นิสิตแพทย์ใช้ทุน 5
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Porschekub เมื่อ 2024-7-4 23:39วันศุกร์นั้นผมอยู่เวรจนถึงเย็น ขณะที่กำลังจะกลับบ้าน จู่ๆ ก็มีพยาบาลวิ่งมาบอกว่ายายเป้ามาหา
"คุณหมอคะ ยายเป้ามารอพบค่ะ บอกว่ามีเรื่องด่วน"
ผมรู้สึกใจเต้นแรง นึกถึงเหตุการณ์ครั้งก่อน แต่ก็ต้องทำหน้าที่ "ได้ครับ ผมจะไปดูเอง"
ผมเดินไปที่ห้องตรวจ เห็นยายเป้านั่งรออยู่ พร้อมกับถุงกระดาษใบหนึ่ง
"สวัสดีจ้ะหมอ" ยายทักทายด้วยรอยยิ้มกว้าง "ยายเอากาแฟมาฝากหมอด้วยนะจ๊ะ"
ผมรู้สึกอึดอัด แต่ก็ต้องรักษามารยาท "ขอบคุณครับยาย แต่ไม่ต้องลำบากแบบนี้ก็ได้นะครับ"
"ไม่ลำบากหรอกจ้ะ" ยายเป้าตอบพลางส่งถุงกาแฟให้ "หมอดูแลยายดีมาก ยายอยากตอบแทนบ้าง"
ผมรับถุงกาแฟมาอย่างเกรงๆ "ขอบคุณครับ แล้วยายมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ?"
ยายเป้ายิ้มเจ้าเล่ห์ "จริงๆ แล้ว ยายแค่อยากมาหาหมอน่ะจ้ะ คิดถึง"
ผมรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว พยายามรักษาความเป็นมืออาชีพ "ยายครับ เราไม่ควร..."
แต่ยายเป้าไม่ฟัง เธอลุกขึ้นเดินมาใกล้ผม "หมอจ๋า ยายคิดถึงหมอมากเลยนะ ทำไมไม่มาหายายบ้างล่ะจ๊ะ?"
ผมถอยหลังจนชนโต๊ะ "ยายครับ เราไม่ควรทำแบบนี้..."
ยายเป้าไม่สนใจ เธอเอื้อมมือมาแตะแขนผม "ทำไมล่ะจ๊ะ? หมอไม่คิดถึงยายเหรอ?"
ผมกำลังจะปฏิเสธ แต่จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์จากพี่พยาบาลโทรมา
"หมอต้นคะ มีเคสฉุกเฉินค่ะ"
ผมรู้สึกโล่งอก "ครับ ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้"
แต่ยายเป้ากลับคว้าแขนผมไว้ "อย่าเพิ่งไปสิจ๊ะหมอ ยายอยากคุยกับหมอ"
ผมพยายามสะบัดมือออก "ขอโทษนะครับยาย ผมต้องไปดูคนไข้ก่อน"
ยายเป้าทำหน้าผิดหวัง แต่ก็ปล่อยมือ "งั้นเดี๋ยวยายรอหมอที่ห้องน้ำคนพิการนะจ๊ะ อยากคุยกับหมอแบบส่วนตัว อย่าตุกติกนะ ไม่งั้นยายจะบอกพยาบาลว่าเกิดอะไรขึ้นวันนั้น"
ผมรู้สึกอึดอัด แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธตรงๆ "เอ่อ... ผมจะพยายามมาเร็วที่สุดครับ"
ผมรีบออกจากห้องไปดูคนไข้ฉุกเฉิน พยายามทำงานอย่างมืออาชีพ แต่ในใจก็คิดถึงยายเป้าที่รออยู่ในห้องน้ำคนพิการ ผมรู้ว่าไม่ควรไป แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่ายายจะพูดอะไร
หลังจากดูแลคนไข้เสร็จ ผมยืนลังเลอยู่หน้าห้องน้ำ ส่วนหนึ่งบอกให้กลับบ้าน แต่อีกส่วนกลับอยากเข้าไปคุยกับยาย เพราะผมไม่รู้ว่าแกจะมาไม้ไหน ถ้าเผื่อแกบอกพยาบาลเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นล่ะ ชีวิตที่ผมสร้างมาคงพังทลาย … ผมก็รู้สึกว่าไม่สามารถทิ้งเรื่องนี้ไว้เบื้องหลังได้ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและความรู้สึกที่ผมต้องเผชิญหน้า ผมสูดหายใจลึกๆ แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปหายายเป้า
"แค่คุยกันเฉยๆ คงไม่เป็นไรหรอก" ผมบอกตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป
ผมเปิดประตูเข้าไปอย่างระมัดระวัง ก่อนกวาดตาไปเห็นภาพที่ทำให้ผมชะงัก ยายเป้านั่งยองๆ อยู่บนชักโครก ทำหน้ายั่วยวนเมื่อเห็นผมเดินเข้ามา
"หมอจ๋า ในที่สุดก็มาจนได้" ยายพูดพลางยิ้มกว้าง มือหนึ่งลูบไล้ขาของตัวเอง
ผมรู้สึกหายใจติดขัด พยายามควบคุมสติ "ยายครับ เราคุยกันตรงนี้ไม่ดีนะครับ ยายไม่กลัวคนมาเห็นหรอ?"
