กาม..ตายด้านของผู้ชาย
กาม..ตายด้านของผู้ชาย http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTxADHABpH8xxz0fbhnOBSOscjb5XTrgJmT04xN4WKZBzi9v26IKAhttp://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSW1kMjhy_JZD4kYaeg7Z05jNW7F4HDZuWDRayre89AEeep1gIN1Q
กามตายด้าน หมายถึง การที่องคชาตไม่สามารถแข็งตัวเต็มที่หรือแข็งพอที่จะร่วมเพศได้ มี 3 แบบ คือแบบปฐมภูมิ (Primary impotence) คือ การที่องคชาตไม่เคยแข็งตัวเต็มที่ หรือแข็งพอที่จะร่วมเพศได้สำเร็จเลยแบบทุติยภูมิ (Secondary impotence) คือ การที่องคชาตเคยแข็งตัวได้และร่วมเพศได้มาก่อน แต่ต่อมาเกิดความผิดปกติขึ้นในภายหลังแบบชั่วคราว (Transient episode) คือ การที่อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเป็นครั้งคราว หรือในบางสถานการณ์กามตายด้านเกิดได้กับคนทุกอายุ ไม่ขึ้นกับเชื้อชาติและฐานะทางเศรษฐกิจกามตายด้าน ชนิดปฐมภูมิพบได้น้อย แต่อาการรุนแรงกว่าชนิดทุติยภูมิ ส่วนแบบชั่วคราวพบได้ประมาณครึ่งหนึ่ง ของประชากรชาย
สาเหตุ
กามตายด้านอาจเกิดจากปัญหาทางจิตใจ หรือทางร่างกายก็ได้ แต่สาเหตุที่พบได้บ่อยคือเรื่องของจิตใจ
1. สาเหตุทางจิตใจ ปัญหาทางอารมณ์จิตใจที่สำคัญ ได้แก่ ความวิตกกังวล
สำหรับคนบางคนความวิตกกังวลเป็นผลมาจากความขัดแย้งภายในจิตใจตั้งแต่วัยเด็ก เกี่ยวกับเรื่องเพศ ชีวิตสมรส และความเป็นบิดามารดา เช่น ถูกอบรมเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดกวดขันในเรื่องเพศ ห้ามการแตะเนื้อต้องตัวเพศตรงกันข้าม ถูกสอนว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องสกปรก ผิดศีลธรรมและน่าเกลียด ถูกลงโทษเมื่อแสดงความสนใจเรื่องเพศหรือเมื่อสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง หรือขาดความรัก และความใกล้ชิดบิดามารดา สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความกลัวการร่วมเพศ กลัวอวัยวะเพศหญิง รังเกียจน้ำหล่อลื่นและกลิ่นจากช่องคลอด หรือกลัวการมีลูก นอกจากนั้นเด็กชายที่ครอบครัวแตกแยก หรือสมาชิกในครอบครัวทะเลาะกันเป็นประจำอันมีสาเหตุมาจากมารดา ก็อาจเกิดความรู้สึกเกลียดผู้หญิง อย่างรุนแรงในจิตไร้สำนึก และเกิดอาการกามตายด้านในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ดี บางครั้งเด็กชายที่ใกล้ชิดกับมารดาหรือพี่สาวมากเกินไปอาจคิดว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุด หรือเป็นลักษณะของหญิงในอุดมคติ ดังนั้นเมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาจึงไม่สามารถร่วมเพศกับหญิงคนใดได้ เพราะรู้สึกว่าเธอไม่ดีเท่าผู้หญิงในอุดมคติ หรือมีความคิดว่า ผู้หญิงทุกคนคือผู้ที่สมควรเทิดทูนบูชา จึงไม่อาจร่วมเพศกับเธอได้ เพราะถือว่าการกระทำเช่นนั้น เป็นของต่ำทราม
ผู้ชายบางคนมีความกลัวในจิตไร้สำนึกว่าช่องคลอดอาจจะทำอันตรายอวัยวะเพศของตน หรือทำให้ตนเจ็บปวด (castration anxiety) องคชาตจึงไม่แข็งตัวเมื่อจะร่วมเพศ
