ข้ามเวลาเพื่อมารักนาย ตอนที่ 1
"เอาหละครับ นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 5 ทุกคน เดี๋ยวสัปดาห์หน้าเราจะไปทัศนศึกษาที่อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา ผมก็ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมในการไปครั้งนี้ เราจะ
ไปศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การรบการออกศึกตั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน ขอให้ทุกคนตั้งใจ
เก็บข้อมูลและมาจัดทำรายงานส่งด้วยนะครับ"
เมื่อสิ้นเสียงสั่งงานของผู้กองวาโย นศท.ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปฝึกตามตารางฝึก บ่ายนี้
มีการฝึกการใช้อาวุธปืนประเภทต่างๆ ซึ่งทุกคนต่างก็สนใจเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ นศท.
ปิยวัฒน์ (นายเอก) หนุ่มหล่อหน้าตาดี เรียนบัญชี ปวส.ปี 2 เรียนเก่ง กิจกรรมก็ยังดี จึงเป็นที่
หมายปองของใครลายคนรวมถึงผู้กองวาโย(พระรอง)
"เป็นไงบ้างปิยวัฒน์ ทำได้เปล่า"
ผู้กองวาโยเอ่ยทัก ...
"สบายครับครู เรียกผมข้าวกล้องก็ได้ครับครูไม่ต้องเรียกชื่อจริงหรอกครับ"
"ก็เราชื่อเพราะนี่ ครูเลยชอบ"
"ชอบชื่อ หรือชอบคนครับครู"
"ทั้งคู่ 555 เออ เรียนจบ ปวส.แล้วมาสอบรับราชการทหารสิ เหมือนตำแหน่งเจ้าหน้าที่บัญชี
จะว่างอยู่"
ผู้กองเอ่ยชวน ข้าวกล้องจึงตอบไปว่า....
"ผมอยากทำงาเอกชนมากกว่าครับ อยู่กับระบบราชการไม่ไหว ทั้งกฎทั้งระเบียบ"
"อ้าว แล้วทำไมถึงมาเรียน รด. ทั้งกฎ ระเบียบ วินัย"
"ครูก็น่าจะรู้นะครับว่าผมลูกใคร ขัดใจได้ที่ไหนกัน"
"เออ เนอะ"
ทั้งคู่คุยกันสนิทสนม โดยที่ผู้กองวาโยนั้นคิดกับข้าวกล้องไปไกลแต่ข้าวกล้องกลับคิดว่าผู้กอง
คือพี่ชายที่แสนดีเท่านั้น และที่สำคัญพ่อของข้าวกล้องคือท่านพลเอกปิยพงศ์ ขึ้นชื่อเรื่องความดุ
ดันไม่เกรงใจใคร ข้าวกล้องจึงอยากให้ผู้กองเปิดใจคบหากับคนอื่นบ้าง
ย้อนมาเวลากรุงศรีอยุธยา ในช่วงที่บ้าเมืองมีศึกสงครามจากการรุกรานของพวกหงสาวดีจนเกิด
การสูญเสียเจ้านายไปอยู่ที่เมืองหงสาวดีถึงสองพระองค์ นับเป็นความสูญเสียที่ต้องแลกเปลี่ยน
เพื่อให้บ้านเมืองอยู่รอดปลอดภัยจวบจนกระทั้งวันที่พระองค์เสด็จหนีกลับมาสู่กรุงศรีอยุธยาเพื่อ
วางแผนการกอบกู้รักษาบ้านเมืองแต่ก็ยังคงเหลือพระพี่นางอีกหนึ่งพระองค์ที่ยังต้องเป็นองค์
ประกัน ณ แดนศัตรู
เมืองอู่ทอง ดินแดนแห่งการรับศึกทางทิศตะวันตกของกรุงศรีอยุธยา ถึงยามนี้จะไม่มีศึกมารุกราน
แต่กำลังพลก็เตรียมฝึกมือเพื่อพร้อมทำศึกหากรุงศรีต้องการกำลัง ณ ดินแดนแห่งนี้ยังมีเรือนของ
ท่านโหราธิบดีที่ทำหน้าที่ทำนายทายทักดวงชะตาให้กับเจ้าเมืองอู่ทอง ท่านโหราสืบเชื้อสายมา
จากขอม อาณาจักรเก่าที่เคยรุ่งเรืองในยุคสมัยทวารวดี ท่านโหรามีภริยาเอกนามว่าคุณหญิง
อินทิรา หรือคุณหญิงอิน มีลูกชายด้วยกัน 2 คน คือ พระรุ่ง บวชเป็นภิกษุยังไม่สึกมาครองเรือน
ส่วนคนเล็กคือ หมื่นโรจน์(พระเอก) รับราชเป็นทหารเอกและองครักษ์ในบุตรชายของท่านเจ้าเมือง
ความงามของลูกชายท่านโหราเป็นที่เลื่องลือโดยเฉพาะหมื่นโรจน์ที่หล่อ เก่ง และมีฝีมือการรบที่ดี
ดวงชะตาของหมื่นโรจน์มีดวงพระลักษณ์หน้าทองคุ้มครองตัวแถมยังมีวิชาคงกระพัน แต่ทั้งนี้ดวง
คู่ครองของหมื่นโรจน์จะพบกับความพลิกผลันจะหญิงก็ไม่ใช่จะชายก็ไม่เชิง จะมาเจอกันได้ก็ต่อ
เมื่อบุพเพสันนิวาสนำพามาเท่านั้น
แต่ทั้งนี้ ลูกชายท่านเจ้าเมืองที่มีจิตเสน่หากับโรจน์จึงพยายามทำให้ทุกคนคิดว่าตนนั้นคือคู่ครอง
ตามคำทำนาย จึงมักมีของกำนัลมาให้ท่านโหราและคุณหญิงอยู่บ่อยครั้ง เฉกเช่นครั้งนี้...
