*** ช่วงวันปิดเทอม *** [CP]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pipolucky เมื่อ 2024-1-26 01:15ในช่วงมหา’ลัยปิดเทอม ผมเดินทางกลับต่างจังหวัด นาน ๆ ครั้งที่จะได้รับอากาศอันเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริงเช่นนี้ ทำให้ผมรู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงปิดเทอมนั้น ผมขับรถปิดอัพคู่ชีพท่องเที่ยวไปทั่ว เวลาผมจอดรถและเดินไปไหนจะมีแต่คนมองดูผมแทบทั้งนั้น ก็ผมมันเด็กแฟชั่นนิครับ วิธีการแต่งตัวก็ออกจะดุเดือดในสายตาของคนบ้านนอกประกอบกับการขับรถชิ่งและจอดรถด้วยเสียงดังเอี๊ยดของผมด้วย ก็เลยกลายเป็นจุดดึงดูดสายตาของชาวบ้านทั่วไป มองไปเถอะผมชอบเสียอีก (มันรู้สึกสะใจตามอารมณ์ของวัยสะรุ่น)
วันหนึ่ง ผมมีความคิดพิเรนอย่างหนึ่งคือ จะขับรถไปเล่นน้ำที่น้ำตกของตัวจังหวัดโดยไม่ใส่อะไรเลย เพราะผมเคยไปที่น้ำตกแห่งนั้นมาก่อนแล้ว ที่นั่นเงียบสงบไม่มีผู้คนเลย วันนั้นผมก็ขับรถไปที่น้ำตกแห่งนั้น ผมจอดรถด้วยเสียงดังอย่างเคย (เพื่อให้เจ้าป่าเปิดทาง) ให้ชาวบ้านหันมามองดูเล่นอย่างนั้นแหละในขณะที่ปิดประตูรถอยู่นั้น ด้วยสัญชาตญาณอย่างหนึ่งบอกผมว่า ผมกำลังถูกจับจ้องโดยผู้ชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ร้านอาหารฝังตรงข้าม แต่ผมก็ไม่สุนใจ เดินขึ้นน้ำตกไป เรื่อย ๆ น้ำตกชั้นแรก ๆ นั้นน้ำเหือดแห้ง ผมต้องได้ขึ้นไปสูงถึงชั้นที่ 7 ชั้นนี้แหละที่ผมหมายตาไว้ เพราะเปลี่ยวและไม่มีคน ผมลองเอามือวักน้ำดู น้ำเย็นเฉียบ ผมไม่รอช้ารีบถอดเสื้อผ้าออกหมดเหลือตัวล่อนจ้อนกระโดดลงน้ำ น้ำเย็นจริง ๆ ผมว่ายน้ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนานทีเดียวที่ผมไม่มีโอกาสเป็นตัวของตัวเองอย่างนี้ เวลานี้มันเหมือนน้ำตกทั้งน้ำตกเป็นของผมแต่ผู้เดียว ผมว่ายอยู่กลางน้ำส่งเสียงร้องเพลงด้วยเสียงดัง อย่างไม่กลัวใครจะได้ยิน
"กลางดงพงป่า......เขาลำเนาไพรไกลสังคม.."“โห.....เพิ่งเคยเห็น เทวดา ออกมาเล่นแหวกว่ายน้ำในป่าเปลี่ยวแบบนี้”
เสียงหนึ่งดังแทรกเสียงเพลงของผม และเจ้าของเสียงก็เดินออกมาจากพุ่มไม้ข้างทาง เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมอย่างจะท้าทาย ผมตกใจจนลืมตัวยืนขึ้นอย่างจะเอาเรื่องกับชายคนนั้น โดยลืมไปว่าขณะนี้ผมเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน หากแต่พอนึกขึ้นมาได้ก็รีบเอามือปิดส่วนสำคัญไว้ ชายคนนั้นยืนมองอย่างขบขัน ยิ้มอย่างเปิดเผย
"ผมเห็นหมดแล้ว เห็นตั้งแต่ตอนคุณแก้ผ้ากระโดดน้ำนั้นแล้ว"
เขาพูดพร้อมกับทรุดตัวนั่งลงข้าง ๆ กองเสื้อผ้าผม เขาหยิบมันขึ้นมาทีละชิ้น ๆ ไว้ในอุ้งมือเขา ผมได้แต่มองอย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีความสนุกสนานเมื่อครู่เหือดหายไปหมดมองดูเสื้อผ้าของผมในมือของเขาแล้วชูขึ้นมองผมท้าทาย
"ไงรูปหล่อ เล่นน้ำต่อไปซิ ผมจะเฝ้าดูต้นทางให้คุณเอง ว่าแต่คุณชื่ออะไรน่ะ สุดหล่อ” เขาถามผมอย่างกวน ๆ แต่ก็มีรอยยิ้มแอบแฝงอย่างเห็นได้ชัด
ตอนนี้ผมเลิกกลัวแล้วยังไงก็ขอลองดูสักครั้ง ผมมีปืนอยู่ในรถ ไว้ให้ผมได้เสื้อผ้าและได้ปืนก่อนเถอะ ผมจะสั่งสอนให้เขารู้จักผมซะบ้าง ตอนนี้ผมก็เลย ต้องแกล้งทำเป็นดีกับเขาไปก่อน
"ผมชื่อวีร์" ผมตะโกนตอบ "ผมชื่อตอง" เขาตะโกนกลับมาเช่นเดียวกัน
