ทิดสึกใหม่…กับอาเขยวัยกลัดมัน
ลองหัดโพสต์น้า ผิดพลาดอย่าเพิ่งด่ากัน.......
.
.
ทิดสึกใหม่ กับอาเขย วัยกลัดมัน 1
ทิดพัน คือทิดสึกใหม่ หลังจากบวชเรียนตั้งแต่อายุเก้าขวบ เพราะพ่อแม่จากไปด้วยอุบัติเหตุไฟฟ้าช็อต เด็กชายพันจึงต้องอยู่กับยาย สุดท้าย เพราะความจน ยายจึงตัดสินใจพาหลานไปฝากหลวงพ่อที่วัดในเมืองเพื่อให้ได้เล่าเรียนหนังสือเณรพัน ไม่ใช่คนหัวดี แต่มีใจใฝ่เรียน หมั่นท่องตำรา จนสามารถจบเปรียญธรรม 7 ทั้งเขาต้องการเรียนต่อให้จบเปรียญ 9 ทว่ายายที่ชรา สุขภาพไม่สู้ดี ทำให้เขาตัดสินใจสึกออกมาเมื่ออายุยี่สิบต้นๆ
นาก็มีไม่กี่ไร่ ทว่าแค่เขากับยายสองคน ก็เพียงพอที่จะมีข้าวเปลือกไว้สีกินตลอดปี ทว่ากับข้าวกับปลานี่สิ จะกินแต่ผักหญ้า ก็สงสารยาย
“ทิดพัน ทิดพันโว้ย”
“ครับ อารักษ์”
“ไปโว้ย เดี๋ยวจะลงเบ็ดไม่ทันเสร็จก่อนมืดค่ำ”
ทิดสึกใหม่ ถูกปลูกฝังศีลสิบข้อมาตั้งแต่เด็ก ทิดพันจึงไม่อยากฆ่าสัตว์ แต่ชีวิตมีทางเลือกไม่มาก หากไม่หาผักหาปลา ยายจะกินอะไรเข้าไป ลำพังตัวเขาไม่เท่าไหร่ แต่ยายน่ะสิ หมอท่านสั่งมาแล้วว่ายายต้องการโปรตีนจากสัตว์ ไม่ใช่แค่พืช ซึ่งก็จริงอย่างหมอท่านว่า แค่ไม่กี่เพลาหลังยายหันมากินปลากินหมู สีหน้าผิวพรรณของยายก็ดีขึ้นจริงๆฆ่าเพื่อเป็นอาหาร
...บาปนั่นไม่ต้องสงสัย แต่ก็เบียดเบียนเพื่อความอยู่รอด บาปแค่ไหนถึงเวลาก็ต้องชดใช้คืน ขอแค่ให้ยายสุดที่รักสุขภาพแข็งแรง ทิดพันยอมได้ทุกอย่างแรกๆ เขารับน้ำใจจาก อารักษ์ อาเขยข้างบ้าน ทว่านานวันเข้า เขาก็เกรงใจ เมื่อเริ่มออกหาปลาใหม่ๆ ทิดพันก็ทำอะไรไม่เป็น ดีที่อารักษ์เมตตา สอนวิชาหาปลาแบบหมดไส้หมดพุงได้ปลามา เขาก็ไม่กล้าฆ่าพวกมัน ร้อนถึงอารักษ์ ที่ต้องหักคอปลา แล้วค่อยใส่กระชังให้เขากลับบ้าน นานวัน ทิดพันก็เริ่มทำใจได้อาทิตย์ละครั้งสองครั้งเขาจะตามอารักษ์ไปหาปลาที่บึงสามพันธุ์ บึงใหญ่ซึ่งมีเนื้อที่นับพันไร่ตามที่อารักษ์แกว่า รอบๆ รวมถึงในบึงมีต้นไม้น้อยใหญ่ เกาะแก่งมากมาย ร่มรื่น เย็นสบาย จึงกลายเป็นที่อาศัยของสัตว์น้อยใหญ่ ทั้งนก หนู ปลา หอย กุ้ง ที่ชาวบ้านอาศัยจับไปกินเป็นอาหาร บ้างก็ถึงกับค้าขายหารายได้เข้าบ้านด้วยก็มีอารักษ์แกมีรถเครื่องคันเก่า ที่กระเตงเขาไปยังบึงใหญ่โดยไม่ต้องปั่นจักรยานให้เหนื่อยยาก เพราะบึงสามพันธุ์อยู่ห่างบ้านเขาเกือบสิบกิโลวันนี้ก็เช่นกัน อารักษ์ขี่รถเครื่องพาทิดพันไปถึงตั้งแต่บ่ายกว่า สองแขนของทิดสึกใหม่คล้องเบ็ดของอารักษ์กับของเขาไว้ ซ้ำยังมีสัมภาระมากมายให้ทิดสึกใหม่ต้องคล้องไหล่ ต้องหิ้ว ต้องถือ
