ครูพละ
ผมจำได้ว่าเมื่อสมัยเด็กๆ ผมเกิดและโตขึ้นในครอบครัวของข้าราชการ โดยพ่อเป็นทหาร และแม่เป็นครูอยู่ที่โคราช เมื่อผมเข้าเรียนประถมที่โรงเรียนแถวบ้าน ผมก็เหมือนเด็กชายทั่วไป ที่ออกจะซนแก่นตามวัย อาจดีกว่าเด็กอื่นตรงที่ครอบเคราเราเป็นข้าราชการถึงจะชั้นผู้น้อยแต่เมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นๆแล้วทำให้ผมจัดว่าดูดี และมีฐานะ บวกกับหน้าตาที่คมเข้มเพราะปู่เป็นคนนครศรี และย่าเป็นคนอยุธยา และร่างกายสูงใหญ่แต่เด็กทำให้ผมมีลักษณะที่โดดเด่นมาแต่เล็ก และเป็นที่สนใจต่อเพศตรงข้าม และเพศเดียวกันเสมอมา ประสบการ์ณสีม่วงของผมเกิดขึ้นเมื่อตอนอยู่ ป5 ขึ้น ป6 เมื่อผมเป็นหัวหน้าชั้น และต้องรวบรวมการบ้านไปส่งครูที่บ้านพักครูในตอนเย็นวันหนึ่ง ความจริงผมควรจะนำไปส่งเสียตั้งแต่ 5 โมงแต่เนื่องจากผมมัวแต่เล่นกับเพื่อนจนลืมเวลา ทำให้ผมไปหาครูสอนวิชาพละ เมื่อตอนใกล้จะ 1 ทุ่ม ซึ่งทำให้ครูพละคงคิดว่าผมคงไม่มาแล้ว พอผมเดินเข้าไปที่บ้านสังเกตว่ามีรองเท้า 2 คู่อยู่หน้าบ้านพัก แต่ไฟกลับปิดหมด เหลือเพียงดวงเดียวทำให้ผมไม่แน่ใจว่าครูพละอยู่หรือเปล่า บวกกับความสอดรู้สอดเห็นตามประสาเด็กแก่น ผมเลยปีนดูที่รูฝาบ้านพักครูที่มีรอยแตก ปรากฏว่าภาพที่เห็นทำให้เด็กอย่างผมรู้สึก คอแห้งผาด ตัวสั่น เหงื่อแตก หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะผมเห็นลุงผู้ใหญ่บ้านกำลังนอนเปลือยกายอ้าซ่า แล้วครูพละหนุ่มรูปหล่อกำลังดูดเลียแท่งเอ็นแกอย่างเมามัน ตอนนั้นผมรู้สึกสับสนไปหมด เพราะเป็นครั้งแรกที่รู้ว่าผู้ชายก็มีอะไรด้วยกันได้ ซึ่งผมรู้เพียงแต่ว่าผู้ชาย ต้องร่วมกับผู้หญิงได้เท่านั้น และที่สำคัญ ลุงผู้ใหญ่เองก็มีเมียอยู่แล้ว หนำซ้ำ ลูกแกก็เรียน ป3 อยู่ที่โรงเรียนนี้ด้วย แท้ๆ ผมรอดูจนทั้งครู และลุงผู้ใหญ่เสร็จสมอารมณ์หมายกัน แล้วค่อยแกล้งทำเป็นเพิ่งมาถึงเคาะประตู เห็นครูพละเดินออกมารับการบ้านแบบอาการตื่นเต้น ใส่แค่ผ้าขาวม้า" เอ่อ .... มาซะดึกเชียว ครูคิดว่าเธอจะไม่มาแล้วเลยกำลังจะเข้านอน " "ขอโทษครับ คือ ผม.... เล่นกับเพื่อนเพลินไปหน่อย" เสียงผมสั่นพร่า ด้วยความที่อารมณ์กระจัดกระเจิง " เสียงสั่นเชียว ครูไม่ลงโทษหรอก แต่เอาเถอะวันนี้ครูไม่ค่อยสบาย ขอตัวก่อนน่ะ กลับบ้านดีๆละ เดี๋ยวเป็นอะไร พ่อเธอเอาครูตาย
"ครับ" ผมตอบรับ และแอบมาดูครูกับลุงผู้ใหญ่ต่อ คราวนี้ครูพละโก้งโค้งโดยให้ลุงผู้ใหญ่เสียบเข้าทางข้างหลัง สิ่งที่เห็นนับว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆ ที่เห็นคนกำลัง เอากันอยู่ ถึงจะผู้ชายก็เถอะ แต่มันก็สร้างความเร่าร้อนให้ผม นับแต่บัดนั้นเลยทีเดียว จนกระทั่งผมจบ ม.3 และหยุดการเรียนไป 1 ปีเพราะสอบเข้าโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดไม่ได้ ทำให้ผมอยู่ที่บ้าน ซึ่งทำให้ผมมีเวลาว่างในการทำอะไรๆ ผมเลยไปช่วย ลุงศักดิ์แกเปิดร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้า และทำไฟอยู่แถวบ้าน ลุงศักดิ์แกมีลูกชาย 2 คน คนโตชื่อ โก้อายุแก่กว่าผมซัก 2 ปี ส่วนคนเล็กชื่อก้องอายุเท่าผม เราเลยเป็นเพื่อนกัน พี่โก้แกเป็นคนขี้เกียจเรียน จบ ป6 ก็ออกมาทำงานช่วยพ่อ พี่โก้ทำงานทุกอย่าง โดยเฉาะงานใช้แรงงาน ทำให้แกหุ่นกำยำ ล่ำสัน บวกกับหน้าตาเหมือนพ่อ ที่ออกคมๆ จัดว่ารูปหล่อทีเดียว ส่วนก้องออกจะศิลปินๆ ผอมแห้ง แรงน้อย เลยไม่ค่อยสนใจงานเท่าไหร่ ทำให้เมื่อออกไปซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือรับงานนอกจะมีผม กับพี่โก้ไปกันแค่ 2 คนเสมอๆ
พี่โก้มีแฟนแล้ว ส่วนผมเองเนื่องจากเป็นคนหน้าตาดี ทำให้สาวๆในหมู่บ้านมักมาแซวให้ท่า เสมอๆ พี่โก้ก็จะยุส่ง ผมเองก็จีบไปงั้นๆ ตามประสาวัยรุ่น จนวันหนึ่งเราไปรับงานต่างอำเภอ ทำให้ต้องนอนค้างที่บ้านที่ไปทำงาน โดยผมกับพี่โก้เรานอนกันแค่ 2 คน ฟ้าฝนก็เป็นใจ ตกพรำตลอดคืน จริงๆ ผมเห็นหุ่นพี่โก้มานักต่อนัก แต่ไม่เคยจะสนใจมากอาจเพราะมัวแต่ง่วนกับเรื่องงาน แต่ในสภาพที่พี่โก้นอนใส่กางเกงบอลตัวเดียว เอาแขนตัวเองหนุนหัว อ่านหนังสืออ่านเล่น ทำให้ผมลอบดูแกด้วยความรู้สึกเพลินไม่ได้ ภาพของชายหนุ่มหุ่นล่ำ อายุราว 18-19 หนุนท่อนแขนแข็งแรง ขาใหญ่มีขนดกดำ ยกชันเล็กน้อย ส่วนกางเกงบอลก็ลู่แนบเนื้อจนเห็นเป็นท่อนลำ ภาพของครูพละ และลุงผู้ใหญ่ ในวัยเด็ก มันโผล่ขึ้นมาเฉยๆ ผมจ้องแกอยู่นาน แกอ่านหนังสือจนหลับ พอแกกรน ผมแอบเอามือลูบเล่นตั้งแต่ท่อนแขน รักแร้ หัวนม แผ่นอก สะดือ หน้าท้องที่ดกดำด้วยไรขน ท่อนเอ็นใหญ่ที่อ่อนตัว ลงมายัง ท่อนขา แกยังคงไม่รู้ตัว ผมเลยเอาปากขบเบาๆ ที่ท่อนเนื้อของแก คราวนี้แกสะดุ้ง ตื่นขึ้นมา "ชาติทำอะไรอะ" "เอ่อ.... เปล่าครับ.. พอดีผมจะข้ามไปหยิบหนังสือมาอ่านเล่น เอื้อมผิดท่าน่ะครับ "
"แล้วไป คิดว่าจะอมของพี่ .... ตกใจหมด " "โถ่กลัวไปได้ ผมไม่ทำหรอก ใช้มือชักไม่ดีกว่าเหรอ..."ผมพูดพรางเอามือวางแหมะพอดีเป้าแล้วบีบเบาๆ
"อย่า... เดี๋ยวลุก เอ็งจะลำบาก" "ลำบากยังไงล่ะ " "นอนเถอะพรุ่งนี้พี่ต้องรีบตื่นไปซื้อของในเมือง" พี่โก้นอนตะแคงพลิกไปอีกด้าน เอาเป็นว่าคืนนั้นของผมจบลงด้วยการรอดตัวไปได้ แต่ผมก็อดจะเสียวนิดๆไม่ได้ ....... หลังจากวันนั้นผมรู้สึกแปลกๆกับพี่โก้ ชอบแอบมองแก ดูแกทำงานจนบางทีแกเห็นเข้าแกก็เอ็ด " เอ้ายืนใจลอยอยู่นั่นแหล่ะ มาช่วยกันหน่อยดิ จะได้เสร็จไวๆ " ตอนแกอาบน้ำ ผมก็แอบดูแก บางทีแกก็ชักว่าวไปด้วย ผมเองก็มีความสุขจริงๆ แต่ใจหนึ่งผมเองก็ไม่ชอบ มันเหมือนยอมรับตัวเองไม่ได้ ว่าแอบชอบพี่โก้เข้าให้แล้วซิ........ ผมกับพี่โก้ทำงานด้วยกันทุกวัน บางทีผมนั่งมอไซค์ ซ้อนท้ายพี่โก้ ผมก็กอดแกเข้าให้ มันมีความสุขจริงๆ พี่โก้เองหลังๆ ก็ดูจะไม่ว่าอะไรเวลาที่ผมเข้าไปกอดแก หรือบางทีจับท่อนเอ็นแกเล่น แกก็ปล่อย บางทีมักพองตัวดุกดิกเล่น แต่พอผมจะชักว่าวให้พี่โก้กลับปัดมือผมออก แกบอกพอแล้วเดี๋ยวเป็นเรื่อง อย่างไรเสียแกก็ยังคงเป็นแฟนกับ ส้มสาวโรงงานที่มาเกาะแกะ แกอยู่นานเป็นปี จนมีอะไรกันแล้ว แล้วก็เหมือนฟ้าผ่าลงกลางศรีษะ เมื่อวันหนึ่งพี่โก้แกบอกกับผมว่า แกตกลงใจจะแต่งงานกับส้มสิ้นปีแกอยากรับงานใหญ่เก็บเงินไว้แต่งเมียโดยพี่โก้ขอร้องให้ผมช่วยเป็นลูกมือ เพราะทำงานเข้าขากันได้ดี ผมต้องทนทรมานทำงานอีกหลายเดือน เพื่อให้พี่โก้ได้สมหวัง จนเมื่อสัปดาห์สุดท้ายที่อยู่ด้วยกัน ผมบอกกับแกว่าผมจะเข้ากรุงเทพไปเรียนต่อ พี่โก้ดูๆแกอึ้งๆ แกเข้ามาตบบ่าอวยพร คืนนั้นผมกับพี่โก้ดื่มเหล้าด้วยกันแต่ไม่ถึงกับเมา พี่โก้แกถามผมว่า
