อ่านเรื่องราวก่อนหน้า : ** เพื่อความอรรถรสในการอ่านเพราะเรื่องราวจะร้อยเรียงเป็นไทม์ไลน์ อาจจะมีการพูดถึงบุคคลใน EP ก่อนหน้า และ อาจมีเรื่องราวใน EP นี้ / ** เรื่องราวจะเรียงตาม EP ไม่ต้องสนใจ Part ข้างหลังครับ**
EP.1 : ครั้งแรกของผม...เกิดจากความแค้นต่อเด็กป.4 / น้องตั๋น
EP.2 : ญาติกัน(เอา)มันดี Part 1 : เล่นกับลูกอาในห้องน้ำจนเป็นเรื่อง / น้องเซน
EP.3 : มัธยมหรรษา Part 1 : ร้อนรักห้องคหกรรม กับ เด็กชายนายลูกครึ่ง / เพื่อนหรั่ง (เดนนิส)
EP.4 : มัธยมหรรษา Part 2 : ร้อนรักห้องน้ำชาย กับ เด็กชายนายก้นงอน / เพื่อนนัท
EP.5 : กาลครั้งหนึ่ง เมื่อเราบวชเณร Part 1 : ความทรงจำดีๆ กับ เด็กชายที่เราไม่คอยมอง / น้องป๋อง
EP.6 : กาลครั้งหนึ่ง เมื่อเราบวชเณร Part 2 : ทริปธุดงค์หื่น 2 รุม 1 ถ้ำสะเทือน / น้องเจี๊ยบและน้องไผ่
EP.7 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 1 : เด็กม.3ขี้เหงา กับ เด็กป.5ข้างบ้านขี้เงี่ยน / น้องต้น
EP.8 : ญาติกัน(เอา)มันดี Part 2 : ตูดฉีกในคืนที่พายุโหมกระหน่ำ เสียซิงครั้งแรกให้กับญาติผู้พี่ม.5 / พี่ก้อง
EP.9 : ม.ปลายตัวหื่นแสนเจ้าเล่ห์ VS เด็กอนุบาลใสซื่อไร้เดียงสากับตุ๊กตาจระเข้ยางของน้อง / น้องเต้
EP.10 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 2 : ซื้อคอหมูย่างแถมลูกชายคนขาย / น้องปัน
EP.11 : มัธยมหรรษา Part 3 : " ผมเห็นพี่เป็นไอดอล " คำพูดของรุ่นน้องม.1ตัวท็อป ที่มีต่อรุ่นพี่ตัวท็อปม.5 / น้องคิม
EP.12 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 3 : ส่งข้าวกล่องให้เด็กน้อย คิดค่าจ้าง 2 น้ำ / น้องเจมส์
EP.13 : 2 เดือนแห่งความสุข กับ 1 วันที่ทุกข์ระทม ตกหลุมรักเด็กชายข้างบ้านย่า / น้องทอม
EP.14 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 4 : ส่งข้าวกล่องให้เด็กหื่น แถม น้ำซุปขาวข้นกลืนลื่นคอ / น้องแจ็ค
EP.15 : มัธยมหรรษา Part 4 : น้องลูกครึ่งม.ต้นสายขอ กับ พี่ม.ปลายลุคป๋าสายเปย์ / น้องจิมมี่
EP.16 : มัธยมหรรษา Part 5 : รุ่นพี่ตัวแสบเพื่อนพี่สาว กับ เด็กเก็บกดน้องชายเพื่อน / น้องหนุ่ม
EP.17 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 5 : น้องป.6ดาวยั่วขี้อ่อย กับ พี่ชายข้างบ้านช่างยุขี้เอา / น้องเต้ย
EP.18 : มัธยมหรรษา Part 6 : เพื่อนรักนักบาส กับ ภารกิจสอน Sex ในสถานที่หลบภัย / เพื่อนโอม
EP.19 : มัธยมหรรษา Part 7 : My Brother My Hero ความรู้สึกที่ซับซ้อนและสับสนของเด็กชายม.1 / น้องไฉ้
EP.20 : มัธยมหรรษา Part 8 (จบภาค) : มนต์รักรถสองแถว ความสัมพันธ์แบบงงๆ กับ เด็กม.2ทรงติ๋ม / น้องเจ
EP.21 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 6 (จบภาค) : หลังบ้านอลวน กับ เด็กแฝดแสบซนอลเวง / น้องบี
EP.22 : ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง Part 1 (เปิดภาค) : นี่เด็กหรือปลาฉลาม การจู่โจมที่คาดไม่ถึงในทะเล / น้องโฟล์ค
EP.23 : ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง Part 2 : ครั้งเดียวเกินพอกับเด็กพารานอยด์ ความรู้สึกและความต้องการของเด็กชายคนหนึ่งที่ผมหยั่งไม่ถึง / น้องตั้ม
EP.24 : ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง Part 3 : ไก่หยอกหมา เจอ หมาหยอกไก่คืนแบบจุกๆ กับ ปฎิบัติการมังกรปิดปากถ้ำต้านวายุ / น้องจา
EP.25 : ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง Part 4 : ไฟราคะที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางแมตซ์เดือดในสนาม ความสัมพันธ์ที่คาดไม่ถึงกับเด็กชายต่างถิ่น / น้องนก
====================================
** บทนำ (ปฐมบท) ของภาคใหม่ ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง
จะอยู่ตอนท้ายของ EP21 <---- คลิกอ่าน **
EP.26 ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง
Part 5 : เหตุเกิดจากการแบล็กเมล์
จนผมต้องกลายมาเป็นทาสรัก Delivery
<<---------------------------------------------------->>
ท่ามกลางแสงแดดที่ส่องประกายในช่วงฤดูร้อน ฝูงนกที่ออกหากินพากันบินไปเกาะตามกิ่งไม้ส่งเสียงเจื้อยแจ้วไพเราะเสนาะหู สายลมที่พัดโชยมาเหมือนรู้ว่าทุกสรรพสิ่งกำลังโหยหาความเย็นสบายที่จะมาทำลายความร้อนจากพระอาทิตย์ ภาพของเด็กชายสองคนที่ทั้งคู่เรียนอยู่ชั้นป.4และป.3ตามลำดับ ที่กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานในสวนออกกำลังกายของบริษัทแห่งนึงที่แม่ของทั้งสองเด็กน้อยทำงานอยู่ ทั้งสองคนเพิ่งมารู้จักกันได้ไม่นานมานี้ ซึ่งเด็กชายป.4ที่แสนน่ารัก แม่ของเขาเพิ่งพามาเล่นที่โรงงานแห่งนี้ ในขณะที่อีกคนเด็กชายป.3ตี๋น้อยรูปงาม เขาเติบโตมาในโรงงานนี้ตั้งแต่เกิด ทั้งสองคนสนิทตัวติดกันมาก วันใดที่คนโตไม่มาที่บริษัทอีกคนจะรู้สึกกระสับกระส่ายและว้าวุ่นใจเหมือนกับโดนอีกคนร่ายเสน่ห์มนต์ดำผูกมัดจิตใจเอาไว้ ซึ่งในตอนนั้นสำหรับคนเล็กตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวของเขาติตใจของเขามันมีแพชชั่นอะไรบางอย่างที่ทำให้ตัวเขาเกิดความหลงใหลในอีกฝ่าย เขารู้แค่เพียงว่าในแต่ละวันที่เจอกัน ตัวเขาอยากอยู่ใกล้ๆ อยากคุยด้วยทั้งวัน อยากเป็นคนที่เขาคนนั้นใส่ใจ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกและหยั่งไม่ถึงพอที่เด็ก 8 ขวบอย่างเขาจะรู้ได้ว่าตัวเขากำลังเป็นอะไร แต่กับคนโตในหัวงเวลานั้นที่มีความรู้สึกกับอีกฝ่ายในทำนองที่มองว่าเป็นเพื่อนผู้ชายที่สนิท ซึ่งเขาไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายมากเท่าไหร่นักในช่วงชีวิตอันไร้เดียงสาในวัยเก้าขวบปี ที่นอกเหนือจากเพื่อนผู้ชายวัยแก่นซนแสนทะโมนที่โรงเรียนของเขา