"ท่านโหรา คุณหญิง ข้าไหว้"
ทั้งสองท่านถึงกับต้องรีบก้มกราบและพูดว่า....
"พระองค์อยู่ในที่ของพระโอรสของเจ้าหัวเมือง หาควรไหว้ข้าทั้งสองไม่พะยะคะ"
"นั่นสิเพค่ะ แค่เพียงเสด็จมาถึงเรือนก็นับว่าเป็นบุญแก่เรือนของข้าทั้งสองยิ่งนัก"
เจ้าชาย จึงตรัสตอบไปว่า....
"ท่านทั้งสองก็เหมือนญาติผู้ใหญ่ของข้า อีกทั้งหมื่นโรจน์ก็เป็นเพื่อนข้ามาตั้งแต่เยาว์ วันนี้ข้ามีของ
มามอบให้ท่านทั้งสองขอท่ารับไว้ด้วยเถิด"
"หาต้องลำบากพระองค์ไม่เพค่ะ"
"ลำบากอันใดกัน ข้าไปเที่ยวเมืองกาญจน์เจอของที่งามก็ซื้อมาฝาก ตอบแทนน้ำใจหมื่นโรจน์
ที่ดูแลข้ามาตลอด"
หมื่นโรจน์จึงทูลต่อเจ้าชายว่า....
"หาจำเป็นไม่ หน้าที่กระหม่อมคือถวายอารักขาพระองค์ให้พ้นอันตรายพะยะคะ"
เมื่อได้ฟังเจ้าชายก็ถึงกับเสียอาการ จึงพูดขึ้นว่า....
"ข้าดีไม่พอกับเจ้าหรืออย่างไร หรือเจ้าต้องการยศฐาอะไรข้าก็จะมอบให้เจ้า"
"กระหม่อมมิบังอาจรับยศอื่นใดได้หากความสามารถของกระหม่อมไม่มีมากพอในยศนั้น"
"หมื่นโรจน์ ขาลาหละท่านโหรา คุณหญิง"
ถึงแม้จะตื้อเพียงใดก็ไม่มีใครพิชิตใจโรจน์ได้ เจ้าชายออกจากเรือนไปพร้อมกับเหล่าทหารเพื่อ
กลับวังของพระองค์
"ลูกขอโทษนะขอรับ ท่านพ่อ ท่านแม่"
"ขอโทษทำไม ใจเจ้าไม่รักใยต้องฝืน หากบุพเพไม่นำพา พรหมลิขิตไม่กำหนดอย่างที่ท่านพ่อลูก
เคยดูไว้ เจ้าจะอยู่เป็นชายครึขึ้นคานแม่ก็หาหวั่น ไปจวนเข้าครัวเตรียมกับข้าวให้ท่านโหรากับ
ท่านหมื่น"
"เจ้าค่ะ"
ในยามค่ำคืนหลังทานอาหารค่ำเสร็จในโลกปัจจุบันและโลกอดีตชายหนุ่มทั้งสองต่างฝันถึงกัน
ชายหนุ่มในชุดนักรบโบราณกับเด็กหนุ่มในชุดนักรบสมัยให้ได้กอดกาย กอดจูบตอบกันแบบ
หวาดเสียว รสรักและความกำหนัดทำให้ทั้งคู่ต่างเปลือยกายและสอดใส่ซึ่งกันและกัน
"เจ้า กลับมาหาข้าเถิดหนา ข้ารอเวลานี้นานเหลือเกิน กลับมาหาข้าเถิด"
ชายหนุ่มในชุดนักรบโบราณพูดขึ้นพร้อมสอดใส่ร่างกายเด็กหนุ่ม จากนั้นเด็กหนุ่มก็ถามกลับว่า
"คุณอยู่ที่ไหน ทำไมคุณไม่มาเกิดในยุคผม ผมไม่อยากเห็นคุณแค่ในความฝัน ผมจะไปหาคุณ"
"มาสิ ไปพร้อมกันโอ๊ยยย ไปพร้อมกันนะ"
"ไปครับ โอ๊ววว ไปไป ผมจะไปเจอคุณให้ได้โอ๊ววววว"
และแล้วทั้งสองคนก็ต่างสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมในแต่คนละมิติเวลา ข้าวกล้องอุทานขึ้นว่า....
