jaysuan โพสต์ 2011-7-15 14:31:52

ตารางเปรียบเทียบ ประเภทนรกขุมใหญ่ เรืยงลําดับจากเบาไปหาหนัก

ตารางเปรียบเทียบ ประเภทนรกขุมใหญ่ เรืยงลําดับจากเบาไปหาหนัก
http://board.postjung.com/data/557/557603-topic-ix-0.jpg

ตารางเปรียบเทียบ ประเภทนรกขุมใหญ่ เรียงลำดับจากเบาไปหนัก


ตารางเปรียบเทียบ ประเภทนรกขุมใหญ่ เรียงลำดับจากเบาไปหนัก


ขุมที่ชื่ออายุนรกเปรียบเทียบจำนวนวันหมายเหตุ
1สัญชีพนรก500 ปี1 วันนรก = 9 ล้านปีมนุษย์4,500 ล้านปีมนุษย์
2กาฬปุตตะนรก1,000 ปี1 วันนรก = 36 ล้านปีมนุษย์36,000 ล้านปีมนุษย์
3สังฆาฏนรก2,000 ปี1 วันนรก = 145 ล้านปีมนุษย์290,000 ล้านปีมนุษย์
4โรรุวนรก4,000 ปี1 วันนรก = 234 ล้านปีมนุษย์936,000 ล้านปีมนุษย์
5มหาโรรุวนรก8,000 ปี1 วันนรก = 9,216 ล้านปีมนุษย์73,728,000 ล้านปีมนุษย์
6ตาปะมหานรก16,000 ปี1 วันนรก = 184,212 ล้านปีมนุษย์2,947,392,000 ล้านปีมนุษย์
7มหาตาปะนรก1/2 กัปไม่มีการแจ้งไว้นับไม่ได้
8อเวจีมหานรก1 กัปไม่มีการแจ้งไว้นับไม่ได้
พิเศษโลกันตนรกไม่มีอายุเป็นการทำบาปที่พิเศษที่สุด ไม่มีระบุในตำรา
เสร็จจากนี้ต้องไปต่อที่ขุมอเวจีมหานรกต่อไป

ความหมายของ 1 ปีนรก
1 ปีมี 12 เดือน เดือนละ 30 วัน ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับปีมนุษย์
ความหมายของ 1 กัป
สมมติให้มีกล่องที่ กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์ บรรจุเมล็ดผักกาดจนเต็มเวลาผ่านไป 100 ปี หยิบออก 1 เมล็ด จนกระทั่งหมดไม่มีเหลือ นับเป็น 1 กัป

นรกขุมใหญ่ ต้องโทษเพราะไม่เคารพ และผิดในกรรมบถ 10


เมื่อเราเสียชีวิต หากพลาดพลั้งต้องตกนรก กรรมของเราจะถูกพิจารณา คือ


[*]กรรมหนักที่สุดของเรามีอยู่เท่าไร เทียบได้กับขุมใหญ่ขุมไหน ก็ไปยังขุมใหญ่นั้นๆ
[*]เมื่อเสร็จสิ้นจากขุมใหญ่แต่ละขุม ต้องไปลงนรกบริวารอีก 4 ขุมก่อน
[*]แล้ว ค่อยมาว่ากันอีกครั้งว่ามีกรรมเหลือเท่าไร จากนั้นจึงมาเปรียบเทียบใหม่ ว่ากรรมที่หนักที่สุดนั้นมีอยู่เท่าไรเทียบได้กับขุมใหญ่ขุมไหน ก็ไปยังขุมใหญ่นั้นๆ ต่อไป ....... วนเวียนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหมดกรรม




นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 1 สัญชีพนรก

[*]ลักษณะพื้นเป็นเหล็กหนา เผาไฟจนแดงโชน ขอบด้านข้าง 4 ขอบก็เช่นกัน มองออกไปไม่แลเห็นขอบบ่อ
[*]มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล แต่จะหาที่ว่างเว้นจากไฟไม่ได้เลย
[*]ระหว่างไฟจะมีสรรพาวุธต่างๆ เช่น หอก ดาบ ฯลฯ สารพัดจะมี ถูกไฟเผาแดงจนมีความคมจัด
[*]สัตว์ นรกที่อยู่ในนั้นจะวิ่งพล่าน เพราะเท้าเหยียบไฟ ร่างกายก็จะถูกเผาไฟติดไฟตลอดเวลา เวลาวิ่งไปก็จะไปกระทบกับหอก ดาบ ฆ้อน หรืออาวุธต่างๆ มาฟัน แทง สับ ร้องครวญครางดิ้นเร่าๆ แต่พอร่างกายขาดแล้ว ก็จะมาต่อติดกันใหม่โดยทันที มาทรมานต่อไป ไม่มีวันตาย
[*]สรุปว่ามีไฟเผากายตลอดเวลา มีสรรพาวุธประหัตประหารตลอดเวลา




นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 2 กาฬปุตตะนรก

[*]มีกำแพงทั้ง 4 ด้านเป็นเหล็ก พื้นเป็นเหล็ก ถูกเผาไฟจนแดงโชน
[*]นาย นิริยบาลจะจับเอาสัตว์นรกนอนลงไป นำเส้นบรรทัดมาตีเป็นเส้นที่ตัว จากหัวถึงท้ายบ้าง ตีตามขวางบ้าง ไม้บรรทัดนั้นทำจากสายเหล็กที่เผาไฟจนแดงโชน
[*]เมื่อตีเส้นเป็นแนวแล้ว ก็จะนำเลื่อยบ้าง ขวานบ้าง มีดอีโต้บ้าง มาสับลงตามรอยที่ตีไว้แล้วนั้น




นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 3 สังฆาฏนรก

[*]มีกำแพงทั้ง 4 ด้านเป็นเหล็ก พื้นเป็นเหล็ก ถูกเผาไฟจนแดงโชน
[*]มีภูเขาเหล็ก 2 ลูก กลิ้งไปกลิ้งมาคอยบดทับสัตว์เหล่านั้น ภูเขาเองก็เป็นเหล็กที่ถูกเผาจนแดงโชนเช่นกัน
[*]เมื่อถูกบดจนละเอียดแล้วก็จะฟื้นขึ้นมาใหม่ ไม่ตาย รับการทรมานต่อไป
[*]คนที่วิ่งหนีก็จะถูกนายนิริยบาลตีบ้าง แทงบ้าง ฟันบ้าง ตลอดเวลา




นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 4 โรรุวนรก

[*]มีกำแพงเหล็ก 4 ด้าน ไฟลุกโชน จนหาเปลวไม่ได้ ยิ่งลึกมาก ก็ยิ่งร้อนมากขึ้นไปเรื่อยๆ
[*]ตรงกลางขุมจะมีดอกบัวเหล็ก กลีบเหล็กถูกเผาไฟจนแดงโชน กระแสแห่งไฟพุ่งออกจากกลีบตลอดเวลา
[*]ไม่มีนายนิริยบาล
[*]สัตว์นรกจะถูกกรรมทำให้ต้องเอาหัวมุดลงไปในดอกบัว มือและขาก็จะจุ่มลงไปเช่นกัน
[*]กลีบบัวจะงับเข้ามาหนีบขาไว้ถึงข้อเท้า หนีบมือไว้ถึงข้อมือ ส่วนหัวจะหนีบไปถึงคาง เพื่อให้ไฟนั้นเผาอยู่ตลอดเวลา




นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 5 มหาโรรุวนรก

[*]มีดอกบัวขนาดใหญ่ ไฟร้อนจัด กลีบบัวมีความคมเป็นกรด วางตั้งอยู่ทั่วไป
[*]ระหว่างช่องที่ว่างอยู่จะมีแหลนหลาว ปักเอาไว้ โดยเอาปลายแหลมชี้ขึ้น เผาไฟจนแดงโชน
[*]แต่ ดอกบัวนี้จะไม่งับแน่นนัก สัตว์นรกที่อยู่ในดอกบัวทั้งหลายจะร้อน และดิ้นไปโดนกลีบบัว เมื่อกระทบกลีบบัวก็จะขาดตกลงมา ถูกแหลนหลาวข้างล่างแทงรับไว้ แต่เนื่องจากแหลนหลาวนั้นเป็นไฟลุกแดง จึงทำให้เนื้อตัวของสัตว์นรกนั้นลุกร้อนเป็นไฟ ตกลงมาที่พื้น
[*]เมื่อตกถึงพื้น ก็จะมีหมาที่คอยกัดกินจนเหลือแต่กระดูก จนหมดเกลี้ยง แล้วก็จะก่อตัวขึ้นมาเป็นกายใหม่
[*]จากนั้นนายนิริยบาลก็จะบังคับไล่แทงให้ไปอยู่บนดอกบัวต่อไปอีก




นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 6 ตาปะมหานรก

[*]แสงเพลิงสว่างไสวมาก เป็นแสงไฟละเอียด มีความร้อนจัด
[*]สัตว์ร้องระงมเซ็งแซ่ไปหมด มีกำแพงล้อมรอบ 4 ด้าน และพื้นเป็นเหล็กร้อน แดงฉาน
[*]มีแหลนหลาวไฟลุกแดงโชน พุ่งมาเสียบเอาสัตว์นรกแล้วเอาขึ้นตั้งไว้
[*]พอ ไฟไหม้เนื้อหนังหล่นลงมา สัตว์นรกก็จะหล่นลงมาด้วย ก็จะถูกสุนัขขนาดใหญ่เท่าช้าง เที่ยวไล่กัดกิน แทะจนหมดเหลือแต่กระดูกแล้วก็ไปเริ่มต้นใหม่
[*]สัตว์นรกตัวใดไม่ยอมไป ก็จะถูกนายนิริยบาลเอาแหลนไปเสียบแล้วมาขึ้นตั้งไว้อย่างเดิม




นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 7 มหาตาปะนรก

[*]มีกำแพงทุกด้าน มีไฟที่ความร้อนสูง คล้ายแสงสว่าง พุ่งเข้ามาจากรอบทิศ มารวมกันตรงกลาง
[*]มีภูเขาที่ตั้งอยู่ตรงกลางขุมนรก ก็จะมีไฟพุ่งเข้าพุ่งออกเป็นเหล็กที่เผาแดง
[*]นาย นิริยบาลจะบังคับให้สัตว์นรกป่ายปีนขึ้นไปบนยอดเขา วิ่งขึ้นไป พอไปใกล้ถึงยอดก็จะทนไม่ไหว ร่วงหล่นลงมา ก็จะถูกแหลนหลาวที่ปักเอาไว้โดยรอบแทงเข้า
[*]เมื่อหล่นจากแหลนหลาวนั้นร่างก็จะเต็ม แล้วถูกไฟเผาตามเดิม นายนิริยบาลก็จะมาไล่ให้ขึ้นไปยอดเขาต่อไป




นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 8 อเวจีมหานรก

[*]พิเศษกว่าทุกขุม คือ ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้
[*]กระดูกแดงฉาน เนื่องจากถูกไฟเผาจนสุก ถูกให้ยืนกางแขนกางขา
[*]มีกำแพงปิดเฉพาะตัว 6 ทิศ
[*]มีหอกแทงทะลุตรึงไว้ทั้งหมด จากบนลงล่าง ซ้ายทะลุขวา หน้าทะลุหลัง หลายสิบเล่ม จนไม่สามารถจะขยับได้เลยแม้แต่น้อย
[*]จำนวนสัตว์นรกที่อยู่ในขุมนี้ มีมากกว่าทั้ง 7 ขุม ที่กล่าวมาแล้วรวมกันทั้งหมดเสียอีก



นรกขุมใหญ่ พิเศษสุด "โลกันตนรก"

[*]ไม่มีอายุ
[*]หลังจากใช้กรรมจนหมดแล้ว จะต้องไปต่อที่อเวจีมหานรกต่อไปทันที
[*]ลักษณะเป็นภูเขาที่ใหญ่โตประมาณมิได้ ภายในภูเขานั้น เป็นถ้ำขนาดใหญ่มาก มีความเย็นจัดจนบอกไม่ถูก เป็นการทรมานสัตว์นรกด้วยความเย็น
[*]ภายในถ้ำมีน้ำเป็นน้ำกรด แรงจัด และเย็นเฉียบ มีแต่ความมืดมิด ไม่มีแสงสว่าง
[*]สัตว์ นรกทั้งหลายจะไต่ตามผนังข้างๆ ถ้ำ หินที่ผนังจะคมเป็นกรด สัตว์ทั้งหลายจะมองไม่เห็นกัน ต่างก็คิดว่าอยู่คนเดียว พอไต่มาพบกันก็จะนึกว่าเป็นอาหาร ก็กัดกินกันจนตกลงไปในน้ำ
[*]น้ำ กรดก็จะกัดกร่อนทำลายเนื้อหนังจนหมดสิ้น เหลือแต่กระดูก ก็จะประกอบขึ้นมาเป็นร่าง ไต่ขึ้นมาตามผนังถ้ำใหม่อีกครั้ง ต่อไปเรื่อยๆ จนหมดกรรม


หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ตารางเปรียบเทียบ ประเภทนรกขุมใหญ่ เรืยงลําดับจากเบาไปหาหนัก