ผม, พี่, เพื่อนพี่, และพ่อ ตอนที่9 [ตอนจบ]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Peaze เมื่อ 2024-9-14 05:55ปัจจุบัน
“แน่ใจหรอ?” หัวหน้าเอ่ยถามสีหน้าและน้ำเสียงแสงความรู้สึกเสียดายตอนที่ผมยื่นใบลาออก
“ครับ” ผมยืนยันคำมั่น
ตอนนี้ผมทำงานเป็นกราฟฟิกดีไซน์อยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง โดยรวมมันก็ดีนะ ทั้งชีวิต ความเป็นอยู่ รายได้ แต่ผมแค่เหนื่อย และเบื่อเพื่อนร่วมงานที่มักจะโยนงานตัวเองมาไว้ที่ผม เพราะเป็นพวกปากหนัก ใครใช้อะไรก็ยอมไปหมด ทำให้ผมไม่เคยปฏิเสธใครเลย นั่นแหละเหตุผลที่ทำให้ยอมทิ้งงานที่เงินเดือนสามหมื่น และตั้งใจจะออกไปเป็นฟรีแลนซ์ เพราะไหน ๆ ผมแม่งก็เหนื่อยอยู่แล้ว ขอเหนื่อยเพื่อตัวเองดีกว่า
หลังทำงานวันสุดท้าย ผมกลับมายังอะพาร์ตเม้นต์ ทิ้งตัวลงบนเตียง มองรอบตัวเหนื่อยหน่ายกับชีวิตที่เป็นอยู่
มือถือสั่นเตือนข้อความ คงจะมาจากพวกคนที่บริษัทส่งมาถามโน่นนี่ เพราะตอนลาออกผมไม่ได้บอกกับใครเลย ผมกดปิดมันอย่างระอา หลับตาปล่อยความคิดไหลไป จนกระทั่งหวนนึกถึงพี่ชายขึ้นมา จึงหยิบมือถือขึ้น ตั้งใจจะโทรหาพี่ ขณะนั้นก็มีข้อความส่งเข้ามาพอดีทำให้นิ้วผมเผลอกดไปโดน
“นิน วันศุกร์นี้งานแต่งกูมึงมาได้มั้ย?ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร...กูคิดถึงมึงนะ”
ตาเหลือบไปอ่านชื่อของคนที่ส่งข้อความนั้นมา ชื่อของเพื่อนสนิทวัยเด็กที่ขาดการติดต่อกันไปนาน
ทองเอก…
ย้อนกลับไปตอนที่เราจบม.6 แม้จะคุยกันเอาไว้ว่าจะต่อมหาวิทยาลัยที่เดียวกัน แต่ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง ทำให้เราไม่สามารถทำแบบที่หวังกันไว้ไม่ได้ ถึงจะผิดหวัง แต่ท้ายที่สุดชีวิตก็ต้องไปต่อ ต่างคนต่างไปในเส้นทางของตัวเอง
ช่วงแรก ๆ ผมกับทองเอกเรายังติดต่อกันเป็นประจำ แต่พอต้องทำกิจกรรมเยอะขึ้น เรียนหนักขึ้น สุดท้ายก็ค่อย ๆ ห่างหายกันไป โชคดีที่สังคมมหาลัยเริ่มเปิดกว้างกับเรื่องเพศ นั่นทำให้ผมมีเพื่อนใหม่ ๆ เยอะขึ้น แต่ไม่มีใครเลยที่ทำให้ผมสนิทสนมและไว้ใจได้เหมือนทองเอก
ผมอ่านข้อความนั้นวนไปวนมา คิดอยู่สักพักว่าจะตอบกลับดีไหม แต่แล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร จิ้มกดดูรูปโปรไฟล์ ทองเอกยังคงเป็นหนุ่มหล่อเหมือนที่ผมจำได้ แม้จะโตขึ้นแล้วมันก็ยังคงดูดีไม่เปลี่ยน ปกติไอ้พวกที่หล่อ ๆ สมัยมัธยมมักจะดูไม่ได้ตอนที่โตเป็นผู้ใหญ่
ความทรงจำวัยเด็กหวนย้อนกลับคืนมา เป็นเวลาสิบสองปีแล้วที่ผมไม่ได้กลับไปบ้านเลย ครั้งสุดท้ายที่เจอพี่ทีนก็เมื่อเจ็ดปีก่อนที่งานแต่งของมัน
พูดถึงผมกับพี่... มีช่วงนึงที่เรางอนกันอยู่พักใหญ่ ไม่ใช่เพราะพี่มีแฟนแล้วแต่งงานหรอก เรื่องนั้นผมยินดีด้วย แต่เป็นเพราะเรื่องของพ่อ...
ย้อนกลับไปหลังจากที่พ่อติดคุกอยู่ พอพ้นโทษ พ่อกลับมาอยู่ที่บ้าน แต่ทนแรงกดดันของสังคมแวดล้อมไม่ไหว สิ่งที่พ่อทำกับผมเลื่องลือไปทั่ว ชาวบ้านแถวนั้นต่างพากันก่นด่า จนพ่อต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดที่เชียงใหม่
มีอยู่วันนึง มีเบอร์โทรแปลก ๆ โทรหาผม บอกว่าเป็นพี่ชายของพ่อ ลุงบอกว่าพ่ออยากเจอผมเพื่อขอโทษ ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรก็เลยยอมไปเจอ พ่ออยู่ในสภาพที่น่าอนาถ เพราะประสบอุบัติเหตุจนกลายเป็นคนพิการ ตอนที่พ่อเห็นผม พ่อร้องไห้ออกมา กล่าวขอโทษไม่หยุดปาก ตอนนั้นแหละที่ผมรู้สึกสงสารพ่อจับใจ
ผมก้มลงกราบพ่อ บอกกับพ่อว่าผมอภัยให้ แต่ผมจะไม่กลับมาเจอพ่ออีก และครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมกับพ่อได้เจอกัน จากนั้นประมาณสองเดือนลุงก็ติดต่อมาอีกเพื่อบอกผมว่าพ่อเสียแล้ว
ผมบอกเรื่องนี้กับพี่ทีน มันโกรธผมยกใหญ่ที่แอบไปเจอพ่อโดยที่ไม่บอกมัน “เขาทำกับมึงขนาดนั้นมึงยังไปหาเขาอีกหรอ?” คำพูดของพี่ที่บอกกับผมด้วยอารมณ์โกรธ
ไม่รู้สิ… อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าผมก็ยังรักพ่อในฐานะพ่อ... แต่ก็เกลียดสิ่งที่พ่อทำกับผม
กลับมาพูดถึงปัจจุบันดีกว่า งานแต่งหรอ…? เหมือนตอนนี้ทุกคนจะมีชีวิตคู่ที่ดีกันหมด ยกเว้นผม เพราะหลังจากจบม.ปลาย ผมก็แทบจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับใครเลย เหมือนว่าตั้งแต่ม.4 จนถึงม.6 ผมใช้ชีวิตไปจนคุ้มแล้ว ผมเบื่อความสัมพันธ์ เบื่อเรื่องเซ็กซ์ เคยลอง one nights stand แต่ไม่มีใครทำให้ผมอิ่มได้เหมือนตอนที่ทำกับพี่ทีนและพี่พีเลย
ผมนั่งมองข้อความที่ทองเอกส่งมาอยู่เป็นชั่วโมง คิดในใจว่าไหน ๆ ก็ลาออกจากงานแล้ว ถือโอกาสกลับไปบ้านบ้างก็ดี เมื่อคิดได้แบบนั้นจึงเก็บเสื้อผ้าและของใช้ต่าง ๆ ยัดใส่กระเป๋า เตรียมเดินทางทันที
ใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมงผมก็มาถึงสถานที่ที่คุ้นเคย ละแวกบ้านดูแปลกตาไปหมด อะไร ๆ ดูต่างจากที่ผมจำได้ แน่นอนสิ เพราะนั่นมันก็สิบกว่าปีมาแล้ว
ผมซ้อนมอเตอร์ไซค์วินจนมาถึงบ้าน ยืนมองบ้านไม้สองชั้นหลังที่ผมโตมา ไม่น่าเชื่อว่ามันยังดูสภาพดีอยู่ ไม่เหมือนที่ผมคิดไว้ก่อนหน้า เพราะบ้านหลังนี้ไม่มีใครมาอยู่เลย ภาพในหัวผม คิดว่ามันต้องเป็นบ้านร้างผุ ๆ ไปแล้ว แต่ทุกอย่างมันแทบจะเหมือนเดิม
“อ้าว เชี้ยแล้ว!” ตอนนั้นแหละผมรู้ว่าตัวเองกำลังซวย เพราะประตูบ้านถูกล็อคกุญแจเอาไว้ แถมผมก็ไม่รู้ด้วยว่าต้องไปหาลูกกุญแจจากใคร
ขณะกำลังงมโข่ง หาหนทางเข้าบ้านอยู่นั้น เสียงหนึ่งก้ตะโกนเรียกผมจากด้านหลัง
“นิน!!”ผมหันไปตามเสียงเรียก ชายหนุ่มผิวเข้มหน้าตาคม ฉีกยิ้มหวานส่งให้
“พี่พี?”