" นี่ๆไอติม ช่วงบ่ายเรามาว่ายน้ำที่สระน้ำกันไหม " น้องป.3พูดพร้อมกับทำสายตาอ้อนวอน
" ไม่เอาอ่ะ แม่เราบอกว่า..ห้ามลงเล่นน้ำในสระเด็ดขาด ถ้าไม่มีผู้ใหญ่คอยเฝ้าดูแลใกล้ๆ เดี๋ยวเฟิร์สก็โดนพ่อดุอีกหรอก " พี่ป.4ทำสายตาดุนิดๆ
" ไม่เป็นไร มันมีจุดที่ตื้นอยู่ และอีกอย่างเราว่ายกันตอนเที่ยง พวกผู้ใหญ่จะมานั่งพักสูบบุหรี่กัน ไม่น่ามีปัญหา นะๆมาว่ายกันนะๆๆไอติมมม " เฟิร์สทำเสียงออดอ้อนเพื่อลวงให้เพื่อนของเขาไปติดกับดักที่เขาวางเอาไว้และใจอ่อนกับคำขอร้องอ้อนวอนของเขา
" อ่ะๆก็ได้แต่....ว่า " ไอติมพูดแล้วมองหน้าเฟิร์สแล้วขบคิดอะไรบางอย่าง
" ไอติมไม่มีกางเกงเปลี่ยนใช่ม่ะ เดี๋ยวเราเอามาเผื่อ ช่วงเที่ยงเจอกัน " เฟิร์สยิ้มแฉ่งหน้าบาน เพราะรู้แล้วว่าตัวไอติมนั้นใจอ่อนและยอมมาว่ายน้ำด้วยตามที่เขาต้องการ
" เราน่าจะมาถึงเกือบบ่ายอ่ะ เราต้องไปกินข้าวเที่ยงกับแม่ก่อน " ไอติมพูดแล้วยักไหล่เบาๆ
" ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจะว่ายน้ำรอไอติม รีบๆมาละเดี๋ยวเราจะตัวเปื่อยซะก่อน ไว้เจอกัน " เฟิร์สพูดเสร็จก็เดินจากไปอย่างมีความสุขเริงร่าแบบสุดขีด
ในช่วงเที่ยงของวันนั้นทางฝั่งไอติมดูจะผิดแผนไปซะหน่อย ในเมื่อแม่ของเขาพาไปกินอาหารที่นอกบริษัทแทนที่จะกินในฟู้ดคอร์ทแคนทีนของบริษัท ทำให้ไอติมและแม่ของเขาเข้ามาในบริษัทเกือบบ่ายโมง พอเข้าบริษัทมาไอติมก็รีบวิ่งไปที่สระว่ายน้ำที่อยู่โซนกลางของโรงงานตามที่เขาได้นัดกับเพื่อนของเขาไว้ พอไอติมวิ่งมาใกล้ก่อนที่จะถึงทางขึ้นของสระว่ายน้ำ ไอติมก็แปลกใจพิกลเมื่อเห็นเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกันวิ่งลงมาจากสระว่ายน้ำด้วยสีหน้าที่แตกตื่น ไอติมเห็นเด็กสองคนที่รุ่นราวคราวเดียวกันวิ่งสวนตัวเขาไปทางโซนหน้าโรงงานอย่างรวดเร็ว ไอติมรีบคว้าแขนเพื่อนคนนึงเอาไว้ได้ แล้วเอ่ยปากถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่มันทำให้พวกเขาดูตื่นตะหนกแบบผิดสังเกต
" นี่เต้ย..เกิดอะไรขึ้น " ไอติมถามเต้ยที่เป็นลูกของช่างไฟในโรงงาน ที่ในตอนนี้ใส่กางเกงว่ายน้ำเพียงตัวเดียวเนื้อตัวเปียกโชก
" ไอ้เฟิร์สมันจมน้ำอ่ะตอนนี้ มันดันดำน้ำเล่นแล้วเผลอดำโผล่ไปกลางสระจุดที่ลึกพอดี " เต้ยพูดด้วยอาการตื่นตะหนก ( รูปแบบสระว่ายน้ำของโรงงานจะเป็นแบบสโลปจากตื้นไปลึกเป็นขั้นระดับ )
พอไอติมได้ยินดังนั้น..ตัวเขาก็รีบวิ่งขึ้นบันไดไปสระว่ายน้ำโดยทันที พอไอติมไปถึง..เขาก็เห็นเพื่อนอีกคนนึงกำลังเอาด้ามไม้ม็อบยื่นลงไปในสระ แต่ความยาวของไม้มันไม่พอที่จะส่งถึงเฟิร์สเด็กชายที่เคราะห์ร้าย เพราะจุดที่เฟิร์สกำลังตะเกียกตะกายเอาตัวรอดมันอยู่บริเวณกลางสระ ในตอนนั้นไอติมได้คิดคำนวณถึงความน่าจะเป็นในการช่วยชีวิตเพื่อนของเขา ในจังหวะนั้นเขามองว่าต่อให้เฟิร์สอยู่กลางสระ แต่มันก็อยู่ห่างจากจุดตื้นของสระน้ำเพียงแค่ไม่กี่เมตร ไอติมรีบกระโจนลงน้ำโดยทันทีก่อนที่จะสายเกินไป ไอติมว่ายฟรีสไตล์จ้วงแขนไปได้ประมาณ 4-5 สโตรก ไอติมก็รีบคว้าแขนของเฟิร์สที่โผล่พ้นน้ำมา แล้วไอติมก็เอาแขนสอดเข้าที่ใต้จั๊กแร้ของเฟิร์สแล้วเอาแขนไปรัดแน่นที่หน้าอก พร้อมกับก็ตีขาพร้อมกับจ้วงแขนซ้ายพร้อมกับพยุงตัวเพื่อนสนิทของเขา ถึงจะทุลักทุเลไปนิดแต่ไอติมก็สามารถดึงลากเพื่อนมาจุดที่ตื้นได้สำเร็จ ประจวบเหมาะที่พ่อของเฟิร์สวิ่งมาถึงแล้วโดดกระโจนลงสระว่ายน้ำมาช่วยลูกชายของเขาทันพอดี
พ่อของเฟิร์สอุ้มลูกชายของเขาขึ้นมาแล้ววางร่างลงที่พื้นของสระว่ายน้ำข้างๆ ในขณะที่ตัวเฟิร์สมีการสำลักน้ำออกมาเป็นระยะ ซึ่งดูแล้วคงจะไม่ต้องมีการผายปอดหรือCPRใดๆ แล้วจังหวะนั้นแม่ของเฟิร์สก็วิ่งหน้าตาตื่นมาพร้อมกับแม่ของไอติม แม่ของเฟิร์สร้องไห้ฟูมฟายพร้อมกับดึงลูกชายสุดที่รักมากอดไว้โดยที่มีโฟล์คเด็กชายวัย 4 ขวบน้องชายของเฟิร์สที่มองเหตุการณ์ตรงหน้าแบบไม่ประสีประสากับเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า จังหวะที่ไอติมเดินขึ้นมาจากสระ แม่ของเขาก็ดึงตัวมาโอบไหล่แล้วมองเหตุการณ์ตรงหน้าไปพร้อมๆกัน
" ไอติม น้าขอบใจเรามากนะที่ช่วยลูกของน้าไว้ ถ้าไม่ได้ไอติมไอ้เฟิร์สคงตายแน่ๆ " พ่อเฟิร์สก้มลงมาจูบหัวของไอติมคราบน้ำตาบางส่วนของเขาไหลหยดลงมาบนแก้มของเด็กชายตัวน้อยที่เพิ่งเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตลูกชายคนโตของบ้านมาหมาดๆ
" ไอ้เฟิร์สมันเป็นหนี้ชีวิตเราแล้ว น้าขอบใจไอติมมากนะ ถ้าไอ้เฟิร์สมันเป็นอะไรไป น้าก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไง " แม่เฟิร์สหันมาพูดกับไอติม ที่ในตอนนั้นใบหน้าของเธอก็มีคราบน้ำตาที่ไหลไม่น้อยไปกว่าสามีของเธอ
พอเฟิร์สเด็กชายที่เพิ่งรอดชีวิตมาหมาดๆที่เหมือนอาการจะดีขึ้นแล้วแต่ขวัญกำลังใจยังคงหดหายอยู่ แม่เฟิร์สก็ค่อยๆพยุงตัวขึ้นมา ส่วนพ่อของเขาที่เดาว่าลูกชายของตัวเองอาการน่าจะดีขึ้นแล้ว พ่อเฟิร์สก็เอาฝ่ามือตีไปที่หลังของลูกชายตัวเองอย่างแรงสองสามทีพร้อมกับดุด่าว่ากล่าว โดยที่คนเป็นแม่หันมาทุบตีสวนคืนไปที่ร่างกายของสามีแล้วเริ่มมีปากเสียงกันตลอดทางที่เดินลงจากสระว่ายน้ำ ในขณะที่ไอติมกำลังมองเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า แม่ของเขาเอามือมาลูบหัวลูกชายอย่างแผ่วเบาด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก ไม่รู้ในตอนนั้นแม่ของไอติมจะรู้สึกดีใจ ภูมิใจ หรือโกรธ เธอและลูกชายของเธอก็เดินตามลงไปอย่างช้าๆแล้วมุ่งหน้าเดินไปที่ออฟฟิศทันที
หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปเกือบสามสัปดาห์..เด็กชายเฟิร์สที่เพิ่งพ้นจากการจองจำกำหนดกักบริเวณของผู้ปกครอง ส่วนเด็กชายไอติมก็มาที่โรงงานตามปกติเพราะในช่วงเวลานั้นยังคงคาบเกี่ยวอยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่ภาคฤดูร้อน หลังจากผ่านเหตุการณ์เฉียดเป็นเฉียดตายมา เฟิร์สก็ยิ่งติดไอติมมากกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว ในตอนนั้นตัวไอติมไม่รู้หรอกว่าใจของเฟิร์สนั้นกำลังตะหนักถึงอะไรอยู่ แต่ที่แน่ๆเขามองว่าเพื่อนซี้ของเขาคนนี้เป็นคนที่ต่อลมหายใจของเขาเอาไว้ให้ยังคงมีชีวิตอยู่ในบนโลกใบนี้ แต่ด้วยความเป็นเด็ก ตัวของเฟิร์สอาจจะไม่ใส่ใจและลงลึกในเรื่องบุญคุณต้องชดใช้มากเท่าที่เด็กแปดขวบจะคิดได้ ในตอนนั้นเขาทำได้เพียงแค่มอบความรักและความรู้สึกที่ดีให้กับเพื่อนคนนี้ให้มากกว่าเดิม ซึ่งจะดูเหมือนเป็นการตอบแทนบุญคุณแบบกลายๆตามแต่ที่เด็กวัย 8 ขวบจะพึงคิดได้ และมาในวันนี้ก็เป็นอีกวันนึงที่เฟิร์สมาดักคอยไอติมเพื่อนซี้ของเขาอย่างใจจดใจจ่อที่หน้าประตูทางเข้าออฟฟิศตั้งแต่หัววัน
" สวัสดีครับคุณป้า ผมขอพาไอติมไปเล่นนะครับ " เฟิร์สยกมือไหว้และยิ้มหวานให้แม่ของไอติม แม่ไอติมไม่ได้ตอบอะไรกลับ เพียงแค่ส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นให้และพยักหน้าเบาๆในเชิงว่าอนุญาต
" ว่าแต่..วันนี้เราจะไปเล่นที่ไหนกันดีอ่ะ " ไอติมหันไปถามเพื่อนของเขา ที่ในตอนนี้ตัวของไอติมกำลังโดนเฟิร์สโอบไหล่กึ่งลากไปทางหลังโรงงาน
" ไปเล่นตรงกองของเก่าก่อนถึงหอพักคนงานละกัน ว่าแต่วันนี้เราไม่เห็นมีใครมาเลย กะว่าจะชวนเล่นซ่อนแอบซะหน่อย " เฟิร์สพูดทำหน้ามุ่ยนิดๆ เพราะในวันนั้นไม่มีลูกของคนที่ทำงานมาเล่นที่บริษัทเลย
" น่าจะไปเรียนพิเศษกันมั้ง ก็เหมือนเราไงที่ไม่มาเฉพาะวันศุกร์ เพราะเราติดเรียนพิเศษ " ไอติมพูดปลอบใจเพื่อนซี้ของเขา
ทั้งสองคนก็พากันเดินมาถึงกองของเก่าของโรงงาน พื้นที่ตรงนั้นทางโรงงานมักจะเอาอุปกรณ์ข้าวของชิ้นใหญ่ๆที่ไม่ใช้งานแล้วหรือที่เสียผุผังมาวางกองต่อๆกันไว้ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นเล็กอย่างโต๊ะเก้าอี้ของออฟฟิศ หรือจะเป็นของใหญ่อย่างรถบบรรทุก รถยกที่เสียแบบปลดระวางรวมไปถึงคันที่รอซ่อมแซม ซึ่งของเหล่านี้จะตั้งอยู่บนพื้นดินในที่ดินของบริษัท ซึ่งก็มีบางจุดที่มีต้นไม้น้อยใหญ่รวมไปถึงไม้เลื้อยที่คืบคลานมาพัวพันสิ่งของเหล่านั้นเหมือนกันยุคยูโทเปียวันสิ้นโลก แต่ถึงจะมีบางจุดที่รกทึบดูรกร้างและวังเวง แต่สถานที่นี้มักจะเป็นที่เล่นของบรรดาเด็กๆในโรงงานซึ่งกิจกรรมการเล่นหลักก็คือเล่นซ่อนแอบนั้นเอง
" ไอติม..เราสองคนไปนั่งเล่นกันในท่อคอนกรีตละกัน " เฟิร์สพูดโน้มน้าวใจเพื่อน พร้อมกับชี้ไปยังกองท่อระบายน้ำคอนกรีตรูปทรงกลม ที่ทางโรงงานสั่งมาเกินแล้วไม่ได้ใช้ เลยปล่อยทิ้งไว้เฉยๆให้เถาไม้เลื้อยปกคลุมเล่น
" จะมีงูเปล่า เดี๋ยวก็มีเรื่องราวอีก โดนกักบริเวณโดนพ่อตีเราไม่รู้ด้วยนะ " ไอติมหันไปมองค้อนเชิงเตือนเพื่อนซี้ของเขา
" ช่างปะไรละ เราไม่สนหรอก พ่อกับแม่ก็เอาแต่โอ๋ไอ้โฟล์คมัน พวกเขาไม่เคยรักเราหรอก เผลอๆพ่อแม่เรารักนายมากกว่าเราซะอีก นี่พ่อเราก็ฝากเรามาบอกกับนายว่า ถ้านายหิวข้าว ก็ไปกินข้าวที่ร้านพ่อเราได้เลย ฟรีตลอดไม่คิดเงิน " เฟิร์สทำหน้าบึ้งนิดๆแล้วพูดออกมา
" ไม่จริงหรอก ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนรักลูกคนอื่นมากกว่าตัวเอง คิดมาก ตอนนายจมน้ำพวกเขายังร้องไห้ให้นายเลย " ไอติมพูดพร้อมกับเอามือไปโอบไหล่เพื่อนเขาเพื่อเป็นการปลอบใจ
" ไม่เอาๆ ไม่พูดละ ไปกันเถอะ " เฟิร์สพูดเสียงดังนิดๆเพื่อตัดบทสนทนาที่กำลังส่อไปทางดราม่า แล้วลากเพื่อนซี้ของเขามุดเข้าไปในท่อน้ำคอนกรีต ทั้งคู่มุดเข้าลึกพอสมควรจนถึงจุดที่แสงสว่างตัดกับความมืดจากปลายท่อ ที่ในตอนนั้นมันตั้งอยู่ชิดกับริมกำแพง ทั้งคู่นั่งข้างกันและคุยไปในเรื่องต่างนาๆ รวมไปถึงการกุเรื่องผีมาเล่าข่มขวัญเพื่อทำให้อีกฝ่ายกลัว
" จะว่าไป..ถ้าไม่มีไอติม เราตอนนี้จะไปเกิดใหม่หรือยังนะ " เฟิร์สพูดพร้อมกับเอียงหัวมาอิงซบไหล่เพื่อนของเขา รวมไปถึงเอามือมาจับมือของอีกฝ่ายแล้วสำรวจเรียวนิ้วมือของไอติม
" ไม่เอาน่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว จะรื้อฟื้นทำไมเนี่ย " ไอติมหันไปดุเพื่อนนิดๆ เพราะไม่อยากให้เขายึดติดอะไรกับอดีตให้มันมากนัก
" โอเคๆ เราขอบคุณละกันที่เสี่ยงตายลงมาช่วยเรา " เฟิร์สพูดเสียงสลดนิดๆ แต่มือของเขาก็ยังคงสำรวจที่มือของอีกฝ่าย
" ไม่เป็นไรอ่ะ มันเป็นไปตามสัญชาตญาณ คงเป็นเพราะเราว่ายน้ำเป็นด้วยแหละเลยกล้าลงไป ซึ่งต่างจากไอ้ท็อปที่มันว่ายน้ำไม่เป็น มันก็ช่วยเพียงแค่หาไม้หย่อนไปให้นายจับ " ในขณะที่ไอติมกำลังพูดอยู่ สายตาก็จ้องไปที่มือตัวเองที่ในตอนนี้เฟิร์สกำลังลูบไล้สำรวจเหมือนกับนักศึกษาที่กำลังเรียนกายวิภาคสรีระศาสตร์ในมหาวิทยาลัย
" มือไอติมสวยดีนะ เราชอบเล็บนายมากเลยมันสวยดีอ่ะ " เฟิร์สดึงมือเพื่อนสนิทเอาเข้ามาดูใกล้ๆ
" เห็นแม่เคยบอกว่า มือเราเหมือนพ่ออ่ะ ก็คงได้มาจากพ่อมั้ง " ในตอนนั้นตัวของไอติมก็ยังไร้เดียงสาอยู่กับพฤติกรรมที่กำลังบังเกิดตรงหน้า ทำให้ตัวเขาไม่ได้คิดอะไรมากมาย ในตอนนั้นไอติมก็คิดว่าเพื่อนกำลังเล่นแบบปกติ ซึ่งก็เหมือนกับเด็กประถมทั่วไปในสมัยนั้น ที่ในบางคนก็มีเดินจูงมือกันในโรงเรียนต่อให้เป็นเพศเดียวกันก็ตาม
" ไอติม..เราขออะไรนายอย่างดิ " เฟิร์สหันหน้ามาหาเพื่อนของเขาแล้วทำสายตากรุ้มกริ่มยิ้มแบบมีเลศนัย
" อะไรอ่ะ นายจะขออะไรเราเหรอ " ไอติมก็ยังคงตอบกลับไปแบบใสซื่อ
" เราขอดู..จู๋นายหน่อยดิ " เฟิร์สพูดพร้อมกับเอานิ้วมาจิ้มๆตรงจุดนั้นของไอติม
" อ๊าา ไม่เอาอ่า เราอาย " ไอติมถึงกับเขินอายในสิ่งที่เพื่อนของเขาขอ ซึ่งอากัปกิริยาแบบนั้นของไอติมมันบ่งบอกได้ว่า สิ่งที่เฟิร์สขอในตัวของเขานั้น มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน
" ไม่เป็นไร ไม่ต้องอายหรอก เราเพื่อนกัน อ่ะ เดี๋ยวเราถกกางเกงให้นายดูจู๋เราก่อนก็ได้ ผลัดกันๆ " เฟิร์สเปลี่ยนจากท่านั่งราบมาเป็นนั่งคุกเข่าแล้วเชิดตัวสูงขึ้นจนหัวติดผนังท่อ แล้วเฟิร์สก็ถกกางเกงลงโชว์จู๋ขาวๆ
" อ่า...มันจะดีเหรอ " พอไอติมเห็นจู๋ของเพื่อนเฟิร์สยิ่งทำให้อายเข้าไปใหญ่ แต่เฟิร์สก็ทำภาษากายบอกให้ไอติมถอดกางเกงโชว์จู๋คืนให้เพื่อนดูบ้าง ไอติมเลยต้องจำใจยอมทำตามที่เพื่อนบอก แต่ในตอนนั้นไอติมก็ยังคงนั่งราบหลังผิงผนังท่ออยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมแค่ไอติมถกขอบกางเกงลงแล้วงัดจู๋ขาวๆออกมาโชว์ให้เพื่อนเฟิร์สดูสมใจอยาก
" โห ของไอติมทำไมหัวถ่อกแล้วละ ของเรายังปิดอยู่เลยอ่ะดูดิ " เฟิร์สตื่นเต้นที่ได้เห็นจู๋ของเพื่อนสนิทเลยยับยั้งชั่งใจไม่อยู่ รีบเอามือมาจับจู๋ของเพื่อนโดยทันทีพร้อมกับเอามือถ่อกควยของเพื่อนเล่นพร้อมกับรูดขึ้นลง พร้อมกับเอามืออีกข้างกระดกช้างน้อยของตัวเองให้เพื่อนของเขาได้เห็นว่าปลายจู๋ของตัวเองยังคงปิดสนิทอยู่ โดยที่มีหนังหุ้มปลายยื่นยาวออกมาเล็กน้อย
" ไม่รู้อ่ะ มันก็เป็นของมันแบบนี้มานานละ เราไม่ได้สังเกตสักเท่าไหร่ " ถึงไอติมจะรู้สึกแปลกนิดๆที่เฟิร์สเพื่อนของเขาเอามือมาถ่อกควยขึ้นลง แต่เขาในตอนนั้นยังไม่ประสีประสาในเรื่องพวกนี้ ทำให้ไอติมไม่ได้ใส่ใจหรือรู้ว่าเฟิร์สกำลังทำอะไรกับควยของเขาอยู่
" หืม จู๋นายหอมดีอ่ะ ไม่มีกลิ่นฉี่เลย อืมม [ บ๊วบบบ ] " เฟิร์สยื่นหน้ามาใกล้ๆจู๋ของเพื่อนเขา หลังจากที่ดอมดมทำจมูกฟุดฟิดไปได้แค่ชั่วอึดใจ เฟิร์สก็ตัดสินใจเอาปากครอบอมลงไปที่ควยของไอติมลากลงจนสุดโคน
" แอร๊ยย ทำอะไรอ่ะเฟิร์ส " ไอติมถึงกับสะดุ้งโหยงกับพฤติกรรมแปลกๆที่เพื่อนกำลังทำให้กับเขา จนไอติมต้องรีบงัดควยออกจากปากเพื่อนของเขาในทันที พร้อมกับดึงขอบกางเกงขึ้นแล้วรีบคลานออกจากท่อ แต่ไม่วายยังหันไปพูดกับเพื่อนเฟิร์สว่า " เราอยู่ในท่อนี้นานไปละ เดี๋ยวงูมันเลื้อยเข้ามา รีบออกกันเถอะ "
พอไอติมคลานออกมาจากท่อ เขาก็รีบเดินออกจากตรงจุดนั้นทันที โดยที่มีเฟิร์สรีบคลานออกมาแล้วเดินตามมาติดๆ ในระหว่างทางที่เด็กทั้งสองเดินมาทางหน้าบริษัท ในช่วงเวลานั้นมีแต่ความเงียบงันไม่มีเสียงพูดต่อกันจากทั้งสองฝ่าย ในตอนนั้นไอติมไม่ได้เดินไปที่ออฟฟิศแม่ของเขา แต่เขาเดินเลี่ยงไปทางฟู้ดคอร์ทของบริษัท พอทั้งคู่เดินใกล้ที่จะถึงฟู้ดคอร์ท เฟิร์สก็รีบเอามือมาจับไหล่เพื่อนของเขาให้หันมา..
" ไอติม เราขอโทษ นายโกรธเราเหรอ " เฟิร์สพูดพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าแล้วมองไปที่เพื่อนสนิทของเขา
" เฮ้ย จะร้องไห้ทำไม เราไม่ได้โกรธเฟิร์สซะหน่อย " ไอติมหันหน้ามาก็ตกใจนิดๆ เพราะในตอนนี้ดวงตาของเฟิร์สเหมือนกำลังจะสตาร์ทเครื่องจักรผลิตมวลน้ำตาให้ไหลออกมา
" ไม่จริงอ่ะ ไอติมโกรธเรา ไอติมเดินดุ่มๆหนีเรามา ไม่พูดกับเราสักคำ อึ่กๆ " เฟิร์สพูดน้ำตาเริ่มไหลทีละเม็ดสองเม็ด พร้อมกับจมูกที่ฟุดฟิดเหมือนคนมีน้ำมูก
" อืม มันไม่ได้โกรธหรอก เราแค่รู้สึกแปลกๆบวกกับเราจั๊กจี้อ่ะ " ไอติมเอามือไปจับไหล่เพื่อนแล้วเขย่าเบาๆปลอบใจ
" ไอติมไม่โกรธเราจริงๆนะ เราสัญญาจะไม่ทำอย่างนั้นอีก นะๆอย่าโกรธเรานะ " เฟิร์สพูดพร้อมกับเอามือเช็ดน้ำตาออก สีหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนมาอยู่ในโหมดดีใจ พร้อมกับเอามือมาจับแขนของไอติมเขย่าเบาๆตอบในเชิงขอโทษแบบภาษากาย
" ไปๆ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า เราอยากกินน้ำแข็งไสคลายร้อน " ไอติมยิ้มหวานให้เฟิร์ส แล้วดึงเพื่อนเขาเข้าไปในศูนย์อาหาร
ภาพของเด็กชายสองคนที่กำลังนั่งกินน้ำแข็งไสข้างๆกันอย่างมีความสุข ทั้งคู่มีการหยอกล้อกันในการแย่งเครื่องเคียงที่ใส่ในน้ำแข็งไสของอีกฝ่าย รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของเด็กชายทั้งสองคนที่มันทอประกายความสดใสออกมา ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่ถึงชั่วโมง มันเพิ่งเกิดเหตุการณ์แปลกๆระหว่างตัวเขาทั้งสองคน ภาพที่อยู่ตรงหน้าถูกถ่ายทอดสู่สายตาของไอติมในร่างปัจจุบันในอายุ 19 ปีที่กำลังยืนแอบดูอยู่ใกล้ๆ ไอติมเห็นภาพเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นในอดีตแล้วเริ่มจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นมันเป็นอีกเศษเสี้ยวหนึ่งในความทรงจำที่เลือนลางหายไปจากหัวของเขา เขารีบวิ่งไปที่โต๊ะออฟฟิศที่ผุพังในกองของเก่าโซนหลังของโรงงาน เขาดึงลิ้นชักยาวออกแล้วสอดตัวเข้าไปในลิ้นชักนั้น ไอติมปรับจูนวันเดือนปีของเครื่องไทม์แมชชีนแล้วขับเครื่องมาในช่วงเวลาปัจจุบัน..
ช่วงเวลาในปัจจุบันที่มันเพิ่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างกับตัวเขา จนถึงให้เขาต้องตัดสินใจย้อนไปในอดีตเพื่อเสาะหาความจริงบางอย่าง ความทรงจำที่มันเลือนหายไปตามกาลเวลา ซึ่งมันสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน มันมีเหตุการณ์เรื่องราวบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเขา จนทำให้ตัวตนของไอติมนั้นสั่นคลอนสะท้านไปถึงจิตใจ ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นมันก็เกิดขึ้นที่บ้านของเพื่อนเฟิร์ส หลังจากที่เฟิร์สเพิ่งมีเรื่องราวชกต่อยในสนามบอลกับไอ้โบ้วัยรุ่นต่างถิ่นมาแล้วได้ประมาณ 2 วัน... ในวันนั้นที่ไอติมพกไมตรีจิตไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเปรียบเสมือนเอาดอกไม้ไปมอบให้เป็นขวัญและกำลังใจกับเพื่อนซี้ของเขา แต่ไอติมก็ต้องตกใจสุดขีด..เมื่อเฟิร์สเพื่อนของเขากลับมอบโซ่ตรวนมาจองจำและพันธนาการตัวตนและจิตใจของไอติมแทน เพื่อหวังผลอะไรบางอย่างในตัวเขา..
มี 134 ซื้อ คุณต้องจ่าย 5 Zenny เพื่ออ่านกระทู้นี้ จ่ายเงินสำหรับกระทู้นี้
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ.
