เมื่อ 18
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อผมอายุได้สิบแปดปี ผมไปเดินหาบ้านเช่าตอนที่เข้ามากรุงเทพฯใหม่ ๆ ได้บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ในซอยลึก เจ้าของบ้านเป็นชายสูงอายุ ผมสีดอกเลาทั้งหัว ไว้หนวด ชอบนุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียวเดินไปเดินมา ขนหน้าอกของแกเป็นแผงอกกว้างของแกดูสง่า แววตาอ่อนโยนแกอยู่ลำพังคนเดียว ห้องที่ผมเช่านั้นแบ่งให้เช่า อยู่ชั้นบน วันแรกที่เข้ามาอยู่ผมสังเกตุว่าตรงฝาห้องนอนของผมมีรอยฝาแตกอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ผมต้องไปทำงานนอกบ้าน แล้วกลับเข้ามาจนเย็นเกือบพลบค่ำทุกคืน เมื่อมาถึงก็มักจะล้มตัวลงนอนด้วยความ เหนื่อยอ่อนทุกครั้งไปในสัปดาห์หนึ่งผมมีวันหยุดหนึ่งวันคือวันอาทิตย์ ดังนั้นในคืนวันเสาร์ผมจึงสามารถนอนดึกได้ แล้วตื่นสายได้เช่นกัน ลุงเจ้าของบ้านชื่อลุงแขก หน้าตาแกเหมือนแขก แม้จะไม่ได้พูดคุยกันมากนักแต่ก็รู้ได้ว่าแกเป็นคนใจดี แกมักจะมองมาที่ผมเสมอ ๆ ด้วยแววตาแปลก ๆ อย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ในใจก็รู้สึกว่าชอบสายตา แววตานี้มากมันดูอบอุ่นอย่างประหลาดวันนี้เป็น วันเสาร์ที่ผมไม่ได้ไปทำงานผมจึงนอนดึกได้ ก็มักจะนั่งอ่านหนังสืออ่านเล่นซึ่งเช่ามาจากห้องสมุดประชาชนนั่นเอง หลังจากกินข้าวเย็นซึ่งซื้อชนิดสำเร็จรูปมาจากข้างนอกเรียบร้อยแล้ว ผมก็เริ่มอ่านหนังสือนวนิยายสนุกเล่มโตของผมทันที ผมเป็นคนที่ชอบความเงียบสงบ จึงไม่มีทีวี มีเพียงวิทยุหลังเล็ก ๆ ไว้ในห้องนอน มีหนังสือหลายลังซึ่งเอามาเรียงกันไว้เต็มบ้าน ดังนั้นโลกส่วนตัวของผมหลังจากทำงานก็คือ ขลุกอยู่กับการอ่านหนังสือเป็นโลกที่สงบสุขที่สุดผมอ่านหนังสืออยู่จนดึก นานเท่าไรไม่รู้ เพราะไม่ได้ดูนาฬิกา รู้แต่ว่าดึกสงัดมาก ผมได้ยินเสียงกุกกักที่ห้องของลุงแขก ก็นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าลุงแกกำลังทำอะไรอยู่ในห้อง เจ้ากรรมจริงๆ ผมนึกอยากรู้ว่าลุงแขกแกกำลังทำอะไรอยู่ในห้องข้างๆ นะ จึงแอบมองไปที่ร่องข้างฝาข้างห้องนั้นให้ตายเถอะ สิ่งที่ผมเห็นและทำให้ผมตื่นเต้นที่สุด หัวใจเต้นระทึก คือได้เห็นว่าลุงแขกกำลังนอนแผ่แก้ผ้าอยู่ที่โซฟาซึ่งหันหน้ามาทางที่ผมกำลังมองอยู่พอดิบพอดี