จุดวาปไฟบนถ่านไฟเก่า4
หลังจากวันนั้น ความคิดถึงคินก็เริ่มเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ผมพยายามบอกตัวเองว่าอย่าใจอ่อน แต่ทุกครั้งที่คิดถึงคำพูดและสายตาของเขา ผมก็เริ่มลังเล ความกลัวในอดีตยังคงหลอกหลอน แต่ความรู้สึกที่ยังมีต่อเขาก็ชัดเจนขึ้นในทุกๆ วันวันหนึ่ง ผมตัดสินใจไปที่ร้านกาแฟเดิมอีกครั้ง เหมือนจะเป็นการทดสอบตัวเอง ว่าผมพร้อมหรือไม่ที่จะก้าวข้ามความกลัวนั้น ผมนั่งลงที่โต๊ะประจำ สั่งกาแฟแล้วปล่อยให้ความคิดจมอยู่ในหัวใจ
แล้วเขาก็มาอีกครั้ง
คินเดินเข้ามาในร้านเหมือนโชคชะตาพยายามผลักดันเราสองคนให้กลับมาพบกันอีก ผมหันไปเจอเขา ดวงตาของเราประสานกันเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะตรงข้ามผม
“นายมาที่นี่อีกแล้ว” คินพูดด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ เขาไม่ได้ถามด้วยน้ำเสียงกดดัน แค่ทักทายเหมือนว่าเราสองคนไม่เคยมีปัญหาใด ๆ กันมาก่อน
“ก็แค่บังเอิญ” ผมตอบสั้น ๆ แล้วหันมองไปทางหน้าต่าง ผมรู้ดีว่าภาคินจับสังเกตอารมณ์ของผมได้เสมอ และครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน
“ผมไม่อยากกดดันนาย แต่ผมก็ต้องการความชัดเจนเหมือนกัน” คินเริ่มพูดอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาดูจริงจังขึ้น “เต้ ผมรู้ว่าเราผ่านอะไรมามาก แต่ผมเชื่อว่าเราสองคนยังมีโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่”
ผมยังคงเงียบ รู้สึกถึงความหนักใจที่ถาโถมเข้ามา ผมเคยรักเขาและอาจจะยังรักอยู่ แต่ความไม่มั่นคงในใจของผมยังคงทำให้ผมไม่กล้าที่จะก้าวข้ามเส้นนี้ไป
“แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันยังไม่พร้อมล่ะ?” ผมถามออกไปในที่สุด น้ำเสียงผมเบาราวกับกลัวจะทำลายบรรยากาศรอบตัว
คินถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะตอบ “งั้นผมก็จะรอ นายไม่ต้องรีบหรอกเต้ ผมแค่ต้องการให้นายรู้ว่าผมพร้อมที่จะอยู่ตรงนี้เสมอ ไม่ว่านายจะต้องการเวลาแค่ไหน ผมจะไม่ไปไหน”
คำพูดของเขาทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจ แต่ก็เหมือนมีบางอย่างจุกอยู่ในอก ความจริงจังในสายตาของเขาทำให้ผมรู้ว่าภาคินไม่ใช่แค่พูดไปเพื่อทำให้ผมสบายใจ แต่เขาต้องการกลับเข้ามาในชีวิตผมจริง ๆ
“คุณแน่ใจเหรอว่าจะรอได้? ชีวิตคุณมันไปไกลแล้ว ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงของคุณ” ผมพูดพร้อมกับมองตาเขา ความไม่มั่นใจในตัวเองมันชัดเจนในคำพูดของผม
คินส่ายหน้า “นายไม่ใช่ตัวถ่วงเต้ นายไม่เคยเป็น ผมอยากให้นายรู้ว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านาย นายอาจจะไม่เชื่อในตอนนี้ แต่นั่นคือความจริงที่ผมอยากให้รู้”
ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นและความมั่นคงในคำพูดของเขา แต่มันก็ยังยากที่จะปล่อยวางความกลัวในใจ
---
หลังจากวันนั้น ผมก็ยังคงพยายามใช้ชีวิตตามปกติ แต่การติดต่อจากคินยังคงเข้ามาเรื่อย ๆ เขาไม่เร่งเร้าและไม่กดดันผม แต่เขาก็ไม่เคยหายไปไหนเช่นกัน ทุกเช้าและเย็นจะมีข้อความสั้น ๆ จากเขา เช่น “หวังว่าวันนี้นายจะมีความสุข” หรือ “ขอให้วันของนายเป็นวันที่ดี” มันเป็นเพียงแค่คำพูดเรียบง่าย แต่กลับทำให้ผมรู้สึกถึงความใส่ใจและการที่เขายังคงอยู่ข้างผมเสมอ
ผมเริ่มเปิดใจทีละนิด ผมรับรู้ถึงความพยายามของคินและเริ่มรู้สึกว่าผมไม่สามารถเพิกเฉยต่อสิ่งที่เขาทำได้อีกต่อไป
จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมตัดสินใจนัดเจอกับเขาอีกครั้ง และครั้งนี้ผมรู้ตัวว่าผมพร้อมแล้วที่จะพูดคุยอย่างจริงจัง
---
“เต้ ผมดีใจที่นายยอมมาพบผมอีกครั้ง” คินพูดทันทีที่ผมนั่งลงที่โต๊ะในร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เราเคยมาเมื่อครั้งก่อน
ผมมองเขาด้วยความแน่วแน่ในใจ “คิน ฉันคิดมานานแล้ว และฉันคิดว่าฉันพร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับคุณ”
ดวงตาของคินสว่างวาบด้วยความดีใจ แต่เขาก็ยังคงเก็บความรู้สึกนั้นไว้ในแววตา “ผมดีใจที่ได้ยินแบบนั้น เต้ ผมสัญญาว่าครั้งนี้เราจะไม่ทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนครั้งก่อน เราจะสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและมั่นคงกว่านี้”
ผมพยักหน้าเบา ๆ “ฉันเองก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะฉันเองก็ไม่อยากเจ็บปวดเหมือนเดิมอีกแล้ว”
คินยิ้มอ่อน ๆ ก่อนจะยื่นมือมาจับมือผมอย่างอ่อนโยน “ผมสัญญาว่าจะดูแลนายให้ดีที่สุด ไม่ว่านายจะต้องการเวลาแค่ไหน ผมจะไม่ไปไหนจนกว่านายจะพร้อม”
ผมมองเขาด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความหวังและความเชื่อมั่น ในที่สุดผมก็ยอมเปิดใจให้คินเข้ามาอีกครั้ง และผมหวังว่าครั้งนี้มันจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีกว่าเดิม
พร้อมรับแรงกระแทกแล้วสินะเต้ {:5_130:}{:5_130:} ขอบคุณครับ รอติดตามครับ รอตอนต่อไป ขอบใจ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ชอบมากครับ ขอบคุณมากครับ รอติดตามว่า การเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง จะเป็นอย่างไร ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]