ยายเป้าหัวเราะเบาๆ "ไม่ต้องห่วงจ้ะ ไม่มีใครรู้หรอก ยายล็อคประตูแล้ว"
ผมถอยหลังจนชนประตู ความรู้สึกขยะแขยงและตื่นเต้นปะปนกัน "ยายครับ เราไม่ควรทำแบบนี้..."
แต่ยายเป้าไม่สนใจ เธอลุกขึ้นจากชักโครกและเข้ามาใกล้จนผมได้กลิ่นน้ำหอมฉุนๆ
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ไม่มีใครรู้หรอก" ยายกระซิบ
ผมพยายามรักษาความเป็นมืออาชีพ แต่ความรู้สึกหวาดกลัวและตื่นเต้นทำให้ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
"ยายครับ เราไม่ควรทำแบบนี้..." ผมพยายามพูด แต่เสียงกลับสั่นเครือ
ยายเป้าไม่ฟัง เธอเอื้อมมือมาลูบแก้มผม "หมอจ๋า ยายคิดถึงหมอมากเลยนะ ทำไมไม่มาหายายบ้างล่ะ?"
ผมสะดุ้งเล็กน้อย รู้สึกทั้งขยะแขยงและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน "ยายครับ ผม... ผมมีแฟนแล้วนะครับ"
ยายเป้ายิ้มเจ้าเล่ห์ "ยายรู้จ้ะ แต่แฟนหมอคงไม่เข้าใจหมอเท่ายายหรอก"
ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พยายามหาทางออก "ยายครับ เราไม่ควร..."
แต่ยายเป้าไม่ปล่อยให้ผมพูดจบ แกรีบล็อคประตู
"ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ" ยายกระซิบ "ยายจะทำให้หมอมีความสุข"
ผมรู้สึกเหมือนติดกับดัก หัวใจเต้นรัวด้วยความกลัวและตื่นเต้น "ยายครับ อย่าทำแบบนี้เลยนะครับ"
แต่ยายเป้าไม่ฟัง เธอเริ่มปลดกระดุมเสื้อกาวน์ของผมทีละเม็ด "หมอจ๋า ยายอยากเห็นตัวหมอจัง"
ผมพยายามขัดขืน แต่ร่างกายกลับไม่ทำตามใจ ความรู้สึกผิดและความต้องการต่อสู้กันในใจ
"ยาย... เราไม่ควร..." ผมพยายามพูด แต่เสียงกลับสั่นเครือ
ยายเป้ายิ้มกว้าง "ไม่เป็นไรจ้ะ ยายรู้ว่าหมอก็ต้องการ"
ผมหลับตาลง พยายามนึกถึงใบหน้าของน้องน้ำ แต่ภาพของยายเป้ากลับแทรกเข้ามา
"หมอจ๋า...ยายไม่ถอดเสื้อผ้าหมอก้ได้" ยายเป้ากระซิบ "อต่ยายอยากให้หมอทำอะไรให้ยายหน่อย"
ผมลืมตาขึ้นมองยาย รู้สึกทั้งกลัวและอยากรู้ "อะไรครับ?"