"ชาติคิดยังไงกับพี่ หือ" "ผม.... ผมชอบพี่ครับ .....ผม......ชอบมานานแล้ว" "แต่เราเป็นผู้ชายน่ะ มันเป็นไปไม่ได้ แล้วพี่ก็จะแต่งงานกับส้มเดือนหน้าแล้ว.... แต่พี่ก็ไม่อยากเสียเราไปเลย" ดูเอาเถอะ กระทั่งขนาดนี้ยังคิดจะหลอกเอาไว้ใช้อีก "ผมก็ไม่รู้.... ก็มันชอบไปแล้วน่ะ ......ช่างเถอะยังไงพรุ่งนี้ผมก็จะเข้ากรุงเทพแล้ว คงไม่อยู่ทันวันแต่งพี่ ผมขอโทษด้วยน่ะ....เพราะผมต้องไปจัดการเรื่องเรียนต่อให้ทัน... มันสำคัญกับผม" "พี่ก็อวยพรเราล่ะกัน......เอกหนาวไหม ....... ให้พี่กอดเอกน่ะคืนนี้" "ครับ" คืนนั้นทั้งคืนผมนอนภายใต้อ้อมกอดพี่โก้ และเราก็มีอะไรกันเป็นครั้งแรก ครั้งเดียว ระหว่างผมกับพี่โก้......อาจเพราะแกอยากตอบแทนในมิตรภาพ หรืออารมณ์พาไปก็แล้วแต่ มันก็ทำให้ผมทะยานเข้าสู่โลกสีม่วงเข้าให้แล้ว พี่โก้ลูบไล้ร่างกายผมช้าๆ ด้วยมือสากๆ หลังจากอารมณ์ผมเริ่มคุกกรุ่น แกพลิกร่างทับบนร่างผม เราแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน ผมเองเพิ่งเคยเป็นครั้งแรก มันอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น ส่วนพี่โก้แกผ่านสาวมาเยอะดังนั้นการเล้าโลมจึงลื่นไหล และต่อเนื่อง เสื้อผ้าของเราถูกถอดออกจากกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสแก่นกายพี่โก้แบบเต็มที่ พี่โก้ค่อยๆยกขาผมพาดบ่าช้าๆ จากนั้นก็กดลำแท่งเข้ารูก้นผมอย่างช้าๆ ผมเจ็บมากจนน้ำตาเล็ด ดีแต่ว่าได้เอาน้ำมันเบบี้ออยส์ ทาล่วงหน้าไปก่อน แต่มือสากที่บีบไล้นมของผมมันก็ทำให้ผ่อนคลายความเจ็บลง ส่วนความเสียวซ่านก็มีเพิ่มขึ้นๆ .......... จนกระทั่งพี่โก้ฉีดหลั่งเข้าไปในร่างกายผมจนหมด หลังจากนั้นเราก็กอดกันยันเช้า พอเช้าเราตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว ทำเหมือนเมื่อคืนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น แกพาผมมาส่งที่สถานีรถไป เราโบกมือให้กันจนรถไฟออกไป และนั่นคือครั้งสุดท้ายกับชายคนแรกของผม
ผมมาอาศัยกับญาติ และเข้าเรียน โรงเรียนช่างแห่งหนึ่งแถวปทุมธานี ตลอด 3 ปีที่เข้าเรียนโรงเรียนช่างไม่มีอะไรหวือหวามากนัก เรื่องของพี่โก้ค่อยๆ เลือนหายไปจากชีวิต แต่ฝังอยู่ในความทรงจำโดยไม่ลืม ชีวิตนักเรียนช่างก็เหมือนทั่วๆไป กินเหล้า ปี้หญิง ตีกัน ตามสไตล์วัยรุ่นซึ่งผมเองก็อยู่ในวังสนนี้เหมือนกัน และในบรรดาเพื่อนที่ผมสนิทที่สุดคือ....... เอก เอกเป็นเด็กค่อนข้างห้าว กร้าว และเถื่อนในสายตาคนอื่นๆ แต่ในความคิดของผมแล้วเอกค่อนข้างมีความจริงใจ อาจเป็นเพราะเราเข้ามาเรียนเมื่ออายุค่อนข้างจะมากกว่านักเรียนคนอื่นๆ ทำให้เราเข้าใจกันดี เอกเป็นคนผิวขาวกว่าผม สูงไร่เรี่ยกันแต่เอกดูจะอวบล่ำกว่าผมนิดหน่อย แต่มันจัดว่าหน้าตาหล่อเหลาเอาการทีเดียวในสายตาของผม โดยเฉพาะเคราเขียวครึ้มมากกว่าคนวัยเดียวกัน กับคิ้วที่ดกได้รูป ทำให้มันดูน่ามองเวลาเผลอๆ จริงๆแล้วระหว่างผมกับเอกก็เป็นเพื่อนที่ดี ไม่มีอะไร เพียงแต่เมื่อตอนปิดเทอมภาคแรก ปีสุดท้าย เราต้องไปออกค่ายพัฒนาด้วยกัน ตามนโยบายของโรงเรียนที่ต้องการให้นักศึกษาได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ และได้ประสบการณ์ในวิชาชีพ ที่ค่ายก็เป็นเรือนนอนใหญ่ๆ แบบทหารเยงแต่มีมุ้งให้และนอนมุ้งละ 2 คนซึ่งผมกับเอกได้นอนด้วยกัน ในช่วงเวลาทำงานตอนกลางวันก็ไม่มีอะไรมากต่างคนต่างทำงานตามคำสั่ง ตกเย็นก็กินข้าว บางทีก็มีเหล้าบ้างแต่กินมากคงไม่ได้เพราะมีอาจารย์คอยคุม แต่ก็พอกรึ่มๆให้ผมและไอ้เอกเกิดอาการตะหงิดๆ จริงๆแล้วผมแอบมองไอ้เอกมาหลายเดือนแล้วเพียงแต่มันไม่รู้ตัว จนเพิ่งวันนี้แหล่ะที่สายตาผมได้ประสานอย่างจังๆ จนผมเองต้องหลบตา มันต้องรู้แหงๆ ว่าผมคิดอะไร และในคืนหนึ่งของการเข้านอน ผมและเอกมีอาการเมานิดๆ แขนของผมไปชนกับแขนไอ้เอกมันเหมือนมีกระแสอะไรบางอย่างมันวูบๆ ตลอดเวลา คราวแรกผมคิดว่าผมคงคิดเองไปฝ่ายเดียว แต่คราวนี้ไอ้เอกมันเอามือมาลูบไล้มือผม ผมเองก็ไม่ขัดขืน หัวใจผมเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะรู้อยู่ว่าอะไรจะเกิดต่อไป ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น แต่ก็กลัวๆ ว่าเกิดทำอะไรไปเดี๋ยวคนอื่นๆจะรู้ เพราะมีเพียงมุ้งที่กั้นเรา 2 คนจากคนอื่นๆ ถ้าเสียงเล็ดลอดคนอื่นคงได้ยินไปด้วย แต่อารมณ์ที่สะสมมาหลายเดือน เริ่มคุกกรุ่น ผมเองไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆก็นึกถึงพี่โก้ขึ้นมาเฉยๆ ตอนนี้ไอ้เอกมันไม่ได้รุกแค่มือมันพลิกตัวมากอดผม และเอามือลูบไล้ตัวผมซึ่งใส่เสื้อกล้ามบางๆ กับกางเกงบอลเบาๆ เท่านั้น ไอ้เอกก็เช่นกัน แม้จะในความมืด แต่แววตาของไอ้เอกชัดแป๋วเป็นประกาย ตอนนี้จมูกมันเริ่มฟุดฟิดแถวๆ ซอกคอผมแล้ว ผมเอามือลงไปเขี่ยที่หว่างขาตอนนี้ของไอ้เอกแข็งโป๊ก ใหญ่มาก คลำดูก็พอรู้ว่าขนาดเขื่องเอาการ เพียงแต่ปลายออกแหลมๆ แปลกๆเหมือนหัวปลาไหล ส่วนมือไอ้เอกก็ป้วนเปี้ยนระหว่างหน้าท้อง กับหว่างขาผมเช่นกัน ขนาดของผมใหญ่กว่าไอ้เอกอย่างไม่ต้องสงสัย เอกมันค่อยๆขึ้นคล่อมผม เราแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มแต่ระมัดระวังที่สุด บางทีมีเสียงดูดปากจ๊วบ เล็ดลอดออกมา จนผมตกใจ ไอ้เอกมันแกล้งทำเสียงกรนกลบเกลื่อน จนผมอดจะขำไป สยิวไปไม่ได้ แต่คืนนั้นก็จบลงที่เราต่างฝ่ายต่างแค่ใช้มือช่วยกัน ...... หลังจากคืนนั้น เราก็มีอะไรกันแทบทุกคืน เพียงแต่ไม่ได้สอดใส่ให้กันเท่านั้น มีครั้งหนึ่งที่เอกมันขอเข้าข้างหลัง แต่ผมไม่ยอมกลัวว่าเสียงมันจะดังจนคนอื่นรู้ มันเลยแค่เอาแท่งทวนมาถูไถแถวร่องก้น ซึ่งผมเองก็มีความสุขเพียงพอแล้ว หลังจากกลับจากค่าย เราก็ใช้ชีวิตตามปกติเด็กช่างเหมือนเดิม นานๆจะนัดกันไปมีอะไรข้างนอกส่วนใหญ่ก็จะใช้ห้องน้ำโรงหนังบ้าง บ้านไอ้เอกตอนไม่มีใครอยู่บ้าง แต่ก็นานๆทีเพราะเวลาไม่อำนวยมากนัก ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้เอกดำเนินไปเหมือนแฟนกัน เพียงแต่หลบๆซ่อนๆ ไม่ให้ใครรู้เวลาอยู่กับเพื่อน เราก็เฮฮาพาโวย แซวหญิง จีบสาวเหมือนหนุ่มๆ ทั่วไป แต่ไอ้เอกมันเสียตรงขี้หึง เวลาเห็นผมทำดีกับใครหน่อยมันเป็นต้องงอน แกล้งไม่พูดต้องให้ผมง้อ จนบางทีเพื่อนๆถึงกับแซว ..... ทีมันไปจีบสาวผมยังไม่เห็นหึงมันเลย "จบแล้ว***จะไปเข้าไหนว่ะ ชาติ" "ไม่รู้ว่ะ แล้ว***ล่ะ " "พ่อ***อยากให้***เรียนตำรวจ แต่***อยากต่อมหาลัยว่ะ" "***คงเข้าราชมงคลแถวนี้แหล่ะ ใกล้บ้าน" "***ไปสอบตำรวจเป็นเพื่อน***หน่อยเด่ะ ขาด***แล้วมันเหงาๆ" "เอาก็เอา ...... ที่ไหนล่ะ" "โรงเรียนพลตำรวจกำลังเปิดรับว่ะ แต่ที่โคราชแหน่ะ ถือว่านั่งรถไปเป็นเพื่อน***ล่ะกัน" เอาเป็นว่าผมต้องไปร่วมสอบเป็นเพื่อนไอ้เอก ผลกลายกลับว่าผมสอบได้ แต่ไอ้เอกไม่ได้ ผมก็เลยต้องเรียนต่อโรงเรียนพลตำรวจ โดยไม่ตั้งใจ เพราะสอบราชมงคลไม่ได้ ส่วนไอ้เอกก็ไปลงรามแล้วชีวิตผมกับไอ้เอกก็โคจรห่างจากกันนับแต่บัดนั้น แต่การเรียนที่โรงเรียนพลตำรวจกลับเปิดศักราชใหม่ในโลกสีม่วงอมเทาให้ผมมาจนทุกวันนี้.........หลังจากผ่านการสอบเข้ามาเรียนที่ โรงเรียนพลตำรวจ โคราช ผมก็กลับมาทำตัวปกติ จริงๆแล้วถึงผมจะเคยมีอะไรกับผู้ชายมาแล้วถึง 2 คนแต่ด้วยวัยที่ยังไม่มากนัก และไม่เจนจัดต่อโลกกว้างซักเท่าไหร่ ผมจึงแอบหวังว่าผมคงกลับไปมีชีวิตแบบชายแท้ๆ ............... โดยเฉพาะเมื่อเข้ามาเรียนที่โรงเรียนลูกผู้ชายอย่างนี้ผมยิ่งวาดหวังว่าเมื่อจบออกไปรับราชการ จะแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว และเริ่มต้นชีวิตใหม่ซักที การเข้าเรียนในโรงเรียนพลตำรวจ ก็ไม่ถึงกับลำบากลำบนอะไรเท่าไหร่ โดยผมพักที่หอพักซึ่งก็คล้ายโรงนอนทหารคือเป็นแถวยาว ดีแต่ว่ามีเตียงใครเตียงมัน ฉะนั้นการที่จะมีเรื่องอะไรเกินเลยจึงเป็นการยาก ..... เนื่องจากรูปร่างที่สูงใหญ่ บวกกับหน้าตาที่ได้รับมาจากทางพ่อแบบเข้มๆ ทำให้ผมค่อนข้างจะโดดเด่นอยู่เหมือนกัน อาจารย์มักเรียกผมเสมอๆ และมีอาจารย์ท่านหนึ่ง แกเป็นระดับสารวัตรมาสอน หุ่นดี มาดเท่ห์มาก หน้าตาก็หล่อเหลา ซึ่งผมชอบแอบบมองแกเสมอๆ เวลาที่สอนโดยเฉพาะบางวันที่อากาศร้อน แกจะใส่เสื้อยืดสีขาวรัดแน่น เห็นรูปร่างกำยำ ล่ำสัน หัวนมขึ้นรูปสวยจนแอบบจินตนาการว่ากำลังเลียไล้อยู่ไม่ได้ แต่ก็ทำได้แค่นั้น เพราะภรรยาแกค่อนข้างขี้หึง และตามคุมแจ ส่วนตัวแกเห็นเขาว่าค่อนข้างเจ้าชู้เอาการ เพราะเพื่อนบางคนเจอแกไปเดินกับผู้หญิงอีกคนเกาะแขนกันแจที่ในจังหวัด ( เมียแกอยู่สระบุรี ) ดังนั้นโอกาสที่จะมาเจอในตัวเมืองโคราชจึงออกยากซักหน่อย แล้ววันหนึ่งผมก็มีโอกาสได้เข้าใกล้ชิดแก โดยแกเรียกให้ผมเข้าไปช่วยงานเอกสารส่วนตัว ซึ่งทำให้ผมอยู่ใกล้ชิดแกเป็นเวลานานจนเพลินตา มีวันหนึ่งเมียแกมารับพาไปงานของผู้ใหญ่ในจังหวัดด้วยกัน แกเปลี่ยนชุดในห้อง คราวแรกผมจะเดินออกไป "ไม่เป็นไรหรอกชาติ ผู้ชายด้วยกัน เดี๋ยวยังไงเอาเสื้อผ้าฝากไปเก็บที่ห้องพักที" "ครับ" ผมรับคำ แต่ก็แอบดูแกเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบซึ่งๆหน้าจนเสร็จ แกจัดเป็นคนรูปร่างดี ถึงจะเริ่มมีพุงน้อยๆตามวัย แต่โดยรวมๆ ดูแน่นมาก โดยเฉพาะท่อนขาที่ใหญ่ แข็งแรง และมีขนดก ดูดีจนผมแอบมองไม่วางตา คงเนื่องจากเป็นนักรักบี้เก่า ทำให้หุ่นแกถึงได้ ล่ำสันมากๆ ผมแอบดูตรงซอกขาเห็นขนดกแพลมออกมาจากขอบกางเกงในหลายเส้น ส่วนท่อนเนื้อถึงแม้ยามปกติยังอดกลืนน้ำลายถึงความใหญ่ไม่ได้ " ถ้าได้มีอะไรด้วยจักเป็นพระคุณจริงๆ "ผมคิดในใจโดยหารู้ไม่ว่าวันหนึ่งในอนาคตฝันผมได้เป็นจริง หลังจากแกเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วออกไป ผมเอาเสื้อผ้าของแกไปเก็บยังห้องพักของแก ผมเหลือบมองกองเสื้อผ้าเก่า เห็นกางเกงในสีดำที่แกใส่แล้ว หยิบขึ้นมาดู มีขนติดอยู่ 1 เส้น หยิกหยอยแต่ยาวเอาการ มิน่าถึงได้แลบออกมาซะขนาดนั้น กลิ่นตรงเป้ากางเกงในนอกจากมีกลิ่นอับปกติ ยังมีคราบเหนียวแห้งกรังติดอยู่นิดหน่อย ผมสูดดมจนพอใจและออกมา "เฮ้ยมรึง เข้าไปทำอะไรห้องครูว่ะ" ไอ้อ๋องเพื่อนซ่าของผมเดินผ่านมาพอดี
