ความทรงจำสีจางของเมฆหมอก
สวัสดีครับผมชื่อข้าว วันเกิดปีนี้ผมก็อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ชีวิตของเด็กมอปลายมันช่างแสนสั้นในเมื่ออีกไม่นานผมก็ต้องย้ายเข้าไปอยู่ในรั้วมหาลัยทั้งรู้สึกตื่นเต้นแต่อีกใจผมก็รู้สึกกลัวสังคมแปลกหน้านี้
หลังจากรับวุฒิมอปลายและเสร็จสิ้นพิธีปัจฉิมผมก็เดินเอ้อระเหยไปเรื่อยๆ ระหว่างทางกลับบ้าน ผมยังไม่รู้เลยว่าผมควรจะเรียนต่อคณะไหนดีในเมื่อผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบอะไร
“เฮ้อ....”ผมถอนหายใจรัวๆก่อนนั่งลงที่เก้าอี้ริมทางเพื่อปรับทุกข์กับตัวเองในใจผมก้มลงมองเงาตัวเองที่สะท้อนมาจากแอ่งน้ำ แล้วก็ทำให้นึกเรื่องนึงขึ้นมาได้
เมื่อก่อนผมเคยรู้จักกับคนๆนึงแต่ก็นานมากแล้ว ประมาณ4-5ปีได้ที่ไม่ได้ติดต่อกัน เขาชื่อ เมฆมีพี่น้องฝาแฝดชื่อว่า หมอก พวกเขาชอบทำอะไรเหมือนๆกัน หรือแม้กระทั่งชอบใช้ของร่วมกันตอนนั้นผมมักจะโดนเพื่อนผู้ชายด้วยกันรุมแกล้งเสมอด้วยความที่ผมตัวเล็กและใบหน้าจิ้มลิ้มและที่เจ็บใจที่สุดคือถูกล้อว่าเป็นตุ๊ดประจำจนผมเริ่มชิน ผมแทบจะไม่มีเพื่อนเลยเพราะเวลาจะไปขออยู่กับพวกเด็กผู้ชายก็ถูกไล่เหมือนพวกไร้ค่าสุดท้ายผมก็ต้องจำใจไปขออยู่กับกลุ่มผู้หญิงผมรู้สึกน้อยใจมากและโดดเดี่ยวที่สุด จนกระทั่ง เมฆและหมอกย้ายเข้ามา
“หวัดดีนายชื่ออะไรเราชื่อเมฆนะ ส่วนนี่ไอ้หมอกน้องชายฝาแฝดของเราเอง” พวกเขาทั้งสองเอ่ยทักทายผมด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นผมที่ยังรู้สึกงงๆเลยยิ้มตอบไป แต่เสียงเพื่อนในห้องก็ตะโกนขึ้นมาว่า
“เห้ยไอ้เด็กใหม่พวกมึงอย่าไปยุ่งกับอีตุ๊ดเลย” ผมหน้าเสียทันทีแต่ดูเหมือนว่าสองคนที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่จะไม่ได้รู้สึกรังเกียจผมเลยซ้ำยังลากโต๊ะลากเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ๆผมอีก
“ตกลงนายชื่ออะไรหรอ”
“เอ่ออเรา… ระเราชื่อข้าว”
“ชื่อน่ากินเนาะรู้สึกหิวขึ้นมาเลย” ผมรู้สึกได้เลยว่าตัวเองหน้าร้อนผ่าวมาก“ยินดีที่ได้รู้จักนะข้าว น่ารักขนาดนี้ทำไมพวกนั้นถึงไม่ชอบนายกันนะเอาเป็นว่าถ้าไม่มีใครเล่นด้วย ก็มาเล่นกับพวกเรานะ”
“ใช่นั่นสิ”หมอกพูดขึ้นบ้าง
ผมไม่ตอบอะไร แต่ในใจลึกๆกลับรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ขอบคุณนะ