ผมจอดรถเสียงดังอย่างเคยชิน แล้วมองสำรวจไปรอบ ๆบริเวณ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสวนผลไม้รอบด้าน "ที่นี่คือท้ายไร่แล้ว โน่น...บ้านไร่ปลายนาของผม”
ตองชี้ให้ผมดู ตอนนี้เราเริ่มสนิทกันมากขึ้น ทำให้ผมรู้ว่าตองจบจากมหา 'ลัยเกษตรฯ ได้ 2 ปี และทำงานที่กรมการประมงพอวันเสาร์วันอาทิตย์ ถึงกลับมาบ้านไร่อีกครั้ง แต่ตองไม่ยอมพาผมไปที่บ้านในเมืองของเขา เขาบอกว่า
"ที่บ้านคนเยอะ คุยไม่มันส์ บ้านท้ายไร่ดีกว่า คุยกันมันส์ดี เรา 2 คนมีเรื่องมันส์ ๆ ที่จะต้องทำอีกมาก"
บ้านไร่ปลายนาของตองมันเงียบจริง ๆ ซะด้วย ความคิดอย่างหนึ่งวาบขึ้นสมอง "ไม่มีคนแน่หรือตอง"ผมถามอย่างต้องการความมั่นใจอีกครั้ง เขาพยักหนัา คิ้วเข้ม ๆ นั้นทำให้หน้าตาเขาดูเข้าที่ ผมเปิดประตูรถและหยิบสิ่งหนึ่งออกมา
"เดี๋ยวตอง ถึงเวลาที่คุณจะ ต้องใช้หนี้แล้ว"
ตองหันมามองแล้วก็ทำตาเหลือก เพราะปืนในมือผมจ่อไปที่ร่างของเขา คราวนี้ล่ะถึงทีของผมบ้าง ผมยิ้มอย่างอ่อนหวานมือเล็งไปตรงเป้ากางเกง"ถอดออกทีละชิ้น....ทีละชิ้นนะเอาเสื้อก่อนแล้วกัน...เร็ว" ตองหัวเราะแล้วบอกว่า
"โอ้ย...ไม่ต้องขู่ ก็จะถอดอยู่แล้ว" เขาถอดอย่างรวดเร็ว
"ไง...พอฟัดพอเหวี่ยงกับของวีร์ไหม?..."
ผมกลับเป็นฝ่ายหน้าแดงได้แต่เดินตามร่างเปล่าเปลื่อยของเขาเข้าไปในบ้านไร่ เมื่อเข้าไปถึงผมยังไม่มีโอกาสสำรวจตรวจตราอะไร ตองก็หันตัวกลับรั้งตัวของผมเข้าไปกอดและจูบ มันทำให้ผมตกใจและพยายามดันร่างของเขาให้ออกห่าง
"อะไรอีกล่ะ จะเล่นพิเรนอะไรอีกล่ะ" ผมถามด้วยความหอบหลังจากดันร่างออกจากการกอดรัด ความรู้สึกที่ถูกจูบไซ้ด้วยลิ้นและหนวดเมื่อครู่ทำให้แรงหายใจผมเต้นแรงขึ้นอย่างผิดสังเกต เพียงแค่นี้ก็เร้าอารมณ์เพศของตองได้อย่างเต็มที่
ร่างเปลือยของเขาจึงมีสิ่งหนึ่งผงาดขึ้นมาอย่างท้าทาย .....
"คนกรุงเทพฯ ไม่เคยกับเรื่องอย่างนี้ ก็อย่าไปอยู่มันเลย" เขาพูดเสียงเครียด
"มานี่" เขากระชากร่างผมเข้าไปหาอีกครั้งเรือนร่างแข็งแกร่งของผู้ชาย 2 คนถาโถมเข้าหากันอย่างเมามันส์ มันไม่ใช่การต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งใด ๆ หากแต่เป็นการแสวงหาหนทางแห่งการหลุดพ้น(ทางกามโลก)
สำหรับผมนั้นนับเป็นรสชาติใหม่แตกต่างจากผู้หญิงซึ่งเคยสัมผัส ตองมีทั้งความแข็งแกร่งและอ่อนหวานในขณะเดียวกัน ความแข็งแกร่งซึ่งผู้หญิงไม่มี แต่ตองมีให้สำหรับผม... เรือนร่างแข็งแกร่ง 2 ร่างนั้นยังคงคลุกเคล้าประสมประสาน เพื่อที่จะให้เป็นร่างเดียวกัน บางครั้งเหยียดตรง บางครั้งตั้งฉาก เหมือนลีลาของนักบัลเล่ต์ และกว่าเรือนร่างแข็งแกร่ง ที่คลุกเคล้ากันอยู่นั้นจะแยกจากกัน ก็นานนับชั่วโมง..."เย็นมากแล้ว ผมกลับล่ะ แล้ววันเสาร์หน้าจะมาหาใหม่นะ" ผมบอกตองอย่างนั้น
เมื่อแต่งตัวเสร็จ เป็นอันว่า ช่วงปิดเทอมนั้นหากเป็นวันธรรมดาผมจะไม่ไปเที่ยวไหนเลย นอนเอาแรงรอวันเสาร์วันอาทิตย์ วันสำหรับผมกับตอง........:loveliness:
ขอบคุณครับ ตรงกลางๆมันหายไปแปลกๆ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ. เหมือนตรงกลาง หายไปนะครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบใจ ขอบคุณครับ
ชอบ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ. ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]