เรื่องเล่าของผัวเมีย #24 "พี่อวย ผู้ชายสายเปย์ 1"
เรื่องเล่าของผัวเมีย #24"พี่อวย ผู้ชายสายเปย์ 1"
เนื่องด้วยการสร้างบ้านของผมจำต้องมีทรายเพื่อใช้ในการเป็นวัสดุก่อสร้างผมจึงได้ติดต่อท่าทรายริมแม่น้ำในเขตอำเภอที่ผมประจำการอยู่ซึ่งห่างจากตัวอำเภอไม่มากนัก เป็นท่าทรายขนาดใหญ่พอสมควรส่งทรายไปเกือบทั่วภาคอีสานทำให้ผมได้รู้จักกับผู้จัดการท่าทรายที่นั่น แกชื่อพี่ "อวยชัย" ซึ่งขอเรียกแกสั้นๆ ว่า "พี่อวย" ก็แล้วกัน
พี่อวย ชายวัยสี่สิบปลายๆ สูงประมาณ 167 ซม.ตัวค่อนข้างหนา ผิวคล้ำ หัวเถิก หน้าตาค่อนข้างขี้เหร่เลยล่ะ
ผมติดต่อเรื่องทรายกับแกอยู่หลายครั้งก็เลยได้พูดจาสนทนากันอยู่บ่อยๆ ดูแล้วเข้าใจกันและถูกคอกันดี สังเกตุว่าแกเป็นคนอัธยาสัยดีคนหนึ่งเลยแหละ
เวลาหกโมงเย็นวันหนึ่ง ผมรับสายจากพี่อวยโดยแกโทรมาชวนไปกินเหล้าที่ท่าทราย ไอ้ผมก็ปฎิเสธใครไม่เป็นเสียด้วยจึงบึ่งรถไปหาแก ผมจอดรถหน้าสำนักงานเทียบกับรถของแกแต่มองหาก็ไม่เห็นเจ้าของรถ ผมโทรหาแกรับสายบอกว่า ให้เดินผ่านสำนักงานออกประตูหลัง ผมก็เดินออกไปซึ่งเป็นส่วนที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ห่างจากสำนักงานประมาณเกือบร้อยเมตรมีซุ้มศาลาไม้เล็กๆ ตั้งอยูใต้ร่มไม้ขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ มีเส้นทางของรถให้เห็นด้วยว่ารถเข้ามาถึงได้ แต่ต้องขับอ้อมมาหน่อย พี่อวยนั่งอยู่ในศาลาคนเดียว
ผมกับพี่อวยนั่งร่ำสุรากันจนหมดกลมด้วยอารมณ์สุนทรียามแดดร่มลมตกจนถึงสามทุ่ม แกชวนไปต่อร้านคาราโอเกะที่ต่างอำเภอแต่ก็ไม่ไกลจากอำเภอที่ผมอยู่มากนัก ถ้าใครข้องใจในคำสุภาษิตที่ว่า "คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง" ว่ามันจริงอย่างนั้นไหม ก็โปรดจงเชื่อผมเถอะว่าจริง ผมกับพี่อวยเดินเข้าร้านก็มีสาวๆ เด็กเสิร์ฟมองผมกันทุกคน แต่พอได้พูดได้คุยด้วยการพูดการจาของพี่อวยกลับมีแต่สาวๆ ห้อมล้อมแก หรืออาจจะเพราะอีกปัจจัยหนึ่งก็อาจจะเป็นได้คือพี่อวยแกเงินหนา ทิปสาวๆ ทีเป็นร้อย วันนั้นแกหมดเงินไปหลายพันทีเดียว นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมกับพี่อวยได้ไปเที่ยวด้วยกัน
หลังจากนั้นมา ผมกับพี่อวยก็ออกเที่ยวกันบ่อยๆ ด้วยความที่เรานิสัยใจคอเหมือนกันจึงทำให้คุ้นเคยกันอย่างรวดเร็ว เรียกว่าร้านไหนเปิดเราเป็นเข้าไปดื่มกินกันทั่วหมดทุกร้าน บางคราวก็หิ้วเด็กมานอนรีสอร์ทกว่าจะกลับก็เกือบสว่างกันเลยทีเดียว
เย็นวันหนึ่ง กลอยกลับมาจากทำงาน ผมกำลังจะออกไปออกกำลังกายก็มีสายพี่อวยเข้าโทรศัพท์ผม แกบอกออกมากินเหล้าเป็นเพื่อนหน่อย ผมก็ตกลงทันที
"ไปอีกล่ะ ไปได้ไปดี วันนี้จะกลับห้องตีไหนดีล่ะ"
กลอยได้ยินผมคุยโทรศัพท์เธอรู้ว่าผมคุยอยู่กับใครจึงทำหน้าเครียดใส่ ผมยิ้มแหยๆ ให้แต่เธอยังหน้าบึ้งใส่เหมือนเดิมแถมบอกว่าวันนี้จะขอไปด้วย จะขอตามผมไปทั้งคืนเลย เธอขอเข้าอาบน้ำก่อนพร้อมร้องสำทับว่า อย่าแอบหนีไปคนเดียวเชียว เจอไม้นี้เข้าผมก็หงอสิครับ
พี่อวยนั่งกินเหล้าอยู่คนเดียวเช่นเคย แกรับไหว้ผมกับกลอยพร้อมจ้องมองเธอไม่กระพริบตา กลอยในชุดกางเกงยีนส์ เสื้อยืดรัดรูปคอวีสีขาวธรรมดาแค่นั้นก็ทำเอาพี่อวยมองกลอยตาค้าง ประจวบเหมาะกับแสงแดดยามเย็นลอดซุ้มเข้ากระทบผิวเธอทำให้ออร่าเปล่งแสงเข้าตาแกอย่างจังเบอร์
"พี่ได้ยินเอกเขาพูดถึงกลอยบ่อยๆ ไม่นึกว่าจะสวยน่ารักขนาดนี้"
เจ้าคารมอย่างพี่อวยเอ่ยขึ้นทันทีทันใดทำเอากลอยปรับสภาพไม่ทันได้แต่ยิ้มและเอ่ยขอบคุณแกไป ซึ่งทั้งสองคนใช้เวลาไม่มากในการสนทนาก็รู้จักและสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว จากวงเหล้าที่ผมคาดว่าจะกร่อยเพราะมีกลอยไปด้วยกลับกลายเป็นว่าสนุกครึกครื้นกว่าเดิมเมื่อพี่อวยหัวเราะร่าตลอดเวลา ดูแกครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษเชียว
"เห็นพวกพี่ๆ ไปเที่ยวคาราโอเกะกัน กลอยก็อยากไปเที่ยวบ้าง"
กลอยเอ่ยเมื่อเห็นว่าเหล้าหมดแล้ว ผมสั่นศีรษะให้กับพี่อวยแสดงนัยๆ ว่าไม่เห็นด้วย กลอยหันมาแหวใส่ผมว่า ทีตัวเองไปได้ไปดี พอเขาจะไปด้วยทำเป็นไม่อยากไป หรือว่าอายสาวที่มีเมียไปด้วย ก็ได้เดี๋ยวเขาแกล้งเป็นแฟนพี่อวยก็ได้ เนอะพี่อวยเนอะ พูดไม่พูดเปล่าเธอเอาสองมือไปเกาะแขนพี่อวยเขย่าทำท่าอ้อน พี่อวยหัวเราะชอบใจบอกว่า บ๊ะ...เอาก็เอา...งั้นไปกันเลย
คืนนั้นพี่อวยขาดสาวๆ เอาใจเหมือนแต่ก่อน กลับกลายเป็นผมที่มีสาวมาห้อมล้อมแทน แต่เหมือนเพิ่มความหมั่นไส้ให้กับกลอยเธอจึงเหมือนเอาใจและชงเหล้าให้พี่อวยเป็นพิเศษส่วนผมก็ลอบมองดูอยู่ตลอดคืน มันไม่มีความหึงหวงอยู่ในมโนสำนึกของผมเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะรู้ว่ากลอยแกล้งทำไปงั้นๆ เอง แต่ผมก็กลับรู้สึกมีอารมณ์เงี่ยนขึ้นมาจนนั่งควยแข็งก็หลายครั้งเวลาที่เห็นพี่อวยแกล้งทำเป็นโอบไหล่กลอยหรือทำท่าทางแตะเนื้อต้องตัวเธอ ตอนที่พวกเรานั่งรถกลับมาเอารถผมที่ท่าทราย ก่อนกลับ พี่อวยยื่นเงินให้กลอยสามพันบาทบอกว่าค่าชงเหล้า กลอยดีใจยกมือไหว้ พี่อวยทำทีเข้ามากอดโอบไหล่หลวมๆ พูดว่า ไม่เป็นไร นั่นเป็นครั้งแรกที่กลอยกับพี่อวยได้เจอกัน
หลังจากนั้นถ้ากลอยว่างเธอก็จะตามผมไปที่ท่าทรายทุกครั้ง แต่ก็ไม่บ่อยที่จะได้ออกไปต่อร้านอาหารหรือร้านคาราโอเกะกัน ส่วนมากก็จะกินกันที่ท่าทรายพอหมดกลมหรือเห็นว่าพอสมควรเราก็แยกย้ายกัน และแน่นอนพี่อวยจะให้ทิปแก่กลอยค่าชงเหล้าทุกครั้ง นั่นคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธออยากไปกับผม และผมก็เชื่อลึกๆ ว่าพี่อวยแกก็ทำเพื่อให้กลอยออกมาหาแกบ่อยๆ นั่นเอง ซึ่งผมก็มองออกว่าแกคิดยังไงกับกลอย เพราะสายตาที่แกมองดูเธอนั้นบ่งบอกได้ดี เวลาช่วงแรกๆ ตอนลับตาผมก็จะพยายามจับมือถือแขนกลอยตลอด ช่วงหลังๆ มาก็หาโอกาสจับซึ่งๆ หน้า เมื่อเห็นผมกับกลอยไม่ว่าอะไรแกก็ดูได้ใจและทำบ่อยขึ้น
มีวันหนึ่งที่กลอยนั่งนับเงินที่ได้จากพี่อวยพร้อมโชว์อวดผม ผมยิ้มๆ บอกว่า เขาหวังอะไรหรือเปล่าให้ทิปเยอะขนาดนี้ เขาปลูกพืชย่อมหวังผลนะ กลอยยิ้มๆ ถามผมกลับว่า เขาหวังอะไรล่ะ? ผมไม่พูดแต่ชี้ไปที่เธอ กลอยตีมือผมบอกว่า ถ้าจะหวังผลขนาดนี้ ต้องปลูกพืชเยอะๆ แล้วล่ะ
บ่ายสองโมงวันเสาร์อากาศร้อนอบอ้าวมาก ผมก็เลยเอ่ยปากชวนกลอยไปเล่นน้ำที่ท่าทรายกันเธอก็เห็นดีด้วย ผมจึงโทรศัพท์หาพี่อวยว่าแกอยู่หรือไม่ ปรากฎว่าแกอยู่ที่บ้านและบอกว่า จะเข้าท่าทรายประมาณสองทุ่ม แกถามผมว่าทำไมหรือ? ผมก็บอกจุดประสงค์แกไป ดูน้ำเสียงแกกระตือรือร้นบอกผมว่า งั้นแกจะพยายามเข้าท่าทรายให้เร็วที่สุด แกบอกให้ผมกับกลอยเล่นน้ำรอแกก่อนได้เลย
ใกล้ซุ้มศาลามีทางเดินจากตลิ่งลงไปยังข้างล่างค่อนข้างชัน ผมเคยเดินลงไปสำรวจอยู่ครั้งหนึ่ง ข้างล่างเป็นหาดทรายเล็กๆ ตลิ่งสูงจากฝั่งทางตะวันตกบดบังแสงแดดยามบ่ายได้ และถัดไปไกลหลายร้อยเมตรเลยคุ้งน้ำไปจึงเป็นท่าดูดทราย ขณะที่ตลิ่งฝั่งตรงข้ามก็สูงชันและบนฝั่งก็มีป่าละเมาะรกครึ้มไร้ผู้คนสัญจร โดยรวมบรรยากาศดีมากห่างไกลจากสายตาคน ส่วนกลอยเธอเคยเห็นแต่อยู่บนฝั่งเท่านั้นยังไม่เคยเดินลงไปดูสักที
