ชกข้ามรุ่น
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Auto2022 เมื่อ 2024-9-3 13:50.............นี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์ ที่ผมได้พบเจอและนำมาเล่าสู่กันและในเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เป็นเรื่องราวที่มาจากคนใกล้ตัว ทำงานในบริษัทเดียวกัน อาจจะเพราะด้วยงานที่ผมทำอยู่ ในสภาพแวดล้อมออฟฟิศ สำนักงาน บนอาคารที่สูงหลาย ๆ ชั้น ในห้องขนาดใหญ่ที่กั้นโซนแบ่ง บางครั้งก็ต้องไปอยู่ในที่รายล้อมไปด้วยผู้หญิงที่มากกว่าผู้ชาย บริษัทนี้ผู้หญิงเยอะจริง ๆ ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นกลาง ไปจนถึงรุ่นใหญ่ และเรื่องราวในครั้งนี้ มันแตกต่างออกไปจากครั้งก่อน ๆ เพราะนี่คือครั้งแรก ที่ผมได้มาเจอกับผู้หญิงในอัดมคติ และไม่คิดว่าจะได้มาพบเจอในที่ทำงาน แบบนี้ นอกจากบรรดาลูกค้าไฮโซ ที่ผมเคยมีประสบการณ์มา "แต่เธอมีจริง" แม้ว่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ อาจจะดูเรียบ ๆ แต่มันมีหลาย ๆ มุม หลายสถานการณ์ที่ผมรู้สึกลุ้น และทั้งตื่นเต้นไปกับเหตุการณ์นี้ จอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ซักประมาณ ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2564 (ช่วงที่ไวรัสโควิดกำลังระบาดหนัก)
.......... ในตอนนั่นผมได้ทำงานฝ่ายอาคารสถานที่ แถวสุขุมวิท และทางบริษัทผม ก็ไม่มีนโยบายที่จะหยุดงานทั้งหมดแต่มีการแบ่งกันหยุด เป็นแผนก (แต่ละแผนกสลับมาทำงานวันเว้นวัน) โดยที่แผนกผม จะมาทำงานพร้อมกัน กับฝ่ายบัญชี และฝ่ายกฎหมาย นอกนั้นแผนกอื่นจะหยุดสลับกันวันเว้นวันถัดไป ในช่วงนั้นผมมีงาน ที่รับผิดผิดชอบ 2 งานหลัก ๆ นั่นคือการประสานงาน กับผู้รับเหมา ที่เข้ามา renovationoffice ชั้น 7 และชั้น 11 ผมยังโชคดีที่ชั้น 11 ยังไม่ถึงกำหนดการเข้าทำ แต่กลับเป็นชั้น 7 ที่ทำให้ผมต้องนั่งปวดหัวหนัก เพราะเป็นงานที่พี่อ๊อด (หัวหน้าแผนก) เพิ่งโยนมาให้ผมทำ ซึ่งที่ชั้น 7 ที่มีปัญหา เพราะว่าทางบริษัทเป็นคนจัดหาผู้รับเหมา ให้กับลูกค้าที่เช่าตึกเองและผู้รับเหมาเจ้าเดิมก็ทำไม่ถูกใจลูกค้า ซึ่งพอเข้าใจได้ว่ามีผลมาจากสถานการณ์โควิท แต่ลูกค้าไม่เห็นใจ เร่งรัดตามงานทุกวัน จะเอางานอย่างเดียว จึงมีการเปลี่ยนผู้รับเหมาใหม่ทุกอย่าง ที่เกี่ยวกับเอกสาร ผมต้องรื้อมาตรวจสอบ ไล่ดูระบบน้ำ ระบบไฟ ระบบดับเพลิง ตั้งแต่ก่อสร้างอาคาร จนมาถึงปรับแก้ไขใหม่ล่าสุด ก็ตึกมันสร้างมาจะ 20 ปี แล้ว ซึ่งก็ลำบากอีกที่ผมเองต้องไปประสานงาน ผ่านฝ่ายธุระการเรื่องเอกสารเก่า ที่เก็บเอาไว้ทั้งหมด