เหมือนกับจงใจอย่างไรอย่างนั้น แกกำลังนอนสบายอยู่บนโซฟา และ ให้ตายเถอะ แกกำลังช่วยตัวเองอยู่ มือขวากำลังกำรูดเจ้าอวัยวะของแกเข้า ๆ ออก ๆ เสียงจังหวะที่รูดเข้ารูดออกมันทำให้เจ้าอวัยวะของแกแข็งลุกชันสุด ๆ ผมคำนวณจากที่เห็นคิดว่ามันคงยาวราว ๆ สักเจ็ดนิ้วเห็นจะได้ และมันก็ใหญ่มากด้วย ใบหน้าของแกเหยเก ล่องลอยเหมือนกำลังมีความสุขอย่างที่สุด นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าแกอยู่ของแกยังไงในบ้านเปลี่ยว ๆ ห่างไกลอย่างนี้ ลูกเมียของแกไปไหนเสียแล้ว หรือว่าแกไม่เคยมีเมียมาก่อนเลย เหมือนจงใจให้ผมดูแกหันเจ้าอวัยวะอันใหญ่โตนั้นตรงมาที่ใกล้ๆ กับช่องที่มองอยู่นั้นชัด ๆ ผมจึงเห็นจะ ๆ ชัดเจนที่สุด เส้นเอ็นที่ปูดโปนของเจ้าอวัยวะของแกนั้น มันเป็นท่อนเขื่องที่น่าสัมผัสอย่างยิ่ง ผมรู้สึกใจเต้นระทึก คลำอวัยวะของตัวเองไปด้วย จะเป็นไปได้หรือไม่ ถ้าผมทะเล่อทะร่าเข้าไปช่วยแกกำรูด แกจะยอมหรือไม่ คิดอยากเข้าไปช่วยแกเหลือเกิน ผมเองก็ชอบชายสูงอายุอย่างนี้ แกดูแข็งแรงกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ อกผาย ไหล่ผึ่งสมาร์ทมาก เคยได้ยินเขาเล่ากันว่าแกเคยเป็นทหารเก่ามาก่อน มิน่าเล่าจึงดูดีไปหมด เช้าวันต่อมา ผมตื่นสาย ได้ยินเสียงเคาะประตู จึงงัวเงียไปเปิดห้อง ผมเพิ่งรู้ว่าผมหลับไปนาน มาตื่นตอนที่ประตูถูกเคาะนั่นแหละ แกถามว่าวันนี้หยุดงานใช่หรือเปล่า แกชวนให้มากินข้าวด้วยกัน บอกว่าวันนี้ทำอาหารไว้แล้ว รู้ว่าผมไม่ได้ไปทำงานจึงทำอาหารเผื่อไว้ ผมบอกว่าของเข้าห้องน้ำอาบน้ำก่อน แกก็บอกว่าดีเหมือนกันอาบน้ำเสร็จแล้วก็จะได้มากินข้าวด้วยกัน แกก็จะอาบน้ำเหมือนกัน ห้องน้ำเราสองคนติดกัน ผมเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว และ อาบน้ำถูสบู่ แต่ก็สังเกตเห็นว่าห้องน้ำนี้ก็มีรูเหมือนกัน ดูเหมือนว่าทุกแห่งในบ้านนี้จะมีรูให้มองลอดเข้ไปได้เสียทั้งนั้น ขณะกำลังอาบน้ำอยู่ฟอกสบู่ทั้งตัว ผมก็อดที่จะแอบมองลอดไปที่ห้องน้ำอีกห้องหนึ่งซึ่งลุงแขกกำลังเปิดฝักบัวอาบน้ำเสียงดังซู่ซ่าอยู่ให้ตายเถอะ สิ่งที่ผมเห็น ลุงแขกกำลังแก้ผ้าอยู่แล้วกำลังฟอกสบู่เอาฟองขาว ๆ ถูตรงอวัยวะสืบพันธ์อันแข็งเป๋งอยู่อย่างช้า ๆ มันผงาดเงื้อมแข็งเต็มที่ ดูเหมือนแกจะลงใจอีกแล้ว แกเดินตรงมาที่ตรงรอยแตกนั้น แล้วกำรูดให้ผมดูไปมา คราวนี้ผมไม่รอช้าแล้ว ออกจากห้องน้ำ ตรงเข้าไปที่ประตูห้องน้ำของแก อ้าวห้องน้ำแกไม่ปิดล็อกกลอนนี่นา ผมเปิดผลัวะเข้าไป แกหันมาพอดี อวัยวะนั้นแกก็กำลังกำรูดอยู่เหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ“ คุณช่วยผมทีซี ผมจะทนไม่ไหวแล้ว โอย “ แกกวักมือชักชวน พลางก็รูดเข้ารูดออกอยู่อย่างนั้นผมไม่รอช้า จะห้ามตัวเองอย่างไรได้ ผมเองก็กำลังอยู่ในชุดวันเกิดเหมือนแกนั่นเอง ขณะนี้ผมกำลังอยู่ในห้องน้ำห้องเดียวกับแก มือผมเอื้อมไปจับของแกซึ่งรู้สึกว่ามันอุ่นจนร้อน และ แข็งแรงมาก มันใหญ่มากจนกำเกือบไม่รอบ ผมค่อย ๆ จังมันกำรูดเข้ารูดออก “ โอย อูย ดีจริงเลย ช่วยผมที “ แกร้องออกมาอย่างลืมตัวขนหน้าอกของแกทั้งแผงอกนั้น ดกรกเรื้อ แกช่างเป็นชายสูงอายุที่รูปร่างดี และ สมส่วนไปเสียทั้งหมด ผมคุกเข่าลงเอาของแกใส่ปาก แล้วเริ่มบรรเลงเพลงดูดอย่างเมามัน เสียงแกร้องครางออกมา ผมก็ยิ่งเร่งให้มันเข้าไปลึกสู่ลำคอของผมเข้า ๆ ออก อยู่อย่างนั้น มืออีกข้างหนึ่งก็ลูบไล้ไปมาตามขา และ โคนขา มันแข็งกระชับไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างยิ่ง แกบอกผมว่าเราขึ้นไปต่อที่ห้องนอนดีไหม ผมพยักหน้า แกก็เดินนำหน้าไปที่ห้องนอนโดยไม่ได้นุ่งผ้าทั้งผมและลุงแขก ลุงแขกบอกแกรู้ตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าผมแล้วว่าความจริงแล้วผมแอบชอบแกตั้งแต่วันนั้น แกมองสายตาของผมออก ดังนั้นจึงเป็นที่รู้ในภายหลังว่า แท้จริงนั้น ลุงแขกแกมองผมออกตั้งแต่เดิมแล้วว่าลึก ๆ แล้วผมชอบแกในวินาทีแรกเลยก็ว่าได้ ซึ่งแกก็คงคิดเช่นเดียวกันกับผมด้วยเหตุนี้แกจึงจงใจให้ผมเห็นการกระทำของแก แล้วก็ถูกต้องอย่างที่แกพูดซะด้วยซิ เมื่อเราเข้าไปถึงในห้องนอนแล้ว แกก็ทิ้งตัวลงบนที่นอนบนเตียง เจ้าโลกอันมหึมามหายักษ์ของแกก็ยังคงแข็งตั้งชูชันอยู่อย่างนั้น เมื่อเราทั้งคู่ต่างมีความปรารถนา จะรอช้าอยู่ทำไม ไม่ต้องวางฟอร์มกันให้เสียเวลา ต้องการอะไรก็บรรเลงกันอย่างเต็มที่ไปเลย พูดกันตรง ๆ บอกกันตรง ๆ ลุงแขกนอนหงาย ผมค่อย ๆ ประคองจับเจ้าท่อนเนื้อของแกกำ รูดเข้าออกช้า ๆ ตอนแรกก็เนิบ ๆ ก่อน ค่อย ๆ รูดเริ่มต้นจากหัวซึ่งบานหราเหมือนงูยักษ์ที่แผ่พังพานพร้อมต่อสู้ ที่หัวเงี่ยงของมันบัดนี้มีน้ำใส ๆ เป็นเมือกเหนียวไหลเหนอะหนะ ออกมาเยิ้มเลอะมือของผม เสียงแกครางเบา ๆ อย่างลืมตัวในขณะที่ ผมค่อย ๆ บรรจงกำท่อนเขื่องนั้น รูดตั้งแต่หัวสุดจนมาถึงสุดโคนแล้วก็เริ่มต้นใหม่ขึ้นลงอยู่อย่างนั้น เข้าออกอย่างบรรจงแผ่วเบาอ้อยอิ่งไม่เร่งร้อนทั้ง ๆ ที่ในหัวใจมันระอุเหมือนเพลิงไหม้ต่อมาผมเปลี่ยนมาทำด้วยสองมือในลักษณะที่ลุงแขกแกเรียกการกระทำอย่างนี้ในภายหลังว่า “การสาวไหม” ผมหัวเราะเมื่อแกเรียกชื่ออย่างนั้น แกบอกว่า กิริยาอย่างนี้มันคล้าย ๆ กับการสาวไหมของชาวบ้านที่เขาทอผ้า มันเนิบนิ่ม แช่มช้า แล้วก็เสียวสุด ๆ เพลินจนน้ำลายไหลยืดไม่รู้ตัวท่อนเนื้อของแกแข็งแรงอะไรอย่างนั้น ผมเริ่มเปลี่ยนเป็นมือหนึ่งรูดเข้าออก อีกมือหนึ่งลูบไล้ที่เจ้าลูกบอลสองลูกไปมาเบา ๆ ผลัดเปลี่ยนกันบ้างเพื่อความเร้าใจรัญจวนผมมองทั่วร่างของแกอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง หนวดกหนาสีดอกเลาเหมือนเส้นผมตรงริมฝีปากที่ขลิบตัดแต่งอย่างเหมาะเจาะรับกับรูปหน้า คิ้วดกหนาของแก ผมสีเหลือบเหมือนสีเงินขาวเป็นประกายดูมีเสน่ห์ แผงออกที่ขนดก ระเลื้อยแผ่คลุมมาถึงหน้าท้องที่เป็นลอน แล้วกระจุกขนหนาที่ปกคลุมดกหนาตรงโคนท่อนเนื้อของแก มันดูดีไปหมดไม่รกรุงรัง อาจเป็นไปได้ที่ว่าในขณะเกิดอารมณ์กระสันนั้นคนเรามักจะมองคู่เสน่หาของเราเป็นสง่างามไปหมด“ดูดให้ผมหน่อยซิคุณ “ แกร้องบอกเบา ๆ
ผมไม่ตอบ แต่ปฏิบัติการทันทีตามที่แกต้องการ ตอนนี้มองตากันก็แทบจะรู้ใจว่าเราต่างต้องการอะไรอยู่และต่างสบตากันอย่างเข้าใจว่าบัดนี้เราจะร่วมกันบรรเลงเพลงพิศวาสกันอย่างสุขสม สองมือของผมสอดอยู่ใต้โคนขา ซุกใบหน้าไซ้ไปที่ท้องน้อยของแก ขนปุกปุยคลุกคลีอยู่ที่ใบหน้าของผม ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำหอมเดอโอโคโลญจ์ หอมชื่นใจเหมือนกลิ่นน้ำยาหลังโกนหนวด รัญจวนใจยิ่งนัก ผมเริ่มบรรเลงลิ้นไปมาเบาๆ ที่เจ้าหัวบานใหญ่ของแก ปลายลิ้นตวัดตรงปลายสุดซึ่งมีเมือกใส ๆ ไหลรินออกมา รสชาติของมันปร่า ๆ ลิ้นออกเค็มปะแล่ม ๆ ผมกลืนกินเข้าไปแล้วใช้ปลายลิ้นตวัดเรื่อยไปทั่วท่อนลำอย่างเนิบนิ่มแล้วในที่สุดก็อมมันเข้าไปในปากรู้สึกถึงความอบอุ่นร้อนฉ่าของเจ้าไส้กรอกเอ็นยักษ์ของแกอย่างประหลาด ผมเริ่มอมลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ท่อนหัวค่อย ๆ ผลุบเข้าไปก่อนช้า ๆ รูดเข้าออกด้วยริมฝีปากของผม อย่างนิ่มเนิบ “โอย....