เมื่อถึงจุดหมาย อารักษ์จอดรถแอบไว้ตรงพุ่มไม้ ล่ามโซ่กับต้นไม้ใหญ่แน่นหนา“วันนี้อาจะพาเอ็งไปที่เกาะโน่น เขาว่าปลาชุมนัก”หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบชี้มือไปยังเกาะขนาดสักไร่ ที่มีต้นไม้ขึ้นหนาตา แกคงจะลงเบ็ดรอบๆ เกาะที่ว่านั่น ทิดพันคิดในใจ อยากรู้อะไรก็จดจำสิ่งที่อารักษ์ทำ ไม่ถามทุกอย่าง เพราะเกรงใจ แต่แล้ว เขาก็อดปากไว้ไม่ได้“แล้วเราจะไปกันยังไงล่ะอา”“บ๊ะ ทิดพันนี่ ก็ลอยคอไปสิวะ น้ำลึกหน่อย แต่เราก็มีไอ้นี่” อารักษ์ตบปุๆ ไปที่แกลอนน้ำมันขนาดห้าลิตร ที่แกดัดแปลงเป็นลูกลอย “เอ็งใช้ไอ้นี่ ส่วนอาจะเกาะกะละมังไป เอ้า เร็วเข้า เอาของใส่กะละมัง เบ็ดก็สะพายไป”“ไม่เปียกหมดหรืออา เสื้อผ้าก็เอามาแค่ชุดเดียว”“แก้ผ้าสิไอ้ทิด ที่นี่ไม่มีใครหรอก นอกจากเอ็งกับอา มา เร็วเข้า เบ็ดเป็นร้อยคัน ขืนมัวชักช้า วางเบ็ดไม่ทันแน่”“ครับ”ทิดสึกใหม่รับปาก ทั้งที่อายแสนอาย แต่อารักษ์ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ เพราะถอดเสื้อผ้า รวมถึงกางเกงในจนเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่า สิ่งบ่งบอกความเป็นชายห้อยโตงเตง ขนาดไม่ธรรมดา ทิดสึกใหม่แม้จะอาย แต่ก็ไม่อาจรอช้า เขาถอดเสื้อผ้าเก่าๆ อวดหุ่นสูงโปร่ง ที่อารักษ์แอบมองแล้วต้องกลืนน้ำลาย ก็ทิดสึกใหม่หลานห่างๆ ของเมียนั่นหล่อเหลาน้อยเสียเมื่อไหร่ ผิวพรรณแม้จะไม่ขาว แต่ก็สะอาดสะอ้านกว่าชาวนาชาวไร่ แต่สิ่งที่แตะตาอารักษ์มากกว่าส่วนไหนก็คือทิดพันเป็นผู้ชายมีเอวมีสะโพก แถมตูดก็ใหญ่น่าฟัด หากเขาระงับใจไว้ มองทิดพันก้าวลงน้ำมา ด้วยท่าทางเงอะงะ นั่นยิ่งทำให้ทิดสึกใหม่มีเสน่ห์อารักษ์พาทิดพันลอยคอไป เกาะนั่นอยู่ห่างแค่สักร้อยเมตรได้“ผม...ว่ายน้ำไม่เป็นครับอา”“เออน่า อารู้ เกาะไหล่อาไว้”
ไม่จงใจ ก็เหมือนใช่ เพราะอารักษ์มักดันสะโพกเขาเบียดกับส่วนนั้นของทิดสึกใหม่หลายครั้งหลายครา และนั่นก็ทำให้อารักษ์รู้สึกซู่ซ่า หลังจากร้างราเรื่องอย่างว่ามานานหลายปีจริงๆ เขาไม่ต้องย้ายไปปักเบ็ดที่เกาะนี่ก็ได้ ทว่า เขาหาวิธีมาหลายวัน ด้วยอยากจะเห็นหุ่นก้านของทิดสึกใหม่แบบเต็มตา เขาถึงพาทิดพันข้ามไป เหมือนโชคจะเข้าข้างหนุ่มใหญ่ ไปยังไม่ทันถึง ก็เห็นเรือลำหนึ่งผูกอยู่ในดงต้นกก