............แต่ในช่วงนั้น ฝ่ายธุรการที่ชั้น 10ที่ผมสนิทและประสานงานกันทุกครั้ง ก็ดันมาเป็นแผนกที่ทำงาน และหยุดงานไม่พร้อมกัน ตอนนั้นผมจึงได้โทรไปปรึกษา กับน้องที่เป็นธุรการที่ประสานงานกันประจำ โดยที่น้องก็ได้แนะนำให้ผม ไปติดต่อด้วยตัวเอง ที่ทางฝ่ายธุรการใหญ่ส่วนของชั้น 2 เพราะข้อมูลแฟ้มส่วนมากจะเก็บไว้ที่ฝ่ายธุรการชั้นล่างและที่สำคัญน้องธุรการได้บอกกับผมว่าให้ผมประสานโดยตรงกับ ธุระการอาวุโส "ชื่อพี่เหมียว" เองเลยจะชัวร์ที่สุด โอ้วววครับ...พอผมได้ยินชื่อ "พี่เหมียว" ผมถึงกับสะดุ้งขึ้นมาทันที...แม้ว่าในความเป็นจริง ผมไม่เคยรู้จัก และไม่เคยเห็นแม้แต่เห็นหน้าตาพี่เหมียว มาก่อนเลย...เพราะส่วนมาก ผมจะรู้จักแต่พนักออฟฟิศ ในสำนักงานใหญ่ที่ชั้น 10 ส่วนของชั้น 2มีไม่กี่คนที่จะได้ไปประสานงานหรือไม่ก็เป็นคนเก่า ๆ ที่เขารู้จักกันมาก่อน และในส่วนของพี่เหมียวเอง...ผมได้ยินชื่อนี้มานานมาก และเป็นชื่อแรก ๆ ที่ผมได้ยินตั้งแต่เข้างานมาใหม่ ๆ เมื่อต้นปีก่อนจากการกล่าวถึงของคนในแผนกผม และที่ได้ยินบ่อย ๆ ก็คือฝ่ายธุรการชั้นเดียวกับผม ที่พูดถึงชื่อพี่เหมียวบ่อยมากและคำที่ผมได้ยินจนคุ้นหูอย่างเช่น...พี่เหมียวแม่งเรื่องมาก ระวังพี่เหมียววีนใส่นะ พี่เหมียวแกระเบียบมาก พี่เหมียวบ่นในเรื่องที่ไร้สาระมาก...และคำพูด คำบ่นเหล่านี้ แต่พวกเขาก็แย่งกันไปประสานงานมันทำให้ผมจินตนาการได้อยากว่าพี่เหมียวเป็นคนยังไงกันแน่ และบุคลิกยังไง...และยิ่งไปกว่านั้น...เท่าที่ผมรู้มาก่อนหน้านั้น (ผมฟังมาจากการพูดคุยในวงข้าวเที่ยง)
............ โดยประวัติคร่าว ๆ ของพี่เหมียวเป็นแม่หม่ายผัวตายพี่เหมียวเคยแต่งงาน แต่ตอนนี้โสดอยู่คนเดียว เพราะสามีแกเสียไปนานแล้วและพี่เหมียวเองเคยอยู่ชั้น 10 มาก่อน เป็นหัวหน้าเก่าพี่แจน (พี่แจนคนที่ผมเคยคบ และมีความสัมพันธ์ลับ ๆ ที่ลาออกไปแล้ว ผมยังเสียดาย) แต่ว่าพี่เหมียวไปมีเรื่องงัดข้อกับระดับผู้บริหาร เลยถูกส่งไปเป็นธุระการทั่วไปด้านล่าง จนกระทั้งพี่แจงที่เป็นลูกน้องที่พี่เหมียวปั้นมากับมือมา ได้แซงขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกแทน...ส่วนเรื่องอายุพี่เหมียวน่าจะเกือบ ๆ จะ 50 ปี แล้ว...เพราะพี่แจนเคยเล่าว่าพี่เหมียวอายุมากเธอเกือบ ๆ 5-6 ปี...และทุก ๆ อย่างเกี่ยวกับตัวพี่เหมียว...ที่ผมได้ฟัง ๆ มา มันทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยหน่าย ที่จะต้องไปติดต่องานด้วยในตอนนั้น จนกระทั่งช่วงสาย ๆ ของวันจันทร์ผมก็ได้ไปที่ฝ่ายธุรการส่วนชั้น 2 ที่อยู่ตรงด้านหน้าตึกพอไปผมเปิดประตูกระจกเข้าไป สิ่งแรกที่ผมเห็นก็เป็นส่วนของ พนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์อยู่ริมซ้ายส่วนอีกฝั่งขวา เป็นห้องประชุมเล็ก ๆ (ที่ผมเคยมานั่งสัมภาษณ์งาน) พอผมเดินเข้าไปตามทางเดินก็จะเจอพื้นที่โถงโล่ง ๆมีโต๊ะทำงานสองฝั่งซ้ายมือเป็นโต๊ะทำงานพวกฝ่ายช่าง วิศวะกรไฟฟ้า เครื่องกลส่วนด้านขวาเป็นโต๊ะพนักงานซ่อมบำรุง ช่างปะปา ช่างไฟและด้านในสุดก่อนถึงห้องน้ำ จะเป็นห้องกั้นกระจกฝ้า ซึ่งเป็นห้องทำงานธุรการ...
.............ในจังหวที่ะผมเดินไปถึงแล้วเปิดประตูเข้าไปผมก็เห็นพนักงานธุระการ 2 คน (รู้ภายหลังชื่อน้ำ กับ บี ที่เป็นน้องเทย) ซึ่งกำลังทำงานอยู่ที่โต๊ะที่ติดผนังกระจกด้านขวาจากประตูและพอผมมองไปด้านซ้ายสุดของห้อง ก็เป็นตู้เอกสาร ที่ติดกับโต๊ะทำงานพี่เหมียวซึ่งตอนนั้นเธอไม่อยู่ และในจังหวะนั้นเอง น้ำกับบี ก็มองผมแบบงง ๆ ( อาการ เหมือนไม่รู้ผมเป็นใคร) ผมจึงรีบปิดประตู แล้วเดินกลับออกมา ตรงที่ประชาสัมพันธ์ และก็นั่งรอ (ผมต้องเจอพี่เหมียว ก่อนเพราะต้องขออนุญาต ถึงจะไปค้นแฟ้มได้) ในตอนนั้นเองช่วงที่ผมนั่งรอ ผมก็ไม่แน่ใจว่าพี่เหมียว เธอมาทำงานรึเปล่า ผมจึงลุกเดินไปที่พนักงานประชาสัมพันธ์แล้วถามว่า "ขอโทษนะครับ คุณสุนิดา (ชื่อจริงพี่เหมียว) วันนี้เขามาทำงานรึเปล่าครับ"แล้วพนักงานประชาสัมพันธ์ก็ตอบว่า "อ่อ มาค๊ะ พี่เหมียวก็ยืนอยู่นั่นไงค๊ะ" แล้วก็ชี้นิ้วไปที่ด้านหน้าตึก โดยที่ผมได้เอี้ยวตัวหันหน้าไปมองตาม...โอ้วววครับ...สิ่งที่ผมมองเห็นผ่านผนังกระจกใสไป...ในระยะ 5-7 เมตร...เห็นเป็นผู้หญิงกำลังยืนคุยโทรศัพท์ ที่ตอนแรกผมคิดว่าเป็นลูกค้า เพราะหน้าตาสวย รูปหน้าเรียว ยาว จมูกโด่งพุ่ง ตาชั้นเดียว (ตาเหมือนคนจีน) แถมยังผิวขาวจั๊วะ (ขาวมีออร่า)...ไว้ทรงผมสอยสั้นบ๊อบเท แสกข้างซ้ายไปขวา ทำสีผมสีแดงประกายทอง เปรี้ยวมาก ส่วนรูปร่างหุ่นดีมาก แบบเพอร์เฟค สูงน่าจะ163 up ที่สำคัญหน้าอกเธอใหญ่มาก (ใหญ่เกินตัว จนมองเป็นจุดเด่น) ก้นงอนสวย รัดตึงไปทุกส่วน และยิ่งไปกว่านั้น คือการแต่งตัวที่มีสไตล์ ดูเซ็กซี่แบบสาวมั่น วันนั้นแกใส่เสื้อแขนกุดไขว้หน้าผ้าซาตินสีเขียวเข็มทับด้วยกระโปรงสีขาวเอวสูง ทรงสอบเข้ารูป และสั้นเลยเข่าขึ้นมามาก (กระโปรงน่าจะยาวประมาณ 14")จนมองเห็นต้นขาขาว ๆ เห็นแล้วรู้สึกมีอารมณ์ตาม...ส่วนรองเท้าเป็นส้นสูงหัวแหลมสนเข็มสีดำเงา 4-5 นิ้ว ได้ นาทีที่ผมเห็นพี่เหมียวครั้งแรก บอกเลยทรงแบบนี้ มันทำให้ผมควยแข็งทันที
............ ผมถึงกับอึ้งแบบบอกไม่ถูกจริง ๆเหมือนผมนั่งดูหนังคนละเรื่องกันกับสิ่งที่ได้ยิน จากปากทุกคนที่พูดต่อ ๆ กันมาและคงเพราะคำนำหน้าแกว่า "ป้า" ที่ทุกคนเรียกกันลับหลัง ไม่ว่าจะอายุเท่าไรมันทำให้ในหัวผมตอนแรก ผมนึกจินตนาการว่า พี่เหมียวคงเป็นเหมือน ๆ ผู้หญิงอายุมากทั่ว ๆ ไป ที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวตัวอ้วนหรือไม่ก็เตี้ยจู่จี้ขี้บ่นเดินงุ่มง่าม แต่มันกลับตรงกันข้ามทุกอย่าง พี่เหมียวเธอกลับเฟอร์เพคมาก ใส่ส้นสูง ยืนยกก้นงอน หลังตรง และยังสวยแถมดูเซ็กซี่มากในสายตาผม ดูไม่เหมือนคนที่อายุเกือบ 50 ปี ด้วยซ้ำ ( ดูเหมือนคนเพิ่งจะอายุ 30 ปลาย ๆ ถึง 40 ต้น ๆ )เธอดูแลตัวเองดีมาก โดยที่ผมมองก็ยังรู้สึกมีอารมณ์ตาม ผมชอบการแต่งตัวของแกมาก บวกกับรูปร่างหน้าตาแกด้วย มันเข้ากันดีมาก จนกระทั้งพี่เหมียวได้เดินเปิดประตูเข้ามา ผมเองก็รีบเดินเข้าไปหาเธอ พอเดินใกล้ ๆ ถึงตัวพี่เหมียวสิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้ นั้นคือน้ำหอมจากตัวพี่เหมียว กลิ่นหอมพุ้งชวนฝันมาก กลิ่นแบบนี้ผมเคยได้กลิ่นจากพวกไฮโซรุ่นใหญ่ ที่ผมเคยลิ้มลองสัมผัสมาแล้ว จนติดใจในสายนี่เสียแล้ว เจอแล้วผ่านไม่ได้ ยอมรับเลยว่าเธอดูมีระดับกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ
.......... และในจังหวะเดียวกันนั้น พี่เหมียวที่เห็นผมแล้ว ก็พูดขึ้นว่า
พี่เหมียว : "สวัสดีค่า อ้าวคุณใช่ไหมที่จะมาขอดูแฟ้มเก่า" ผมยกมือไหว้พร้อมกับพูด
ผม : "สวัสดีครับ ใช่ครับ"
แล้วเธอก็พูดต่อขึ้นว่า
