the Sincubus กามมายา EP.6 นักศึกษา ตอน 2
หลายวันต่อมา พี่ๆในคณะได้แจ้งข่าวเรื่องกิจกรรมรับน้องของคณะที่จะต้องออกเดินทางไปยังต่างจังหวัดจำนวน 2 วัน 1 คืน ทั้งหมดต่างมีความตื่นเต้นกับกิจกรรมในครั้งนี้“ตื่นเต้นจังเลยนะกัส จะได้ไปออกต่างจังหวัดด้วย” มุกยิ้มให้กัส “อะ อื้อ” กัสยิ้มรับอย่างเขินๆ เพราะตัวเองรู้สึกทำตัวไม่ถูกหลังจากที่เมื่อคืนก่อนเขาได้ฝันอะไรไม่ค่อยดีเกี่ยวกับเพื่อนสาวตรงหน้า“กัสเป็นอะไรรึเปล่าอ่ะ หรือไม่สบายทำไมดูหน้าแดงๆ” มุกยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมเอาหลังมือของเธอแตะที่หน้าผากของชายหนุ่ม ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้ง“ปะ เปล่ามุก สงสัยเราคงร้อนอ่ะ เพราะอยู่ใต้อาคารไม่มีอะไรหรอก” กัสแก้ตัว มุกฟังแล้วก็ยิ้มๆให้อย่างอ่อนโยน ทำเอากัสเขินหนักกว่าเดิมจนแทบไม่ได้ฟังในสิ่งที่รุ่นพี่อธิบายเกี่ยวกับการเตรียมตัวและกำหนดการ“ไอ้กัส กูเห็นนะเว้ยยยยยยยยย” บอสเดินมาตบหลังเพื่อนหลังจากรุ่นพี่ปล่อยน้องๆกลับบ้าน“ใช่ๆ กัสคะ กัสเป็นอะไรรึเปล่าคะ หรือไม่สบายทำไมหน้าแดงจุงเบย” เจล้อเลียนด้วยท่าทางของมุกพร้อมยื่นมือมาแตะที่หน้าผากกัส ก่อนจะรีบสะบัดมือออก“อุ้ยกัสตัวร้อนจังเลย เดี๋ยวมุกเอาน้ำแข็งถูให้นะคะ” เจแซวต่อ“ช็อตนี้ไม่มีเว่ย แค่ถามว่าเป็นไข้รึเปล่า เท่านั้นเอง” กัสแก้เขิน“แล้วทำไมเมิงถึงหน้าแดงขนาดนั้นจนมุกถามด้วยล่ะ” มอสถามบ้าง“สงสัยมันคงเขินมุกอยู่แน่ๆเลย ใช่ไหมคะตัวเอง” กะทิแซวบ้าง“ไม่ใช่เว่ยกูแค่ร้อนเฉยๆ พวกเมิงเพ้อเจ้อว่ะ” กัสรีบเดินหนีจากกลุ่มเพื่อนทำเอาโดยตะโกนแซวไล่หลังมาตามทางวันต่อมา นักศึกษาในคณะได้มายังจุดรวมพลพร้อมกระเป๋าสัมภาระของตัวเอง เมื่อรุ่นพี่ต่างเช็คชื่อน้องๆเสร็จ หลังจากนั้นก็พากันขึ้นรถบัส ออกเดินทางเพื่อไปยังสถานที่รับน้องที่อยู่ในจังหวัดสระบุรี เมื่อนักศึกษาและคณะอาจารย์มาถึงต่างทำกิจกรรมต่างๆกันอย่างสนุกสนานจากช่วงสายจนถึงช่วงค่ำ ก่อนที่อาจารย์จะปล่อยนักศึกษาไปทำธุระส่วนตัวและเข้านอนคืนนี้เป็นคืนพระจันทร์ครึ่งดวงทำให้พอได้รับแสงสว่างจากพระจันทร์อยู่บ้าง ด้วยบรรยากาศกลางป่าเขานั้นทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบมีเพียงเสียงจิ้งหรีดและจั้กจั่นร้องกันระงงผสมกับเสียงลมที่ลู่มากระทบกับต้นไม้“เฮ้ยไอแมน เมิงช่วยกูดีทีดิ ว่าใครกำลังนั่งอยู่ตรงนั้นวะ” ชายวัยรุ่นทักเพื่อนที่เดินมาด้วยกันด้วยสภาพเมามาย“ไอ้เอก กูเห็นผู้หญิงนั่งอยู่ว่ะ แถมสวยซะด้วยสิ” คนชื่อแมนบอกเพื่อน ทั้งสองมองหน้ากัน