โอ้แม้เจ้า! พี่พีแม่งโคตรหล่อ! พี่พีสวมเสื้อยืดสีกรมท่าหลวม ๆ กล้ามเนื้อแขนเป็นมัด ผิวสีน้ำตาลเข้ม ดูคล้ำกว่าตอนเด็กนิดหน่อย แต่โคตรจะถูกใจผมเลย
“เห็นแม่บ้านบอกว่าจะมีคนมา นึกว่าไอ้ทีนซะอีก” ผมยิ้มตอบอย่าขวยเขิน รีบดึงสติกลับมาตอนที่รู้ตัวว่าเผลอมองพี่พีนานเกินไป “หายหน้าหายตาไปนานเลย เป็นยังไงบ้าง? สบายดีมั้ย?”
“เอ่อ… ดีครับ... พี่ล่ะ?”
“ก็ดี แต่ช่วงนี้เหนื่อยนิดหน่อย ” พี่พีพูดพลางเดินมาไขกุญแจให้ “ต้องขอบใจไอ้ทองเอกนะ นี่ถ้ามันไม่แต่งงาน กูคงไม่ได้เจอหน้ามึงอีกใช่มั้ย?” ผมก้มหน้างุด เผลอนึกย้อนไป เหตุผลที่ผมไม่ได้กลับมาและไม่ติดต่อกับพี่พีเลย ก็เพราะว่าหลังจากที่พี่พีย้ายไปเรียนต่อปวส. ไม่นานมันก็มีแฟนใหม่ ตอนนั้นผมเสียใจมากก็เลยตัดการติดต่อกันมาตลอด “แล้วนี่มาคนเดียวหรอ?”
“ครับ...”
“เฮ้ย! เป็นอะไร?” พี่พีจับสังเกตได้ก็เลยร้องถามพลางหัวเราะ
“เปล่า!”
“งานแต่งเริ่มช่วงเย็น งั้น... เดี๋ยวเดินไปพร้อมกันนะ กูหาคนไปด้วยอยู่พอดี” พี่พียื่นกุญแจบ้านมาให้ ผมเอื้อมมือไปหยิบไว้
“ครับ...” พี่พียิ้มเบา ๆ ก่อนจะเดินกลับไป ผมมองตามครู่หนึ่ง พี่พีหันกลับมาทำให้สายตาของเราประสานกัน ตอนนั้นผมทำตัวไม่ถูกก็เลยรีบเดินเข้าไปในบ้านทันที
ทุกอย่างภายในบ้านดูไม่ต่างจากเมื่อก่อน น่าแปลกใจที่พื้นห้องสะอาดอย่างผิดหูผิดตา เก้าอี้ ตู้โชว์ ชั้นไม้ อยู่สภาพเดิม ผมก้าวช้า ๆ สายตาไปสะดุดกับกรอบรูปที่วางอยู่บนชั้นวางของ เอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาดู เป็นรูปของผมกับพี่ทีนในชุดนักเรียน ถ่ายด้วยกันตอนวันที่พี่จบ.ปลาย เห็นแล้วก็หวนคิดถึงวันเก่า ๆ ผมวางรูปลงที่เดิม ใกล้ ๆ กันนั้นก็มีรูปของผม พี่ทีนและพี่พีถ่ายด้วยกันตั้งอยู่ ใบหน้าทุกคนในรูปดูมีความสุข
ผมเดินต่อใช้มือลูบไล้ไปบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ยังคงสภาพเดิม ไม่มีฝุ่นจับเลยแม้แต่นิดเดียว วางกระเป๋าสัมภาระไว้บนเก้าอี้ เดินจับราวบันไดขึ้นไปชั้นสอง หันมองประตูห้องของพ่อครู่หนึ่ง ก่อนจะบิดลูกบิดห้องนอนตัวเองแล้วเดินเข้าไป นั่งลงบนเตียงแข็ง ๆ ใช้มือตบลงไปเบา ๆ มีละอองฝุ่นฟุ้งขึ้นเล็กน้อย เอนตัวนอน มือกุมไว้ตรงท้อง หลับตาลงเหมือนกำลังซึมซับบรรยากาศเก่า ๆ หลากหลายความรู้สึกถาโถมเหมือนฉายภาพย้อน
ผมผล็อยหลับไป รู้สึกตัวตื่นตอนที่พี่พีมาเคาะประตูเรียก
“เอ่อ... พี่รอแป๊บนึงนะ ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย!”
“อ่อ อืม ไม่แน่ใจว่าน้ำยังใช้ได้อยู่มั้ย ลองเปิดดูก่อน”
ผมถอดเสื้อผ้าออกอย่างเคยตัวเพราะปกติอยู่คนเดียวมาตลอด ลืมไปว่าตอนนี้พี่พีอยู่ตรงนี้ด้วย รีบหยิบเสื้อขึ้นมาปิดร่างกายท่อนบนเอาไว้ ดีนะที่ยังไม่ได้ถอดกางเกง พี่พีหัวเราะแล้วเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้กลางบ้าน ผมถอนหายใจในความเด๋อด๋าของตัวเอง รู้สึกเขินนิดหน่อยที่ทำแบบนั้น
“น้ำไหลมั้ย?” เสียงพี่พีตะโกนถาม
ผมลองไปบิดฝักบัวดู มันมีเสียงฟู่อยู่ครู่นึง ก่อนจะมีน้ำสีน้ำตาลขุ่น ๆ ไหลออกมาช้า ๆ แต่ผ่านไปสักพักก็ใสขึ้น “ไหลครับ!”
หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ มองนาฬิกาก็ได้เวลาเริ่มงานพอดี
เราสองคนเดินไปบ้านทองเอกด้วยกัน ไม่มีใครพูดอะไร ท่าทางประหม่าเหมือนพวกเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งจีบกันใหม่ ๆ เราเงียบกันจนบรรยากาศเริ่มจะอึดอัด พี่พีจึงเริ่มชวนคุย
“แล้วนี่… มีแฟนมั้ยเนี่ย?”
“ผมหรอ? ฮึ!” ผมส่ายหน้าตอบ คิดคำถามวนอยู่ในหัว ลังเลว่าจะถามกลับดีไหม หันมองพี่พีที่กำลังมองหน้าผมเหมือนต้องการให้ผมถามกลับ “แล้วพี่ล่ะ?”
“ไม่มีหรอก! วัน ๆ กูก็อยู่แต่ในสวนในไร่ แทบไม่มีเวลาออกไปเจอใครเลย”
“หรอ? ไม่มีสาว ๆ มาจีบบ้างหรอ? พี่ก็ยัง...หล่ออยู่นะ”
“ไม่มีหรอกกูไม่ได้สนใจใครเลย”
“หรอ? แล้ว...คนที่พี่คบตอนนั้นล่ะ?”
เราสองคนมองตากันครู่หนึ่ง ผมรู้ตัวว่าคำถามนั้นแหละที่พาเสียบรรยากาศ งึมงำกล่าวขอโทษเบา ๆ ต่างคนต่างเบือนหน้าหนีเพราะเผลอนึกย้อนถึงวันวาน
พอมาถึงบ้านทองเอก พูดตรง ๆ ว่าผมแทบจะไม่คุ้นหน้าใครเลย มีคนพาเราไปนั่งโต๊ะร่วมกับแขกคนอื่น ๆ ผมนั่งข้างพี่พีรออาหารมาเสิร์ฟ หันมองหาเพื่อนสนิทวัยเด็ก ทองเอกในชุดเจ้าบ่าวสีครีมยืนอยู่ตรงซุ้มถ่ายรูป มันหล่อกว่าในรูปโปรไฟล์ซะอีก โอบกอดเจ้าสาว ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเปี่ยมสุข เห็นแล้วก็ชวนน้ำตารื้น รู้สึกดีใจ ปลื้มใจ และยินดีไปกับมัน ผมสุขใจที่เห็นมันมีความสุข
ผมนั่งกินอาหารอยู่สักพักจนถึงช่วงที่บ่าวสาวเดินขอบคุณแขกในงาน หัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกตื่นเต้นแบบนั้น
พอทองเอกมาถึง เห็นผมนั่งอยู่ มันฉีกยิ้มออกมาจนปากเกือบถึงใบหู โผมากอดผม ผมลุกขึ้นยืนสวมกอดตอบ ลูบมือไปบนหลังอย่างแผ่วเบา
“นึกว่ามึงจะไม่มาแล้ว”
“จะไม่มาได้ไงล่ะ?” ทองเอกกระชับกอดแน่น
“ดีใจที่เจอมึงนะ”
เรากอดกันเกือบนาทีจนผมเริ่มเกรงใจเจ้าสาว
“ดีใจกับมึงด้วยเหมือนกัน”
“แล้วนี่มึงจะอยู่นานมั้ย?”
“ก็คงซักสามสี่วันน่ะ”
“โอเค ดีเลยจะได้มีเวลาคุยกัน” ทองเอกวางมือบนไหล่ผม ลูบเบา ๆ “อยากได้อะไรบอกได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ”
เรายิ้มให้กันครู่หนึ่งก่อนที่ทองเอกจะดึงผมไปกอดอีกครั้ง “ไปได้แล้ว!” ผมบอกกับมันแล้วขำออกมา
พอทองเอกเดินไปโต๊ะอื่น พี่พีแกล้งพูดแซวว่า กอดกันซะเจ้าสาวหึงแล้ว ผมหัวเราะแก้เขิน ทำเป็นตักอาหารในจานเข้าปาก
“แล้วนี่ทำงานอะไรอยู่หรอ?”
“กราฟิกดีไซน์น่ะ ก็ดีอยู่... แต่ก่อนจะมานี่ผมเพิ่งยื่นใบลาออกไป”
“อ้าว ทำไมล่ะ?”
“ผมว่าจะลองออกมาเป็นฟรีแลนซ์ดู อีกอย่างผมก็เบื่อชีวิตในเมืองด้วย… ผมคิดว่าบางทีผมอาจจะ… กลับมาอยู่ที่บ้าน”
“จริงหรอ?”
“อืม… ถ้าตอนนี้บ้านเราใช้เน็ตได้อะนะ ฮ่า ๆๆ”
“ได้สิ! ที่โฮมสเตย์กูมี wifi ให้ใช้แล้ว”
“หืม? พี่ทำโฮมสเตย์ด้วยหรอ?”
“เออ! ตอนมาถึงไม่ได้มองเลยหรอ? กูถมนาทำที่พัก แล้วก็ขยายสวนผลไม้ด้วย”
“งั้นผมไม่ติดเน็ตละ ไปแอบใช้ wifi ฟรีที่บ้านพี่แล้วกัน”
“ไม่ได้ กูคิดค่าใช้!”
“งก!” พวกเราหัวเราะกันอย่างขบขัน นั่นช่วยให้ช่องว่างระหว่างเราในตอนแรกลดทอนลง เราสบสายตากัน คราวนี้ผมไม่ได้หลบสายตาแล้ว “พี่ยิ้มอะไร?”
“เปล่าซะหน่อย!”
“ก็ยิ้มอยู่เนี่ย!”
หลังจบงานแต่งทองเอก ผมก็เดินกลับบ้านมาพร้อมกับพี่พี ผมถามพี่พีถึงเหตุผลที่ทำไมบ้านผมถึงยังดูสภาพดี ได้ความว่าพี่ทีนจ่ายเงินจ้างแม่บ้านที่โฮมสเตย์ให้คอยมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์ เราคุยกันต่อนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกัน ผมเดินกลับเข้ามาในบ้าน ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้กลางบ้าน ความเงียบเข้าครอบงำความคิด หวนนึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ภายในบ้านมืดสนิท มีเพียงแสงจากดวงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างกระจกเข้ามา บรรยากาศตอนนี้มันพาผมกลับไปวันที่พ่อทำเรื่องร้ายผม ใบหน้าร้อนวูบวาบเหมือนตอนที่โดนพ่อตบ ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่โทรหาพี่ทีน
“พี่…”
“ว่างไงนิน? โทรมาซะดึกเลย”
“ไม่มีอะไรหรอกผมแค่… ตอนนี้ผมอยู่บ้าน... บ้านเรา มางานแต่งทองเอก นึกถึงพี่ก็เลยโทรมา”
“อ้าว หรอ? เออ มึงอยู่ก่อนนะ กูว่าจะกลับไปพรุ่งนี้พอดีเลย”
“จริงป้ะ?”