อย่างไรก็ตามปัญหากามตายด้านส่วนใหญ่เกิดจากความวิตกกังวลในขณะจะร่วมเพศ คือกลัวการร่วมเพศจะล้มเหลว คนพวกนี้มักจะเคยล้มเหลวมาแล้วครั้งหนึ่งจากเหตุใดก็ได้ เช่น ตื่นเต้นมากเพราะเป็นการทดลองร่วมเพศครั้งแรก แอบกระทำหรือกระทำทั้งๆ ที่รู้สึกผิดว่าตน กำลังนอกใจภรรยาหรือเป็นชู้กับภรรยาคนอื่น กลัวฝ่ายหญิงจะตั้งครรภ์ กระทำในขณะที่ร่างกาย และจิตใจไม่พร้อมหรือดื่มสุรามากเกินไป เป็นต้น การล้มเหลวครั้งหนึ่งจะทำให้คนๆ นั้นวิตกกังวลว่า จะล้มเหลวในครั้งต่อๆ ไปอีก และปัญหาก็เกิดขึ้นจริงๆ สร้างความวิตกกังวลมากขึ้น จนในที่สุดก็เกิดการไม่แข็งตัวขององคชาตทุกครั้งที่มีการร่วมเพศ สำหรับคนบางคนความล้มเหลว เกิดจากความกังวลว่าตนจะไม่สามารถให้ความสุขทางเพศแก่ฝ่ายหญิง หรือถูกเรียกร้องจากฝ่ายหญิง มากเกินไปในเรื่องความบ่อยของการร่วมเพศและความสุขสุดยอด
ความไม่ปรองดองกันระหว่างสามีภรรยาก็อาจทำให้เกิดกามตายด้านได้ เนื่องจากความรู้สึกก้าวร้าวที่มีต่อกันจะทำลายอารมณ์เพศและการตอบสนองทางเพศของทั้งสองฝ่าย นอกจากนั้นปัญหาทางเพศของฝ่ายหญิง เช่น ความเจ็บปวดระหว่างการร่วมเพศ การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณปากช่องคลอด และการไม่สามารถมีความสุขสุดยอดจากการร่วมเพศ หรือปัญหาการหลั่งน้ำกามเร็วของฝ่ายชาย ก็อาจมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา ทำให้เกิดอาการกามตายด้านได้เช่นกัน
ปัญหาทางอารมณ์อื่นๆ เช่น อารมณ์เศร้าหรือตึงเครียดจากภาวะเศรษฐกิจ การงาน และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ก็อาจจะมีผลต่อการแข็งตัวขององคชาต
2. สาเหตุทางร่างกาย
กามตายด้านอาจไม่ได้เกิดจากปัญหาทางอารมณ์เสมอไป บางครั้งเป็นผลมาจากปัญหาทางร่างกาย ได้แก่ ความผิดปกติของฮอร์โมน เส้นโลหิต และกลไกของระบบประสาทที่ควบคุมการแข็งตัวขององคชาต เช่น สภาวะที่ร่างกายอ่อนเพลีย เป็นโรคเบาหวาน ระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำ โรคตับ และโรคของระบบประสาทบางชนิด หรือเกิดจากการเสพสุราและบางบางอย่าง เช่น ยาคลายความวิตกกังวล ยาระงับอาการซึมเศร้า หรือยารักษาโรคความดันโลหิตสูง สำหรับสุรานั้นปัญหาจะเกิดเมื่อดื่มสุราจัด หรือดื่มจนเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง โดยเฉพาะถ้าเขาถูกภรรยารังเกียจหรือปฏิเสธการร่วมเพศ ด้วยปัญหาจะเกิดเร็วขึ้น ถ้าสาเหตุเกิดจากยากล่อมประสาทหรือยาระงับอาการซึมเศร้าแล้ว ปัญหาจะยุ่งยากมากขึ้นอีก เพราะอาการวิตกกังวลหรือซึมเศร้าซึ่งกำลังได้รับการบำบัดรักษา ด้วยยาทั้งสองชนิดนี้อาจทำให้เกิดอาการกามตายด้านได้เช่นกัน
ปฏิกิริยาของคู่สมรสต่ออาการกามตายด้านของฝ่ายชาย