เหมือนจะรู้ใจกันก่อนที่จะเดินตรงไปยังเป้าหมาย“สวัสดีค้าบบบบ ควน สวย โคน สวย มานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียวเหรอจ้ะ” เอกชายวันรุ่นทรงผอมลีนๆถาม หญิงสาวตรงหน้าหันมาหาทั้งสองด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน“โอ้ สวยจริงๆด้วยว่ะ เอก ผิวขาวเนียนชิบเลย แต่แม่งเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่วะ” แมนตอบ ว่าแล้วทั้งสองก็ลงมานั่งประกบสาวตรงหน้า ร่างบอบบางนั้นทำท่าจะลุกหนีไปแต่กลับโดนมือของหนุ่มทั้งสองดึงไว้ จนต้องลงมานั่งอีกรอบ“พวกนายจะทำอะไรเราอ่ะ” คนปริศนาตรงหน้าทักขึ้น เป็นเสียงของผู้ชายที่เสียงหวาน“เป็นกะเทยว่ะเมิง แต่แม่งสวยเหมือนผู้หญิงเลย” แมนบอกเอก“แบบนี้ก็น่าลองนะ อีเจนก็ไม่อยู่หลายวันด้วย” เอกเสริมเพื่อน“พวกนายจะรุมเราเหรอ” สาวสองร่างบางยิ้มแบบอ่อยๆ ก่อนจะแกล้งส่งสายตายั่วยวนไปยังทั้งคู่“ไปตรงเพิงกอไผ่ตรงนั้นกัน” เอกกับแมนพาหนุ่มร่างบางตรงหน้าไปยังเพิงที่อยู่ตรงกอไผ่ลับตาคน ทั้งสองไม่รอช้าจัดการซุกไซร้คอของอีกฝั่งอย่างเร่าร้อน โดยอีกฝั่งนอนลูบไล้หัวและร่างกายของสองหนุ่มไปมาเพื่อกระตุ้นอารมณ์ไปด้วย “โอว ตัวก็ขาว ผิวก็เนียนนุ่มกว่าแฟนกูอีก” เอกกล่าวขณะสูดดมร่างกายเหยื่อตรงหน้าอย่างมีความสุข“ใช่ แถมตัวแม่งหอมมากด้วย ใช้น้ำหอมอะไรวะเนี่ย อยากได้เป็นเมียชิบหายเลย” แมนพูดสนับสนุนเพื่อนตัวเอง ขณะที่ที่ทั้งสองกำลังซุกไซร้ร่างบางนั้นอย่างเร่าร้อน ทำเอาเธอคนนั้นที่นอนอยู่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ“ไอ้แมนเมิงมีเมียแล้วนะเว่ย” เอกทักเพื่อนขณะที่“ถ้ากูได้อีนี่เป็นเมีย กูก็ยอมเลิกกับอีส้มเลยอ่ะ” แมนตอบเพื่อนแบบไม่สนคนตรงหน้า“อยากมาเป็นของเราขนาดนั้นเลยเหรอ” เธอคนนั้นยิ้มตอบแมนอย่างพอใจ แมนก็เป็นคนหน้าคมเข้ม ผิวเข้มและหุ่นดีมีกล้ามเนื้อทุกส่วน เธอคนนั้นดูสนใจแมนเป็นพิเศษ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปประกบปากแมน แมนเมื่อโดนประกบปากลิ้นทั้งสองนัวเนียกันอย่างชุลมุน โดยมีเอกที่ดูดหน้าอกสีชมของอีกฝั่งอย่างหิวกระหายตอนนี้ทั้งสามคนนั้นอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่า แต่ที่โดดเด่นคือผิวของเธอคนนั้นที่ขาวนวลสะท้อนกับแสงจันทร์มีออร่าตัดกับผิวเข้มๆของวัยรุ่นทั้งสองคนจนเหมือนผิวของเธอเรืองแสง ตอนนี้แมนดูดปากกับเธอคนนั้นอย่างดูดดื่มก่อนจะรู้สึกว่าในปากมีรสชาดแปลกๆแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก“เมื่อกี้นายบอกว่านายชอบเราใช่ไหม” เธอคนนั้นถามอีกครั้ง“เออ กูอยากได้เมิงเป็นเมีย ตอนนี้กูจะยัดเยียดความเป็นผัวให้แก่เมิง” แมนตอบแบบห้วนๆ“พูดแล้วนะ จะถอนคำพูดไม่ได้แล้วนะ” เธอคนนั้นถามอีกครั้ง“เออ ทำไมวะอุ้บบบ” แมนพูดจบก็ถูกดึงไปประกบปากอีกครั้ง ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มคุมสติตัวเองไม่อยู่เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างคอยควบคุมเขาอยู่ ส่วนเอกนั้นตอนนี้กำลังเอาแก่นกายของตัวเองสาวให้แข็งเพื่อเตรียมทะลวงร่างกายของเธอคนนั้น“งั้นหลังจากนี้แมนนายจะเป็นของเราไปตลอดกาลนะ” อีกฝั่งพูดจบจัดการสาวว่าวให้แมนพร้อมกับประกบปากแมนที่ตอนนี้กำลังคร่อมตัวเธออยู่ เธอใช้มืออันเรียวยาวชักแก่นกายของชายตรงหน้าเร็วขึ้นๆไปเรื่อยๆ ก่อนจะผละแมนให้นั่งคุกเข่าแล้วใช้ปากของเธอนั้นมอบความสุขให้เขา“อืม อืมมม ซู้ดดดดด อ่าาาาาาห์ อ่าหห์ อ่าหหห์ เชี่ยเอ๊ย” แมนสบถออกมาด้วยความเสียว เขากระตุกเด้งเอวด้วยความเสียวซ่านจนกล้ามเนื้อของเขานั้นเกร็งแน่นไปหมด “ปากโคตรนุ่มแถมคอลึกอีกต่างหาก ซี้ดดดดด แม่งเอ้ยยยยย อ๊าาาาาา” แมนครางออกมาดังลั่นพร้อมกับเด้าสวนเข้าปากของเธอเป็นระยะ ความกำหนัดของเขาเริ่มมาถึงจุดสุดยอดแล้วแม้เขาจะยังไม่อยากให้ถึงจุดก็ตามที ไม่นานนักขีดความอดทนของเขาก็หมดลง โดยมีเพื่อนของเขายืนรอคิวอยู่ข้างๆด้วยความเสียวซ่านไม่แพ้กัน“โอ้ยยย เชี่ยเอ้ย ไม่ไหวแล้ว ตะ แตกแล้ว อ๊าาาาาาาาาาา” แมนครางลั่นพร้อมกับน้ำสีขาวขุ่นที่พุ่งออกมาจากแก่นกายของเขา รวมถึงออร่าสีแดงที่ค่อยๆรามไปตามร่างกายของแมน ไม่นานเมื่อแสงเรืองสีแดงนั้นกระจายจนทั่วร่างแมนและจางหายไป กลับมีอักขระเป็นรูปหัวใจปีกนกสีดำปรากฏขึ้นที่หน้าอกของแมน ก่อนที่แมนจะทรุดฮวบลงไปทันที ทำเอาเอกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ร่างบางค่อยลุกขึ้นมายืนก่อนจะเอานิ้วปาดไปตรงคราบน้ำกามที่เลอะอยู่ริมฝีปากตนเอง“แผล่บๆ อืมใช้ได้เลยนะเนี่ยถึงว่าทำไมมิเชลถึงชอบแนวนี้” เธอคนนั้นยิ้มอย่างพอใจ“ไอ้แมน ไอ้แมน เมิงเป็นเชี่ยอะไร ทำไมเมิงนอนนิ่งแบบนั้นล่ะ” เอกพอได้สติค่อยๆเดินไปหาเพื่อนของตัวเองที่ตอนนี้นอนนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเกิดขึ้น ขณะที่เธอคนนั้นค่อยๆเลียคราบน้ำของแมนที่ฝ่ามือของตัวเอง“เมิง เมิงฆ่าเพื่อนกู ไอ้ชั่ว” เอกมองด้วยสายตาตกใจและคับแค้นใจ เขาหันไปเจอท่อนไม้ท่อนใหญ่ท่อนหนึ่ง ชายหนุ่มรีบคว้ามากำชับไว้ในมือเพื่อเตรียมโจมตี“คิดจะเอาของพันนั้นมาทำร้ายเราเหรอ เมื่อกี้ยังพิศวาสเราอยู่เลยนะ” เธอหันมามองพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันชายหนุ่ม“ไอ้ชั่วเมิงตาย” เอกเหวี่ยงไม้ไปสุดแรง “ผัวะ!!!!” เสียงไม้ฟาดกระทบกับบุคคลตรงหน้าดังสนั่น ร่างบอบบางนั้นล้มลงไปทับร่างของแมน ด้วยความแค้นเอกเดินตรงไปดันร่างบางให้พลิกไปอีกทางเพื่อไม่ให้ทับร่างของเพื่อนเขา ก่อนที่เขาจะกระหน่ำฟาดใส่ร่างนั้นอย่างโมโห พร้อมกับสบถคำด่าออกมามากมาย หลังจากเอกฟาดจนหนำใจ เขาเห็นว่าเธอคนนั้นนอนแน่นิ่งจมกองเลือดไม่ขยับตัว ชายหนุ่มเมื่อได้สติเขารีบโยนไม้เข้าไปในป่าไผ่พร้อมกับถอยหนีออกมา“ไม่ ไม่ กูไม่ได้ฆ่าคน กูไม่ได้ทำ” เอกพึมพำกับตัวเอง เขาพยายามคิดหาวิธี ชายหนุ่มหันรีหันขวางจนไปเจอจอบ ความคิดแรกของเขาคือ “เราต้องฝั่งทั้งคู่ไว้ในกอไผ่” หลังเขาตัดสินใจได้แล้ว เขารีบคว้าจอบทันที เขารีบลากแคร่ออกมาก่อนจะลงมือขุดอย่างขมักเขม้นนานพอสมควรจนหลุมนั้นกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่พอจะฝังคนได้ 2 คน“นี่นาย นอกจากจะฆ่าคนตายแล้ว ยังจะฝังกลบเกลื่อนความผิดอีกเหรอเนี่ย” จู่ๆเสียงๆหนึ่งพูดขึ้น ทำเอาเอกตกใจรีบหันไปทางต้นเสียง“ใครวะ” เอกถามเขาพยายามไม่ส่งเสียงดังมากเผื่อไม่ให้ใครได้ยิน“ฮิฮิฮิฮิฮิ” เสียงหัวเราะชวนหลอนล่องลอยมาตามลม ชายหนุ่มพยายามจับใจฟัง จนรู้ว่าเสียงหัวเราะนั้นมาจากทางทิศของร่างบางที่ไม่มีลมหายใจไปแล้ว เอกค่อยๆปีนขึ้นจากหลุมและเดินไปมองร่างๆนั้นด้วยความหวาดกลัว พบว่าร่างนั้นก็ยังคงนอนนิ่งอยู่ข้างๆร่างเพื่อนของตัวเอง แต่น่าแปลกเมื่อเขาสังเกตุเห็นลายรูปปีกค้างคาวตรงกลางหน้าอกของเพื่อนเขา"ไอ้แมนมันสักลายนี้มาตอนไหนวะ" หลังพูดจบ เขาต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเพื่อนของเขาที่ไม่มีลมหายใจแล้วกลับลืมตาขึ้นมา"เชี่ย ไอ้แมน" เอกสะดุ้งถอยหลังจนเกือบตกลงไปในหลุมร่างของแมนค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ ดวงตาเหม่อลอยดังคนไร้สติ"ไอ้แมนเมิงยังไม่ตาย" เอกดีใจหลังจากที่เห็นเพื่อนตัวเองลุกยืนขึ้นมาได้"กูยังไม่ตาย เพราะเจ้านายช่วยให้ชีวิตใหม่แก่กู" แมนตอบพร้อมรอยยิ้มเย็นๆ"เจ้านายอะไรของเมิงวะ เพ้อเจ้อ อะไรเนี่ย" เอกถามด้วยคสามสงสัย"เจ้านายกู ก็ยืนอยู่ข้างหลังเมิงนั่นไง" แมนตอบพร้อมส่งสายตาไปยังด้านหลังเอก เอกหันควับไปกับต้องตกใจสุดขีด เพราะสิ่งที่เขาเห็นคือเธอคนนั้น คนที่ควรจะกลายเป็นร่างไร้วิญญาณไปแล้วนั้น กลับมายืนอยู่ด้านหลังเขาโดยสวมชุดคลุมเนื้อบางสีแดงปกปิดร่างกายตัวเอง ไม่ทันที่เอกจะได้ทำอะไรต่อ เขากลับถูกใครบางคนล็อคแขนจากทางด้านหลัง ที่แท้คือแมนนั่นเอง"ไอ้แมน เมิงจับกูไว้ทำไมวะ ปล่อยกูนะเว่ย" เอกพยายามดิ้นไปมาแต่ด้วยร่างของแมนที่ดูแข็งแรงกว่าทำให้เขาดิ้นไปไหนไม่ได้ แต่มันก็ทำให้เขาแปลกใจไม่น้อยเพราะปกติถึงแมนจะแข็งแรงกว่าแต่ก็พอสู้แมนได้บ้าง แต่นี่เขาพยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลัดจากพัธนาการนี้ได้เลย เอกดิ้นอยู่สักพักจนเขาหมดแรง"เมิงทำอะไรกับเพื่อนกู" เอกถามด้วยความโกรธ ร่างอันบอบบางไม่ตอบแต่กลับได้พุ่งเข้ามาจุมพิษเอก เขาทั้งตกใจและสับสน"อื้อ อื้ออื้อ อื้อออ" มีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอที่ลอยออกมาเท่านั้น ก่อนที่ไม่นานนัก จะมีแสงออร่าสีแดงอ่อนไหลออกมาจากปากของเขาไหลเข้าไปยังปากของร่างบอบบางนั้น ยิ่งออร่าไหลออกมาจากร่างมากเท่าไหร่ สติของเขาค่อยๆดับมอดลงไปพร้อมกับลมหายใจของเขาเท่านั้น เอกกระตุกเกร็งก่อนจะลงไปนอนฟุบที่พื้น"ขอบคุณที่เลี้ยงนะพ่อหนุ่ม แต่เสียดายนายหุ่นกับหน้าตาไม่ผ่านเกณไปหน่อย" ร่างบางเดินหายไปในเงามืดพร้อมแมนบริวารคนใหม่ของเขาเช้ามืดวันต่อมากิจกรรมรับน้องที่ควรจะเป็นกิจกรรมสนุกสนานกลับมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น ขณะที่กิจกรรมกำลังจะดำเนินไปยังช่วงพิธีบายศรีให้กับนักศึกษาใหม่ กลับมีรถตำรวจขับเข้ามาพร้อมกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น นักศึกษาทั้งหมดจึงต้องรวมอยู่ที่หอประชุมโดยความสับสนและงุนงง เนื่องจากทางตำรวจขอให้อยู่แค่ในบริเวณนี้ก่อนห้ามออกไปไหน“เกิดอะไรขึ้นอ่ะ” “ได้ยินว่ามีคนตายว่ะ” “เป็นอะไรตายวะ” เกิดเสียงซุบซิบกันภายในกลุ่มนักศึกษาปี1 “เอาล่ะๆ นักศึกษาทุกคนเงียบก่อนค่ะ รบกวนอยู่ในความสงบด้วยค่ะ อาจารย์มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบว่า กิจกรรมรับน้องของเราจะต้องยุติลงและเราจะเดินทางกลับกันมหาลัยทันที แล้วเดี๋ยวทางมหาลัยจะนัดหมายทำกิจกรรมที่เหลือภายหลัง ขอให้นักศึกษาปี 1 ทุกคนเดินตามรุ่นพี่ของกลุ่มตัวเองเพื่อขึ้นรถบัสของตัวเองกันนะคะ” อาจารย์ผู้หญิงท่านหนึ่งกล่าว นักศึกษาแม้จะมีเสียงบ่นกันแต่ก็ต้องทำตาม“เฮ้ยพวกเมิง มีใครรู้มั่งว่าเกิดอะไรขึ้น” เจถามในแชทไลน์“กูก็ไม่รู้ว่ะ รถคันกูยังไม่มีใครรู้เลย” กะทิตอบ“คันกูก็ไม่รู้ ยังบ่นกันอยู่เนี่ย” มอสตอบ“ของคันพวกกู ได้ยินเขาบอกว่า มีคนตายอยู่ตรงกอไผ่ว่ะ” บอสตอบ“เชี่ย มีคนแทงกันตายเหรอวะ ใครวะ” เจถาม“เห็นรุ่นพี่บอกว่า เป็นคนงานในค่ายอ่ะ สภาพศพกูว่าแปลกๆ” บอสตอบ“ยังไงวะ” กะทิถามในแชท“ก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ตาเบิกโพลน