“เออ! เจอกันพรุ่งนี้ มีคนที่กูอยากให้มึงเจอด้วย”
“ใคร? แฟนพี่อะนะ? ผมไม่เห็นจะอยากเจอเลย ฮ่า ๆๆ”
“เออ! เอาไว้พรุ่งนี้ก็รู้เอง”
หลังวางสายผมก็หวนคิดถึงอดีต เราสองคนพี่น้องไม่ได้มีเรื่องอย่างว่ากันอีกเลย เมื่อเริ่มโตขึ้น พอเป็นผู้ใหญ่ เราแยกแยะได้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ถึงอย่างนั้นผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำกับพี่มันไม่ใช่แค่ความใคร่ แต่เป็นความรัก และลึก ๆ แล้วผมก็ยังต้องการมันอยู่ แต่ในตอนนี้พี่ทีนมีครอบครัวไปแล้ว เราจึงต้องหยุดเรื่องนั้นกันเอาไว้ให้เป็นเพียงอดีต
เพราะรู้สึกว่าง ไม่รู้จะทำอะไร ผมจึงลุกไปหยิบแล็บท้อปขึ้นมา เข้าโปรแกรมเวิร์ด พิมพ์เรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตผมลงไป ท่ามกลางสภานที่ที่เกิดเรื่อง ความทรงจำเด่นชัดราวกับกำลังนั่งดูผ่านทีวี
เสียงเคาะประตูดังขึ้นปลุกผมจากภวังค์ ผมเดินไปเปิดประตู พบว่าพี่พียืนรออยู่
“ขอเข้าไปได้ไหม?”
“ครับ” ผมเบี่ยงตัวให้พี่พีเข้ามา
“กูเอาผ้าห่มมาให้ แล้วนี่... ไฟฟ้ายังใช้ได้ปกติใช่ไหม? ทำไมอยู่มืด ๆ แบบนี้?”
“ผมขี้เกียจเปิดน่ะ คิดว่าเดี๋ยวจะขึ้นห้องแล้ว”
“หรอ? โอเค... ถ้างั้น กูไม่กวนแล้ว… มีอะไรก็เรียกได้เลยนะ” พี่พีทำท่าเหมือนจะกลับ แต่ผมเอื้อมมือไปดึงแขนรั้งเอาไว้ “เอ่อ... พี่พี... พี่... อยู่เป็นเพื่อนผมก่อนได้ไหม?”
“ทำไม? กลัวหรอ?”
“เปล่าหรอก แค่แบบ… พอมาอยู่ตรงนี้แล้วก็นึกถึงเรื่องเก่า ๆ ผมไม่อยากอยู่คนเดียว” ผมส่งสายตาอ้อนวอน พี่พียิ้มอ่อนพยักหน้ารับเดินตามเข้ามา
เราสองคนนั่งคุยกันบนเก้าอี้ไม้ หัวเข่าแนบชิดกันทั้งที่มีพื้นที่เหลืออีกตั้งกว้าง
“แล้ว... แม่ตุ๊เป็นไงบ้าง? สบายดีไหม?”
“ก็คงสบายดีแหละ บนนู้นอ่ะนะ!” พี่พีบอกแล้วชี้นิ้วขึ้นไปด้านผม ผมเข้าใจทันทีว่านั่นหมายถึงอะไร
“อ้าว เอ่อ... ผมเสียใจด้วยนะครับ” พี่พีพยักหน้าหงึก ๆ ขยับไหล่มาชนกัน “ขอโทษที่ไม่ได้กลับมาช่วยงานศพเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก มันค่อนข้างกระทันหันน่ะ ขนาดไอ้ทีนกูยังไม่ได้บอกข่าวมันเลย”
เรานั่งเงียบ ๆ กันอยู่แบบนั้นโดยไม่มีใครพูดอะไร เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของกันและกันที่เต้นระรัวอยู่ในอก
“นี่มึงยังไม่มีแฟนจริง ๆ หรอ? มึงก็น่ารักนะ ไม่มีใครมาจีบเลยหรอ?”
“ไม่มีหรอก ผมแทบจะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นเลย” อย่างที่บอก คงเพราะประสบการณ์อันโชกโชนวัยเด็ก ทำให้พอโตมาผมแทบไม่สนใจเรื่องการมีเซ็กซ์เลย จนเมื่อได้กลับมาที่นี่แล้วเจอกับพี่พีอีกครั้งนั่นแหละ
“ไม่น่าเชื่อ!”
“ฮึ! ผมไม่ใช่พี่นะ! ที่พี่ยังไม่ยอมมีแฟนก็คงเพราะจะได้ฟันสาวได้เรื่อย ๆ แบบนั้นใช่มั้ยล่ะ?”
“แหม มึงเห็นว่ากูเป็นคนหื่นขนาดนั้นเลยหรอ?”
“ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่เบานี่…” เราสบตากัน ในตอนนั้นผมโคตรอยากจูบลงไปบนริมฝีปากบาง ๆ ของพี่พีเลย
“มันก็มีบ้าง แต่ไม่ได้เยอะอะไรหรอก นี่กูเองก็ไม่ได้มีอะไรกับใครมา...” มันทำเป็นนับ “เกือบห้าปีแล้วมั้ง”
“โม้!”
“เพราะคิดถึงแต่มึงไง!” พี่พีพูดแล้วเลื่อนมือมากุมมือผม “ไม่มีใครทำให้กูมีความสุขได้เหมือนที่มึงเคยทำ”
มันค่อย ๆ โน้มศีรษะเข้ามาหาผมแล้วบรรจงจูบลงบนริมฝีปากผมอย่างแผ่วเบา เอ่ยเสียงกระเส่า “กูคิดถึงมึงนะ” แล้วจูบผมอีกครั้ง
ผมตอบสนองความต้องการของเราทั้งคู่โดยการจูบตอบ “ผมก็คิดถึงพี่”
เราเริ่มจูบปากกันอย่างดูดดื่ม พี่พีจับมือผมไปกุมเป้าตัวเองที่แข็งชูชัน ดูเหมือนเจ้าสิ่งนี้เองก็จะเติบโตไปพร้อมกับเจ้าของ ผมแอบรู้สึกตกใจที่มันมีขนาดใหญ่กว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นซะอีก
“หือ มันใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ?” ผมถามพลางคลึงเป้าพี่พีผ่านกางเกงไปด้วย มันยิ้มอย่างภูมิใจ “ก็ตอนนั้นได้มึงคอยดูดเกือบทุกวัน มันก็เลยใหญ่แบบนี้แหละ”
พี่พีถอดกางเกงตัวเองออก ควยขนาดแปดนิ้ว หัวบานทะโร่ดีดผึง กระตุกหงึก ๆ คล้ายกับกำลังทักทายคนคุ้นเคย ผมใช้สองมือกำรอบแท่ง ส่วนหัวยังเลยพ้นฝ่ามือขึ้นมา
“โคตรใหญ่เลย”
“มันคิดถึงมึงมันอยากให้มึงอม” ผมไม่ขัดศรัทธา อ้าปากครอบหัวควยแปดนิ้วของพี่พีอย่างหิวกระหาย กลืนมันเข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งลำด้วยซ้ำ พยายามดูดดุน และใช้ลิ้นวนรอบหัวควยอย่างชำนาญ แม้จะห่างเซ็กซ์มานาน แต่ก็เหมือนนักดาบที่ฝึกปรือบ่อย ๆ ความทรงจำกล้ามเนื้อทำให้บรรเลงเพลงชิวหาได้อย่างช่ำชอง “โอว… โคตรเสียว ไม่ได้โดนดูดควยมานานมาก เสียวจนเกือบจะแตกเลย!” ผมไม่ตอบอะไร ใช้ลิ้นโลมเลียส่วนปลายไล่ลงไปจนถึงไข่แฝดใบเขื่อง พี่พีเตรียมตัวมาดีมากเหมือนเมื่อก่อน เพราะมันทำความสะอาดควยมาก่อนทำให้ไม่มีกลิ่นอับเลย มีกลิ่นสบู่หอมอ่อน ๆ ผมสามารถปรนนิบัติกับท่อนควยได้เต็มที่เหมือนทุกครั้ง ผมชอบพี่พีตรงจุดนี้มาตลอด