ยายเป้ายิ้มเจ้าเล่ห์ "ยายอยากให้หมอใช้ลิ้นช่วยยายหน่อย"
ผมตกใจ "ยายครับ ผม... ผมทำไม่ได้..."
แต่ยายเป้าไม่ฟัง เธอจับมือผมให้สัมผัสร่างกายของเธอ "หมอจ๋า ทำให้ยายหน่อยนะ ไม่งั้นยายจะบอกทุกคนว่าหมอลวนลามยาย"
ผมรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหมุนวน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี...
"ทำไมล่ะจ๊ะ? ยายพูดความจริงนะ" ยายเป้าพูดพลางลูบไล้ไปตามกางเกงสแล็คของผม ทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย "ดูสิ หมอเองก็มีความต้องการเหมือนกันนี่นา"
ผมพยายามจะถอยห่าง แต่ยายเป้ากลับดึงผมเข้าไปใกล้ "ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ หมอ... ยายจะทำให้หมอมีความสุขเอง"
ผมรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหมุนวน ความรู้สึกผิดและความต้องการต่อสู้กันอย่างดุเดือดในใจ มือของยายที่ลูบไล้กางเกงสแล็คของผมทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะรู้สึกขยะแขยงแต่ผมก็ไม่สามารถห้ามตัวเองได้
"ยาย... เราไม่ควรทำแบบนี้..." ผมพยายามพูด แต่เสียงกลับสั่นเครือ
"ไม่เป็นไรจ้ะ หมอ" ยายเป้าพูดพลางยิ้ม "แค่รู้สึก... และปล่อยให้มันเป็นไป"
ขณะที่ผมพยายามสลัดความคิดทั้งหมดออกไป ยายเป้ากลับเริ่มใช้มือลูบไล้ที่กางเกงสแล็คของผมอย่างนุ่มนวล การสัมผัสนั้นทำให้ผมรู้สึกสับสนและตื่นเต้นมากขึ้น
"หมอจ๋า... ยายรู้ว่าหมอก็ต้องการเหมือนกัน" ยายกระซิบข้างหูผม กลิ่นน้ำหอมฉุนๆ ของยายทำให้ผมรู้สึกเวียนหัว "ปล่อยตัวให้สบายเถอะจ้ะ"
ผมเงียบแต่ยายบอกว่าถ้าไม่งั้นจะตะโกนบอกว่ามีคนลวนลามในห้องน้ำคนพิการ ยายขู่เสียงดัง น้ำเสียงของยายเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่จะทำตามที่ยายพูดจริงๆ ผมรู้สึกเหมือนถูกกดดันอย่างหนัก ไม่สามารถหาทางออกจากสถานการณ์นี้ได้
"ยายไม่คิดจะทำจริงหรอกใช่มั้ย?" ผมถามด้วยเสียงแหบแห้ง แต่สายตาของยายก็ทำให้ผมรู้ทันทีว่ายายไม่ล้อเล่น
"หมอฟังนะ ถ้าหมอไม่ทำตามที่ยายต้องการ ยายจะตะโกนให้คนมาช่วย แล้วจะบอกว่าหมอลวนลามยายในห้องน้ำคนพิการ" ยายยืนยัน
ผมรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในกรงกับดัก ไม่สามารถหนีไปไหนได้ ความตื่นเต้นและความกลัวผสมปนเปกันในใจผม ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป แต่รู้เพียงว่าผมต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดสถานการณ์นี้
ด้วยความกลัวและสับสน ผมค่อยๆ คุกเข่าลงตรงหน้ายายเป้า มือสั่นเทาขณะที่เลิกกระโปรงเก่าขาดของยายขึ้น ภายในใจผมรู้สึกขยะแขยงอย่างยิ่ง แต่ความกลัวที่จะถูกยายเป้าขู่ทำให้ผมต้องทำตาม
ยายเป้ายิ้มอย่างพอใจแล้วค่อยๆ ถอดกางเกงในของเธอออก เผยให้เห็นผิวที่เหี่ยวและแห้ง ขนสีขาวที่หนาแน่นปกคลุมอยู่ทำให้ผมรู้สึกสะอิดสะเอียน กลิ่นเหม็นคลุ้งเหมือนปลาสลิดลอยมาแตะจมูก ผมแทบจะอาเจียน แต่ความกลัวและความกดดันทำให้ผมต้องข่มใจหลับตาแน่น พยายามทำใจให้สงบ