"กรู เอาของแกมาเก็บ ทำไมว่ะ" "เฮ้ยไอ้ เอี้ย.... มีหนังสือโป๊ป่าวว่ะ เห็นว่าแมร่ง เจ้าชู้ฉิ...หาย เลยนี่หว่า" "กรูไม่รู้ แล้วมรึงไปไหนว่ะ" "ไอ้เล็กมันชวนไปดูหนังโป๊ บ้านแฟนมัน ไปป่าว" "เออ ดีเหมือนกัน " ไอ้อ๋องเพื่อนข้างเตียงผมเอง ไอ้นี่มันเถื่อนๆ เหมือนเด็กบ้านนอก พ่อมันเป็นทหารเหมือนผม แต่มันดำแม่ค้าในตลาดชอบชมว่ามันหล่อ แต่ผมว่ามันคงหล่อแบบลาวๆ แต่ของมันจัดว่าใหญ่และสวยใช้ได้ ผมเคยแอบดูตอนเช้าที่มันตื่น ของมันแข็งทะลุกางเกงในโผล่หัวออกมาให้เห็น นี่ถ้าไม่ติดว่าคนนอนเยอะๆ ผมคงแอบดูดไปแล้ว ส่วนไอ้เล็ก ผมไม่ได้สนิทกับมันเท่าไหร่ อาจเพราะมันเป็นคนท้องถิ่น ถึงจะนอนที่โรงเรียน แต่พอเลิกเรียนมันก็มาคลุกกับแฟนมันจนถึงเวลาเข้าโรงนอน บ้านมันอยู่ใกล้โรงเรียนนิดเดียว เดินไม่เท่าไหร่ ส่วนบ้านแฟนมันก็ห่างไปอีกหน่อย วันนี้ครอบครัวแฟนมันไปงานบวชญาติ ทำให้มันมีข้ออ้างกับครูเวรในการออกมาข้างนอก ส่วนผมกับไอ้อ๋อง ก็เลยรับอานิสงค์เพราะการไปนอนบ้านผู้หญิงอาจมีเรื่องเสียหายได้ง่าย เลยให้ผมกับไอ้อ๋องมาเป็นเพื่อน จริงๆแล้ววันนี้ก็ไม่เข้มงวดเท่าไหร่ เพราะครูชั้นผู้ใหญ่ไปงานผู้ใหญ่ในตัวจังหวัดเสียหมด เหลือครูเวรระดับจ่าไม่กี่คนซึ่งแกก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่อยู่แล้ว พอไปถึงบ้านแฟนไอ้เล็ก แฟนมันก็หลบฉากไปนั่งเล่นห้องอื่นปล่อยให้ ผม ไอ้อ๋อง และไอ้เล็กดูหนังโป๊ที่ไอ้เล็กหยิบมาจนตาแฉะ เรื่องต่อเรื่อง ม้วนต่อม้วน ( สมัยนั้นยังมีแค่วีดีโออยู่ ) คราวนี้ดูไปๆ บวกกับฤทธิ์เบียร์ทำให้ไอ้อ๋องมันเริ่มหงี่แล้วซิ ส่วนไอ้เล็กมันหลบฉากออกไปจู๋จี๋กับแฟนแล้ว "เฮ้ยพวกมรึงดูกันเองน่ะ วันนี้พวกมรึงก็นอนในห้องนี่แหล่ะ กรูง่วงแล้ว เดี๋ยวไปนอนเป็นเพื่อนดาวมัน..."ไอ้ห่... หงี่แล้วดอดไปล่อแฟนน่ะซินึกว่ากรูไม่รู้ ผมกับไอ้อ๋องดูไปเรื่อยๆ ผมนั่งหลังไอ้อ๋องสังเกตมันเริ่มเอามือลูบเป้าบ่อยๆ ของมันคงแข็งแล้ว ห้องก็ไม่มีแอร์เปิดแต่พัดลม มันเลยถอดเสื้อดู ผมสังเกตหุ่นไอ้อ๋องจัดว่าดีมากทีเดียว ถึงตัวไม่สูงใหญ่อย่างผม แต่มันออกหนาล่ำ มัดกล้ามขึ้นสวยชัดเจนกำลังดี ถึงตัวจะคล้ำจัด แต่ผิวละเอียดขนตามร่างกาย ก็กำลังดี ไม่ดกมาก แต่ก็พอดูแล้วเซ็กส์กำลังดี ที่ชอบที่สุดคือส่วนคอและไหล่ ที่หนาบึก ได้ส่วนส่วนหน้าออกแบบอีสานๆทั่วไป แต่คิ้วหนา ตาคม ดูแล้วแมนดี
แล้วยิ่งมันกำลังหงี่ง่านอย่างนี้ ผมเองแทบไม่เป็นอันดูหนัง เพราะพาลคิดถึงไอ้สิ่งที่มันเคยแลบโผล่พ้นขอบกางเกงในมาแล้วชวนให้สยิว ผมแกล้งเอามือใหญ่สากของผมไปแตะที่ไหล่มัน มันสะดุ้งหันมามองแล้วยิ้มนิดหน่อยแล้วไม่สนใจ คราวนี้เลยลูบไล้เบาๆ แบบหมาหยอกไก่ มันไม่ว่าอะไร คราวนี้ผมเอามือเขี่ยซอกรักแร้มันเล่น เอาแบบวัดใจไปเลยว่ามันจะว่ายังไง นอกจากมันไม่ว่าคราวนี้มันแหกขาให้ผมเห็นเป้าตุงๆของมันชัดเจนขนาดดันกางเกงบอลจนโด่งเป็นลูก
"เงี่ย...น ว่ะ ชาติมรึงชักว่าวให้กรูหน่อยเด่ะ" "ไอ้สัด พูดจริงพูดเล่น" "ก็มรึงเล่นลูบตัวกรู จนกรูทนไม่ไหวแล้วมรึงต้องรับผิดชอบ เอาน่าถือว่าช่วยเพื่อน"
คราวนี้มันยืนหันมา เป้ามันก็เลยโด่งชี้หน้าผมพอดี ผมเลยจับมันถอดกางเกง แล้วใช้มือช่วย มันบิดครางไม่เป็นภาษา มันขอให้ผมอมให้ ผมก็ทำตามเพราะจะว่าไปผมเองมีอารมณ์สะสมตั้งแต่ตอนเย็นที่ครูสารวัตรแกเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ผมดูดอมให้ไอ้อ๋องจนมันแตกคาปาก น้ำมันเยอะมาก อาจเพราะไม่ค่อยออก จากนั้นมันก็ช่วยชักว่าวให้ผมจนเสร็จ หลังจากนั้นเราก็นอน โดยไม่ได้พูดอะไรกัน หลังจากวันนั้นผมกับไอ้อ๋องก็เลยกลายเป็นแฟนกัน โดยเพื่อนๆไม่รู้ โดยเพื่อนๆคิดว่านอนติดกัน เลยสนิทกัน แต่บางทีพอดึกๆ ไอ้อ๋องมันก็มุดออกจากมุ้งมันมานอนมุ้งผม โดยมันจะนอนทับตัวผมและปล่อยให้ลมหายใจรดซอกหูจนผมหลับ พอใกล้สว่างมันก็จะกลับไปที่มุ้งมัน ซึ่งโชคดีที่เตียงผมอยู่เตียงสุดท้ายและมีตู้บังปลายเตียงทำให้เป็นซอกที่เหมาะเจาะไม่มีใครเห็นส่วนมุ้งก็สีเข้มมาก มองไม่เห็นว่าทำอะไร บางคืนไอ้อ๋องมันเสี้ยนจัด งัดเคมันออกมาถูร่องก้นผมจนแตกก็มี แต่ไอ้นี่มันชอบครางเวลาเอาผมต้องแอบเอามือปิดปากมันบ่อยๆ .......... ช่วงวันหยุดเป็นเหมือนสวรรค์ของผมกับไอ้อ๋อง เพราะเพื่อนๆจะกลับบ้าน เหลือแต่ผมกับไอ้อ๋อง เพราะบ้านอยู่ไกล อีกทั้งขี้เกียจกลับ ส่วนคนอื่นๆ ถ้าไม่กลับก็จะไปเที่ยวบ้านคนโน้นคนนี้ ทำให้ห้องนอนเหลือคนไม่ถึง 10 คน และก็นอนกันไว หลับลึกอีกต่างหาก โดยมากพวกที่นอนใกล้ๆผมจะกลับกันหมดด้วยทำให้ผมกับไอ้อ๋องยิ่งสะดวกมากขึ้น "วันนี้ขอกรูเข้าข้างหลังน่ะชาติ กรูอยากจริงๆ" "เฮ้ย จะดีเหรอของมรึงออกใหญ่ปานนั้น มีหวังกรูฉีกแน่"
"น่าที่รัก ขอทีน่ะจ๊ะ" "มรึงไม่ต้องมาอ้อน กรูไม่เอากรูกลัว" "น่าขอเถอะ ไม่งั้นต่อไปกรูไม่มานอนแล้วน่ะ" มันออดอ้อนอยู่นาน อีกทั้งเล้าโลม จนผมตัวอ่อนใจอ่อน มันให้ผมนอนคว่ำ ยกก้นโด่งจากนั้นมันก็เอาวาสลิน( เตรียมมาดีจริงๆ ) ทาร่องก้นผม และทาหัวดอร์มัน และค่อยๆดันช้าๆ ผมทั้งจุกทั้งเจ็บ แต่ก็ไม่กล้าร้องกลัวคนอื่นที่อยู่ด้วยจะได้ยิน จนในที่สุดไอ้อ๋องก็ดันช้าๆ และซอยถี่ขึ้นๆ ส่วนมือมันก็จับนมผมบีบไปบี้หัวนมไป ปากลิ้นก็ไซร้หลังหู จนมันเสร็จแล้วมันก็อมให้ผมเป็นครั้งแรกจนแตกคาปาก มันบอกตอบแทนที่ให้เอาประตูหลัง ผมกับไอ้อ๋องมีอะไรกันจนเราเรียนจบ และบรรจุเป็นตำรวจทั้งคู่ โดยไอ้อ๋องมันเลือกบรรจุที่ขอนแก่น ส่วนผมเลือกกรุงเทพ ตอนหลังผมได้ข่าวว่ามันมีเมียมีลูกแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยลืมมัน มันเองก็ยังคงโทรหาผม มันบอกว่ามันไม่มีทางลืมผมได้เพราะเป็นรักแรกของมัน ....... ตำรวจก็ปากหวานอย่างนี้ทุกคนแหล่ะ ผมเองก็เป็น...... หลังจากจบจากโรงเรียนพลตำรวจผมเข้าบรรจุที่ สน.ลาดกระบัง ชีวิตตำรวจชั้นผู้น้อยก็ลำบากหาใช่สุขสบายอย่างที่คิด ผมทำหน้าที่เป็นสายตรวจ และเนื่องด้วยหน้าที่ และ หน้าตารูปร่างที่ดูใช้ได้ ทำให้มีสาวๆเริ่มมาเกาะแกะผมเข้าให้แล้ว ตอนนั้นเองถึงผมจะโชกโชนกับโลกสีรุ้ง หรือสรวงสวรรค์อีเดนอะไรก็แล้วแต่จะสรรหามาเรียก แต่มันก็เป็นรักแบบเด็กๆ ผมยังไม่ยอมรับเต็มตัวนักหรอกว่าชอบผู้ชายมากกว่าผู้หญิง มันก็จริงนี่เพราะถึงผมจะเคยโดนเสียบแต่ผมเองก็เคยเสียบเขาเหมือนกัน หนิงเป็นสาวแม่ค้าขายอาหารอีสานอยู่ใกล้ สน. ผมกับพรรคพวกมักเข้าไปกินดื่มเสมอ เวลาที่เงินเดือนออก หรือได้เงินพิเศษมา ( สุจริตน่ะครับ เช่น ช่วยไปโบกรถให้บ้านพ่อค้า คหบดี เวลาทำบุญบ้าน งานบวช แต่งงาน ฯลฯ) หนิงเคยผ่านการมีผัวมาแล้ว ผัวเป็นคนขับรถสิบล้อ แต่เลิกกันเพราะผัวเจ้าชู้ และขี้เหล้า ทิ้งลูกชายไว้ 1 คน ยังเด็กๆ เนื่องจากผมเป็นคนรักเด็ก