“นิน! พ่อก่อน กูจะแตก!” พี่พีใช้มือดันหัวผม “อืมมม อืมมม” ผมไม่ฟังยังคงดูดเลียควยดุ้นโปรดต่อจนชุ่ม เพราะร้างลามานาน เมื่อมีควยเข้าปากแล้วก็ไม่คายออกหรอก ผมใช้ริมฝีปากโอบรัดควยส่วนบนเอาไว้ และใช้ลิ้นดุนเส้นสองสลึงวนรอบคอหยัก ขณะที่อีกมือหนึ่งกระกระถอกควยพี่พีขึ้นลงรัว ๆ “อูยยย ซี้ดด นิน กูจะแตก! พอก่อน!” ผมโขกปากขึ้นลง ดูดดุนท่อนเอ็นอุ่นที่กระตุกหงึก ไข่แฝดหดตัวพร้อมระเบิดน้ำรักออกมา “จะแตกแล้ว!! โอ้ยยยย แตกแล้ว!!! อ่าาห์” น้ำควยพี่พีพุ่งออกมาอย่างแรงจนผมรู้สึกได้ว่ามันชนในลำคอหลายระลอก มันเยอะมากจนไหลล้นออกมาตรงมุมปาก ผมพยายามดูดกลืนมันลงไปอย่างคนกระหายน้ำ ดื่มด่ำกลิ่นคาวและรสชาติที่ห่างหายมานานให้สาแก่ใจ “ไวจัง” ผมแกล้งแซว
“ก็มึงนั่นแหละ! กูไม่โดนใครดูดเลยมาตั้งหลายปี มึงทำแบบนี้กูก็แตกนะสิ!” พี่พีบ่น ดึงผมขึ้นไปจูบแลกลิ้นทั้งที่ในปากผมยังคงคาวคลุ้งไปด้วยน้ำกาม มือก็ลูบไล่ไปตามตัว “ตัวมึงหอมเหมือนเมื่อก่อนเลย ทำกูเงี่ยนอีกแล้วเนี่ย” มันจูบผม ซุกไซร้หน้าลงบนคอแล้วงับอย่างหื่นกระหายทำเอาผมสยิวจนครางเสียงสั่น “อืมม พี่พี...” มันดึงตัวผมขึ้นไปนั่งบนตัก ออกแรงดูดจนผมดิ้นพล่าน “ขอเย็ดได้มั้ย?”
“ขึ้นไปบนห้องดีกว่า”ผมบอก
พี่พีดึงกางเกงตัวเองขึ้นสวม แล้วอุ้มตัวผมลอย ผมกอดมันแน่นเพราะกลัวตก แต่พี่พีดูแข็งแรงมาก มือของผมลูบไปบนกล้ามแขนเป็นมัดอย่างหลงใหล จนกระทั่งมันพาผมมาถึงเตียง
พี่พีถลกเสื้อผมขึ้นแล้วถอดออก ก่อนจะดันตัวผมให้นอนลง ถอดเสื้อผ้าตัวเองแล้วหันมาดึงกางเกงผมออกเหวี่ยงตามไป มันจับขาผมให้อ้าออก ฉกลิ้นเลียร่องก้นผมอย่างหิวโหย ดีที่ผมเองก็เพิ่งทำความสะอาดเตรียมพร้อมเอาไว้แล้วเหมือนกัน “พี่พี...ผมเสียว” ผมครางออกมา บิดตัวอย่างเสียวซ่าน พี่พีหันไปหยิบกางเกงขาสั้นตัวเองขึ้นมา ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบเอาเจลหล่อลื่นออกมา “แหม! นี่เตรียมตัวมาเลยหรอเนี่ย? คิดว่ายังไงก็ได้เย็ดแน่นอนหรอ?” ผมถาม อดหัวเราะไม่ได้ที่มันเตรียมพร้อมขนาดนี้ “แค่เอามาเผื่อไว้น่ะ” มันยิ้มอย่างเขิน ๆ นั่นทำให้มันยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่
พี่พีบีบเจลใส่มือชะโลมนิ้วตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ ยัดเข้ามาทีละนิ้ว ขยับข้อมือเข้าออกเพื่อให้ผมผ่อนคลาย จากหนึ่งนิ้วเป็นสอง สาม และสี่! นั่นก็เพราะขนาดควยของพี่พีใหญ่มากจึงต้องพยายามทำให้รู้ทวารผมคลายตัว และพร้อมรับควยดุ้นเขื่อง มันทำผมเสียวกระสันจนผมแทบไม่เชื่อแล้วว่ามันห่างเรื่องแบบนี้มานานจริง ๆ
“มึงพร้อมยัง?” พี่พีจ่อหัวควยตัวเองตรงปากรูแล้วดันเข้ามาอย่างช้า ๆ แค่ส่วนหัวก็ทำให้รู้สึกเสียวซ่านจนแทบจะขาดใจ ผมกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ บิดตัวไปมาเหมือนไส้เดือนโดนขี้เถ้า “อย่าเกร็งนะ” พี่พีบอกแล้วค่อย ๆ ดันควยตัวเองเข้ามาเรื่อย ๆ ผมรู้สึกท้องหวิววาบเหมือนตอนที่เล่นเครื่องเล่นสูง ๆ ท่อนลำขนาดแปดนิ้วคืบคลานเข้ามาจนในที่สุดพงหมอยหยาบ ๆ ของพี่พีก็แนบชิดก้นผม พี่พียัดควยเข้ามาจนสุดแล้วแต่ผมกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลยแม้แต่น้อย มันมีแต่ความเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
“อูยยยย ตูดมึงยังแน่นเหมือนเดิมเลย โคตรฟิต ตอดหัวควยกูตุบ ๆ เลย”
“พี่พี... ผมเสียว ควยพี่มันแน่นรูผมไปหมด” ผมขยับบั้นท้ายเป็นการตอบสนอง พี่พีเห็นอย่างนั้นจึงค่อย ๆ ดึงควยออกช้า ๆ จนเกือบหลุดก่อนจะดันกลับเข้ามาจนสุด มันทำแบบนั้นอยู่สักพักจนรู้สึกว่าผมพร้อมแล้ว “ชอบมั้ย? กลับมาอยู่ที่นี่ให้กูเย็ดมึงทุกวันเหมือนเมื่อก่อนได้มั้ย?”
“อืมมม พี่พี...ผมเสียว”
“มึงเป็นเมียกูนะ กูยอมให้มึงหมดทุกอย่างเลย”
“งั้นพี่ต้องห้ามไปทำแบบนี้กับใครอีกนะ” ผมใช้สองมือคล้องคอพี่พีเอาไว้ ส่งสายตาเว้าวอน
“กูจะเย็ดมึงคนเดียว จะมีมึงเป็นเมียคนเดียวเท่านั้น ไม่เย็ดใครอีกเลย อูยยย”
“งั้นพี่ก็เย็ดเมียเถอะครับ เมียเงี่ยนเหลือเกิน” พี่พีโน้มตัวมาจูบผมซอยเอวถี่ยิบ
เสียงเนื้อกระแทกกันดัง พั่บ! พั่บ! พั่บ! ระคนด้วยเสียงครางของเราทั้งคู่ เม็ดเหงื่อผุดตามร่างกาย อุณหภูมิภายในห้องพุ่งสูงขึ้นเพราะไฟราคะ
“อ่าาาห์ อ่าาาห์ ผัวเสียวควยที่สุดเลย!”