เสื้อผ้าถูกถอดอยู่ตรงแคร่” บอสตอบ“แล้วแปลกตรงไหนอ่ะ” กะทิถาม“ก็ตรงที่จุดเกิดเหตุมีอะไรแปลกๆเต็มเลยอ่ะดิ” บอสตอบ“ยังไงวะ” มอสถาม“ก็มีหลุมขนาดใหญ่อยู่หลุมนึง พร้อมจอบที่อยู่ใต้หลุม เมิงว่ามันแปลกไหมล่ะ” บอสอธิบาย“เออว่ะแปลกจริงๆด้วย” มอสตอบ“ไอ้ตุลย์ยังบอกเลยว่า ถ้าเป็นการฆาตรกรรมทำไมคนตายถึงยังไม่ถูกฝังอำพรางไปเลย แต่กลับมานอนอยู่ใกล้ๆหลุมนั้น อีกอย่างมีคราบน้ำกามอยู่ตรงแคร่ไม้ด้วยไม่รู้ว่าของใคร” บอสอธิบาย“ทำไมเมิงรู้ละเอียดจังวะ บอส” เจถาม“พอดีคันกู รุ่นพี่เขาสนิทกับอาจารย์อ่ะ เลยไปถามอาจารย์แล้วแกก็เล่าให้ฟัง เท่าที่รู้ก็ประมาณนี้แหละ” บอสตอบ“ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!!!!” ตุลย์ทักขึ้นมาในกลุ่มแชท ทำเอาเพื่อนๆที่เหลือส่ง สติกเกอร์หัวเราะมาให้“แล้วทำไมไอ้กัสมันเงียบๆวะ” กะทิถาม“ตึ้ง!!” มีรูปส่งเข้ามาในกลุ่ม ตุลย์ส่งรูปเซลฟี่มาให้ดู ตุลย์นั่งข้างบอส ส่วนที่เบาะหลังนั้นคือกัสที่กำลังนั่งอยู่กับเพื่อนสาวคนหนึ่ง“เชี่ยยยย เสือกัส มันร้ายว่ะ” เจแซวในแชท“มันคงไม่ได้จับมือถืออีกสักพักใหญ่แหละ” มอสตอบตัดมาที่กัส ชายหนุ่มที่กำลังถูกเพื่อนในกลุ่มพูดถึงอยู่นั้น กำลังนั่งปลอบใจหญิงสาวที่อยู่ในอาการจิตตก“มุกโอเคไหมอ่ะ” กัสถามด้วยความเป็นห่วง“เรารู้สึกไม่ค่อยดีเลยอ่ะ เรื่องของคนตาย” มุกพูดพร้อมเสียงเครือสั่น“ไม่เป็นไรนะ มุกมีกัสอยู่ข้างๆเสมอนะ มุกไม่ต้องกลัว” กัสกุมมือมุกไว้แน่นมุกยิ้มให้ชายหนุ่มก่อนจะลงไปซบไหล่กัสแล้วหลับไปชายหนุ่มยิ้มอ่อนๆอย่างมีความสุขโดยมีเพื่อนๆของเขาหันมามองพร้อมร้อยยิ้มกวนๆ ทำเอากัสมองดุใส่เพื่อนของตัวเอง ทำให้ตุลย์กับบอสหัวเราะก่อนจะหันกลับไปเหมือนเดิมผ่านไปไม่กี่วันทางคณะได้มีกิจกรรมรับน้องบายศรีที่มหาลัยจนเวลาผ่านไปจนค่ำ ทั้งหมดต่างแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง “เอ้อ ไอกัสไปไหนต่อปะวะ พวกรุ่นพี่เขาชวนเราไปปาร์ตี้ต่อที่ร้านเจ๊อั้มอ่ะ” กะทิบอก“เดี๋ยวกูไปส่งมุกที่บ้านว่ะ” กัสตอบ“เอาว่ะๆ คู่นี้สรุปว่า สถานะมันยังไงครับ” เจแซว“ก็กำลังจีบๆอยู่แต่ยังไม่ได้คบกันเว่ย” กัสตอบ“แต่เท่าที่ดูสีหน้าเมิงแล้ว กูว่าไปได้สวยนะเนี่ย” บอสพูด“หมาวัดกับดาวมหาลัยเว่ยเฮ้ย” มอสแซว“หมาวัดแต่ก็สายพันธุ์ดีนะค้าบผม” กัสบอก “กูไปก่อนนะเดี๋ยวยังไงกูทักหาอีกที” กัสบอกก่อนจะลาเพื่อนๆในกลุ่มไปหามุกทั้งสองคนได้เรียกรถจากแอพเขียวเดินทางกลับไปยังบ้านของมุก บรรยากาศภายในรถค่อนข้างเงียบเพราะมุกหลังจากจบกิจกรรมบายซรีสีหน้าดูเหนื่อยๆ“มุกง่วงเหรอ” กัสถาม“อือ ช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับอ่ะ” มุกตอบ“บ้านมุกตามหมุดใช่ป่าว