เกือบทุกวัฒนธรรมและทุกระดับสังคม ความภาคภูมิใจในตัวเองของผู้ชายส่วนใหญ่ มีความสัมพันธ์กับความสามารถทางเพศ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดอาการกามตายด้านขึ้น คนๆ นั้นย่อมมีความวิตกกังวล หรือมีความเศร้า และความวิตกกังวลกับความเศร้าก็จะเป็นเหตุให้เกิด อาการกามตายด้านได้อีก เป็นวงจรอยู่เช่นนี้ นอกจากนั้นอาการกามตายด้านยังอาจทำให้เกิด ความไม่ปรองดองในชีวิตสมรส เพราะฝ่ายหญิงอาจเข้าใจผิดว่าสามีไม่รัก หรือแอบไปหาความสุขที่อื่นมาก่อน จึงไม่สามารถร่วมเพศกับเธอได้ และในทางกลับกันความไม่ปรองดองในชีวิตสมรสก็เป็นสาเหตุ ของอาการกามตายด้านได้ด้วย ดังที่กล่าวแล้วข้างต้นกามตายด้าน ----------------> ความวิตกกังวล ความเศร้ากามตายด้าน ----------------> ความไม่ปรองดองในชีวิตสมรส
การรักษา
การรักษามีหลายวิธี ขึ้นกับความเชื่อในสาเหตุของแพทย์ผู้รักษาแต่ละคนเช่น
1. การรักษาทางยา ยาที่ใช้ได้แก่ ฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรน และยาจำพวกกระตุ้นสมองส่วนกลาง แต่พบว่าได้ผลดีเพียงบางรายเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นการใช้ยาฮอร์โมนเพศในคนที่ไม่ได้ขาดฮอร์โมนดังกล่าว หรือการใช้ยากระตุ้นสมองเป็นเวลานานอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
2. การรักษาทางจิต โดยการทำจิตวิเคราะห์เพื่อให้เกิดความเข้าใจปัญหาและการแก้ปัญหาด้วยตนเอง หรือการรักษาชีวิตสมรส (Marital therapy) ในกรณีที่คู่สมรสมีความขัดแย้งทางจิตใจต่อกัน ก็เป็นวิธีที่ใช้รักษาปัญหากามตายด้าน แต่การรักษาด้วยวิธีดังกล่าวนี้ตามลำพังได้ผลดีเพียงบางรายเช่นกัน
3. การให้ความรู้เรื่องเพศและการฝึกปฏิบัติทางเพศ วิธีนี้เป็นวิธีที่แพทย์หลายคนยอมรับว่า มีประสิทธิภาพในการรักษาปัญหากามตายด้านดีกว่าวิธีอื่น ผู้ที่เริ่มต้นการรักษาวิธีนี้คือ มาสเตอร์และจอห์นสัน หลักในการรักษาคือให้ความรู้แก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับสรีรวิทยาและจิตวิทยาเรื่องเพศ ตลอดจนการตอบสนองทางเพศและวิธีกระตุ้นอารมณ์เพศ ให้เรียนรู้จุดต่างๆ ของร่างกาย ที่ให้ความสุขทางเพศ โดยการทดลองกับคู่ของตน เมื่อองคชาตแข็งตัวได้ก็ให้ร่วมเพศโดยไม่เร่งร้อน และพุ่งความสนใจไปที่ความสุขทางเพศของตนอย่างเดียว ไม่สนใจสิ่งอื่นแม้แต่ความสุขทางเพศของคู่ร่วมเพศ และใช้ท่าผู้หญิงอยู่บน
จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านเพศหลายคนและของผู้เขียนพบว่า วิธีของมาสเตอร์และจอหน์สัน แม้จะเป็นวิธีที่ดี แต่ก็มีอุปสรรคในการรักษามากทั้งนี้เพราะสาเหตุสำคัญของปัญหากามตายด้านคือ ความวิตกกังวลและความขัดแย้งภายในจิตไร้สำนึกของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยกลัวการหายจากสภาวะดังกล่าว จึงมีปฏิกิริยาต่อต้านหรือไม่ร่วมมือโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบันจึงต้องใช้การรักษาทางจิต ร่วมกับวิธีของมารเตอร์และจอหน์สัน
ตัวอย่าง
ผู้ป่วยรายที่ 1