พี่เหมียว : "งั้นคุณก็เดินย้ายกระโปกตามพี่มาเลยค๊ะ...รู้จักไหมคะ...กระโปก"
...โอ้ววว...ครับ...พอผมได้ยินผมอึ้ง และตกใจมากกับสิ่งที่ผมได้ยิน...พร้อมกันกับพนักงานสาวประชาสัมพันธ์ 2 คน ก็นั่งหัวเราะกันใหญ่...(เล่นเอาผมอายแทบไปไม่เป็น โดนรับน้องเข้าแล้วไง...ฝากไว้ก่อนเถอะ) ต่อด้วยจังหวะที่กำลังเดินผ่านฝ่ายช่าง มีพนักงานช่างซ่อมบำรุง กำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ พี่แมวก็ดันพูดขึ้นมาอีกว่า
"นั้น ๆ เเอบดูคลิปโป้อีกแล้ว...วางเป็นไม่ได้ พอดูแล้วเกิดอารมณ์ก็ไปเดือดร้อนเมียที่บ้านอีก พวกแกนี่"พอเธอพูดเท่านั้นทุกคนในก็ฮากันลั่นห้องอีก...แต่ก็มีเสียงพูดสวนจากช่างซ่อมบำรุงว่า
"ก็พวกผมกำลังนั่งดูคลิปพี่เหมียวสุดสวยในฟิตเนสอยู่นี่ครับ"
โดยที่พี่เหมียวเองก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่ชี้หน้าแล้วพูดว่า "เดี๋ยว ๆ แกโดน ดูเงียบ ๆ "
โอ้วววครับ...พี่เหมียวแกเป็นพีเซนเตอร์ให้ฟิตเนสตึกติดกันนี้เอง ตอนนั้นผมถึงเข้าใจ ว่านั่นคือสไตล์การพูดการ การแต่งตัวของพี่เหมียว แกมี F.c. นี้เอง ที่แกน่าจะพูดในลักษณะ พูดตรง ๆ แต่ส่อในทางเพศ เป็นปกติของเเกและทุกคนที่นั่นก็คงจะชินมองเป็นแค่คำพูดโปกฮา เท่านั้นเอง และยิ่งผมสังเกตท่าเดินพี่แมว ที่ดูห้าว ๆ ดูคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉงซึ่งมันก็ดูตรงข้าม กับหน้าตาภาพลักษณ์ การแต่งตัวของเธอมาก
.............พอเดินมาถึงจนเข้าห้อง พี่เหมียวก็ได้แนะนำผม ให้น้ำและบีให้รู้จักกัน โดยที่เธอบอกว่าผมจะมาอยู่นี้ซักระยะ...จากนั้นเธอก็เดินออกไปเพื่อไปแจ้งให้ พวกพนักงานซ่อมบำรุง หาโต๊ะเก้าอี้ให้ผมนั่งทำงานชั่วคราว...หลังจากนั้นพอเสร็จทุกอย่างผมเองก็ได้ที่นั่ง ที่เป็นโต๊ะสแตนเลสขาพับ และเก้าอี้พลาสติกโดยที่ผมนั่งหันหลังให้ตู้เก็บแฟ้มทางด้านซ้ายมือผมห่าง 2 เมตร จะเป็นโต๊ะทำงาน ส่วนด้านหน้าห่างประมาณ 3 เมตร ก็เป็นโต๊ะทำงาน น้ำกับบี ในช่วงระหว่างนั้นทุกคนก็เริ่มทำงานต่อผมเองก็ตั้งหน้าตั้งตาค้นหาข้อมูลจากตู้แฟ้มด้านหลัง