วันเวลาผ่านไปผมกับพี่น้องฝาแฝดเริ่มสนิทกันมากขึ้นด้วยความที่ผมตัวเล็กและพวกเขาดูโตกว่าเลยมักจะไม่ค่อยมีใครกล้ามาก่อกวนเสมือนว่ามีบอดี้การ์ดซ้ายขวาคอยประกบดูแลอยู่ตลอด เมฆเป็นคนที่ดูเท่มากเขามีเสน่ห์ดึงดูดพวกเด็กผู้หญิง โดยเฉพาะในช่วงวันวาเลนไทน์เขาก็มักจะกลับเข้าห้องมาด้วยสภาพสะบักสบอม เนื่องด้วยทั้งช่อดอกไม้เอยชอคโกแลตเอย ของขวัญ หรือแม้สติ๊กเกอร์รูปหัวใจที่ติดเต็มตัวไปหมดผมมองแล้วก็นั่งขำ แต่ทุกครั้งผมก็มักจะได้เป็นคนหอบกลับบ้านเสมอ
“ข้าวเรายกให้นายหมดเลย กินเยอะๆนะจะได้ตัวโตๆ”
“ไม่เอาอ่ะข้าวตัวเล็กแบบนี้น่ารักจะตาย”หมอกพูดแล้วทำหน้าเบ้นิดๆ ใส่เมฆ
“ทำไมทำอย่างกับพวกนายกำลังจีบเรางั้นเลย”
“จีบได้หรอ”หมอกรีบแย่งพูด
“จะบ้าหรอเราเป็นผู้ชายนะ”ผมว่าแล้วก็เขินหน้าแดงขึ้นมาทันทีพร้อมกับยกกล่องขนมขึ้นมาบังหน้า
“ป่ะๆรีบกลับเถอะ เดี๋ยวพวกเราช่วยขนของไปส่ง”เมฆพูดแทรกขึ้นมาหมอกมองเมฆด้วยสายตาค้อนนิดๆ ส่วนผมก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ
กระทั่งพวกเขาต้องย้ายที่เรียนกะทันหันและพวกเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยคงไม่ต้องบอกว่าชีวิตหลังจากนั้นมันแย่ซะยิ่งกว่าแย่ผมดำเนินชีวิตในแต่ละวันด้วยความยากลำบากเมื่อไม่มีพวกเขาผมก็เหมือนเป็นโรคซึมเศร้าจากที่ตัวเล็กอยู่แล้วก็ยิ่งซูบลงไปอีกเพราะชอบอยู่คนเดียวก็เลยไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจ ดังนั้นผมจึงไม่เคยสัมผัสคำว่า“รัก” เลยสักครั้ง
ผมรู้แค่ว่าผมต้องรักตัวเองให้มากดังนั้นในช่วงก่อนเปิดเทอมวันแรกของมหาลัยผมต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้ ผมเริ่มจากการเข้าร้านหนังสือเพื่อซื้อหนังสือเกี่ยวกับวิธีดูแลตัวเองพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ กินเพื่อให้มีน้ำมีนวลมากขึ้นแต่ที่สำคัญคือเลือกกินแต่สิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เปลี่ยนทรงผมใหม่จากที่เมื่อก่อนผมตัวเล็กก็อวบขึ้นมานิดนึง และเริ่มมีกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย
ทุกเช้าที่ผมมองดูตัวเองในกระจกผมก็บอกให้ตัวเองเป็นคนใหม่แต่จริงๆผมกำลังกลบเกลื่อนบาดแผลในใจตัวเองไม่ให้ใครรับรู้ผมไม่หวังว่าจะให้ใครมารักมาชอบผม เพียงแต่อยากดูมั่นใจเมื่ออยู่ต่อหน้าคนพวกนั้น
และในที่สุดวันแรกของการเปิดภาคเรียนก็มาถึงเสียงประกาศดังก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อนัดรวมตัวนักศึกษาใหม่
กำลังคิดว่าจะเขียนเรื่องนี้ต่อดีมั้ย เพื่อนๆช่วยเป็นกำลังใจให้เราหน่อยนะ
ขอบคุณนะครับ รอตอนต่อไป รอครับขอบคุณครับ รอตอนต่อไปครับ ขอบคุณครับ ฝาแฝดเข้ามาในชีวิต แล้วก็จากไป เริ่มได้น่าติดตามครับบ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ
หน้า:
[1]