อูย ซี๊ด........ “ แกครางออกมาอย่างลืมตัวลุงแขกแอ่นก้นรับกับจังหวะที่ผมพยายามดูดเบา ๆ ให้ลึกที่สุดเท่าที่จะสามารถเข้าไปได้ เสียงดังจ๊วบ ตามจังหวะการเข้าออก ผมลอบเหลือบมองหน้าเห็นแกหลับตาปี๋ใบหน้าเหยเกสูดปากเสียงเหมือนคนกินแกงเผ็ด เสียงลมหายใจของแกดังเป็นจังหวะเป็นระยะ ๆ ผมดำเนินการไปเรื่อย ๆ อย่างไม่เร่งร้อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มจังหวะเร็วขึ้น แกก็ยิ่งแอ่นก้นขึ้นรับเร็วขึ้นเช่นกัน เสียงแกครางอย่างลืมตัวจนดังลั่นห้อง ผมรักษาจังหวะการปฏิบัติการอย่างนั้นคงที่แล้วก็เปลี่ยนเป็นช้าลง แล้วก็เร็วขึ้น คราวนี้มือทั้งสองของแกขยี้อยู่ที่หัวของผมเกร็งแน่น เสียงลมหายใจของแกดังถี่ขึ้น ๆ แกร้องโอย ๆ บอกว่าดีเหลือเกิน“โอย ดีอะไรอย่างนี้ “ เสียงแกครางกระเส่า น้ำเสียงแตกพร่าอย่างลืมตัว“ขอผมเข้าประตูหลังของคุณได้หรือเปล่า ““ค่อย ๆ เบา ๆ นะลุง ของลุงมันใหญ่น่ากลัว”“เหอะน่า ผมจะค่อย ๆ ทำ เอางี้ดีกว่า ถ้าคุณกลัวเจ็บ ผมนอนหงายก็แล้วกัน คุณขึ้นคร่อมผมนะ เอาเข้าไปเองก็แล้วกัน” ผมลุกขึ้นไปนั่งคร่อม จับหัวโตจ่อที่ประตูหลังด้วยหัวใจระทึก กล้า ๆ กลัว ๆ แต่ในที่สุดความกล้าก็ชนะความกลัวหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง น้ำเมือกของแกเยิ้มไหลออกมาอย่างมากมายจนเปรอะไปหมด ผมบอกให้แกนอนนิ่ง ๆ อย่าขยับ ผมจะเป็นฝ่ายกระทำให้เอง ผมจับท่อนเอ็นซึ่งรู้สึกว่ามันร้อนผ่าวอย่างประหลาด มันแข็งมาก เส้นเอ็นปูดโปนหัวเป็นมันแผล็บ พอผมขยับ มันก็ค่อย ๆ ผลุบเข้าไป ตอนนี้รู้สึกตึง ๆ คับติ้ว เจ็บนิด ๆ แล้วก็เริ่มขยับให้มันเดินหน้าลึกลงไปเรื่อย ๆ แกนอนนิ่ง ราวกับกำลังกลั้นลมหายใจอยู่ ผมเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวให้แก ความรู้สึกคับตึงแน่นค่อย ๆ แทรกผ่านชำแรกเข้าไปเรื่อย ๆ ในที่มันก็ผ่านผลัวะเข้าไปทั้งหัวอันบานใหญ่นั้น ตอนนี้รู้สึกโล่งที่มันเข้าไปได้ ตอนที่มันกำลังจะเข้าไม่เข้านั้นมันรู้สึกตื้อ ๆ ชอบกลแต่พอพลุบเข้าไปมันเจ็บแปล๊บ แต่มันเป็นความรู้สึกแปล๊บเดียวจริง ๆ เท่านั้น พอผลุบปุ๊บเข้าไปได้ ก็โล่งทันที ความเจ็บหายไป