.............ในขณะที่ผมกำลังยืนไล่ดูหมายเลขแฟ้ม อยู่ ๆ พี่เหมียวก็ลุกขึ้นมาจากโต๊ะแล้วเดินเข้ามาที่ตู้เก็บแฟ้ม โดยที่เธอจะมาค้นหาแฟ้มเหมือนกัน...และในจังหวะนั้นเอง...พี่เหมียวก็ได้ย่อตัวลงนั่งยอง (เพื่อจะหยิบดูแฟ้มชั้นล่าง )...แม่เจ้า...พี่เหมียวเธอนั่งแบบไม่รวยเก็บชายกระโปรงอะไรเลย (เธอนั่งลงแบบดื้อ ๆ ไม่สนโลก)ในจังหวะนั้นทำให้ชายกระโปรงสีขาวพี่เหมียวในส่วนของด้านหลังที่ผ่าหลัง ได้หล่นลงไปด้านล่าง...ทำให้หวอที่ห่อหุ้มด้วยกางเกงในสีขาว โผล่ปลิ้นออกมาจากซอกโคลนต้นขาขาว ๆยาวลงไปจนสุดง่ามก้น...ชัดเจนมาก...คือผมไม่ต้องแบบว่าลุ้นดูเนิน 3 เหลี่ยม แต่มันออกมาครึ่งตัวของกางเกงในที่สวมอยู่ วินาทีนั้นผมใจสั่นมาก...กับสิ่งที่เห็น...โดยที่พี่เหมียวเอง ไม่ได้สนใจ (เธอเหมือนไม่รู้ตัวจริง ๆ ) และยิ่งทำให้ผมแทบช๊อกขึ้นไปอีกในจังหวะเดียวกันนั้นพี่เหมียวที่อยู่ในท่านั่งยอง ได้ขยับตัวเอื้อมมือไปหยิบอีกแฟ้ม โดยที่ขาขวาเธอได้ขยับก้าวแยกออกมาข้างหน้า...โอ้ววววว ครับ...ช๊อตนั้นไม่ต้องมีอะไรที่ปกปิดอีกต่อไป...โหนกหีรูปสามเหลี่ยมนูน ๆกางเกงในสีขาวแบบเต็มตัวทั้งตัว ทุกอย่างได้เปิดอ้าซ่าออกมา...ในวินาทีนั้น ผมได้เห็นทุกอย่างแม้กระทั้งลายลูกไม้ดอกไม้ 3 ดอก ที่อยู่บนกางในสีขาว ตรงกลางเป้า รวมทั้งขอบล่างกางเกงใน ที่รั้งง่ามตูดจนเว้าแบะออกเป็น 2 ง่ามจนไปถึงผมมองเห็น แม้กระทั่งเส้นเลือดใหญ่สีเขียวเข้มที่ขึ้นตามโคลนต้นขาขาว ๆ (ตัวเธอขาวมากเลยเห็นเส้นเลือดชัดเช็ด)
..............และในห้วงเวลานั้น ผมได้ยืนดูพี่เหมียว ด้วยควยที่แข็งโด่ได้นาทีกว่าเพื่อเก็บภาพไว้ใช้คืนนี้แน่นอน ผมจึงรีบหันกลับเก้าอี้แล้วนั่งลง แกล้งทำเป็นเปิดแฟ้มดูบนโต๊ะ...เพราะในตอนนั้นผมกลัวว่าพี่เหมียว เธอจะรู้ตัว เพราะมันจ๊ะ ๆ และโจ่งครึ่มมากจริง ๆ ...และช่วงเวลาตอนที่ผมนั่งอยู่ และไม่กล้าที่จะมองแล้ว ผมยังหูอื้อตาลายอยู่ ไม่คิดว่าจะได้เห็นของดีแบบไม่ต้องแอบมอง พี่เหมียวเธอก็ยังนั่งค้นแฟ้ม ในท่านั่งแบบนั้นอยู่นานหลายนาที ก่อนจะลุกกลับไป...ตอนนั้นควยของผมก็ยังคงโด่แข็งกับภาพนั้นในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าผมจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้และผมเองก็มั่นใจว่านั้นไม่ใช่การยั่วหรือจงใจทำให้ผมดู แต่มันเป็นพฤติกรรมส่วนตัวพี่เหมียวเอง ที่ไม่ชอบระวังและไม่สนใจใครจะมอง จนตลอดวันนั้น ผมแทบไม่มีสมาธิในการทำการทำงานเลย ช๊อตที่เห็นมันตรึงตราตรึงใจ ยิ่งนึกถึงยิ่งเงี่ยน กางเกงในแกที่ขาวแบบโอโม่มาก ๆ กับก้อนเนื้อก้อนใหญ่ ๆ ผมอยากจะเอาหน้าเข้าไปซุกเหลือเกิน