รอติดตามนะครับ
ทำไมตอนนี้ แม้จะมีอะไรกับเฟิร์สบ่อยๆ แต่ไม่มีท่อนไหน ที่แสดงถึงความสุข โรแมนติคทั้งในตอนเอากัน ไอติบไซร้เฟิร์สให้ทั้งตัว 69ช่วยกันอย่างเสียวอะไรแบบนี้ เป็นตอนที่เหมือนเล่าเฉยๆจริงๆ
เขียนพรรณนาโวหารในตอนต้นเรื่องได้เยี่ยมยอดมากครับชอบ ๆ
ขอบคุณครับ
โออออ หายไปนานเลย คิดถึงเรื่องเล่ามากๆเลยครับ ภาษาสำนวนดีไม่เปลี่ยนจริงๆ ขอบคุณนะครับ
พี่ติมมมมมม เย้ ดีใจมากกก
สนุกมากครับ
ขอบคุนที่กลับมาน๊า
ขอบคุณมากครับ
casino7 ตอบกลับเมื่อ 2024-1-29 03:36EP.1 : ครั้งแรกของผม...เกิดจากความแค้นต่อเด็กป.4 / น้องตั๋น
EP.2 : ญาติกัน(เอา)มันดี Part 1 : เล่นกับลูกอาในห้องน้ำจนเป็นเรื่อง / น้องเซน
EP.3 : มัธยมหรรษา Part 1 : ร้อนรักห้องคหกรรม กับ เด็กชายนายลูกครึ่ง / เพื่อนหรั่ง (เดนนิส)
EP.4 : มัธยมหรรษา Part 2 : ร้อนรักห้องน้ำชาย กับ เด็กชายนายก้นงอน / เพื่อนนัท
EP.5 : กาลครั้งหนึ่ง เมื่อเราบวชเณร Part 1 : ความทรงจำดีๆ กับ เด็กชายที่เราไม่คอยมอง / น้องป๋อง
EP.6 : กาลครั้งหนึ่ง เมื่อเราบวชเณร Part 2 : ทริปธุดงค์หื่น 2 รุม 1 ถ้ำสะเทือน / น้องเจี๊ยบและน้องไผ่
EP.7 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 1 : เด็กม.3ขี้เหงา กับ เด็กป.5ข้างบ้านขี้เงี่ยน / น้องต้น
EP.8 : ญาติกัน(เอา)มันดี Part 2 : ตูดฉีกในคืนที่พายุโหมกระหน่ำ เสียซิงครั้งแรกให้กับญาติผู้พี่ม.5 / พี่ก้อง
EP.9 : ม.ปลายตัวหื่นแสนเจ้าเล่ห์ VS เด็กอนุบาลใสซื่อไร้เดียงสากับตุ๊กตาจระเข้ยางของน้อง / น้องเต้
EP.10 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 2 : ซื้อคอหมูย่างแถมลูกชายคนขาย / น้องปัน
EP.11 : มัธยมหรรษา Part 3 : " ผมเห็นพี่เป็นไอดอล " คำพูดของรุ่นน้องม.1ตัวท็อป ที่มีต่อรุ่นพี่ตัวท็อปม.5 / น้องคิม
EP.12 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 3 : ส่งข้าวกล่องให้เด็กน้อย คิดค่าจ้าง 2 น้ำ / น้องเจมส์
EP.13 : 2 เดือนแห่งความสุข กับ 1 วันที่ทุกข์ระทม ตกหลุมรักเด็กชายข้างบ้านย่า / น้องทอม
EP.14 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 4 : ส่งข้าวกล่องให้เด็กหื่น แถม น้ำซุปขาวข้นกลืนลื่นคอ / น้องแจ็ค
EP.15 : มัธยมหรรษา Part 4 : น้องลูกครึ่งม.ต้นสายขอ กับ พี่ม.ปลายลุคป๋าสายเปย์ / น้องจิมมี่
EP.16 : มัธยมหรรษา Part 5 : รุ่นพี่ตัวแสบเพื่อนพี่สาว กับ เด็กเก็บกดน้องชายเพื่อน / น้องหนุ่ม
EP.17 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 5 : น้องป.6ดาวยั่วขี้อ่อย กับ พี่ชายข้างบ้านช่างยุขี้เอา / น้องเต้ย
EP.18 : มัธยมหรรษา Part 6 : เพื่อนรักนักบาส กับ ภารกิจสอน Sex ในสถานที่หลบภัย / เพื่อนโอม
EP.19 : มัธยมหรรษา Part 7 : My Brother My Hero ความรู้สึกที่ซับซ้อนและสับสนของเด็กชายม.1 / น้องไฉ้
EP.20 : มัธยมหรรษา Part 8 (จบภาค) : มนต์รักรถสองแถว ความสัมพันธ์แบบงงๆ กับ เด็กม.2ทรงติ๋ม / น้องเจ
EP.21 : หมู่บ้านจิตหงุดเงี้ยว Part 6 (จบภาค) : หลังบ้านอลวน กับ เด็กแฝดแสบซนอลเวง / น้องบี
EP.22 : ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง Part 1 (เปิดภาค) : นี่เด็กหรือปลาฉลาม การจู่โจมที่คาดไม่ถึงในทะเล / น้องโฟล์ค
EP.23 : ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง Part 2 : ครั้งเดียวเกินพอกับเด็กพารานอยด์ ความรู้สึกและความต้องการของเด็กชายคนหนึ่งที่ผมหยั่งไม่ถึง / น้องตั้ม
EP.24 : ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง Part 3 : ไก่หยอกหมา เจอ หมาหยอกไก่คืนแบบจุกๆ กับ ปฎิบัติการมังกรปิดปากถ้ำต้านวายุ / น้องจา
EP.25 : ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง Part 4 : ไฟราคะที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางแมตซ์เดือดในสนาม ความสัมพันธ์ที่คาดไม่ถึงกับเด็กชายต่างถิ่น / น้องนก
====================================
** บทนำ (ปฐมบท) ของภาคใหม่ ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง
จะอยู่ตอนท้ายของ EP21 <---- คลิกอ่าน **
EP.26 ก๊วนเด็กสนามบอลอลเวง
Part 5 : เหตุเกิดจากการแบล็กเมล์
จนผมต้องกลายมาเป็นทาสรัก Delivery
<<---------------------------------------------------->>
ท่ามกลางแสงแดดที่ส่องประกายในช่วงฤดูร้อน ฝูงนกที่ออกหากินพากันบินไปเกาะตามกิ่งไม้ส่งเสียงเจื้อยแจ้วไพเราะเสนาะหู สายลมที่พัดโชยมาเหมือนรู้ว่าทุกสรรพสิ่งกำลังโหยหาความเย็นสบายที่จะมาทำลายความร้อนจากพระอาทิตย์ ภาพของเด็กชายสองคนที่ทั้งคู่เรียนอยู่ชั้นป.4และป.3ตามลำดับ ที่กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานในสวนออกกำลังกายของบริษัทแห่งนึงที่แม่ของทั้งสองเด็กน้อยทำงานอยู่ ทั้งสองคนเพิ่งมารู้จักกันได้ไม่นานมานี้ ซึ่งเด็กชายป.4ที่แสนน่ารัก แม่ของเขาเพิ่งพามาเล่นที่โรงงานแห่งนี้ ในขณะที่อีกคนเด็กชายป.3ตี๋น้อยรูปงาม เขาเติบโตมาในโรงงานนี้ตั้งแต่เกิด ทั้งสองคนสนิทตัวติดกันมาก วันใดที่คนโตไม่มาที่บริษัทอีกคนจะรู้สึกกระสับกระส่ายและว้าวุ่นใจเหมือนกับโดนอีกคนร่ายเสน่ห์มนต์ดำผูกมัดจิตใจเอาไว้ ซึ่งในตอนนั้นสำหรับคนเล็กตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวของเขาติตใจของเขามันมีแพชชั่นอะไรบางอย่างที่ทำให้ตัวเขาเกิดความหลงใหลในอีกฝ่าย เขารู้แค่เพียงว่าในแต่ละวันที่เจอกัน ตัวเขาอยากอยู่ใกล้ๆ อยากคุยด้วยทั้งวัน อยากเป็นคนที่เขาคนนั้นใส่ใจ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกและหยั่งไม่ถึงพอที่เด็ก 8 ขวบอย่างเขาจะรู้ได้ว่าตัวเขากำลังเป็นอะไร แต่กับคนโตในหัวงเวลานั้นที่มีความรู้สึกกับอีกฝ่ายในทำนองที่มองว่าเป็นเพื่อนผู้ชายที่สนิท ซึ่งเขาไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายมากเท่าไหร่นักในช่วงชีวิตอันไร้เดียงสาในวัยเก้าขวบปี ที่นอกเหนือจากเพื่อนผู้ชายวัยแก่นซนแสนทะโมนที่โรงเรียนของเขา