ผมนำรถไปจอดข้างซุ้มศาลา เราขนของลงจากตลิ่งที่สูงชัน ผมมีเสื่อผืนใหญ่ น้ำเปล่าสองขวด และเหล้าสีหนึ่งแบน ด้วยสถานการณ์ไม่อำนวยก็เลยต้องกินเพียวๆ กลอยนานๆ ทีก็พอได้เหมือนกัน
ผมปูเสื่อริมหาดใต้ตลิ่งที่มีต้นไม้พุ่มเกิดจากตลิ่งปกคลุมอีกชั้นหนึ่ง เรียกว่าสถานที่พอเหมาะทีเดียว ผมนุ่งเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นส่วนกลอยใส่เสื้อกล้ามรัดรูปนุ่งกางเกงผ้าขาสั้นรัดรูปเรียกว่าเตรียมตัวมาเล่นน้ำเต็มที่แต่เธอใส่เสื้อกีฬาทับมาก่อน พอเจอน้ำก็ถอดเสื้อกีฬาออกแล้ววิ่งลงน้ำทันที น้ำในแม่น้ำฤดูร้อนมันใสน่าเล่นจริงๆ ผมกับกลอยผลัดกันขึ้นผลัดกันลงเล่นน้ำจนเหล้าหมดแบน
แล้วพี่อวยก็มาซึ่งก็ปาเข้าไปเกือบหกโมงเย็นแต่ว่าเวลาหน้าร้อนนั้นก็ยังมีแสงแดดส่องอยู่บ้าง พี่อวยเดินยิ้มแฉ่งถือขวดเหล้าลงจากตลิ่ง ผมนอนท้าวแขนอยู่บนเสื่อมองเห็นแกมองกลอยที่ขณะนั้นยังเล่นน้ำอยู่คนเดียวด้วยสายตาไม่กระพริบ
พี่อวยเดินมานั่งบนเสื่อข้างผม ขณะที่กลอยเดินขึ้นจากน้ำตรงมา แกจ้องมองภาพเสื้อกล้ามที่เปียกน้ำลู่ราบตามตัวพร้อมเรียวขาอวบขาวไม่วางตา กลอยเดินขึ้นมาดื่มน้ำแล้วนั่งลงขัดสมาธิบนหาดทรายอวดขาขาวให้พี่อวยได้เห็นเต็มตา
"กลอยนี่...มันน่า...นัก"
พี่อวยมองกลอยยิ้มๆ ก่อนเอ่ยปากพูด กลอยหัวเราะถามแกกลับว่า น่าอะไรพี่อวย? แกตอบว่า น่ารักน่ะ กลอยหัวเราะเขินๆ บอกว่า แล้วไป
ด้วยความง่ายๆ พี่อวยก็เลยหันมากินเหล้าเพียวๆ ด้วยกันกับผม เรานั่งคุยนั่งดื่มไปจนมืด แต่บนฟ้ามีเดือนเสี้ยวข้างขึ้นส่องสว่างให้พอมองเห็นได้ชัดเจนอยู่บ้าง
กลอยเล่นน้ำตลอดทั้งบ่าย ก็มีขึ้นมานั่งพักบ้างโดยมีพี่อวยรินเหล้าเพียวๆ ให้ทุกครั้ง ตอนนี้เธอเล่นน้ำอยู่คนเดียวมองเห็นพอรางๆ ผมลุกขึ้นถอดเสื้อแล้วเดินลงน้ำไปหาเธอ
แอลกอฮอล์ไม่ได้ลงท้องเท่านั้น มันยังลงควยผมด้วย ผมนั่งกอดกลอยในน้ำที่สูงเพียงเอว หอมซอกคอเธอเบาๆ ดันควยที่ลุกชันดันเข้าที่ก้นเธอหัวเราะคิกๆ เอื้อมมืออ้อมมาจับ
"เจ้างูเขียวเอ๋ย...ในน้ำก็ยังจะมีฤทธิ์อีกนะ"
"มันอยากมุดถ้ำน่ะ"
ผมกระซิบที่หูกลอย เธอหัวเราะเบาๆ บีบควยผมซะเจ็บ เสียงพี่อวยกระแอมดังลอยมาพร้อมพูดว่าอิจฉาโว้ย กลอยร้องบอกไปว่า ให้มาเล่นน้ำด้วยกัน ผมเห็นแกลุกเดินตรงมาหาเราสองคน แกยืนอยู่ฃายหาดบอกว่า ดูชุดพี่สิชุดนี้เหรอที่จะเล่นน้ำ แกชี้ให้ดูชุดกางเกงยืนส์เสื้อแขนยาว กลอยบอกว่า ก็ถอดออกเลยสิคะ
"งั้นกลอยถอดเป็นเพื่อนพี่ไหมล่ะ?"
พี่อวยมองกลอยยิ้มๆ กลอยหัวเราะตอบว่า แหม...คุณพี่ขา น้องถอดน้องก็โป๊ซิคะ
"เอางี้..." พี่อวยมีข้อเสนอ "ถ้ากลอยถอดเสื้อ เงินในกระเป๋าพี่ทั้งหมด พี่ยกให้กลอย กล้าไหมล่ะ?"
แกดึงกระเป๋าสตางค์ออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วดึงเงินออกมายื่นให้กลอย ผมมองเห็นรางๆ ว่าเป็นเงินฉบับละพันบาทซึ่งน่าจะมีสักหกหรือเจ็ดใบ กลอยหันมาทางผมเหมือนขอความเห็น ผมผลักหลังเธอเบาๆ เสมือนให้ตอบรับ เธอลุกขึ้นจากน้ำเดินไปรับเงินกับพี่อวย เสียงแกร้องว่า มันต้องอย่างงี้ แลัวทั้งสองก็เดินกลับไปที่เสื่อนั่ง พี่อวยรินเหล้าให้กลอยบอกว่า ย้อมใจๆ กลอยยกพรวดแล้วตามด้วยน้ำ พี่อวยยกเหล้าพรวดเหมือนกัน ผมนอนราบกับผืนน้ำมองดูพอเห็นทั้งสองคนรางๆ พี่อวยถอดเสื้อและกางเกงออกเหลือไว้เพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว กลอยถอดเสื้อกล้ามเห็นชั้นในสีขาวนวล เธออิดออดอยู่ครู่หนึ่ง พี่อวยเข้าไปทำทีจะจับตัวได้ยินแกร้องว่า ขี้โกงนี่นา แล้วกลอยก็หัวเราะคิกๆ ทั้งสองคุยกันเบาๆ อยู่ครู่หนึ่ง ผมเห็นกลอยหันหลังให้พี่อวยและแกเอื้อมสองมือไปลูบที่ไหล่กลอยอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเลื่อนมือลงปลดตะขอบรา กลอยถอดบราออกจากตัวแล้วก็วิ่งตื๋อมาลงน้ำจนแตกกระจาย พี่อวยหัวเราะร่าเดินตามหลังมา
พี่อวยลงน้ำมานั่งข้างๆ ผมมองดูกลอยเล่นน้ำอยู่คนเดียว กลอยพยายามก้มตัวให้ระดับน้ำอยู่เสมออกแต่ก็มีเผลอบ้างบางคราวที่ทะลึ่งตัวขี้นพ้นน้ำจนเห็นสองเต้า เธอขยับตัวเข้ามาใกล้ผมกับพี่อวยพร้อมกวักน้ำเข้าใส่เราทั้งสองเหมือนเป็นการเชิญชวนให้เล่นกัน ผมทะยานตัวออกไปหาเธอคว้าหมับกอดร่างนุ่มและขยุ้มเข้าที่สองเต้าขยี้เล่นจนเธอต้องปัดมือผมออก
"พี่อวยขา...ลงมาเล่นน้ำสิคะ นั่งอยู่คนเดียวเหงานะ"
เสียงชวนเชิญซะขนาดนั้น พี่อวยไม่รอให้เรียกซ้ำแกโผร่างลงน้ำเสียงดังตูม กลอยห้วเราะกวักน้ำใส่ พี่อวยก็โต้ตอบแลดูทั้งสองคนสนุกสนานทีเดียว ผมผละจากร่างกลอยเดินขึ้นฝั่งมายกเหล้าพรวดแล้วเดินกลับไปที่ริมน้ำนั่งมองคนทั้งสองเล่นน้ำ
