หมาป่าขี้เงี่ยน PT53 ศึกประลองจตุรเทพ3 การแสดงความยินดีของพี่ตัวยักษ์
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Kantanaty เมื่อ 2022-12-1 01:45เลิฟ
โฬม
ราคาน ''ตอนนี้อาการอยู่ในระยะปลอดภัยแล้ว เพราะร่างกายของนักเรียนฟื้นสภาพได้รวดเร็วกว่าคนปกติเลยไม่น่าเป็นห่วงอะไร แต่อยากให้นอนพักอยู่ที่นี่จนกว่าการแข่งจะจบ ค่อยออกไปตอนประกาศจบการคัดเลือกจตุรเทพดีกว่า'' ''ครับ ขอบคุณครับครู'' ''ขอบคุณครับ'' ราคานและโใมกล่าวขอบคุณครูพยาบาลประจำโรงเรียนเซ้นต์รอยัลที่อยู่มาตั้งแต่ก่อนทั้งคู่เข้าเรียนที่นี่เสียอีก ตอนนี้ทั้งสองอยู่ที่ห้องพยาบาลของโรงเรียนเพราะเลิฟได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติไปหลังจบการประลอง ถูกส่งตัวมาพักฟื้นที่ห้องพยาบาลแห่งนี้จนกว่าการประลองจะจบ ทั้งคู่กลับมานั่งลงข้างเตียงที่เลิฟนอนอยู่คนละฝั่ง ราคานยื่นมือไปลูบหัวของเลิฟเบาๆ ''เด็กคนนี้เค้าเก่งจริงๆเลยนะ'' ''อืม มันก็พยายามมากจริงๆนั่นแหละ'' ทั้งสองภูมิใจในตัวเลิฟเป็นอย่างมาก จากตอนแรกที่เป็นแค่โอเมก้าชั้นล่างจรจัดที่ไม่มีอะไร ทำงานพิเศษหาเลี้ยงตัวเองไปวันๆ อาศัยอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เก่าซอมซ่อในย่านสลัมแออัดที่อันตราย พบเจอเรื่องร้ายต่างๆมามากมายเกินกว่าที่เด็กอายุเท่านี้ควรเจอ จนตอนนี้กลายมาเป็นหนึ่งสมาชิกคนสำคัญของฝูงROME มีทักษะการต่อสู้เพิ่มขึ้นจากเดิม มีการศึกษาอย่างที่ควรจะได้รับ และตอนนี้ก็ได้กลายเป็น1ใน4จตุรเทพของโรงเรียนอันดับหนึ่งที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและแบ่งชนชั้นอีกด้วย ราคานเป็นห่วงและคอยดูแลเลิฟอยู่ตลอดตั้งแต่เข้ามาอยู่ฝูงแรกๆ กังวลว่าเลิฟจะเข้ากับคนอื่นได้หรือเปล่า ส่งให้เรียนแล้วจะเรียนไหวมั้ย จะเอาชีวิตรอดในสังคมอัลฟ่าได้หรือไม่ แต่วันนี้เลิฟพิสูจน์แล้วว่าเลิฟนั้นไม่ได้อ่อนแอหรือด้อยไปกว่าใคร แค่มีต้นทุนไม่เท่ากับคนอื่นก็เท่านั้นเอง โฬมใช้นิ้วเกี่ยวกับนิ้วเล็กของเลิฟที่ห้อยลงมาข้างเตียง โฬมเห็นความพยายามของเลิฟมาตลอดที่จะฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น ที่ผ่านมาแม้เลิฟจะทำได้ดีแต่ก็ไม่เคยชมตัวเองเลยสักครั้ง ยังเอาแต่คิดว่าตัวเองนั้นไม่แข็งแกร่งเท่าคนอื่น อยากรู้ว่าถ้าเลิฟตื่นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นหนึ่งในสี่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนแล้วจะทำหน้ายังไง โฬมเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าของเลิฟตอนหลับพริ้มนั้นน่ารักจริงๆ แม้จะมีรอยแผลจางๆอยู่ทั่วก็เถอะ ราคานมองเพื่อนตัวเองที่ยิ้มคนเดียว ''โฬม'' ''ว่า'' ''มึงชอบเลิฟมั้ย'' โฬมเงยหน้ามามองราคาน ''ถามทำไมวะ'' ''กูก็แค่ถาม'' ''น้องมันก็น่ารักดี'' ''แล้วมองเป็นแค่น้องหรือเปล่า'' โฬมเลิกคิ้ว เอนหลังพิงพนักเก้าอี้เอาเท้าพาดไว้ปลายเตียง ''ทำไม มึงจะกินเองเหรอ'' ''กูถามมึงอยู่ ไม่ใช่ให้มึงมา่ถามกลับ'' ''แล้วถ้ากูบอกว่าชอบมากกว่าแค่น้องล่ะ'' ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งห้อง ทั้งสองมองตากัน ไม่มีใครพูดอะไร เป็นราคานที่ยิ้มออกมาก่อน ''มึงนี่เห็นโอเมก้าตัวเล็กๆไม่ได้เลยจริงๆนะ'' ''ก็เป็นปกติของอัลฟ่าไม่ใช่หรือไงวะ'' ''ถ้าอย่างนั้นก็มีอะไรกับน้องให้มันจบๆไปสิ'' โฬมเอามือเท้าคางบนเตียง ''ทำไมมึงต้องมาสนใจเรื่องของกูด้วยวะ เห็นปกติกูไปอะไรกับใครไม่เห็นจะสนใจ'' ''กูแค่เห็นว่าครั้งนี้มึงทำไม่เหมือนกับโอเมก้าคู่นอนคนอื่นของมึงก็เท่านั้นเอง'' ''จริงๆแล้วมึงก็ชอบเลิฟใช่มั้ย'' ราคานเงียบ โฬมขำ ''เราแม่งซี้กันจริงๆเลยนะ'' ''นั่นสิเนอะ'' ดวงตาของราคานเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานดูดุร้ายเพียงเสี้ยววิ โฬมชะงักไปแปปหนึ่ง ''อะไรวะ'' ''อะไรเหรอมึง'' ''เปล่า กูแค่วูบไปมั้ง เมื่อกี๊มึงคุยอะไรกับกูนะ'' ''กูบอกว่า ปล่อยให้น้องนอนพักเถอะ พวกเรามีงานต้องไปทำต่อไม่ใช่เหรอไง'' ''เออ กูมีประชุมต่อนี่ แล้วคนอื่นล่ะ'' ''ไปกันหมดแล้ว เดี๋ยวจะกลับมากันอีกทีตอนงานจบ'' ''เออ'' ทั้งคู่ลุกขึ้น ราคานเดินออกไปก่อน โฬมเดินมาข้างเตียง โน้มตัวลงไปจูบหน้าผากของเลิฟเบาๆ รีบเดินตามราคานออกมา ระหว่างทางเดซี่เดินสวนมาพอดี ''อ้าว พี่ราคาน พี่โฬม จะกลับแล้วเหรอครับ'' ''พวกพี่ต้องไปทำธุระกันต่อน่ะ จะกลับมาตอนงานจบ ยังไงฝากเดซี่ดูแลเลิฟให้ด้วยนะ'' ''ได้ครับพี่ราคาน งั้นเจอกันนะครับ'' ราคานโบกมือตอบเดซี่ ''มึงไม่อยากดูเหรอวะว่าอีกสามคนที่เหลือจะเป็นใคร'' โฬมถาม ราคานยิ้ม ''เดี๋ยวค่อยไปตามดูย้อนหลังเอาก็ได้'' ทั้งคู่ออกเดินต่อ ''มึงจำตอนเราประลองได้มั้ย'' ''จำได้ดิ'' ''คู่กูแม่งโคตรกระจอก โดนกูอัดไม่กี่ทีก็ร่วงลงไปนอนละ'' ''ก็มึงเล่นระเบิดซะคลั่งขนาดนั้น เป็นใครก็ลงไปนอนทั้งนั้นนั่นแหละ'' ''เออ แล้วของมึงล่ะ ทำไมกูจำอะไรไม่ค่อยได้เลยวะ รู้อีกทีก็ประกาศว่ามึงชนะละ'' ''มึงความจำสั้นเองหรือเปล่า ยิ่งไม่ค่อยฉลาดด้วย'' ''เอ้า ไอเหี้ยนี่'' ราคานหัวเราะ หลบหมัดของโฬม เดซี่ที่แอบดูอยู่โผล่ออกมาจากมุมเสา ''น่าจะไม่เป็นไรแล้วล่ะ'' เดซี่หันไปคุยกับอีกเงาตรงมุมเสา คนคนนั้นเดินตามออกมา
เดซี่
หิน ''นึกว่าจะโดนจับได้ซะแล้ว'' หินถอนหายใจอย่างโล่งอก ''แล้วทำไมไม่ไปหาเลิฟดีๆล่ะ ทำไมต้องหลบพี่ๆเค้าด้วย'' ''เคยโดนพี่โฬมเขม่นเพราะเข้าใกล้เลิฟเกินไปน่ะ กลัวพี่แกจะลากเราไปกระทืบก่อนจะได้เจอเลิฟ'' หินพูดติดตลก หินเป็นเบต้าที่เรียนอยู่ห้องเดียวกับเลิฟ ปัจจุบันหินอยู่คลาสB ในขณะที่เลิฟและเดซี่เลื่อนไปคลาสAแล้ว หินเป็นคนเฟรนด์ลี่ เข้ากับคนง่าย เป็นคนที่อยู่ใกล้แล้วรู้สึกสงบสบายใจ หินไม่ใช่คนดังอะไรมากมายแต่ก็พอเป็นที่รู้จักอยูบ้างเพราะหินนั้นเผ็นนักกีฬาโรงเรียนที่มีฝีมือโดดเด่น โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอล หินมาจองที่นั่งในลานประลองตั้งแต่งานยังไม่เริ่มเพราะอยากได้ที่นั่งที่ดีที่สุด จะได้เห็นเลิฟต่อสู้ชัดๆ หินประทับใจเลิฟตั้งแต่แรกเจอ เลิฟนั้นหน้าตาน่ารักมาก สวยที่สุดในห้องเลยก็ว่าได้ แถมยังเรียนเก่ง ใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น จนได้ฉายาว่านางฟ้าประจำห้อง พลังก็ยังเป็นการรักษาอีก เข้ากับฉายานางฟ้าซะจริงๆ ทั้งคู่เดินมาที่ห้องพยาบาล ''ในนี้มันอึมครึมจัง'' เดซี่บ่น ในห้องพยาบาลนั้นแสงค่อนข้างสลัว บรรยากาศอึดอัดปิดมิดชิด ''เดี๋ยวก็เฉาตายกันพอดี'' เดซี่เปิดหน้าต่าง ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีชมพู เกิดดอกไม้สีสวยสดขึ้นตามมุมต่างๆในห้อง ส่งกลิ่นหอมสดชื่นฟุ้งกระจายไปทั่ว เดซี่สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ''ค่อยดีขึ้นหน่อย'' หินยิ้ม เดินไปที่เตียงที่เลิฟนอนอยู่ เดซี่เดินตามมานั่งอีกข้าง ตอนนี้แผลตามตัวและใบหน้าของเลิฟหายไปจนหมดแล้ว เลิฟค่อยๆลืมตาขึ้น หินตาโตตื่นเต้น ''เดซี่ เลิฟฟื้นแล้ว'' เลิฟยันตัวขึ้นมานั่ง หินรีบเข้าไปช่วยประคองไหล่ ''ไหวมั้ย'' ''ไหวสิ ทำไมมาอยู่ที่นี่กันล่ะ แล้วการแข่งล่ะ'' ''แข่งยังไม่จบหรอก แต่เลิฟชนะแล้วนะ'' เดซี่โผเข้ากอดเลิฟที่ยังมึนงงอยู่หน่อยๆ คิดถึงการประลองที่ผ่านมา นั่นสิ รูปที่เห็นประกาศขึ้นกลางอากาศคือรูปของเลิฟนี่นา พอรู้ตัวแล้วเลิฟก็ตาเบิกโพลงเพราะความตกใจ ''เราชนะเหรอ!?'' ''ใช่ เป็น4จตุรเทพแล้วนะ'' เลิฟแทบไม่อยากเชื่อ ดีใจจนพูดอะไรไม่ออก เลิฟทำได้จริงๆแล้วงั้นเหรอ ที่พยายามมาทั้งหมดในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จ ''เราคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเลิฟที่ได้เป็นสี่จตุรเทพ'' หินลูบหัวของเลิฟเบาๆ ''แล้วพวกพี่ๆล่ะ'' ''เห็นบอกว่ามีงานต่อกัน แต่จะกลับมาตอนแข่งจบน่ะ'' ''งั้นเหรอ'' เลิฟดูเศร้าลงไปนิดหน่อย เพราะอยากดีใจร่วมกับทุกคน ''ทุกคนอยู่ดูเลิฟจนจบการประลองเลยนะ แต่เพราะเลิฟสลบไปเลยมาอยู่ที่นี่น่ะ'' ''เราออกไปดูการแข่งกันต่อเถอะ'' ''ไม่ได้หรอก ครูบอกให้เลิฟนอนพักก่อน'' ''แต่เราไม่เป็นอะไรแล้ว เราอยากดูการประลองอะ'' ''เดี๋ยวเค้าก็มีเทปย้อนหลังให้ดูแหละน่า'' ''เราอยากดูสดนี่นา'' ''หินช่วยห้ามหน่อยสิ'' เดซี่ขอความช่วยเหลือ เลิฟหันไปหาหิน ''หิน'' น้ำเสียงออดอ้อน และสายตาอ้อนวอนจากดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกายนั้นทำเอาหินใจเต้นแรงไปหมด จากที่จะช่วยห้ามก็นึกคำพูดไม่ออก ''ขอบคุณนะหิน'' ''ไม่เป็นไร'' หินตอบเลิฟที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง รู้ตัวอีกทีหินก็อุ้มเลิฟเดินไปที่สนามประลองแล้ว เดซี่ถอนหายใจกับความดื้อของเพื่อน แต่ก็เข้าใจเพราะเลิฟนั้นรองานนนี้มาโดยตลอด โอกาสที่จะได้ดูการประลองที่เข้มข้นแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆสักหน่อย ทั้งสามกลับเข้ามาในสนามประลอง พอดีกับเสียงประกาศผลการแข่งขันคู่ที่สองพอดี ลานประลองตอนนี้พังยับแตกเป็นเสี่ยง ควันลอยไปทั่ว อัลฟ่าที่ชื่อนิลนอนกองแยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ ''ผู้ชนะ และจตุรเทพคนที่สองได้แก่ เยน เกรด11'' อัลฟ่าร่างสูงเพรียว ท่าทางดูงดงามปราดเปรียวเดินลงมาจากซากสนามประลองพร้อมกับปัดฝุ่นที่เสื้อโค้ทออก เยนเป็นอัลฟ่าที่ถูกขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะ เพราะทั้งหัวดีและเก่งไปซะทุกเรื่อง พ่วงด้วยตำแหน่งประธานนักเรียนคนปัจจุบันที่เข้มงวดและเคร่งครัดเรื่องกฏระเบียบ เยนปรายตามามองเลิฟบนสนามประลอง เลิฟสะดุ้งเพราะตกใจนิดหนึ่งก่อนจะก้มหัวให้เป็นเชิงทักทาย เยนยิ้มมุมปากแล้วเดินจากไป เลิฟสังเกตเห็นว่ามือของเยนนั้นยับเยินมาก อยากรู้จริงๆว่าเยนใช้พลังอะไรยังไง ''สุดยอด พี่นิลทำอะไรไม่ได้เลย'' ''ขนาดเสื้อเค้ายังไม่เลอะเลย'' คนดูพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น เหลือที่นั่งว่างเพียงสองที่เท่านั้น ''ยังไงดี'' ''เรายืนก็ได้นะ นั่งกันเถอะ'' หินเสนอ เลิฟดันให้หินนั่งลง ''หินนั่งเถอะ เราตัวเตี้ย นั่งคงมองไม่เห็น'' เดซี่นั่งลงข้างหิน ''ถ้าอย่างนั้น...'' หินดึงเสื้อของเลิฟให้ลงมานั่งบนตักของตัวเอง เลิฟเขินนิดหน่อยเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว ''แบบนี้ก็ได้'' ''ไม่หนักเหรอ'' ''ไม่หนักเลย'' หินยิ้มกว้าง เลิฟยิ้มตอบ ''การแข่งขันคู่ที่3 ลูปิน เกรด11 พบกับ ธันเดอร์ เกรด11'' เลิฟตั้งตาดูการประลองที่เหลืออย่างตั้งใจ
เยน
ลูปิน