" นี่ๆไอติม ช่วงบ่ายเรามาว่ายน้ำที่สระน้ำกันไหม " น้องป.3พูดพร้อมกับทำสายตาอ้อนวอน
" ไม่เอาอ่ะ แม่เราบอกว่า..ห้ามลงเล่นน้ำในสระเด็ดขาด ถ้าไม่มีผู้ใหญ่คอยเฝ้าดูแลใกล้ๆ เดี๋ยวเฟิร์สก็โดนพ่อดุอีกหรอก " พี่ป.4ทำสายตาดุนิดๆ
" ไม่เป็นไร มันมีจุดที่ตื้นอยู่ และอีกอย่างเราว่ายกันตอนเที่ยง พวกผู้ใหญ่จะมานั่งพักสูบบุหรี่กัน ไม่น่ามีปัญหา นะๆมาว่ายกันนะๆๆไอติมมม " เฟิร์สทำเสียงออดอ้อนเพื่อลวงให้เพื่อนของเขาไปติดกับดักที่เขาวางเอาไว้และใจอ่อนกับคำขอร้องอ้อนวอนของเขา
" อ่ะๆก็ได้แต่....ว่า " ไอติมพูดแล้วมองหน้าเฟิร์สแล้วขบคิดอะไรบางอย่าง
" ไอติมไม่มีกางเกงเปลี่ยนใช่ม่ะ เดี๋ยวเราเอามาเผื่อ ช่วงเที่ยงเจอกัน " เฟิร์สยิ้มแฉ่งหน้าบาน เพราะรู้แล้วว่าตัวไอติมนั้นใจอ่อนและยอมมาว่ายน้ำด้วยตามที่เขาต้องการ
" เราน่าจะมาถึงเกือบบ่ายอ่ะ เราต้องไปกินข้าวเที่ยงกับแม่ก่อน " ไอติมพูดแล้วยักไหล่เบาๆ
" ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจะว่ายน้ำรอไอติม รีบๆมาละเดี๋ยวเราจะตัวเปื่อยซะก่อน ไว้เจอกัน " เฟิร์สพูดเสร็จก็เดินจากไปอย่างมีความสุขเริงร่าแบบสุดขีด
ในช่วงเที่ยงของวันนั้นทางฝั่งไอติมดูจะผิดแผนไปซะหน่อย ในเมื่อแม่ของเขาพาไปกินอาหารที่นอกบริษัทแทนที่จะกินในฟู้ดคอร์ทแคนทีนของบริษัท ทำให้ไอติมและแม่ของเขาเข้ามาในบริษัทเกือบบ่ายโมง พอเข้าบริษัทมาไอติมก็รีบวิ่งไปที่สระว่ายน้ำที่อยู่โซนกลางของโรงงานตามที่เขาได้นัดกับเพื่อนของเขาไว้ พอไอติมวิ่งมาใกล้ก่อนที่จะถึงทางขึ้นของสระว่ายน้ำ ไอติมก็แปลกใจพิกลเมื่อเห็นเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกันวิ่งลงมาจากสระว่ายน้ำด้วยสีหน้าที่แตกตื่น ไอติมเห็นเด็กสองคนที่รุ่นราวคราวเดียวกันวิ่งสวนตัวเขาไปทางโซนหน้าโรงงานอย่างรวดเร็ว ไอติมรีบคว้าแขนเพื่อนคนนึงเอาไว้ได้ แล้วเอ่ยปากถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่มันทำให้พวกเขาดูตื่นตะหนกแบบผิดสังเกต
" นี่เต้ย..เกิดอะไรขึ้น " ไอติมถามเต้ยที่เป็นลูกของช่างไฟในโรงงาน ที่ในตอนนี้ใส่กางเกงว่ายน้ำเพียงตัวเดียวเนื้อตัวเปียกโชก
" ไอ้เฟิร์สมันจมน้ำอ่ะตอนนี้ มันดันดำน้ำเล่นแล้วเผลอดำโผล่ไปกลางสระจุดที่ลึกพอดี " เต้ยพูดด้วยอาการตื่นตะหนก ( รูปแบบสระว่ายน้ำของโรงงานจะเป็นแบบสโลปจากตื้นไปลึกเป็นขั้นระดับ )
พอไอติมได้ยินดังนั้น..ตัวเขาก็รีบวิ่งขึ้นบันไดไปสระว่ายน้ำโดยทันที พอไอติมไปถึง..เขาก็เห็นเพื่อนอีกคนนึงกำลังเอาด้ามไม้ม็อบยื่นลงไปในสระ แต่ความยาวของไม้มันไม่พอที่จะส่งถึงเฟิร์สเด็กชายที่เคราะห์ร้าย เพราะจุดที่เฟิร์สกำลังตะเกียกตะกายเอาตัวรอดมันอยู่บริเวณกลางสระ ในตอนนั้นไอติมได้คิดคำนวณถึงความน่าจะเป็นในการช่วยชีวิตเพื่อนของเขา ในจังหวะนั้นเขามองว่าต่อให้เฟิร์สอยู่กลางสระ แต่มันก็อยู่ห่างจากจุดตื้นของสระน้ำเพียงแค่ไม่กี่เมตร ไอติมรีบกระโจนลงน้ำโดยทันทีก่อนที่จะสายเกินไป ไอติมว่ายฟรีสไตล์จ้วงแขนไปได้ประมาณ 4-5 สโตรก ไอติมก็รีบคว้าแขนของเฟิร์สที่โผล่พ้นน้ำมา แล้วไอติมก็เอาแขนสอดเข้าที่ใต้จั๊กแร้ของเฟิร์สแล้วเอาแขนไปรัดแน่นที่หน้าอก พร้อมกับก็ตีขาพร้อมกับจ้วงแขนซ้ายพร้อมกับพยุงตัวเพื่อนสนิทของเขา ถึงจะทุลักทุเลไปนิดแต่ไอติมก็สามารถดึงลากเพื่อนมาจุดที่ตื้นได้สำเร็จ ประจวบเหมาะที่พ่อของเฟิร์สวิ่งมาถึงแล้วโดดกระโจนลงสระว่ายน้ำมาช่วยลูกชายของเขาทันพอดี
พ่อของเฟิร์สอุ้มลูกชายของเขาขึ้นมาแล้ววางร่างลงที่พื้นของสระว่ายน้ำข้างๆ ในขณะที่ตัวเฟิร์สมีการสำลักน้ำออกมาเป็นระยะ ซึ่งดูแล้วคงจะไม่ต้องมีการผายปอดหรือCPRใดๆ แล้วจังหวะนั้นแม่ของเฟิร์สก็วิ่งหน้าตาตื่นมาพร้อมกับแม่ของไอติม แม่ของเฟิร์สร้องไห้ฟูมฟายพร้อมกับดึงลูกชายสุดที่รักมากอดไว้โดยที่มีโฟล์คเด็กชายวัย 4 ขวบน้องชายของเฟิร์สที่มองเหตุการณ์ตรงหน้าแบบไม่ประสีประสากับเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า จังหวะที่ไอติมเดินขึ้นมาจากสระ แม่ของเขาก็ดึงตัวมาโอบไหล่แล้วมองเหตุการณ์ตรงหน้าไปพร้อมๆกัน
" ไอติม น้าขอบใจเรามากนะที่ช่วยลูกของน้าไว้ ถ้าไม่ได้ไอติมไอ้เฟิร์สคงตายแน่ๆ " พ่อเฟิร์สก้มลงมาจูบหัวของไอติมคราบน้ำตาบางส่วนของเขาไหลหยดลงมาบนแก้มของเด็กชายตัวน้อยที่เพิ่งเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตลูกชายคนโตของบ้านมาหมาดๆ
" ไอ้เฟิร์สมันเป็นหนี้ชีวิตเราแล้ว น้าขอบใจไอติมมากนะ ถ้าไอ้เฟิร์สมันเป็นอะไรไป น้าก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไง " แม่เฟิร์สหันมาพูดกับไอติม ที่ในตอนนั้นใบหน้าของเธอก็มีคราบน้ำตาที่ไหลไม่น้อยไปกว่าสามีของเธอ
พอเฟิร์สเด็กชายที่เพิ่งรอดชีวิตมาหมาดๆที่เหมือนอาการจะดีขึ้นแล้วแต่ขวัญกำลังใจยังคงหดหายอยู่ แม่เฟิร์สก็ค่อยๆพยุงตัวขึ้นมา ส่วนพ่อของเขาที่เดาว่าลูกชายของตัวเองอาการน่าจะดีขึ้นแล้ว พ่อเฟิร์สก็เอาฝ่ามือตีไปที่หลังของลูกชายตัวเองอย่างแรงสองสามทีพร้อมกับดุด่าว่ากล่าว โดยที่คนเป็นแม่หันมาทุบตีสวนคืนไปที่ร่างกายของสามีแล้วเริ่มมีปากเสียงกันตลอดทางที่เดินลงจากสระว่ายน้ำ ในขณะที่ไอติมกำลังมองเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า แม่ของเขาเอามือมาลูบหัวลูกชายอย่างแผ่วเบาด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก ไม่รู้ในตอนนั้นแม่ของไอติมจะรู้สึกดีใจ ภูมิใจ หรือโกรธ เธอและลูกชายของเธอก็เดินตามลงไปอย่างช้าๆแล้วมุ่งหน้าเดินไปที่ออฟฟิศทันที
หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปเกือบสามสัปดาห์..เด็กชายเฟิร์สที่เพิ่งพ้นจากการจองจำกำหนดกักบริเวณของผู้ปกครอง ส่วนเด็กชายไอติมก็มาที่โรงงานตามปกติเพราะในช่วงเวลานั้นยังคงคาบเกี่ยวอยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่ภาคฤดูร้อน หลังจากผ่านเหตุการณ์เฉียดเป็นเฉียดตายมา เฟิร์สก็ยิ่งติดไอติมมากกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว ในตอนนั้นตัวไอติมไม่รู้หรอกว่าใจของเฟิร์สนั้นกำลังตะหนักถึงอะไรอยู่ แต่ที่แน่ๆเขามองว่าเพื่อนซี้ของเขาคนนี้เป็นคนที่ต่อลมหายใจของเขาเอาไว้ให้ยังคงมีชีวิตอยู่ในบนโลกใบนี้ แต่ด้วยความเป็นเด็ก ตัวของเฟิร์สอาจจะไม่ใส่ใจและลงลึกในเรื่องบุญคุณต้องชดใช้มากเท่าที่เด็กแปดขวบจะคิดได้ ในตอนนั้นเขาทำได้เพียงแค่มอบความรักและความรู้สึกที่ดีให้กับเพื่อนคนนี้ให้มากกว่าเดิม ซึ่งจะดูเหมือนเป็นการตอบแทนบุญคุณแบบกลายๆตามแต่ที่เด็กวัย 8 ขวบจะพึงคิดได้ และมาในวันนี้ก็เป็นอีกวันนึงที่เฟิร์สมาดักคอยไอติมเพื่อนซี้ของเขาอย่างใจจดใจจ่อที่หน้าประตูทางเข้าออฟฟิศตั้งแต่หัววัน
" สวัสดีครับคุณป้า ผมขอพาไอติมไปเล่นนะครับ " เฟิร์สยกมือไหว้และยิ้มหวานให้แม่ของไอติม แม่ไอติมไม่ได้ตอบอะไรกลับ เพียงแค่ส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นให้และพยักหน้าเบาๆในเชิงว่าอนุญาต
" ว่าแต่..วันนี้เราจะไปเล่นที่ไหนกันดีอ่ะ " ไอติมหันไปถามเพื่อนของเขา ที่ในตอนนี้ตัวของไอติมกำลังโดนเฟิร์สโอบไหล่กึ่งลากไปทางหลังโรงงาน
" ไปเล่นตรงกองของเก่าก่อนถึงหอพักคนงานละกัน ว่าแต่วันนี้เราไม่เห็นมีใครมาเลย กะว่าจะชวนเล่นซ่อนแอบซะหน่อย " เฟิร์สพูดทำหน้ามุ่ยนิดๆ เพราะในวันนั้นไม่มีลูกของคนที่ทำงานมาเล่นที่บริษัทเลย
" น่าจะไปเรียนพิเศษกันมั้ง ก็เหมือนเราไงที่ไม่มาเฉพาะวันศุกร์ เพราะเราติดเรียนพิเศษ " ไอติมพูดปลอบใจเพื่อนซี้ของเขา
ทั้งสองคนก็พากันเดินมาถึงกองของเก่าของโรงงาน พื้นที่ตรงนั้นทางโรงงานมักจะเอาอุปกรณ์ข้าวของชิ้นใหญ่ๆที่ไม่ใช้งานแล้วหรือที่เสียผุผังมาวางกองต่อๆกันไว้ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นเล็กอย่างโต๊ะเก้าอี้ของออฟฟิศ หรือจะเป็นของใหญ่อย่างรถบบรรทุก รถยกที่เสียแบบปลดระวางรวมไปถึงคันที่รอซ่อมแซม ซึ่งของเหล่านี้จะตั้งอยู่บนพื้นดินในที่ดินของบริษัท ซึ่งก็มีบางจุดที่มีต้นไม้น้อยใหญ่รวมไปถึงไม้เลื้อยที่คืบคลานมาพัวพันสิ่งของเหล่านั้นเหมือนกันยุคยูโทเปียวันสิ้นโลก แต่ถึงจะมีบางจุดที่รกทึบดูรกร้างและวังเวง แต่สถานที่นี้มักจะเป็นที่เล่นของบรรดาเด็กๆในโรงงานซึ่งกิจกรรมการเล่นหลักก็คือเล่นซ่อนแอบนั้นเอง
" ไอติม..เราสองคนไปนั่งเล่นกันในท่อคอนกรีตละกัน " เฟิร์สพูดโน้มน้าวใจเพื่อน พร้อมกับชี้ไปยังกองท่อระบายน้ำคอนกรีตรูปทรงกลม ที่ทางโรงงานสั่งมาเกินแล้วไม่ได้ใช้ เลยปล่อยทิ้งไว้เฉยๆให้เถาไม้เลื้อยปกคลุมเล่น
" จะมีงูเปล่า เดี๋ยวก็มีเรื่องราวอีก โดนกักบริเวณโดนพ่อตีเราไม่รู้ด้วยนะ " ไอติมหันไปมองค้อนเชิงเตือนเพื่อนซี้ของเขา
" ช่างปะไรละ เราไม่สนหรอก พ่อกับแม่ก็เอาแต่โอ๋ไอ้โฟล์คมัน พวกเขาไม่เคยรักเราหรอก เผลอๆพ่อแม่เรารักนายมากกว่าเราซะอีก นี่พ่อเราก็ฝากเรามาบอกกับนายว่า ถ้านายหิวข้าว ก็ไปกินข้าวที่ร้านพ่อเราได้เลย ฟรีตลอดไม่คิดเงิน " เฟิร์สทำหน้าบึ้งนิดๆแล้วพูดออกมา
" ไม่จริงหรอก ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนรักลูกคนอื่นมากกว่าตัวเอง คิดมาก ตอนนายจมน้ำพวกเขายังร้องไห้ให้นายเลย " ไอติมพูดพร้อมกับเอามือไปโอบไหล่เพื่อนเขาเพื่อเป็นการปลอบใจ
" ไม่เอาๆ ไม่พูดละ ไปกันเถอะ " เฟิร์สพูดเสียงดังนิดๆเพื่อตัดบทสนทนาที่กำลังส่อไปทางดราม่า แล้วลากเพื่อนซี้ของเขามุดเข้าไปในท่อน้ำคอนกรีต ทั้งคู่มุดเข้าลึกพอสมควรจนถึงจุดที่แสงสว่างตัดกับความมืดจากปลายท่อ ที่ในตอนนั้นมันตั้งอยู่ชิดกับริมกำแพง ทั้งคู่นั่งข้างกันและคุยไปในเรื่องต่างนาๆ รวมไปถึงการกุเรื่องผีมาเล่าข่มขวัญเพื่อทำให้อีกฝ่ายกลัว
" จะว่าไป..ถ้าไม่มีไอติม เราตอนนี้จะไปเกิดใหม่หรือยังนะ " เฟิร์สพูดพร้อมกับเอียงหัวมาอิงซบไหล่เพื่อนของเขา รวมไปถึงเอามือมาจับมือของอีกฝ่ายแล้วสำรวจเรียวนิ้วมือของไอติม
" ไม่เอาน่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว จะรื้อฟื้นทำไมเนี่ย " ไอติมหันไปดุเพื่อนนิดๆ เพราะไม่อยากให้เขายึดติดอะไรกับอดีตให้มันมากนัก
" โอเคๆ เราขอบคุณละกันที่เสี่ยงตายลงมาช่วยเรา " เฟิร์สพูดเสียงสลดนิดๆ แต่มือของเขาก็ยังคงสำรวจที่มือของอีกฝ่าย
" ไม่เป็นไรอ่ะ มันเป็นไปตามสัญชาตญาณ คงเป็นเพราะเราว่ายน้ำเป็นด้วยแหละเลยกล้าลงไป ซึ่งต่างจากไอ้ท็อปที่มันว่ายน้ำไม่เป็น มันก็ช่วยเพียงแค่หาไม้หย่อนไปให้นายจับ " ในขณะที่ไอติมกำลังพูดอยู่ สายตาก็จ้องไปที่มือตัวเองที่ในตอนนี้เฟิร์สกำลังลูบไล้สำรวจเหมือนกับนักศึกษาที่กำลังเรียนกายวิภาคสรีระศาสตร์ในมหาวิทยาลัย
" มือไอติมสวยดีนะ เราชอบเล็บนายมากเลยมันสวยดีอ่ะ " เฟิร์สดึงมือเพื่อนสนิทเอาเข้ามาดูใกล้ๆ
" เห็นแม่เคยบอกว่า มือเราเหมือนพ่ออ่ะ ก็คงได้มาจากพ่อมั้ง " ในตอนนั้นตัวของไอติมก็ยังไร้เดียงสาอยู่กับพฤติกรรมที่กำลังบังเกิดตรงหน้า ทำให้ตัวเขาไม่ได้คิดอะไรมากมาย ในตอนนั้นไอติมก็คิดว่าเพื่อนกำลังเล่นแบบปกติ ซึ่งก็เหมือนกับเด็กประถมทั่วไปในสมัยนั้น ที่ในบางคนก็มีเดินจูงมือกันในโรงเรียนต่อให้เป็นเพศเดียวกันก็ตาม
" ไอติม..เราขออะไรนายอย่างดิ " เฟิร์สหันหน้ามาหาเพื่อนของเขาแล้วทำสายตากรุ้มกริ่มยิ้มแบบมีเลศนัย
" อะไรอ่ะ นายจะขออะไรเราเหรอ " ไอติมก็ยังคงตอบกลับไปแบบใสซื่อ
" เราขอดู..จู๋นายหน่อยดิ " เฟิร์สพูดพร้อมกับเอานิ้วมาจิ้มๆตรงจุดนั้นของไอติม
" อ๊าา ไม่เอาอ่า เราอาย " ไอติมถึงกับเขินอายในสิ่งที่เพื่อนของเขาขอ ซึ่งอากัปกิริยาแบบนั้นของไอติมมันบ่งบอกได้ว่า สิ่งที่เฟิร์สขอในตัวของเขานั้น มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน
" ไม่เป็นไร ไม่ต้องอายหรอก เราเพื่อนกัน อ่ะ เดี๋ยวเราถกกางเกงให้นายดูจู๋เราก่อนก็ได้ ผลัดกันๆ " เฟิร์สเปลี่ยนจากท่านั่งราบมาเป็นนั่งคุกเข่าแล้วเชิดตัวสูงขึ้นจนหัวติดผนังท่อ แล้วเฟิร์สก็ถกกางเกงลงโชว์จู๋ขาวๆ