“ผมก็เสียว ควยพี่โคตรใหญ่!”
“เรียกกูว่าผัวสิ! มึงเป็นเมียกูแล้วนะ” พี่พีพูดเสียงสั่นเพราะกระเด้าผมไม่หยุด
“ครับผัว! ผัวเย็ดโคตรเสียวเลย อ่าาห์ ซี้ดดส์” เมื่อได้ยินแบบนั้น พี่พีก็ได้ใจ จับขาผมพาดบ่าแล้วซอยเอวถี่ยิบ พั่บ พั่บ พั่บ เตียงไม้เก่า ๆ โยกสั่นเสียงลั่นเอี้ยดอ้าดตามจังหวะเอวของพี่พีควยลำโตครูดไปตามผนังลำไส้ หัวควยอัดกระแทกจุดกระสันจนผมเสียวซ่านครางกระเส่า น้ำแตกพุ่งกระฉุดออกมา “พี่พี! ผมแตกแล้ว!! เมียแตกแล้ว!! อ่าาห์”
“อ่าาห์ กูก็จะแตกแล้ว อูยยส์ เมียจ๋าา ผัวน้ำแตกแล้ว!!” สิ้นเสียง พี่พีก็ซอยเอวรัว บดท่อนลำเข้ามาจนสุดโคน อัดน้ำควยฉีดเข้ามาในตัวผมจนอุ่นวาบไปทั้งลำไส้ “อูยยย รูมึงโคตรแน่นกูจะเย็ดแม่งทุกวันเลย! ซี้ดดส์”
“ควยใหญ่ขนาดนี้ โดนพี่เย็ดทุกวันตูดผมบานพอดี” พี่พีหัวเราะฟุบตัวลงบนอกผม พรมจูบไปทั่วขณะที่ยังคงขยับเอวเนิบ ๆ ไม่ยอมถอนควยออก
“นิน... กูโคตรรักมึงเลย ถึงเราจะห่างกันไปนานแต่กูก็รักมึงมาตลอด... ที่กูพูดเมื่อกี้กูหมายความอย่างนั้นจริง ๆ นะ มึงกลับมาอยู่กับกูตลอดไปเลยได้ไหม?”
“ผมก็บอกไปแล้วไงว่าผมจะกลับมาอยู่ที่บ้าน”
“มึงไปอยู่บ้านกูเลยก็ได้ ไหน ๆ มึงก็เป็นเมียกูแล้ว เราก็ควรจะอยู่บ้านเดียวกันสิ!” พี่พีอ้อนใบหน้าก็ซุกไซร้ซอกคอผมไปด้วย
“เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยคิด”
ผมผลักพี่พีนอนหงายแล้วนั่งทับควยแปดนิ้วที่ยังคงแข็งคาตูดผมอยู่ มือก็ลูบไล้ไปบนกล้ามท้องลอนแน่นอย่างเย้ายวน โยกเอวขึ้นลงเนิบ ๆ ก่อนจะเริ่มขย่มเร็วขึ้น พี่พีใช้มือช้อนก้นผมเอาไว้ ประคองขึ้นลงตามจังหวะ “อูยยย เย็ดเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อจริง ๆ เมียกู ซี้ดดส์” ผมกระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบดัง ป้าบ ป้าบ ลั่นห้อง “อ่าาห์ พี่พีผมเสียว ควยพี่มันเข้าไปลึกมาก” ผมเงยหน้าร้องครางด้วยความเสียวที่สุดจะทานทน “อูยยย ผัวจะแตกอีกแล้วเมียจ๋า ขย่มแรง ๆ เลย” ผมโหย่งตัวแล้วกดตูดลงบดเบียนท่อนควยแปดนิ้วกลืนหายเข้าไปมิดด้าม ควยพี่พีร้อนฉ่า ผมขย่มอยู่แบบนั้นจนกระทั่งน้ำแตกออกมาอีกครั้ง “อ่าาห์ ผมแตกแล้ว!! แตกอีกแล้ว อ่าาห์” น้ำควยพวยพุ่ง นองเต็มท้องพี่พี หูรูดที่ขมิบรัดทำให้มันเองก็น้ำแตกคาตูดผมไปพร้อม ๆ กัน “อ่าาห์ กูก็แตกแล้วเหมือนกัน เสียวหัวควยฉิบหาย โอ้ยยย ซี้ดดส์”
ผมฟุบตัวลงบนอกพี่พี เราทั้งคู่หอบหายใจรวยริน นอนกอดกันตัวเปลือยเปล่าอยู่แบบนั้นเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะลุกไปอาบน้ำแล้วกลับมานอนกอดกันต่อโดยที่ยังไม่ใส่เสื้อผ้า พี่พีพร่ำบอกรักผมไม่หยุด เรานอนจูบ นอนลูบไล้กันอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน
ในตอนนี้ผมตระหนักได้แล้ว ว่านี่คงเป็นอีกเหตุผลนึงที่ตั้งหลายปีก่อนหน้านี้ผมแทบจะไม่ได้มีเซ็กซ์กับใครเลย นั่นก็เพื่อจะได้กลับมาทำมันอย่างเต็มอารมณ์รัก กับผัวคนแรกของผมอย่างพี่พี
--------------------------------------------------------------------
ในตอนเช้า เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ปลุกผมตื่น พี่พียังคงสลบไสลนอนกอดผมอยู่ไม่ห่าง ผมกดรับสายอย่างคนงัวเงีย เผลอด่าในใจว่าลูกค้าคนไหนโทรมาสั่งงานแต่เช้า
“ฮัลโหล ครับ?”
“นิน! เปิดประตูบ้านให้พี่หน่อย!” ผมตกใจยกมือถือขึ้นมาดูเบอร์ถึงรู้ว่าเป็นพี่ทีนที่โทรมา
“พี่ถึงแล้วหรอ?”
“เออ! มาเปิดประตูให้หน่อย!”
“อืม! เดี๋ยวผมออกไป!” ผมกดวางสาย รีบหันไปปลุกพี่พี “พี่พี!! พี่พี!! พี่ทีนมาแล้ว!”
“หืม? อะไร?” มันงัวเงียดึงผมกลับไปกอด ผมต้องดันตัวมันออก
“พี่ทีนมา! อยู่หน้าบ้าน ลุกไปแต่งตัวก่อน!” พี่พีตาสว่างทันที รีบลุกพรวดหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาใส่
ผมแต่งตัวเดินลงมาเปิดประตูให้พี่
“เพิ่งตื่นหรอ? ทำไมมาช้าจัง?”
ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่โผกอดพี่ด้วยความคิดถึง แม้เราจะคุยกันทางโทรศัพท์อยู่บ่อย ๆ แต่เราก็ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว พี่ทีนสวมกอดผม จับหน้าผมไปหอมแก้มซ้ายขวาอย่างที่เคยทำตอนเด็ก ๆ พอมันมาทำในตอนนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกเขินนิดหน่อย
“โอ้ยพี่! ไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
“ไม่ใช่เด็กก็หอมได้ โตแค่ไหนมึงก็ยังเป็นน้องกู”
“นี่พี่ขนของอะไรมาเยอะแยะเนี่ย?” ผมถามขณะมองข้ามไหล่พี่ทีนไปยังรถกระบะสีบลอนซ์ของพี่ ด้านหลังที่มีข้าวของอยู่เต็มหลังรถ
“พี่จะกลับมาอยู่ที่บ้านเรา”
“ห้ะ? พี่ด้วยหรอ?”
