บันทึกนายขุน ตอนที่ 13 ก่อนเริ่มภารกิจ
ขุนเปิดกระดาษคลี่อ่าน พบว่าในนั้นมีคำสั่งให้เขาขึ้นไปชั้นสอง ขุนตัดสินใจเดินย้อนกลับไปยังโซนนวด แล้วกะจะเข้าไปหาพนักงานที่กำลังนวดให้โอบ เพื่อถามถึงกำหนดเวลาแต่เมื่อเดินเข้าไปยังเตียงของโอบ กลับได้เห็นภาพที่ทำเขาชะงัก โอบกำลังนอนแก้ผ้า มีผ้าสีน้ำตาลผืนเล็กปิดคลุมหน้า ส่วนตัวถูกพนักงานคนหนึ่งก้มลงเลียที่หัวนม พนักงานอีกคนบีบน้ำมันร้อนชโลมท่อนเนื้อแข็งชักสลับมือซ้ายขวา ร่างของโอบนอนนิ่งให้พนักงานจัดเต็มอยู่แบบนั้น ขุนเองมองน้ำลายไหล ไม่คิดว่าพี่โอบจะนอนนิ่งโดนรุมแบบนี้ แต่ไม่ใช่เวลา ขุนคิดว่าคงมีเวลาอยู่บ้างจึงเดินขึ้นชั้นสอง ไม่นานนักก็มีพนักงานต้อนรับเข้ามาทัก พอบอกชื่อไป พนักงานเงียบลงครู่หนึ่ง ก่อนจะนำขุนไปยังห้องสุดท้ายของชั้น พอไปถึงห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มาก มีสระน้ำอยู่ที่มุมขนาดย่อม พนักงานไปกระซิบกระซาบกับพนักงานอีกคน พอรู้ดังนั้นพนักงานอีกคนก็ปรี่เข้ามาต้อนรับ "สวัสดีครับคุณขุน เชิญเลยครับ"ขุนตอนนี้ที่สงสัยมากมายจนชาชิน ทำตามคำพูดพนักงานอย่างว่าง่าย พนักงานจึงอธิบายให้ฟังถึงเรื่องที่กำลังจะเกิด ขุนนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง แต่ไม่มีเวลามากมายนักหากโอบนวดเสร็จไม่เจอเขาจะเป็นเรื่องได้ ขุนไปนั่งลงในอ่างน้ำจนเปียกทั้งตัว จากนั้นก็ลุกมานั่งเก้าอี้ตรงหน้าพนักงาน พนักงานหน้านิ่งยกแขนซ้ายขุนขึ้น ก่อนที่จะใช้กรรไกรตัดขนรักแร้ของขุนที่ดกดำออก เมื่อส่วนขนยาวถูกตัดออกหมด ก็ใช้มีดโกนโกนต่อ จนขนใต้วงแขนขุนเรียบ พนักงานทำแบบนั้นกับแขนอีกข้าง ตามมายังจุดอ่อนไหวกลางลำตัว ขุนถูกโกนขนออกเกลี้ยงไม่เว้นแม้แต่ขนที่ก้น หลังโกนเสร็จขุนก็นั่งมองหน้าพนักงานด้วยความสงสัยราวกับมีอะไรข้องใจ "เขาไม่ได้ฝากอะไรมาให้อีกหรอ?"พนักงานทำหน้างุนงงเล็กน้อย ก่อนจะเข้าใจ เดินไปหยิบของบางอย่างออกมา พอขุนเปิดออกดูก็ต้องตกใจเพราะมันคืออุปกรณ์ทางเพศจำนวนมากอยู่ในกล่องกระดาษ ขุนรับมาดูอย่างไม่เข้าใจ ขุนล้างตัวพันผ้าตามเดิมลงมายังชั้นล่าง ตอนนั้นเอง โอบก็น้ำแตกคามือพนักงานนวดเดินแก้ผ้าล้างตัวในห้องน้ำ ขุนจึงใช้เวลานั้นรีบเอากล่องลังไปฝากพนักงานที่เคาเตอร์เอาไว้ ไม่นานนักเขาก็เปลี่ยนชุดออกมารอโอบและอินที่ด้านหน้า อินชมให้ฟังว่าพนักงานนวดดีมาก หลับตลอดคอร์สเลย โอบก็พูดทำนองเดียวกัน ส่วนขุนยิ้มเงียบฟังสองพี่น้องพูดสาธยายความฟินจากการใช้บริการ พอสองคนนั้นเผลอ ขุนรีบกลับไปที่สถานบริการนำกล่องลังนั้นกลับไปซ่อนไว้ที่ห้องลับของตัวเอง ตกเย็นวันนั้น ขุนได้รับข้อความมาจากอีเมล์ปริศนานั่น เขารู้ชื่ออีกฝ่ายแล้วว่าหมอนั่นชื่อปริญ เขาต้องสืบให้ได้ว่าไอ้ปริญมันเป็นใคร และ ต้องการอะไรจากเขา ขุนคว้ามือถือขึ้นมาดูปรากฎข้อความที่ส่งมาถึงเป็นคำถาม ว่าขุนนั้นชอบพอกับของขวัญที่ส่งมาให้หรือไม่ ขุนกำมือแน่นหงุดหงิด พร้อมส่งคำถามกลับไปหามัน 'อยากเจรจา มาพบกันหน่อยได้ไหม' ขุนส่งข้อความกลับแล้วยืนพิเคราะห์ เขาอยากที่จะจเอตัวเป็น ๆ มันสักครั้ง เพื่อถามหาเป้าประสงค์ของมัน แต่หากไม่ได้รับความจริง อย่างน้อยถ้าเจอกับมันเข้าอาจจะพบเบาะแสอะไรเพิ่มเติม ดีกว่ารอให้มันเล่นตลกอยู่แบบนี้ 'ยังไม่บอกเลยนะครับ ว่าชอบของขวัญหรือเปล่า'ขุนดูท่าไม่น่าจะจบง่าย หากเป็นแบบนี้คงลำบากเขาเอง เพราะดูอีกฝ่ายจะมีข้อมูลเขาอยู่พอสมควร ขุนจะลองตามเกมมันดูเสีย หากมันตายใจคิดว่าเขายอมแล้วจริง อาจจะเข้าถึงตัวมันได้บ้าง 'เฉย ๆ ' 'ว๊า เสียดายจังที่คุณไม่ชอบ แต่ผมชอบมากเลยนะครับ'มันไม่พิมพ์มาอย่างเดียว มันส่งภาพขุนที่นั่งเปลือยปลดปมผ้าคุกเข่ามาให้กับเขา ขุนคิดอยู่แล้วเชียวว่าคนที่ถ่ายรูปเขาต้องส่งให้มันแน่ ยังดีที่ขุนไหวตัวทันให้มันถ่ายตอนโป๊ไปแค่รูปเดียวเพื่อและคำตอบ เขากัดกรามแน่นเดาใจอีกฝ่าย หากอีกฝั่งหนึ่งอยากที่จะปล่อยภาพหรือคลิปคงทำไปแล้ว แต่ที่ส่งมาให้เขาคงเพราะอยากใช้ข่มขู่เพื่อบังคับทำบางอย่าง ในตอนนี้ขุนทำได้อย่างเดียวคือต้องตามเกมอีกฝ่ายไป เพราะหากมีรูปหรือคลิปหลุดในตอนนี้ ทั้งตำแหน่งงาน หน้าตาทางสังคม และความรู้สึกของอิน ขุนต้องการที่จะรักษาทุกอย่างนั้นเอาไว้ 'คุณต้องการอะไรกันแน่' 'ผมอยากเห็นคุณ ทำท่าเหมือนในรูปที่ผมส่งให้ล่าสุด'ขุนอ่านข้อความนั้นก็งุนงง 'มันจะต่างกันยังไง' 'ในรูปคุณดูเป็นหนุ่มหล่อเข้มขนดก แต่ถ้าตอนนี้ คุณคงเป็นหนุ่มน้อยหน้าใส ยิ่งไม่มีคนคงน่าเอ็นดูไม่น้อย'ชิส์ ขุนสบถในลำคอ หันไปมองอินที่หัวเราะสนุกกับรายการโทรทัศน์ เขาตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำแล้วลงกลอน พร้อมถอดเสื้อผ้าตัวเองออกจนหมด ตั้งโทรศัพท์ไว้กดตั้งเวลาถ่าย แล้วถอยตัวมาโพสท่าตามแบบฉบับ แช๊ะ หลังเสียงลั่นกล้อง ขุนรีบคว้ามือถือมาดู เห็นว่าได้ตรงตามต้องการเขาก็รีบแต่งตัวแล้วส่งภาพนั้นกลับไปให้ไอ้ปริญ 'สุดยอดไปเลยครับ ไม่ผิดที่ผมพูดเลย ถ้าผมอยู่ใกล้ ผมจะเข้าไปเลียทั้งตัวเลย'ไอ้โรคจิตเอ้ย ขุนนึกกร่นด่าในใจ เขาไม่เคยเจอคนพูดจาทุเรศแบบนี้ใส่มาตั้งแต่คบกับอินแล้ว