ผมโชคดีมากที่ได้เห็นกางเกงในของแก ซ้ำยังเป็นสีขาวแบบสว่างมาก ผมคิดว่าส่วนบนก็คงจะต้องเข้าชุด กันแน่ ๆ แต่จะเป็นแบบไหนน่ะ จะเป็นแบบครึ่งเต้า ไม่เธอคงไม่ใส่แบบครึ่งเต้ามาก็บอก เพราะหน้าอกเธอใหญ่ขนาดนี้ อาจจะเป็นเต็มตัวเรียบ ๆ ไม่ข้างล่างมีลายดอกไม้ซะขนาดนี้ เธอไม่ใส่เรียบ ๆ หลอก อาจจะเป็นคอเซ็ทดันทรง ตะขอเยอะ ๆ หรือไม่ก็บอดี้สูท ซึ่งเป็นตัวเดียวกับกางเกงในของเธอ ซึ่งมันก็เป็นไปได้หมด เพราะดูจากลายกางเกงในที่เธอใส่แล้ว มันแสดงว่าเป็นของมียี่ห้อมีราคา ผมเคยสัมผัสมาแล้วถึงความเรียบหรูดูแพง สไตล์ยุโรป โอวววว....ผมคิดถึงความนิ่มของเนื้อผ้านั่นจริง ๆ มันทำให้ผมเงี่ยน ต้องค้นหาและสัมผัสมันให้ได้ มันทำให้ผมรู้สึกถึงความร้อนแรงตัวแก เพราะผมมีเคล็ดอยู่อย่างหนึ่ง คือถ้าผมได้เห็นหวอใครครั้งแรกแบบนี้ ส่วนใหญ่จะจบลงด้วยการที่ผมได้เย็ดเกือบทุกคน
........... วันนี้จึงถือว่าฤกษ์ดีมาก แล้วยิ่งเป็นสาวใหญ่มีคลาสแบบนี้ถูกใจผมยิ่งนัก ผมนี้นักล้าแต้มสาวใหญ่ หลังจากวันนั้นวันแรก ที่ผมได้เห็นหวอของพี่เหมียว ต่อมา 2-3 วัน ก็ไม่ได้มีอะไรให้ลุ้นอีก เพราะเธอใส่กางเกงขายาว และชุดแซกยาวมาทำงานแต่ก็ยังพอมีบ้างที่มีจังหวะเสียว ๆ เพราะกางเกงที่แกใส่มันรัด ๆ ฟิต ๆ แนบเนื้อ เวลาแกยืนโก่งก้นให้เห็นร่องก้นและขอบกางเกงใน แต่บางครั้งก็ไม่เห็นขอบกางเกงในน่ะ แกคงจะใส่ไร้ขอบ หรือแกจะใส่จีสตริงนะ ผมแอบคิดเอาเอง "พี่เหมียวใส่จีสตริงเลยรึ...โอววว"รวมไปถึงการได้ยืนส่องเนินหน้าอกขาว ๆใหญ่ ๆ พี่เหมียวแบบใกล้ชิด ตอนที่ผมเดินไปถามเธอ เรื่องงานเอกสารที่โต๊ะเธอ เพื่อจะได้ดมกลิ่นน้ำหอมราคาแพง ที่ใส่มาแทบทุกวัน มันทำให้สมองผมโปร่ง ซึ่งมันหอมจริง ๆ บางครั้งผมก็หาเอกสารเก่า ๆ ไปถาม และยื่นหน้าไปใกล้ ๆ เพื่อชี้ให้เธอดู (เธอสายตาสั้น) คือยิ่งใกล้กลิ่นหอมยิ่งชัด พอว่าพอ ๆ กับดมจากตัวพี่เหมียวเลย ควยผมโด่ทันที อยากจะซุกลงที่เต้าขาวอวบเหลือเกิน ตอนนี่ผมครั่งเธอมาก หาเรื่องมาถามข้อมูลเธอทั้งเช้าและบ่าย ที่ผมมาตอนบ่ายเพื่อเช็คว่าตัวเธอยังหอมอยู่ไม่ แน่นอนสมใจผมคิดไว้ บ่ายมาตัวพี่เหมียวก็ยังหอมอยู่ เธอคงดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา ผู้หญิงแบบนี้แหละ ที่ผมเจอเป็นเอาให้ได้ สิ่งที่ผมได้เห็นนอกจากเต้าอวบ ก้นงอนใหญ่ หรือเป้านูน ๆ ตอนที่ผมเข้าไปชี้เอกสารข้าง ๆ เก้าอี้ของพี่เหมียว คือพี่เหมียวมีร้องเท้าบู๊ทหนังหุ้มข้อ หลายคู่อยู่ใต้โต๊ะทำงาน เธอคงจะใส่ตอนใส่กางเกงสแลค ผมเลยไม่สั่งเกตุเห็น บู๊ทหนังของพี่เหมียวรัดข้อถึงหน้าแข้ง ถ้าใส่ตอนใส่กระโปรง "โอวววว...