“หืม? มึงก็จะกลับมาหรอ?”
“ก็...อืม…ผมคิดไว้ว่าอย่างนั้น”
“แล้วงานมึงอ่ะ?”
“ผมลาอกไปแล้ว! ลองออกมาเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัว”
“เออ ดีแล้ว กลับมาอยู่ด้วยกัน มึงไปอยู่ไกล ๆ กูก็อดเป็นห่วงไม่ได้” ขณะพูดสายตาของพี่ก็มองสำรวจผมเหมือนจับผิด ผมยกมือขึ้นมือปิดรอยแดงตรงคอ แต่คงจะไม่ทันแล้ว
“เฮ้ย! เพื่อน!!”พี่พีโผล่มาทักทายจากด้านหลังผม ทั้งสองคนโผกอดกันด้วยความคิดถึง “มึงเป็นไงบ้าง? ไม่เจอนานเลย”
“สบายดี มึงล่ะเป็นไงบ้าง? โคตรคิดถึงมึงเลย”
“คิดถึงมึงเหมือนกัน”
พี่ทีนยืนนิ่งจ้องหน้าพี่พีแล้วหันมามองผม
“เฮ้ย! เดี่ยวนะ! ทำไมมึงมาอยู่ในบ้านกูเนี่ย?” พี่พียิ้มหน้าเจื่อนก่อนจะหันมาโอบไหล่ผม “อะไรของพวกมึงเนี่ย? เจอกันวันเดียวก็เอากันเลยหรอ?” ผมหัวเราะแก้เขิน สายตาเหลือบไปเห็นพี่แอนที่เพิ่งเดินลงจากรถ พี่แอน คือผู้หญิงที่พี่แต่งงานด้วย เธอส่งยิ้มให้ ผมจึงยิ้มตอบอย่างเป็นมิตร จากนั้นเธอก็เดินไปเปิดประตูแคป เด็กผู้ชายวัยห้าขวบสองคน กระโดดลงมาอย่างตื่นเต้น
“พี่! นั่น…” ผมชี้นิ้วไปยังเด็กสองคนนั้น พี่ทีนเดินกลับไปหาภรรยาตัวเองจูงเด็กทั้งสองคนเดินตรงมาทางผม
“สวัสดีอานินก่อน!”
“แฝดหรอ?”
“อืม~ นี่ไนซ์ กับไนน์” เด็กสองคนยกมือไว้ผมอย่างนอบน้อม น่ารักสมวัย ผมยื่นมือไปลูบหัวเด็กน้อยทั้งคู่อย่างเอ็นดู หลานชายทั้งสองคนหน้าตาคล้ายพี่ทีนตอนเด็กอย่างกับแกะ
“สงสัยต้องขยายบ้านแล้วมั้ง?”ผมบอก หลานคนนึง ไม่รู้ว่าใคร อ้าแขนให้ผมอุ้ม ผมจึงก้มลงไปอุ้มหลานขึ้นมาประคองไว้
“พี่ก็คิดว่างั้น พี่อยากเปลี่ยนชั้นล่างให้เป็นปูน ขยายออกไปแล้วทำห้องเพิ่มอีกซักสองห้อง”
“ให้หลานใช้ห้องของเราก็ได้นะ ส่วนพี่กับพี่แอนก็ไปใช้ห้องพ่อ…”
“แล้วมึงล่ะ?”
“เอ่อ… ผม…”
“กูจะให้ไอ้นินไปอยู่กับกู” พี่พีโพล่งบอก พี่ทีนขมวดคิ้วอย่างสงสัย “ผัวเมียกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ!”
“พี่พี!” ผมรีบปรามเพราะไม่อยากให้พูดเรื่องนี้ต่อหน้าเด็ก ๆ “พี่พาพี่แอนกับหลานเข้าบ้านเถอะ” ผมรีบตัดบทก่อนที่พี่ทั้งสองคนจะตีกัน
เย็นวันนั้นพวกเราตั้งวงกินหมูกระทะกันโดยมีทองเอกกับแฟนมันมาร่วมวงด้วย เราพูดคุยกันหลายเรื่องจนหายคิดถึง ทองเอกดีใจที่ผมจะกลับมาอยู่บ้าน ลอบกุมมือผมตอนที่เมียตัวเองเผลอ ผมต้องสงวนท่าทีเอาไว้เพราะเกรงใจเมียมัน
“จำได้มั้ยที่กูเคยบอก... กูหวงมึง เพราะงั้นมึงต้องเลือกดี ๆ ขอให้เป็นคนนี้นะ” ทองเอกหัวเราะ พยักหน้าหงึก ๆ เป็นอันรู้กัน ถึงแม้เราจะห่างหายกันไปนานแต่ทองเอกก็ยังคงเป็นเพื่อนรักเบอร์หนึ่งของผมเสมอ
พี่พีใช้โอกาสนี้ประกาศว่ากำลังคบกับผม ซึ่งทุกคนก็เข้าใจและยินดีด้วย คิดว่านะ... พี่ทีนดูเหมือนจะยังออกอาการหวงนิดหน่อย แต่สุดท้ายแล้วก็ยอม จะไม่ยอมได้ไงล่ะ? ก็ในเมื่อทุกคนมีชีวิตคู่ที่ดีกันหมด ถึงคราวที่ผมควรมีความสุขบ้างแล้ว
ไม่กี่วันหลังจากที่ผมเคลียร์ธุระจัดการเรื่องงานทุกอย่างจนเสร็จผมก็กลับมาอยู่บ้านทันที ประมาณหนึ่งเดือนต่อจากนั้น ผมย้ายไปอยู่กับพี่พีเต็มตัว พี่พีแสดงความจริงใจโดยการพาผมไปจดทะเบียนสมรสมาถึงตรงนี้ผมมีความสุขมากเหลือเกิน ได้อยู่กับคนที่ผมรักอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา มองรอบตัวก็เจอแต่คนที่ผมรัก พี่ทีน พี่พี ทองเอก รวมทั้งหลานชายทั้งสองคนเพิ่มเข้ามา ในตอนนี้ผมพร้อมจะโอบรับทุกสิ่งที่จะตามมาไม่ว่าร้ายหรือดี เพราะผมรู้ว่าไม่ว่าชีวิตจะเหวี่ยงเรื่องหนักหนาแค่ไหนเข้ามา ผมจะยังมีคนเหล่านี้เคียงข้างเสมอ
ขอให้ความสุขรายล้อมแด่ทุกท่าน โดยผม,พี่,เพื่อนพี่,และ...ทองเอก
------------------------------------ จบ -----------------------------------------------
จบแล้ว! จริง ๆ อยากให้ยึดเอาตอนที่ 8 เป็นตอนจบไปเลยอย่างที่บอกเอาไว้ ตอนนี้เหมือนแค่เอามาเสริมเป็นบทสรุปชีวิตของนินเฉย ๆ
ขอโทษคนอ่านบางคน ที่เรื่องนี้อาจจะจบได้แบบไม่ตรงใจ บางคนคงคิด... "นี่มาอ่านเรื่องเสียวนะ มันควรจบแบบเสียว ๆ สิ ไม่ใช่จบแบบละครคุณธรรมแบบนี้!"