คราวนี้ผมลองขยับเข้าไปเรื่อย ๆ ไม่น่าเชื่อว่ามันเข้าลึกเข้าไปทุกที ผมลองค่อย ๆ ขยับไปมาเข้า ออก เข้า ออก อยู่อย่างนั้นเหมือนหยั่งเชิง จังหวะมันก็เร็วขึ้น และลึกมากขึ้น สีหน้าแกเหมือนมีความสุขมาก ผมรู้สึกวูบ ๆ ประหลาดอย่างบอกไม่ถูก ไม่เจ็บเลย อาการที่ตึงๆ แต่เริ่มแรกหายไป คราวนี้รู้สึกว่าความเคลื่อนไหวที่เข้า ๆ ออกๆ นั้นเป็นความรู้สึกที่มีความสุขรัญจวน อย่างบอกไม่ถูกเลย ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไรก็ยิ่งมีความสุข คราวนี้ผมลองขยับให้มันเข้าไปให้ลึกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ซิ ปรากฏว่ามันสามารถเข้าไปได้จนจมมิดด้าม แล้วผมก็ค่อยๆ ดึงออกแล้วขยับเข้าไปใหม่จนมิดด้ามอีก ทีนี้จังหวะการเข้าออกมันกลายเป็นว่า เริ่มให้เจ้าท่อนเนื้อนั้นมันเข้าไปสุด แล้วขยับออกจนเกือบหลุดแต่ไม่หลุดออกแล้วจึงดันกระแทกเข้าไปใหม่อีก จังหวะยังไม่เร่งมาก มาเพิ่มจังหวะเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนที่มันเข้าไปสุดรู้สึกเหมือนท่อนเนื้อมันกระทุ้งเข้าไปที่ภายใน รู้สึกถึงอาการตุ๊บ ๆ เป็นจังหวะเดียวกับชีพจรที่เต้นตุบ ตุบ ของหัวใจ แต่ผมเป็นคนควบคุมจังหวะด้วยตัวของผมเองจึงรู้สึกว่ามันมีสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยตอนที่เข้าไปสุดมิดด้ามจังหวะหนึ่งแกรั้งเอวผมไว้บอกว่าอย่างเพิ่งขยับออก แกดึงให้ผมค้างไว้อย่างนั้น แล้วแกแอ่นก้นขึ้นในจังหวะเดียวกับที่ผมกระแทกก้นลงมาแกก็ยกก้นแกสวนขึ้นมาด้วยแล้วแกบอกว่าอย่าเพิ่งดึงออกค้างไว้อย่างนั้นผมทำตามแกบอก คราวนี้แกขอเปลี่ยนท่าบ้าง ท่อนเนื้อของแกยังคาอยู่ในลักษณะที่เข้าไปมิดด้าม ผมไม่เจ็บเลย แกจับตัวผมให้นอนลงในท่านอนหงาย แล้วตัวแกเปลี่ยนท่าช้า ๆ ดึงตัวผมให้ก้นพาดขอบเตียง แกเลื่อนเท้ามายืนที่พื้น ขณะที่ปรับท่าให้เหมาะเจาะนี้ เจ้าท่อนเอ็นของแกก็ยังคงสอดอยู่ไม่ได้หลุดออก ดังนั้น เมื่อได้ท่าเหมาะแล้ว แกจับขาทั้งสองของผมยกขึ้น แกโน้มตัวมาเลียหัวนมให้ผม แล้วขยับก้นของแกกระแทกเข้าไป ในท่าซอยเข้าออก คราวนี้ละ แกเป็นคนทำเองแล้ว แกจับให้เท้าทั้งสองข้างของผมพาดบ่าของแก ส่วนมือทั้งสองของแกกางแผ่อยู่บนพื้นที่นอน พอก้นของผมยกขึ้นแกเอาหมอนมาสอดรองใต้ก้น มันเป็นระดับองศาที่เหมาะเจาะ คราวนี้แกเริ่มซอยกระแทกเข้าไปจากช้า ๆ แล้วเร่งขึ้น จากเกียร์หนึ่ง สู่เกียร์สอง เข้าเกียร์สาม จนลูกสูบเป็นจังหวะอย่างหยุดไม่ได้เสียแล้ว ระดับความเร่งเร็วยิ่งขึ้นตามลำดับ เมื่อเครื่องร้อนปานฉะนี้ บทเพลงพิศวาสก็เข้าจังหวะจะโคนกันอย่างงดงาม เสียงแกหอบดังราวกับคนที่วิ่งมาสองร้อยเมตร สุดท้ายก่อนที่จังหวะจะช้าลงแกเกร็งตัวเต็มที่ร้องออกมาสุดเสียงอย่างลืมตัว“โอวว์.........โอย.....โอยยยยยยยยย ออ.....ออก แล้ว “ ร่างแกกระตุก ดันเจ้าท่อนยักษ์เข้าไปสุดลำเป็นเฮือกสุดท้ายก่อนที่แกจะซบตัวลงคร่อมร่างผมไว้หายใจรวยรินอย่างมีความสุข รู้สึกได้ถึงความอุ่นวาบ วาบ ในทันทีที่น้ำข้น ๆ พุ่งเข้าสู่ร่างกายของผม อาการตอดตุบ ๆ ในช่วงไคลแม็กซ์ นั้นดูแกลืมตัว ซบร่างฮวบลงนอนทาบทับผมไว้อย่างเลื่อนลอย เราปล่อยให้มันคากันไว้อยู่อย่างนั้น ไม่สนใจโลกภายนอกว่ามันจะเกิดฝนตก ฟ้าร้อง หรือ ฟ้าถล่ม โลกจะแตกแหลกสลาย เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น รสแห่งกามตัณหา มันเป็นรสของความอร่อย ติดใจ เราปล่อยให้โลกหยุดหมุน แล้วอยู่ในโลกของเราทั้งสองในชั่วครู่ใหญ่ นี่แหละ อานุภาพแห่งกามารมณ์ ซึ่งอยู่คู่โลกมานานนัปหลายหมื่นปีมาแล้ว รสชาติของมันยังอมตะอย่างไม่มีใครหลีกหนีได้ ใครได้ลิ้มชิมรสมันเข้าแล้วจะอยากลิ้มมันอีกอย่างไม่รู้เบื่อเราสุขสมด้วยกันอีกสองสามบทเพลงจนหมดเรี่ยวแรงไปทั้งคู่หลังจากนั้น เราก็มีความสุขด้วยกันเรื่อยมา เดี๋ยวนี้ผมไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ในฐานะผู้เช่าอีกต่อไป แต่อยู่ในฐานะคนในครอบครัวเดียวกันกับแกแล้ว เวลาผ่านไปสิบกว่าปีที่เราอยู่ด้วยกัน ความสุขที่เราให้ต่อกันไม่เคยเสื่อมคลาย ศิลปะของการอยู่ร่วมกันของคนที่มีความรักในเพศเดียวกันคือ ความเข้าใจอันดีต่อกัน เข้าใจในสถานภาพของเรา เปิดอกคุยกันในทุกเรื่อง แน่นอนความขัดแย้งกันก็มีบ้างเป็นธรรมดา แต่การเสียสละและ จริงใจคือหัวใจของการอยู่ด้วยกันอย่างยาวนาน ลุงแขกเป็นผู้ให้กับผมเสมอ ให้อภัย ให้คำพูดที่ไพเราะ ที่สำคัญคือ “ ให้เกียรติ “ กับผมตลอดมา ให้ความเกรงใจ ให้กำลังใจ และ เคารพในความเป็นส่วนตัว ไม่ก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัว บางคราวแกก็ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่บ้าง