งั้นมุกก็หลับก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวถึงแล้วเราปลุกอีกที” กัสบอก มุกคิดสักครู่ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงเอาหน้าซบไหล่กัส ทำเอาชายหนุ่มหัวใจเต้นตึกตัก ทันที เขาอยากให้เวลาหยุดลงแค่ตรงนี้ถ้าไม่ติดว่าเขาไม่ได้อยู่บนรถกันแค่ 2 คน แต่ยังมีคนขับรถอยู่ด้วย“เอ่อ ขอโทษนะครับลูกค้านี่บ้านลูกค้าใช่ไหมครับ” คนขับหนุ่มถาม“สักครู่นะครับ มุกๆ ถึงบ้านแล้วมุก” กัสเขย่าตัวมุกเบาๆ มุกสลึมสลือลืมตาตื่นมามองบรรยากาศโดยรอบ“ถึงบ้านมุกแล้วเหรอ มุกหลับไปนานเลยนะเนี่ย” มุกตอบพร้อมกับมองไปยังด้านขวาเห็นเป็นบ้านตัวเองก็ดีใจ“กัสอยู่เป็นเพื่อนมุกก่อนได้ไหม” ขณะที่หญิงสาวกำลังจะออกจากรถ กลับหยุดนิ่งสักครู่ก่อนจะหันไปชวนเพื่อนชายของตัวเอง“อะเอ่อ จะดีเหรอมุก เราเกรงใจน่ะ” กัสตอบ“นะกัส ตอนนี้เราอยู่บ้านคนเดียวอ่ะ เรากลัว” มุกอ้อน กัสเลยพยักหน้ารับแบบงงๆ หญิงสาวยิ้มก่อนจะเดินนำเข้าไปยังคฤหาสน์ของตัวเอง“บ้านมุกนี่ใหญ่โตจัง อยู่กันกี่คนเหรอ” กัสถาม“เราอยู่คนเดียวกับคนรับใช้คนสนิทน่ะ” มุกตอบ“แล้วคุณพ่อคุณแม่มุกล่ะ” กัสถาม“ท่านทำงานอยู่ต่างประเทศน่ะ จริงๆท่านก็อยากให้มุกไปอยู่กับท่านด้วยแต่มุกอยากอยู่ที่ไทยมากกว่า” มุกตอบ“หลังใหญ่ขนาดนี้ไม่กลัวขโมยเหรอมุก” กัสถาม“ก็กลัวนะ ถึงให้กัสมาอยู่เป็นเพื่อนไง กัสนอนที่นี่ได้เลยนะ” มุกบอก“จะดีเหรอมุก เราเกรงใจอ่ะ” กัสตอบ“ที่นี่มีตั้งหลายห้อง เดี๋ยวให้พ่อบ้านเตรียมห้องให้นะ” พูดจบมุกก็เดินหายไปยังด้านในของบ้าน ทิ้งให้กัสนั่งงงๆอยู่ภายในห้องรับแขก“ดื่มน้ำก่อนนะครับ” ท่ามกลางความเงียบและมืด กัสถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆมีเสียงของใครบางคนพูดขึ้น เขาหันไปมองพบกับชายวัยน่าจะใกล้เคียงกับเขาในชุดพ่อบ้านกำลังเสิร์ฟน้ำให้กับเขาที่โต๊ะหินอ่อน “ขะ ขอบคุณครับ” กัสกล่าวขอบคุณ เขารู้สึกแปลกใจว่าแม่บ้านคนนี้โผล่ออกมาจากทางไหน“พี่แมน ฝากเตรียมห้องนอนให้เพื่อนมุกนอนคืนนี้หน่อยนะคะ” มุกเดินตามหลังมาหลังจากหายไปครู่หนึ่ง“ได้ครับคุณหนู” คนชื่อแมนตอบรับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ดวงตาที่เรียบนิ่ง จนทำให้กัสอดสงสัยไม่ได้“อย่าไปสนใจพี่เขาเลยค่ะ คนใช้ที่บ้านนี้เขาห้ามแสดงอารมณ์ทางสีหน้าน่ะค่ะมันเป็นกฎของที่บ้าน” มุกตอบ ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย“โชคดีที่วันพรุ่งนี้วันหยุดพอดี ไม่ต้องเข้ามหาลัยไม่งั้นกัสคงไม่มีเสื้อนักศึกษาใส่แน่เลย” กัสพูดกับมุก“นั่นน่ะสิ ยังไงก็ต้องขอบคุณและขอโทษกัสด้วยนะที่ต้องให้มานอนเป็นเพื่อนแบบนี้” มุกตอบ“ไม่เป็นไรเลยมุก เรายินดีทำเพื่อมุกเสมอนะขอเพียงมุกต้องการกัสอยู่ข้างๆ” กัสกล่าว ทำเอาหญิงสาวยิ้มเขิน ทั้งสองได้คุยกันสักพักใหญ่“คุณหนูครับห้องของแขกคุณหนูเรียบร้อยแล้วนะครับ ส่วนอาหารรอประมาณ 30 นาทีนะครับ” คนรับใช้ชายได้เดินเข้ามาหาพร้อมกับกล่าวอย่างนอบน้อม“ขอบคุณค่ะ งั้นกัสเราไปพักผ่อนกันเถอะ เดี๋ยวอาหารเย็นเสร็จแล้วเราลงไปทานข้าวกัน แล้วพรุ่งนี้เราค่อยออกไปเที่ยวกัน” มุกบอกก่อนจะเดินนำกัสขึ้นไปชั้น 2 มุกเดินไปส่งกัสที่ห้องนอนห้อหนึ่งที่ติดกับห้องของมุก ด้านในโอ่อ่าพอสมควรมีเฟอร์นิเจอร์ครบครันสมฐานะของบ้าน“เดี๋ยวเจอกันนะกัส” มุกยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป ทิ้งฝ่ายชายอยู่ในห้องเพียงคนเดียวกัสเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย ขณะที่เขาปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองจนเปลือยเปล่า เขาสำรวจร่างกายของตัวเอง“อืม สงสัยคงต้องเพิ่มกล้ามสักหน่อยแล้วล่ะ แบบนี้ปกป้องมุกไม่ได้แน่เลย” กัสพูดกับตัวเอง หุ่นของเขาแม้จะมีกล้ามชัดแต่ก็ถือว่าเป็นคนที่หุ่นลีน ไม่ใช่หุ่นนักกีฬาที่มีกล้ามเนื้อแน่นๆ เขาสลัดความคิดของตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำขณะเดียวกันด้านนอกคฤหาสน์“เฮ้ย บ้านหลังนี้ใช่ไหม ที่ไอ้ 3 ตัวนั้นหายไปน่ะ” เสียงของวัยรุ่นคนหนึ่งถามอีก 3 คน ที่มาด้วยกันด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงการเป็นหัวหน้าแก๊ง“ใช่พี่ พวกมันบอกว่าจะเข้าไปขโมยของในบ้านหลังนี้แล้วจู่ๆมันก็หายไป ติดต่อไม่ได้” ผู้ติดตามชายวัยใกล้กันตอบ“กูอยากจะรู้นักว่าบ้านนี้มันมีอะไร ไอ้ 3 ตัวนั้นหายไปได้ยังไง” คนที่ดูเหมือนหัวหน้าวัย 30 หน้าโหดมีรอยสักที่แขนซ้าย พร้อมลูกน้องกำลังนั่งแอบอยู่มุมมืดหนึ่งใกล้ทางเข้าคฤหาสน์“มีแสงไฟอยู่ทั้ง 2 ชั้นเลย เอาไงดีพี่” หนึ่งใน 3 ลูกน้องเอ่ยขึ้น“ทำปอดแหกไปได้ไอ้นี่ รอคืนนี้ให้คนในบ้านนอนก่อนเราค่อยลงมือกัน เราจะต้องรู้ให้ได้ว่าสามคนนั้นหายไปไหน ตอนนี้พวกเรากลับไปเตรียมตัวก่อนเว่ย” หัวหน้ากล่าว ที่เหลือพยักหน้ารับก่อนทั้งหมดจะค่อยๆเดินขึ้นมอเตอร์ไซค์จากไปโปรดติดตามต่อนต่อไป สามารถติชมได้เลยนะครับ ยินดีนำไปปรับปรุงแก้ไขครับ
สนุกเสียวชอบ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ แปลกน่าติดตามดีเค้าเก็บผู้ชายเข้าฮาเร็มเรื่อยๆ สนุก ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]