ไม่คิดว่าจะมีใครใช้คำแบบนี้กับเขาอีก 'ผมพอใจมาก ถ้าอยากเจอผม xx-xxxx-xxxxx'อีกฝ่ายบอกพิกัดมาให้ พอขุนอ่านดูก็รู้สึกคุ้นขึ้นมา ไม่นานมันก็ส่งเวลามาให้ตามหลัง 'วันนี้เลยหรอ จะบ้าหรือไง'ขุนตอบกลับมันหลังเห็นระบุเวลา มันเร็วเกินไป เขายังไม่ทันได้เตรียมตัว 'แล้วแต่นะครับ ไม่มาก็ได้ แต่ถ้ามาก็อาจจะรู้อะไรดี ๆ เกี่ยวกับผม ^^'ขุนอึ้งไปพักใหญ่ นี่มัน…รู้ใจเขาเสียจริง มันรู้ว่าเขากำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับมันอยู่ ขุนวางมือถือไปนั่งเล่นที่โซฟากับอิน พอเห็นคนตรงหน้ายิ้มมีความสุขก็พลอยทำเขาสบายใจไปพักหนึ่ง "อิน ไอ้ทีมันอกหัก ไอ้พวกนั้นเลยนัดไปปลอบใจ มันชวนขุนไปด้วย…." "อืม ไปสิ"ไม่ทันที่ขุนจะพูดจบ อินก็อนุญาตมาทันควัน ขุนที่กำลังพูดขออยู่ก็งงชงัก เขาไม่เคยโกหกอินแบบโจ่งแจ้งมาก่อน ทำให้ไม่รู้ว่าที่พูดไปนั้นอินจะจับได้ไหม แต่พออินอนุญาตมาแบบนี้ เขาก็ทำตัวไม่ถูก"อ้าว ไม่ไปหรอ?"ขุนยืนนิ่งจนอินต้องหันมาถามซ้ำ เขาจึงยิ้มน้อยบอกอินแล้วเดินออกจากห้อง ก่อนที่จะส่งข้อความในกลุ่มไลน์บอกเพื่อนไว้ล่วงหน้า'พวกมึง ถ้าอินถามหากู กูบอกไปว่าไอ้ทีอกหักเลยนัดปลอบใจมันนะ'พอส่งข้อความนั้นไป เพื่อนแต่ละคนก็ส่งข้อความถามกลับมาหลายข้อความ แต่เขาไม่สนใจและปิดมือถือลงกระเป๋า ขุนเดินทางไปยังที่หมายก่อนเวลานัดครู่หนึ่ง พอไปถึงก็พบกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พอเดินตามพิกัดไปก็เจอกับป้ายรถเมล์ด้านหลังสวน ซึ่งขุนรู้สึกแปลกใจเพราะเขาเคยผ่านสวนนี้มาก่อน แต่ไม่ยักรู้ว่ามันมีป้ายรอรถตรงนี้ด้วย ขุนเดินไปถึงป้ายรอรถที่มีแสงไฟส่องสว่างท่ามกลางความมืดรอบตัว บรรยากาศเงียบสงัดหากพลันนึกถึงฉากในหนังสยองขวัญดูท่าคงมีตัวตลกโผล่มาคอยดักทำร้ายคน หรือไม่ก็ผีผู้หญิงที่โผล่มาจ๊ะเอ๋กับคนที่หลงมารอรถที่นี่ ขณะที่ขุนกำลังคิดอะไรเพลินอยู่นั้น ก็มีผู้ชายสองคนเดินเข้ามานั่งรอที่ป้ายด้วย ขุนยกมือถือมากดดูปรากฎว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มห้าสิบนาทีแล้ว แต่เวลานี้ยังจะมีรถวิ่งอยู่อีกหรือ? "พี่ขุน!"ขุนเงยหน้าตามเสียงเรียกด้วยความตะลึง เป็นเสียงของชายคนหนึ่งที่พึ่งเดินมาตะโกนเรียกเขา ขุนหันไปมองเพ่งดูชายตรงหน้าด้วยความงุนงง คิ้วของเขาขมวดคู้เข้าหากันเป็นคำถาม "พี่ขุนจริงด้วย"คนที่กล่าวทักมีท่าทีดีใจ แถมยังเดินตรงเข้ามา ขุนหันไปมองชายอีกคนที่เดินมาด้วยกันกับเขาจ้องขุนเขม็งไม่พอใจ "สวัสดีครับ คือ….