ธันเดอร์ อัลฟ่าทั้งสองคนก้าวขึ้นมาบนสนามประลองจากคนละฝั่ง ทันทีที่ธันเดอร์ปรากฏตัวก็ได้รับเสียงกรี๊ดเชียร์มากมาย ธันเดอร์เป็นอัลฟ่าหุ่นล่ำหน้าตาหล่อเหลา บ้านรวย เซ็กส์จัดดุดันแบบที่อัลฟ่าทั่วไปเป็น ส่วนคนที่ชื่อลูปินนั้นสวมเสื้อคลุมทั้งตัวสีขาว ร่างกายดูสูงใหญ่ไม่แพ้กัน รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากลูปินนั้นมีมากกว่าธันเดอร์มาก ทั้งสองยืนประจันหน้ากัน ธันเดอร์มองคู่ต่อสู้แล้วหัวเราะเยาะ ''แย่หน่อยนะที่ต้องมาเจอกู ระวังเสื้อเปื้อนล่ะ'' ลูปินที่ยืนนิ่งในตอนนี้ตัวสั่นเทิ้มเพราะหัวเราะ ธันเดอร์ขมวดคิ้ว ''หัวเราอะไรของมึง'' ลูปินไม่ได้ตอบ เสียงสัญญาณดังขึ้น ธันเดอร์จู่โจมอย่างสายฟ้าแลบสมชื่อ เตะเข้าเต็มสีข้างของลูปินจนกระเด็น พุ่งเข้าไปต่อยเข้าที่ใบหน้าของลูปินต่อทันที เสียงผู้ชมเชียร์กันอย่างเมามันส์ ธันเดอร์จับขาลูปิน เหวี่ยงร่างกระแทกกับพื้นเต็มแรง พื้นแตกออกเป็นเสี่ยง ธันเดอร์เป่าหมัดที่ร้อนของตัวเอง ''ยังไม่ได้ใช้พลังเลยนะเนี่ย'' ''จริงดิ สุดยอดเลยอะ'' เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหู ธันเดอร์รีแอคอย่างรวดเร็วหันไปต่อยแต่ก็ไม่โดน หนุ่มร่างเล็กกระโดดหลบได้ทัน ธันเดอร์มองคนตรงหน้า ผู้ชายหน้าสวยร่างบาง สวมชุดหนังและแว่นตา สีหน้าและน้ำเสียงยียวนกวนประสาท ธันเดอร์หันไปมองร่างที่นอนอยู่กับพื้นที่เพิ่งจัดการไป มันเป็นแค่หุ่นไม้ที่คลุมด้วยผ้าขาวเท่านั้น ''เล่นของเล่นไม่ระวังแบบนี้ระวังโดนพ่อแม่ดุเอาน้า'' ลูปินเป็นนักเรียนของที่นี่แต่กลับไม่มีใครเคยเจอ ไม่มีคนรู้ว่าลูปินมีพลังอะไรแบบไหน ธีนเดอร์รู้สึกเสียหน้าที่โดนหลอกให้อัดตุ๊กตาซะน่วมขนาดนั้น พุ่งเข้าใส่ลูปินอีกรอบทันที ลูปินยิ้ม ดีดตัวหลบลูกเตะของธันเดอร์ได้อย่างหวุดหวิด ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแวววาว เอาหมวกหน้าตาตลกสวมหัวของธันเดอร์ ผู้ชมที่ดูอยู่มีหลุดขำออกมาบ้าง ธันเดอร์ฉีกหมวกนั้นทิ้ง ''เล่นเหี้ยอะไรของมึง'' ''ก็เล่นกับนายไง'' ถึงจะเห็นท่าทางดูไม่เก่งแต่ลูปินนั้นมีความเร็วสูงมาก หลบการโจมตีสายฟ้าแลบของธันเดอร์ได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน แต่ตอนนี้ธันเดอร์รู้สึกหงุดหงิดสุดๆ ''สู้จริงๆจังๆสักที เสียเวลาชิบหาย'' ''ก็สู้อยู่นี่ไง'' ลูปินนั่งลง เอารถของเล่นออกมาไถเล่นไปกับพื้น ยิ่งยัวะโทสะของธันเดอร์ ธันเดอร์วิ่งเข้าใส่ลูปิน ลูปินยิ้ม รถของเล่นคันเล็กขยายใหญ่ขึ้นพุ่งเข้าชนธันเดอร์ที่วิ่งสวนมาอย่างจัง ธันเดอร์ยันตัวเองไว้กับพื้นได้ ลูปินโผล่มาข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ดึงเยลลี่ยาวออกมาจากปากก่อนจะใช้มันรัดคอของธันเดอร์แล้วดึงไปข้างหลัง มันเหนี่ยวและแข็งแรงมาก ทำไมลูปินถึงได้แรงเยอะสวนกับขนาดตัวขนาดนี้ ธันเดอร์กำลังจะขาดอากาศหายใจ ดวงตาของธันเดอร์เปล่งแสงสีเหลืองสว่าง กระแสไฟฟ้าแรงสูงแล่นผ่านไปทั่วร่างจนทำให้ลูปินนั้นโดนช๊อตกระเด็นไปอีกฝั่งของสนาม เสื้อผ้าถูกเผาไหม้จนเกรียม แฟนคลับธันเดอร์ส่งเสียงเชียร์ลั่นสนาม ประกายไฟฟ้าสถิตในดวงตาของธันเดอร์กำลังปะทุ ''ต้องให้กูเอาจริงๆสินะ ตอนแรกว่าจะออมมือให้สักหน่อย แต่กวนตีนแบบนี้กูจะอัดให้เละเลย'' ลูปินไม่ได้ดูกลัวเลยแม้แต่หน่อย กลับหยิบลูกบอลจากในเสื้อมาปาใส่ธันเดอร์ ''ชั้นเลือกนาย ปิ๊กาจู'' ธันเดอร์ร่างกายขยายใหญ่ขึ้น เสียงไฟฟ้าดังไปทั่วสนาม ''ยังจะเล่นอยู่อีก!'' ธันเดอร์ปล่อยกระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าใส่ลูปินแต่ลูปินก็หลบได้อีกครั้ง มีผ้าคลุมหล่นลงมาบนหัวของธันเดอร์ ธันเดอร์เขวี้ยงผ้านั้นออกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับหุ่นรูปร่างเหมือนลูปินอยู่เต็มสนาม ''แน่จริงก็หาให้เจอสิ'' เสียงกวนประสาทของลูปินดังมาจากที่ไหนสักแห่ง ธันเดอร์รู้สึกอับหาย โมโห ทำไมการแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย กะจะสร้างตำนานความโหดและเท่สักหน่อย