จากตอนแรกที่ทั้งสองจะห่างๆ กันหน่อย พี่อวยก็เริ่มขยับเข้าชิดกลอยมากขึ้นจนผมเห็นแกจับมือกลอยพร้อมกับโอบกอดเธออยู่หลายครั้ง ภาพตรงหน้ามันทำให้ควยผมลุกชัน ครั้งหนึ่ง พี่อวยดำน้ำไปโผล่ด้านหลังกลอยแล้วโอบกอดเธอด้านหลัง สองมือกุมสองเต้าเต็มๆ แล้วก็นั่งนิ่งหันหลังให้ผมโดยมีกลอยนั่งอยู่ข้างหน้าแก ผมไม่เห็นว่าข้างล่างใต้ผิวน้ำทั้งสองคนจะอยู่ในสภาพไหน แค่เห็นภาพตรงหน้าใจผมก็จินตนาการไปไกลลิบแล้ว
สักครู่ กลอยก็โผออกจากอ้อมแขนพี่อวยลอยคอเล่นน้ำต่อไปอีก พี่อวยก็โผกายลอยเคลียคลอกับกลอยไปด้วยเสมือนนกคู่โผผินบินเคล้าคลอกันก็ไม่ปาน ผมลุกเดินควยตุงกางเกงไปหยิบเหล้ามานั่งกินริมหาดมองดูสองคนต่อ
พี่อวยโอบกอดกลอยจากด้านหลังเอาหน้าซุกลงซอกคอพร้อมที่สองมือก็วุ่นอยู่ที่หน้าอก กลอยหัวเราะคิกๆ บอกสยิวหนวดพี่อวยแลัวเธอก็ผลักแกออกแล้ววิ่งลุยน้ำอกกระเพื่อมขึ้นมาหาผม เธอนั่งลงข้างๆ ชันสองเข่าปิดบังสองเต้าแล้วยกน้ำขึ้นดื่มอึกๆ บ่งบอกถึงความกระหาย พี่อวยเดินลุยน้ำเป้ากางเกงตุงๆ ขึ้นมานั่งถัดไปจากกลอย ผมยื่นแก้วเหล้าให้แกยกพรวดแล้วยื่นคืนให้ผมทางด้านหลังกลอย ตอนชักมือกลับผมเห็นมือแกลูบคลำไหล่กลอยไปด้วย
"นานๆ ทีได้เล่นน้ำเป็นเด็กเลย สนุกดี"
"ใช่ๆ สนุกดีค่ะ แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน"
พี่อวยมองหน้ากลอยยิ้มๆ แล้วก็มองต่ำที่สองเต้า กลอยผลักพี่อวยแบบขวยเขินแต่พี่อวยดึงมือเธอไว้ทำให้เธอเสียหลักเอนตัวลงไปในอ้อมกอดจนเธอดิ้นขลุกขลักอยู่ครู่ ผมเห็นพี่อวยก้มลงหอมแก้มเธอด้วยพร้อมมือไม้ก็วนๆ อยู่ที่หน้าอกเธอเช่นกัน ผมมองดูนาฬิกาข้อมือมันบอกเวลาสามทุ่ม ผมจึงบอกว่า เราน่าจะกลับกันได้แล้วแหละกลอยถลาออกจากอ้อมกอดพี่อวยวิ่งลงน้ำไปล้างตัวก่อนจะวิ่งขึ้นฝั่งสวมเสื้อกีฬาโดยไว
เราพากันเก็บของขึ้นบนตลิ่ง ในใจผมหาทางคิดว่ายังไงจะเปิดโอกาสให้พี่อวยกับกลอยอยู่ด้วยกัน แล้วผมก็คิดออก
อะจึ๋ย...ผมจะคิดแผนการยังไง? แล้วจะเสียวแค่ไหน? โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ คิดเห็นประการใดกรุณาคอมเมนต์เป็นกำลังใจด้วย
ขอบคุณครับ
สนุกมากครับ ขอบคุณมากนะครับ{:5_116:} ขอบคุณครับ งานนีัน่าสนุกนะ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากนะครับ
หน้า:
[1]