Maximam โพสต์ 2023-10-31 15:45:14

พญานาคฝากรัก ตอนที่ 2 กระชากหน้ากาก

"พี่ภุ เดินกับผมเบื่อหรือยังครับ"
"ไม่รู้สิครับ รู้เพียงเเค่ว่าพี่เดินกับเคนได้เรื่อยๆ ว่าแต่...."
ภุหันมาสบตากับเคน ทั้งคู่จึงกลับมาที่บ้านก่อนเเละลงไปอยู่ที่เรือนเเพริมน้ำโขง

ที่เรือนแพ ทั้งคู่มาถึงเรือนก็พากันมานั่งเล่นริมชานของเรือนแพภุนอนหนุนตักเคนจนเผลอหลับไป
"พระโอรส นี่ก็ใกล้จักเที่ยงคืนแล้ว เรารีบกลับเมืองบาลกันเถิด วันพรุ่งจะเป็นวันออกพรรษา
พระบิดาของท่านจะออกจาการจำศีล หากทราบว่าท่านออกมาเที่ยวเล่นแบบนี้ท่านจะโดนลงโทษแน่"
"ได้สิพังคี แต่เขาผู้นี้ยังหลับอยู่หากเราไป"
"มนุษย์ผู้นี้บุญหนัก และเป็นนาคบริวารแห่งท้างภุชงค์นาคราช บารมีท่านคุ้มครองมนุษย์ผู้นี้ได้อยู่เเล้ว"
อุรเคนทร์ถอดผ้าคาดเอวออกเเล้วหนุนศีรษะของภุชงค์เอาไว้พร้อมร่ายมนต์กำกับป้องกันอันตรายให้
แก่ภุชงค์ จากนั้นอุรเคนทร์และพังคีก็แปลงร่างเป็นนาคกลับลงสู่เมืองบาดาล

เมื่อลงมาถึงทั้งคู่ก็แอบย่องเข้าไปยังตำหนักของอุรเคนทร์แต่ทว่า....
"ไปไหนกันมาอุรเคนทร์ พังคี"
เสียงเอ่ยทักดังขึ้นในห้องบรรทมของอุรเคนทร์
"เจ้าพี่พาสุกรี พระพี่นางแก้วจันทรา"
"หายไปไหนมาเจ้าตัวดี"
"เจ้าพี่ กับพระพี่นางยังไม่บรรทมหรือ"
"ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง หายไปไหนมา ดีนะที่ท่านพ่อและท่านแม่จำศีล"
"พระพี่นาง น้องแค่ออกไปว่ายน้ำเล่นเท่านั้นเอง"
"นั่นยิ่งต้องโดนลงโทษรู้ไหมว่าถ้ามีมนุษย์เห็นเข้าชาวเมืองนาคาจะเดือดร้อน ช่วงออกพรรษาประตูมิติ
ทั้ง 3 จะเปิดพร้อมกัน หากตาเนื้อของเหล่ามนุษย์เห็นเข้าจะทำไง"
ในขณะที่พี่สาวคนโตบ่นน้องอยู่นั้น พี่ชายก็ได้พูดขึ้นกับน้องว่า...
"อุรเคนทร์ เจ้ามีกลิ่นไอของมนุษย์นี่ รีบไปสระนาคาเพื่อชำระร่างกายก่อนเลย รุ่งเข้าจะต้องเข้าหอพระ
นาคปรก หากท่านพ่อได้กลิ่นน้องจะต้องโทษ พังคีรีบพาไป"
"พะยะค่ะ"
อุรเคนไปสรงน้ำในสระนาคาเพื่อร่างกลิ่นกายของมนุษย์ภุชงค์ที่ติดตัวแล้วรีบเข้านอน แต่เขาก็นอน
ไม่หลับเพราะภาพจำของภุชงค์ยังวนเวียนไม่หาย เช่นเดียวกับภุชงค์ที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาก็ไม่พบว่าอุรเคนทร์
อยู่กับตนพบเพียงผ้าขาวผ้าขาดเอวที่อุรเคนทร์หนุนศีรษะไว้ให้ ภุชงค์จึงคลี่ผ้าออกเเล้วห่มกาย

"งามเอ่ย งามพักตร์ งามจิต
งามเอ่ย ชวนคิด ใฝ่หา
งามเอ่ย งามซึ่ง ตรึงตรา
งามเอ่ย คู่ข้า เชยชม"