ก็นะ... พอลองอ่านย้อนไป ผมก็อยากให้ชีวิตของไนน์ลงเอยดี ๆ
ถึงยังไงก็ขอขอบคุณที่ติดตามอ่าน และให้กำลังใจ คอมเม้นต์พูดคุยกันมาจนถึงตอนนี้ ขอบคุณมากครับ
บางคนบอกว่าไม่อยากให้จบ อยากให้เขียนต่อเรื่อย ๆ ผมก็อยากนะ แต่ไอเดียไม่มีเลย จริง ๆ ก็ไม่ได้คิดว่าจะเขียนยาวมาจนถึง 9 ตอน ด้วยซ้ำ
ไอเดียตั้งต้น คือ ไถทวิตแล้วไปเจอคลิปคนเยไก่ :lol(มีคนถามมันเยได้จริงหรอ? ผมเห็นเค้าทำได้จริงนะ 555)
ก็เลยลองเขียน "เด็กเกเรชอบแกล้งคนอื่น แล้วเด็กที่โดนแกล้งแอบเห็นเด็กเกเรเยไก่ ก็เลยแก้แค้น" จริง ๆ ไอเดียมีแค่นั้นเลย
เรื่องพี่ เรื่องพ่อ ก็ใส่เข้ามาตอนที่เขียนไปแล้ว 3-4 ตอน ผมเขียนดองเอาไว้ก่อนจะลง ก็เลยตั้งชื่อตามนี้ "ผม, พี่, เพื่อนพี่, และพ่อ"
อีกเหตุผลนึงที่ไม่ได้เขียนต่อ ก็เพราะ ผมกำลังจะเปลี่ยนงาน อาจไม่มีเวลาพิมพ์เหมือนตอนนี้ ไม่อยากพิมพ์ค้างเอาไว้แล้วดองยาว ๆ
ไม่แน่ใจว่าพอทำงานใหม่แล้วอาจจะเหนื่อยจนไฟในการพิมพ์นิยายหมดไปแล้วทิ้งเรื่องค้างคา ก็เลย...จบดีกว่า
---------------------------
ส่วนตอนจบอีกแบบ ก็คงจะไม่ได้ลงให้แล้ว เอาเป็นว่าเล่าคร่าว ๆ แล้วกัน
ย้อนกลับไปตอนที่่พ่อข่มขืนนิน แล้วบอกว่า จะพาเพื่อนมารุมเย็ด ซึ่งพ่อก็ทำแบบนั้นจริง ๆ
นินโดนกระทำหนักมากจนร่างกายพัง วันนึงพี่ทีนกับพี่พีบังเอิญกลับมาเห็นตอนพ่อและเพื่อนกำลังรุมโทรมนินพอดี
ด้วยความโกรธ พี่ทีนจึงหยิบไม้ ฟาดเข้าที่ท้ายทอยของพ่อ จนพ่อตุย...
จากนั้นพี่ทีนก็โดนจับ นินถูกส่งไปอยู่กับแม่ ก็โดนพ่อเลี้ยงเยอีก
ในแง่ของการเป็นเรื่องเสียว ผมว่ามันก็เสียวนะ แต่สิ่งที่นินเผชิญมันโหดร้ายเกินไป ก็เลยไม่เขียนออกมา
ยังแอบคิดเหมือนกันเลยว่านี่ผมกำลังเขียนนิยายผิดที่ผิดทางมั้ย? มันควรจะเน้นเสียวไว้ก่อนสิ! เรื่องอื่นไว้ทีหลัง คนเข้ามาอ่านเรื่องเสียวเพราะอยากน้ำแตก (ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น 555)
แต่ก็นะ...
-----------------------------
สำหรับคนที่ถามถึงช่องทางอื่น ๆ ผมมีเขียนนิยายใน รี้ดอะไรท์ สองเรื่อง เรื่องนึงเป็นแนวฟีลกู้ด อีกเรื่องก็แนวซอมบี้
ทั้งสองเรื่องไม่มีฉากเย และเป็นเรื่องแรก ๆ ที่ผมเริ่มเขียน สำนวน การบรรยายอาจไม่ค่อยดี (ถึงตอนนี้ก็ยังคิดว่ายังไม่ค่อยดีอยู่ ติดคำซ้ำซาก เต็มไปหมดจนต้องมานั่งแก้ทุกครั้ง)
ก็เลยคิดว่า ไม่เป็นไรครับ ไม่ฝากผลงานดีกว่า
ปล. ขอบคุณนักอ่านในเวปนี้มาก cheer up นักเขียนกันสุด ๆ ผมโคตรมีกำลังใจในการเขียนนิยายเลย
ตัดภาพไปที่นิยายสายหลักของตัวเอง... อย่าพูดถึงคอมเม้นต์เลย ยอดวิววันละไม่ถึง 10 คน 5555 ;P
สนุกมากครับ ดีมากกกแฮปปี้สุดๆ จบดีมาก ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ถ้ามีเรื่องใหม่มาเขียนต่อน้า เอาแนวดุๆ ขอบคุงมากคร้าบ จบแบบนี้ดีแล้ว แฮปปี้เอนดิ้ง ก็ไม่ได้ดูละครคุณธรรมนะ เรียลดีออก
ถ้าอีกแบบมันดาร์รจริง แต้ก็สไตล์เนื่องเสียวอื่นๆ 5555
แบบนี้ดีละ เสียวปนหวาน
รอติดตามผลงาน จบได้ฟีลกู้ดมากครับ
ปล. ในรีดอะไรท์ ใช้ชื่อนักเขียนอะไรครับจะตามไปอ่าน สนุกมากๆครับ ถ้าผมบอกว่าผมรักคุณ ผมอยากให้คุณทำและเขียนมันออกมาอีกจะได้มั้ย เราชอบดาร์คๆนะ แต่จบแบบนี้ดีกว่าตอนแรกที่ตั้งใจให้จบนะ เขียนดีมาก ขอบคุณครับ ขอบคุณ เปิดเรื่องใหม่เลยก็ได้นะ Happy สุดๆ ค้าบบบ แฮปปีืดีครับ ขอบคุณ ขอบคุณมากครับ ชอบตอนจบแบบดารคๆ เน้นฟิน เน้นเสียว นินกลายเปนกระหรี่ร่านควย บำเรอกามผู้ชาย ติดใจชอบโดนรุมโทรมไปเลย จะฟินมาก ไม่ต้องละครคุณธรรมหรอก ปลดปล่อยอารมณ์ดิบออกมา จากโลกความจริงที่เราทำไม่ได้ ชอบตอนจบแบบดารคๆ เน้นฟิน เน้นเสียว นินกลายเปนกระหรี่ร่านควย บำเรอกามผู้ชาย ติดใจชอบโดนรุมโทรมไปเลย จะฟินมาก ไม่ต้องละครคุณธรรมหรอก ปลดปล่อยอารมณ์ดิบออกมา จากโลกความจริงที่เราทำไม่ได้ อบตอนจบแบบดารคๆ เน้นฟิน เน้นเสียว นินกลายเปนกระหรี่ร่านควย บำเรอกามผู้ชาย ติดใจชอบโดนรุมโทรมไปเลย จะฟินมาก ไม่ต้องละครคุณธรรมหรอก ปลดปล่อยอารมณ์ดิบออกมา จากโลกความจริงที่เราทำไม่ได้