ป่าต้องห้าม EP1 ป่าต้องห้าม
*** ป่าต้องห้ามเป็นเรื่องแนว ช-ญ และ ช-ญ ให้บรรยากาศไปทางกิจกรรมของผู้ชายด้วยกันให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ***ในตอนที่ 1 ป่าต้องห้าม จะปูถึงเรื่องราวความเป็นมา จะยังไม่มีฉากเสียว มากนัก แต่ถ้าอยากรู้เรื่องราว ให้เริ่มอ่านจาก EP 1 ไปก่อนครับ โดยผมจะลง EP 2 ไว้ต่อให้เลย
EP 1 ป่าต้องห้าม
ในปี 2530เป็นยุคที่ประเทศยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ผู้คนและป่าต่างใช้ชีวิตอย่างพึ่งพาอาศัยกันแม้ว่าอุทยานแห่งชาติจะเป็นผู้เข้ามาดูแลป่าไม้แต่ก็ยังมีป่าอีกมากมายที่ยังไม่มีคนเคยเข้าไป ป่าเหล่านี้ล้วนอุดมไปด้วยทรัพยากรมากมายพืชสมุนไพร ยารักษาโรค ดังเช่น ป่าหลับไหล ป่าแห่งนี้ถูกขนานนามว่า เป็นป่าหลับไหลอยู่กลางหุบเขาภูม่านหมอก อยู่ลึกลงไปใจกลางหุบเขาว่ากันว่ามีว่านอยู่ชนิดหนึ่งที่สามารถปลุกคนให้ตื่นจากการภาวะสมองตายหรือโรคเจ้าชายนิทรานั่นเองถึงแม้ว่าจะมีข่าวลือเกี่ยวกับว่านชนิดนี้แต่ก็ไม่เคยมีใครสามารถไปเอามันออกมาได้เลยยยยก้องภพหนุ่มน้อยวัย 25 ปีลูกชายคนเล็กของครอบครัวนักธุรกิจ เขาอาศัยและเติบโตอยู่กับพ่อผู้เป็นเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง พ่อของเขามีพี่ชายนอกสมรสต่างแม่ อีก 2 คน ชื่อ กฤตและ กันต์ ซึ่งเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า พี่ชายของเขาทั้งคู่ไม่ได้ชอบเขาและคอยจ้องที่จะแย่งมรดกจากเขา ก้องภพเป็นเด็กที่เติบโตมาอย่างดีมีใบหน้าที่หล่อเหลา ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน เหมือนลูกคนรวยปกติเขาคอยช่วยพ่อบริหารบริษัท แม้จะอายุยังน้อยเขาก็มีความสามารถเป็นที่ยอมรับในหมู่ลูกน้อง ในคืนวันนึงที่พ่อของก้องภพกำลังกลับบ้าน ได้ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ โรงพยาบาลโทรแจ้งก้องภพ และ กฤต กันต์แม้ในเวลาที่พ่ออาการสาหัส แต่กฤตกับกันต์ ไม่แม้แต่จะมาที่โรงพยาบาลมีเพียงก้องภพที่ยืนร้องให้อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง จนเกือบตี 4 หมอแจ้งก้องภพว่า “ญาติคุณ กิตติพัฒน์ ใช่ไหมครับขณะนี้คนไข้ปลอดภัยแล้ว แต่ว่า” ก้องทำหน้าช๊อค และพยายามเซ้าซี้ให้หมอพูด“แต่อะไรครับ หมอ พ่อผมจะหายดีไหม หมอครับรีบพูดมาเร็ว” หมอได้แต่ส่ายหัวแล้วตอบว่า“พ่อคุณอาจจะเป็นเจ้าชายนิทราอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย” ก้องถึงกับต้องเข่าทรุดลงกับพื้นน้ำตาเขาไหลพราก ที่พ่อเขาจะไม่ตื่นมาเจอเขาอีกแล้ว