" อ่า...มันจะดีเหรอ " พอไอติมเห็นจู๋ของเพื่อนเฟิร์สยิ่งทำให้อายเข้าไปใหญ่ แต่เฟิร์สก็ทำภาษากายบอกให้ไอติมถอดกางเกงโชว์จู๋คืนให้เพื่อนดูบ้าง ไอติมเลยต้องจำใจยอมทำตามที่เพื่อนบอก แต่ในตอนนั้นไอติมก็ยังคงนั่งราบหลังผิงผนังท่ออยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมแค่ไอติมถกขอบกางเกงลงแล้วงัดจู๋ขาวๆออกมาโชว์ให้เพื่อนเฟิร์สดูสมใจอยาก
" โห ของไอติมทำไมหัวถ่อกแล้วละ ของเรายังปิดอยู่เลยอ่ะดูดิ " เฟิร์สตื่นเต้นที่ได้เห็นจู๋ของเพื่อนสนิทเลยยับยั้งชั่งใจไม่อยู่ รีบเอามือมาจับจู๋ของเพื่อนโดยทันทีพร้อมกับเอามือถ่อกควยของเพื่อนเล่นพร้อมกับรูดขึ้นลง พร้อมกับเอามืออีกข้างกระดกช้างน้อยของตัวเองให้เพื่อนของเขาได้เห็นว่าปลายจู๋ของตัวเองยังคงปิดสนิทอยู่ โดยที่มีหนังหุ้มปลายยื่นยาวออกมาเล็กน้อย
" ไม่รู้อ่ะ มันก็เป็นของมันแบบนี้มานานละ เราไม่ได้สังเกตสักเท่าไหร่ " ถึงไอติมจะรู้สึกแปลกนิดๆที่เฟิร์สเพื่อนของเขาเอามือมาถ่อกควยขึ้นลง แต่เขาในตอนนั้นยังไม่ประสีประสาในเรื่องพวกนี้ ทำให้ไอติมไม่ได้ใส่ใจหรือรู้ว่าเฟิร์สกำลังทำอะไรกับควยของเขาอยู่
" หืม จู๋นายหอมดีอ่ะ ไม่มีกลิ่นฉี่เลย อืมม [ บ๊วบบบ ] " เฟิร์สยื่นหน้ามาใกล้ๆจู๋ของเพื่อนเขา หลังจากที่ดอมดมทำจมูกฟุดฟิดไปได้แค่ชั่วอึดใจ เฟิร์สก็ตัดสินใจเอาปากครอบอมลงไปที่ควยของไอติมลากลงจนสุดโคน
" แอร๊ยย ทำอะไรอ่ะเฟิร์ส " ไอติมถึงกับสะดุ้งโหยงกับพฤติกรรมแปลกๆที่เพื่อนกำลังทำให้กับเขา จนไอติมต้องรีบงัดควยออกจากปากเพื่อนของเขาในทันที พร้อมกับดึงขอบกางเกงขึ้นแล้วรีบคลานออกจากท่อ แต่ไม่วายยังหันไปพูดกับเพื่อนเฟิร์สว่า " เราอยู่ในท่อนี้นานไปละ เดี๋ยวงูมันเลื้อยเข้ามา รีบออกกันเถอะ "
พอไอติมคลานออกมาจากท่อ เขาก็รีบเดินออกจากตรงจุดนั้นทันที โดยที่มีเฟิร์สรีบคลานออกมาแล้วเดินตามมาติดๆ ในระหว่างทางที่เด็กทั้งสองเดินมาทางหน้าบริษัท ในช่วงเวลานั้นมีแต่ความเงียบงันไม่มีเสียงพูดต่อกันจากทั้งสองฝ่าย ในตอนนั้นไอติมไม่ได้เดินไปที่ออฟฟิศแม่ของเขา แต่เขาเดินเลี่ยงไปทางฟู้ดคอร์ทของบริษัท พอทั้งคู่เดินใกล้ที่จะถึงฟู้ดคอร์ท เฟิร์สก็รีบเอามือมาจับไหล่เพื่อนของเขาให้หันมา..
" ไอติม เราขอโทษ นายโกรธเราเหรอ " เฟิร์สพูดพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าแล้วมองไปที่เพื่อนสนิทของเขา
" เฮ้ย จะร้องไห้ทำไม เราไม่ได้โกรธเฟิร์สซะหน่อย " ไอติมหันหน้ามาก็ตกใจนิดๆ เพราะในตอนนี้ดวงตาของเฟิร์สเหมือนกำลังจะสตาร์ทเครื่องจักรผลิตมวลน้ำตาให้ไหลออกมา
" ไม่จริงอ่ะ ไอติมโกรธเรา ไอติมเดินดุ่มๆหนีเรามา ไม่พูดกับเราสักคำ อึ่กๆ " เฟิร์สพูดน้ำตาเริ่มไหลทีละเม็ดสองเม็ด พร้อมกับจมูกที่ฟุดฟิดเหมือนคนมีน้ำมูก
" อืม มันไม่ได้โกรธหรอก เราแค่รู้สึกแปลกๆบวกกับเราจั๊กจี้อ่ะ " ไอติมเอามือไปจับไหล่เพื่อนแล้วเขย่าเบาๆปลอบใจ
" ไอติมไม่โกรธเราจริงๆนะ เราสัญญาจะไม่ทำอย่างนั้นอีก นะๆอย่าโกรธเรานะ " เฟิร์สพูดพร้อมกับเอามือเช็ดน้ำตาออก สีหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนมาอยู่ในโหมดดีใจ พร้อมกับเอามือมาจับแขนของไอติมเขย่าเบาๆตอบในเชิงขอโทษแบบภาษากาย
" ไปๆ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า เราอยากกินน้ำแข็งไสคลายร้อน " ไอติมยิ้มหวานให้เฟิร์ส แล้วดึงเพื่อนเขาเข้าไปในศูนย์อาหาร
ภาพของเด็กชายสองคนที่กำลังนั่งกินน้ำแข็งไสข้างๆกันอย่างมีความสุข ทั้งคู่มีการหยอกล้อกันในการแย่งเครื่องเคียงที่ใส่ในน้ำแข็งไสของอีกฝ่าย รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของเด็กชายทั้งสองคนที่มันทอประกายความสดใสออกมา ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่ถึงชั่วโมง มันเพิ่งเกิดเหตุการณ์แปลกๆระหว่างตัวเขาทั้งสองคน ภาพที่อยู่ตรงหน้าถูกถ่ายทอดสู่สายตาของไอติมในร่างปัจจุบันในอายุ 19 ปีที่กำลังยืนแอบดูอยู่ใกล้ๆ ไอติมเห็นภาพเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นในอดีตแล้วเริ่มจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นมันเป็นอีกเศษเสี้ยวหนึ่งในความทรงจำที่เลือนลางหายไปจากหัวของเขา เขารีบวิ่งไปที่โต๊ะออฟฟิศที่ผุพังในกองของเก่าโซนหลังของโรงงาน เขาดึงลิ้นชักยาวออกแล้วสอดตัวเข้าไปในลิ้นชักนั้น ไอติมปรับจูนวันเดือนปีของเครื่องไทม์แมชชีนแล้วขับเครื่องมาในช่วงเวลาปัจจุบัน..
ช่วงเวลาในปัจจุบันที่มันเพิ่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างกับตัวเขา จนถึงให้เขาต้องตัดสินใจย้อนไปในอดีตเพื่อเสาะหาความจริงบางอย่าง ความทรงจำที่มันเลือนหายไปตามกาลเวลา ซึ่งมันสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน มันมีเหตุการณ์เรื่องราวบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเขา จนทำให้ตัวตนของไอติมนั้นสั่นคลอนสะท้านไปถึงจิตใจ ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นมันก็เกิดขึ้นที่บ้านของเพื่อนเฟิร์ส หลังจากที่เฟิร์สเพิ่งมีเรื่องราวชกต่อยในสนามบอลกับไอ้โบ้วัยรุ่นต่างถิ่นมาแล้วได้ประมาณ 2 วัน... ในวันนั้นที่ไอติมพกไมตรีจิตไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเปรียบเสมือนเอาดอกไม้ไปมอบให้เป็นขวัญและกำลังใจกับเพื่อนซี้ของเขา แต่ไอติมก็ต้องตกใจสุดขีด..เมื่อเฟิร์สเพื่อนของเขากลับมอบโซ่ตรวนมาจองจำและพันธนาการตัวตนและจิตใจของไอติมแทน เพื่อหวังผลอะไรบางอย่างในตัวเขา..
พี่ติมมมมมม เย้ ดีใจมากกก
อ่านจบแล้ว พี่ติมดูไม่เสียวเลย รอตอนต่อไปดีกว่า อิอิ คิดถึงมากเลยครับ หายไปซะนานเลย // ขอบคุณครับ ✌ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมาก LUCKYPEE ตอบกลับเมื่อ 2024-1-28 20:45
ทำไมตอนนี้ แม้จะมีอะไรกับเฟิร์สบ่อยๆ แต่ไม่มีท่อน ...
น่าจะเพราะคุณไอติม ไม่ชอบบังคับ ยิ่งคิดว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ที่สำคัญไอติมชอบเด็ก แม้เฟิร์สจะอ่อนกว่า 1 ปี ;P
รอติตตามตอนต่อไปครับ แต่ละตอนเรื่องยาว อ่านเพลินเลย ขิบคุณคับ