เสียงกลอนของภุชงค์ที่เอ่ยขึ้นตอนวักน้ำในแม่น้ำโขงขึ้นมาล้างหน้านั้นก็ได้ส่งกระแสจิตไปถึงอุรเคนทร์
ที่เมืองบาดาล อุรเคนทร์ได้ฟังก็คล้อยตาหลับไปพร้อมจิตที่เป็นกิเลศอุรเคนทร์จึงกายร่างเป็นพญานาค
นอนขดตัวอยู่บนเตียงบรรทมตามกรรมกำเนิด แต่หลับไปไม่นานก็ต้องตื่นเพราะนี่ตี 5 นาคทุกตนต้อง
เตรียมตัวเข้าหอพระนาคปรกในวันพระใหญ่ อุรเคนทร์จึงต้องสรงน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดขาวงดเครื่องประดับ
"ขอบุญกุศลนี้จงส่งผลถึงท่านพี่ภุชงค์ที่อยู่เมืองมนุษย์ด้วยเถิด"
อุรเคนทร์อธิฐานจิตถึงภุ ภุจึงเดินขึ้นจากแพเข้าบ้านแบบมีความสุข
"เอ้าไปไหนมา กลับมาซะเกือบเช้า"
แม่ภาเอ่ยถามภุชงค์ที่เดินเข้ามาบ้าน
"ผมไปนอนที่เรือนแพมาครับแม่ เอ่อเช้านี้ผมไปทำบุญออกพรรษาด้วยนะครับ"
"ได้สิแล้วเพื่อนๆลุกหละ"
"เดี๋ยวผมถามพวกมันก่อน"
"อือผ้าขาวม้าผืนนี้งามจริงฝีมือการทอปราณีตมากใครให้มาหรือ"
"...."
ภุชงค์ไม่ตอบได้เเต่ยิ้มเเละเดินเข้ามากอดแม่ภา ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่งตัว

ภุชงค์และเพื่อนๆเดินลงมาพร้อมที่จะไปทำบุญที่วัดกับพ่อและแม่ แต่ก็แปลกใจที่วันนี้ภุชงค์ผู้กผ้าขาวม้า
ขาดเอวซึ่งปกติไม่เคย
"แม่ว่ามันชักยังไงอยู่นะตาภุ"
"อนุรักษณ์วัฒนธรรมหนะแม่"
"แต่ผ้านี้คุ้นๆนะเพื่อน อย่าบอกนะว่าน้องที่เจอเมื่อคืนให้มา"
ออนิวเอ่ยแซว บีบีจึงปรี๊ดขึ้นว่า....
"นี่ภุ ไปกับมันมาเหรอ"
"บีบี เก็บอาการหน่อยเกรงใจพ่อกับแม่บ้าง นี่เรากำลังจะไปวัดกันนะเว้ย"
"ใช่ไอ้พีทพูดถูก บุญยังไม่ทำมารก่อออกฤทธิ์เลยนะแม่คุณ"
"พอเลยออนิว มึงก็ปากไวจริง ปะปะทุกคนครับเดี๋ยวผมอาษาขับรถให้เอง"
ไอดินพูดขึ้น และทั้งหมดก็เดินทางไปวัดไปทำบุญ

