อ่านเรื่องราวก่อนหน้า : ** เพื่อความอรรถรสในการอ่านเพราะเรื่องราวจะร้อยเรียงเป็นไทม์ไลน์ อาจจะมีการพูดถึงบุคคลใน EP ก่อนหน้า และ อาจมีเรื่องราวใน EP นี้ / **เรื่องจะเรียงตาม EP ไม่ต้องสนใจ Part ข้างหลังครับ**
EP 1 : ครั้งแรกของผม...เกิดจากความแค้นต่อเด็กป.4 EP 5 : กาลครั้งหนึ่ง เมื่อเราบวชเณร Part 1 ความทรงจำดีๆ กับ เด็กชายที่เราไม่เคยมอง
EP 6 : กาลครั้งหนึ่ง เมื่อเราบวชเณร Part 2 ทริปธุดงค์หื่น 2 รุม 1 ถ้ำสะเทือน
EP 7 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 1 เด็ก ม.3 ขี้เหงา กับ เด็ก ป.5 ข้างบ้าน ขี้เงี่ยน
EP 8 : ญาติกัน(เอา)มันดี Part 2 ตูดฉีกในคืนที่พายุโหมกระหน่ำ เสียซิงครั้งแรกให้กับญาติผู้พี่ ม.5
EP 9 : ม.ปลายตัวหื่นแสนเจ้าเล่ห์ VS เด็กอนุบาลใสซื่อไร้เดียงสา กับ ตุ๊กตาจระเข้ยางของน้อง
EP 10 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 2 ซื้อคอหมูย่าง แถม ลูกชายคนขาย
EP 11 : มัธยมหรรษา Part 3 " ผมเห็นพี่เป็นไอดอล " คำพูดของรุ่นน้อง ม.1 ตัวท็อป ที่มีต่อ รุ่นพี่ตัวท็อป ม.5
EP 12 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 3 ส่งข้าวกล่องให้เด็กน้อย คิดค่าจ้าง 2 น้ำ
EP 13 : 2 เดือนแห่งความสุข กับ 1 วันที่ทุกข์ระทม ตกหลุมรักเด็กชายข้างบ้านย่า
EP 14 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 4 ส่งข้าวกล่องให้เด็กหื่น แถม น้ำซุปขาวข้นกลืนลื่นคอ
==================================
EP 15 ตอน : มัธยมหรรษา
<<----------------------------------------------------->>
" นี่แน่ะ..ไอ้จิม ทำไมมึงถึงมากดน้ำนานนักวะ กูรอแดกน้ำจนคอแห้ง " เด็กม.1คนหนึ่งพูดเสียงดังหลังจากที่เอามือตบกบาลน้องจิมมี่แบบเต็มแรง ส่วนเด็กม.1อีกคนที่เดินมาด้วยกัน..ยืนหัวเราะชอบใจและเห็นดีเห็นงามให้กับการกระทำของเพื่อนที่ดูป่าเถื่อนไร้อารยะ เด็กม.1ทั้งสองคนที่เพิ่งเดินมา..ผมเดาได้ว่า..น่าจะเป็นเพื่อนในห้องเดียวกันกับน้องจิมมี่ ท่าทางทั้งสองคนดูแสบใช่ย่อยและมีตัวสูงกว่าน้องจิมมี่มากพอตัว
มี 198 ซื้อ คุณต้องจ่าย 5 Zenny เพื่ออ่านกระทู้นี้ จ่ายเงินสำหรับกระทู้นี้
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ สนุกมาก
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ.
ขอบคุณมากๆครับ ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดีมากๆ สนุกมากครับ
ขอบคุณมากๆครับ ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดีมากๆ สนุกมากครับ
ขอบคุณมากเลย ชอบเรื่องที่เขียนมามากอ่านเพลินๆ รู้สึกว่าตอนหลังๆจะยาวขึ้นเรื่อยๆแล้วนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ สนุกทุกตอนเลย
ขอบคุณมากนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับผม
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ สนุกมากเลย รออ่านทุกตอนเลยครับ
น้องก็อ้อนเย็ดแหละ แค่เขินเฉยๆ
อยากรู้ตอนต่อไปว่าจะจัดการน้องยังไงเลยอ่าาา ขอบคุณครับ
ชอบที่สุด คือ ได้รู้เรื่องราวในปัจจุบัน สนุกมากครับ ขอบคุณคับ
EP 1 : ครั้งแรกของผม...เกิดจากความแค้นต่อเด็กป.4 EP 5 : กาลครั้งหนึ่ง เมื่อเราบวชเณร Part 1 ความทรงจำดีๆ กับ เด็กชายที่เราไม่เคยมอง
EP 6 : กาลครั้งหนึ่ง เมื่อเราบวชเณร Part 2 ทริปธุดงค์หื่น 2 รุม 1 ถ้ำสะเทือน
EP 7 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 1 เด็ก ม.3 ขี้เหงา กับ เด็ก ป.5 ข้างบ้าน ขี้เงี่ยน
EP 8 : ญาติกัน(เอา)มันดี Part 2 ตูดฉีกในคืนที่พายุโหมกระหน่ำ เสียซิงครั้งแรกให้กับญาติผู้พี่ ม.5
EP 9 : ม.ปลายตัวหื่นแสนเจ้าเล่ห์ VS เด็กอนุบาลใสซื่อไร้เดียงสา กับ ตุ๊กตาจระเข้ยางของน้อง
EP 10 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 2 ซื้อคอหมูย่าง แถม ลูกชายคนขาย
EP 11 : มัธยมหรรษา Part 3 " ผมเห็นพี่เป็นไอดอล " คำพูดของรุ่นน้อง ม.1 ตัวท็อป ที่มีต่อ รุ่นพี่ตัวท็อป ม.5
EP 12 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 3 ส่งข้าวกล่องให้เด็กน้อย คิดค่าจ้าง 2 น้ำ
EP 13 : 2 เดือนแห่งความสุข กับ 1 วันที่ทุกข์ระทม ตกหลุมรักเด็กชายข้างบ้านย่า
EP 14 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 4 ส่งข้าวกล่องให้เด็กหื่น แถม น้ำซุปขาวข้นกลืนลื่นคอ
==================================
EP 15 ตอน : มัธยมหรรษา
น้องลูกครึ่งม.ต้น สายขอ กับ พี่ม.ปลายลุคป๋า สายเปย์
<<----------------------------------------------------->>
ผมขอย้อนอดีตไปเมื่อตอนที่ผมได้ไปเข้าค่ายปฐมนิเทศก่อนที่ผมจะเข้าเรียนในระดับชั้นม.4 โรงเรียนของผมได้ไปจัดเข้าค่ายปฐมนิเทศที่ค่ายลูกเสือชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก ผมได้ร่วมเดินทางไปเข้าค่ายพร้อมกับเพื่อนๆใหม่ของผม รวมไปถึงเพื่อนเก่าของผมบางคนที่เคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันเมื่อตอนที่เรียนอยู่ชั้นม.ต้น ตัวผมในตอนนั้นมีความรู้สึกชิลล์ๆและไม่ได้กดดันอะไร นั่นก็คงเป็นเพราะพวกเราทั้งหมดอยู่ในช่วงวัยรุ่นที่กำลังโต เลยไม่ต้องมาเสแสร้งแกล้งทำคอยใส่หน้ากากหรือประหม่าเวลาที่ต้องมาคุยกับมิตรสหายใหม่ๆ เหล่าบรรดาเพื่อนๆทั้งหมดในห้องผม..พวกเราคุยกันแปบเดียวก็สนิทชิดเชื้อเฮฮาแทบจะในทันที ความรู้สึกของผมในตอนนั้นมันโอเคเอามากๆ เพราะถ้าพวกเราทั้งหมดในห้องสามารถที่จะสตาร์ทความเป็นมิตรภาพและความเป็นเพื่อนได้อย่างไหลลื่นไม่ติดขัด มันก็จะส่งผลที่ดีต่อไปในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า ที่พวกเราทั้งหมดต้องมาอยู่ในห้องเรียนร่วมหอลงโลงฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน
พอพวกนักเรียนระดับชั้นม.1 กับ ม.4 มาถึงที่ค่าย.. นักเรียนทั้งหมดก็ต้องมาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งผมก็คงคิดว่าในแต่ละโรงเรียนก็คงมีกิจกรรมเข้าค่ายปฐมนิเทศนักเรียนใหม่คล้ายๆกัน ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำประวัติของโรงเรียน กฏระเบียบต่างๆของโรงเรียน รวมไปถึงการแนะนำเหล่าบุคลากรคุณครูทั้งหลาย และท้ายที่สุดก็คงหนีไม่พ้นกิจกรรมการเชื่อมสัมพันธไมตรีที่นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมด้วยกันในการสานสัมพันธ์มิตรภาพกับเพื่อนใหม่ ในตอนนั้นทางโรงเรียนได้ถือโอกาสในการจับฉลากเลือกคณะสีให้กับห้องเรียนในทุกระดับชั้นม.1 และ ม.4 ซึ่งการจับฉลากเข้าคณะสีมันมีผลระยะยาวผูกพันไปตลอด 3 ปีภาคการศึกษา ในตอนนั้นห้องใหม่ของผมในระดับชั้นม.4 ทางโรงเรียนได้จับฉลากให้ห้องของผมเป็นอยู่คณะสีฟ้า รวมไปถึงม.1 อีก 3 ห้อง พอทางโรงเรียนได้จับสลากแยกคณะสีเสร็จสิ้น ทางคุณครูก็ได้เริ่มแบ่งห้องเรียนของระดับชั้นม.1 และ ม.4 แยกออกมาเป็นคณะสี เพื่อที่จะได้ทำกิจกรรมกันโดยยึดตามคณะสีของตัวเอง
ตอนที่ครูประจำห้องของทั้ง 4 ห้อง ( ม.1 3 ห้อง / ม.4 1 ห้อง ) ได้เรียกระดมพลมานั่งเป็นกลุ่มคณะสี... ระหว่างที่ผมกำลังนั่งมองอะไรอยู่เพลินๆ สายตาของผมก็ต้องมาสะดุดกับเด็กชายม.1 คนหนึ่งที่อยู่คณะสีเดียวกันกับผม น้องคนนั้นกำลังเดินต่อแถวมาสมทบกับเพื่อนๆคณะสีเดียวกันที่ส่วนใหญ่มานั่งคอยอยู่ก่อนหน้า น้องคนที่ผมกำลังจ้องมองอยู่เป็นเด็กชายลูกครึ่งฝรั่งหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักคนหนึ่ง ( หน้าของน้องจะคล้ายๆกับน้องคนนึงที่แข่งมาสเตอร์เชฟจูเนียร์ SS2 ) ตัวของน้องจะเล็กๆ ผิวขาว ที่โหนกแก้มมีกระบางๆ ผมสีน้ำตาลอ่อน ( มารู้ภายหลังว่า ดวงตาของน้องมีสีน้ำตาล ) ผมจ้องมองเด็กชายคนนั้นโดยที่ไม่ละสายตา น้องดูลนๆและประหม่าเหมือนกับลูกกวางตัวน้อยๆที่อยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่าที่หิวกระหาย ซึ่งผมก็ยอมรับเลยว่าในตอนนั้นผมก็เป็นหนึ่งในหมาป่าเหล่านั้น หมาป่าที่นั่งน้ำลายไหลอยู่ในพงหญ้ารกทึบ อยากที่จะกระโจนออกจากพงหญ้าเข้าไปรุมทึ้งชิมรสผิวกายหวานๆของลูกกวางตัวน้อยที่น่าสงสารตัวนี้
ในตอนนั้นคุณครูที่ปรึกษาประจำห้องผม..อยากที่จะแต่งตั้งหัวหน้าห้องกับรองหัวหน้าห้องในตอนนั้นเลย ซึ่งการแต่งตั้งมันจะมีผลต่อเนื่องไปจนถึงการเป็นประธานคณะสีในอนาคต..ยามที่พวกผมขึ้นชั้นม.6 และอาจจะรวมไปถึงการเข้าแข่งขันเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานนักเรียนในอนาคต ในตอนนั้นครูที่ปรึกษาทั้ง 4 คนก็ลงความเห็นกันว่า ตัวของครูจะใช้ระบอบเผด็จการแต่งตั้งกันเองเลย โดยที่ไม่ต้องถามความเห็นจากพวกผมหรือยกมือโหวตเลือกกันเองภายในห้อง ระหว่างที่ครูทั้ง 4 คน กำลังล้อมวงปรึกษากัน คุณครูก็มีเรียกเพื่อนๆในห้องของผมบางคนเข้าไปร่วมปรึกษากับพวกครูด้วย และอยู่ดีๆครูที่ปรึกษาของผมก็ตะโกนเรียกผมให้เข้าไปร่วมวงด้วยเช่นกัน...