อารมณ์ขัน ขี้เล่น ทำให้ลูกชายหนิง ติดผมแจ ซึ่งทำให้หนิงเองรู้สึกดีกับผมมาก ทั้งๆที่ผมเองไม่ได้คิดอะไรนัก ถึงผมจะมีเพื่อนฝูงมากมาย แต่โดยมากก็ทยอยแต่งงานไปทีละคน 2 คน ทำให้บางวันหยุดที่ผมไม่รู้จะไปไหนกับใคร และความเหงาของหนิง ทำให้เราสนิทกัน และเกินเลยถึงขั้น เธอสารภาพรัก และขอแต่งงานกับผม ผมว่าคนทุกคนใครๆก็คงเคยคิดว่าซักวันจะแต่งงาน ยิ่งสมัยเด็กๆ แล้วผู้ชายโดยมากคงเคยถูกล้อว่าเป็นแฟนใคร บางคนเคยเล่นเป็นผัวเป็นเมีย เล่นพ่อแม่ลูก และก็อีกมากของผู้ชายที่แอบคิดว่าวันหนึ่งที่เจอสาวงามแสนดีที่ตนหลงรัก จะขอเธอแต่งงานในบรรยากาศค่ำคืน ริมทะเล ใต้แสงดาวระยับ........... แต่ในความเป็นจริงที่ทำเอาผมถึงกับอึ้งคือถูกสาวแม่หม้าย หน้าตาธรรมดาๆ ขอแต่งงานในร้านขายลาบเป็ด กลางหมู่คนขี้เมาร้อยพ่อพันแม่นับสิบคนที่ ไม่สนใจต่อสิ่งรอบข้าง ถึงมันจะไม่ใช่โลกแห่งความฝันเหมือนเทพนิยาย ผมก็ตกลงแต่งงานกับเธอ ด้วยเหตุผลเดียวคือความเหงา และนั่นคือตราบาปที่ผมเองจะจดจำไปชั่วชีวิต งานแต่งงานเราเป็นไปด้วยความเรียบง่าย มีแขกเหรื่อเพื่อนสนิทไม่กี่คน ผมไม่ได้เชิญใคร โดยให้เหตุผลว่าเกรงใจ แต่จริงๆผมคงเขินมากกว่าถ้าเจอบรรดาแฟนเก่า อดีตแฟน หรือ ผัวเก่าก็สุดแค่จะเรียกของผม ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคงไม่ทำผมขายหน้าก็ตามแต่การจัดงานเงียบๆแบบนี้ก็ดี ชีวิตแต่งงานในช่วงปีแรกๆก็ผ่านไปด้วยดี เซ็กส์ของผมก็มีให้ไม่ขาดถึงไม่ถี่จัด หรือถึงใจแม่คุณ แต่ก็พอกล้อมแกล้มไปได้ แต่สิ่งที่ผมไม่เคยมีให้เธอเลยคือความรักซึ่งผมเองเพิ่งตระหนักว่ามันคือยาทิพย์ที่หล่อเลี้ยงชีวิตคู่ให้ยืนยาวไม่แพ้เรื่องเซ็กส์เลย บ่อยครั้งที่ผมต้องจินตนาการในขณะที่กำลังมีเซ็กส์กับหนิง ว่ากำลังร่วมรักกับ ไอ้อ๋อง ไอ้เอก พี่โก้ ครูสารวัตร บางทีแม้กระทั่งหมอนวดสาวที่เคยนอนผมเองยังมีอารมณ์มากกว่าการนอนกับหนิงเสียอีก มันกดดันชีวิตคู่ของเราทั้งสองทีล่ะน้อยจนถึงจุดที่ผมเองเบื่อเซ็กส์ไปเลย ซึ่งหนิงเองกลับคิดว่าผมมีคนอื่น อาจเป็นสัญชาติญาณของผู้หญิงก็ได้ ที่จะรับรู้ได้ดีว่าคู่ของเธอ คิดกับเธออย่างไร แต่ในด้านครอบครัวผมเองก็ไม่ขาดตกบกพร่อง ผมยังเป็นพ่อที่ดีของบอล ลูกติดของหนิง นานวันเข้าผมเองพาลไม่อยากรีบกลับ กลายเป็นคนบ้างานซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้บังคับบัญชาพึงพอใจในหน้าที่ และส่งผมไปอบรมหลักสูตรต่างๆเพิ่มเติม และทำให้ชีวิตผมโคจรมาเจอครูสารวัตรสุดหล่อของผมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผมจะเล่าต่อไป ส่วนหนิงเองเมื่อถึงจุดหนึ่งที่เธอรับไม่ได้เราจึงตกลงเลิกกัน โดยเธอเองไม่เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น อาจเพราะผมเองก็ไม่มีอะไรให้เธอมากไปกว่านี้จริงๆ ผมเองก็เสียใจที่ชีวิตคู่ของผมมีอันต้องจบลง เพื่อนที่ทำงานทุกคน รวมถึงผู้บังคับบัญชาเองก็สอบถามถึงสาเหตุ แต่ผมเองก็ไม่ได้บอกอะไรมากนัก ตอบเพียงว่าเข้ากันไม่ได้ ........ ก็เป็นอันว่าจบบริบูรณ์สำหรับโลกชายจริง หญิงแท้ในชีวิตผม..... ผมเองนั่งซึมไปนานเหมือนกัน เหมือนขาดอะไรไปในชีวิต ถึงจะไม่รักแต่ความผูกพันธ์ที่มีให้กันหลายปีก็มากพอจะทำให้ผใศกเศร้า ผมกลายเป็นคนบ้างานมากยิ่งขึ้น บางทีก็เข้าเวรแทนเพื่อนๆ โดยไม่คิดอะไรเลย .... หรือบางทีก็อาสาทำงานเวลา หัวหน้าจัดงานต่างๆ เช่นงานวันเกิด ทำให้ผมกลายเป็นคนโปรดของหัวหน้าและส่งผมไปอบรมหลักสูตรสำคัญๆ และก็มาเจอครูสารวัตร......... ผมเข้าอบรมหลักสูตรๆ หนึ่งของกรม ซึ่งครูสารวัตร ( ขออนุญาติไม่เอ่ยนาม ) แกเป็นวิทยากรด้วย เพราะผมเป็นนักเรียนพลคนหนึ่งที่ตั้งใจเรียนอย่าสม่ำเสมอ อีกทั้งเป็นผู้ช่วยเหลือยกข้าว ยกของให้แกบบ่อยๆ ดังนั้นแกจึงยังจำผมได้ดี ..... "สวัสดีครับครู" "อ้าว ชาติเข้าอบรมเหมือนกันเหรอ ไม่ได้เจอเสียนาน ดีใจจริงๆ ไงตอนนี้ไปอยู่ไหนแล้วละ" "อยู่ลาดกระบังครับ " "แล้วไง สบายดีไหม" "ก็ดีครับ แล้วครูละครับ ทำไมถึงได้ย้ยมาอยู่นี่ได้ละครับ" "ก็เรื่องมันยาวน่ะ...เอาว่าตอนนี้เดี๋ยวเข้าอบรมกันก่อน เย็นนี้เลิกงานแล้วคุยกัน เอ้าช่วยครูยกของหน่อย" "ครับ" ผมตั้งใจฟังแกบรรยายอย่างสนใจ จนออกหน้า บางครั้งก็หมั่นถาม เพื่อสร้างบรรยากาศการอบรมให้น่าสนใจ ซึ่งทำให้แกค่อนข้างประทับใจต่อการอบรมครั้งนี้พอควร อีกทั้งเพื่อนร่วมชั้น หลายๆคนก็ดูจะสนอกสนใจผมมาก ซึ่งยังผลในภายภาคหน้าที่ผมต้องเจอกับเพื่อนๆหลายๆคน ที่ร่วมขีดสีบนเส้นทางสายรุ้ง ของผม หลังเสร็จสิ้นการอบรม ผมมารอครูสารวัตรที่ห้องรับรอง เจอกันครั้งนี้ ครูดูแก่ขึ้นนิดหน่อย แต่โดยรวมๆก็เหมือนเดิม แกดูผ่อนคลาย สบายๆ อย่างที่เคยเป็น ขณะที่ตัวผมเสียอีกที่เปลี่ยนไป ผมดูขรึมขึ้น อ้วนขึ้น และเป็นหนุ่มใหญ่มากขึ้น อาจเพราะผ่านเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น ครูขับรถพาผมไปกินอาหารที่ร้านอาหารของพรรคพวกแกริมแม่น้ำ แถวถนนพระราม 3 เราคุยสารทุกข์สุขดิบกันตามภาษาครู ศิษย์ที่เคยรู้จักกัน ผมเล่าชีวิตการทำงาน และเรื่องครอบครัวให้แกฟัง แกปลอบใจผมเล็กน้อยเรื่องการหย่าร้าง แต่ก็ก็ไม่ได้ซักถามอะไรมากนัก เราดื่มกันค่อนข้างมาก แต่ไม่มีอาการเมามายเท่าไหร่ ผมเสียอีกเมาแปะไม่ได้เรื่อง ตอนแรกผมว่าจะกลับแท๊กซี่ แต่แกบอกว่ามาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกัน แกขับรถพาผมไปส่ง ระหว่างทางผมรู้สึกจะอ๊วก แกจอดรถเข้าข้างทางผมจำไม่ได้หรอกว่าที่ไหน ดูมันเปลี่ยวๆ เงียบๆ คงเป็นนอกเมือง แกประคองผมลงคอยดูแลลูบหลังจนผมรู้สึกสบายตัวขึ้น ตอนนี้ผมรู้สึกหน้าด้านอาจเพราะฤทธิ์เหล้าก็ได้ ผมกอดแก แล้วหอมแก้มแกฟอด ใหญ่ ปากก็พร่ำพรอดผมรักครูครับๆๆๆ อยู่หลายเที่ยว แกก็ว่ารู้แล้วๆ พอแกขึ้นรถ คราวนี้ผมรุกเลยครับ แกตกใจโวยวายนิดหน่อย