"นี่กูฝันอะไรอีกแล้ว่ะเนี่ย"
และแล้วเขาก็ก้มลงไปดูที่เป้ากางเกงตัวเอง ...เชี้ย....กูฝันเปียกเหรอเนี่ย..... ข้าวกล้องเห็นลำแท่ง
ของตัวเองแข็งตั้งยาวพ้นขากางเกงบ็อกเซอร์ หัวเปิดสีชมพูและมีน้ำขาวข้นเลอะต้นขาและที่นอน
เช่นเดียวกับโรจน์ที่ตื่นมาและพบว่าตนนั้นนอนดิ้นจนผ้าเตี่ยวที่นุ่งหลุดออกและมีน้ำกามเลอะอยู่
คงใกล้เวลาที่เขาทั้งคู่จะได้เจอกันแล้วสินะครับเนี่ย.....
เช้าวันรุ่งขึ้น ข้าวกล้อง ท่านนายพล และคุณหญิงโสภา ก็ตื่นเช้ามาใส่บาตรแต่หลังจากใส่บาตร
เสร็จหลวงพ่อก็ทักข้าวกล้องว่า...
"โยม จะเดินทางไปในที่อดีตหรือ"
"หลวงพ่อหมายถึงอยุธยาหรือเปล่าครับ เพราะสัปดาห์หน้าผมมีไปทัศนะศึกษา"
"อาตมาพูดไม่ได้ แต่อยากให้โยมมีสตินะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรโยมต้องอยู่ให้ได้"
พูดจบหลวงพ่อก็เดินไป ท่านนายพลกับคุณหญิงจึงพูดกับข้าวกล้องว่า...
"เจ้ากล้อง พ่อไม่ให้แก่ไปทัศนะศึกษา"
"เอ้าพ่อ แม่ครับ"
"แม่ก็คิดเหมือนพ่อ ไม่ไปนะลูก"
"แต่พ่อครับ แม่ครับ มันไม่มีอะไรหรอกครับ แม่เชื่ออะไรพวกนี้ด้วยหรือ"
ข้าวกล้องพูดจบก็เดินเข้าบ้านและขับมอไซต์คู่ใจไปวิทยาลัย โดยที่ท่านนายพลสั่งให้ครูฝึกที่จะไป
ทัศนะศึกษาดูแลข้าวกล้องอย่าให้คลาดสายตา และแอบตามไปด้วยโดยที่ข้าวกล้องไม่รู้ตัว
ในที่สุดวันทัศนะศึกษาก็มาถึงข้าวกล้องพอมองออกว่ามีคนของพ่อคอยตามดูอยู่
"เป็นไงครับข้าวกล้อง ได้ข้อมูลทำรายงานไหม"
ผู้กองวาโยเอ่ยถาม ข้าวกล้องจึงตอบว่า...
"ได้ครบครับ เกี่ญวกับอาวุธยุโธปกรณ์"
"ดีมาก"
"เอ่อ...ว่าแต่อันนี้ใช่ดาบอาญาสิทธิ์ไหมครับ"
ข้าวกล้องเอ่ยถาม ผู้กองจึงตอบว่า....
"ใช่ครับ ดาบเล่มนี้เป็นของเจ้าเมืองอู่ทอง เคยมีตำนานเล่าว่าเจ้าชายรามาเทพเคยหยิบมาจะฆ่า
องครักษ์คนสนิทแต่ด้วยเหตุผลใดไม่มีใครทราบและองครักษ์คนนั้รอดไหมก็ไม่มีใครรู้"
"หือแบบนี้เรื่องแย่งความรักกันชัวร์ค่ะครู"
"จริง หนูเห็นด้วย"
ปูม้า กับ น้ำฝน เพื่อนเกย์และเพื่อนหญิงคนสนิทของข้าวกล้องได้พูดขึ้น ข้าวกล้องจึงถามเพื่อว่า...
"เออ มึง ได้หัวข้อยัง"
"ได้แล้ว แต่ยังขาดเนื้อหาเพิ่มเติม"
น้ำฝนพูดขึ้น ผู้กองวาโยจึงถามว่า....
"แล้วเราทำเรื่องอะไรหละน้ำฝน"
"โลหะในการทำอาวุธในยุคอดีตค่ะ จะดีมากเลยถ้าได้เห็นเนื้อดาบเล่มนี้"
ทันใดนั้นก็มีเสียงฟ้าคำรามที่ด้านนอกราวกับว่าจะเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง แน่นอนครับว่าเวลานี้
ในอดีตกำลังเกิดเรื่อง ....
เจ้าชายรามาเทพ(นายรอง) ได้พิโรธกับหมื่นโรจน์เพราะหมื่นโรจน์ไม่ได้มาถวายอารักขาเมื่อคืน
ที่ห้องบรรทม และยังปฏิเสธคำขอที่เจ้าชายต้องการให้หมื่นท่านเป็นชายต้องห้ามของพระองค์
"ท่านพ่อลูกขอพระราชทานลงอาญาหมื่นโรจน์ฐานละเลยหน้าที่"
"รามาเจ้าจักเอาแต่ใจเกินตน ทหารฝีมือดีอย่างหมื่นโรจน์มิได้หากันง่ายๆ"
ท่านเจ้าเมืองได้พูดกับลูกของตน ทันใดนั้นเจ้าชายรามาเทพจึงถามหมื่นโรจน์ว่า....
"เจ้ามีอะไรจะพูดก่อนตายหรือไม่"
หมื่นโรจน์จึงประนมมือและพูดขึ้นว่า....
"หากชะตาของข้าฯยังไม่ถึงคาด ขอให้คู่ครองที่แท้จริงได้ปรากฎกายเป็นพยานช่วยข้าด้วยเถิด"
"555 จะตายอยู่ละยังไม่เลิกงมงาย ดี"
"รามา พ่อขอหละเจ้าอย่าคิดทำเยี่ยงนี้เลย มันไม่มีผลดีกับใครทั้งนั้น"
"ลูกให้ท่านพ่อเลือกระหว่างจะออกพระบัญชาหรือจะให้ลูกจัดการเอง"
"ไม่ พ่อไม่ให้เจ้าทำแบบนั้นแน่นอน"
"ได้ ถ้าท่านพ่อไม่ลงทัณฑ์ลูกจะจัดการเอง ในเมื่อเจ้ามิใคร่รักข้า เจ้าก็อย่าได้มีรักกับใครอีก"
เจ้าชายรามาเทพ ได้หยิบดาบอาญาสิทธิ์บนพานข้างบัลลังค์ลงมาพร้อมชักออกจากฟัก และหวัง
จะลงดาบนั้นที่อกของหมื่นโรจน์แต่ทว่าในโลกปัจจุบัน ข้าวกล้องได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่
ให้หยิบดาบจำลองมาดูได้เพราะดาบจริงต้องเก็บรักษาอย่างดีเพื่อความปลอดภัยแต่ด้วยอานุภาพ
ที่เชื่อมถึงกันบวกกับแรงกรรมในอดีตทันทีที่ข้าวกล้องชักดาบออกจากฝัก ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิด
แสงสว่างเจิดจ้าจนทุกคนต่างตกใจท่านนายพลและคุณหญิงก็รีบวิ่งเข้ามาห้ามแต่ช้าเกินไป
ข้าวกล้องหลุดหายไปอีกมิติหนึ่งโดยที่ไม่มีใครคิดว่านี้จะเป็นเรื่องจริง
"ข้าวกล้อง ........ ลูกพ่อ ........."
"ตาหนูของแม่......"
ท่านนายพลปิยพงศ์และคุณหญิงโสภาแทบขาดใจเมื่อลูกชายหายไปต่อหน้าต่อตาทั้งคู่หยิบ
ดาบอาญาสิทธิ์จำลองขึ้นมาและร้องเรียกหาลูกชายแต่ก็ไม่เกิดอะไรเพราะตอนนี้ข้าวกล้องได้
เปลี่ยนไปอยู่อีกมิติหนึ่งแล้ว....
ย้อนกลับมาที่โลกอดีต.....
เมื่อดาบหลุดออกจากฝักก็มีหนุ่มหล่อปริศนาหน้าตาดีแต่งกายแบบคนในโลกยุคใหม่ ล้มลง
ที่อกของหมื่นโรจน์ และที่สำคัญปากทั้งคู่จูบกันพอดี ทั้งคู่ต่างรู้สึกได้ซึ่งกันและกันเหมือนเจอ
ในความฝันที่ผ่านๆมา หมื่นโรจน์ประครองตัวข้าวกล้องเอาไว้
"ที่นี่ที่ไหนกันครับ คุณ...."
ข้าวกล้องเอ่ยถามชายหนุ่มมที่อยู่ตรงหน้า แต่ทันใดนั้นก็....
"ผี......หลอก....."
เสียงผู้คนต่างตกใจแตกตื่นกับสิ่งที่ได้พบเห็น ข้าวกล้องตอนนี้สับสนและงงมากหมื่นโรจน์จึง
พูดขึ้นว่า....
"นี่คือคนรักของข้าพระบาท ขอเจ้าชายทรงเมตตาปล่อยข้าพระบาทและคนรักไปด้วยเถิด"
"เดี๋ยวนะ นี่ถ่ายหนังหรือว่าอะไร ทำไมการแต่งกายของพวกคุณเหมือนละรย้อนยุคเลย"
ข้าวกล้องพูดขึ้น ท่านพระโหราจึงพูดขึ้นว่า...
"ที่นี่คือเมืองอู่ทอง เจ้าอย่าเพิ่งพูดเลยพ่อหนุ่ม ขอเดชะ ท่านเจ้าเมือง ความก็ปรากฎตามสัจจา
ธิฐานของพ่อโรจน์แล้ว ขอท่านเมตตาพระราชทานอภัยโทษให้พ่อโรจน์ด้วยเถิด"
"หมื่นโรจน์ รับโองการ นับจากนี้เจ้าคือทหารเอกสังกัดของข้า ไม่ต้องขึ้นตรงกับเจ้าชายรามาเทพ
อีก ส่วนเจ้ารามาเทพ เจ้าทำพ่อผิดหวังและอับอายมากนัก พ่อขอสังเจ้าจำตุบนเรือนของเจ้าเป็น
เวลา ๗ วัน"
"ท่านพ่อ ข้าหายอมไม่ ไอ้ตัวประหลาดนี่มาจากไหนหามีใครรู้ มันอาจเป็นสัมพะเวสีผีเฝ้าดาบ
ก็ได้ ดูกการแต่งตัวก็พิลึกนักหาเหมือนชาวเราหรือหัวเมืองทั้ง ๔ ทิศก็หาไม่"เจ้าชายชี้หน้าต่อว่าข้าวกล้องแต่มีหรือข้าวกล้องจะยอม .....
"นี่นี่คุณ กล้าดีไงมาว่าผมเป็นผีสัมพเวสี ทำไมคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่จะด่าใครยังไงก็ได้หรือ"
ทุกคนต่างตะลึงที่หนุ่มคนนี้ก็ต่อฝีปากกับเจ้าชาย หมื่นโรจน์จึงพูดขึ้นว่า....
"ขอประทานอภัยเจ้าชาย คนของข้าอาจยังตกใจอยู่"
"ผมไม่ได้ตกใจ"
"ออเจ้า เงียบปากบัดเดี๋ยวนี้"
เมื่อทุกอย่างคลี่คลายหมื่นโรจน์ก็พระโหราผู้เป็นพ่อและข้าวกล้องลงเรือกลับไปยังเรือนของตน
ทั่งทั้งเมืองต่างมองข้าวกล้องแบบแปลกๆ ที่แต่งกายอย่างไรก็บอกไม่ถูก งานนี้ข้าวกล้องจะแผง
ฤทธิ์อะไรให้ชาวบ้านเห็นอีก ต้องติดตามกันตอนต่อไปนะครับ หากไม่สนุกหรืออ่านแล้วงงต้อง
ของอภัยด้วยนะครับ และนินยายนี้เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ตัวละครเป็นตัวสมมติ
ขอบคุณครับ น่าติดตามครับ รอลุ้นว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกๆ เริ่มเรื่องก็พอจะเห็นความแซบของนายเอกแล้ว ขอบคุนครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ตามนะงับบบ น่าติดตามครับ สนุกมากครับ
หน้า:
[1]