินะ ขนาดอยู่ด้วยกันบ่อยขนาดนี้เหนือยังไม่ค่อยทำอะไรวาเลย มีหลายครั้งที่วารู้สึกได้ว่าเหนืออยากทำมากกว่ากอดหรือหอมแก้ม แต่ก็ยั้งไว้ทุกที วาหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำ ถอดเสื้อผ้าออก มองตัวเองในกระจก หรือวาไม่เซ็กซี่แบบคู่นอนก่อนๆของเหนือกันนะวาอาบน้ำเสร็จ หยิบเสื้อผ้าที่เอาเข้ามาด้วยใส่ให้เรียบร้อย เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ เหนือเหลือบไปมอง วาใส่เสื้อยืดสีขาวตัวโคร่ง กางเกงขาสั้นสีเทาเผยให้เห็นขาเรียวสวย วาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเหนือ ''มา พี่เช็ดให้'' เหนือเอาผ้าไปจากมือวาแล้วเช็ดผมให้ กลิ่นยาสระผมที่วาใช้เป็นประจำมาตั้งแต่สมัยเด็กยังคงจำได้ดี ตอนเด็กก็มีบ่อยที่ได้อาบน้ำด้วยกัน เหนือมักจะเป็นคนแต่งตัวให้วาเสมอ แต่เด็กตัวเล็กคนนั้นตอนนี้กลับไม่ได้แค่น่ารักอย่างเดียวแล้ว ยังเซ้กซี่มากอีกด้วย ต้นคอขาว หูน่างับ สายตาของเหนือมองลอดเข้าไปในคอเสื้อกว้าง เห็นผิวขาวเนียนของวาแล้วก็แทบตบะแตก พยายามข่มอารมณ์ไล่ความคิดในหัวออกไป ''งานเสร็จแล้วเหรอครับพี่ลมเหนือ'' ''เอ่อ อืม ใกล้เสร็จแล้วล่ะ'' เหนือเช็ดผมวาจนแห้ง ''ขอบคุณครับ'' วายิ้ม เหนือพยักหน้าแล้วกลับไปพิมพ์งานต่อ วาเอาผ้าไปเก็บแล้วกลับมานั่งข้างเหนือ เขยิบเข้าไปใกล้จนขาชิดกัน เอาคางเกยบนไหล่มองหน้าจอโน๊ตบุ๊ค เหนือเหลือบตาไปมองแล้วยิ้ม ''หิวหรือยัง รอแปปนะ'' ''ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้'' กลิ่นตัวหอมๆของวาทำเอาเหนือใจว้าวุ่นไปหมด วาขยับตัวแนบชิดกว่าเดิม เอาโทรศัพท์ขึ้นมานั่งเล่นรอ เหนือพิมพ์งานจนเสร็จแล้วส่งให้เปาทางไลน์ ''เสร็จแล้ว เราไปกินข้าวกันดีกว่า'' ''ครับ'' เหนือเอากับข้าวที่ซื้อมาใส่จานมาวางที่โต๊ะอาหาร วาเดินมานั่งรอ เหนือจัดโต๊ะกินข้าวเสร็จสรรพก็นั่งลงฝั่งตรงข้าม เหนือดูแลวาอย่างดี ไม่เคยปล่อยให้หิวเลย วาหยิบแว่นมาใส่ เวลาอยู่ข้างนอกวาไม่ชอบใส่แว่นเพราะรู้สึกไม่มั่นใจ แต่วาไม่รู้เลยว่าวาใส่แว่นนั้นน่ารักมากสำหรับเหนือ มองทีไรแล้วอยากจะจับฟัดซะทุกที ทั้งคู่นั่งกินข้าวด้วยกัน วาเล่าเรื่องต่างๆในวันนี้ที่เจอมาให้เหนือฟัง เหนือยังคงเป็นผู้ฟังที่ดีเหมือนเคย เหนือชอบฟังวาเล่าเรื่องต่างๆ มันรู้สึกผ่อนคลายดี วาเองก็ชอบเล่าเรื่องที่เจอมาให้เหนือฟังเหมือนกัน เพราะเหนือนั้นรับฟังวาทุกเรื่องและให้คำแนะนำบ้างในบางครั้ง เหนือเอาจานไปล้างหลังจากกินข้าวเสร็จ ยกจานขนมหวานมาวางบนโต๊ะแทน ยิ้มออกมาเมื่อเห็นตาเป็นประกายของวา วาเป็นคนที่ชอบกินของหวานมาก ส่วนเหนือนั้นไม่ชอบเอาซะเลย แต่ช่วงหลังมานี้เหนือจัดการกับรสขาติหวานได้ดีขึ้น คงเพราะอยู่กับวาแล้ววาอ้อนให้กินด้วยบ่อยๆนั่นแหละ วากินเค้กอย่างเอร็ดอร่อย