" ไอติม ครูอยากให้เธอรับตำแหน่งหัวหน้าห้อง " ครูประจำห้องพูดกับผมด้วยสีหน้าที่ดูมั่นใจมาก..ว่าตัวเองนั้นคิดถูกแล้ว
" เดี๋ยวนะครู ถ้าผมเป็น..แปลว่าตอนม.6 ผมก็จะต้องเป็นประธานสี โอย ผมไม่เอาหรอกครับครู " ผมพูดส่ายหัวไม่เห็นด้วย
" ทำไมละ..ผลการเรียนเธอก็ดี กิจกรรมของเธอก็เด่น และที่สำคัญการที่ครูเลือกเธอ ก็เพราะว่าเธอเคยเรียนม.ต้นที่นี่ เธอนั่นแหละเหมาะสมที่สุดแล้ว " ครูประจำห้องของผมยังยืนกรานคำพูดเดิม
" แล้วครูให้ใครเป็นรองหัวหน้าห้องละครับ " ผมถามกลับครูประจำห้อง
" อ่อ..ครูให้ นุ่น เบญจมาศ เป็นรองหัวหน้าห้อง นุ่นมาจากโรงเรียนอื่น แต่ประวัติของเขาทั้งเกรดและกิจกรรมก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยนะ " ครูประจำชั้นพูดกับผม ในขณะที่ผมหันไปมองเพื่อนที่ชื่อนุ่น นุ่นจ้องกลับมาที่ผมด้วยสายตาที่ดุดันอาฆาตมาดร้าย เหมือนกับว่าผมไปแย่งของรักของหวงของเธอมา แล้วเอามากระทืบจนเละไม่มีชิ้นดีและยืนฉี่ราดไปบนของรักของหวงอันนั้นซ้ำ ในตอนนั้น..ผมเดาไม่ออกเลยว่าในใจของนุ่นกำลังคิดอะไรอยู่ ระหว่างผมกับนุ่น..ในตอนที่นั่งรถทัวร์กันมาก่อนที่จะมาถึงที่ค่าย ถึงผมจะคุยและทักทายนุ่นเพียงไม่กี่คำ แต่อารมณ์กับความรู้สึกในตอนนั้นระหว่างผมกับเธอก็เป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งการที่เธอแสดงออกด้วยทีท่าที่ไม่สบอารมณ์แบบไม่กั๊กความรู้สึกแบบนี้ ผมก็พอจะเดาได้เลยว่า..นุ่นน่าจะอยากได้ตำแหน่งหัวหน้าห้องอันทรงเกียรติ ตำแหน่งที่ผมกำลังจะโดนครูที่ปรึกษายัดเยียดและประเคนให้ผมอยู่ในตอนนี้
" ครูครับ.. ผมว่าให้นุ่นเป็นหัวหน้าห้องเถอะครับ ผมว่าเด็กเก่าเด็กใหม่ มันคงไม่ส่งผลอะไรมากนักหรอกครับในตำแหน่งหัวหน้าห้อง " ผมพูดกับครูประจำห้องของผม โดยที่ครูทำหน้าแบบเบื่อหน่ายให้กับผม