ที่เมืองบาลดาลหลังจากเสร็จพิธีในเช้าวันพระใหญ่เหล่าพญานาคและนาคทุกตนก็อิ่มทิพย์ในบุญ
ที่ตนได้ก่อ ท้าวนาเคนทร์นาคราชจึงเรียกนาคทุกตนพร้อมกันที่ท้องพระโรง
...ทรงพระเจริญท่านนาคาธิบดีท้าวนาเคนทร์นาคราช และท่านาคีแก้วกัลญา...
"ขอบใจทุกท่านที่มาพร้อมกันในวันนี้ คืนนี้เหล่านาคทุกเมืองในเมืองบาลดาลนี้จะถวายบังไฟเป็น
พุทธบูชา ขอให้ท่านทุกตนตั้งจิตในการถวายบั้งไฟนี้ให้ดี ถึงแม้มนุษย์บางกลุ่มจะบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้
เป็นฝีมือของมนุษย์ด้วยกัน แต่เหล่าท่านทั้งหลายก็จงเชื่อมั่นในสิ่งที่ได้ทำมาเถิด"
"ท่านพ่อ ลูกว่าเราควรจะปล่อยลูกไฟให้ช้ากว่าจุดอื่น ตลอดลำน้ำหาได้สงบนิ่งดังคร่าก่อนๆ ลูกว่า
ศรัทธาที่เราทำอาจสูญเปล่าไปได้หากโดนหยามหมิ่น"
"พาสุกรี พ่อเข้าใจในสิ่งที่เจ้าขอ แต่ธรรมเนียมก็ต้องตรงตามเวลา พ่อบอกเเล้วไงว่าให้ทำด้วยจิตที่
ศรัทธาต่อพุทธองค์หาทำเพราะต้องการให้คนเชื่อ แต่เดี๋ยวแก้วกัลญา เหเมือนลูกเราจะมาไม่ครบ
แก้วจันทรา พาสุกรี อุรเคนทร์หายไปไหน"
"เจ้าพี่คุมอย่างไรเล่าเพค่ะ จึงปล่อยให้ลูกหายไป"
งามไส้ละสิ อุรเคนทร์แอบหนีออกไปยังเมืองมนุษย์พระบิดาถึงกับพิโรธ
"นี่พวกเจ้าปล่อยให้อุรเคนทร์หนีออกไปได้อย่างไร เหลวไหลมากเจ้าลูกคนนี้"

อุรเคนทร์แอบลอบหนีขึ้นมาบนโลกมนุษย์เพื่อพบกับภุชงค์อีกครั้ง วันนี้อุรเคนทร์มาในชุดเสื้อสีขาว
ถุงผ้าโสร่งแบบชาวบ้านท้องถิ่นที่นิยมแต่งกายมาวัด ในขณะที่กำลังตักบาตรอยู่นั้นทัพพีของเขาทั้งคู่
ก็ได้ชนกัน
"ขอโทษครับ"
"พี่ภุชงค์"
"อ้าวเคน ไม่รู้ว่าจะมาเเล้วนี่มากับใครครับ"
"มากับอ้ายพัง"
"นั้นไปนั่งฟังพระเทศน์ด้วยกันไหม"
"ได้สิครับ"
เมื่อภุพาเคนมานั่งร่วมกลุ่มด้วย พ่อของภุก็รับรู้จากญาณวิถีที่ตนมีอยู่ได้ทันทีว่านี้แหละคือคู่ครองที่เป็น
คู่จริงของภุชงค์ แต่เเล้วบีบีก็...