"เก่งมากจ้ะหมอ" ยายเป้าพูดพลางลูบผม "ยายรู้ว่าหมอทำได้"
ผมค่อยๆ ใช้ลิ้นสัมผัสจุดอ่อนไหวของยาย ความรู้สึกขยะแขยงทำให้ผมแทบจะหยุดหายใจ แต่ผมรู้ว่าต้องทำตามที่ยายต้องการ กลิ่นที่เหม็นคลุ้งและผิวที่หยาบกร้านทำให้ผมรู้สึกเหมือนอยู่ในฝันร้าย
"อ๊ะ... เก่งจังเลยจ้ะหมอ" ยายครางเบาๆ "ทำแบบนี้แหละ หน้าแบบนี้มันยั่วใจจริงๆ เห็นหน้าเธอแล้วเงี่ยนเลยจ้ะ"
แม้จะรู้สึกขยะแขยง แต่ผมก็อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ ความรู้สึกผิดและความต้องการเริ่มปะปนกันจนแยกไม่ออก ยายเป้าลูบไล้มือไปตามใบหน้าของผม สัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความปรารถนา
"หน้าหมอนี่มันช่างหล่อจริงๆ จมูกโด่ง ตาคมแบบนี้ ยายเห็นแล้วใจสั่นเลย" ยายเป้าพูดพร้อมกับใช้ปลายนิ้วลูบไล้ไปตามทั้งจมูกและริมฝีปากของผม
ผมพยายามจะควบคุมตัวเอง แต่สัมผัสของเธอทำให้ผมรู้สึกสับสนและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกนี้ทำให้ผมค่อยๆ หมดความสามารถในการแยกแยะระหว่างสิ่งที่ถูกและสิ่งที่ผิด
"หมอรู้ไหม ยายชอบหน้าแบบหมอที่สุดเลย มันทำให้ยายรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นสาวอีกครั้ง" ยายเป้าทำเสียงกระเส่า เสียงของเธอเต็มไปด้วยความต้องการ
ทุกคำพูดและทุกสัมผัสของยายเป้าทำให้ผมยิ่งรู้สึกสับสนมากขึ้น ความรู้สึกขยะแขยงและตื่นเต้นปะปนกันจนผมไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนคือความจริง
ยายเป้าเริ่มหายใจถี่ขึ้น มือจิกผมผมแน่นขึ้น "หมอจ๋า... ยายใกล้แล้ว..."
ผมรู้สึกได้ถึงความสับสนและความกลัวที่เพิ่มขึ้นในใจ แต่ความกดดันจากคำขู่ของยายเป้าทำให้ผมต้องทำตาม ผมเร่งจังหวะของลิ้นขึ้นแม้ในใจจะรู้สึกขยะแขยงอย่างยิ่ง มือของผมจับขาของยายเพื่อประคองตัวให้มั่นคง
การกระทำที่ผมทำไปนั้นไม่ได้เกิดจากความเต็มใจ แต่เกิดจากความกลัวและความสิ้นหวัง ผมรู้สึกอับอายและทุเรศใจที่ต้องทำเช่นนี้ แต่ก็ไม่สามารถหาทางออกจากสถานการณ์ได้ ร่างกายของยายที่สั่นสะท้านทำให้ผมรู้สึกถึงความเป็นจริงที่น่าอับอาย ความรู้สึกผิดและความสับสนยิ่งท่วมท้นในใจ แต่ผมรู้ว่าผมต้องทำสิ่งนี้เพื่อให้ทุกอย่างจบลงโดยเร็วที่สุด
ผมตัดสินใจเร่งจังหวะรัวลิ้นให้เร็วขึ้น สัมผัสกับผิวที่เหี่ยวและหยาบของยายเป้า ลิ้นของผมกระตุ้นจุดอ่อนไหวภายในของเธอ ความรู้สึกขยะแขยงยังคงอยู่ แต่ผมต้องทำตามที่ยายเป้าต้องการเพื่อให้ทุกอย่างจบลง
"อ๊าาาา..." ยายเป้าครางเสียงดัง ร่างกายของเธอเกร็งกระตุกอย่างแรง
ผมยังคงเร่งจังหวะลิ้นไม่หยุด พยายามทำให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด ความรู้สึกของลิ้นที่สัมผัสกับผิวหนังที่หยาบกร้านและชื้นทำให้ผมแทบจะหยุดหายใจ แต่ความกลัวที่จะถูกยายขู่ทำให้ผมต้องข่มใจทำต่อไป
"อ๊ะ... เก่งจังเลยจ้ะหมอ" ยายเป้าครางเบาๆ "ทำแบบนี้แหละ"
การกระทำที่เต็มไปด้วยความขยะแขยงและความรู้สึกผิดทำให้ผมแทบจะหมดสติ แต่ผมยังคงทำตามที่ยายต้องการจนในที่สุด...