หลังจากวันนั้นมีการประชุมบริษัทเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้บริหารคนใหม่พ่อผู้เป็นประธานคนเดิมได้นอนหลับโดยใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ที่โรงพยาบาลตามปกติทุกคนในบริษัทรู้ว่าผู้สืบทอดที่พ่อจะมอบให้ก็ต้องเป็นก้องภพ แน่นอน แต่เกิดการฟ้องร้องด้วย กฤต และ กันต์จึงทำให้ก้องภพไม่สามารถที่จะรับตำแหน่งได้ ทางบริษัทตัดสินใจให้ น้าของก้องภพ น้ากานดา น้องสาวของพ่อ รักษาการไปก่อนแต่น้ากานดาไม่ได้อยากที่จะรับตำแหน่งเท่าไหร่เนื่องจากมีธุรกิจเป็นของตัวเองอยู่แล้วกานดามีลูกชายหนึ่งคน ซึ่งเป็นเด็กที่รุ่นราวคราวเดียวกับก้องเขตเรียกได้ว่าโตมากับก้องเลยทีเดียวแต่ว่ามีอายุน้อยกว่าก้อง 1 ปีเขตมักจะเป็นที่ปรึกษาให้ก้องเสมอเปรียบเสมือนพี่น้องร่วมสายเลือดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากช่วงนี้ก้องต้องเจออะไรหนักๆเขตจึงคอยที่จะให้การช่วยเหลือ เขตเป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก ชอบงานวิชาการจึงทำให้เขาจบด้านพืชศาสตร์ สาขา พืชโบราณ จาก อเมริกาเขตพยายามศึกษาหาพืชโบราณและหายากอยู่เสมอ ทำให้ช่วงหลังๆ เขตห่างหายกับก้องในที่สุดเขตเหมือนจะเป็นความหวังเดียวของก้องเขต “พี่ก้อง ผมไปอ่านเจอเรื่องเล่าเรื่องนึงว่ากันว่ามีว่านชนิดนึงที่ทำให้คนฟื้นจากอาการเหมือนพ่อพี่ได้ มันชื่อว่านหลับไหลว่ากันว่าอยู่ใจกลางของป่าหลับใหลที่ ภูม่านหมอก” ก้องได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจมากและวางแผนที่จะเดินทางกับเขตไปที่ภูม่านหมอก เมื่อถึงวันเดินทาง กฤตกับกันต์ที่ได้ความลับนี้มาจาก คนสวนคนนึงในบ้านก้อง ก็ได้มาที่บ้านก้องและบอกว่าพวกเขาจะไปด้วย ในเมื่อเป็นทางที่จะช่วยพ่อ “พวกกูจะไปด้วย กูไม่ยอมให้มึงได้หน้าไปคนเดียวหรอกนะไอ้ก้อง” ก้องไม่เชื่อว่าพวกเขาทำเพราะเป็นห่วงพ่อแต่แผนของพวกเขาสองคนคืออะไรกันแน่ ก้องได้ เตรียมตัวเดินทางโดยพวกเขาแยกกันเป็น2กลุ่ม ซึ่งมี ก้อง เขต )แพรว และ อัต เป็นนักวิจัยเพื่อนของเขตและเอื้อ ลูกชายของลุงอ่ำ ที่เป็นคนขับรถของคุณพ่อก้อง ซึ่งลุงอ่ำย้ำนักหนากับเอื้อว่าให้ปกป้องก้อง ให้ปลอดภัยส่วนอีกกลุ่มหนึ่งมีกฤต กันต์ หวาน(แฟนกฤต ซึ่งขอไปด้วย และ บัวคนใช้ของหวาน และลูกน้องของกันต์และกฤตอีก 3-4 คน ออกเดินทางไปที่ภูม่านหมอก เมื่อไปถึงก้องได้เข้าไปที่เจ้าหน้าที่อุทยานโดยให้เหตุผลว่าเป็นนักวิจัยจะเข้าไปวิจัยพืชโบราณแต่เจ้าหน้าที่อุทยานได้ฟังดังนั้น “พวกคุณจะเข้าไปจริงๆหรอป่านี้ไม่มีใครเข้าไปมานานมาก