"ภุ พามันมานั่งนี่ทำไม ศาลาวัดก็ออกจะกว้างทำไมไม่ไปหาที่นั่งตรงอื่น"
"บีบี นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ ภุบอกบีบีแล้วไงว่าภุคิดกับบีบีได้แค่เพื่อนเท่านั้น"
"ไม่ภุ ภุรักบีบีมากเราสองคนรักกันก่อน"
"นี่หล่อน นางมะโน เลิกเพ้อได้และ หัดอายคนบ้างนี่วัดนะ"
ออนิวพูดขึ้น แม่ภาจึงพูดต่ออีกว่า....
"หนูบีบี แม่ขอหละนะไม่เกรงใจคนก็เกรงใจพระพุทธรูปบ้างลูก นี่วัดไม่เหมาะที่ลูกจะมาหึงหวงอะไรกัน"
"พี่ภุครับ เดี๋ยวเคนไปนั่งมุมนู้นกับอ้ายพังก็ได้ครับ พี่ภุกับเพื่อนๆจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน ขอโทษพ่อลุง
กับแม่ป้านำเด้อ"
อุรเคนทร์ตีบทกลับแบบนายเอกและหันมายกมือไหว้ขอโทษพ่อกับแม่ของภุ ภุจึงจับข้อมือเคนไว้
"ไม่ต้องไป เห็นไหมมีหลายคนจ้องมองเคนอยู่"
"ภุ บีบีหละภุ"
"นี่ถ้าเงียบไม่ได้ก็ไปนั่งนู้น ที่เมรุนู้นนางนี่ ปลงค่ะปลงวันพระ"
"อีออนิวหลอนไม่เคยมีผัวหล่อนไม่รู้หลอก"
"ทำไมฉันจะไม่มี แค่ฉันยังไม่พร้อมเปิดตัว"
"ใครจะตาบอดมาเอาเกย์ปากจัดแบบเเก"
"เราไง ที่ชอบออนิว"
"ไอดิน"
เพื่อนๆทั้งหมดต่างหันมามองที่ไอดินและออนิว ออนิวถึงเขิน
"มึงพูดเชี้ยไรเนี่ย อะอะน้องเคนนั่งนี่แหละนั่งด้วยกัน"
"ประจบเก่งเนอะ"
บีบีพูดแขวะออนิวขึ้นมา ออนิวจึงตอบกลับว่า....
"ไม่รู้สินะฉันรู้สึกถูกชะตากับน้องเขามาก ไม่ต้องมองแรงไอดิน เราคิดแค่น้องเหมือนเคยเกิดเป็น
พี่น้องหรือเพื่อนกันมา อะอะพระขึ้นศาลาเเล้วเจ้าขาาาา"
เสียงดังกว่ามัคนายกก็ออนิวนี่เเหละ แน่นอนครับว่าอดีตชาติของออนิวก็คือกินนรหนุ่มที่เป็นเพื่อน
กับอุรเคนทร์นามว่าเพชรัตน์ เขามักเตือนบีบีในภพที่เป็นนกด้วยกันเสมอเรื่องของอุรเคนทร์กับภุชงค์
แต่บีบีก็ไม่เคยสนและขัดขวางทางรักของอุรเคนทร์ตลอดกินนรเพชรัตน์หรืออนิวจึงคอยตามสกัดและ
ขัดขวางบีบีจนเป็นคู่ปรับกันมาจนถึงชาตินี้