“เห้ย มีคนมาก่อนเราเสียแล้วว่ะไอ้ทิด”“เอาไงล่ะอา เขาจะว่าเรามาแย่งปลาเขาไหม”“เห้ย แย่งอะไร ปลาของหลวง ใครๆ ก็มีสิทธิ์จับได้ ไป อ้อมไปทางโน้นดีกว่า”ขณะที่อารักษ์พาทิดสึกใหม่มุ่งไปอีกด้าน เสียงครางด้วยความกระสันซ่านก็ดังเข้ามา“อ้าสสสส์ พี่ ฉัน...เสียวววว”“อูยยยยย ข้าก็เสียว อีจันเอ๊ย หอยเอ็งนี่ฟิตแน่นเอามันดีเหลือเกิน ตอดเอ็นข้าจนเสียวแทบขาดใจเลยว่ะ อ้าสสสส”จริงๆ ทั้งสองไม่ได้ครางดังมาก ทว่าความเงียบสงัดของป่าซึ่งอุดมสมบูรณ์ ทำให้สองอาหลานได้ยินชัดเจน อารักษ์หันไปจุ๊ปาก แล้วลากหลานชายเมียเข้าไปซุ่มในกอต้นกก ชะเง้อหาต้นเสียง เพียงไม่นาน เขาก็เห็นสองหนุ่มสาวที่กำลังเอากันอย่างถึงใจป้าบๆๆๆๆๆ“อูยยยยยย พี่จ๋า จันเสียววววว กระแทกแรงๆ เลยพี่”
ไอ้หนุ่มนั่นก็คงจะเสียวจัดไม่ต่างกัน แต่มันไม่ได้ครางออกมา เพราะกำลังก้มหน้าฟอนเฟ้นอกอวบอิ่มของหญิงสาวที่ชื่อจันมันกระทุ้งจนหนำใจ ก็จับอีจันคลานสี่ขา แล้วรัวบั้นเด้าใส่ ภาพตรงหน้า ห่างแค่ไม่ถึงสิบเมตร ทำให้ทั้งอาทั้งหลานตัวแข็ง โดยเฉพาะทิดพัน มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นหนังสดทิดสึกใหม่สุดตื่นเต้น แท่งเอ็นแข็งเป้ก
อารักษ์โอบไหล่กว้างของหลานเมียแล้วกดลง ให้โผล่มาแค่จมูก เพราะเกรงสองคนที่กำลังมันจะหันมาเห็น ทิดสึกใหม่เอียงตัวเพราะกลัวดุ้นที่กำลังแข็งจะไปโดนอารักษ์ให้ได้อาย แต่ที่ไหน แท่งทวนร้อนฉ่าของอารักษ์กลับดันสะโพกเขาแนบแน่น มันแข็งตัวเต้นตุบๆ กระตุ้นให้ทิดสึกใหม่ร้อนวูบวาบ ไม่ใช่จากภาพตรงหน้า แต่ทิดพันคิดว่าเพราะดุ้นเอ็นร้อนฉ่าของอาเขยนั่นต่างหาก
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ {:5_119:} น่าติดตามๆ เยี่ยม ขอบคุณ รอติดตามครับ ขอบคุนครับ ขอบคุณครับ ขอบใจครับ รออ่านอยู่ครับ {:5_146:} แค่โพสต์ครั้งแรก เขียนได้ขนาดนี้ก็ถือว่าโอเคเลยฝึกเขียนบ่อยๆก็จะเก่งเองแล้วชอบ สนุกเพลินดีเข้าใจผูกเรื่อง โยงเหตุการณ์ที่จะทำให้ ทิดพัน คนที่อยู่แต่ในสังคมวัด มาเจอกับอารักษ์ หนุ่มใหญ่ที่เจนโลก อ่านจบแล้วทำให้อยากอ่านตอนต่อไปเลย
ชอบ ขอบคุณครับและเป็นกำลังใจให้ ❤️❤️❤️❤️ ขอบคุณครับ สนุกดีครับ ทิดโดนแน่นอน ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