"อ๊าาาา..." ยายเป้าครางเสียงดังอีกครั้ง ร่างกายเกร็งกระตุก ของเหลวจากภายในของเธอพุ่งออกมาเปื้อนใบหน้าของผมอย่างจัง
ผมหลับตาแน่น รู้สึกถึงความเหนอะหนะและกลิ่นเหม็นที่ยิ่งทำให้ผมรู้สึกสะอิดสะเอียน แต่ผมไม่สามารถหยุดได้ ความกลัวและความกดดันทำให้ผมต้องข่มใจทำต่อไป
"หน้าหล่อๆ เปื้อนหมดเลยจ้ะหมอ" ยายเป้าพูดพร้อมกับหัวเราะเล็กน้อย "หล่อจริงๆ นะ เห็นแล้วใจสั่น"
มือของยายเป้าจิกผมผมแน่นก่อนจะดึงให้ผมเงยหน้าขึ้น ผมพยายามจะหลีกเลี่ยงแต่ก็ไม่สามารถหนีได้ ยายเป้ากดใบหน้าผมกลับไปที่บริเวณอวัยวะเพศของเธอ ขยี้จมูกผมกับผิวหนังที่หยาบกร้านและชื้นเหนอะ
"อ๊ะ... แบบนี้แหละจ้ะหมอ ยายชอบ" ยายเป้ากระซิบพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ ผมรู้สึกถึงความทุเรศและอับอายที่ท่วมท้นในใจ แต่ไม่สามารถขัดขืนได้
"หมอทำดีมากจ้ะ ยายพอใจมาก" ยายเป้าพูดพลางลูบผมผมอย่างอ่อนโยน แต่การกระทำนั้นกลับเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
ทุกสัมผัสและทุกคำพูดของยายเป้าทำให้ผมรู้สึกสับสนและสับสนมากขึ้น ความรู้สึกขยะแขยงและตื่นเต้นปะปนกันจนผมไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนคือความจริง ผมพยายามข่มความรู้สึกและทำตามที่ยายต้องการเพียงเพื่อให้ทุกอย่างจบลงโดยเร็วที่สุด
หลังจากทุกอย่างจบลง ผมค่อยๆ ถอนตัวออกจากยายเป้าและพยายามยืนขึ้น แม้จะรู้สึกอับอายและขยะแขยง แต่สิ่งที่ผมต้องทำต่อไปคือหนีออกจากสถานการณ์ที่น่าอับอายนี้ให้เร็วที่สุด
ขณะที่ผมยืนขึ้น ผมรู้สึกได้ถึงความแข็งขึงของเป้าที่ตุงออกมาอย่างชัดเจน ยายเป้าสังเกตเห็นและเริ่มหัวเราะเบาๆ พร้อมกับล้อเลียน
"อุ๊ย หมอจ๋า ดูสิ เป้าตุงเชียวนะ ยังไงก็ยังมีอารมณ์อยู่เหรอ?" ยายเป้าพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม "หมอคงจะสนุกไม่น้อยนะจ๊ะ"
ผมรู้สึกอายจนแทบอยากจมดิน พยายามจะรีบออกจากห้องน้ำให้เร็วที่สุด แต่แล้วความกลัวที่จะถูกยายเป้าตะโกนทำให้ผมหยุดนิ่ง
"ยายครับ ผม...ผมจะขอออกไปแล้วนะครับ" ผมพูดเสียงสั่น รู้สึกใจเต้นรัวด้วยความกลัวและความอับอาย
ยายเป้ามองมาที่ผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์และยิ้มกว้าง "ไปสิจ๊ะหมอ ยายจะไม่บอกใครหรอก แต่อย่าลืมกลับมาหายายบ้างนะ"