แต่อารมณ์นี้ผมไม่สนแล้ว นี่แหล่ะครับ ความเมาทำให้ขาดสติ เป็นอย่างนี้เอง แกขัดขืนอยู่พักหนึ่ง ซักครู่แกก็หยุดขับรถไปเรื่อยๆ ช้าๆ ความจริงแกก็คงเมาอยู่บ้าง ไอ้อ๋องมันเคยบอกว่าครูสารวัตรเวลาแกเมา แล้วเงี่ย... เห็นพวกแม่ค้าในตลาด แถวโรงเรียนเขามานินทาให้บ้านไอ้เล็กฟัง ไอ้เล็กมันก็ปากสว่าง เอามาเล่าต่อไอ้อ๋อง ๆก็เอามาเล่าให้ผมฟัง ...... ผมเลยขอท้าพิสูจน์เสียเลย คราวนี้มือไม้ผมเริ่มอยู่ไม่สุขแล้วซิ เริ่มความเปะปะ กางเกงที่ตำรวจใส่มักจะฟิต ผมเขี่ยเป้าแก เห็นแข็งเป็นลำ ที่แท้ก็จริงอย่างที่เล่าลือ แกคงเริ่มมีอารมณ์แล้วละ แต่ถึงปากแกจะบอกห้ามเป็นระยะๆ แต่แกก็ไม่ขัดขืนที่ผมจะล้วงควัก เขี่ยหัวนม ดมเป้าอาจเพราะแกต้องใช้สมาธิในการขับรถก็เป็นได้ ผมรุกแกไปเรื่อยๆ จนบางครั้งได้ยินแกครางซี๊ด ..... โดบเฉพาะตอนนี้เข็มขัดกับซิปถูกปลดออกแล้ว ของแกใหญ่จนโผล่พ้นขอบกางเกงใน ผมเลียไล้รอบรอยหยักอย่างหมดอายแล้ว อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถิด ตอนนี้ต่อให้ซึนามิถล่มแถวลาดกระบัง ผมก็เบรคไม่ไหวแล้ว จนแกขับมาจอดตรงถนนเล็กๆที่ เปลี่ยวๆสายหนึ่ง น่าจะเป็นแถวๆ ลาดกระบังแล้ว "ชาติอยากมากใช่ไหม ถ้างั้นวันนี้ครูให้ชาติอมเต็มที่เลย ....... " แกพูดแล้วปรับเบาะเอนนอนลง พร้อมยกมือขึ้นหนุนหัว ผมหมดยางอาย ในเมื่อเทพบุตรที่เคยใฝ่ฝันมานานมานอนยกแข็นอวดหุ่นล่ำมีหรือผมจะถอย ผมถอดเสื้อตัวเองออก ปลดเข็มขัดรูดซิปตัวเอง แต่ไม่ได้ถอดกางเกง จากนั้นก็ถอดเสื้อยืดครูสารวัตรออก ครูสารวัตรถึงตอนนี้จะอายุมากขึ้นเลยเลข 4 ไปแล้ว แต่หุ่นแกยังฟิตเหมือนคนหนุ่มๆ ผมเลีบไซร้หัวนม ไต่ลงมายังแท่งเนื้อใหญ่และแข็ง มันกระตุกดึบๆ สู้มือสู้ปาก ส่วนครูสารวัตรก็ครางไม่เป็นภาษาแล้ว "ซี๊ด อาส์..........โอววว์........"แกแอ่นสะโพกขึ้นลง ตอนนี้มือแกจับหัวผมกดขึ้นลงๆ ตามจังหวะสะโพก จนน้ำแกแตกคาปากผม มันเยอะมากกก อีกทั้งคาวกว่าของไอ้อ๋องซะอีก แต่มันได้รสชาดดี ชีวิตก็เท่านี้แหล่ะ ....... จากนั้นแกก็จัดให้ผมนอนแล้วแกก็เลียไซร้ที่หัวนมผม ในขณะที่อีกมือก็ช่วยชักว่าวให้ผม ส่วนมือผมก็ลูบไล้แผ่นหลัง เนื้อตัวแน่นของแกจนผมเสร็จ แกก็เอาทิชชู่มาเช็ดให้ จากนั้นเราก็เงียบมาตลอดจนถึงบ้านผม ผมขอบคุณแกตามมารยาท ตอนนี้อาการเมามันหายเป็นปลิดทิ้ง แต่มันเศร้ามากกว่า ...... นี่ผมทำอะไรลงไป .... ผมรู้สึกทุเรศ ตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็น วันต่อๆมาผมยังคงทำงานอย่างคร่ำเคร่ง อาจเพราะรู้สึกแย่กับการดำเนินชีวิตที่ผ่านๆมา ทำให้ผมไม่มีอารมณืในการทำงานเท่าไหร่ ดังนั้นผมจึงลาพักร้อนเสียหลายวัน ผู้บังคับบัญชาแกก็คงเข้าใจว่าผมยังคงเศร้าใจในการหย่าล้างจึงอนุมัติให้ผมลา ผมโทรไปหาครูสารวัตร เพื่อขอโทษแก น้ำเสียงแกดูนิ่งๆ เงียบๆชอบกล นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ดี.... ผมเลยตั้งใจว่าจะไปขอโทษแกแล้วจะไปต่างจังหวัดซักพักใหญ่ ผมไปหาแกที่บ้าน เจอแกกับเมียและลูกกำลังคุยกันอย่างอบอุ่นในบ้าน แกตกใจนิดหน่อยที่เจอผม แต่ก็ไม่แสดงอาการอะไรมากนัก พอดีเมียแกขอแยกตัวเอาลูกไปเรียนพิเศษ ผมเลยอยู่กับแกสองคน ผมขอโทษและปรับความเข้าใจกัน แกเองก็ไม่ว่าอะไร แกว่าแกเองก็ผิดเหมือนกัน แต่ไม่ถือ ในเรื่องพรรค์นี้แกเล่าให้ฟังว่าแกเองเคยเจอพวกเกย์ พวกกระเทย ดูดมานักต่อนัก เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเจอสีเดียวกัน ผมเลยรู้สึกดีขึ้น แล้วเล่าเรื่องที่ผ่านๆมาให้แกฟังอย่างเปิดอก แกเตือนด้วยความหวังดี ให้ผมเลิก ไม่งั้นจะติด แล้วมันดูไม่ดีสำหรับอาชีพตำรวจ..... ซึ่งแกก็พูดถูก แต่มันสายเสียแล้วสำหรับผม...... ผมเองก็กลัวที่จะเดินบนทางสายนี้ แต่จะอดใจไหวหรือ ...... ผมร่ำลาแกอย่างอาลัย สามัญสำนึกมันบอกว่าคงไม่ได้เจอแกอีกแล้วแน่ๆ ไม่ใช่ว่าแกรังเกียจ แต่ผมละลายต่อสิ่งทีเกิดขึ้นมากกว่า จากนั้นผมก็มุ่งหน้าไปขอนแก่นไปเยี่ยมไอ้อ๋องทันที ไอ้อ๋องพอมันรู้ว่าผมจะมาหามัน ดูน้ำเสียงมันระริกระรี้ เหลือเกิน มันบอกจะเตรียมการต้อนรับผมเป็นพิเศษเชียว.... มันเตรียมอะไรไว้รอผมน่ะ.... ไอ้เพื่อนรัก ผมนั่งรถ บขส.จากหมอชิดไปลงที่ขอนแก่น จะว่าไปแล้วผมไม่ได้เจอไอ้อ๋อง มาหลายปีเหมือนกัน ครั้งสุดท้ายก็ตอนงานบวชมัน ตอนมันแต่งผมก็ไม่ได้ไป อาจเพราะกำลังมุมานะในการทำงาน... มันเองยังโทรมาบ่นน้อยอกน้อยใจ หาว่าลืมมันไปแล้ว โถ...ใครจะลืมได้ลง รักแท้ในโรงเรียนพลตำรวจ...... รถมาถึงเกือบสว่าง ผมล้างหน้าล้างตาที่หมอชิดแล้วมายืนเด๋อด๋าหน้าสถานีขนส่ง ซักพักเสียงแตรมอเตอร์ไซค์ตำรวจดังข้างตัว ผมสะดุ้งเล็กน้อย "เฮ้ย ไอ้เอี้ย.... มาไม่ให้สุ้มให้เสียง กรูตกใจหมด" "แหม...ก็กรูเห็นมรึง ยืนแอ่นหัวดอ ตั้งนานแต่เสือกไม่มองมากรูเลยทักทานซะหน่อย" เราทักทายประสาเพื่อนเก่าที่คุ้นเคยมานานอีกครู่หนุ่งแล้วไอ้อ๋องก็พาผมไปบ้านมัน ไอ้อ๋องหน้าตามันหล่อ คารมดี และปี้เก่ง สาวๆ เลลยติดมันเกรียวตั้งแต่เรียน แต่มันยกให้ผมเป็นหลวงคนนึง ที่เหลือเป็นน้อยหมด ( แบบเล่นๆ ) มาขอนแก่นคราวนี้เลยได้เป็นลูกเขยเศรษฐี บ้านมันหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่สบายน่าอยู่ ชวนให้สะท้อนถึงชีวิตผม ที่ช่างแตกต่างจากมันอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมก็ไม่ได้อิจฉามันหรอกเรื่องแบบนี้วาสนาใคร บุญใครมันเลือกไม่ได้ ผมนั่งกอดเอวมัน ความรู้สึกเก่าๆมันไหลออกมาในสมอง ถึงตอนนี้มันจะอวบกว่าเมื่อก่อนมาก แล้วยังไว้หนวดดก ยิ่งทำให้ดูเซ็กซี่กว่าเก่า 10 เท่า ไม่ซิร้อยเท่าได้เลย ผมลองสัมผัสหน้าขาซึ่งยังคงแกร่งอยู่ ลูบเบาๆช้าๆ มันไม่ขัดขืน หนำซ้ำยังแข็งสู้มือผมอีก มันหัวเราะเบาๆ แต่ก็เพียงพอที่ผมจะได้ยิน มาถึงบ้านมัน ไอ้อ๋องแน่ะนำเมีย และลูกของมันให้ผมรู้จัก "แก้วจ๊ะ นี่พี่ชาติเพื่อนสนิทพี่สมัยเรียนโรงเรียนพล เอ้าไอ้นภ มาหวัดดีลุงซิลูก" ผมรับไหว้ทักทาย ทั้งแม่และลูก "พี่อ๋อง คุยกับเพื่อนก่อนน่ะจ๊ะเดี๋ยวแก้วขอตัวไปเตรียมอาหารเช้าก่อน แล้วเดี๋ยวขอตัวไปทำงานก่อน" "ดีเลยวันนี้ กรูไม่ต้องเข้าเวร เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ แล้วมรึงนอนซักตื่น แล้วกรูพามรึงเที่ยว" ผมรับคำแบบแกนๆ อาจเพราะเพลียด้วย แล้วก็แปลกที่แปลกทาง เกรงใจเมียมันก็เกรงใจ หลังอาหารเช้า ผมอาบน้ำสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว กะจะงีบซักตื่น กำลังจะหลับมิหลับแหล่ เห็นไอ้อ๋องเดินเข้ามานุ่งผ้าขาวม้า มันนั่งลงข้างๆ ที่ผมนอน "เฮ้ย มรึงจะทำอะไรว่ะ ขอนอนก่อนไม่ได้หรือ" "โถ.... มรึงมีเวลานอนอีกเยอะ ตอนนี้ขอมาทบทวนความหลังก่อน ตะกี้มรึงเสือกปลุกอารมณ์กรูมาตลอดทาง มรึงต้องรับผิดชอบ" มันว่าแล้วก็ก้มลงไซร้ซอกคอผม ผมเองก็นอนนิ่ง เอาก็เอา ถึงจะเหนื่อยแต่ตอนนี้ มีตำรวจหนุ่มรูปหล่อ หน้าดุ หนวดดก ตัวดำ ล่ำอวบ มาซุกไซร้มันก็เร้าอารมณ์ดี ไอ้อ๋องมันไซร้เรื่อยๆ จนมาประกบปาก ดูดลิ้น จูบกันอย่างดูดดื่ม รสจูบของมันไม่มีใครลืมได้หรอก ผมเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น มันไซร้มาจนถึงหัวนมผม จนผมร้องครางอย่างลืมเหนื่อย ตอนนี้กางเกงขาสั้น และผ้าขาวม้าของไอ้อ๋องหลุดออกจากร่างแล้ว มันจับผมพลิกคว่ำ เอาหมอนรอง ผมรู้เลยว่ามันจะทำอะไร "เฮ้ย อย่าทิ่มกรูน่ะ ของ***ใหญ่เดี๋ยวฉีก เอาแค่ไถร่องก้นพอ" ผมปรามไว้ก่อน ใจหนึ่งห็กลัว แต่ความอยากมันมีมากกว่า ผมยกก้นโด่งรอมัน มันเอาน้ำลายทาหัวมัน และร่องตูดผม จากนั้นมันก็ไถช้าๆ มันเพลินดีเหมือนกัน ขณะที่ผมเคลิ้มๆ อยู่ดีๆ มันก็ค่อยๆดันเข้า ผมเจ็บจนต้องย้ายก้นหนี แต่มือมันล๊อกไว้ หนำซ้ำยังประกบแผ่นหลัง แล้วลงลิ้นเลียหลังคอ จนผมมีอารมณ์มาก ในที่สุดความเสียวซ่านที่เกิด ทำให้ผมต้องยอมมัน มันดันเข้าออกจากช้าๆ จนเร่งเร็ว เสียงดังพับ ๆ ๆ ของการกระแทกกระทั้น มันรุนแรงขึ้นๆ ไอ้อ๋องมันครางลั่นบ้านแบบไม่กลัวว่าใครจะได้ยินเลย นี่ดีว่าทั้งเมียทั้งลูกไม่อยู่ ไม่งั้นคงต้องเข้ามาดูแน่ๆ เมื่อถึงจุดมันกอดผมแน่นพร้อมฉีดน้ำที่มากมายเหลือเกินเข้าในร่างกายผม มันทั้งร้อน และแรง นี่มันคงไม่ได้นอนกับเมียมานานละซิ หลังเสร็จกิจมันก้มลงหอมผมเบาๆ แล้วลุกออกไป " นอนพักผ่อนก่อนน่ะที่รัก เดี๋ยว ผัวไปอาบน้ำก่อน" "ไอ้สัด....เดี๋ยวเถอะมรึง อย่าให้ถึงทีกรูมั่งแล้วไป" ผมค่อนมันแบบ ไม่จริงจัง ก็ถูกของมัน มันได้ผมอีกแล้ว แต่ผมยังไม่เคยได้มันเลย เสียให้มันตลอด ผมสวมกางเกง และหลับทั้งสภาพอย่างนั้น ผมหลับไปจนบ่าย ไอ้อ๋องก็เข้ามาปลุก ชวนออกไปกินเหล้า หินข้าว "มา...ตื่นๆ ไปอาบน้ำ เดี๋ยวกรูพามรึงไปแอ่วขอนแก่นหน่อย เพื่อนกรูเยอะแยะ จะได้ไม่เหงา มาทั้งที" ผมลุกขึ้น จับตัวมันรวบ แล้วประกบปากดูด มันดิ้นคลุกขลักๆ ในอ้อมกอดผม มันสู้แรงผมไม่ได้หรอก ตัวผมใหญ่กว่ามันอีก จนมันเหนื่อย ผมเลยปล่อยมัน เดินออกไปอาบน้ำ ขอแก้แค้นหน่อยเถอะ "ไอ้สัด...ฮึๆๆๆ" มันหัวเราะเบาๆ.... นี่แหล่ะน้าพิธีต้อนรับเพื่อนเก่า ......... ผมยังอยู่ที่ ขอนแก่นอีกหลายวัน นี่ล่วงมาได้ 3 วันแล้ว ผมรู้สึกเกรงใจไอ้อ๋องเหมือนกันที่ มาพักบ้านมันนานๆ ถึงแม้มันและเมียมัน จะไม่ได้แสดงอาการอึดอัดกับการมาอยู่อาศัยของผม แต่สำนึกของผมมันก็บอกว่าไม่ควร ดังนั้นผมจึงบอกลามันในวันรุ่งขึ้น ไอ้อ๋องดูมันซึมๆ นิดหน่อย "ทำไมรีบกลับจังว่ะ ยังไม่หายคิดถึงเลย" "เออ กรูลาได้แค่นี้แหล่ะ เอาไว้มรึงเป็น ผบ.ตร. ก่อนซิแล้วค่อยอนุมัติให้กรูพักซะ 180 วัน ไปเลยเป็นไง " "แล้วมรึงต้องมาหากรูอีกน่ะ" "เออ แล้ว***ทำไมไม่ลงไปหากรูบ้างล่ะ ไอ้สัด" "โถ่ ก็กรูมีเมีย มีลูก จะเอาเวลาที่ไหนลงไปล่ะ " ไอ้ห่... แล้วทีวันนั้นบอกว่ากรูเป็นเมียมัน "มรึงก็มีเมียที่กรุงเทพ อีกคนซิ จะได้มีเวลาไปหากรู" ผมแซวมันแต่อดปรายตาไปมองที่เมียมันไม่ได้ เล่นเอามันทำหน้าเลิกลัก นี่ถ้ามันเตะผมได้มันคงทำแล้ว "ถ้างั้นคืนนี้กรูขอเลี้ยงส่งมรึงหน่อยน่ะ" น้ำเสียงมันออดอ้อน มีเพียงผมกับมันที่รู้ถึงความหมายของประโยคสุดท้ายนี้ดี ไอ้อ๋อง กับเมียมันเลี้ยงข้าวผมที่บ้าน หลังจากนั้นมันก็บอกว่าจะพาผม ไปอำลาเพื่อนตำรวจด้วยกัน ที่ผับในเมือง เมียมันไม่เฉลียวใจซักนิด ไอ้อ๋องมันเปิดโรงแรงในเมืองขอนแก่น ทันทีที่เข้าห้อง มันก็เข้ามาซุกไซร้ที่ซอกคอผมทันที ผมเองถึงจะไม่ได้รัก หรือหลงอะไรมันนักหนา แต่ก็อดจะเพลิดเพลิน กับลีลาเล้าโลมของมันไม่ได้ ยิ่งตอนหนวดดกดำสาก เหนือริมฝีปาก ลากผ่านซอกคอทีไรทำเอาผมถึงกับสะดุ้ง มันสยิวซะไม่มี......... ตอนนี้เราสองคนอยู่ในสภาพนุ่งกางเกงในแค่ตัวเดียว ผมเป็นฝ่ายรุกมันบ้าง มันดูโอนอ่อนโดยง่าย ผมเลียไล้มันตั้งแต่ แก้ม ใบหู ลงมายังซอกคอ แผ่นอก หัวนมที่ตอนนี้ตั้งชัน ไม่แพ้เจ้าแท่งเนื้อที่ขอดอยู่ในกางเกงใน ไล้ลงมาเรื่อยๆ ยังสะดือ และหน้าท้องที่มีขนไล่หายลับลงขอบกางเกงใน ผมข้ามท่อนกลางอย่างจงใจ เก็บเอาไว้ก่อน วันนี้ผมขอกมันเป็นเมียซักวันเถอะ ผมขบเบาๆลงที่หน้าขา มันร้องซี๊ด เบาๆ ผมเลียไปเรื่อย จนมาถึงน่องขาที่มีขนดกดำ แต่ละเอียด จากนั้นผมก็เลียไล่ย้อนกลับขึ้นไปจนกระทั่ง ค่อยๆถอดกางเกงในสีดำตัวจิ๋วออกจากร่างของไอ้อ๋อง แท่งเนื้อดีดผึง อารมณ์มันคงกระเจิงจน***่ไม่กลับแล้ว ผมเลียไข่ที่มีขนดกของมัน ตอนนี้มันถึงกับครางไม่หยุด เอามือจิกกดหัวผม ผมเลยลงทุนเลียฝีเย็บ ลงมาถึงรูตูด พับผ่าเถอะถ้าไม่คิดว่าวันนี้จะต้องเอามันให้ได้ ผมไม่ทำเด็ดขาด เสียงครางมันดังขึ้น 2 มือปะป่ายเหมือนคนจะขาดใจ ขณะที่น้ำเมือกมันไหลเยิ้มจนหัวบานใหญ่เป็นมัน "เมียจ๋า.......