เหนือนั่งดูวากิน ตักกินคำเล็กๆบ้าง ''ร้านนี้อร่อยมากเลยครับพี่ลมเหนือ'' ''เหรอ งั้นวันหลังก็ซื้อร้านนี้อีกละกันเนอะ'' เหนือเอามือเท้าคางมองวา วาเป็นคนเดียวที่เรียกเหนือด้วยชื่อเต็ม และเป็นคนเดียวที่เหนือจะให้เรียก วาเป็นเหมือนพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเหนือ เหนือไม่ต้องเก๊กท่าวางมาด หรือทำตัวให้สมกับวงศ์ตระกูลแบบที่ลุงหรือพ่อของพี่เก้าคอยสอนอยู่เสมอ บางทีเหนือก็อยากเป็นแค่ลมเหนือ ลมเหนือคนธรรมดา ''พี่ลมเหนือ'' เสียงเรียกของวาทำให้เหนือที่เหม่อลอยได้สติ ''หืม'' ''หมดแล้ว พี่ไม่กินเลยอะครับ'' วาทำหน้ายู่ เหนือขำ ''พี่ไม่ค่อยหิวน่ะ'' เหนือเอาจานไปล้าง วาหยิบกีตาร์มานั่งบนโซฟา เกาเล่นไปเรื่อย ดีดเป็นทำนองที่ไม่รู้ว่ามาจากเพลงไหน เหนือตามมานั่งด้วย ''ร้องเพลงให้ฟังหน่อยสิ'' ''ที่ร้านก็ฟังไปเยอะแล้วนี่ครับ'' ''อันนั้นมันร้องให้ทุกคนฟัง พี่อยากให้วาร้องให้พี่ฟังคนเดียว'' สายตาของเหนือทำเอาวาเขินจนต้อดงหลบตา ''พูดอะไรเนี่ย'' เหนือหัวเราะในลำคอ วาตั้งสายก่อนจะเริ่มดีด เป็นจังหวะเพลงสบายๆ ''แด่เธอที่รัก คนที่อยู่แสนไกล เธอจะเป็นเช่นไร หัวใจชั้นเฝ้าคอยหา ไม่มีชั้นพาเข้านอน หรืออ่านกลอนตอน นิทรา เลยเขียนเพลงนี้มา ฝากจันทราไปกล่อมเธอ'' เสียงใสๆของวาดังไปทั่วห้อง เหนือเอาไหล่พิงโซฟานั่งฟัง ''ท้องฟ้านภาที่มาเรียงอยู่หน้าฉัน นั่งมองมันได้ทั้งวันทำไงก็คิดถึงเธอ จากวันนั้นที่เราต้องไกล รักฉันมีให้เธอเสมอ เหตุผลก็คือฉันรักเธอ และมีเเต่เธอทั้งหัวใจ'' เวลาที่วาร้องเพลงนั้นเหมือนมีมนต์สะกดชวนให้หลงใหลฟัง เหมือนสิ่งที่วาร้องคือสิ่งที่วาคิดอยู่จริงๆ ตาของทั้งคู่ประสานกัน วายิ้มกว้างแล้วร้องต่อ ''ต่อให้ไกลอีกสักเท่าไหร่ ฉันจะส่งใจไปหาเธอ เก็บดาวมาเรียงต่อหน้าเธอ ฉันเฝ้าละเมอเธอรู้ไหม อยากขอวิงวอนเจ้าสายลม ยามเธอขื่นขมระทมใจ จะรีบไปเลยถึงเเม้ไกล ให้ฉันได้ใกล้เธอที่รัก'' วาดีดกีตาร์จบเพลง เหนือเอามือดึงวาเข้ามาประกบปากจูบ วาตกใจเขินจนหน้าแดงแต่ก็ไม่ได้ผลักออก จากจูบที่นิ่มนวลเริ่มร้อนแรงขึ้น เหนือเริ่มขยับริมฝีปาก วาเองก็เคลิ้มแล้วจูบตอบ เหนือเอากีตาร์วางไว้บนพื้น กอดเอวดึงวาขึ้นมานั่งบนตักตัวเอง มือสางผมของวาไปมา ทั้งคู่จูบกันอย่างดูดดื่ม บดขยี้ริมฝีปากกันภายใต้ความเงียบในห้อง ''อืออ'' วาครางในลำคอ เหนือสอดลิ้นเข้ามารุกล้ำในปากของวา ลิ้นอุ่นของเหนือตวัดลิ้นของวา ทั้งคู่แลกลิ้นแลกน้ำลายกันอย่างเร่าร้อน มือของเหนือเริ่มอยู่ไม่สุก สอดเข้าไปใต้เสื้อของวา ลูบไล้ไปบนแผ่นหลังเนียนนุ่ม สัมผัสจากมืออุ่นๆของเหนือทำเอาวาเสียววาบไปทั้งตัว ยื่นหน้าไปเลียใบหูของวา ลากลิ้นลงไปตามลำคอ ดูดคอของวาเบาๆจนเป็นรอยแดง วาไม่สามารถห้ามให้สิ่งที่อยู่ในกางเกงขาสั้นตัวจิ๋วไม่ให้ตื่นได้ เหนือมองแล้วยิ้ม เอามือถูไปมาตรงหัว วายสะดุ้งนิดหนึ่ง ''อย่าแกล้งสิครับ'' วาหันหน้าหนีแต่เหนือจับคางให้หันกลับมา เหนือขบกัดริมฝีปากล่างของวาเบาๆ ''น่ารัก'' คำพูดแค่นั้นของเหนือแต่กลับทำให้วาเขินจนใจกระเจิง เหนือเลิกเสื้อของวาขึ้น เผยให้เห็นเอวบางๆยั่วยวน ผิวขาวอมชมพูน่าสัมผัส กลิ่นสบู่อ่อนๆเหมือยแป้งเด็กทำเอาเหนือควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ยื่นหน้าไปเลียหัวนมสีชมพูระเรื่อของวา ''อ๊ะ'' วาหลุดร้องออกมาแต่เอามือปิดปากตัวเองไว้ เหนือขบเม้มหัวนมของวาสลับข้างไปมา ลิ้นของเหนือตวัดเลียรัวๆจนวาเสียวตัวเกร็ง กัดมือตัวเองห้ามไม่ให้ร้องเสียงน่าอายออกมา เหนือพรมจูบไปทั่วทั้งร่างกายของวา ลากลิ้นเลียลงไปตามหน้าท้อง เหนือเงยหน้าขึ้นมามอง ''ขอพี่ทำให้ได้มั้ยครับ'' ''พี่จะถามทำไมล่ะครับ'' เหนือยิ้ม ดึงกางเกงขาสั้นของวาลง ควย6นิ้วของวาเด้งออกมา ลำควยขาวยังไม่เปิดดี เหนือจับควยของวารูดลง หัวควยสีชมพูอ่อนชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่น เหนือใช้นิ้วแตะเล่น วาเขินจนทำตัวไม่ถูก เหนือจับมือของวายัดเข้าไปในกางเกงตัวเอง วาตกใจเมื่อมือสัมผัสเข้ากับบางอย่างที่แข็งและอุ่น ขนาดของมันใหญ่กว่าของวามาก ''จะได้ไม่เขินไง'' เหนือยิ้ม จับควยของวาชักขึ้นลง ''อะ อาา'' วาหลุดคราง เหนือเลื่อนหน้าขึ้นมา จับวาเข้าไปจูบ ขบกัดใบหูของวาพร้อมกระซิบข้างหู ''ทำให้พี่ด้วยสิครับวายุ'' วาหน้าแดงร้อนผ่าว กำควย10นิ้วที่แข็งเต็มที่ของเหนือไว้ในมือแล้วชักขึ้นลง ''ซี้ดดด'' เหนือครางอยู่ข้างหูยิ่งทำให้วาเสียว วาเองก็เคยมีคิดเรื่องแบบนี้กับเหนืออยู่บ้าง แต่ไม่คิดเลยว่าตอนนี้ทั้งคู่จะมาทำอะไรแบบนี้จริงๆ เหนือเร่งมือขึ้นอีก ลมหายใจของทั้งคู่รดกันไปมา ''ผม จะ เสร็จ'' ''ปล่อยออกมาเลย'' เหนือชักควยของวาขึ้นลงรัวๆ ''อะ อ๊ะ!'' วาจิกหลังของเหนือ ตัวกระตุกน้ำแตกออกมาคามือของเหนือ เหนือจับมือของวาที่จับควยของตัวเองอยู่ชักรัวๆ ''ซี้ดด อ้าา!'' เหนือน้ำแตกออกมาใส่มือวาเช่นกัน ทั้งคู่หอบหายใจเสียงดัง เงยหน้ามามองหน้ากัน วานั้นเขินมากกับสิ่งที่ทำไปจนไม่กล้ามองหน้าเหนือ แต่เหนือกลับหัวเราะเพราะเอ็นดู จับแก้มของวาให้หันมาแล้วหอมฟอดใหญ่ ''พี่รักวานะ'' ''อะไรของพี่ลมเหนือเนี่ย'' ความสัมพันธ์ที่กำลังเดินทางไปเรื่อยๆ ขอบคุณครับ{:5_119:} ค่อยๆเป็น ค่อยๆไปเนาะ ขอบคุณครับ. เวลาแฟนจะมีไรกัน ก็ต้องจูน ๆ กันหน่อยเนอะ เดี๋ยวก็ลงตัว {:7_295:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณคับ น่ารักมากเลย {:7_295:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เหนือและวาเพิ่มความสัมพันธ์ขึ้นไปอีกขั้นแล้วนะ สนุกมากครับ {:7_295:} ขอบคุณ {:7_319:}