ธันเดอร์ยิ้มมุมปาก ''กูจะปิดฉากเดี๋ยวนี้แหละ!'' ธันเดอร์ตะโกน เกร็งไปทั้งร่างกาย กระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนคนในสนามประลองรู้สึกแปล๊บๆตามเนื้อตัว ''ไม่เห็นต้องหาเลย แค่ทำลายแม่งให้หมดก็จบแล้ว!'' ธันเดอร์หัวเราะ กระแสไฟฟ้าแรงสูงในร่างกายระเบิดออกเป็นวงกว้าง เลิฟรุสึกได้ว่าผมตัวเองตั้งขึ้นเพราะกระแสไฟฟ้า พลังของธันเดอร์นั้นมหาศาลจนเลิฟทึ่ง หุ่นลูปินกว่าร้อยตัวถูกไฟฟ้าแผดเผา่จนไหม้ระเบิด โดนเข้าไปมีสิทธิ์ถึงตายได้เลยนะ แต่เลิฟเอะใจตรงที่ในหมู่หุ่นนั้น ไม่มีสัมผัสของลูปินเลย ผู้คนส่งเสียงฮือฮาตกใจเมื่อหุ่นที่ระเบิดนั้นมันคือหุ่นยางที่มีน้ำอัดอยู่ข้างใน น้ำมากมาสาดเข้าใส่ธันเดอร์ ''เหี้ย!'' ธันเดอร์ช๊อคสั่นไปทั้งตัวเพราะถูกกระแสไฟฟ้าของตัวเองจนตัวไหม้ลงไปนอนกองกับพื้น ผู้คนตกใจกันใหญ่ ''ทำไมโดีอตได้ล่ะ! พี่เค้าใช้ไฟฟ้าไม่ใช่เหรอ'' เดซี่งงมาก ''พี่เค้าใช้ไฟฟ้าก็จริง แต่มันมีขีดจำกัดอยู่ น้้ำยิ่งเพิ่มกระแสไฟฟ้าให้แรงขึ้นอีก อีกอย่าง คนที่ใช้พลังธาตุแบบนี้ต้แงมีสมาธิมากเวลาใช้ พี่เค้าโดนปั่นหัวขนาดนั้นเป็นแบบนี้ก็ไม่แปลกหรอก'' หินพูดอย่างปลงๆ เพราะจริงๆแล้วธันเดอร์ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย ไฟฟ้าที่ใช้ก็ไม่ใช่พลังธรรมชาติแต่กำเนิด เป็นพลังดัดแปลงที่ทำมาใช้ให้ดูเท่เท่านั้น ''แล้วลูปินล่ะ'' มีหุ่นตัวหนึ่งที่ยังคงสภาพดีอยู่ มันค่อยๆเปิดออก ลูปินก้าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้า ''หุ่นไม้'' หินพูดขึ้น เลิฟเพ่งมอง จริงด้วย หุ่นตัวที่ลูปินอยู่ข้างในมันเป็นไม้ ซึ่งไม่นำกระแสไฟฟ้า ''ผู้ชนะ และจตุรเทพคนที่3 ได้แก่ ลูปิน!'' ผู้คนส่งเสียงเชียร์ ลูปินยิ้มแลบลิ้นก่อนจะเดินลงไปจากสนามประลอง เท่าที่เลิฟดูลูปินนั้นไม่มีทักษะการต่อสู้เลย ส่วนพลังก็ไม่รู้ว่าเป็นสายไหน แต่มีอุปกรณ์ช่วยเยอะมากๆ แถมเจ้้าเล่ห์ไม่เบาเลยด้วย ''คู่ต่อไป คู่ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์'' เสียงประกาษดังขึ้นต่อทันที ''นี่ๆ ถึงตาราฟแล้ว'' เดซี่พูดอย่างตื่นเต้น เลิฟเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ไม่ได้เห็นราฟสู้มานานแล้ว ครั้งล่าสุดที่สู้กันนั้นราฟแข็งแกร่งมาก เลิฟอยากจะเห็นอีกสักครั้ง ''ราฟ เกรด10 และ คิงเกรด10''
ราฟ
คิง ราฟเดินขึ้นมาบนสนามด้วยท่าทางสบายๆ ทั้งสองโบกมือให้ราฟ ราฟที่เหลือบมาเห็นพอดีส่งยิ้มให้พร้อมกับโบกมือจอบเลิฟและเดซี่ ราฟเป็นคนที่สันโดษ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร หรือพูดให้ถูกคือไม่มีคนกล้าเข้าไปสุงสิงด้วยมากกว่า รังสีที่แผ่ออกมาจากตัวราฟนั้นเย็นยะเยือก ถ้าไม่ได้คุยกันทุกวันเลิฟคงนึกว่าราฟนั้นเป็นศพ กลิ่นที่ออกมาจากตัวเหมือนกลิ่นเลือดแห้งคาวนิดๆ ราฟมักไปไหนมาไหนคนเดียวอยู่บ่อยๆ ใช้เวลาในโรงเรียนส่วนใหญ่ไปกับการนอนในห้องสมุด ถึงอย่างนั้นเลิฟก็มองราฟเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเลิฟที่คอยช่วยเลิฟในหลายๆเรื่อง คิงกระโดดขึ้นมาบนสนามพร้อมกับแอ๊คท่าโชว์เท่ เพื่อนๆในห้องส่งเสียงเชียร์กันใหญ่ คิงเป็นอัลฟ่าห้องเดียวกับเลิฟ เป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใส คอยสร้างบรรยากาศตลกให้เพื่อนๆเสมอ หลายคนต่างแปลกใจที่คิงได้รับการเสนอชื่อ เพราะคิงนั้นไม่มีอะไรโดดเด่นเลย แต่ก็เชียร์เพื่อนเต็มที่ เลิฟแอบเป็นห่วงคิงมาก เพราะระดับของราฟกับคิง ให้พูดก็พูดเถอะ ต่างกันราวฟ้ากับเหว หวังว่าคิงจะไม่เป็นอะไรมาก ทั้งสองยืนมองหน้ากัน ราฟเอียงคอแล้วยิ้ม ''ห้องเดียวกับเลิฟนี่'' ''ใช่ เราเห็นนายไปไหนมาไหนกับเลิฟบ่อยๆนะ'' ''ก็สนิทกันนี่นา'' ''ถึงจะรู้จักเลิฟเหมือนกันแต่ก็ไม่ออมมือให้หรอกนะ'' ราฟหัวเราะในลำคอ ''เต็มที่ได้เลย'' เสียงสัญญาณดังขึ้น คิงย่อตัวลงแล้วพุ่งเข้าใส่ราฟทันที ง้างหมัดต่อยเข้าที่หน้าแต่ราฟยกแขนกันไว้ได้ทัน ใช้เท้ายันคิงจนกระเด็น คิงดีดตัวขึ้นไปข้างบน พุ่งถีบใส่ราฟ ราฟหลบได้ทัน คว้าขาของคิงไว้แล้วหวี่ยงไปอีกทางจนเกือบตกสนามแต่คิงใช้มือยันพื้นดีดตัวกลับขึ้นมาได้ทัน ทักษะการต่อสู้ของคิงนั้นคล่องแคล่วและหนักหน่วง แต่ก็ไม่เท่ากับราฟที่แทบไม่ได้ขยับอยู่ดี ราฟดูเคลื่อนไหวน้อยมากแต่กลับหลบการโจมตีของคิงได้ทุกครั้งอย่างง่ายดาย ท่าทางสบายๆของราฟทำให้ผู้ชมไม่เห็นทักษะการต่อสู้ของราฟ แต่เพราะแบบนั้นแหละ ราฟถึงได้น่ากลัว เพื่อนในห้องส่งเสียงเชียร์คิงอย่างไม่ขาดสาย ยิ่งเห็นว่าราฟไม่ตอบโต้ยิ่งได้ใจ ''เก่งไม่เบาเลยนี่นา'' คิงชม ราฟขำ ''เพราะงี้ไงถึงไม่ควรแข่งกันที่ผลโหวต'' ราหแสยะยิ้ม บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนไปทันทีจนทุกคนขนลุก ความเย็นยะเยือกที่น่าขนลุกเข้าปกคลุมทุกบริเวณ คิงที่ผิดสังเกตหันมามองราฟ สายตาของราฟที่มองมานั้นช่างน่าผวา ดวงตาของราฟเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ คณะครูที่ดูอยู่จากด้านบนเองก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน ''เฝ้าระวังนักเรียนคนนั้นด้วย'' ''รับทราบครับ'' คิงตั้งการ์ดเตรียมพร้อมรับมือราฟ ''พลังนายแม่งโคตรสุดยอดเลย'' คิงชม ยังคงคิดในแง่ดีอยู่ว่าราฟกำลังจะเอาจริง ราฟยิบแท่งเหล็กแหลมตะปุ่มตะป่ำออกมาจากกระเป๋า กดนิ้วเข้ากับปลายแหลมปลายหนึ่ง เลือดของราฟไหลอาบด้ามจับนั้น ค่อยๆหลอมรวมขึ้นเป็นใบมีดสีแดงสด ผอในร่างโฮโลแกรมนั่งมองด้วยสายตาสงสัย ''พลังเลือดงั้นเหรอ'' ราฟพุ่งเข้าใส่คิงทันที ฟาดดาบใส่เฉือนผมของคิงที่ก้มหลบ คิงเตะตัดขาของราฟก่อนจะออกวิ่ง ราฟตามมาได้อย่างรวดเร็วและแทงเข้าที่แขนของคิง คิงม้วนตัวเตะราฟออกไป นี่มันไม่ใช่การต่อสู้แล้ว รังสีที่คิงจับได้เมื่อกี๊นี้ ราฟจะฆ่าคิงจริงๆ ดาบเลือดของราฟกลายสภาพเป็นแส้สีแดง ราฟเหวี่ยงมันรัดขาของคิงจนล้ม พุ่งเข้ามาเอาเท้าเหยียบหน้าของคิงไว้กับพื้น ใช้แส้ฟาดคิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเป็นแผลตามตัวเลือดไหลออกมา คนต่างส่งเสียงตกใจกลัว ราฟกัดนิ้วของตัวเองอีกข้าง เลือดของราฟไหลพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ก่อตัวเป็นลิ่มเลือดยาวแหลม ก่อนจะพุ่งลงมาแทงร่างกายของคิงจนพรุนเป็นรู เลือดทั้งของคิงของราฟสาดกระจายไปทั่วบริเวณ เป็นภาพที่น่าสยดสยองมาก ราฟหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ภาพของเลิฟซ้อนทับภาพของคิงซึ่งตอนนี้หายใจโรยรินเต็มที จนเมื่อได้สติราฟจึงหยุด ทั้งสนามประลองเงียบสนิท ทั้งหมดต่างอึ้งกับเหตุการณืที่เพิ่งเกิดขึ้นไปเมื่อครู่ ราฟยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ''คิงหมดสภาพต่อสู้ ผู้ชนะ ราฟ จตุรเทพคนสุดท้าย'' เสียงประกาศดังขึ้นแต่กลับไม่มีเสียงแสดงความยินดีเลย จนเลิฟต้องยืนปรบมือให้ก่อนคนอื่นถึงปรบตาม แม้มันจะโหดและรุนแรง แต่คิงก็ยังไม่ตาย ส่วนที่ราฟทำไปคงเป็นวิธีต่อสู้ของราฟล่ะมั้ง แต่ไม่รู้ทำไม ตลอดเวลาที่ดูการแข่งขันเลิฟรู้สึกเจ็บที่แผลเป็นหลังคออยู่ตลอดเวลา เลือดที่กระจายอยู่บนพื้นค่อยๆไหลรวมตัวกันกลับเข้าปลายนิ้วของราฟ รวมไปถึงเลือดของคิงด้วย ''แค่ทำแผลก็น่าจะหายแล้วล่ะ โทษที พอดีอารมณ์มันขึ้นน่ะ'' ราฟยิ้มให้คิงก่อนจะลงจากเวทีไป ''เลิฟ ต้องรีบไปเตรียมตัวขึ้นเวทีนี่'' หินเตือน ''จริงด้วย'' เลิฟเลื่อนตัวลงจากตักหิน ''ยินดีด้วยอีกครั้งนะเลิฟ'' หินจับแขนของเลิฟไว้ เลิฟยิ้ม ''ขอบคุณนะ'' เดซี่มองทั้งคู่แล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม ''งั้นเราไปก่อนนะเดซี่'' ''รีบไปเถอะ อ้อ'' เดซี่ใช้นิ้วแตะที่กระเป๋าเสื้อนักเรียนของเลิฟ ดอกกุหลาบสีเขียวงอกขึ้นมาเหมือนเครื่องประดับ เลิฟกอดเดซี่ โบกมือให้แล้วเดินจากไป เดซี่หันมามองหินที่มองเลิฟไม่วางตา หินที่หันมาก็ตกใจ ''อะไร'' ''มองอะไรขนาดนั้นล่ะ'' ''แค่มอง ทำไมล่ะ'' เดซี่ขำ หินเขินที่ถูกแซว ใช่ แค่มอง รัม
หมอก
พสุ
อาร์ท เลิฟเดินออกมาตามทางเดินเพื่อไปด้านหลังสนามประลอง แต่ก็ต้องล้มลงกับพื้นเพราะแรงพุ่งใส่ พอลืมตาขึ้นก็เจอว่าเป็นรัมที่นตอนทับตัวอยู่ ''เก่งมากเลย สมแล้วที่เป็นลูกศิษย์'' รัมยีหัวของเลิฟพร้อมกับหอมแก้มเลิฟรัวๆ เลิฟพยายามเอามือดันรัมออกพร้อมกับหัวเราะไปด้วย ''พอได้แล้วน่า'' หมอกพูดอย่างปลงๆ หิ้วรัมขึ้นด้วยมือเดียว ''ยินดีด้วยนะ'' ''ขอบคุณครับพี่หมอก พี่รัมด้วย'' พสุเดินเข้ามาสวมกอดเลิฟ เลิฟยิ้มแล้วกอดตอบ ''ขอบคุณนะครับพี่พสุ'' ทั้งคู่มีภูมิหลังที่คล้ายกัน ต้องดิ้นรนสู้ชีวิตกันมาตั้งแตเด็ก อาศัยอยู่อพาร์ทเม้นท์รูหนูที่เดียวกัน พสุที่เห็นเลิฟมาได้ไกลขนาดนี้รู้สึกปลื้มปริ่มมาก อาร์ทเอามือลูบหลังพสุ ''ยินดีด้วยนะน้องเลิฟ อะ นี่'' อาร์ทยื่นช่อดอกไม้สีขาวให้ ''ขอบคุณทุกคนมากนะครับที่มา'' ''ต้องมาอยู่แล้วสิ'' พสุตอบ ''เลิฟ'' ราคานเดินเข้ามา ''พี่ราคาน'' ราคานยิ้มอย่างอบอุ่นเหมือนอย่างเคย เดินเข้ามาหาเลิฟ วางมือไว้บนหัวเลิฟแล้วลูบอย่างเอ็นดู ''เก่งมากเลยนะ ทำได้แล้ว'' เลิฟยิ้ม ''ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ'' สายตาของเลิฟที่มองมาทำเอาราคานใจเต้นไปแวบหนึ่ง ภาพทับซ้อนของใครบางคนแวบเข้ามาในสมอง ''รีบไปเถอะ เดี๋ยวพวกพี่ไปนั่งดู'' ''ครับ'' เลิฟวิ่งไปรวมตัวกับจตุรเทพคนอื่นๆ ที่ด้านหลัง ''ว่าไงตัวเล็ก ตื่นแล้วเหรอ'' เสียงยียวนดังมาจากเพดาน เลิฟเงยหน้าไปก็เจอกับลูปินที่นอนอยู่บนเปลญวณที่ไม่รู้ขึ้นไปติดอยู่บนนั้นได้ยังไง ลูปินกระโดดงลงมา จับตัวเลิฟหันซ้ายขวา ยื่นหน้ามาดมกลิ่นของเลิฟ ''มีแต่กลิ่นอัลฟ่าเต็มไปหมดเลยแฮะ'' ''หลบไป'' ราฟผลักลูปินออก ''ราฟ'' ราฟยิ้มให้ เลิฟโผเข้ากอดราฟ ราฟทำหน้าไม่ถูกแต่ก็เอามือลูบหลังเลิฟ ''ดีใจมากเลยที่เราได้เป็นจตุรเทพด้วยกัน'' ''นั่นสิเนอะ'' ราฟตอบ มองแผลเป็นรูปไม้กางเขนที่หลังคอของเลิฟ ''สนิทกันแบบนี้ก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องทำความรู้จักกันมากมาย'' เสียงหนึ่งดังขึ้น เยน ประธานนักเรียนที่สง่างามเดินเข้ามาหาทั้งคู่พร้อมกับยื่นมือมาให้จับ เลิฟยื่นมือไปจับตอบ ''พี่ชื่อเยนนะ'' ''ผมเลิฟครับ'' ''รู้อยู่แล้วแหละ'' ''รู้ด้วยเหรอครับ'' ''ไม่เอาน่า เลิฟไม่รู้ตัวหรอกว่าตัวเองน่ะดังแค่ไหน'' เยนยิ้ม ท่าทางของเยนนั้นดูเป็นมิตร แต่เหมือนมีกำแพงอะไรบางอย่างอยู่ ราฟยื่นมือจะไปจับเยนเพ่งมองมือของราฟก่อนจะชักมือออกก่อนที่ราฟจะจับ ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วยิ้มให้กัน ทั้งหมดเดินขึ้นมาบนเวทีที่คณะครูยืนเรียงรอกันอยู่ก่อนแล้ว ร่างโฮโลแกรมของผอปรากฏขึ้นกลางอากาศ ''และนี่คือโฉมหน้าของ4จตุรเทพแห่งเซ้นต์รอยัล'' เสียงปรบมือดังสนั่นไปทั่ว เลิฟมองไปบนที่นั่งก็เจอกับพวกพี่ๆนั่งอยู่ ราคานยกนิ้วโป้งให้ เลิฟยิ้มกว้าง เชิดอกขึ้น ''เยน'' เยนก้าวออกมาข้างหน้า ''ลูปิน'' ตามด้วยลูปิน ''และ เลิฟ'' เสียงปรบมือของเลิฟนั้นดังกว่าใครๆ รวมถึงเสียงเชียร์จากเพื่อนในห้องด้วย เดซี่โปรยดอกไม้สีสวยไปทั่ว เลิฟรู้สึกดีใจมาก เหมือนฉุดตัวเองจากจุดตกต่ำที่สุดของชีวิตขึ้นมายืนอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่เลิฟไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมายังตรงนี้ได้ เลิฟรู้สึกของคุณสมาชิกทุกคนในฝูงมาก ถ้าทุกคนไม่รับเลิฟเข้ามา เลิฟก็คงจะใช้ชีวิตอยู่แบบเดิม พูดถึงสมาชิกในฝูง เลิฟพยายามมองหาคนคนหนึ่งแต่ยังไงก็หาไม่เจอ ทำไมถึงไม่มากันนะ ''หวังว่าทุกคนจะปฏิบัติตนอยู่ในกฏระเบียบ เป็นแบบอย่างให้กับครอบครัวเซ้นต์รอยัลของเรา'' ภาพของผอสลายไปหลังจากพูดจบ ผู้คนเริ่มทยอยออกไป ''ฝากตัวด้วยนะ'' เยนบอก ''ครับพี่เยน ฝากตัวด้วยครับ'' เลิฟก้มหัวให้ เยนเดินออกไปพร้อมกับลูปิน ส่วนราฟไม่รู้หายไปไหนแล้ว เลิฟเดินมารวมกับพวกพี่ๆที่ด้านนอก ''มาแล้ว จตุรเทพของเรา'' ''อย่าเรียกแบบนั้นเลยครับ มันเขินนะ'' อาร์ทตบบ่าของเลิฟเบาๆ ''ไว้คืนนี้เรากินเลี้ยงกันแล้วกันนะ'' ราคานเสนอ ''ได้ เดี๋ยวผมช่วยสุดฝีมือเลย'' พสุเสริม ทั้งหมดเดินไปขึ้นรถจะกลับ ''มึง'' เลิฟได้ยินเสียงคุ้นหูของใครบางคน หันไปก็เจอกับโฬม ''พี่โฬม'' โฬมจุ๊ปาก ''เลิฟ'' ราคานที่เห็นว่าเลิฟหยุดเดิมส่งเสียงเรียก ''เดี๋ยวผมตามกลับไปนะครับ ขอไปหาเพื่อนก่อน'' ''ให้พี่รอมั้ย'' ''ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเดินกลับกับเพื่อน'' ราคานมองตาของเลิฟ ถอนหายใจแล้วยิ้มออกมา ''มาเร็วๆล่ะ'' ''ครับ'' เลิฟยิ้มกว้างเดินหายเข้าไปในฝูงคน มีมือหนึ่งดึงเลิฟให้เดินตามไป โฬมนั่นเอง โฬมเดินพาเลิฟมาจนถึงลานหลังโรงเรียนที่ไม่ค่อยมีคน ''พี่โฬมไม่ได้มาดูผมเหรอครับ'' ''อยู่ในงานนั่นแหละ แค่นั่งคนละที่'' เลิฟถอนหายใจ ''โล่งไปที'' ''โล่งอะไร'' ''ก็ผมนึกว่าพี่โฬมจะไม่มาซะแล้วสิครับ ผมมองหาพี่ทั่วเลยนะ'' คำพูดและสายตาของเลิฟทำเอาโฬมเสียอาการเล็กน้อย ''เออ'' ''แล้วพี่พาผมมาทำอะไรเหรอครับ'' ''ก็'' โฬมดูมีท่าทีอึกอัก ก่อนจะเดินไปที่รถซึ่งจอดอยู่ใกล้ๆ เดินกลับมาพร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่ ยื่นให้เลิฟบังหน้าของตัวเองที่แก้มแดงไว้ ''เอาไปสิ'' เลิฟยิ้มแล้วรับมา มันใหญ่กว่าตัวเลิฟซะอีกมั้ง ''กูไม่รู้ว่าเค้าให้อะไรเวลาจะแสดงควายินดี เลยซื้อดอกไม้มาง่ายๆ'' ''ขอบคุณนะครับพี่โฬม'' เสียงเลิฟเวลาเรียกโฬมว่าพี่โฬมนี่มันทำให้โฬมใจเต้นแรงทุกที โฬมลูบหัวของเลิฟ ''เก่งมาก'' เลิฟรู้สึกเขินนิดหน่อย ''ไป รีบไปได้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นรอ'' ''ครับ'' โฬมเอาดอกไม้ไปถือให้แล้วเดินนำไป แต่ก็หยุดชะงักแล้วยื่นมือมาข้างหลัง เลิฟมองมือนั้นแล้วยิ้มออกมา ยื่นมือไปจับแล้วเดินไปที่รถของโฬม ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ. {:5_119:}มาแล้วๆ ขอบคุณครับ{:5_119:} ยินดีกับเลิฟครับ เก่งจริงๆ ขอบคุณครับ โรมนี่ก็น่ารักนะเนี่ย ขอบคุณครับ ทีมโฬมเลิฟก็คือตายตาหลับ ;P น้องเก่งมากกกเนื้อเรื่องจะเข้าบทของชาติที่แล้วของน้องแล้วแน่ๆ ฟูงนี้น่ากลัวมาก มี 4 จตุเทพรวมตัวกัน ถ้าได้คนนั้นมารวมฟูงอีกคนจะคล้ายเป็นฝูงน่ากลัวมาก หายไปนานเลย ยังสนุกเหมือนเดิมครับ พลังของราคานน่ากลัวอยู่นะ ลบความทรงจำได้ด้วยอะ ไม่ใช่ว่าจะกลายมาเป็นลาสบอสตอนหลังนะ เค้ามุ้งมิ้งกันอยู่ นะตัลร้าคคคค สนุกมากครับ คุ้มค่ากับการรอคอย เลิฟเก่งมากกก ทีม #โฬมเลิฟ อีกเสียงง ขอบคุณครับ {:7_310:} รอมานาน สนุกมากครับ รอติดตามต่อนะครับผม {:7_318:} {:7_300:}