โอ๊ววว์ ผัวเสียวเหลือเกิน" มันครางหนุก เดี๋ยวเถอะวันนี้กรูจะเอา***ทำเมีย ผมเอานิ้วปาดน้ำเมือกของมันที่เยอะมากกว่าคนทั่วไป จากนั้นก็ทาลงที่รูตูด มันสะดุ้งเฮือก เหมือนรู้ว่าผมจะทำอะไร แต่ปลายลิ้นผมฉกลงที่หัวนมมัน ในขณะที่ปลายนิ้วเริ่มนำร่องที่รูตูดมันช้าๆ มันดูเหมือนจะชั่งใจว่าจะหยุด หรือยอม เพราะจะว่าไปตอนนี้อารมณ์มันก็เตลิดไปไกลแสนไกลแล้ว ผมรู้ดี ของมันเคยๆ อีกทั้งมันคงเห็นว่าผมจะกลับเช้าวันพรุ่งนี้ มันเลยไม่ขัดขืน คราวนี้มันหลับตายกแขนขึ้นเหนือหัว เหมือนประกาศยอมแพ้ กับเกมกามารมณ์ของผม ผมไม่ปล่อยโอก่สหลุดมือแน่ๆ ยกขาขวามันพาดบ่า ในขณะที่ค่อยๆดันเข้าในตัวมันช้าๆ มันทำหน้าเบ้ "อย่าขมิบ อย่าเกร็งซิว่ะ เดี๋ยวเจ็บ ปล่อยอารมณ์เรื่อยๆ " ผมสอนมันมัน คราวนี้มันปล่อยตัว สร้างอารมณ์เต็มที่ ผมเลยซอยช้าๆ พอถึงจุดหนึ่งคราวนี้มันถึงกับครางเลยครับ ตอนนี้ผมจับขามันแยกพาดข้างเอวหนาของผม มันครางบิดตัวเสียใหญ่ แต่ผมล๊อกหน้าขามันแน่นยังไงมันก็ดิ้นไม่หลุดอยู่แล้ว จนผมถึงจุด ฉีดน้ำเข้าร่างกายมันเต็มที่ มันขบิบตอด จนผมถึงกับกระตุก เกรงตัว ก้มลงกอดมัน จนแน่นิ่งไปด้วยกัน จากนั้นผมก็โด่งก้น ให้มันเอาผมบ้างจนเสร็จ แล้วเราก็นอนพักเอาแรง พอเริ่มฟื้นตัว มันก็เข้าไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัว แล้วออกมานอนข้างๆผม "ไอ้สัด ***ทำเอากรูเสียความบริสุทธิ์ แล้วนี่กรูจะมีหน้ากลับไปหาเมียได้ยังไง" "มรึงก็หย่ากับเมียมรึง มาเป็นเมียกรูซิ 5555" "ไอ้เอี้ย ..... " มันหัวเราะแล้วก้มลงซุกไซร้วอกคอผมเล่น จะว่าไปมันก็มีความสุขดี ขาดเพียงแต่มันเป็นแค่ Puppy Love ของผม ถ้าผมรักมันได้จริงๆก็ดีซิ ....... แต่อย่าเลย ผมไม่อยากทำลายครอบครัวใครหรอก ผมเคยทำลายครอบครัวตัวเองมาแล้ว ผมรู้ดีถึงความเจ็บปวด อีกอย่างความรักในโลกสีม่วงมันไม่มีจริงหรอก ในความคิดของผม ยิ่งในสังคมสีกากีแล้ว มันเป็นยิ่งกว่าความอัปยศ ถ้าหากล่วงรู้ถึงหูคนอื่น โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชา ชีวิตผมจะเป็นอย่างไรต่อไปน่ะ..... วันต่อมาไอ้อ๋องมันมาส่งผมที่สถานีรถไฟ เราล่ำลาจากกัน เหมือนเพื่อนทั้วๆไป ไม่มีการจูบลา เพราะมันไม่สามารถทำได้ แต่แววตาที่มันส่งถึง มันอบอุ่นเสียยิ่งกว่ารอยจูบเสียอีก " ถ้ามรึงเป็นผู้หญิง จริงๆ กรูจะหนีตามมรึงไปซะเดี๋ยวนี้ " มันพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น แต่ทำเอาผมขนลุกซุ่ มันซาบซ่านจริงๆ ผมรู้ว่ามันพูดจริง "เออ ถ้ากรูเป็นผู้หญิง กรูจะขอ***แต่งงาน ไอ้สัด" ผมพูดจริงๆน่ะ.... ผมมองมันจนรถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีช้าๆ จนลับตา มันขี่มอเตอร์ไซค์ตามบนถนนเลียบทางรถไฟ จนกระทั่งมันแยกหายจากกัน ผมรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ....... ความเหงามันเริ่มมาเกาะที่ขั้วหัวใจอีกครั้ง ผมยังมีวันลาอีก 4 วัน ผมไปเที่ยวต่อดีกว่า....... มาดูว่าผมจะหาประสบการณ์พิสดารซะขนาดไหน.....พับผ่าซิ ผมกลับมาทำงานที่ สน.ลาดกระบังเหมือนเดิม เวลายังคงผ่านไปอย่างช้าๆ ในความรู้สึกผม ผมค่อยๆลืมเรื่องเมียเก่าช้าๆ เธอย้ายไปที่อื่นแล้ว เห็นว่าไปได้กับคนงานแถวนี้ เลยตามกันไปอยู่กับเขา ดีซะอีกผมจะได้ไม่ทรมานใจ ผมทำงานอย่างมีความสุขอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งวันหนึ่ง.... ธวัชชัย ตำรวจที่ย้ายมาใหม่ เข้ามาทำงานและเป็นบัดดี้ผม ...... เขาเป็นรุ่นน้องโรงเรียนพล แต่ความจริงเขาอายุมากกว่าผมเสียอีก แต่ยังไงเขาก็เรียกผมว่าพี่ชาติ .... ซึ่งผมเองก็รู้สึกดี เราพักห้องตรงกันข้ามทำให้เจอกันบ่อย และเนื่องจากเขาเองก็ยังโสดสนิท ทำให้เขาออกจะติดผมเอาการ .... เอาว่าเจอผมที่ไหน ต้องเห็นเขาที่นั่น กระทั่งผู้บังคับบัญชา ยังแซวว่าแฝดผิดฝา.... ก็เล่นเอาเราเขินกันใหญ่ แต่ก็ยังติดกันแจเป็นปาท่องโก๋ ... ความจริงธวัชชัยเขาเคยมีแฟนอยู่ก่อนแล้ว แต่นัยว่าห่างๆกัน เลยเลิกกันไปโดยอัตโนมัติ และเนื่องจากความใกล้ชิดทำให้ผมเองแอบรักเขาโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ...... ผมมารู้ตัวว่ารักมันเข้าให้ก็ตอนที่ ไปเลี้ยงรุ่นของโรงเรียนพล แล้วปรากฏว่ามีสาวนางหนึ่งมาชอบพอมัน และมันเองก็คงชอบเธออยู่ ผมเห็นมันคุยโทรศัพท์หวานใส่กัน ผมรู้สึกหงุดหงิด โมโหใส่มันจนมันเองยังแซวผมกลับมาว่าหึงหรือไง ผมถึงได้รู้ตัว.... นี่ผมหึงมันจริงๆหรือนี่ พอรู้ตัวผมพยายามห่างๆมัน แต่ก็เหมือนโดนแกล้ง เพราะมันยิ่งเข้ามาเกาะแกะผมหนักกว่าเก่าเสียอีก บางทีก็มานอนเล่นห้องผมเป็นวันๆ บางทีก็คุยกับแฟนมันไป เหมือนจงใจยั่วผม จนกระทั่งวันหนึ่งผมทนไม่ได้ เมื่อมันดันลืมโทรศัพท์มือถือในห้องผม แล้วออกไปข้างนอน ได้ผลครับ แฟนมันโทรมาผมเลยใส่ไปเลยครับว่า มันกับผมเป็นแฟนกัน อยู่กินกันเหมือนคู่ผัวตัวเมีย ผมไม่โกรธถ้าแม่สาวแฟนมันจะมาร่วมชายคาแบบสามคนผัวเมีย ได้ผลครับ วันต่อมาแฟนมันบอกเลิก...... ผมไม่รู้ว่ามันรู้หรือเปล่า แต่มันก็ไม่เคยว่าผมน่ะ หรือลึกๆมันเองก็ชอบผม ..... โอยคิดแล้วปวดหัว มันซึมอยู่อาทิตย์กว่าๆ .... ออกไปกินเหล้าคนเดียวไม่ชวนผม หรือมันโกรธ....แต่หลังจากนั้น อีกวัน มันเมาแล้วขับมอเตอร์ไซค์คว่ำ กระดูกเข่าแตกต้องผ่า ฝังเหล็ก โอย....เหมือนพระเจ้าแกล้ง ผมถูกมอบหมายให้ดูแลมันในระหว่างการพักฟื้น ซึ่งนั่นแหล่ะที่ทำให้ผมกับมันรักกัน.....
ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ประสบกามเยอะนะครับ กับชายแท้ด้วย ดีครับ ขอบคุณมาก ขอบคุณครับ ขอบคุนครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ยาวเลย แต่สนุกมาก เรื่องเล่ายาวมาก อยากให้มาแยกเล่าทีละคนเป็นตอนๆ เพิ่มรายละเอียดเพิ่ม ขอบคุณครับ สนุกมากครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณ ขอบคุณนะ เรื่องยาวดี ผมชอบ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2