ผู้ป่วยชาย โสด วัย 38 ปี จบการศึกษาระดับอนุปริญญา และมีอาชีพรับราชการ มารับการตรวจรักษากับแพทย์ด้วยประวัติว่าองคชาตไม่แข็งตัวมากว่า 5 ปี และมีอาการคล้ายหัวใจจะวาย เมื่อพยายามร่วมเพศ
ผู้ป่วยเป็นลูกคนที่ 8 ในจำนวน 10 คน บิดาเป็นคนเฉย ขาดความเป็นผู้นำและไม่รับผิดชอบครอบครัว ทะเลาะกับมารดาซึ่งมีนิสัยจู้จี้ ขี้บ่น โมโหร้าย และเป็นใหญ่ในบ้านอยู่เป็นประจำ จนในที่สุดแยกบ้านกันอยู่ มารดาลำเอียง ไม่รักผู้ป่วย ชอบทุบตี ด่าว่าผู้ป่วยอยู่เสมอ ไม่ส่งเสียให้เรียนหนังสือ ไม่ให้เงินใช้ และชอบเรียกผู้ป่วยว่า "เจ้าโง่" มารดาไม่ได้เลี้ยงผู้ป่วย แต่ส่งให้ไปอยู่กับย่าตั้งแต่ผู้ป่วยเกิด ย่าเป็นคนหัวโบราณ เคร่งครัดเรื่องขนบธรรมเนียม ศีลธรรมจรรยา และเรื่องเพศ ที่บ้านมีแต่อาผู้หญิง ผู้ป่วยถูกเลี้ยงแบบเด็กผู้หญิง จึงมีนิสัยสุภาพเรียบร้อยมาก สงสารคนง่าย ใจอ่อน และไม่ชอบโต้แย้งกับใคร ชอบประกอบอาหาร และชอบคบแต่เพื่อนหญิง ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา และไม่ชอบเที่ยว จึงเข้ากับเพื่อนชายไม่ใคร่ได้
ปกติผู้ป่วยไม่ค่อยมีความรู้สึกทางเพศ ในวัยรุ่นเคยสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเพียง 2-3 ครั้ง และไม่เคยเที่ยวผู้หญิงเลยเนื่องจากกลัวติดโรคและกลัวการมีลูก ระหว่างอายุ 21-22 ปี เคยทำงานเป็นทหารเสนารักษ์ในห้องคลอด ได้เห็นผู้หญิงที่กำลังเจ็บครรภ์ร้องอย่างทุกข์ทรมาน และได้เห็นการฉีกขาดของช่องคลอดขณะทารกผ่านช่องคลอด ทำให้รู้สึกรังเกียจอวัยวะเพศหญิง และสงสารผู้หญิง เคยถูกเพื่อนทหารชักชวนให้ไปหาความสำราญทางเพศกับหญิงโสเภณี และถูกผลักเข้าห้องทำให้ตกใจมากจนวิ่งหนีออกมา หลังจากผ่านการเป็นทหารเสนารักษ์แล้ว ผู้ป่วยก็ไม่มีความรู้สึกทางเพศอีกเลย และคิดว่าจะไม่แต่งงาน จนกระทั่งผู้ป่วยพบคนรัก และเกิดความรู้สึกทางเพศเป็นบางครั้ง แต่อวัยวะเพศก็ไม่ยอมแข็งตัว ผู้ป่วยได้พยายามรักษา ด้วยยาทั้งแผนโบราณ แผนปัจจุบัน และฮอร์โมนเพศ ทั้งได้เคยพยายามร่วมเพศกับคนรัก แต่ครั้งใดที่ได้ยินเสียงคนรักร้องครางเนื่องจากมีอารมณ์เพศตอบสนอง ผู้ป่วยจะนึกถึงภาพการคลอด เสียงร้องที่แสดงความเจ็บปวดในห้องคลอด และคิดว่าคนรักกำลังรู้สึกเจ็บปวด ทำให้หมดอารมณ์เพศ บางครั้งเมื่อเกิดอารมณ์เพศและพยายามจะร่วมเพศให้สำเร็จ ผู้ป่วยจะมีอาการหัวใจเต้นแรง ตัวสั่น เหงื่อแตก รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ทันและใจจะขาด เลยเกิดความกลัวว่าตนจะหัวใจวาย ทำให้อารมณ์เพศหมดไป ผู้ป่วยพยายามช่วยตัวเองดังกล่าวอยู่ระยะหนึ่ง แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงมาพบแพทย์
ผู้ป่วยรายนี้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกามตายด้านชนิดปฐมภูมิ เนื่องจากจิตไร้สำนึกไม่ต้องการมีบุตร ได้รับการอบรมเลี้ยงดูในวัยเด็กไม่ถูกต้อง และมีประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนใจเกี่ยวกับเรื่องเพศในวัยหนุ่ม