ในขณะพี่พระสงฆ์ฉันเช้า ภุชงค์กับอุรเคนทร์จึงร่วมกันประเภทสำรับอาหารถวายพระแม่ภาจึงถาม
พ่อพันเกี่ยวกับลูกทั้งสองคนว่า...
"คนนี้ใช่ไหมพ่อ"
"ใช่คนนี้แหละ อุรเคนทร์พญานาคที่แปลงกายมา บุตรของท้าวนาเคนทร์นาคราชกับพระนางแก้วกัลญา"
"ถึงว่าแพรพรรณที่ใส่ดูงดงามวิจิตรนักต่างจากการทอและตัดเย็บแบบชาวเรา"
"แม่ คิดอย่างไรกับคู่ของลูกเราที่ไม่ใช่มนุษย์"
"ตามกรรมและบุเพสันนิวาสของเขาแหละพ่อ เจ้าอาวาสจะขึ้นธรรมมาสเทศน์ละ"
บีบีที่แอบได้ยินพ่อกับแม่พูดเบาๆ จึงพูดขึ้นว่า...
"ทุกคนค่ะ วันนี้พิเศษนะที่มีบุคคลสำคัญมาร่วมงานบุญกับมนุษย์อย่างเราๆ"
"บีบีหล่อนจะทำไร ไม่เห็นเหรอหลวงพ่อจะขึ้นเทศน์เเล้ว"
"หุบปากไป นางออนิว มานี่แก"
"โอ๊ยนี่คุณจะทำไรผม"
บีบีดึงแขนเคนออกมาจากภุ พร้อมกับพูดว่า...
"นี่แหละสิ่งพิเศษ เขาคนนี้ไม่ใช่มนุษย์เหมือนเรา เขาเป็นพญานาคที่แปลงกายขึ้นมา"
"ห๊ะ อะไรกัน จริงหรือ"
ทุกคนบนศาลาการเปรียญต่างตกใจเพราะชาวบ้านแถบนี้เขาก็มีคความเชื่อเรื่อพญานาคมานานเเล้ว
ชาวบ้านต่างฮือฮาและเข้ามาขอจับตัว ภุจึงเข้ามากันเอาไว้
"บีบี ดูละครมากไปไหม ก็เห็นว่าเคนเป็นคนเหมือนกับเรา"
"ไม่จริง ดูจากเสื้อผ้าอาภร เนื้อตัว ใบหน้า ผิดแผกไปจากชาวเรายิ่งนัก แล้วชาวบ้านที่มีใครบ้างที่
เคยเห็นคนคนนี้มากก่อนหน้านี้ไหม"
ตอนนี้ชาวบ้านเริ่มสงสัย ภุชงค์ที่รู้เรื่องจริงจึงคิดพาเคนออกไปจากที่แห่งนี้
"เพ้อเจ้อปะเคนเดี๋ยวพี่พาออกไปจากตรงนี้ดีกว่า"
"นั่นดิอีนี่ถ้าจะดูละครมากไป พาน้องออกไปก่อนเหอะภุ เดี๋ยวอีบ้านี่ฉันจัดการเอง"
"หยุดเลยนะ ถ้าแกเป็นคนจริงๆ แกกล้าใส่สร้อยเส้นนี้ไหมหละ"
"สร้อยพญาครุฑ"
"ใช่ สร้อยพญาครุฑ ถ้าเป็นมนุษย์ทั่วไปใส่ก็จะปกติไม่มีอะไร แต่ถ้านาคอย่างเธอใส่ก็จะได้รู้กันไง"
อุรเคนทร์บารมียังไม่มาพอที่จะสัมผัสต่อองค์พญาครุฑ เขารู้สึกใจสั่นและกลัวสร้อยเส้นนี้ แต่บีบีก็
ไม่ลามือ นางพยายามที่จะเอาสร้อยนี้สวมใส่ให้เคนภุจึงกันเคนออกมา ยิ่งทำให้ชาวบ้านเริ่มสงสัย
"มันยังไงพ่อหนุ่ม หากเจ้าเป็นคนคือแบบเฮาเป็นหยังคือบ่กล้าใส่สร้อยครุฑ"
"แม้น เจ้ากลัวอะไร หรือเจ้าเป็นนาคที่กลายร่างมาปะปน"
"นี่หมู่เฮา พวกสูสิมาคาดคั้นอิหยังนี่ พวกเจ้าเห็นบ่สมภารเพิ่นสิขึ้นธรรมมาส"
"คุณพ่อค่ะ คุณพ่อเป็นผู้นทำพิธีต่างๆ คุณพ่อยอมมองออกนะค่ะว่านี่คนหรือสัตว์"
"อีบีบีมันจะมากไปแล้วนะ พวกเราลากอีนี่ลงเหอะงานบุญจะเป็นงานบาปแล้วเนี่ย"
ออนิวเเละเพื่อนเพื่อนกำลังจะลากตัวบีบีลง แต่ทันใดนั้นก็...
"ถ้าอยากพิสูจน์ก็ลอง ถ้าหากลูกฉันเป็นคนจริงๆ หล่อนต้องออกไปจากหมู่บ้านแห่งนี้"
"แม่"
พระนางแก้วกัลญา พระองค์หญิงแก้วจันทรา และเจ้าชายพาสุกรี ได้แปลงร่างเป็นมนุษย์ขึ้นมาช่วย
อุรเคนทร์ไว้ได้ทัน
"อุรเคนทร์เอาไปใส่สิลูก"
"ใส่เลยอุรเคนทร์น้องพี่ ไม่ต้องกลัวเรามาทำบุญผลบุญต้องคุ้มกัน"
พาสุกรีเอ่ยคำพูดเพื่อย้ำว่าท่านแม่ได้ร่ายมนต์ไว้ให้เเล้ว สร้อยครุฑนี้ไม่ได้ผ่านการปลุกเสกอะไร
เพียงร่ายมนต์สะกดไว้ก็ทำไรไม่ได้ บีบีหาซื้อมาเพื่อต้องการแกล้งให้อุรเคนทร์กลายร่างเท่านั้น