" และอีกอย่าง..ในอนาคตข้างหน้าผมอาจจะเล่นกีฬา เป็นนักกีฬาตัวแทนของโรงเรียนออกไปแข่งขัน และไหนจะต้องมีเรียน ร.ด. อีก ผมไม่มีเวลาที่ต้องมาคุมอะไรแบบนี้หรอกครับ " ผมพูดย้ำเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของผมกับครูไป ( ในส่วนของ รด. ผมยอมรับว่าโกหกครู เพราะตัวผมไม่มีแพลนที่จะเข้าเรียน รด.อยู่แล้ว )
" โอเคๆตามนั้น เรื่องเยอะจริงเราเนี่ย งั้นครูให้นุ่นเป็นหัวหน้าห้องละกัน ส่วนเรา..ไอติม เราเป็นรองหัวหน้าห้องไปก่อน เดี๋ยวในอนาคตถ้ามีอะไรที่เหมาะสมค่อยทำการเปลี่ยนแปลงอีกที ตามนี้นะ.. " ครูประจำห้องรีบจบสรุปในทันที ในขณะที่นุ่นกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ ในตอนนั้นเธอแสดงความรู้สึกออกมาว่า..ตัวของเธอนั้นกำลัง Happy สุดๆ
" ติม..นายไม่อยากเป็นหัวหน้าห้องเหรอ ส่วนเรายังไงก็ได้นะ " นุ่นพูดกับผมแบบเป็นห่วง ( สตรอมาก ปลอมสุดๆอีดอก )
" ไม่อ่ะ..เธอเป็นอ่ะดีแล้ว เธอเหมาะกับตำแหน่งนั้นมากกว่าเรา " ผมพูดและยิ้มให้อย่างจริงใจ ( ผมสตรอกลับ )
ตอนช่วงบ่าย..ผมก็ทำกิจกรรมเชื่อมสัมพันธไมตรีกับพวกเพื่อนๆ พอมาถึงช่วงพักเบรค.. ผมกับเพื่อนอีกสองคน ( เพื่อนสนิทของผมที่มีซีนเล็กๆ ตอนไปแข่งตีปิงปองกับน้องคิมในEP11 ) ก็พากันเดินไปกินน้ำหวานน้ำอัดลมตรงจุดบริการน้ำดื่มที่โรงเรียนเตรียมไว้ให้ ระหว่างที่ผมกับเพื่อนกำลังเดินไปกดน้ำที่คูลเลอร์น้ำ ผมก็เห็นน้องลูกครึ่งคนนั้นที่อยู่คณะสีเดียวกัน..วิ่งกระหืดกระหอบมาถึงตรงจุดบริการน้ำดื่มพอดี ผมเหลือบไปเห็นว่าตัวน้องถือแก้วน้ำพลาสติกไว้ในมือ 3 ใบ ผมจ้องมองไปที่ใบหน้าของน้อง จังหวะนั้น..น้องก็เหลือบมามองหน้าผมพอดีก่อนที่น้องจะหลบตาผมแทบจะในทันทีที่สบตาผม ผมมองใบหน้าของน้องอยู้แปบนึง แล้วกวาดสายตาไล่ลงจนมาถึงป้ายชื่อของน้องแล้วพูดว่า...
" น้องจิมมี่ มากดก่อนสิ " ผมพูดและถอยตัวออกมาเล็กน้อยเพื่อเปิดทางให้น้องได้กดน้ำก่อน
" อ่าา ขอบคุณ..ครับ " น้องดูตกใจนิดๆกับมิตรภาพที่ผมเพิ่งหยิบยื่นให้ แล้วกุลีกุจอรีบมากดน้ำหวานเฮลลูบอยในถังคูลเลอร์น้ำ
" แก้วที่กดที่เสร็จแล้ว เอามานี่ เดี๋ยวพี่ช่วยถือ " ผมพูดกับน้อง ในขณะที่เห็นน้องกำลังลนและทำตัวงกๆเงิ่นๆ ไม่รู้ว่าจะเอาแก้วที่มีน้ำหวานอยู่เต็มแก้วไปวางไว้ตรงจุดไหน ซึ่งอาการแบบนั้นที่น้องจิมมี่กำลังเป็นอยู่.. ผมก็เดาไม่ออกว่าน้องกำลังเป็นอะไร หรือว่าน้องกำลังประหม่าพวกผมอยู่ แต่ตัวน้องก็ยังคงยื่นแก้วมาให้ผมถือตามที่ผมบอก ในระหว่างที่น้องกำลังกดน้ำหวานใส่แก้วใบที่สาม อยู่ดีๆ..ก็มีเสียงดังขึ้นใกล้ๆพวกผม... " เพี๊ยะะะ "
" นี่แน่ะ..ไอ้จิม ทำไมมึงถึงมากดน้ำนานนักวะ กูรอแดกน้ำจนคอแห้ง " เด็กม.1คนหนึ่งพูดเสียงดังหลังจากที่เอามือตบกบาลน้องจิมมี่แบบเต็มแรง ส่วนเด็กม.1อีกคนที่เดินมาด้วยกัน..ยืนหัวเราะชอบใจและเห็นดีเห็นงามให้กับการกระทำของเพื่อนที่ดูป่าเถื่อนไร้อารยะ เด็กม.1ทั้งสองคนที่เพิ่งเดินมา..ผมเดาได้ว่า..น่าจะเป็นเพื่อนในห้องเดียวกันกับน้องจิมมี่ ท่าทางทั้งสองคนดูแสบใช่ย่อยและมีตัวสูงกว่าน้องจิมมี่มากพอตัว
" พี่ครับ ผมขอแก้วคืนด้วยครับ ขอบคุณที่ช่วยถือ " น้องพูดกับผมด้วยสีหน้าเจื่อนๆเหมือนมีน้ำตาคลอนิดๆ น้องพูดหลังจากที่น้องยื่นแก้วทั้งสองใบในมือให้กับเพื่อนของเขาทั้งสองคน ซึ่งแน่นอนแก้วที่ผมถืออยู่ในมือก็คงเป็นแก้วของน้องไปโดยปริยาย
" อ่ะ เอาไป ถ้าไม่อิ่มก็กดกินอีกได้นะ ครูเค้าคงไม่ว่าหรอก " ผมพูดและยิ้มปลอบใจให้น้อง ผมเห็นหน้าของน้องจิมมี่ในตอนนั้น ตัวของผมเองก็อยากจะเข้าไปยืนหยัดทวงความยุติธรรมให้กับน้อง แต่ผมก็มาคิดอีกทีว่า..สิ่งที่ผมกำลังจะทำ มันน่าจะไม่เป็นผลดีกับตัวน้อง ในเมื่อตัวน้องต้องอยู่ห้องเดียวกันกับ 2 คนนี้ไปอีกถึง 3 ปีการศึกษา
" อ้าวพี่..ม.4 ทำไมเหรอ พี่อยากจะอัดตูดเพื่อนผมเหรอ ผมเข้าใจนะก็ไอ้จิมมันออกจะขาวน่าเย็ดแบบนี้ " เพื่อนของน้องคนนึงพูดกับผมพร้อมกับเอามือไปขยำที่ก้นน้องจิมมี่เล่น ในขณะที่ผมตกใจนิดๆไม่คิดว่าคำพูดแบบนี้จะออกมาจากปากของเด็ก ม.1
" ไม่อ่ะ..กูอยากจะเย็ดตูดมึงมากกว่า เอายังงี้กูให้ค่าตัวมึง 300 บวกกับอีก 200 ค่าเปิดซิงตูดมึง เอาไหม..? " ผมพูดด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง และควักแบงค์ 500 ออกมาจากกระเป๋าสตางค์ที่ผมเพิ่งล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วยื่นให้กับน้องม.1ปากแจ๋ว การที่ผมทำแบบนั้นก็เพื่อให้น้องปากแจ๋วคนนั้นเห็นว่าตัวผมนั้นกำลังเอาจริง