ผมพยักหน้ารับ พลางรีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเปิดประตูออกไป หัวใจเต้นรัวด้วยความกลัวและความอับอาย ขณะที่ผมวิ่งออกมาจากห้องน้ำ ผมลืมไปว่ามีน้ำของยายเป้าเปื้อนเต็มหน้า
ผมรีบวิ่งไปตามทางเดินของโรงพยาบาล โดยไม่ได้หันกลับมามองยายเป้าแม้แต่นิดเดียว ความรู้สึกผิดและความสับสนยังคงท่วมท้นในใจ แต่สิ่งที่ผมรู้ชัดเจนคือผมต้องหาที่สงบใจเพื่อรวบรวมสติและคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ทุกครั้งที่มีคนมองมาที่ผม ผมรู้สึกเหมือนพวกเขารู้ความลับของผม ความกลัวและความอับอายทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังหลบหนีจากเงามืดของตัวเอง ผมต้องหาทางออกจากสถานการณ์นี้ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน...
ขณะที่ผมวิ่งไปสักพัก ก็เจอพี่พยาบาลแจ๋นที่กำลังเคี้ยวลูกชิ้นทอดแจ๊บๆ อยู่ข้างทาง เธอมองมาที่ผมด้วยสายตาแปลกใจและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่เต็มไปด้วยความสงสัย
"น้องหมอต้น ไปทำอะไรมาจ๊ะ? ทำไมหน้าถึงเปื้อนแบบนั้นล่ะ?" เธอถามขณะที่ยังเคี้ยวลูกชิ้นอยู่ในปาก มืออีกข้างหนึ่งวางอยู่บนพุงที่เด่นชัดออกมา
ผมพยายามก้มหน้าไม่ให้เธอสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น "ไม่มีอะไรครับพี่" ผมตอบเสียงสั่น พยายามปกปิดความอายและความรู้สึกผิดที่เต็มอยู่ในใจ
แต่พี่พยาบาลแจ๋นยังไม่ละความสงสัย "แล้วสุดหล่อของพี่ วิ่งไปหาสาวๆ หมอตึกข้างๆ จนเหงื่อซกเลยปะจ๊ะ?" เธอแซวพลางหัวเราะเบาๆ หน้าท้องของเธอสั่นไปตามจังหวะหัวเราะ
ผมรู้สึกใจเต้นรัวด้วยความกลัวและอับอาย รีบก้มหน้ามากขึ้นและเดินต่อไปโดยไม่หันกลับไปตอบพี่พยาบาลแจ๋น ผมต้องหนีออกจากสถานการณ์นี้ให้เร็วที่สุด
ผมเดินไปจนถึงห้องพักแพทย์ รีบเปิดประตูเข้าไปและปิดประตูล็อคทันที หายใจหอบด้วยความตื่นเต้นและกลัว ส่องกระจกและเห็นใบหน้าที่เปื้อนน้ำของยายเป้าเต็มไปหมด ผมรีบล้างหน้าและพยายามเช็ดคราบน้ำออก ความรู้สึกผิดและสับสนยังคงท่วมท้นในใจ แต่สิ่งที่ผมรู้แน่นอนคือผมต้องหาทางออกจากสถานการณ์นี้โดยเร็วที่สุด
"เราจะทำยังไงดี..." ผมพึมพำกับตัวเองในกระจก ความกลัวและความสับสนทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังหลบหนีจากเงามืดของตัวเอง ผมต้องหาทางออกจากสถานการณ์นี้ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน...
ผมตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจองเครื่องบินไปกรุงเทพฯ เพื่อไปหาน้องน้ำวันพรุ่งนี้ ผมต้องการพิสูจน์ตัวเองว่ายังรักเธออยู่หรือไม่ หลังจากจองตั๋วเสร็จ ผมหายใจลึกๆ แล้วโทรหาน้องน้ำ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นไม่กี่ครั้งก่อนที่น้องน้ำจะรับสาย "สวัสดีค่ะ พี่ต้น"
"สวัสดีครับน้องน้ำ" ผมตอบกลับด้วยเสียงที่พยายามให้มั่นคง แต่ก็ยังมีความประหม่าในน้ำเสียง "พี่จองตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพฯ พรุ่งนี้แล้วนะครับ พี่อยากเจอน้อง"
น้องน้ำเงียบไปสักครู่ก่อนจะตอบกลับ "พี่ต้นมีอะไรรึเปล่าคะ? ฟังดูเหมือนพี่ไม่ค่อยสบายใจเลย"
"ไม่เป็นไรครับน้องน้ำ" ผมพยายามตอบด้วยเสียงที่อ่อนโยน "พี่แค่อยากเจอน้อง คิดถึงน้องมาก"
"พี่ต้นพูดแบบนี้ น้ำก็คิดถึงพี่เหมือนกันค่ะ พี่มาถึงเมื่อไหร่คะ? น้ำจะไปรับ"
"พี่มาถึงช่วงสายๆ ครับ น้องไม่ต้องไปรับพี่ก็ได้นะ พี่ไปหาเอง" ผมตอบ
"ไม่ค่ะ น้ำจะไปรับพี่ต้นเอง น้ำอยากเจอพี่เหมือนกัน" เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังดี
"ขอบคุณนะครับน้องน้ำ พี่ดีใจมากที่ได้ยินแบบนี้" ผมพูดด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น "งั้นพรุ่งนี้เจอกันครับ"
"ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะพี่ต้น" น้องน้ำตอบก่อนวางสาย
ผมวางโทรศัพท์ลง หัวใจที่เต้นรัวด้วยความกังวลเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย ผมหวังว่าการได้เจอน้องน้ำจะช่วยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นและพิสูจน์ให้เห็นว่าผมยังรักเธออยู่
(จบตอนที่ 5)
สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับยอมรับแต่งได้สนุกและหน้าติดตามมากเลยรอตอน6อยู่น่ะครับ🙏 งื้อตื่นเต้นน ยายยังท๊อปฟอร์มมากเหมือนเดิมงื้ออ ข อ บ คุ ณ ค รั บ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณค้าบบ ยายสุดยอดอ่ะ แล้งทำไมยายปล่อยหมอให้ค้างอ่ะ ขอบคุณที่มาต่อให้นะครับบบบ ฟินนนน{:5_120:} ปกติผมจะไม่ติดสินรสนิยมความชอบของคนในเว็บนี้เลยนะครับ แต่ผมอยากจะบอกว่า ผมไม่ชอบ 3ep แรกเลยครับ
เรื่องรสนิยมที่ชอบคนแก่ หรือ ชอบโชว์ อันนี้ไม่ใช่ปัญหา แต่ไม่ชอบการคุกคามโดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอม หรือจะเรียกว่า ข่มขืน ก็ได้ เข้าใจครับว่าเป็นแค่เรื่องแต่ง แต่ก็ไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้อยู่ดีครับ อ่านแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต้องขอโทษจริงๆครับ:({:1_1:}
pongsakornknes ตอบกลับเมื่อ 2024-7-5 21:00
ปกติผมจะไม่ติดสินรสนิยมความชอบของคนในเว็บนี้เลยนะค ...
ขอทักข้อความไปนะครับ Porschekub ตอบกลับเมื่อ 2024-7-5 22:45
ขอทักข้อความไปนะครับ
ครับผม ขอบคุณ ขอบคุณครับ สนุกมากครับ{:5_144:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2