มันจะน่าเย็ดขนาดไหน" ผมคิดและอีกส่วนที่ผมได้ยินและได้ฟังบ่อย ๆ อยู่ตลอดที่นั่น ก็คือการพูดจาที่ส่อ ไปทางเพศของพี่เหมียว ในช่วงที่เธอว่างจากงาน มาพูดคุยเล่นกันกับน้ำและโบประสาผู้หญิง เช่นว่า "ดาราคนนี้ ดูกล้ามใหญ่นิสัยแบดบอย แต่มีข่าวว่าหำเล็ก เย็ดไม่มันส์ผู้หญิงเลยเลิก" หรือไม่ก็พูดถึงบุคคล ที่เธอเคยร่วมทำงานด้วยว่า "ผู้บริหารชั้นบนพวกที่หำไม่แข็งทั้งหลาย ชอบหอบสังขารไปหลีแคดดี้ เวลาไปออกรอบตีกอล์ฟ พี่รู้หมดหละ" และที่สำคัญ พี่เหมียวยังเคยหันมาถามผมประมาณว่า "ว่าผู้ชายชอบมีเซ็กกับผู้หญิงสวย หรือผู้หญิง นมใหญ่"หรือไม่ก็ถามว่า "ทำไมผู้ชายชอบดูหนังโป้วแล้วเป็นเรื่องปกติ...ส่วนผู้หญิงดูกลับถูกด่าว่าไม่มียางอาย"
...............ในตอนนั้นผมก็ตอบได้บางข้อส่วนที่ตอบไม่ได้ผมก็แค่หัวเราะตามผมมองว่ามันคือสีสันการทำงานผมเริ่มชินไปแล้วเพราะมันเป็นนิสัยสไตล์พี่เหมียว ที่พูดที่ถามในทำนองนั้นในตอนพักหรือว่างเท่านั้นเพราะในตอนทำงานเธอก็ดูจริงจังมาก จนเหมือนเป็นคนละคนกันเลย แหม่ก็แกเคยเป็นหัวหน้า ถึงจะถูกปลดก็แล้วเถอะ แต่แกก็ถูกลงตำแหน่งเพราะเรื่องส่วนตัว ที่เจ้าของบริษัทจะเอาแกเป็นเมียน้อย แต่ถูกคุณนายจับได้เสียก่อน เลยได้โยกย้ายกันชุลมุนไปหมด เดิมที่แกก็จะลาออกเลย แต่คุณนายขอให้แกอยู่ แต่ย้ายชั้นทำงานอย่างอื่นเหมือนเดิม เพราะท่านประธานแกจะขึ้นไปชั้น 10 ที่เดียว ตอนหลังพอความแตกท่านประทานแทบไม่มาเลย ปล่อยให้กรรมการบริหารงานแทน ข่าวว่าพอแกอกหักจากพี่เหมียว แกก็ไปได้ที่ดามใจใหม่ เรียกว่าคุณนายตามจิกกันไม่ทันเลย จำต้องหาให้เองเลยแกถึงจะเพลา ๆ ลง ขนาดอายุจะ 70 ปี แล้วนะ
ขอบคุณครับ สุดยอเลยครับ ขอบคุณมาก ขอบคุณครับ. ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณคับ ขอบคุณครับ ต่อเลย กำลังฟิน ขอบคุณครับ สุดยอดเลยจ้า ขอบคุณครับ{:5_124:}{:5_119:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากมากครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]