เรารู้จักกันหรอครับ แหะ ๆ "ขุนทักทายกลับตามมารยาทแล้วถามถึงอีกฝ่าย "ผมเอกไงครับ พี่คงจำไม่ได้ ผมเคยฝึกงานที่บริษัทของพี่ครับ"พอได้ยินชื่อขุนก็ลองนึกตาม แต่ก็นึกไม่ออก "อ๋อ ขอโทษนะพี่จำหน้าคนไม่ค่อยได้น่ะ"ขุนพูดแหย ๆ แล้วหันหน้ากลับมามองตรงที่พื้นถนน "ว่าแต่พี่ขุนมารอรถหรอครับ?" "รอรถ?"ขุนเองก็ไม่รู้ว่าที่มานั่งรอนี่คือรอรถอะไร เพียงแต่เขามาตามที่ปริญบอกไว้ คิดว่าปริญคงมารับ "ใช่ครับ รถเที่ยวพิเศษ"เอกพูดยิ้มร่าดูสดใส แต่อีกคนมองหงุดหงิดแล้วหันมาทำหน้ากระเง้ากระงอดกับเอกอีก ขุนทำเมินเสีย ไม่นานก็หยุดความสงสัยไม่ได้หันไปถามอีกคนเพื่อขอข้อมูล "ดึกขนาดนี้มีรถอยู่หรอครับ" "อ้าว พี่ไม่ได้มารอรถเที่ยวพิเศษหรอครับ"ขุนพยักหน้ารับเล็กน้อย "พอดีพี่นัดคนไว้น่ะ"เอกหน้าเจื่อนพยักหน้าเข้าใจ ขุนได้ยินเสียงคนสองคนคุยกันกระหนุงกระหนิง พอหันไปเห็นก็พบว่าเอกกับอีกคนที่มาด้วยกำลังจับมือกันแน่นพร้อมจุ๊บแก้มกันอีก ทำให้ขุนคิดถึงอิน แฟนหนุ่มของเขา เวลาล่วงมาถึงสี่ทุ่ม สิบนาที ก็มีรถโดยสารคันหนึ่งเคลื่อนเข้ามา ประตูรถเปิดออก เอกและคนนั้นเดินตามขึ้นไป ขุนยกมือถือขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเวลานัดแล้ว แต่ปริญไม่ยักโผล่มา ประตูรถโดยสารปิดลง แต่ไม่เคลื่อนที่ไปไหน ขุนมองขึ้นไปบนรถพบว่าคนที่นั่งบนรถเที่ยวพิเศษมีสิ่งผิดปกติ ไม่รู้ว่านึกคิดไปเองหรือเปล่า แต่บนรถล้วนเป็นชายวันกลางคน แถมยังมีคนมากพอสมควร ไม่คิดว่าคนจะรอรถเยอะขนาดนี้ และตัวรถเองก็ไม่มีป้ายหรือข้อมูลใด ๆ ที่บ่งบอกถึงที่หมายเลย ครืด!!! เสียงประตูรถเปิดออกอีกครั้ง ก่อนที่จะมีพนักงานเดินลงมาตะโกนถามเขา "ไปไหมครับ!"ขุนมองดูมือถือแล้วชั่งใจอยู่ไม่นานนัก เขาตัดสินใจก้าวเท้าเดินขึ้นรถไป "อ้าวพี่ขุน ผมนึกว่าพี่จะไม่ขึ้นเสียแล้ว ดีจัง อ้อนี่เมษแฟนผมครับ คิดว่าน่าจะรู้จักเอาไว้ ก่อนจะได้สนุกกัน"เอกยิ้มต้อนรับพร้อมพูดประโยคชวนงง ขุนคว้ามือถือเปิดแอปส่งข้อความกลับไปหาปริญ อีกฝ่ายไม่ตอบแต่อย่างใด รถโดยสารเที่ยวพิเศษ ค่อยเคลื่อนตัวออกจากจุดรับผู้โดยสารเชื่องช้า ก่อนจะขับรถมุ่งหน้าออกไปยังที่ ๆ ขุนไม่รู้แน่ชัดว่าจุดหมายของรถคันนี้คือที่ไหน
ละก็ขึ้นรถไปกับเขาดื้อๆเลย ขอบคุณครับ ติดตามอยู่นะครับ ขอบคุณมากครับ ภาระกิจอะไรครับ ขอบคุณครับ อยากอ่านตอนพี่โอบแตกมากกกกก อ๊ากกกกกก
รถเที่ยวพิเศษจะพาไปไหนเนี่ยยยยย เดาไม่ถูกเลย ใครกันน้า เดาไม่ถูก ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]