ผู้ป่วยรายที่ 2
ผู้ป่วยชายไทย วัย 46 ปี สมรสแล้ว อาชีพชาวนา ภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด มาโรงพยาบาล เพราะปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวประมาณ 6 เดือน อาการเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อผู้ป่วยไปรับจ้าง เป็นกรรมกรก่อสร้างที่ต่างอำเภออยู่ประมาณ 2 เดือน ระยะนั้นผู้ป่วยต้องทำงานหนักทั้งกลางวันและกลางคืน จนร่างกายอ่อนเพลีย เมื่อกลับมาบ้านต้องการจะร่วมเพศกับภรรยา แต่ปรากฏว่าอวัยวะเพศไม่แข็งตัว พอที่จะร่วมเพศได้ ผู้ป่วยตกใจมากเมื่อเกิดอาการเช่นนี้ ได้พยายามหลายครั้งในคืนนั้นแต่ก็ทำไม่สำเร็จ คืนต่อมาจึงพยายามมากขึ้นอีกแต่ก็ล้มเหลวเช่นเคย ทำให้วิตกกังวลมาก ผู้ป่วยได้ไปปรึกษาทั้งแพทย์ประจำตำบล และแพทย์ของโรงพยาบาลจังหวัดอยู่ 3-4 เดือน อาการก็ไม่ทุเลา แพทย์บอกว่าผู้ป่วยเป็นโรคกามตายด้าน ซึ่งรักษายาก ควรจะมารับการรักษาที่กรุงเทพฯ
ในการซักประวัติและตรวจร่างกายครั้งแรกไม่พบว่าผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอะไร ไม่ได้ใช้ยา หรือดื่มสุราเป็นประจำ ไม่เคยมีปัญหาความบกพร่องทางเพศแบบนี้หรือแบบอื่นมาก่อน ความสัมพันธ์กับภรรยาก็ดี ผู้ป่วยมีรูปร่างกำยำล่ำสัน แต่ผิวกร้านเพราะต้องทำงานหนักกลางแดด และไม่มีความพิการใดๆ การตรวจร่างกายไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่สภาพจิตของผู้ป่วยเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เกี่ยวกับปัญหากามตายด้านของตน รู้สึกว่าเป็นความบกพร่องที่ตนไม่สามารถให้ความสุขทางเพศแก่ภรรยาได้ และคิดว่าถ้ารักษาไม่หายตนจะไปบวชเพื่อเปิดโอกาสให้ภรรยามีสามีใหม่
ได้ให้การรักษาโดยการอธิบายถึงกายวิภาค สรีรวิทยา และจิตวิทยาของเรื่องเพศ รวมทั้งสาเหตุของการเกิดกามตายด้านให้ผู้ป่วยฟัง ให้กำลังใจและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีร่วมเพศ ตลอดจนให้ยาคลายความวิตกกังวลขนาดต่ำๆ ไปรับประทาน ผู้ป่วยมาติดตามการรักษาใน 2 สัปดาห์ต่อมา อาการดีขึ้นบ้างคือองคชาตแข็งตัวมากขึ้น และสามารถร่วมเพศได้เป็นบางครั้ง ได้แนะนำให้ผู้ป่วยร่วมเพศ เฉพาะเมื่อมีความต้องการทางเพศ และให้ความมั่นใจว่าอาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำ อย่างเคร่งครัด ผู้ป่วยมีกำลังใจดีขึ้นมากและมั่นใจว่าตนจะต้องหายเป็นปกติ แต่ปฏิเสธยาคลายความวิตกกังวล เนื่องจากรับประทานแล้วง่วงนอน ผู้ป่วยไม่ได้มาติดตามการรักษาอีก แต่ประมาณ 2 เดือนต่อมา ได้เขียนจดหมายส่งข่าวคราวให้ทราบว่าขณะนี้อาการดีขึ้นมากจนเกือบเป็นปกติแล้วศาสตราจารย์แพทย์หญิงสุวัทนา อารีพรรค
ศาสตราจารย์นายแพทย์เอนก อารีพรรค
[ ที่มา... หนังสือสมรรถภาพทางเพศและความบกพร่องทางเพศ] ขอบคุณมากครับ ตอบกระทู้ jaysuan ตั้งกระทู้
ขอบคุณมากมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]