แม้แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่กล้ามีใครเข้าไปเลยเป็นป่าหลับใหล ที่อันตราย พวกผมคงไม่สามารถให้คุณเข้าไปได้” ก้องเริ่มถอดใจ แค่มาถึงก็เจออุปสรรคแล้วเขาเดินหน้าละห้อยและได้ขับรถมาจอดที่ร้านค้าแถวๆ อุทยาน เป็นร้านค้าเล็กๆที่ขายอาหารตามสั่ง แล้วซุ้มยาดองด้วย ก้องนั่งคุยกับเขตว่าจะเอายังไงกันดีแผนที่วางมาพังไม่เป็นท่า และทันใดมีคุณลุงที่นั่งก๊งเหล้าอยู่ก็พูดขึ้นมา “ป่าหลับไหลหรอ ไม่มีใครเข้าไปหรอกคนที่นี่ไม่มีใครเคยเข้าไป แต่ว่า ลองขับรถเข้าไปอีกนิดหมู่บ้านสุดปลายถนนเส้นนี้มีหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ตีนภูเขา ลองไปถามดู” ก้องและเขตไม่รอช้ารีบออกรถตรงไปหมู่บ้านนั้นทันทีแม้ว่าจะอยู่ลึกไปสุดถนน แต่ทางเข้าหมู่บ้านก็ยังเป็นถนนคอนกรีต เล็กๆที่วิ่งได้เลนเดียวรอบๆ เต็มไปด้วยทุ่งนา แม้ว่าจะอยู่ตีนเขา แต่ที่นี่ก็เป็นที่ราบสวยงาม มีลำธารแม่น้ำ และนาข้าว พวกก้องขับรถเข้าไป มีชาวบ้านที่ทำนาอยู่สองข้างทางหันมามองคงเป็นเพราะไม่เคยเห็นคนนอกพื้นที่เข้ามาละมั้ง ก้องจอดถามชาวบ้านแถวนั้นจนเขาแนะนำให้ไปที่บ้านผู้ใหญ่ดำซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านที่นี่ ก็เช่นเคยก้องเล่าเรื่องการเข้าไปป่าหลับใหลให้ผู้ใหญ่ดำฟัง แกทำได้แต่ส่ายหัว “พ่อหนุ่มเอ้ย ป่านั่นไม่มีใครเข้าไปหรอก ” ก้องพยายามเร้าหรือ และขอร้องผู้ใหญ่ดำอย่างสุดความสามาถจนผู้ใหญ่ดำต้องใจอ่อน“อะๆ มีอยู่คนนึงแต่ข้าไม่มั่นใจว่ามันจะยอมช่วยเอ็งไหม ท้ายหมู่บ้านมีบ้านหลังหนึ่งมันชื่อไอ่เสือ เป็นพรานป่า เป็นคนที่เคยเข้าไปที่ป่านั้นอยู่บ่อยครั้งในหมู่บ้านนี้คนที่เคยเข้าป่านั้นแล้วยังรอดออกมาได้ก็มีแต่มัน” ไม่ทันขาดคำ มีชายหนุ่มร่างกำยำ ผิวเข้มหน้าตาหล่อเหลาเข้มๆแบบไทยๆ หน้าตาละม้าย คล้ายกัน สองคน แบกข้าวสารสองกระสอบเดินเข้ามาที่บ้านผู้ใหญ่“ผู้ใหญ่จ๊ะนี่เป็นข้าวที่พ่อยืมไปครั้งก่อน พอดีปีนี้ที่บ้านฉันเกี่ยวข้าวเร็วเลยได้ข้าวมาคืนผู้ใหญ่เร็ว” ผู้ใหญ่ดำบอกให้เอาข้าววางตรงนั้นแหละ“นี่ไงลูกชายไอ่เสือ ไอ่แสนกับไอ่สนมาพอดีช่วยพาคนพวกนี้ไปเจอพ่อเอ็งหน่อยสิ” ทั้งสองฝ่ายได้แต่จ้องหน้ากันโดยไม่ได้พูดอะไร…………………………….
เรื่องยาววว ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุนนะ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ติดตามครับ น่าสนุก ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับผม น่าติดตามครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับสำหรับผลงาน