Porschekub โพสต์ 2024-8-24 16:37:28

นิสิตแพทย์ใช้ทุน 12

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Porschekub เมื่อ 2024-8-24 16:54

หลังจากที่พี่แจ๋นออกจากห้องไป ผมรีบกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องของยายเป้า ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ยายเป้านอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ร่างกายของเธอคลุมด้วยผ้าห่มบาง ๆ ความรู้สึกผิดเข้ามาจับใจ แต่เวลานี้ผมไม่มีเวลามากพอจะจมอยู่กับมัน ผมต้องรีบกลับหอพักก่อนที่ใครจะสงสัยผมเร่งฝีเท้าไปหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนเก้าอี้ สวมเสื้อผ้าที่ยับอย่างรวดเร็ว จากนั้นคว้ากางเกงในที่ถูกใช้ชุบน้ำเช็ดคราบต่าง ๆ บนร่างกายของผมตั้งแต่เมื่อคืน กางเกงในที่ยังเปียกชื้นจากการเช็ดทำความสะอาดถูกสวมกลับไปโดยไม่คิดอะไรมาก“ต้องรีบไป…” ผมพึมพำกับตัวเอง ขณะสวมรองเท้าและคว้ากุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง มือของผมสั่นเล็กน้อยจากความตื่นเต้นและความกังวลผมค่อย ๆ เปิดประตูห้องยายเป้าอย่างระมัดระวัง หวังว่าจะไม่ทำให้เกิดเสียงดังจนปลุกเธอขึ้นมา จากนั้นก็รีบเดินไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน หัวใจเต้นรัวในขณะที่เปิดประตูและสตาร์ทรถ ผมรู้ว่าต้องรีบกลับไปที่หอพักก่อนที่ใครจะเห็นหรือสงสัยอะไรถนนยามเช้าตรู่เงียบสงัด ขณะขับรถ ภาพของยายเป้าที่นอนหลับอยู่บนเตียงยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ผมพยายามสลัดความคิดเหล่านั้นออกไป พยายามโฟกัสกับการขับรถ แต่ความรู้สึกผิดนั้นช่างยากที่จะลืมเลือน ความสัมพันธ์ที่อันตรายและเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในกรงที่มองไม่เห็นเมื่อถึงหอพัก ผมจอดรถและรีบเดินขึ้นไปยังห้องของตัวเอง หัวใจยังคงเต้นแรงจากความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ภายใน แต่ผมรู้ดีว่านี่ไม่ใช่จุดจบ นี่เพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความซับซ้อนในชีวิตที่ผมต้องเผชิญต่อไปผมถอดเสื้อผ้าแล้วรีบเข้าไปอาบน้ำ มองตัวเองในกระจก เห็นร่างกายของตัวเองที่ถูกล็อกด้วยอุปกรณ์นั้น ความคิดที่เกาะกุมอยู่ในใจยังไม่ยอมปล่อย ผมพยายามจะสะบัดมันออกไป แต่ก็รู้ดีว่าบางสิ่งบางอย่างในชีวิตของผมได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว และมันไม่ใช่สิ่งที่ผมจะสามารถเพิกเฉยได้หลังจากที่พี่แจ๋นล็อกอุปกรณ์นั้นไว้กับร่างกายของผม ผมรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในกรงที่มองไม่เห็น ผมพยายามสลัดความรู้สึกอึดอัดนั้นออกไป แต่มันกลับตามมาหลอกหลอนทุกครั้งที่ผมเคลื่อนไหว เป็นคำเตือนที่ย้ำเตือนให้ผมรู้สึกถึงการควบคุมที่พี่แจ๋นมีเหนือผมเมื่อมาถึงโรงพยาบาล ผมพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่ความรู้สึกที่ถูกควบคุมทำให้ทุกอย่างดูยากขึ้นมาก ทุกครั้งที่เดินผ่านพี่แจ๋น ความรู้สึกที่คุ้นเคยก็กลับมาอีกครั้ง ความหวาดกลัวและความอายที่ต้องเผชิญหน้ากับเธอทำให้ผมแทบจะไม่กล้าสบตาช่วงพักเที่ยง ผมพยายามหลีกเลี่ยงการพบพี่แจ๋น แต่เธอก็ไม่ปล่อยให้ผมหนีไปง่ายๆ “หมอต้น พี่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย” เสียงของเธอเรียกผมจากด้านหลัง ทำให้ผมชะงัก หัวใจเต้นแรงขึ้นทันที“ครับพี่แจ๋น...” ผมตอบกลับด้วยเสียงเบาๆ พยายามไม่แสดงความกลัวที่ซ่อนอยู่ภายใน“ตามพี่มาที่ห้องพักพยาบาลสิ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ ผมจำต้องเดินตามเธอไปอย่างเงียบๆ ความรู้สึกอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นในอกทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อผมก้าวเข้าไปในห้องพักที่เงียบสงบเมื่อประตูปิดลง พี่แจ๋นเดินเข้ามาใกล้ผม สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเข้มงวดและความเย็นชา “ถอดกางเกงออก” เธอสั่งด้วยน้ำเสียงที่ไม่เปิดช่องให้ผมปฏิเสธ“พี่แจ๋น... ตอนนี้ที่นี่ไม่เหมาะ...” ผมพยายามจะพูดออกมาแต่ก็ถูกสายตาคมกริบของเธอตัดบท“เงียบแล้วทำตามที่พี่บอกซะ” เสียงของเธอเย็นชาและเด็ดขาด ผมรู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทำตามที่เธอสั่ง ผมถอดกางเกงออกอย่างช้าๆ ความอายและความรู้สึกอึดอัดท่วมท้นอยู่ในใจพี่แจ๋นเข้ามาใกล้ มือของเธอเริ่มลูบไล้ไปตามร่างกายของผมอย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่อุปกรณ์ล็อกควยที่ล็อกอยู่กับร่างกายของผม “มันแน่นไปไหม?” เธอถามเสียงเบา แต่กลับทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกกดดันมากขึ้น“ก็... พอไหวครับ” ผมตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้เธอหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเริ่มใช้มือรูดไปมาบน อุปกรณ์ นั้น ความรู้สึกเสียวซ่านที่คุ้นเคยท่วมท้นเข้ามาทันที แต่ความทรมานที่ตามมาก็ไม่แพ้กัน ผมพยายามจะหักห้ามความรู้สึกนั้น แต่ความจริงที่ว่าไม่มีทางปลดปล่อยทำให้ผมรู้สึกอึดอัดอย่างที่สุด“พี่อยากเห็นว่าเธอจะทนได้แค่ไหน หมอต้น” เธอกระซิบข้างหู น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความยั่วยวน แต่ก็แฝงด้วยความเยือกเย็นที่ทำให้ผมรู้สึกหนาวสั่น“พี่แจ๋น... ผมไหว้เถอะพี่...” ผมพยายามจะขอร้อง แต่เธอกลับหัวเราะเบาๆ พลางเพิ่มแรงในการรูดที่อุปกรณ์ล็อกควยนั้น ความรู้สึกเสียวซ่านที่ไม่มีทางระบายออกทำให้ผมหอบหายใจแรงขึ้น“อย่าคิดว่าพี่จะให้เธอเสร็จง่ายๆ นะ หมอต้น” เธอพูดพลางหยุดการเคลื่อนไหวทันที ผมรู้สึกถึงความทรมานที่ท่วมท้นเข้ามาเมื่อความรู้สึกที่สะสมมาถูกตัดขาดอย่างกะทันหัน“กลับไปแต่งตัวซะ เราจะไปกินข้าวเที่ยงกัน” พี่แจ๋นพูดเสียงเรียบขณะที่เธอเก็บอุปกรณ์นั้นกลับเข้าที่ ผมรู้สึกถึงความอึดอัดที่ยังค้างอยู่ในร่างกาย แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามที่เธอสั่งหลังจากที่พี่แจ๋นพาผมไปที่ห้องเล็กๆ ข้างโรงอาหาร เธอรีบล็อกประตูทันทีที่เราสองคนเข้ามาด้านใน สายตาของเธอเต็มไปด้วยเลศนัยและการควบคุมที่แน่นหนา“หมอต้น วันนี้พี่มีอะไรพิเศษให้เธอ” เสียงของเธอเย็นชาและเต็มไปด้วยการควบคุม ขณะที่เธอค่อยๆ ดึงกระโปรงขึ้น เผยให้เห็นท้องที่ยื่นออกมาและแคมปลิ้นสีดำที่โผล่พ้นออกมา ผมรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นรัวเมื่อได้เห็นภาพนี้เป็นครั้งแรก มันทำให้ผมช็อกและอับอายจนแทบจะกลั้นหายใจสิ่งที่ทำให้ผมตกใจยิ่งกว่าคือไส้กรอกห้าแท่งที่ถูกสอดไว้ในร่องของเธอ ไส้กรอกเหล่านั้นเปียกชุ่มไปด้วยน้ำของเธอ ซึ่งไหลซึมออกมาให้เห็นได้ชัดเจนพี่แจ๋นยิ้มอย่างพอใจและพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “ดูสิหมอต้น ดูหน้าหล่อๆ ของเธอสิ คงไม่เคยคิดว่าจะต้องมาอยู่ในสภาพนี้ใช่ไหม?” เธอพูดพร้อมกับใช้มือสัมผัสเบาๆ ที่ใบหน้าของผม ทำให้ผมรู้สึกทั้งสับสนและหวาดกลัว แต่ไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามที่เธอสั่ง“คลานมาสิ” พี่แจ๋นสั่ง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยอำนาจ ผมรู้สึกถึงความกดดันและอับอายที่ท่วมท้นเข้ามา ผมพยายามจะลุกขึ้นมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าปลอดคน ผมจึงต้องเดินเข้าหาเธออย่างระมัดระวังและช้าๆ ความอายและความขยะแขยงผสมปนเปกันอยู่ในใจ แต่ความรู้สึกที่ถูกกดดันให้ทำสิ่งนี้ก็ทำให้ผมไม่สามารถหักห้ามตัวเองได้เมื่อผมเข้าใกล้พอ เธอจึงยิ้มอย่างพอใจ “กินสิ” เธอสั่งเสียงเข้ม สายตาของเธอจ้องมองผมอย่างเคร่งเครียดผมไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามที่เธอบอก ผมค่อยๆ ดึงไส้กรอกแท่งแรกออกจากร่องของเธอ ความรู้สึกเหนอะหนะจากน้ำของเธอและกลิ่นที่แผ่กระจายออกมาทำให้ผมรู้สึกอับอายจนแทบจะทนไม่ไหว แต่ผมก็ต้องกัดไส้กรอกนั้นในที่สุด รสชาติที่ผสมปนเปกันระหว่างความหวานของไส้กรอกกับน้ำของเธอทำให้ผมรู้สึกสับสนและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้พี่แจ๋นยิ้มอย่างพอใจ “ดูสิหมอต้น เธอหล่อมาก แต่พี่รู้ว่าเธอมันก็แค่ไอ้หมอหื่นที่อยากถูกควบคุม พี่เห็นเธอเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยคำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกทั้งโกรธและอับอาย แต่ความเสียวซ่านที่ไม่สามารถหักห้ามได้กลับทำให้ผมต้องทำตามคำสั่งของเธอต่อไป ผมค่อยๆ กินไส้กรอกทุกแท่งที่ถูกสอดอยู่ในร่างกายของเธอ ความทรมานและความอับอายท่วมท้นเข้ามาในขณะที่ผมทำสิ่งที่เธอบอกจนเสร็จเมื่อทุกอย่างจบลง ผมลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว พยายามทำให้ตัวเองดูเป็นปกติ แต่ความอับอายและความทรมานจากอุปกรณ์ล็อกควยที่ยังคงกักขังผมอยู่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดจนแทบจะบ้าเวลาผ่านไปจนถึงช่วงดึก ผมต้องอยู่เวรจนถึงเที่ยงคืนตามตารางงาน พี่แจ๋นก็ทำตัวแนบเนียนเข้ามาดูแลผมเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่ทุกครั้งที่เราอยู่ลำพังกัน ความรู้สึกกดดันและการควบคุมที่เธอมีเหนือผมก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆในห้องพักแพทย์ที่เงียบสงบ ผมได้ยินเสียงฝีเท้าของพี่แจ๋นเข้ามาใกล้ “หมอต้น พี่อยากให้เธอทำอะไรให้พี่หน่อย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาผมรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นรัวอีกครั้งเมื่อเธอสั่งให้ผมถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือเพียงอุปกรณ์ล็อกควยที่ยังคงล็อกอยู่ พี่แจ๋นยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นผมในสภาพนั้น “นั่งลงบนเก้าอี้สิ” เธอสั่ง ผมทำตามคำสั่งอย่างเงียบๆเมื่อผมนั่งลง พี่แจ๋นก็เริ่มใช้มือรูดที่อุปกรณ์นั้นอย่างช้าๆ ความเสียวซ่านที่ท่วมท้นเข้ามาอีกครั้งทำให้ผมรู้สึกทรมาน แต่เธอกลับหยุดทุกการเคลื่อนไหวทันทีเมื่อเห็นว่าผมใกล้จะถึงจุดสูงสุด“ไม่ได้...เธอจะต้องทนความรู้สึกนี้ไปอีกนาน” เธอกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย ก่อนจะลุกขึ้นและปล่อยให้ผมทนทุกข์อยู่กับความทรมานนั้นเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ และความเสียวซ่านที่สะสมอยู่ทำให้ผมแทบจะทนไม่ไหว แต่ผมรู้ดีว่าผมไม่มีทางปลดปล่อยตัวเองได้ จนกระทั่งพี่แจ๋นกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับกล่องอาหารเที่ยง“กินสิ” เธอสั่ง แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยหิวเท่าไหร่“หมอต้น เธอจะต้องกินทุกอย่าง” พี่แจ๋นสั่งเสียงเข้ม ผมทำตามที่เธอบอก และค่อยๆ กินอาหารที่เธอเตรียมไว้ แต่ความรู้สึกเสียวซ่านและความทรมานจากอุปกรณ์ล็อกควยนั้นก็ทำให้ผมแทบจะไม่สามารถคิดเรื่องอื่นได้เวลาที่ผมต้องอยู่กับพี่แจ๋นทุกขณะจึงเต็มไปด้วยความอับอายและความทรมาน ผมรู้ดีว่าชีวิตของผมไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป ผมตกเป็นทาสของความต้องการที่ไม่สามารถหักห้ามได้ และไม่มีทางหลุดพ้นจากการควบคุมที่พี่แจ๋นมีเหนือผมได้อีกแล้ว...ค่ำคืนนั้น ผมต้องเผชิญกับความอับอายและความทรมานที่ท่วมท้นจากสิ่งที่พี่แจ๋นบังคับให้ผมทำในช่วงที่เราสองคนอยู่ลำพังกัน ความทรมานจากอุปกรณ์ล็อกควยที่เธอล็อกไว้และการบังคับให้ผมทำเรื่องที่น่าอับอายเหล่านั้นทำให้ผมรู้สึกถึงการสูญเสียอิสระและการควบคุมในชีวิตของตัวเองไปโดยสิ้นเชิง...หลังจากที่พี่แจ๋นบังคับให้ผมถ่ายภาพที่อับอายและส่งให้เธอ ความรู้สึกไม่สบายตัวและความอับอายยังคงติดอยู่ในใจ ผมพยายามสงบสติอารมณ์และทำงานต่อไปตามปกติ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าความรู้สึกเหล่านั้นกลับมาครอบงำอีกครั้งทุกครั้งที่คิดถึงภาพที่ต้องส่งไปช่วงเวลาที่ผมทำงานในโรงพยาบาล พี่แจ๋นไม่ปล่อยให้ผมลืมความรู้สึกนั้น เธอส่งข้อความมาหาเป็นระยะๆ สั่งให้ทำสิ่งที่ทำให้รู้สึกอับอายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในท่าทางต่างๆ หรือการตรวจดูที่ล็อกควยของผมเพื่อให้แน่ใจว่ามันยังอยู่ในที่ที่ควร ทุกครั้งที่ผมได้รับข้อความจากเธอ ผมต้องหามุมที่เป็นส่วนตัวในโรงพยาบาลเพื่อตอบกลับ ความรู้สึกที่ถูกควบคุมทุกครั้งที่ต้องตอบสนองต่อคำสั่งของเธอ ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกบังคับให้ทำตามคำสั่งโดยไม่มีทางเลือกขณะที่ผมกำลังตรวจคนไข้คนสุดท้ายในเวรนั้น โทรศัพท์ของผมดังขึ้น เมื่อมองหน้าจอก็พบว่าเป็นน้องน้ำที่โทรมา“ฮัลโหล น้ำ” ผมรับสายด้วยเสียงที่พยายามทำให้ปกติที่สุด“พี่ต้น... พี่โอเคไหมคะ? น้ำรู้สึกว่าพี่ดูแปลกๆ ไปช่วงนี้” เสียงของน้องน้ำฟังดูเป็นห่วงอย่างมาก“พี่โอเค... แค่ยุ่งกับงานนิดหน่อย” ผมตอบพลางพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น“พี่แน่ใจนะคะ? ถ้ามีอะไรไม่สบายใจบอกน้ำได้เลยนะ น้ำเป็นห่วงพี่” เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ทำให้หัวใจผมรู้สึกอบอุ่นขึ้น“พี่ไม่เป็นไรจริงๆ นะน้ำ ขอบคุณที่เป็นห่วง” ผมพยายามยิ้ม แต่รู้ดีว่ามันไม่ได้มาถึงในน้ำเสียงของผมขณะที่ผมคุยกับน้องน้ำ ความรู้สึกที่ถูกควบคุมยังคงอยู่ในใจ ความอับอายที่ต้องทำตามคำสั่งของพี่แจ๋นในเวลางาน และการที่ต้องโกหกคนที่ผมรักมากที่สุด ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตกอยู่ในวงล้อมที่ไม่มีทางออก“ถ้าพี่ต้องทำงานหนักแบบนี้ทุกวัน น้ำก็เป็นห่วงพี่นะคะ ดูแลตัวเองด้วยนะ” น้องน้ำพูดต่อด้วยความเป็นห่วง“พี่จะดูแลตัวเอง... และน้ำก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะ” ผมตอบกลับพร้อมกับพยายามไม่ให้ความรู้สึกอับอายและความรู้สึกผิดที่ซ่อนอยู่ภายในใจออกมาในเสียง“ได้ค่ะ... งั้นน้ำไม่กวนพี่แล้วนะคะ รักษาตัวเองดีๆ นะคะพี่ต้น” เธอพูดก่อนที่จะวางสายเมื่อผมวางสาย ความเงียบเข้ามาครอบงำ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกดึงไปในสองทิศทาง—ความรู้สึกที่ต้องทำตามคำสั่งของพี่แจ๋น และความรักที่ผมมีต่อน้องน้ำ ทั้งสองสิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในวังวนที่ไม่สามารถหลุดพ้นได้ผมนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องพัก พยายามสงบสติอารมณ์และจัดการกับความรู้สึกที่สับสนวุ่นวายในใจ ความกดดันจากการถูกควบคุมโดยพี่แจ๋นและความรู้สึกผิดที่ต้องปิดบังความจริงจากน้องน้ำทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงในห้วงความมืด ผมพยายามหาทางออกจากสถานการณ์นี้ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังติดอยู่ในกับดักที่ไม่มีทางออกแต่ความเงียบสงบนี้ก็ถูกทำลายลงเมื่อเวลาประมาณสี่ทุ่ม โทรศัพท์ของผมดังขึ้น เสียงพยาบาลที่ดูรีบเร่งบอกว่ามีเคสฉุกเฉินเกิดขึ้น คนไข้ที่มีอาการเรื้อรังเกิดภาวะช็อกกระทันหัน ผมรีบวิ่งไปที่ห้องฉุกเฉินทันที โดยพยายามไม่ให้ความเจ็บและความรู้สึกไม่สบายจากที่ล็อกควยที่ติดอยู่ทำให้ผมเสียสมาธิหลังจากที่พยาบาลรีบวิ่งมาบอกว่ามีเคสฉุกเฉิน ผมรีบพุ่งตรงไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อสวมชุดผ่าตัด หัวใจของผมเต้นรัวอย่างแรงขณะที่รีบถอดเสื้อผ้าที่สวมอยู่ในทันที ความเร่งรีบในการเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำด่วนทำให้ผมรู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นจากการที่ที่ล็อกควยยังคงรัดแน่นอยู่เมื่อผมถอดเสื้อผ้าออกและยืนเปลือยกายอยู่หน้ากระจก ผมมองเห็นตัวเองอย่างชัดเจนในแสงสลัวของห้องน้ำ ความสูง 185 เซนติเมตร รูปร่างสมส่วนและกล้ามเนื้อที่ชัดเจน สะท้อนออกมาในกระจก ผิวขาวเนียนและใบหน้าหล่อเหลาที่คมเข้มตามแบบฉบับลูกครึ่งไทย-จีน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่คมกริบ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากที่หนาและมีเสน่ห์ ทุกองค์ประกอบเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าผมคือชายหนุ่มที่ดูดีในสายตาของคนอื่น แต่ในความเป็นจริง ผมกลับรู้สึกเหมือนเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมและไร้ความสามารถในการควบคุมชีวิตตัวเองผมล้างหน้าล้างตาและอาบน้ำอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ทุกวินาทีที่น้ำเย็นๆ สัมผัสกับร่างกาย ความรู้สึกของความเจ็บและการถูกจำกัดในกรงเหล็กก็ยังคงเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นนักโทษในร่างของตัวเองหลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมรีบสวมชุดผ่าตัดและวิ่งออกจากห้องน้ำมุ่งหน้าสู่ห้องฉุกเฉิน ความกดดันที่ต้องรับมือกับชีวิตของคนไข้ทำให้ผมต้องพยายามละทิ้งความอับอายและความเจ็บจากที่ล็อกควยออกไปจากจิตใจชั่วขณะภายในห้องฉุกเฉิน ผมต้องใช้ความสามารถทั้งหมดในการรักษาและช่วยชีวิตคนไข้ ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผม รอคอยคำสั่งและการตัดสินใจของผมอย่างเต็มที่ การทำงานในสภาวะที่ต้องรับมือกับชีวิตของคนไข้ทำให้ผมลืมความอับอายและความไม่สบายไปชั่วขณะ ความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบที่ผมมีต่อการช่วยชีวิตคนไข้ทำให้ผมลืมไปว่าที่ล็อกควยนั้นยังคงรัดแน่นอยู่ การสั่งการและดำเนินการอย่างรวดเร็วในทุกขั้นตอนทำให้ทีมพยาบาลรู้สึกมั่นใจในตัวผมเสียงเครื่องมือทางการแพทย์และเสียงของทีมงานที่พูดคุยกันอย่างรวดเร็วเติมเต็มบรรยากาศภายในห้องฉุกเฉิน ความตึงเครียดที่เข้ามาทับทมทุกขณะจิตเป็นสิ่งที่ผมต้องจัดการในขณะที่ทำงานเพื่อรักษาชีวิตคนไข้ ในที่สุด เมื่อคนไข้เริ่มตอบสนองต่อการรักษา เสียงถอนหายใจของทีมพยาบาลดังขึ้นพร้อมกัน ผมรู้สึกถึงความโล่งอกที่ค่อยๆ แทรกเข้ามาในใจแต่ทันทีที่เคสฉุกเฉินสิ้นสุดลง ความรู้สึกอับอายและความรู้สึกไม่สบายจากที่ล็อกควยก็กลับมาโจมตีผมอีกครั้ง ราวกับเป็นการเตือนว่าผมยังคงถูกควบคุมอยู่ตลอดเวลา และมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นทาสของสิ่งที่ผมไม่สามารถหลุดพ้นได้เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงคืน ผมทำงานจนเสร็จสิ้นและเตรียมตัวที่จะกลับบ้าน แต่แทนที่จะได้กลับไปพักผ่อน ผมกลับได้รับข้อความจากพี่แจ๋นอีกครั้ง“คืนนี้ไม่ต้องกลับหอพักนะคะ พี่ให้ยายเป้าเปิดบ้านรอรับเธอแล้ว ไปนอนกับเมียเธอค่ะ”ข้อความสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยอำนาจนั้นทำให้ผมรู้สึกถึงความสิ้นหวังที่ทับทมขึ้นอีกครั้ง ผมพยายามจะไม่ตอบอะไร แต่ในใจกลับรู้ดีว่าผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามผมขับรถไปยังรีสอร์ทตามที่พี่แจ๋นบอก ระหว่างทาง ผมรู้สึกถึงความตึงเครียดในใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะรู้ดีว่าผมกำลังมุ่งหน้าไปสู่สิ่งที่อาจจะเป็นอีกคืนที่เต็มไปด้วยความอับอายและความเจ็บปวดเมื่อผมไปถึงรีสอร์ท ผมเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์และบอกพนักงานว่า “ห้อง 204 ครับ”พนักงานหนุ่มที่ยืนอยู่ยิ้มแซว “พี่ผิดห้องเปล่าครับ? หล่อขนาดนี้ทำไมมาห้องนั้น? ที่นี่มีแต่สาวแก่ๆ นะพี่”คำพูดนั้นทำให้ผมรู้สึกอับอายอย่างมาก แต่ผมเลือกที่จะไม่ตอบอะไรและเดินตรงไปที่ห้อง 204เมื่อผมไปถึงห้อง ผมพบว่าประตูห้องเปิดอยู่ ข้างในห้องปิดไฟมืดสนิท มีเพียงแสงสลัวๆ จากเทียนที่จุดไว้ตามทางเดินข้างนอกที่ส่องเข้ามาในห้อง ผมค่อยๆ เดินตามแสงเทียนที่วางไว้ตามทางเดินในห้อง ซึ่งนำไปสู่ระเบียงข้างนอกที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เท้าของผมสัมผัสกับพื้นหินเย็นๆ ขณะที่ผมเดินไปยังระเบียงนั้นเมื่อผมเปิดประตูกระจกออกไป ผมเห็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่นั่งได้ประมาณสี่คน ตั้งอยู่ท่ามกลางแสงสลัวของเทียนที่จุดอยู่รอบๆ ภายในอ่างนั้น ร่างของยายเป้า พี่แจ๋น และหญิงอ้วนอีกคนกำลังโก่งตัวอยู่ แสงเงาจากเทียนทำให้พวกเธอดูยิ่งใหญ่น่ากลัวขึ้นไปอีก ราวกับเป็นเงาปีศาจในความมืด“ผัวขา… มาถึงแล้วเหรอ?” เสียงแหบๆ ของยายเป้าดังขึ้นจากอ่างน้ำ เสียงนั้นทำให้ผมชะงักผมรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้น ขณะที่ผมพยายามตั้งสติและตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป…(จบตอนที่ 12)


424940 โพสต์ 2024-8-24 17:29:13

สนุกมากเลยมาต่อไวๆๆน่ะครับ

ssspace โพสต์ 2024-8-24 19:58:53

หญิงอ้วนก็มาาา รอหมอต้นป้อนความเสียวให้ครับ

Papigaaa โพสต์ 2024-8-24 20:25:16

เสียวมากกก รอนะครับๆ

Manny197 โพสต์ 2024-8-24 21:39:07

รอ

SEX2KSH โพสต์ 2024-8-25 07:38:42

หมอป้อนความเสียวเลยครับ

Toyoza โพสต์ 2024-8-25 15:44:32

ขอบคุณครับ

Kingki โพสต์ 2024-8-25 16:57:09

ขอบคุณมากครับ

Vza โพสต์ 2024-8-25 20:40:59

ขอบคุณคับ

kichjakan โพสต์ 2024-8-25 21:22:37

ห่างหายไปนาน

KJL โพสต์ 2024-8-25 22:06:37

ขอบคุณครับ

Nikhii โพสต์ 2024-8-26 09:00:40

สุดยอด

Sayamri โพสต์ 2024-8-28 13:03:51

ขอบคุณมากครับ

nutikuiku โพสต์ 2024-9-6 08:55:09

สนุกดีนะครับ

Ta_nut1985 โพสต์ 2024-9-11 18:53:51

ขอบคุณครับ

nooloveguy โพสต์ 2024-9-11 23:48:07

รีบมาต่อเหอะ รอๆเสียว

Ta_nut1985 โพสต์ 2024-9-12 07:39:39

ขอบคุณครับ

oppowow โพสต์ 2024-9-13 00:30:06

ขอบคุณครับ

Kongkangg โพสต์ 2024-9-16 17:44:25

ตามต่อคับ

ore โพสต์ 2024-9-18 23:36:30

ชอบ
หน้า: [1] 2
ดูในรูปแบบกติ: นิสิตแพทย์ใช้ทุน 12