เพราะเราเองก็มีบ้างบางคราวที่อยากลองลิ้มิชิมรสชาติแปลก ๆ จากมิตรใหม่บ้าง ๆ แกก็เข้าใจ ไม่มีการต่อว่าอะไร ตรงข้าม หลายหนแกก็เข้าร่วมบรรเลงเพลงพิสวาสนั้นด้วยแต่ไม่ใช่ว่าชีวิตของเราหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องกามตัณหาอยู่ทั้งวี่ทั้งวันจนไม่ต้องทำมาหากินอะไร เราก็ทำงานของเราไปตามหน้าที่ วางตัวอย่างเหมาะสมในสังคม ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับเพื่อนบ้าน ไม่มีใครรู้ว่าเราอยู่กันอย่างไร ในฐานะอะไร ถึงใครจะรู้หรือสงสัยเราก็ไม่ปฏิเสธหรือเปิดเผย การใช้ชีวิตของคนเพศเดียวกันนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใดทางวงการแพทย์พิสูจน์แล้วไม่ใช่ความวิตถารหรือผิดเพศอะไร แต่คือรสนิยมปกติ ในโลกนี้มีคนที่เป็นอย่างเรา มีรสนิยมเหมือนเรามากมายหลายล้านคนทั่วโลก และ เมื่อรวม ๆ กันเข้าตั้งแต่กำเนิดโลกนี้มา และมีมนุษย์เกิดขึ้น มีคนอย่างพวกเรานี้เป็นหลายพันล้านคนแล้ว อย่างนี้จะเรียกว่าผิดปกติได้อย่างไรกัน มีมากมายที่เป็นบุคคลสำคัญ ทำประโยชน์ให้กับโลก และ ที่สำคัญที่สุดคือ พวกเรา ๆ นี่แหละที่มักได้รับพรสวรรค์ให้เป็นพวกที่ฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ ละเอียดอ่อน กลับมาเรื่องของลุงแขกของผมอีกนิดครับ ทุกวันนี้ ลุงแขกผมยังเก่งฉกรรจ์เหมือนเดิม แกดูแลสุขภาพอย่างดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกเย็นแกจะขับรถไปจอดที่สวนจตุจักร และ ออกกำลังกาย เต้นแอโรบิคไม่เคยขาด อยากรู้ว่าคนไหนคือลุงแขกของผม ก็สังเกตคนที่ผมสีดอกเลา ไว้หนวดริมฝีปาก นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้น เป้าตุง ๆ เห็นท่อนลำชัดเจนน่าจับ น่าลูบไล้ สวมรองเท้ากีฬาสีขาวออกเต้นด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงอยู่แถวหน้าสุด ท่าทางมาดแมนสุด ๆ นั่นแหละ เขาละ จงรู้ไว้เถอะ ใช่เลย.... อ้อ...ถ้าเจอแกแล้ว ทักทายได้ แกชอบสนทนากับมิตรใหม่ แกมีมนุษยสัมพันธ์ดี ผมไม่หวงแกหรอก ตรงข้ามอยากให้แกมีความสุข ได้รับไวตามินแห่งรัก หลาย ๆ อย่าง สุขเพศของแกจะได้แข็งแรงอีกเนิ่นนาน
ชอบ สว. หรือครับ หายากในคนอายุ 18 ครับ ขอบคุณครับ เสียวๆๆๆ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ {:5_119:}
หน้า:
[1]