เมื่ออุรเคนทร์สวมสร้อยนั้นก็ไม่ได้เป็นอะไร ร่างกายก็ยังคงเป็นมนุษย์ดังเดิม
"เห็นหรือยังว่าลูกฉันเป็นอะไร"
"พวกแกต้องทำอะไรกันแน่ๆ"
"นี่บีบี แกก่อกวนมากไปแล้วนะ ขอโทษคุณน้าด้วยค่ะ น้องเคนด้วย"
ออนิวลากตัวบีบีออกมาให้ห่าง แต่ดูเหมือนว่าพีทจะต้องตาต้องใจกับนาคหนุ่มพาสุกรีพี่ชายของ
อุรเคนทร์เข้าให้เเล้วสิ เพราะในขณะที่พระเทศน์นั้นพีทพยายามมองมาทางพาสุกรีตลอดจนกระทั้ง
เสร็จกิจกรรมทำบุญช่วงเช้า
"เออคุณน้าจะกลับอย่างไรกันครับ ให้ผมไปส่งไหม"
"เดี๋ยวนะไอ้คุณพีท แกไปส่งน้าเขาแล้วพวกเรากลับยังไง"
"เดินดิบ้านไอ้ภุไม่ได้ไกลมาก"
ทันใดนั้นพาสุกรีก็พูดขึ้นว่า....
"ไม่กวนพวกคุณหรอกครับ ขอบคุณนะ คุณแม่ครับเรากลับกันเถอะครับ"
"นั่นสิค่ะคุณแม่ อุรเคนทร์ด้วยมาทำบุญจนเกือบทำบาป"
"พี่ก็ เอ่อพี่ภุชงค์ นี่คุณแม่ พี่สาวและพี่ชายของเคน"
"สวัสดีครับ"
ทันทีที่ได้มองตาพระนางแก้วกัลญา ภุชงค์ก็ระลึกได้ถึงคำสั่งของพระนางในอดีตว่า ...หากเจ้ารักลูก
ของเราจริงก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นสิว่าเจ้านั้นทำได้ การอุทิศชีวิตแบบนี้มันเป็นเรื่องใหญ่อย่าให้มันสูญเปล่า
แล้วเราจะพาอุรเคนทร์มาให้เจ้าในวันที่เจ้ามาขอ...
"พระนาง" ภุชงค์กำลังลืมตนและจะเอ่ยชื่อพระนางออกมา พระนางจึงพูดขึ้นว่า "หึ้ม ไปกันได้แล้ว"
"เดี๋ยวครับ ผมอยากถามชื่อคุณได้ไหมว่าชื่ออะไร ผมชื่อพีท"
พีทดินเข้ามาหาพาสุกรี พาสุกรีจึงตอบกลับว่า...
"ทำไมเราต้องบอกคุณด้วย"
"พี่ชายผม พี่พาสุ ที่หมายถึงพาความสุขมาให้คนอยู่ใกล้"
"อุรเคนทร์บอกเขาทำไม พี่จะฟ้องพ่อเรื่องเรา"
"ขอบคุณนะครับน้องเคนที่บอกพี่ ดูท่าคงจะจริงคืนนี้สะดวกไหม"
"ไม่ ผมไม่ว่าง"
"ยังพูดไม่จบเลย ผมจะชวนคุณมาดูบั้งไฟพญานาคด้วยกัน"
"นั่นดิเคนว่างไหม"
"ไม่คิดจะขอแม่กันก่อนเลยเหรอ ชวนกันเอง ตายฉันเพิ่งลูกว่าลูกชายนี่น่าเป็นห่วงกว่าลูกสาว"
"ขออนุญาตชวนนะครับคุณแม่"
ภุกับพีทพุดขึ้นพร้อมกัน เคนจึงตอบไปว่า...
"สังเกตที่เรือนแพของพี่หากเห็นลูไฟโผล่นั่นและเคนจะมา"
"ถ้าน้องมาพี่ก็คงต้องมา เพราะมาต่างถิ่นคนเดียวมันอันตราย กลับกลับ"
ทั้งสามแม่ลูกและพังคีรวมถึงนาคบริวารที่แปลงกายมาก็ต่างขึ้นเรือยนต์ขับไปตามลำน้ำโขง พอทุกคน
หันหลังกลับขึ้นฝัง เรือนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เเต่ดูเหมือนว่าพีทจะอาการนะเนี่ยกลับจากวัดมาก็
มานั่งยิ้มเงียบๆคนเดียวที่เรือนเเพของภุ สงสัยจะรักนาคหนุ่มเข้าให้อีกคนเเล้วสิ แต่เอ๊ทำไมลูกชาย
เมืองนี้ขายออกง่ายกว่าลูกสาวหละเนี่ย...ฝากติดตามต่อด้วยนะครับ เรื่องเซ็กอาจไม่ค่อยมีอย่าเพิ่งเบื่อนะ

obchoeitoh โพสต์ 2024-1-19 21:18:47

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2023-11-4 10:39:53

สนุกมากครับ

dojikung โพสต์ 2023-11-1 17:47:49

ขอบคุณครับ

dew225 โพสต์ 2023-11-1 04:47:32

ขอบคุณครับ

kookkoo โพสต์ 2023-11-1 03:31:05

ขอบคุณครับ

ธนภัทร โพสต์ 2023-11-1 02:00:51

{:5_136:}{:5_136:}

windy1980 โพสต์ 2023-11-1 01:13:17

{:5_146:}

lekthai โพสต์ 2023-10-31 20:37:15

ขอบคุณนะครับ

eg1 โพสต์ 2023-10-31 17:22:25

ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: พญานาคฝากรัก ตอนที่ 2 กระชากหน้ากาก