" โหยย..พี่ เอา..จริง..ดิ " น้องม.1ปากแจ๋วพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นนิดๆ พร้อมกับมองมาที่หน้าผม
" เอ้า..กูพูดเล่นที่ไหน กูเอาจริง ถ้ามึงตกลง คืนนี้ตอน 5 ทุ่ม มึงมาเจอกูที่ห้องน้ำ ถ้ามึงมาก่อนก็ล้างตูดรอควยกูได้เลย " ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมาก ในขณะที่สายตาของผมก็จ้องข่มขู่น้องปากแจ๋วคนนั้นแบบไม่กระพริบตา
" พี่บ้า..หรือป่าวเนี่ย " น้องปากแจ๋วทำหน้าลนๆ ส่วนเพื่อนอีกคนนึงหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด
" เอ้า..กูก็เห็นมึงพูดเย็ดตงเย็ดตูด คิดว่าเคยผ่านประสบการณ์โดนเย็ดมา ดูไปดูมา..ตูดปอดๆดำๆอย่างมึง 500 น่าจะแพงไป กูให้แค่ 200 ละกัน ว่าไง...จะเอาหรือไม่เอา " ผมพูดกับน้องปากแจ๋วแล้วทำสายตาเย้ยหยันตอนมองไปที่ตูดน้อง
" ผมไม่คุยด้วยละ ขอตัว " น้องปากแจ๋วมองผมด้วยสายตาที่ขุ่นเคืองนิดๆ แล้วไปยืนแทรกตรงกลางระหว่างน้องจิมมี่กับเพื่อนอีกคนนึง แล้วเดินโอบไหล่เพื่อนทั้งคู่แล้วพากันเดินจากพวกผมไป..
" นี่แหละน่า.. มึงชอบไปใจดีกับพวกเด็กๆมัน ระวังมันจะปีนเกลียวมึงในอนาคต " เพื่อนผมคนที่หนึ่งพูดกับผมพร้อมกับจับไหล่
" เล่นแม่งเลยป่ะ เด็กๆแบบนี้กูถนัด " เพื่อนผมคนที่สองพูดพร้อมกับทำท่าทางยึกๆยักๆจะเดินไปจัดการเด็กปากแจ๋วคนนั้น
" มึงนี่นะ.. กับเด็กเนี่ยถนัดดีนัก ไอ้สัตว์ 55 " เพื่อนผมคนที่หนึ่งแซวเพื่อนผมคนที่สองและหัวเราะเยาะล้อเลียน ส่วนเพื่อนผมคนที่สองก็หันมาหยอกบีบคอกลับคืน
ในขณะที่เพื่อนของผมกำลังหยอกล้อเล่นกันอยู่ข้างหลังผม ผมก็ยังคงจ้องมองแผ่นหลังของพวกน้องม.1ที่กำลังเดินจากผมไป น้องจิมมี่เด็กลูกครึ่งคนนั้นหันมามองผมด้วยสายตาที่ดูเศร้าและน่าสงสาร ในตอนนั้นผมก็สงสารไปกับตัวของน้องด้วย ซึ่ง 3 ปีต่อจากนี้ไปน้องจะโดนเพื่อนๆแกล้งอะไรบ้างผมก็ไม่อาจที่จะทราบได้ ในขณะที่ผมกำลังมองไปที่สายตาที่น่าสงสารคู่นั้นของน้องลูกครึ่ง ใครจะไปรู้เล่าว่า..ในอนาคตอีกสองสามปีข้างหน้า น้องคนที่ดูน่าสงสารต่อหน้าผมในตอนนี้..จะกร้านโลกและใช้เล่ห์เหลี่ยมมารยาสารพัดในการช่วงชิงดูดเงินในกระเป๋าสตางค์ของผม น้องลูกครึ่งคนนั้นจะกลายมาเป็นเด็กชายคนแรกที่ทำให้ผมต้องใช้เงินมาเป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อแลกกับเรือนร่างของน้อง เป็นน้องคนแรกที่ผมต้องใช้เงินมาเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งในการซื้อความสุข
อยากรู้ตอนต่อไปว่าจะจัดการน้องยังไงเลยอ่าาา ขอบคุณครับ
ชอบที่สุด คือ ได้รู้เรื่องราวในปัจจุบัน สนุกมากครับ ขอบคุณคับ
ดูในรูปแบบกติ:
บันทึกลับ (รัก) ฉบับไอติม EP 15 มัธยมหรรษา Part 4 : น้องลูกครึ่งม.ต้น สายขอ กับ พี่ม.ปลายลุคป๋า สายเปย์